เจ้าสาวสิบแปด
อุบัติเหตุ ได้เกิดขึ้น จากเจ้าสาวยี่สิบสองมาเป้็นเจ้าสาวสิบแปด ชีวิตได้ถูกสิ่งใดลิขิต
Tags: เพื่อรัก

ตอน: รู้สึกแปลก

“จะกลับบ้านกันแล้วใช่มั้ยลูกแหม่ม”
“ค่ะ คุณ ป่ะ คุณแม่” เทียนสว่างจำรับคำด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยทางเลือกของเธอมีทางนี้เท่านั้น ทางที่ต้องทำหน้าที่ต่อจากเจ้าของร่างต่อไป
“รู้มั้ยทุกคนที่บ้านห่วงแหม่มกันมากโดยเฉพาะแสง จำได้มั้ยลูก” เทียนสว่างส่ายหน้าปฏิเสธ
คุณปริศนายิ้มอย่างเอ็นดู เก็บของใช้ส่วนตัว แล้วเรียกสามีให้รีบมาโรงพยาบาลเพื่อนดูลูกสาว
“ดีจังที่ลูกจะกลับบ้านเสียที แต่ว่า ผมประชุมอยู่ คุณตามวีณสิ”
“ค่ะ”หลังจากวางงสายไปแล้วนางเอ่ยต่อมาว่า “คุณพ่อไม่ว่างนี่ให้พี่วีณมารับมั้ย พี่วีณคงดีใจ”
พี่วีณคนนั้น เป็นเจ้าของร่างนี้ แต่เธอไม่รู้จักเขาเลย แต่จะปฏิเสธอะไรออกไปได้เล่า ในเมื่อความจริงที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่หากนำไปพูด ใครหน้าไหนจะเชื่อ นอกจากพากันกล่าวหาว่าเธอประสาทเสื่อม
หนทางข้างหน้า ช่วงชีวิตที่ก้าวต่อไป เธอคงหาหนทางออกให้ตัวเองได้สักวันหนึ่ง!!

ปวีณวางแฟ้มเอกสารลง ริมฟ้าเลขาสวยรับปือไว้แนบอก เจ้านายหนุ่มผุดลุก ท่าทางจะออกไปข้างนอก เธอรีบบอกถึงธุระสำคัญ
“ลูกค้านัดกับคุณไว้เวลาสามโมงนะคะท่าน”
“ผมจะรีบกลับ คุณจัดการรับรองให้ดีไปก่อนก็แล้วกันถ้าผมเลทไปบ้าง”
“ท่านจะไปไหนคะ” ริมฟ้าหลุดปากถามแล้วรีบก้มหน้า เมื่อเจ้านายย่นคิ้วหนาโค้งยาวเกินหางตา ท่าทางบอกชัดว่าไม่ชอบให้ยุ่งเรื่องส่วนตัว
“ขอประทานโทษค่ะ”
“ผมจะไปรับคนสำคัญกลับบ้าน” เขาบอกเสียงเข้ม เดินออกจากห้องไปอย่างไม่หันกลับมามอง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของปวีณที่มีบุคลิกที่เอาแต่ใจ และดูมั่นคงมาก
ริมฟ้านึกไปถึงเรื่อซุบซิบนินทาในหมู่พนักงานสาว ๆ ที่บางคนรู้จักพันทิวาและได้ไปเยี่ยมดูอาการ เมื่อกลับมาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พันทิวาสมองเสื่อม
ปวีณโบกมือไม่ให้คนขับทำหน้าที่ขับรถ เขาบอกว่าจะขับไปเอง คนขับเปิดประตูรถให้ร่างใหญ่ก้าวขึ้นไปแล้วคนขับถอยหลังกลับมา ปล่อยให้ปวีณติดเครื่องยนต์และเลี้ยวออกจากช่องจอดรถ หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงราวกับนักพบรักครั้งแรกกับหญิงสาวคนที่คุ้นเคย คนที่เขาและเธอรับรู้ในกันและกันว่าเป็นสามีภรรยากันแล้ว
หากว่าเมื่อเธอฟื้นขึ้นมาจากอุบัติเหตุ ในรายงานแพทย์ไม่ยืนยันความเสียหายของสมอง แต่พันทิวากลับจำเขาไม่ได้ ปฏิเสธอ้อมกอดของเขา เรื่องนี้ทำให้ชายหนุ่มเจ็บอย่างบอกใครไม่ได้ เขาตื่นเต้นที่ต้องนึกล่วงหน้า จะได้พบกับกิริยาอาการใดของหญิงสาว ร่างใหญ่หวังเหลือเกินว่า เธอจะคิดถึง และจำเขาได้ เขารักใคร่เธออย่างเต็มหัวใจ อยากแต่งงานกับเธอโดยเร็ว
ได้โปรดสร้างความหวังให้กับความอ้างว้างท่ามกลางความตื่นเต้น และหวาดระแวงที่กำลังโจมตีพี่ในตอนนี้ด้วยนะแหม่ม ยอดรัก ขอให้เหมือนเดิมนะแหม่ม!!!

ปวีณเดินมาถึงห้องพิเศษ เขาเคาะประตูห้องจากนั้นเปิดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ หญิงสาวที่ชายหนุ่มคิดถึงมาตลอดทางทำท่าสะดุ้ง และตื่นตัวอย่างเห็นได้ชัด เธอขยับกายระวังตัวมากขึ้นแล้วก็ทำสิ่งที่ปวีณไม่เคยพบ นั่นคือการยกมือไหว้เขา ซึ่งเขารีบเข้าไปจับมือเธอรวบเอาไว้อย่างไม่อาจคุมอารมณ์ตัวเองไว้
“แหม่ม ทำไมถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้”
บอกไปคุณจะเชื่อหนูหรือ เสียงโต้ตอบดังในอกของเทียนสว่าง หากเป็นร่างของผู้หญิงที่เธอคิดว่ามาอาศัยอยู่
“จำพี่แม้สักนิดก็ไม่ได้เชียวหรือ”
“ให้เวลาหนูสักหน่อยได้มั้ยคะคุณ เอ่อ พี่วีณ”
ชายหนุ่มจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย อีกฝ่ายเบือนหน้าหลบ ไม่สานสบตา ซึ่งเคยยั่วยวนให้เขาได้กลั้นอารมณ์ที่จะจูบไม่ได้ หากว่า นี่เขาแทบหมดอารมณ์เมื่อเห็นน้ำตาอีกฝ่ายรื้นขึ้นมากก่อนเบือนหลบเขาเสียอีก ปวีณปล่อยมืออีกฝ่ายให้เป็นอิสระ แล้วลอบมองว่าเธอทำอย่างไร เทียนสว่างกำมือบีบเข้าหากัน ด้วยท่าทีของคนประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ปวีณถอนใจยาว เอ่ยถามไปถึงคนที่ไม่ได้อยู่ในห้องนั้น
“คุณอาไปไหนหรือ ถึงอยู่คนเดียว”
“คุณป้าไปทำธุระเรื่องค่ารักษาพยาบาลของหนูค่ะ”เทียนสว่างกล่าวตอบลืมตัว ปวีณไม่จับผิด แต่ชวนคุย
“พี่คุยกับปุณ เขาบ่นอยากตาย เขาอกหัก”
ใบหน้างามหันขวับกลับมาทางคนบอกเล่า พร้อมเสียงปรามขึ้นมาอย่างเป็นห่วงทันที
“คะ ทำไมปุณคิดแบบนั้นคะ อย่านะ อย่าให้ปุณคิดร้ายอย่างนั้นเขาไม่ได้อกหักนะคะ”
“ทำไมล่ะ ทำไมจึงรู้ว่าเขาไม่อกหัก”ปวีณสวนกลับไปอย่างสุดทน เขาหวง และยิ่งหวงซ้ำไปอีกเมื่อพะนทิวาในสายตาของเขารู้จักกับปุณมากกว่าเขาผู้เป็นเจ้าของเสียอีก
“เอ่อ...ก็ปุณ ปุณเป็นเอ่อหลาน ไม่ใช่หรือคะ”เธอตะกักตะกักตอบไม่เต็มเสียง ปวีณรวบร่างได้ส่วนสวยเข้ามาโอบกอด แล้วทาบริมฝีปากสวยลงบานกลับปากคู่งามแนบแน่น
เด็กสาวกายแข็งทื่อกับการจู่โจมไม่ทันได้ตั้งตัวและไม่คาดคิดว่าเธอคือเทียนสว่างจะโดนผู้ชายที่บอกตัวเองว่าเป็นน้าชายของปุณจะทำการ จูบ...เรียกว่าจูบ...ไม่ใช่สิ เรียกว่าจุมพิตหรือนี่
ความอบอุ่น และหยาบกร้านของตอเคราทำให้เทียนสว่างเจ็บ แต่ปลายลิ้นอุ่นที่พยายามแทรกกลีบปากคู่เต็มอิ่มเหมือนกลีบดอกไม้สีระเรื่อแดงม้วนกลมให้เผยอกลีบซึ่งปิดแน่นออก ความช้ำชองพานพบความไร้เดียงสาอย่างที่ปวีณไม่อยากเชื่อว่า นี่คือรอยจูบของคนที่ผ่านการจูบกันมาอย่างนับไม่ถ้วน
กลิ่นหายใจสะอาดไร้เดียงสา กายสั่นเทาราวกับเหน็บหนาวเพราะฝ่าสายฝนในเดือนธันวาคม ฝนหลงฤดู!!
มือเรียวขยับจับเสื้อปวีณดึงเอาไว้แน่น รู้สึกล่องลอยไม่เป็นตัวของตัวเอง
“ฮะแอ้ม”เสียงกระแอมไอดังมาจากคุณปริศนา
ปวีณคลายกอดหญิงสาว หากอีกฝ่ายอ่อนระทวยจนต้องประคอง ชายร่างใหญ่แอบยิ้มสมใจ เธอจูบเปลี่ยนไปหรือไม่เขาไม่รับรู้ในส่วนนี้ แต่ที่เขาได้รับคือความแปลกและสุขใจยิ่ง
เทียนสว่างเพิ่งได้หอบหายใจและรู้สึกตัวเต็มที่ เธออายสุดอายและทำอะไรไม่ถูก มือสองข้างดูเกะกะไปหมด ที่สำคัญ ไม่อาจมองหน้าใครในที่นี้ได้เลย หัวใจของเธอเต้นโครมคราม หัวใจเธอหรือ เทียนสว่างย้อนถาม ถ้าใช่ ทำไมยอม แต่ถ้าไม่ใช่ ทำไมเธอหายใจติดขัดเช่นนี้ล่ะ...หรือว่านี่คือเหลี่ยมเล่ห์ของคนเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็กที่ไม่รู้ประสากันแน่!
คิดแล้วเทียนสว่างอดที่จะขุ่นเคืองชายผู้ได้ชื่อว่าน้าของเพื่อน...ที่เธอเคยแอบสนิทใจ นี่คือเล่ห์เหลี่ยมของคนเป็นผู้ใหญ่ที่รังแกเด็กไม่รู้ประสา เด็กสาวค้อนคนที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยดวงตากลมโตกรอกกลับไปขวับใหญ่ ปวีณ ไม่ถือสา คิดว่าอีกฝ่ายคงอายคุณปริศนา เพราะต่อให้คบค้ากันมาสี่ปี แต่ทั้งเขา และพันทิวาไม่เคยแสดงความใกล้ชิดจนเกินงาม อย่างเมื่อครู่นี้ แต่จะเป็นไรไปเล่าในเมื่อ...เธอเป็นเมียของเขานี่นา
พันทิวา ต้องหางานทำเพราะเป็นคนขยันอยู่แต่เดิม เธอช่วยคุณปริศนา ถือของซึ่งมีมากหลายกระเป๋า เพราะมารักษาตัวนานเกือบค่อนเดือน ทั้งที่ไม่เจ็บป่วยอะไรมาก นอกจาก เทียนสว่างกลัวการกลับบ้านที่เธอไม่รู้จักเท่านั้น แต่วันนี้เธอต้องเข้าไปใช้ชีวิตใหม่แล้ว
“แหม่มไม่ต้องถือของหรอกลูก เพิ่งหายป่วย”
“ไม่ได้หรอกค่ะแม่ หนูไม่ได้ป่วยอะไรมากแล้วล่ะค่ะ”
“พี่ถือให้นะแหม่ม” ปวีณดึงกระเป๋าผ้าใบใหญ่จากมือทั้งสองข้างของหญิงสาวไปทั้งหมด จากนั้นจึงเอ่ยกับคุณปริศนาว่า
“เรากลับได้เลยใช่มั้ยครับคุณอา”
“จ้ะวีณ ไปจ้ะลูก”
“ค่ะแม่”
สรรพนามไม่คุ้นหู เพราะเด็กสาวขาดคำว่าคุณ เรียกแทนตัวว่าหนู แต่คุณปริศนาละเลยที่จะใส่ใจด้วยคิดว่ายังดีกว่าได้ยินลูกเรียกตัวเองว่าป้ามากกว่าเป็นไหนๆ
พันทิวาเปิดประตูนั่งตอนท้ายของรถ ปวีณมองตามร่างอีกฝ่าย เขาลอบถอนใจ แล้วคิด ต้องหาเวลาใกล้ชิดกับเธอให้มาก เพื่อฟื้นความจำอย่างเมื่อครู่นี้ และให้ได้มากกว่า จนเธอต้องยอมเรียกชื่อของเขามาให้ได้ เธอจะลืมความรักของเขาไม่ได้เด็ดขาด!!
ตลอดทั้งที่รถผ่านคุณปริศนาที่นั่งข้างหน้าเป็นเพื่อนปวีณ นางหันมาชี้ชวนให้ลูกสาวดูสถานที่ต่าง ๆ เป็นการรื้อความทรงจำ จนกระทั่งรถแล่นเลยออกนอกเมืองแล่นเลี้ยวเข้าสถานที่ที่โล่งแจ้งไม่แออัด ผ่านรั้วเปิดอลังการ สไตล์หรูเลิศซึ่งเทียนสว่างรู้ดีว่า เป็นบ้านของพวกมหาเศรษฐีเขาอยู่กัน เพราะราคาบ้านเบื้องต้นอยู่ที่สิบสองล้านขึ้นไป
ปวีณขับเบ็นซ์เลยไปอยู่สุดซอย มีบริเวณมากกว่าหนึ่งไร่ เยื้องพื้นที่กึ่งกลางเป็นตึกสองชั้นหลังสีขาว ปลูกสร้างแบบยุโรปตอนกลาง ซึ่งเป็นศิลปกรรมที่ถือว่างดงามมาก และบ้านหลังนี้ดูเด่นตระหง่านสวยหกว่าทุกหลังที่ผ่านสายตาของเทียนสว่างอยู่ไกลจากโรงเรียน บ้าน แม่ พี่สาว ไกลกันเหลือเกิน
“บ้านของเราไงคะลูกแหม่ม” คุณปริศนาบอกลูก
ใช่เป็นบ้านของแหม่ม ไม่ใช่ของเทียนสว่าง เพราะบ้านของเทียนสว่างเป็นบ้านไม้หลังเล็ก แม่ และธูปจะเป็นอย่างไรบ้างนะ จะเงียบเหงา เหมือนตัวคนเดียวท่ามกลางคนแปลกหน้าเหมือนกับเทียนในขณะนี้บ้างมั้ย!!
ประตูรั้วรีโมทเปิดออกช้าๆ ผู้คนในบ้านต่างรอรับพันทิวากันที่หน้าตึกใหญ่ ทุกคนแปลกหน้าสำหรับเทียนสว่างทุกคน
“คุณพ่อท่านมีงานสำคัญมากจะรีบกลับวันพรุ่งนี้จ้ะไปประชุมหุ้นส่วนสำคัญ”คุณปริศนาบอกเล่าให้ลูกฟังซ้ำ เด็กสาวในร่างคนเป็นสาวเต็มวัยนึกถึงความอ่อนโยนมีเมตตาของมารดาตนเอง ซึ่งหากว่าท่านได้ลูกสาวที่เป็นคนอื่น แม่สายสุดาก็ต้องมีเมตตาอย่างนี้เช่นเดียวกัน
แม่จ๋า...เทียนอยากบอกแม่ไม่ได้สูญเสียเทียนสว่างไป แต่เทียนหนีไปจากร่างนี้ไม่ได้ หนีไปบอกแม่ให้เข้าใจไม่ได้ค่ะแม่...
นายสมชายวิ่งมาเปิดประตูรถให้ปวีณ แสงวิ่งมารับนายสาว ทุกคนรับรู้จากคุณพรชัยว่าพันทิวาแต่อีกฝ่ายรีบหลบไปอยู่ข้างกายคุณปริศนาจับแขนชายหนุ่มปลอบใจโดยไม่มีคำพูดใด ๆ
ภายในตัวตึกจัดแต่งหรูหราเหมือนที่เด็กสาวเคยชมจากโทรทัศน์ ชีวิตที่เทียนสว่างอยากเป็น อยากอยู่ และพี่สาวของเธอบอกว่า ‘ฝันกลางแดด’
แสงแทบจะประคองเจ้านายให้นั่งอย่างเอาใจเป็นพิเศษ
“คุณแหม่มดื่มน้ำส้มคั้นมั้ยคะ”
น้ำส้ม เด็กสาวได้ยินพี่เลี้ยงคนที่จากไปเอ่ยให้ได้ยิน เธอรู้สึกกระหายและเปรี้ยวปากขึ้นมาอย่างประหลาด แต่ไม่กล้าพูดด้วยความเกรงใจ ปวีณสังเกตอาการของพันทิวาทุกอย่าง ท่าทางออกเกรงใจของหญิงสาวทำให้ปวีณต้องสั่ง
“ไปยกมาเลยแสง คุณแหม่มคงต้องการสักสองแก้ว”
“แล้วคุณวีณล่ะคะ” แสงย้อนถามสนิทสนม
“เหมือนกันก็ได้”
แสงบริวารที่รู้ใจพันทิวามากที่สุด เธอเห็นใบหน้าซูบเซียวของพันทิวา จึงเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“คุณแหม่มยังเพลีย ๆ อยู่นะคะ รับน้ำส้มแล้วขึ้นไปพักผ่อนก่อนดีมั้ยค่ะ” พันทิวารีบพยักหน้ารับทันที ซึ่งปวีณหันไปทางคุณปริศนาก่อนเอ่ยว่า
“ขออนุญาตคุณอาพาแหม่มไปพักผ่อน ดื่มน้ำบนห้องพักได้มั้ยครับ”
“ไม่นะคุณป้าไม่เอานะคะ”เทียนสว่างลั่นปากปฏิเสธออกไปทันที “เอ่อหนูอยากอยู่คนเดียวค่ะแม่” ทประโนคท้ายรีบตามกลับมาเพราะเกรงจะมีพิรุธ
“จ้ะลูกจ้ะ”ปริศนารีบตามใจ “ให้น้องอยู่ตามลำพังก่อนดีกว่านะวีณ”
“ครับ” ปวีณรับคำ ละอายใจต่อบันดาลบริวารบ้านหลังนี้ที่พากันมองแปลกมาวูบหนึ่ง
เทียนสว่างผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวนุ่ม จากนั้นลังเลว่าจะไปทางไหน แสงเอ่ยอย่างรู้อีกว่า
“มาทางนี้ค่ะ”
เทียนสว่างเกาะแขนแสง สาวใช้คนสนิท อายุสามสิบรูปร่างแข็งแรง อีกฝ่ายกำลังจะพาไปห้องของพันทิวาแสงถอนใจอย่างหนักอกแทนประมุขบ้าน ซึ่งบอกเธอก่อนหน้านี้มาแล้วว่าคุณแหม่มอาจจะมีอะไรแปลกๆ ห้ามทุกคนทำให้ลูกของนางเสียใจเด็ดขาด ให้ตามใจทุกอย่าง แสงได้เห็นแล้วว่าพันทิวา กิริยาแปลกไปอย่างสิ้นเชิง พันทิวาคนเดิมร่าเริงเอาแต่ใจและลุยได้ทุกที่ ส่วนพันทิวาคนนี้ขี้ขลาดแม้แต่จะเดินขึ้นห้องของตัวเอง
ส่วนเทียนสว่างอยากไปอยู่คนเดียวโดยเร็วที่สุด กลัวสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักของปวีณ กลัวการเข้าใกล้ของเขา
ปวีณมองตามร่างอีกฝ่ายจนหายขึ้นไปบนบันไดวนได้สวย มีระดับ กระทั่งร่างงามเดินลับไปมุมหนึ่งของห้องส่วนตัวเธอ
“วีณอย่าถือน้องเลยนะ”คุณปริศนายังคงวอนฝ่ายชายให้เห็นใจลูกสาว ซึ่งปวีณยืนยันมั่นคง
“ผมไม่มีวันหมดรักแหม่มหรอกครับคุณอา พรุ่งนี้เย็นผมจะมาครับ ผมขอตัวก่อน เอ่อมีประชุมสามโมง”
“ขอบใจมากนะที่มาส่งอากับน้อง พรุ่งนี้คงไดทานข้าวพร้อมหน้ากัน”
“ครับ” ชายร่างใหญ่ไหว้ลาหญิงมากวัยกว่า แล้วหมุนกายเดินออกไปที่รถจอด ครู่ใหญ่คุณปริศนาจึงได้ยินเสียงรถของปวีณแล่นออกไป จากนั้นนางได้นั่งให้บริวารเข้ามารุมล้อมถามอาการนายหญิงคนสำคัญด้วยความอยากรู้และเป็นห่วง
คุณปริศนามีกิจการของตัวเองท่านจะทำงานที่บ้านเป็นส่วนใหญ่โดยมีคนจัดกรอยู่ภายนอกมาส่งงานให้ทุกวัน แม่ชื่นเข้าไปรายงานถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างที่คุณปริศนาเฝ้า พันทิวาอยู่ที่โรงพยาบาลถึงจะกลับบ้านบ้างแต่ก็ชั่วครู่เท่านั้น
“แหม่มเขาได้รับความกระทบกระเทือนมาก จำใครยังไม่ได้ แต่อีกหน่อยก็จำได้ ช่วยดูแลกันหน่อยอย่าขัดใจล่ะ”
“ค่ะ-ครับคุณผู้หญิง”
ทุกคนรับคำด้วยเต็มใจ
ก้าวแรกของเทียนสว่างที่ได้ย่างเหยียบเข้าไปยังห้องพักส่วนตัวของพันทิวา เด็กสาวตื่นตาตื่นใจกับห้องส่วนตัวของพันทิวายิ่งนัก เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมากค่าและทันสมัย ห้องนั่งเล่นขนาดเล็กส่วนตัว ผ่านไปเป็น เตียงนอนกว้าง ขึงผ้าปูที่นอนสีชมพู คลุมกันฝุ่นด้วยผ้าสีบานเย็นกึ่งกลางเป็นดอกกุหลาบเพ้นท์ดอกใหญ่ น่าจะเย็บมือ จากคนที่ชำนาญการทำงานด้วยมือมาก่อนจึงมองออก ตรงข้ามเป็นห้องน้ำส่วนตัวกั้นกระจกฝ้า เทียนสว่างรีบสาวเท้าเข้าไปมองเพราะความอายที่นึกว่าต้องมาอยู่ในห้องเช่นนี้ และอายหนักเมื่ออดนึกไปถึงร่างใหญ่ของปวีณเสียไม่ได้ เธอพิงตัวเองกับผนังกระจก เมื่อรอบอุ่นจากริมฝีปาก และรสชาติของชายคนนั้นยังคงติดอยู่ในปากเธอไม่จางหาย คิดแล้วให้ยิ่งละอายใจ…อยากบอกใครสักคนที่ไว้ใจที่สุดให้รู้... ธูปหอมและเทียนสว่างเคยสงสัยกันว่า หญิงชายจูบกันนั้นเป็นอย่างไร
แก้มบางร้อนผะผ่าว เจ้าตัวลูบความร้อนนั้นอย่างอายแสนอาย ทำไมไม่เหมือนนิยายสักเรื่องที่นางเอกต้องตบกลับไปสักเปรี้ยงให้พระเอกหน้าหัน แต่นี่ เธอกลับตื่นตะลึง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกจุมพิต และยังปล่อยให้โอนอ่อน กระจกสะท้อนกลับมาที่เทียนสว่าง
ภาพสะท้อนจากกระจกเงาทำให้เทียนสว่างละอายใจ
“พันทิวา พี่แหม่ม อายุเท่าไหร่คะ พี่แหม่มสวยเหลือเกิน สวยเหมือนนางงามเลย”เธอเข้าไปลูบเงาสะท้อนที่”ทำอย่างไรเทียนจะออกไปจากร่างนี้ได้คะ” เด็กสาวถามเงานั้น แล้วทอดถอนใจ
“คุณแหม่มทำอะไรค่ะ”
เทียนสว่างสะดุ้งสุดตัวเมื่อแสงถามมาจากนอกห้องประตูห้องน้ำ เธอทำหน้าตาตื่นทำยังกับขโมยขึ้นบ้านคนอื่นแล้วถูกจับได้กระนั้น
เด็กสาวพาร่างสูงของพันทิวาออกมาด้วยความแตกตื่น หวาดหวั่นใจ แสงเห้นท่าทางแปลกของนายสาวแสงแล้ว แต่ทำเป้นมองไม่เห็น หรือแสร้งให้เป็นเรื่องปกติ ด้วยการถามว่า
“จะอาบน้ำหรือคะ แสงจะผสมน้ำอุ่นให้นะคะ” เทียนสว่างไม่ตอบ แต่ปล่อยให้แสงจัดการให้เสร็จสรรพรวมถึงหาชุดคลุมอาบน้ำให้พร้อม
“เอ่อ ของหนูอยู่คนเดียวได้มั้ย”
“ได้สิคะ โธ่ไม่เห็นต้องขอเลยค่ะ ไล่ก็ยังได้”
“อุ๊ย หนูไม่กล้าเสียมารยาทอย่างนั้นหรอกค่ะพี่ออกไปก่อนนะคะ”
“อุ้ยอย่าเรียกพี่ค่ะเรียกแสงเฉย ๆ ก็พอ ถ้าคุณแหม่มต้องการอะไรก็กดกริ่งเรียกแสงได้นะคะ” แสงบอกอย่างเอาใจ เทียนสว่างรีบพยักหน้ารับทันที
เมื่ออยู่ตามลำพังในห้องส่วนตัวซึ่งแสงได้ปิดล็อคห้องให้อย่างเรียบร้อย เทียนสว่างหยุดยืนที่หน้ากระจกในห้องน้ำ จากนั้นจึงค่อยๆเปลื้องผ้าเพื่อสำรวจร่างกายของพันทิวาทุกส่วนสัด ซึ่งถึงแม้จะรู้สึกเหมือนแอบมองคนอื่น แต่เทียนสว่างต้องจำใจ เพราะว่า เธอได้เข้ามาอยู่แทนที่แล้วอย่างไม่รู้จะออกไปได้อย่างไร
ร่างเปลือยเปล่าของพันทิวาปรากฏอยู่ตรงหน้า เทียนสว่างรู้สึกอับอายที่จะจ้องมอง รู้เต็มอกว่าไม่ใช่ร่างของตัวเอง แต่เมื่อลองหยิกดูความเจ็บคือความรู้สึกของเธอ มือสั่นเทาขณะหยิบใช้ข้าวของ ของพันทิวา
“หนูขอโทษนะคะพี่แหม่ม หนูไม่รู้จะทำยังไงดี หนูอยากกลับบ้านแต่จะมีใครยอมเชื่อหนูล่ะคะ พี่แหม่มอยู่ไหนล่ะคะมา เอาร่างพี่แหม่มคืนไปเมื่อไหร่ก็ได้นะคะ ถ้าพี่แหม่มต้องการ หนู หนูไม่อยากใกล้คนรักของพี่แหม่มเลยค่ะ เขาทำให้หนูไม่ชอบตัวเองเลยสักนิด หนูไม่ชอบที่เขาทำให้หนูรู้สึกแปลก หนูกลัวค่ะ”
เสียงตอบรับไม่มีนอกจากเสียงของตนเอง เทียนสว่างส่ายหน้าอ่อนใจ ก่อนที่จะชำระล้างร่างกาย น้ำสะอาดได้รับการผสมให้อุ่นพอควร หลังอาบน้ำเรียบร้อยแล้วเธอสวมชุดคลุมออกมานั่งริมเตียง ทอดสายตามองเหม่อเกินกว่าที่เห็น
หากในใจเด็กสาวหนาวอีกแล้วเมื่อนึกถึงใบหน้าคมคร้ามของชายร่างใหญ่...แต่งงาน เขาพูดกับพ่อแม่ของแหม่ม แต่คนที่ต้องอยู่กับเขาคือเทียนสว่าง โธ่...ทำไมจึงเป้นอย่างนี้ เธอเพิ่งย่างสิบแปดเท่านั้น ทำไมต้องเจอเรื่องที่ประหลาดอย่างนี้ คิดแล้วเด็กสาวรู้สึกเพลีย ๆ เลยหลับนิ่งอยู่ริมเตียงทั้งชุดคลุมนั่นเอง




นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ย. 2555, 19:25:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ย. 2555, 19:25:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 2076





<< ต้องมีชีวิตต่อไป   กลัวใกล้ >>
minafiba 19 ก.ย. 2555, 19:46:58 น.
อยากอ่านรวดเดียว เมื่อไหร่เป็นเล่มเอ่ย


นางแก้ว 19 ก.ย. 2555, 20:24:20 น.
ยังไม่ทราบเลยค่ะแม่แดงยังเขียนอยู่แต่ว่าไม่ติดแลบ้วค่ะเขียนได้แล้วคืนนี้เขียนต่อน่าจะจบได้เดิือนนี้ค่ะท่าทางจะโม้แล้วค่ะ


คิมหันตุ์ 19 ก.ย. 2555, 22:51:17 น.
หนูเทียน เคลิ้มกะลุง วีณ ละ คิคิ


saralun 20 ก.ย. 2555, 09:03:35 น.
เมื่อไหร่หนูเทียนจะเจอกับหนูธูป น้า ^^


tutas 20 ก.ย. 2555, 09:07:00 น.
หนูเทียนโดนคุณวีณเล่นเข้าให้แล้ว ^_^ / แต่สงสารหนูเทียนจังเลยค่ะ -_-


Zephyr 29 ก.ย. 2555, 20:01:56 น.
พี่วีณจะรู้ตัวมั้ยว่าเป็นป๋าโลลิอยู่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account