The Royal Wedding : รักนี้ที่วังหลวง
เมื่อเจ้าชายหนุ่มรูปงามแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ที่สตรีทั่วราชอาณาจักรต่่างเฝ้าฝันจะได้ควงคู่ กลับถูกสี่สาวพี่น้องตระกูลหนึ่งไม่เห็นว่าสำคัญ พระองค์จะทำอย่างไร เมื่อปัญหายิ่งหนักขึ้นด้วยสมเด็จพระราชินีมีพระดำรัสต้องการได้สะใภ้หลวงเป็น 1 ใน 4 สาวนั้น

เรื่องราวของซินเดอเรลล่ายุคใหม่เริ่มต้นขึ้น ไม่แปลกและไม่แตกต่าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ใครๆอยากสัมผัสเสมอมา
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: สินบน

ห้องอาหารชื่อดังเปิดต้อนรับแขกยามบ่ายอย่างคับคั่ง เหล่าลูกค้าผู้มีอันจะกินต่างนั่งทานอาหารพลางสนทนาเรื่องสัพเพเหระอย่างมีความสุข
ยาใจกำลังนั่งทานอาหารร่วมกับอาจารย์ที่ตนเคารพท่านหนึ่งกับเพื่อนผู้หญิงของหล่อนอีกคนหนึ่ง ทั้งสามกำลังสนทนากันเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจและการเรียนต่อของยาใจ

“หนูเพิ่งส่งใบสมัครไปเองค่ะอาจารย์ ต้องขอบคุณอาจารย์มากนะคะที่เขียนใบรับรองให้” ยาใจกล่าว

อาจารย์ผู้มีผมหงอกประปราย ภายใต้แว่นตาหนาเตอะนั้นบ่งบอกถึงแววตาของชายผู้มีอายุแสนใจดี โบกมือปฏิเสธไปมา

“ไม่ต้องขอบใจอะไรร้อก คนเป็นอาจารย์น่ะก็อยากเห็นศิษย์ได้ดี แล้วเธอล่ะนัดดาไม่อยากต่อต่างประเทศอย่างยาใจบ้างหรือ”

เพื่อนสาวร่างอวบ ดวงหน้าขี้เล่นใจดี ยิ้มกว้างให้อาจารย์ “ไม่ล่ะค่ะอาจารย์ ขอหนูอยู่นี่ช่วยอาจารย์ทำวิจัยไปวันๆก็สนุกดีค่ะ แล้วก็….อร่อยด้วย ฮ่าๆ”

แล้วทั้งสามก็หัวเราะพร้อมกันเพราะเข้าใจทันทีว่านัดดาหมายความว่าอย่างไร เนื่องจากอาจารย์ท่านนี้เลี้ยงอาหารนักศึกษาบ่อยนี่เอง

ยาใจเงยหน้าจากจานอาหารขึ้นมาหัวเราะ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่หล่อนเห็นชายร่างสูงใส่แว่นดำคนหนึ่ง ซึ่งนั่นทำให้หล่อนใจเต้นและจำได้ในทันทีว่าเขาคือชายหนุ่มทีช่วยหล่อนที่สถานทูตอังกฤษนั่นเอง

แต่วันนี้เขากลับพาสาวสวยตนหนึ่งมาด้วย

หล่อนหน้าซีดนิดหนึ่ง ความดีใจที่ได้พบเขาลดลงไปเล็กน้อย ความรู้สึกเจ็บแปลบเข้ามาแทนที่ในช่วงเวลาเสี้ยววินาที

ดวงหน้าสวยของยาใจจ้องหนุ่มแว่นดำกับสาวร่างบางในชุดเดรสสั้นอย่างไม่วางตา แม้จะสงสัยว่าทำไมเขาต้องใส่แว่นกันแดดตลอดเวลาก็ตาม

หล่อนพิจารณาความหวานชื่นของทั้งคู่พักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจละสายตาจากชายหนุ่มผู้เคยช่วยเหลือหล่อน กลับเข้าสู่วงสนทนาของอาจารย์อีกครั้งด้วยความรู้สึกแปลกๆ

เมื่ออาจารย์ ยาใจ และนัดดาทานอาหารกันเสร็จ ท่านอาจารย์ก็เรียกพนักงานคิดเงิน ยาใจจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

หลังจากหล่อนทำธุระเสร็จ ขณะที่สาวสวยเดินออกมาจากห้องน้ำก็กลับชนเข้ากับร่างสูงๆของชายคนหนึ่ง หล่อนกล่าวขอโทษเขาเบาๆแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองเขา กลับทำเอาหล่อนตัวแข็งทื่อไป

ชายแว่นดำมองหล่อนแล้วยิ้มกว้าง ท่าทีของเขาออกจะดีใจที่พบหล่อน
“คุณยาใจ มาทานข้าวเหรอครับ” พูดเสร็จเขาก็ปลดแว่นกันแดดออก

ใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าชายอิศเรศร์ กับแววพระเนตรคมที่ส่อแววเจ้าชู้นั้น ส่งแย้มพระสรวลให้สาวน้อยตรงหน้า โดยที่ทรงลืมสังเกตไปเลยว่าดวงตากลมสวยของหล่อนกำลังเบิกกว้าง ดวงหน้าขาวนั้นมีเลือดฝาดสูบฉีดทันใด

ยาใจตกใจเมื่อเห็นใบหน้าภายใต้แว่นกันแดดแสนแพง หล่อนทำอะไรไม่ถูก นอกจากเดินหนีเขาไปเสียดื้อๆ

เจ้าชายหนุ่มเนื้อหอมมองร่างบอบบางที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งจากพระองค์ไปด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะทรงนึกอะไรออกเมื่อทอดพระเนตรแว่นกันแดดเจ้าปัญหาในพระหัตถ์

เจ้าชายอิศเรศร์หน้าซีดเผือด ก่อนจะทรงด่าทอพระองค์เองในใจ





เย็นวันนั้นเจ้าชายหนุ่มรูปงามเกิดความรู้สึกกลุ้มพระทัยอย่างไรชอบกล อันที่จริงพระองค์อาจจะทำเฉยต่อเรื่องนี้ก็เป็นได้ หากพระองค์ทรงไม่อยากยุ่งกับสี่สาวของหลวงสีหนาถ แต่จะด้วยเหตุผลอะไรกลับบอกไม่ถูก ไม่ใช่เพราะพวกหล่อนสวย หรือถือตัว แต่อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกผิดชอบชั่วดีนั่นเอง

ถึงจะเป็นเพราะความบังเอิญ แต่พระองค์อาจจะหลอกลวงพวกหล่อนมากเกินไป

พระวรกายสูงสง่าสาวพระบาทเข้าไปในห้องสมุดเพื่อทรงหาหนังสือพิมพ์อ่านตามปกติ แต่แล้วกลับทอดพระเนตรพบหนังสือสองสามเล่มวางกองไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือ พระองค์ทรงหยิบขึ้นมาพลิกอ่าน ก่อนจะทรงนึกบางอย่างออก


“เอ่อ…ทรงมีธุระอะไรหรือเพคะ” แสนดีมองเจ้าชายอิศเรศร์กับราชองครักษ์อีก 2 นายที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านของหล่อน

เจ้าชายทอดพระเนตรสาวน้อยคนเล็กของบ้าน แววตาท้าทายของหล่อนที่มีต่อพระองค์ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้ หรือหลังจากที่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของพระองค์แล้วนั้นกลับไม่เคยเปลี่ยนไป

“ผมเอาหนังสือที่คุณจะยืมแต่ลืมไว้ที่ห้องสมุดมาให้นะครับ” พระองค์ยิ้มอย่างหล่อ ก่อนจะทรงยื่นหนังสือเหล่านั้นให้หล่อน
สาวน้อยรับหนังสือเหล่านั่นด้วยความประหลาดใจ นี่เขามาด้วยเหตุผลแต่นี้ละหรือ

สายพระเนตรทอดไปยังบ้านแสนสุขของแสนดี ก่อนจะตรัสอย่างงกล้าๆกลัวๆ “คือ…คุณยาใจอยู่บ้านไหมครับ”

แสนดีมองพระองค์อย่างสงสัยนิดหนึ่ง ก่อนจะข้าใจได้ว่าเหตุผลแท้จริงที่เสด็จมาที่บ้านของหล่อนคืออะไร เนื่องจากหล่อนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้จากพี่สาวแล้ว เจ้าชายพอพระทัยพี่ยาใจอย่างนั้นหรือ

“ไม่มีใครอยู่เลยเพคะ ออกไปช่วยพี่เปี่ยมซื้อเสื้อผ้าไปต่างประเทศกันหมด ทรงมีธุระอะไรก็ฝากหม่อมฉันไว้ก็ได้เพคะ “

เจ้าชายได้ทรงฟังดังนั้นก็ลำบากพระทัย “คือ…คุยตรงนี้ผมคิดว่าอาจจะไม่สะดวกนักคุณแสนดี ถ้าอย่างไรเสีย….”

ยังตรัสไม่ทันเสร็จ องครักษ์นายหนึ่งก็กระแอมขึ้น

แสนดีเข้าใจความหมายนั้น เชอะ! นีเขาคิดว่ามีสิทธิ์สั่งใครก็ได้อย่างนั้นหรือ


“เชิญเสด็จประทับในบ้านก่อนเพคะ” หล่อนพูดอย่างจำใจ

ในบ้าน แสนดีรินน้ำชาร้อนๆถวายเจ้าชาย พระองค์ตรัสขอบใจและทรงเริ่มธุระของพระองค์โดยเร็ว

แสนดีแปลกใจที่พระองค์ทรงเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เธอทราบแล้วจากพี่สาวอย่างหมดเปลือก หล่อนตั้งใจฟังจนเจ้าชายนึกประหลาดใจเช่นกัน

เมื่อเรื่องราวจบลงพระองค์จึงตรัสสั้นๆว่า “ผมฝากขอโทษพี่สาวคุณด้วยนะ ผมขอโทษจริงๆ”

แสนดีได้ยินดังนั้นก็อึ้งไปนิดหนึ่ง หล่อนนิ่งงันไม่รู้จะกล่าวอะไร จากทั้งหมดที่ฟังมา พี่ยาใจคงจะแอบปลื้มหนุ่มแว่นดำ แต่เมื่อรู้ว่าเป็นใครหล่อนคงตกใจ ส่วนเจ้าชายเองคงไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกพี่สาวหล่อน

“ทำไมคุณเงียบไปล่ะ” พระสุรสียงห้าวทักขึ้นทำลายความเงียบ

“แล้ว…ทรงอยากให้หม่อมฉันพูดอะไรเหรอเพคะ....เอ่อ...คือ...หม่อมฉันหมายความว่า.....หม่อมฉันเข้าใจดีเพคะ เดี๋ยวจะบอกพี่ยาให้”

เจ้าชายทรงรู้สึกแปลกที่หล่อนไม่ได้ต่อต้านอะไร “ขอบคุณนะครับ คุณแสนดี” ว่าแล้วก็ทรงจิบพระสุธารสชาทีหนึ่ง

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว ขอโทษที่ผมมารบกวน”

แสนดีได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกกระดากใจ “ไม่เป็นไรมิได้เพคะ”

แล้วหล่อนก็เดินไปส่งเจ้าชายที่หน้าบ้าน ระหว่างทางจุ่ๆหล่อนกลับนึกสงสัยบางอย่างขึ้นมา พร้อมกับที่เจ้าชายอย่างตรัสถามบางอย่าง

“คุณคงสงสัยว่าทำไมผม.......”

“หม่อมฉันสงสัยว่าทำไม......”

ทั้งสองสบตากันครู่หนึ่ง ก่อนจะปล่อยหัวเราะออกมา

“คุณพูดก่อนสิคุณแสนดี”

แสนดียิ้มอย่างน่ารัก “หม่อมฉันสงสัยว่าทำไมพระองค์ถึงใส่ใจเรื่องนี้ด้วยน่ะเพคะ จะทรงทำลืมก็ได้ หรือว่าพระองค์จะเอ่อ.....”

“ผมก็นึกอยู่แล้วว่าคนอย่างคุณคงสงสัยว่าทำไมผมต้องมาขอโทษถึงที่นี่”

ได้ฟังดังนั้นแสนดีกลับทำหน้านิ่ว “คนอย่างหม่อมฉันอย่างนั้นหรือเพคะ”

เจ้าชายเห็นท่าจะไม่ดีจึงทรงรีบเปลี่ยนเรื่อง หล่อนนี่ไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่วันแรกทีเจอกันจริงๆ

“เอาเป็นว่าผมรู้สึกผิดที่ทำให้บ้านคุณเข้าใจผมผิดบ่อยๆ ผมเลยอยากมาขอโทษคุณยาใจเท่านั้นเอง”

แสนดีได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกดีกับเหตุผลของเขา.....

“เพคะแล้วหม่อมฉันจะบอกพี่ยาให้” หล่อนกล่าวอย่างมีมารยาท

เจ้าชายยิ้มให้หล่อนก่อนจะเสด็จออกนอกประตูรั้ว

แสนดีนึกอะไรขึ้นได้อย่างหนึ่ง หากพี่ยาใจปลื้มพระองค์และเจ้าชายมีทีท่าพอพระทัยพี่สาวของหล่อน ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะกีดขวางทั้งสอง

“เจ้าชายเพคะ”

พระวรกายสูงหยุดย่างพระบาทก่อนจะทรงหันกลับมา

“พรุ่งนี้พี่ยาอยู่บ้าน ถ้าพระองค์ทรงอยากพบก็เชิญเสด็จได้นะเพคะ”

เจ้าชายทอดพระเนตรหล่อนด้วยความประหลาดใจ “คุณไม่รังเกียจผมหรือ”

แสนดีสะอึกเมื่อได้ยินคำนั้น บรรยากาศนอกบ้านยามค่ำคืนเริ่มมีลมหนาวพัดโชย ใบไม้สั่นไหวเสียดสีกันน่าฟัง หลายๆใบที่แก่แล้วเริ่มหลุดปลิวร่อนลงจากต้น

“เปล่านี่เพคะ คือ....” หล่อนไม่อยากโกหก เมื่อพระองค์เลิกคิ้วราวกับรู้ทัน ให้ตายสิ

“อาจจะไม่ถูกชะตาบ้าง แต่พระองค์ก็ทรงมีเหตุผล แล้วยังมีน้ำพระทัยนำหนังสือมาฝากหม่อมฉัน ถึงมันจะเป็นสินบนก็เถอะ”

เจ้าชายอิศเรศร์ทรงได้ฟังดังนั้นกลับนึกขัน นี่หล่อนพูดอย่างบริสุทธ์ใจหรือเปล่า พระองค์สาวพระบาทเข้าไปใกล้หล่อนก่อนจะประทับยืนแทบจะชิดพระวรกายเข้าร่างบาง

แสนดีสงสัยในการกระทำของพระองค์ หล่อนกำลังจะเอาตัวเองออกห่างแต่แล้ว พระหัตถ์แข็งแรงกลับทรงยื่นหยิบใบไม้ที่ตกอยู่บนศีรษะหล่อน

เจ้าชายชูใบไม้นั้นให้หล่อนดู

“นั่นไม่ใช่สินบนหรอกคุณแสนดี คุณรีบเข้าบ้านเถอะดึกแล้ว อย่าลืมล็อกประตุล่ะ แล้วพรุ่งนี้ผมจะมาใหม่ตามคำเชิญ”



เจ้าชายอิศเรศร์ทอดพระเนตรแสนดีล็อกประตูและหายเข้าไปในบ้านแล้ว จึงรู้สึกวางพระทัย ก่อนจะรับสั่งให้องครักษ์ออกรถได้



ลายเส้น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 พ.ค. 2554, 12:49:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 พ.ค. 2554, 12:49:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 1432





<< วางแผน   ไม่สำคัญ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account