เจ้าสาวสิบแปด
อุบัติเหตุ ได้เกิดขึ้น จากเจ้าสาวยี่สิบสองมาเป้็นเจ้าสาวสิบแปด ชีวิตได้ถูกสิ่งใดลิขิต
Tags: เพื่อรัก

ตอน: กลัวใกล้

แสงเดินลงมาข้างล่าง คุณปริศนากำลังจะขึ้นมาดูลูกสาวพอดีโทรศัพท์ดังขึ้น นางจึงกดรับ เป็นสายเรียกเข้าจากปวีณ นางรับสายด้วยความสงสัย
“มีอะไรหรือวีณ”
“ผมเปลี่ยนใจเข้าไปทานอาหารค่ำด้วยนะครับ กลับจากงานจะแวะเข้าไปเลยครับคุณอา”
“จ้ะตกลง”
“ผมขอโทษนะครับที่เอาแต่ใจอย่างนี้ แต่ผมอยากให้แหม่มจำผมให้ได้เร็วๆ ไม่อยากให้เขาทำห่างเหินกับผมอย่างนี้เลยครับ”
“จ้ะ อาเข้าใจความรู้สึกนี้ดีจ้ะวีณ ตอนที่เขาเรียกอาว่าป้า อาอยากร้องไห้มาก แต่เมื่อเขากลับมาเรียกแม่ และทำท่าไม่คุ้นแต่อายังดีใจ มีความหวังขึ้นมากว่าลูกสาวจะต้องกลับมาเป็นคนเดิม”
“ครับ”เขารับคำ เสียงหายไปในลำคอ ร่างใหญ่อยากบอกว่าที่แม่ยายว่า เขากลัวจะเสียเธอไปยิ่งกว่า เพราะอะไรนั้นปวีณไม่อาจพูดออกไปได้ ตัวเองยังไม่อยากยอมรับว่าหวง ที่หญิงสาวทำกระตือรือร้นลืมตัวเพียงแค่ฟังชื่อของ ปุณ
ชายหนุ่มปิดสายและเลี้ยวรถเข้าเส้นทางกลับบริษัทเพื่อทำงานที่ค้างอยู่ในเรียบร้อยต่อไป
ที่โรงเรียนสหศึกษา
นักเรียนชั้นม.ปลายจับกลุ่มกันเพื่อเตรียมสอบ เพื่อเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยตามที่ตนเองต้องการ ธูปหอมเผลอเหม่อลอย เมื่อนึกไปถึงน้องสาว ซึ่งหวังเรียนร่วมวิทยาลัยเดียวกันกับเด็กหนุ่มที่เธอต่างชอบเช่นเดียวกัน เวลานี้ธูปหอมอยากให้ฝันของน้องสาวเป็นจริง แต่ เธอเองยังเหมือนกับได้รับความรังเกียจมาจากปุณ ราวกับว่า เขาอยากให้เธอเป็นคนตายแทนที่จะเป็นเทียนสว่าง
ถ้าแทนที่ได้ เธอจะทำ แต่จะให้ทำร้ายตัวเองเพื่อใครนั้นเธอทำไม่ได้ เธอยังเป็นเธอที่มีแม่ แม้จะมีรัก แต่ไม่มากเท่ากับความเข้มแข็งของหัวใจดวงนี้
“ธูปอยากเข้าวิทยาลัยศิลปกรเหรอ”
“เปล่าจ้ะ เทียนต่างหากที่อยากเข้า”
“ปุณเขาก็อยากเข้าที่นั่น ปุณเขาแปลกคนนะธูปว่ามั้ย”
“ช่างเขาเถอะจ้ะ ธูปจะอ่านหนังสือ”
รินมองเด็กสาวเพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทกับใคร เพราะเมื่อก่อนนั้นเธอจะอยู่ตามลำพังกับคู่แฝดมากกว่า แม้ทั้งสองจะโดนแยกกันในชั้นม.ห้า แต่เมื่อขึ้นม.หก ทั้งสองได้มาอยู่ด้วยกัน ก็ไม่ค่อยมีใครอื่น หลังจากเทียนสว่างไปทุกคนเกรงว่าธูปหอมจะมีเพื่อน แต่เด็กสาวเข้มแข็งกว่าที่ทุกคนคิดมากนัก
เพื่อนของปุณเดินผ่านธูปหอม เขาหย่อนกายลงไปนั่งพลางเอ่ยว่า
“ธูปอยากเรียนศิลปากรหรือเปล่า”
“ถามทำไมเหรอ”
“เราสงสัยกันว่า ปุณกับเทียนชอบกัน แล้วเธอล่ะชอบปุณด้วยหรือเปล่า”
“อ้ายชัยบ้า”รินด่าอีกฝ่ายลั่น “ผีเจาะปากมาให้พูดหรือไง”
“เอ้า แกด่าไม ฉันหวังผล ใจป่ะล่ะ” วันชัยสวนคำใส่รินทันควันด้วยภาษาวัยรุ่นสมัยใหม่ แทนที่จะบอกว่าเข้าใจหรือเปล่าล่ะ ก็พูดแค่นั้นเป็นอันรู้กัน
“เอ้าแกมาบอกรักธูปหรือไง”
“ใจป่ะล่ะ”วันชัยหันไปถามธูปหอมเด็กสาวคนน่ารัก อีกฝ่ายมองวันชัยเต็มตา ก่อนยิ้มในสีหน้า ตอบกลับ
“ไม่ละ ไม่สักนิด”
“โฮ่...แค่ไม่ก็แย่พอ ยังย้ำอีกนิด ถามตรง ชอบปุณใช่ป่ะ”
“ไม่...สักนิด” ธูปหอมตอบ พลางปิดหนังสือ คำพูดของเธอทำให้ร่างสูงของปุณ ซึ่งเดินมาจากเก้าอี้ตัวห่างออกมามาถึงพอดี ร่างสูงของเด็กหนุ่มชะงักกึกได้ยินไม่ถนัด แต่เดาได้ เพราะว่าวันชัยวิ่งทะเล่อทะล่านำหน้าเข้ามาสาระแนโชว์ก่อนหน้า เด็กหนุ่มต่อว่าเพื่อนตัวดี
“เสือกไรวะชัย”
“เขาไม่ใจกะมึง”
“ใจไร”บางทีวัยรุ่นก็ไม่เข้าใจภาษาเดียวกันนัก “แล้วมึงมายุ่งอะไรแถวนี้”
“กูชอบธูป แต่เขาบอกไม่ชอบกู และเขายังบอกไม่ชอบมึงด้วย” วันชัยยอกย้อนกวนเบื้องต่ำของปุณ เด็กหนุ่มเอ่ยไม่มองหน้าเด็กสาว
“กูไม่ได้ชอบใคร และไม่สนว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบกูด้วย”
เจ็บ...ธูปหอมรู้สึกเหมือนเข็มแทงใจ พอกันกับคนที่พูดออกมาก็มีอาการเจ็บเช่นเดียวกัน แต่ต่างคนต่างเดินไปคนละทางจากนั้นจึงได้เข้าไปชุมนุม เข้าเรียนชั่วโมงสุดท้าย

สายสุดา มัดเก็บผ้า ซึ่งเย็บเรียบร้อยแล้ว ใส่กระสอบเพื่อนำไปส่งให้กับผู้รับเหมามาอีกที หลังใส่กระสอบเรียบร้อยแล้ว นางเก็บกวาดบ้าน และเตรียมเข้าครัวเพื่อดูว่าต้องทำอะไร นางถอนใจ น้ำตารื้นขังขอบตา เมื่อคิดถึงลูกสาวอีกคนที่จากไป หากยังอยู่ สองสาวจะแข่งกันวิ่งกลับขึ้นเรือนเพื่อมาแย่งกันทำอาหารเอาใจมารดา และช่วยกันทำอาหารที่ตัวเองชอบ
แผงไข่วางอยู่เหนือหลังตู้กับข้าวขนาดเล็ก ในตู้เย็นแช่ปลาช่อนหั่นเป็นชิ้นเรียบร้อยแล้ว นางหาผักที่คิดจะทำอาหาร แต่ยังคิดไม่ออกจะทำอะไร
บัดนี้บ้านมีแต่ความเงียบ กับข้าวทำเพียงสองอย่าง หรือบางวันอย่างเดียว และมีบ้างที่สองแม่ลูกอิ่มอย่างที่ไม่ได้กินอะไรในมื้อเย็น ต่างคนต่างรู้ดีว่า ยังไม่อาจทำใจให้ลืมคนที่จากไปได้
“แม่ขา”เสียงเรียกดังแว่วเข้ามา นางขานรับเลื่อนลอย
“เทียนหรือลูก”
“ธูปค่ะแม่”เสียงตอบรับดังมาจากประตูทางเข้าครัวเล็กๆ สายสุดารีบปาดเช็ดน้ำตาให้เหือดแห้ง ไม่อยากให้ลูกสาวคนโตเห็น
“ธูปเหรอ เสียงเหมือนกันกับน้อง แม่เลยเผลอ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ แม่จะทำอะไรคะ ธูปทำให้”
“แม่ว่าง ธูปอยากกินอะไรหรือเปล่า ไปอ่านหนังสือเถอะจะได้สอบง่ายขึ้น”
“บางทีธูปอาจจะไม่เรียนต่อค่ะแม่”
“ไม่นะ ทำไมไม่เรียนต่อ แม่ยังทำงานได้ ลูกก็ช่วยแม่อยู่แล้ว จะมาคิดไม่เรียนต่ออย่างนี้แม่ไม่ยอมหรอกนะ” เสียงแม่ดุมาก ธูปหอมยกมือไหว้ขอโทษท่านสำนึกผิด เพราะเธอไม่อยากเรียนต่อเพราะเด็กหนุ่ม ไม่ใช่เรื่องไม่มีเงินเรียน อย่างที่แม่พูด ครอบครัวของเธอช่วยกันทำงาน ขยันเก็บเงินและประหยัดมาก ไม่มีของใช้อย่างที่วัยรุ่นสมัยใหม่มีใช้ บ้านเธอจน และเธอคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ให้เกินตัว เกินฐานะ แม่เหนื่อย เธอเองก็รู้จักค่าของเงิน เพราะต้องช่วยทำกินมากับแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย
“แม่รู้ว่าถ้าสอบเข้าได้แล้วต้องใช้เงินหลายหมื่น แม่รู้ว่าแม้จะขอยืมเงินจากรัฐได้ แต่ก็น้อยมาก แต่นั่นไม่เป็นปัญหา ยิ่งตอนนี้...” นางหยุดไม่อยากพูดต่อ แต่ธูปหอมก็รู้ว่า จากที่เตรียมเงินไว้สองส่วน เท่ากับเพิ่มขึ้นอีกเพราะเหลือลูกคนเดียว
“ธูปจะสอบโอเนตเพื่อเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ได้ที่ไหนก็เรียนที่นั่น แต่ถ้าไปไกลต่างจังหวัด ธูปขอไม่ไปนะคะ”
“ได้ แม่ก็ไม่อยากให้ลูกไปไกล แล้วไม่อยากเรียนอย่างน้องบ้างหรือ เรียนศิลปะ เรียนร้องเพลงดนตรีอย่างที่น้องเคยบอกแม่”
ไม่อยากเรียน ถ้าต้องเรียนกับคนที่ไม่อยากอยู่ใกล้!!
“ตามใจธูป แม่รู้ว่าลูกเป็นเด็กดี มีความคิดดี แม่ความรู้น้อย อยากให้ลุกได้เรียนสูงๆจะได้ไม่ลำบาก”
“ไม่แน่นะคะแม่ ธูปอาจจะเรียนออกแบบแล้วมาตัดเย็บกันเอง แบบขายตัวเดียวในดลกอย่างนั้นน่ะค่ะ”
สายสุดาหลุดปากหัวเราะไปกับลูกสาวเมื่อเธอกลั้วหัวเราะคิกในลำคอ เสียงหัวเราะใสๆอย่างนี้ ที่ทำให้นางมีความสุข นางดึงลูกสาวเข้ามากอดแนบแน่น ร่างสูงบอบบางโอบกอดท่าน วางศีรษะลงบนบ่ามารดา
“พอมีชื่อเสียง พวกเราก็ย้ายไปฝรั่งเศสเลยค่ะ”
“ไม่ไปหรอก ไม่ไปที่อื่น”
“กลัวเทียนตามมาหาไม่เจอหรือคะ”
“ใช่ เดี๋ยวเทียนไม่เจอแม่กับธูป”
ธูปหอมกอดมารดา สังหรณ์บางอย่างทำให้เธอชะงัก รู้สึกเบา และหนักในใจไปพร้อมๆกัน เทียนสว่างยังไม่ตาย แต่อยู่ที่ไหนสักแห่ง...เอาอีกแล้วความคิดเจ้ากรรมนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว เธอถอนความรู้สึกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะดึงกายออกห่างมารดา เอ่ยว่า
“หิวแล้วค่ะแม่ อยากทานไข่เจียวนุ่มฝีมือแม่จังเลยค่ะ ธูปตีไข่ให้นะคะ”
“ได้สิ แล้วอย่างเดียวพอหรือลูก”
“แม่จะทานอะไรคะ ธูปจะได้ทำต่อให้แม่”
“แกงส้มพริกสด”
อาหารโปรดของแฝดทั้งคู่นั่นเอง สองแม่ลูกลงมือจัดแจงทำอาหาร ธูปหอมจัดเครื่องแกงส้ม ซึ่งเรียบง่ายใช้หัวหอม กะปิ และพริกขี้หนูสดตำใส่พร้อมกัน สายสุดานึกถึงผักบุ้ง จึงได้ไปดูที่ถังน้ำแช่ผักสด มีผักบุ้งและผักกระเฉด นางเลือกเด็ดเฉพาะยอดอ่อนของผักทั้งสองอย่างส่วนแข็งไม่นำมาทำอาหาร ทิ้งอย่างไม่เสียดายเพราะทำเพียงจานเดียว และไม่มีความอัตคัดถึงกับกินรากผักอย่างนั้น ท่าทางสองแม่ลูกเริ่มมีความสุขขึ้นมาบ้าง
ธูปหอมอดคิดไม่ได้เมื่อกลิ่นอาหารกรุ่นหอมโชยขึ้นมาจากกระทะ...กลิ่นหอมนี้ เทียนคงได้กลิ่นพร้อมธูปนะ ได้กลิ่นไหม ไข่เจียวกับแกงส้มผักบุ้ง!!
คุณปริศนาใช้กุญแจสำรองเปิดประตูห้องนอนของลุกสาว และเปิดเข้าไปอย่างแผ่วเบา เกรงใจคนเป็นลูกเสียยิ่งกว่าฐานะคนเป็นแม่จะทำได้ แต่นางเป็นอย่างนั้นจริงๆ นับแต่อีกฝ่ายเข้าโรงพยาบาล นางรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายเป็นแก้วบางที่ต้องทะนุถนอมกว่าเดิมเป็นสิบเท่า จากที่เคยเอาใจเลี้ยงดูกันมาจนอีกฝ่ายเอาแต่ใจมาก บัดนี้ยิ่งต้องรู้สึกเกรงใจ เกรงอีกฝ่ายจะแตกโพละ แล้วสติขาดหายกลายเป็นวิปลาต ดังนั้นคุณปริศนาจึงระวังมากทีเดียว
มืออุ่นนุ่มปัดผมที่รุ่ยร่ายปิดหน้าให้เสยขึ้น รอยยิ้มเอ็นดูอ่อนโยนยิ่งขณะมองลูกสาวที่หลับสนิท
“แม่หรือค่ะแม่ หอมไข่เจียวจังเลยค่ะ”
“ใช่ค่ะลูกแหม่ม” เทียนสว่างลืมตาตื่นไม่ใช่แม่สายสุดาแต่เป็นแม่ปริศนา “หิวหรือลูก พูดถึงไข่เจียว พูดผิดหรือเปล่า หนูทานออมเล็ตใส่เห็ดไม่ใช่หรือจ๊ะ”
ไม่ใช่ค่ะ ไข่เจียว ไข่บ้านๆค่ะคุณป้า...เทียนสว่างนึกในใจ
“ แม่เข้ามานานแล้ว ลูกแหม่มหลับสนิทเชียว เปลี่ยนผ้าก่อนเถอะนะลูก” เทียนสว่างจึงสำรวจตัวเอง แล้วรู้สึกอายที่หลับทั้งชุดคลุมอาบน้ำ พวงแก้มสวยแดงระเรื่อคุณปริศนาฟอนจูบอย่างแสนรักและเอ็นดูต่อท่าทีเหมือนเด็กหญิงขี้อายของลูกสาว “ยังกับสาวรุ่นเลยลูกสาวของแม่”
หนูเพิ่งสิบแปดไม่เต็มเลยนะคะคุณ...แม่ เทียนสว่างคิด แล้วหันไปจูบเอาใจคุณปริศนา รอยจูบแน่นของอีกฝ่ายทำให้คนที่คิดว่าเป็นแม่ถึงกับลูบแก้มลืมตัว...
ลูกเหมือนเด็กๆ หรือว่าลูกสาวของเธอจะกลับไปเป็นเด็กหญิงอีกครั้ง โอ้ ลุกไม่ได้ประสาทเสื่อม แต่ลูกกลับไปเป็นเด็กต่างหาก คุณปริศนายิ่งคิด ยิ่งรู้สึกยินดีเป็นอันมาก ดีใจจนไม่สามารถเก็บไว้ได้ นางรอให้เทียนสว่างเข้าไปในห้องเปลี่ยนผ้า นางเดินออกไปโทรศัพท์หาสามีและรายงานเรื่องที่นางเข้าใจให้อีกฝ่ายทราบ
“จริงหรือ ลูกจำอะไรได้แล้วหรือคุณ”
“ค่ะ แกหอมแก้มฉันด้วยนะคะ จูบเหมือนตอนแกเป็นเด็กๆเลยค่ะ แหม่มไม่จูบ ไม่กอดฉันมานานแล้วนะคะ ฉํนดีใจจังเลยค่ะคุณ”
“ค่อยๆไปนะ ถ้าลูกเรากลับไปเป็นเด็ก เราก็คงได้เจ้าจอมซนขี้อ้อนกลับมาอีกครั้งแล้วสินะ”
“ดีเหมือนกันนะคะ ดีจังค่ะจะได้ไม่ต้องไปตบตีกับใครให้ใจหายอีกแล้ว” คุณปริศนาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม คนปลายสายหัวเราะอย่างยินดีไปด้วย
“ไปตีกับเขาแล้วก็มานั่งสงสารกับอีกฝ่ายไม่มีเงินเสียค่าปรับ”คุณพรชัยเอ่ยอย่างนึกถึงความเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจของลูกสาว แต่นั่นไม่ได้ทำให้คนเป็นพ่อคนนี้รักลูกน้อยลงไปเลย มีแต่ยิ่งตามใจมากขึ้น เพื่อให้อีกฝ่ายได้สมใจ!!!
แสงขึ้นมาตามเวลา มาพบนายผู้หญิงกำลังปิดโทรศัพท์สีหน้าท่าทางเจือยิ้ม ทำให้แสงพลอยดีใจไปด้วยจึงกระซิบถาม
“คุณแหม่มฝันดีหรือคะคุณผู้หญิง”
“ท่าทางแสงต้องเลี้ยงน้องอีกแล้ว”
“คะ...คุณแหม่มท้องหรือคะ”
“ไฮ้...พูดอะไรอย่างนั้นนะแสง” คุณปริศนาเอ็ดเสียงเขียว แสงรับก้มหน้าสารภาพผิด
“เอ่อขอโทษค่ะ แสงไม่เข้าใจ”
“แหม่มเขาเหมือนเด็กๆนะ เดี๋ยวเราก็คอยดูเอาก็แล้วกัน เขาไม่ขี้โมโหอีกแล้วมั้ง” ท้ายเสียงของคุณปริศนายังทอดเบาอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก
แสงทำท่าเหมือนไม่อยากเชื่อว่านายสาวจอมแสบจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่นายผู้หญิงบอกเล่า
“เอาล่ะแสงลงไปสั่งแม่ครัวให้ทำออมเล็ตของโปรดของลูกแหม่ม เขาบอกอยากทาน ฉันจะเข้าไปดูแหม่มสักหน่อยน”
แสงทำตามคำสั่ง เดินกลับลงไป ส่วนคุณปริศนาเข้าห้องหาลูกสาว ซ฿งกำลังเลือกผ้าอย่างไม่รู้จะสวมใส่ตัวไหนดี เพราะตู้พื้นหน้าเป็นกระจกเงา ตู้ใหญ่ อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าราคาแพงลิบ และไม่มีตัวไหนที่เธอคิดว่าเหมาะที่จะสวมอยู่กับบ้านสักตัวเดียว
คุณปริศนาเข้าไปเลือกดูให้อย่างพอเข้าใจต่อการเลือกไม่ได้ของอีกฝ่าย
“สวมเดรสสีน้ำตาลนี้ดีมั้ย”
“เอ่อจะไปไหนหรือคะแม่”
“เมื่อครู่วีณโทรมา คืนนี้จะมาทานข้าวด้วยกัน”
“คุณ เอ่อ คุณแม่คะ เอ่อแหม่มรู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ แหม่มขอตัวไม่ทานข้าวได้มั้ยคะ”
“แหม่ม” ท่านเดินไปหาร่างสูงโปร่งของลูกสาว “โกรธวีณหรือถึงทำห่างเหินกับเขา เขาเป็นผู้ชายที่ดีมากนะแล้วก็คบหากับหนูมาสี่ปีแล้ว พยายามทำความรู้จักกับเขาอีกครั้งนะคะลูกแหม่ม”
“ค่ะแม่”เทียนสว่างรับคำอย่างว่าง่าย จากนั้นนึกถึงในละคร ที่เวลาพระเอกมาบ้านนางเอกและทานข้าวกัน นางเอกต้องแต่งหน้าและสวมชุดสวย บัดนี้ ละครฉากนั้นกำลังเกิดกับเธอ...ชีวิตของพวกคนมีเงินเขาไม่ราบเรียบธรรมดาเลยหรือ
เด็กสาวนำเดรสไปสวม เนื้อผ้าเรียบแนบเนื้อ ทำให้เทียนสว่างใจหวิว ร้องขอคุณปริศนาเสียงอ่อน
“เอ่อแม่คะ แหม่มอยากใส่เสื้อยืด กางเกงขายาวได้ไหมคะ”
“จ๊ะ...”
“แหม่ม อายพี่วีณค่ะ ชุดนี้โป๊ค่ะ เอ่อ”เธอก้มมองอกใหญ่ ซึ่งดันเสื้อขึ้นมาจนเห็นรูป เพราะโนบรา
ขณะที่เทียนสว่างและคุณปริศนาช่วยกันค้นหาเสื้อยืดตัวโคร่ง และกางเกงยีน อย่างที่ต้องรื้อกันอลหม่าน เพราะไม่มีชุดไหนที่เทียนสว่างบอกว่าไม่โป๊
“เอาล่ะได้แล้ว นี่เสื้อของมหาวิทยาลัย กับกระโปรงยาวที่มีไว้สำหรับไปทำบุญ น้อยครั้งที่แหม่มจะไปวัด”
“วันอาทิตย์นี้ไปวัดเล็กๆกันมั้ยคะแม่ วัดต้นไทร”เทียนสว่างรีบบอกทันที
“ไปวัดหลวงดีกว่านะ แม่รู้จักกับท่านเจ้าคุณ”
เทียนสว่างเงียบไปทันที คุณปริศนารีบว่า
“ตามใจจ้ะ ไปวัดอะไรนะ ชื่อไม่คุ้นหูเลย อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้”
“แหม่ม เอ่อทำให้แม่ไม่สบายใจหรือเปล่าคะ”
“เปล่าเลยจ้ะแปล่า ลูกรู้มั้ยว่า ลูกทำให้แม่มีความสุขมากเลยวันนี้ และถ้าลูกจะดีกับพี่วีณ แม่จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีก”
“ค่ะแม่”เทียนสว่างรับคำเสียงเบาหวิวทีเดียว แต่นั่นทำให้คุณปริศนารู้สึกตัวเบาราวกับลอยได้เพราะสุขอย่างเหลือล้นทีเดียวที่ลูกว่าง่าย หายกลัว และไม่โวยวายว่าไม่ใช่แหม่มอีกแล้ว




นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ย. 2555, 18:42:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ย. 2555, 19:59:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 2139





<< รู้สึกแปลก   โอนอ่อน >>
minafiba 20 ก.ย. 2555, 18:51:43 น.
^______^


คิมหันตุ์ 20 ก.ย. 2555, 19:52:31 น.
วันนี้มากะติ๊ดเดียว รอตอนต่อไปค่า


นางแก้ว 20 ก.ย. 2555, 19:56:50 น.
มาต่อแล้วค่ะ


tutas 21 ก.ย. 2555, 13:38:10 น.
ถ้าไปวัดแล้วเจอธูปกับแม่จะแย่กว่าเดิมมั๊ยน้อหนูเทียน -_-


Barby 22 ก.ย. 2555, 09:26:39 น.
รอรอรอนะค่ะ สนุกค่ะ


Zephyr 29 ก.ย. 2555, 20:16:08 น.
เทียนทำใจรับชีวิตใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ
คิดแบบนี้มันจะยิ่งวุ่นวายนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account