The Royal Wedding : รักนี้ที่วังหลวง
เมื่อเจ้าชายหนุ่มรูปงามแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ที่สตรีทั่วราชอาณาจักรต่่างเฝ้าฝันจะได้ควงคู่ กลับถูกสี่สาวพี่น้องตระกูลหนึ่งไม่เห็นว่าสำคัญ พระองค์จะทำอย่างไร เมื่อปัญหายิ่งหนักขึ้นด้วยสมเด็จพระราชินีมีพระดำรัสต้องการได้สะใภ้หลวงเป็น 1 ใน 4 สาวนั้น

เรื่องราวของซินเดอเรลล่ายุคใหม่เริ่มต้นขึ้น ไม่แปลกและไม่แตกต่าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ใครๆอยากสัมผัสเสมอมา
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: อุบัติเหตุ

The Royal Wedding 11

“เซ็ง” ดนัยโพล่งขึ้นมาเป็นคนแรก หลังจากกลุ่มสี่หนุ่มหล่อมานั่งดื่มน้ำชายามบ่ายร่วมกับเจ้าชายที่พระราชวัง

“อืม…นั่นสิ…” ชินาคมเอาบ้าง เขาก็มีเรื่องกลุ้มใจพอดูเหมือนกัน

เจ้าชายทรงจิบพระสุธารสชาด้วยความครุ่นคิด ก่อนจะตรัสเบาๆ“หงุดหงิดชะมัด”

ทรงพลน่าจะเป็นคนที่อารมณ์ปกติที่สุดในกลุ่มนี้ หลังจากเขานั่งสังเกตอาการของสหายทั้งหลาย เขาก็รู้ได้ทันทีว่า พวกเสื้อร้ายเหล่านี้มีอย่างเดียวที่ทำให้หมดอารมณ์ได้นั่นก็คือ ‘ผู้หญิง’

“หงุดหงิดเรื่องอะไรล่ะกระหม่อม แม่ซาร่างอนอีกแล้วล่ะสิ”

เจ้าชายทรงส่ายพระเศียรอย่างเหนื่อยหน่าย “เปล่า ไม่ได้เจอกันเกือบอาทิตย์แล้ว”

“นั่นไงล่ะฝ่าบาท ก็รีบไปหาเสียสิ จะได้ไม่หงุดหงิด” ทรงพลเสนอความเห็น

ชินาคมแสดงสีหน้าประหลาดใจ “โทรคุยกันทุกวันไม่ใช่หรือฝ่าบาท”

“เรางานมาก ไม่ค่อยได้โทรไปเท่าไร บางทีเธอโทรมา ก็ให้องครักษ์รับ เพราะติดงานอยู่”

“แหมน่าเศร้านะฝ่าบาท หม่อมเข้าใจดี” ชินาคมทำทีเห็นอกเห็นใจ เพราะตั้งแต่ร้านอาหารวันนั้นเขาก็ยังไม่ได้เจอแสนดีอีกเลย

เจ้าชายอิศเรศร์ทรงเลิกพระขนง “เปล่า ไม่ได้หงุดหงิดเรื่องซาร่าเลย…” แล้วภาพใบหน้าอวดดีของสาวน้อยคนเล็กบ้านหลวงสีหนาถก็ปรากฏขึ้น ‘พระองค์ไม่ได้มีค่าขนาดนั้น’ เสียงหนักแน่นของหล่อนแว่วขึ้นมาในห้วงคำนึง ทำเอาพระองค์รู้สึกเจ็บแปล๊บอย่างบอกไม่ถูก และเริ่มตระหนักได้ว่า หล่อนมีอิทธิพลต่อพระองค์เกินไปแล้ว

“ช่างเถอะ ไม่มีเรื่องอะไรที่สำคัญหรอก ว่าแต่นายล่ะชิ เป็นอะไร”

ชินาคมหน้าเจื่อน ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่ทรงพลที่แอบขำเบาๆ “ไม่ต้องมาขำเว้ย เอ็งเล่าเลยไอ้พล ไออุตส่าจะให้เอ็งมาช่วย แล้วดูผลงานของเอ็งสิ!”

ดนัยมองอย่างสงสัย นี่เขาพลาดเรื่องอะไรไปหรือเปล่า “มีไรวะพล”

“หึหึ ก็ไม่มีอะไร แค่ไอ้ชิโดนห้ามยุ่งกับคุณแสนดี เพราะพี่สาวตัวแสบ แค่นั้นล่ะ” ทรงพลเล่าเรียบๆ

“เฮ้ย!!!” ชินาคมเสียงดัง “ไม่เรียกว่า แค่นั้น นะเว้ย เอ็งก่อเรื่อง คุณเปี่ยมสุขเลยพลอยเกลียดไอไปด้วย”

เจ้าชายทรงเบิกพระเนตรด้วยความประหลาดใจ อะไรกัน ชินาคมชอบแสนดีอย่างนั้นเหรอ แล้วพวกเขาไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไร แล้วความรู้สึกแปลกๆก็ปรากฏขึ้น…ความรู้สึกที่พระองค์ก็ทรงอธิบายได้ยาก…เหมือน….เหมือนถูกหักอก…ไม่…ไม่หรอกน่า…หล่อนไม่ใช่เสป็กของพระองค์เลย

“เรื่องมันเป็นไงวะ” ดนัยถาม ทรงพลเลยต้องเป็นคนเล่าเรื่องทั้งหมด โดยมีชินาคมนั่งกอดอกมองเพื่อนรักแบบแค้นๆ

แล้วดนัยก็หัวเราะลั่น มีเจ้าชายทอดพระเนตรมองชินาคมด้วยความเรียบเฉย

“มันไม่ขำนะเว้ยไอ้ดอน ดูฝ่าบาทซิ ยังเห็นใจไอเลย จริงไหมฝ่าบาท” ชินาคมหันไปหาคนช่วย แต่เจ้าชายก็ไม่ได้ตรัสอะไร

“แต่ไอก็ไม่ผิดนะ ไอช่วยแกนะไอ้ชิ ถ้าไม่ได้ไอแล้วแกจะได้ไปเดินสองต่อสองกับคุณแสนดีเหรอ”

เจ้าชายเลิกพระขนงอีก แต่ก็ยังทรงเงียบต่อไป…ไปเดินกันสองคนอย่างนั้นเหรอ ทีกลับพระองค์ พูดกันได้ไม่กี่คำก็ทะเลาะเสียแล้ว

“เออๆ แต่ตอนจบมันดันจบไม่ดีเนี่ยสิ คุณเปี่ยมสุขนี่ร้ายชะมัด” ชินาคมบ่น

ทรงพลส่ายหน้าแล้วยิ้มจางๆ “ร้ายจริงๆล่ะแม่คนนี้ เหยียบเท้าไอกระดูกแทบแตก เอ็งอยากได้น้องเขา ก็ต้องทนมือทนไม้พี่สาวได้ด้วยนะไอ้ชิ”

ดอน หรือ ดนัย หัวเราะแบบขมขื่นก่อนจะแสดงความคิดเห็น “นั่นสิ ไอว่า บ้านนี้ร้ายทั้งบ้าน เรื่องที่ ดีว่า โกรธไอ ก็เพราะคุณด้วยรักพี่สาวคนโตนั่นล่ะ เห็นสวยๆเรียบร้อยอย่างนั้นก็เถอะ ไม่ยอมใครเหมือนกันนะ” แล้วดนัยก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนๆฟังโดยละเอียด

เจ้าชายทรงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดก็อดสรวลออกมาไม่ได้ ส่วนชินาคมหัวเราะลั่น

“เจ๋งว่ะ ผู้หญิงคนนี้ ชนะขาดคุณดีว่าเสียด้วย เออ สรุปพวกเรากลุ้มเพราะสี่พี่น้องคนสวย ไม่สิ คุณยาใจดูจะเอาเรื่องน้อยสุดล่ะนะ” ชินาคมพูดแล้วนึกถึงใบหน้าแสนหวานของลูกสาวคนที่สามของหลวงสีหนาถ

ทรงพลมองเจ้าชายอิศเรศร์เหมือนจะอ่านพระทัยให้ออก “ยังมีอีกหนึ่งที่ไม่บอกว่ากลุ้มเรื่องอะไร ใช่ไหมฝ่าบาท”

เจ้าชายทรงเริ่มแสดงท่าทีมีพิรุธ

“เออนั่นสิ วันนี้ทรงดูเงียบมากกว่าปกติ” ดนัยออกความเห็น

แล้วสามหนุ่มก็จ้องพระพักตร์อันหล่อเหลาของเจ้าชาย ทำเอาพระองค์ถึงกับต้องหลบสายพระเนตร แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องทันที

“ไปล่ะ เรามีประชุมกับรัฐสภาตอนบ่าย” ตรัสเสร็จก็ก็เสด็จออกไปเสียดื้อๆ ปล่อยให้พระสหายทั้งสามเต็มไปด้วยความสงสัย แต่อาจจะมีเพียงทรงพลที่พอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง



ยามบ่ายที่คอกม้าของหลวงสีหนาถมีแขกพิเศษมาเยี่ยมชมเจ้าราฟาเอล ม้าตัวโปรดของเจ้าชายอิศเรศร์ ทำให้วันนี้คอกม้าออกจะมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ

“อิศเรศร์ไม่ค่อยมีเวลา ช่วงนี้เจ้าราฟาเอลเลยดูเหงาไป แต่ยังดีที่คุณหลวงพามันไปออกกำลังกายบ้าง” พระราชินีตรัสพลางยื่นพระหัตถ์รูปอานของมัน “วันนี้หนูมาก็ดีแล้ว จะได้พาเจ้าราฟาเอลไปฝึกซ้อมเสียบ้าง เดี๋ยวจะเสียชื่อม้าพยศ” ตรัสเสร็จก็หันพระพักตร์ส่งแย้มสรวลอย่างพระทัยดีให้เปี่ยมสุข

ลูกสาวคนที่สองของคุณหลวงก้มหน้าตอบรับพระดำรัสอย่างดี ทั้งๆที่ในใจกำลังคิดตำหนิเจ้าชายและบิดาของตัวเอง

‘ไม่ว่างหรือขี้เกียจกันแน่ ทีมาบ้านเราทุกวันยังทำได้ ส่วนคุณพ่อนี่ก็อะไรไม่รู้ ลากเรามาเข้าวังทำไมกัน’

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิยายเปี่ยม จะได้พาราฟาเอลไปออกกำลังแทนพ่อ วันนี้พ่อมีงานเอกสารมากเหลือเกิน”
หลวงสีหนาถสั่งลูกสาวซึ่งหล่อนก็รับคำเป็นอย่างดี ก่อนจะถอนสายบัวต่อหน้าพระพักตร์แล้วปลีกตัวออกไป

พระราชินีทอดพระเนตรเปี่ยมสุขไปจนลับสายพระเนตรด้วยความชื่นชม “ลูกสาวคุณหลวงคนนี้คล่องแคล่ว ปราดเปรียวดีนะ”

หลวงสีหนาถสังเกตสีพระพักตร์ก็ทราบได้ทันทีว่าพระองค์โปรดเปี่ยมสุขไม่มากก็น้อย “พะย่ะค่ะ แต่ก็พยศพอๆกับราฟาเอลนั่นแหละ อากาศเริ่มร้อนแล้ว เชิญเสด็จประทับในวังดีกว่าไหมพะย่ะค่ะ”

พระราชินีสิริณญาสรวลอย่างงดงามก่อนจะเสด็จเข้าวัง




ทรงพลเดินแยกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อน เนื่องจากรถคันหรูของเขาจอดอยู่แถวคอกม้าของวังหลวง ส่วนชินาคมและดนัยจอดรถไว้ที่หน้าพระราชวัง ขณะเดินเขาก็กำลังพร่ำคิดถึงอากัปกิริยาของเจ้าชาย ที่ทรงเบิกพระเนตรเมื่อชินาคมพูดถึงเรื่องของแสนดี หนุ่มหล่อเจ้าของธุรกิจรถยนต์หรูเดินถึงหัวมุมพระราชวังหลัง พลางแกว่งกุญแจรถแล้วอมยิ้มออกมา เพื่อนสนิทอย่างเขา มีหรือจะอ่านท่าทีของเจ้าชายไม่ออก ถ้าไม่สนใจอะไร พระองค์ก็จะสีพระพักตร์เรียบเฉย และแม่แสนดีคนนี้อาจจะมีอิทธิพลต่อพระองค์ไม่มากก็น้อย เพราะถ้าไม่คิดอะไรกับหล่อนจริง พระองค์ควรจะมีพระปฏิสันฐานกับชินาคมในเรื่องนี้บ้าง…

“ว้าย!!!!!”

“เฮ้ย!!!!”
เสียงแสดงความตกใจร้องออกมาพร้อมกัน เมื่อหนึ่งหนุ่มเดินชนหนึ่งสาวที่หัวมุมตึก พลางอ้าแขนรับเมื่อหล่อนเซทับลงมา’
เปี่ยมสุขนอกจากจะเดินสะดุดกระถางไม้ตรงหัวมุมแล้ว ยังเซล้มทับร่างใหญ่ ก่อนจะล้มลงอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงนั้นทันที เมื่อทั้งสองทิ้งตัวลงพื้นเสียงดังสนั่น

“โอ๊ย!!!” เสียงของใครก็ไม่รู้ หรืออาจะเป็นทั้งสองคน

“คุณลุกก่อนได้ไหมครับ ผม…เอ่อ…เจ็บหลัง” ทรงพลพูดด้วยความสุภาพ ทั้งๆที่ตอนนี้เขาเจ็บทั้งหลังและข้อมือขวา ขณะรองรับร่างที่ดูแบบบาง แต่ก็ถือว่า ‘หนักใช้ได้’

เปี่ยมสุขซบหน้าบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บข้อเท้าบนแผงออกกว้างอย่างไม่รู้ตัว “แป๊ปนึงนะคะ คือฉันเจ็บข้อเท้า” แล้วเธอก็ตั้งสติ ก่อนจะค่อยๆยันมือข้างหนึ่งบนแผงอกที่บัดนี้ถูกปิดไว้ด้วยเชิร์ตสีฟ้าอ่อนเนื้อผ้าดี

ทรงพลพยายามช่วยหล่อนด้วยการพยุงเธอพ้นจากอกเขาเช่นกัน แต่แล้วข้อมือขวาก็เกิดทนไม่ไหว ส่วนเปี่ยมสุขก็เจ็บแปล๊บที่ข้อเท้าซ้ายขึ้นมาทันที

“โอ๊ย!” เสียงร้องด้วยความเจ็บประสานกันอีกครั้ง แล้วเปี่ยมสุขก็ล้มลงบนตัวชายหนุ่มซ้ำ แต่คราวนี้ ใบหน้าของทั้งสองได้จ้องมองกันอย่างเต็มตาว่าใครเป็นใคร และที่สำคัญ ใบหน้างามของหล่อนก็อยู่ใกล้ชายหนุ่มเพียงปลายจมูก

ดวงตากลมแจ๋วของเปี่ยมสุขเบิกกว้าง พร้อมๆกับตาคมเข้มของทรงพล ต่างกันตรงที่ขณะที่ชายหนุ่มตะลึงนั้นเขายังจับตัวหล่อนไว้แน่น แต่เปี่ยมสุขกลับเค้นเอาพลังทั้งหมดยันตัวขึ้นผละออกจากร่างของเขา

“โอ๊ย! เจ็บชะมัด” สาวสวยร้องขณะนั่งทิ้งตัวลงข้างๆร่างสูงใหญ่ หล่อนแทบไม่ได้สนใจเขาเลย ทั้งๆที่ตกใจอยู่เหมือนกันเมื่อได้สบตากันตรงๆ แต่ตอนนี้ข้อเท้าซ้ายของหล่อนเจ็บมาก’

ทรงพลพยุงตัวเองด้วยมือข้างที่เหลือให้นั่งลงข้างๆหล่อนอย่างไม่ยากเย็นนัก แต่เขากลับหอบเสียงดัง

“คุณเปี่ยมสุข คุณเป็นอะไรมากไหม” พูดพลางจับข้อมือขวาของตัวเองลองขยับดู “โอ๊ย!”

เปี่ยมสุขเงยหน้าขึ้นจากการบีบนวดข้อเท้าตัวเองทันทีแล้วหันไปสนใจหนุ่มร่างกำยำข้างๆ

“คุณทรงพล ข้อมือคุณเป็นอะไรหรือเปล่า” หล่อนถามพลางมองข้อมือขวาของเขาอย่าเงป็นห่วง ลืมเรื่องทะเลาะที่ร้านอาหารไปทันที

ทรงพลแสดงสีหน้ากังวล “มันเจ็บครับ ผมขยับไม่ได้”

เปี่ยมสุขแสดงสีหน้าตกใจมาก “จริงเหรอคะ ไหนดูซิ” ว่าแล้วหล่อนก็เอื้อมมือของตัวเองไปขยับข้อมือขวาของเขาทันที

ทรงพลร้องลั่นเมื่อหล่อนแตะข้อมือขวา “โอ๊ย! อย่าครับ! คุณจะจับทำไมล่ะนี่!”

เปี่ยมสุขไม่พอใจทันทีเมื่อเขาขึ้นเสียง “ก็ชั้นอยากรู้นี่นา!” หล่อนขึ้นเสียงกลับบ้าง

แต่ดีที่ทรงพลยังมีสติมากหน่อย เขาจึงหันไปให้ความสนใจข้อเท้าของหล่อนบ้าง “เอาเถอะ ว่าแต่ข้อเท้าคุณขยับได้หรือเปล่า ไหนขอผมดูซิ” ว่าแล้วเขาก็ขยับตัวแล้วใช้มือซ้ายขยับข้อเท้าบอบบางของหล่อน

เปี่ยมสุขเจ็บทันที “โอ๊ย! นายนี่! จะเอาคืนเหรอ นี่แน่!” แล้วหล่อนก็เอากำปั้นเล็กๆทุบหลังเขาซึ่งตรงกับตำแหน่งฟกช้ำที่ล้มลง

“โอ๊ยคุณ! ผมเจ็บหลังอยู่นะ โถ่เอ๊ย!” ชายหนุ่มปล่อยมือจากขาสาวน้อยแล้วบิดตัวด้วยความเจ็บปวด

เปี่ยมสุขมองเขาร้องด้วยความเจ็บ จริงๆเขาก็ดูหุ่นเป็นนักกีฬาอยู่นะ ทำไมเจ็บง่ายจัง หรือเป็นเพราะน้ำหนักตัวของเขาและเธอรวมกันล้มลงก็เลย….

“ขะ…ขอโทษนะคะคุณทรงพล มาค่ะ ฉันจะพาคุณไปหาหมอ” แล้วหล่อนก็พยุงตัวเองขึ้น แต่กลับร้องเบาๆและล้มลงเพราะเจ็บข้อเท้า

ทรงพลมองหล่อนครู่หนึ่งอย่างเป็นห่วง “ไม่ต้องหรอกผมน่ะลุกได้” แล้วเขาก็ลุกขึ้นอย่างคล่องแคล่ว แม้จะเข็ด หลังและปวดข้อมือ แต่เขาก็กลับพยุงไหล่ขวาของหล่อนขึ้นด้วยมือข้างที่เหลือ

“ยกขาข้างซ้ายขึ้นแล้วกัน คุณพอจะกะเผลกไปจนถึงรถผมได้ไหม” เขาประคองเธอได้อย่างทุลักทะเลเหลือเกิน นี่ถ้ามืออีกข้างดี เขาคงต้องอุ้มเธอแล้วล่ะ

เปี่ยมสุขค่อยลุกขึ้น พลางมองหน้าเขา “ไปรถคุณ ไปทำไม”

ทรงพลถอนหาใจ “ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล”

“ไม่ต้องค่ะ ฉันประคบน้ำแข็งเองก็หายแล้ว” หล่อนเถียง ทำไมต้องให้เขาช่วยขนาดนี้ด้วยล่ะ หล่อนไม่ชอบทำตัวเป็นนางเอกขี้แย

แต่ทรงพลไม่สนใจ เขาเริ่มหนักมากขึ้น เพราะเธอไม่ยอมขยับตัวเลย เขาเลิกคิ้วแบบไม่แยแส “คุณจะไม่ขยับใช่ไหม ก็ดี”

แล้วเขาก็ทำสิ่งที่เธอถึงกับตะลึง ทั้งๆที่เขาเจ็บข้อมือขวาเนี่ยนะ!!! ทรงพลช้อนตัวหล่อนขึ้นด้วยแขนซ้ายที่แข็งแรง ก่อนจะอุ้มเธออีกครั้งด้วยแขนขวาที่เจ็บ แต่พยายามใช้ท่อนแขนรับน้ำหนักแทนข้อมือ

“ไม่ต้องทำอย่างนี้หรอก ปล่อยฉันลง ขาแพลงแค่นี้ฉันรักษาเองได้” หล่อนร้อง

ทรงพลตีหน้านิ่ง “ผมจะบอกให้คุณรักษาเองไม่ได้หรอก เพราะผมแตะนิดเดียวคุณก็ร้องจะเป็นจะตาย ลุกขึ้นยังไม่ได้เลย แล้วมันก็เริ่มบวมแล้วด้วย”

รถของเขาอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ขณะที่ข้อมือขวาเริ่มปวด

“แต่ฉันบอกว่าฉันรักษาเองได้ ปล่อยฉันเถอะ”

ชายหนุ่มเริ่มหมดความอดทน เมื่อข้อมือและไหล่ปวดมากขึ้น เขาพยายามใช้มือซ้ายแตะรีโมทเปิดประตูอัตโนมัติที่เสียบไว้ที่สายเข็มขัด

ประตูเปิดออกเองราวกับอ่านใจเจ้าของออก แล้วเขาก็ปล่อยเธอลงบนเบาะหน้าข้างคนขับอย่างทุลักทุเล ก่อนจะพูดกับหล่อนแบบจมูกชนจมูกว่า

“คุณควรรีบให้หมอดู เพราะคุณต้องไปโอลิมปิกเดือนหน้าแล้ว…ผมเป็นห่วง” พูดเสร็จก็ผละออกจากหล่อน แล้วเดินอ้อมไปขึ้นรถทางด้านคนขับ ในขณะที่ข้อมือขวาของเขาเริ่มระบมมากขึ้น แต่เขาก็ขี้เกียจจะร้องโอดครวญ










ลายเส้น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 พ.ค. 2554, 12:56:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 พ.ค. 2554, 12:56:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 1500





<< แขกคนเดิม   นุ่ม >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account