ชะตารัก พิศวาสหัวใจเถื่อน (ร้าย เถื่อน ดุ) NC+
พิมพ์นารากอดเข่าตัวสั่น เธอร้องไห้จนเเทบหมดเเรง 'ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอยังจะช่วย'ผู้ชาย'คนนี้อยู่รึเปล่า' ถ้ารู้ว่าเขาจะย่ำยีหัวใจและร่างกายเธอเเบบนี้ ก็จะไม่ขอพบเจอเขาเลยดีกว่า

อัลลัยล์ ทำไมเธอจะต้องทำท่ารังเกียจเขาขนาดนั้นด้วย ทุกสิ่งที่เกิดจากเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เสียงพูด ล้วนเเต่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอ คอยดูเถอะ ถ้าหากเขาทำให้เธอยอมสยบนอนครวญครางใต้ร่างได้ เธอยังจะทำท่ารังเกียจเขาอีกไหม!
Tags: ทะเลทราย ร้าย เถื่อน NC

ตอน: บทที่สิบห้า ข่าว 100%

ต่อจากตอนที่แล้ว


สำหรับวิคตอเรียแล้วความสุขมักจะอยู่ได้ไม่นาน เพียงเมื่อเท้าทั้งสองของเธอเหยียบห้อง บอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองก็สถาปนาตัวเองมาเป็นผู้ปกครองของเธอทันที

“นี่จะแข่งพูดมาราธอนกันเหรอค่ะ”

หญิงสาวหันหน้าออกจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ทางโรงแรมจัดให้ เธอใช้นิ้วเล็กๆแคะหูล้อเลียน แต่เมื่อเห็นท่าทีจริงจังของอีกฝ่ายก็ทำให้เธอต้องหยุดยอมฟังอย่างจริงจังแต่โดยดี

“คุณหนู! ถ้าคุณหนูเกิดไม่ชอบเขาแล้วจะถอนหมั้นยังไงครับ!”

“วิคกี้ก็ไปหานักข่าว บอกว่า วิคกี้ถอนหมั้นแล้วนะคะ!”เธอหัวเราะเอิ๊กอ้าก

“คิดให้ยุ่งยากทำไม ดาราฮอลลีวู้ดดังๆหลายคนแต่งงานเป็นห้าหกรอบ ไม่เห็นมีใครว่า อันนี้วิคกี้แค่หมั้น หรืออีกนัยน์ก็คบหาดูใจ ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้”

“มันไม่ใช่เรื่องตลกนะครับคุณหนู”แอชลีย์เอ่ยเสียงเข้ม

“หูยย! ดูสิแอชลีย์ โจชัว ข่าวของวิคกี้เริ่มมาแล้ว!”หญิงสาวชี้ชวนให้เหล่าบอดี้การ์ดหนุ่มดูที่จอคอมพิวเตอร์

ทั้งข่าว ทั้งคลิป ครบ! ไม่น่าเชื่อว่าแค่เวลาไม่ถึงห้านาทีที่เดินขึ้นมาบนที่พัก นักข่าวพวกนั้นจะทำงานกันไวมากๆ รวมถึงคลิปที่อัดเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบถูกอัพโหลดขึ้นเป็นสิบ! เธอเลื่อนดูอย่างไม่เบื่อหน่ายแต่สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจเมื่อยอดความคิดเห็นยังคงน้อยนิด ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ค่อยเข้ามาดูใหม่

โจชัวมองหญิงสาวที่ไม่ไกลออกไปอย่างระอาใจ เธอผู้นี้ช่างไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องราวภายนอกอะไรเลยหรืออย่างไร

“คุณหนูครับ…”แอชลีย์ถอนหายใจเบาๆ

“มีอะไรล่ะ”ผู้ถูกเรียกเพียงแต่ขานรับ แต่ไม่ได้หันกลับมามองแต่อย่างใด

“คุณหนูยังมีชื่อเสียงที่ต้องรักษานะครับ”

หญิงสาวยังคงคลิกนู่นนี่ดูต่อไปเหมือนกับคำพูดเมื่อครู่ลอยทะลุหูซ้ายผ่านหูขวาไปแล้วอย่างนั้น สองบอดี้การ์ดหนุ่มมองหน้ากันพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ เพราะเขาทั้งสองก็ได้รับมอบหมายมาให้ดูแลคุณหนูให้ดีที่สุด แต่พอเกิดเรื่องเข้าจริงๆก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอีกฝ่ายช่างทำอะไรแปลกแยก ไม่คิดหน้าคิดหลังเอาซะเลย

แต่แล้วคำตอบจากคนที่ทำท่าไม่สนใจก็ทำให้เขาทั้งสองต้องหยุดฟัง…

“โจชัวอยู่กับวิคกี้มาตั้งแต่เด็กๆ ทำไม อยากทดแทนบุญคุณด่าด้าเหรอ”

“แอชลีย์ก็ทำงานกับเดวิดไปสิ จะเสนอหน้ามาอยู่กับวิคกี้ทำไม หรือเพราะเป็นคำสั่ง”

หญิงสาวถอนหายใจหนักก่อนจะหันหน้ากลับมาขอคำตอบจากผู้ติดตามทั้งสอง

“ทำไมถึงมาทำงานให้กับผู้หญิงงี่เง่า บัดซบ สร้างปัญหาอย่างวิคกี้ละ ทั้งแอชลีย์และโจชัวก็ฝีมือดี จะมาทนปวดหัวกับเรื่องบ้าๆของวิคกี้ทำไม มันคุ้มเงินเดือนเหรอ?”หญิงสาวหัวเราะร่า

“ผมรู้ว่าคุณหนูเป็นคนยังไง”โจชัวตอบเสียงเข้ม

“ผมชินแล้วครับ”ชายหนุ่มผิวสีหัวเราะในลำคอ

“จะยังไงก็ช่าง วิคกี้ไม่สนหรอก…”ร่างบางเอนพิงเบาะ

“วิคกี้นะ ทำอะไรวิคกี้รู้ตัวเองดี ใครจะมองยังไงก็ช่างหัวมัน วิคกี้ไม่สน มันไม่ใช่สิ่งที่มีอิทธิพลต่อชีวิตวิคกี้ อย่างน้อยๆแค่หนึ่งคนที่รู้ว่าวิคกี้เป็นยังไง ยังรับได้ ยังเชื่อในสิ่งที่วิคกี้เป็น แค่นี้ก็เกินพอแล้ว”เธอยิ้มบางๆ

บอดี้การ์ดคู่ชะงักไปกับคำพูดของหญิงสาว

“ผมแค่เป็นห่วงชื่อเสียงของคุณหนู”บอดี้การ์ดผิวสีอธิบาย

“ช่างมันสิ! วิคกี้ไม่มีชื่อเสียงดีๆจะเสียแล้ว”หญิงสาวหัวเราะเสียงดัง ก็มันจริงนี่น่า…ชื่อเสียงดีๆของเธอมีซะที่ไหนกันเล่า

“เอาน่า วิคกี้วางแผนไว้แล้ว”เธอพยักหน้ามั่นใจ

“แผนอะไรครับ”

หญิงสาวขมวดคิ้วมองบอดี้การ์ดหนุ่มเพื่อนสมัยเด็กอย่างขัดใจก่อนจะส่งเสียงชิออกมาเบาๆ

“แผนสนุกๆที่ตอนนี้ยังไม่ได้คิด แต่จะคิดคืนนี้แหละ”เธอเบ้ปาก

“แล้วถ้าเกิดอีกฝ่ายเอาจริงขึ้นมาละครับ คุณหนูจะเลี่ยงยังไง”โจชัวเอ่ยถาม

วิคตอเรียหันกลับไปมองจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะ ข่าวที่ประโคมเข้ามาทำให้เธอไม่มีโอกาสถอยหลังเสียแล้ว เมื่อเลื่อนๆลงดูก็มีแต่ข่าวจำพวกเกินจริงทั้งนั้น กอดจูบดื่มด่ำกลางโรงแรมหรูอะไรกัน เธอว่าเธอยังไม่ได้ทำอะไรที่มันเข้าข่ายแบบนั้นเลยนะ นี่นักข่าวจำผิดคนรึเปล่า

“เอาตามความจริงแล้ววิคกี้ชอบฮาฟิซมากกว่าเจ้านายของเขาอีกนะ”เธอลูบผมเล่น

“ทำไมครับ”ทั้งสองเสียงเอ่ยพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“วิคกี้ไม่ชอบคนโง่ และอัลลัยล์ก็โง่ที่ไม่รู้จักเก็บอารมณ์ตัวเอง มันเป็นจุดอ่อนชัดๆ”เธอเอ่ย

“แต่สังเกตมั้ย ฮาฟิซนิ่งหรือไม่ก็ยิ้มได้ตลอดเลย…”ริมฝีปากสีสดคลี่ยิ้มน้อยๆ

สังคมที่เธอเติบโตมาคือต้องมีความกล้า กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ จึงจะได้สิ่งที่ต้องการ ดังนั้นถ้าจะพูดถึงเรื่องความเขินอายนั้น นานๆมันจะเกิดกับเธอซักทีหนึ่ง

“งั้นแสดงว่าคุณหนูก็ต้องรู้จักเก็บอารมณ์บ้างแล้วนะครับ”ชายหนุ่มผิวสีหัวเราะลั่นเมื่อเห็นผู้เป็นเจ้านายทำตาขวาง

“เฮ้แอชลีย์! วิคกี้ก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองฉลาดนี่ค่ะ”เธอเบ้ปาก

“ผมก็ไม่ได้ว่าคุณหนูโง่นะครับ”

“หัก 300 เหรียญ”

“ยอมแล้วครับ”

“เอาเถอะ กลับมาเรื่องเดิม”เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับชายหนุ่มผิวสีที่นั่งคอตก

“เชื่อเถอะวิคกี้ไม่มีทางหมั้นกับพ่อหนุ่มปากเสียนั่นได้นานนักหรอก แค่อยากจะแกล้งให้ประสาทเสียเล่นก็เท่านั้น”หญิงสาวทำหน้าจริงจัง

“ทำไมโจซัว แอชลีย์ไม่มองว่ามันเป็นเรื่องสนุก แก้เบื่อ ฆ่าเวลาละ”

สมน้ำหน้า อยากท้าดีนัก ให้มันรู้ไปว่าใครจะอกแตกตายก่อน

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ดูท่าเขาก็ไม่ได้พิศวาสอะไรวิคกี้นักหรอก”เธอจบบทสนทนาด้วยการหันหลังให้ชายหนุ่มทั้งสอง

“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนครับ”โจชัวยิ้มบางๆ

“งั้นใครก็ได้ไปหาโทรศัพท์ให้วิคกี้ใหม่ที แอชลีย์เก็บไมโครซิมมาใช่มั้ย เตรียมทุกอย่างให้วิคกี้ด้วยนะ เพราะวิคกี้ต้องเตรียมตอบคำถามด่าด้าอย่างแน่นอน”เธอปิดปากหาวก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ

“พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”หญิงสาวทำหน้ามีเลศนัย

“แอชลีย์กับโจชัวไปพักเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว วิคกี้ก็จะได้นอนซักที”ร่างบางวิ่งออกจากเก้าอี้นุ่มดันร่างหนาของชายหนุ่มทั้งสองออกไปทางประตูไม้บานใหญ่

“ไม่รีบออกไปเดี๋ยวเป็นข่าวนะ!”เธอขู่พร้อมกับเสียงหัวเราะ

“ครับผม ครับผม”บอดี้การ์ดทั้งสองต้องยอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้พร้อมกับคำนับให้หญิงสาวที่ยืนยิ้มแป้นโบกมืออย่างอารมณ์ดี

“ไว้เจอกันพรุ่งนี้”เธอตัดบทพร้อมกับรีบปิดประตู

ร่างบางวิ่งตรงมายังที่นอนขนาดคิงไซส์ของตน เธอยิ้มกับตนเองเมื่อเห็นนาฬิกาปุกเรือนเล็กตั้งอยู่บนโต๊ะเล็กข้างเตียง

กรี๊งงง กริ๊งงง!!

การทดสอบเสียงถือว่าผ่านไปด้วยดี หญิงสาวปรับเข็มตั้งปลุกหมุนไปมาอย่างชั่งใจจนสุดท้ายก็เลือกให้หยุดที่ตัวเลขสวยประจำวัน

วันนี้เธอชอบเลขตัวนี้ มันต้องนำความโชคดีมาให้แน่ๆ

“ไว้ไปกินอาหารเช้ากับฉันหน่อยก็แล้วกันนะคู่หมั้น”เธอหัวเราะชอบใจก่อนจะคลานขึ้นเตียงไซส์ใหญ่ของตน

ตีสาม…





หญิงสาวขยับตัวไปมาอย่างรำคาญใจเมื่อรู้สึกว่าหมอนใบนุ่มของเธอมันเหมือนไม่ใช่ใบเดิมกับเมื่อวาน เธอกวาดมือไปด้านหน้าคว้านหาสิ่งที่ต้องการแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า ดวงตาสีน้ำตาลเข้มปรือขึ้นหวังจะมองหาหมอนใบนุ่มแต่ก็พบเพียงความมืดของยามราตรี เธอผ่อนลมหายใจก่อนจะเอื้อมมือไปดึง ‘ของแข็ง’ ใต้ศีรษะออก

หนุนผ้าห่มก็ได้…หญิงสาวคิด

“อ้ะ!”เธอขมวดคิ้วเมื่อรับรู้ได้ว่า ‘หมอน’ ใบนี้มันมีอุณหภูมิด้วย!

มือบางลูบไล้ตามแนวยาวที่โผล่เลยมาด้านหน้าของเธอ จนในที่สุดก็จบที่ตรงมือหนาหยาบกร้าน ความมืดมันชวนจินตนาการไปไกลโข เธอชักมือกลับราวกับต้องของร้อน แต่ไม่ทันที่ร่างบางจะลุกขึ้นไปเปิดโคมไฟข้างเตียงเพื่อตอบคำถามตัวเองว่า นี่เป็นผีสางในความมืดหรือเรื่องจริง แขนแข็งแรงอีกข้างก็ดึงเธอเข้าไปประทะกับแผงอกกำยำดังพลั่ก

เสียงลมหายใจอุ่นที่รดต้นคอทำให้เธอขนลุกซู่ไปทั้งตัว จากที่เคยง่วงก็ตาสว่างราวกับอยู่ในเวลาเที่ยงวัน เธอกลืนน้ำลายลงคอหลายอึกก่อนจะเอ่ยถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ

“คะ…ใครน่ะ”

ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามของเธอ มือหนาเพียงแต่ดึงร่างบางเข้ามาแนบชิดกว่าเดิม เขาเอียงหน้าซุกไซร้ซอกคอและเรือนผมหอมกรุ่นอย่างใจเย็น

ร่างบางออกแรงดิ้นขัดขืนเมื่อรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายจะ ‘ทำอะไร’ ต่อไป เธอเพียงแค่หลุดเสียงหวีดออกมาเบาๆก่อนจะต้องกลืนทุกอย่างลงในลำคอเมื่อริมฝีปากหนาประกบลงมาโดยไม่ขออนุญาต

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดแต่เขาก็ยังไม่ปล่อยให้เธอได้กลับมาหายใจอย่างอิสระ มือบางทั้งคู่ที่ระดมทุบถูกเจ้าตัวตรึงไว้แผงอกหนาที่ไม่ให้ขยับไปไหน เธอสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่มันร้อนขึ้นเรื่อยๆจากร่างกายของเขา มันเป็นแรงปรารถนาอันน่าสะพรึง เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดที่จะไม่รู้ว่าถ้าหากปล่อยไว้แบบนี้ขั้นตอนต่อไปมันคืออะไร…

น่าแปลกที่ชายผู้นี้ไม่ได้ทำในสิ่งที่เธอหวาดหวั่น ล่วงเกินไปมากกว่านั้น เขาเพียงแค่จูบสะกดเธอไว้เนิ่นนานจนแทบลืมเวลา มันไม่ใช่จูบคุกคาม ร้อนแรงจนทำให้อ่อนระทวยภายในอ้อมกอดดั่งเช่นทุกครั้งที่เธอได้รับ มันเป็นเพียงรสสัมผัสที่อ่อนหวานแต่ทว่าวาบหวิว แต่ความเคลิบเคลิ้มงงงวยของมันไม่ได้น้อยไปกว่าอย่างแรกเลย

เธอยกมือเรียวแตะที่หน้าชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา ค่อยๆวางทีละนิ้วลูบไล้ใบหน้าของเขา หยาดน้ำตาร้อนผ่าวจากความหวาดกลัวหายไป มีเพียงดวงตาสีน้ำตาลเข้มเบิกโพล่งเข้ามาแทนเมื่อได้ยินเสียงกระซิบบางอย่างที่ข้างหู

“พิมพ์นารา…”


--------------------------------------------


สวัสดีค่ะรีดเดอร์ที่น่ารักทุกท่านนน (TTwTT)\\

วันนี้กี้หอบสังขารมาอัพตอนใหม่ให้อ่านไปพลางๆก่อนค่ะ (>\\\<)\\

หายไปหลายวันน ต้องขอโทษด้วยนะคะ!!

อ่านหนังสือเตรียมสอบ มันทำให้กี้หัวหมุนเเละเบลอได้ดีจริงๆค่ะ 5555\\

รีดเดอร์ท่านใดที่มีสอบก็ต้องอ่านหนังสือกันบ้างนะคะ ผ่านๆตาก็ยังดี

อีกอย่างคือต้องรักษาสุขภาพด้วยค่ะช่วงนี้

ถ้าเกิดไม่สบายละก็เเย่เลย....



มองนาฬิกากี้ก็พึ่งเห็นว่ามันดึกมากๆเเล้ว 55555\\

รีดเดอร์ท่านใดที่ยังไม่นอนก็นอนได้เเล้วนะคะ

ไม่งั้นตาเป็นหมีเเพนด้าเเน่ๆ เอิ๊กๆ



คืนนี้ฝันดีนะคะ

ห่มผ้าด้วยน้าาา

จุบบบ (=3=)\\



ปล.ขอโทษนะคะที่หายไปนานเเละมาไม่ค่อยเป็นเวลา!

พอผ่านช่วงสอบๆนี่ไปเเล้วกี้สัญญาจะกลับมาดังเดิมค่ะ (*o*)\\\

ปล.อีกครั้ง !! ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ เเล้วก็ทุกๆโหวตจากทุกๆคนด้วย

กี้ดีใจมากๆค่ะที่รีดเดอร์ยังไม่ทิ้งกี้ไปไหน (>\\\\\\\<)\\







เสี้ยวเดือนเเรม
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ย. 2555, 02:22:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ย. 2555, 02:22:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 9556





<< บทที่สิบห้า ข่าว 50%   บทที่สิบหก วาบหวาน 50% >>
wii 23 ก.ย. 2555, 03:17:52 น.
เฮ้ยยยใครวะมาลักหลับเมียเจ้าพ่อเดี๋ยวใด้เป็นศพไม่สวยเเน่ๆ


ใบบัวน่ารัก 23 ก.ย. 2555, 12:25:38 น.


mhengjhy 23 ก.ย. 2555, 14:11:43 น.
สนุกเลยอัลย์


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account