ชะตารัก พิศวาสหัวใจเถื่อน (ร้าย เถื่อน ดุ) NC+
พิมพ์นารากอดเข่าตัวสั่น เธอร้องไห้จนเเทบหมดเเรง 'ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอยังจะช่วย'ผู้ชาย'คนนี้อยู่รึเปล่า' ถ้ารู้ว่าเขาจะย่ำยีหัวใจและร่างกายเธอเเบบนี้ ก็จะไม่ขอพบเจอเขาเลยดีกว่า

อัลลัยล์ ทำไมเธอจะต้องทำท่ารังเกียจเขาขนาดนั้นด้วย ทุกสิ่งที่เกิดจากเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เสียงพูด ล้วนเเต่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอ คอยดูเถอะ ถ้าหากเขาทำให้เธอยอมสยบนอนครวญครางใต้ร่างได้ เธอยังจะทำท่ารังเกียจเขาอีกไหม!
Tags: ทะเลทราย ร้าย เถื่อน NC

ตอน: บทที่สิบหก วาบหวาน 50%

บทที่สิบหก



“ต้องขอโทษที่รบกวนนะคะ”เสียงหวานจีบปากจีบคอ

วิคตอเรียกวาดตามองความบางเบาของผู้คนที่เทียบไม่ได้กับเมื่อตอนกลางวันเอาซะเลย ทั่วทั้งล็อบบี้มีอยู่ไม่ถึงสิบคน ที่พอจะเดินไปมาได้ก็มีแต่พวกพนักงานโรงแรมที่ยังคงต้องทำงานจัดการความเรียบร้อยไม่รู้จักจบจักสิ้น แต่ถึงแม้พวกเขาจะทำทีเป็นว่ายุ่งเหลือหลาย แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ แต่ละคนแฝงความอิดโรย เอื่อยเฉื่อย ดวงตาปรือ ใบหน้าซีดเซียว ดูก็รู้ว่าความปรารถนาในใจของผู้คนเหล่านั้นคืออยากจะกระโจนเข้าหาเตียงนุ่มๆมากกว่า

แต่นี่มันก็ตีสามแล้วนี่น่า จะง่วงก็ไม่เห็นแปลก

“มีอะไรให้ดิฉันช่วยเหรอค่ะ”รีเซปชั่นสาวยิ้มแย้มถามลูกค้าสาวสวยตรงหน้า

ทำไมเธอจะไม่รู้จัก นางแบบสาวสวยระดับโลกที่เข้ามาพักในโรงแรม วีรกรรมเมื่อตอนกลางวันเธอฟังจากคำบอกเล่าของพนักงานในช่วงเวลานั้นก็พอเดาได้ว่าคนตรงหน้าเป็นจอมเหวี่ยงสมกับคำร่ำลือตามหน้าหนังสือพิมพ์ และที่เด็ดไปกว่านั้นคือ หญิงสาวตรงหน้าเป็นคู่หมั้นของชายหนุ่มหล่อหน้าขรึมที่สาวๆพากันขยิบตาให้เมื่อหลายวันที่ผ่านมานี้

น่าเสียดายที่มาถูกสาวสวยที่อยู่ไกลครึ่งโลกมาคาบไปกิน

“ฉันมาขอรับคีย์การ์ดของแขกในโรงแรมที่ชื่อ ‘อัลลัยล์ ซามาล ฟาฮัด’ น่ะ”

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ทางโรงแรมมีกฎที่ว่าให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้ที่มาพัก ต้องให้เจ้าห้องของมาติดต่อเองค่ะ”พนักงานตอบฉะฉาน

“เห้อ!”นางแบบสาวแสดงสีหน้ากลุ้มใจ

วิคตอเรียก่นด่าพนังงานสาวตรงหน้าในใจหลายสิบคำแต่ใบหน้าสวยก็ยังคงประดับด้วยรอยยิ้ม เธอไม่เข้าใจความเรื่องมากอะไรนี่เลยซักนิด ถ้าเป็นปกติแล้วเธอคงอาละวาดให้พังเป็นแถบๆ แต่นี่ด่าด้าก็มีหุ้นส่วนในโรงแรมนี้ แถมข่าวเมื่อกลางวันมันก็มากพอแล้ว ดังนั้นเวลานี้เธอควรจะแสดงออกถึงความ ‘หวานชื่น’ ของคู่รักให้ชาวโลกได้เห็นจะดีกว่า

“วิคกี้ก็เข้าใจนะคะว่าคุณต้องรักษากฏเกณฑ์”เธอเปลี่ยนสรรพนามพร้อมกับเอามือแตะศีรษะเบาๆคล้ายกลุ้มใจ

“แต่จะทำยังไงได้ละคะ อัลลัยล์…อุ้ย! คู่หมั้นของวิคกี้น่ะคะ เขาลืมคีย์การ์ดไว้ในห้องวิคกี้ คือแบบว่า…เราอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง อยู่ที่ห้องวิคกี้มาตั้งแต่เย็นแล้ว มันจำเจจะตาย”เธอแสร้งก้มหน้าขวยเขิน

ดูท่าว่ากลับไปอังกฤษคราวนี้เธอน่าจะหยิบบทภาพยนตร์ที่วางกระจายในห้องขึ้นมาอ่านซะบ้างแล้ว อาชีพนักแสดงน่าจะไปได้สวยสำหรับเธอ ทั้งหน้าตา ท่าทาง รวมถึงอุปกรณ์ร่วมฉาก เธอจัดมาครบ!

รีเซปชั่นสาวมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาได้ว่าพวกเขา ‘จำเจ’ เรื่องอะไรกัน เสื้อเชิ้ตสีขาวที่อยู่บนร่างของนางแบบสาวมันบางเสียจนมองได้ทะลุปรุโปร่งว่าเธอใส่ชุดชั้นในแบบผูกคอสีอะไร กางเกงยีนส์ขาสั้นที่โชว์เรียวขานั้นรัดพอๆกับบิกินี่ชายหาด อีกทั้งช่วงขาเรียวสวยนั่นก็ปรากฏรอยนิ้วสีแดงจางๆไว้ทั้งสองข้าง

ประเจิดประเจ้อมาก…

“เอ่อ…ไม่ทราบว่าจะคีย์การ์ดห้องอะไรคะ”

วิคตอเรียอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆแต่ก็ต้องทนกลืนเอาไว้ เธอยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเท้าสาวมองอีกฝ่ายไม่วางตา

“เวลาอยู่ด้วยกัน เราแทบไม่ได้พูดอะไรกันหรอกค่ะ อย่างมากก็แค่ได้ยินเสียงกระซิบเบาๆที่ข้างหู”

เธอยิ้มพอใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายรีบร้อนหาคีย์การ์ดสำรองให้ เธอรับมันมาไว้ที่มือก่อนจะเดินสะบัดออกมาโดยไม่ต้องกล่าวอะไรให้มันยืดเยื้อไปมากกว่านี้

ไม่เสียแรงที่นั่งตบตีขาตัวเองตั้งนาน ริมฝีปากบางยิ้มชอบใจพร้อมกับมองตัวเลขห้องที่ติดอยู่บนคีย์การ์ดสีทองแผ่นนี้

ดูท่าต้องไปปลุก ‘ถึงเตียง’ แล้วล่ะ!





“พิมพ์นารา…”

เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินคำที่ออกจากปากของชายหนุ่มในความมืด เธอพลักร่างหนาออกสุดแรงพร้อมกับไถลตัวไปเปิดโคมไฟข้างเตียง

“อัลลัยล์!”เสียงหวานหวีดร้องเมื่อเห็นชายหนุ่มที่นั่งกุมท้องหัวเราะอยู่

“โอ๋! ทำไมต้องหน้าซีดขนาดนั้นด้วย”เขาดึงร่างบางมาโอบกอด

นับตั้งแต่วินาทีที่ผู้หญิงผมทองคนนั้นประกาศกร้าวว่าเป็นคู่หมั้น เขาก็ตัดสินใจได้ว่าถึงเวลาที่จะต้องกลับมาหาหญิงสาวในอ้อมกอดนี่ซักที เดินทางมาก็ไกลแต่เมื่อมาถึงกลับเจอร่างบางนี่หลับไม่รู้เรื่องซะงั้น มันช่างน่าตีเสียจริง!

“เดินทางมาเหนื่อยๆ ไม่มียาดีให้ชื่นใจหน่อยเหรอ”เสียงทุ้มเอ่ยยั่วเย้า

พิมพ์นาราตัวแข็งทื่อไปซักพักเพื่อดึงสติของตนให้กลับมาได้ทั้งหมด

“คุณ…”คำถามมากมายที่เธอนั่งคิดยามเมื่อเขาไม่อยู่ พอเอาเข้าจริงๆเมื่อเจ้าตัวมาอยู่ตรงหน้าคำถามเหล่านั้นมันก็ถูกลืมเลือนไปจนหมดสิ้น เธอกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอก่อนจะกอดร่างหนานี่เบาๆเช่นกัน

“โกรธข้าเหรอเด็กน้อย”เขาก้มลงสูดกลิ่นหอมจากเรือนผมของหญิงสาว

“นิดหน่อยค่ะ”เธอตอบรับพร้อมกับซุกหน้าเข้าไปที่อกหนา

“มีของมาขอโทษด้วย รับรองเจ้าต้องหายโกรธแน่ๆ”

ไม่ทันที่จะได้ตอบรับ ร่างบางก็ลอยวืดโดยที่เธอก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ขึ้นมือทั้งสองก็ตวัดโอบลำคอของเขาไว้แน่นตามสัญชาตญาณ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินอีกฝ่ายหัวเราะชอบใจไม่หยุด

เขาวางร่างเธอลงข้างๆโต๊ะอาหารขนาดเล็ก เธอขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีกเมื่อเห็นของที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ

มีนมเปรี้ยวอยู่สองกล่อง ในตะกร้าสานมีแอปเปิ้ลแดงลูกโตหนึ่งลูกวางเด่นท่ามกลางหมู่แอปเปิ้ลเขียวนับสิบ

“คุณต้องการจะสื่ออะไร”เธอเอ่ยถาม

คำตอบที่ได้คือเสียงหัวเราะพร้อมกับมือหนาที่ดึงร่างเธอไปนั่งบนตักของเขาแทน

“คิดถึงเหลือเกิน”เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบที่ข้างหู

หญิงสาวหลุดขำออกมาเล็กน้อยก่อนจะยกมือแตะหน้าผากชายหนุ่มเบาๆ

“คุณไม่สบายรึเปล่า!”เสียงหวานหัวเราะร่า

“ทำไมถามแบบนี้ล่ะ”

“คุณเป็นฝาแฝดของอัลลัยล์ใช่มั้ย”

“แค่อยากจะทำดีกับเจ้าให้มากๆเท่านั้นเอง”เขากุมมือเย็นเฉียบของเธอแนบแก้ม

เธอสบดวงตาสีดำที่สื่อความหมายบางอย่างอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะเป็นเขาเองที่เบือนหน้าหนีไปพร้อมกับใช้แขนแข็งแรงรัดร่างเธอแน่นกว่าเดิม

เธอเอนตัวพิงร่างหนา ลมหายใจร้อนสม่ำเสมอที่อยู่บนหัวเป็นสิ่งย้ำเตือนว่าเธอไม่ได้ฝันไป เมื่อเธอเอื้อมมือที่เหลืออีกข้างไปกุมมือที่โอบรัดร่าง สิ่งแรกที่เธอรู้สึกได้ไม่ใช่ไอร้อนจากร่างกายเขา แต่เป็นเสียงหัวใจของตนเองที่กระหน่ำเต้นแทบทะลุออก

นี่เหรอผู้หญิง…เธอครุ่นคิดกับตนเอง

“แค่คุณไม่จับฉันโยนจากชั้นยี่สิบลงไปข้างล่างก็พอแล้ว”เธอหลับตาพริ้ม

“ตามใจข้าให้มากๆสิ”

ความเงียบงันเข้าควบคุมพื้นที่อีกครั้งก่อนจะมีเสียงทุ้มเอ่ยทำลายความเงียบงันที่ว่า

“ไม่หิวเหรอ ข้าตั้งใจซื้อมาให้เจ้าคนเดียวเลยนะ”เขาเอ่ยพร้อมกับเลื่อนนมสองกล่องเข้ามาใกล้ตัว

“ที่จริงว่าจะปลุกตอนเช้า แต่ในเมื่อตื่นมาแล้วก็กินเถอะนะ”

หญิงสาวลอบยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธ

“ไม่หิว”

เหมือนคำพูดของเธอจะมีผลต่อเขามาก ชายหนุ่มยื่นกล่องนมมาไว้ตรงหน้า หลอดสีขาวถูกจ่อไว้ใกล้ปากพร้อมกับเสียงคำยั้นคะยอจากคนข้างหลัง

“ไม่เอา”เธอหันหน้าหนีพร้อมกับซุกหน้าลงที่ไหล่หนาของชายหนุ่ม

“อย่าดื้อสิ”เขาเอ่ยเสียงนุ่มพร้อมกับรั้งร่างบางออกจากตัว

“คุณบังคับฉันเหรอ”เธอยิ้มหวาน

“ให้ป้อนด้วยปากมั้ยละ”เสียงทุ้มเอ่ยเย้า

เพี้ย!

เธอตีอกหนาด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะรับกล่องนมมาจากมือเขาแต่โดยดี สายตาคมกริบที่จ้องมาทำให้เธอต้องฝืนกลืนของเหลวลงคออย่างเลี่ยงไม่ได้

เพราะกลัวเขาจะทำตามที่ขู่นะสิ…

“ฉันอึดอัด เก้าอี้ก็ตั้งเยอะแยะ”เธอเอ่ยเมื่อมือหนาโอบเข้าที่เอว

“อยากโดนจับโยนลงจากชั้น 20 งั้นเหรอ”เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม

“เอ้ะ!”

“อึดอัดก็ทนหน่อย อยากให้นั่งตรงนี้ ไม่ได้เจอตั้งนาน คิดถึงเมีย”

เธอใช้กล่องนมตีหน้าชายหนุ่มเบาๆก่อนจะนำไปวางไว้บนโต๊ะ เธอโน้มตัวซุกหน้าลงที่แผงอกของเขาแทบจะทันทีเมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่จ้องหน้าไม่หยุด เธอรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ขึ้นบนใบหน้าและหัวใจที่เต้นระรัว มือบางจึงแนบอกหนาเบาๆเพื่อสัมผัสอะไรบางอย่างจากตัวเขา

นอกจากความร้อนรุ่มแล้วเขาก็ใจเต้นไม่ต่างจากเธอ…

บางทีเขาอาจจะโดนผีสิง ไม่ก็อาจจะเป็นพี่น้องฝาแฝดที่เขาส่งมาเผื่อแกล้งเธอโดยเฉพาะ หรือไม่ก็นี่อาจจะเป็นฝันเสมือนจริง

“คุณบ้าไปแล้วอัลลัยล์”เสียงหวานบ่นงึมงำ

“เดี๋ยวโดนตีปาก”เขาหัวเราะข้างๆหูของเธอ

“นี่…แล้วคุณต้องกลับไปจัดการงานอีกมั้ย”

แม้จะเป็นคำถามชวนสนทนาทั่วไปแต่ก็ทำให้ร่างหนาชะงัก แข็งทื่อ เย็นเฉียบไปทั้งตัว เขาสูดหายใจลึกสองสามทีเพื่อเรียกสติกลับมาให้เป็นปกติ

ไม่เป็นไร…ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย

“ใกล้เสร็จแล้วล่ะ ไม่มีอะไรน่าห่วง”เขาตอบตัดบทพลางรัดตัวหญิงสาวแน่นขึ้นไปอีก

เขาพึ่งรู้ตัวไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้ เขาชอบให้เธอมาอิงแอบ ออดอ้อนอยู่ข้างตัว เขาชอบที่จะกอดเธอไว้ให้เนิ่นนาน มันเป็นความรู้สึกแปลกๆที่ยากจะอธิบาย

ของบางอย่างมันไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลรองรับเสมอไป แค่เพียงรับรู้ถึงความสุขที่อิ่มเอิบในใจ นั่นก็เป็นเหตุผลที่เกินพอแล้ว

“ไว้พรุ่งนี้ค่อยโทรหาครอบครัวเจ้าแล้วกันนะ ทางนั้นคงเป็นห่วงที่อยู่ๆเจ้าก็หายมาแบบนี้”

หญิงสาวผงะตัวขึ้น ดวงตาทั้งคู่ที่จ้องมองของเธอฉายแววตื่นตระหนก

“จริงเหรอ!”

นั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการจะขอเขามากที่สุด อีกทั้งมันยังเป็นคำถามสำคัญ ‘ฉันขอติดต่อครอบครัวได้มั้ย’ ที่เธออยากจะถามเขามากที่สุดซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เลี่ยงที่จะตอบมาโดยตลอด เครื่องมือที่พอจะใช้สื่อสารกับโลกภายนอกได้ก็ถูกนำออกไปให้ห่างตัวเธอ

“ไหนๆก็ไปเอาลูกสาวเขามาแล้ว ก็น่าจะขอให้เป็นพิธีหน่อย”เสียงทุ้มหัวเราะลั่น

“ถ้าทางนั้นถามว่าอยู่ไหนก็อย่าลืมบอกเขาไปนะว่าอยู่บ้านสามี!”

มือบางระดมต่อยไปที่ชายหนุ่มหลายหมัดจนผู้ถูกกระทำร้องโอดครวญออกมาเธอจึงยอมหยุด มือบางคลายหมัดแตะไปที่ใบหน้าคมสันเบาๆ

“ขอบคุณค่ะ”

อัลลัยล์รั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้งและอีกครั้ง เขาไม่สมควรได้รับคำขอบคุณจากเธอหรอก

พรุ่งนี้ข่าวก็จะปรากฏตามสื่อต่างๆ ยะตีมก็คงไม่อาจจะกักขังหญิงสาวไว้ในห้องได้อีก ทีวีเครื่องใหญ่ที่วางอยู่ในส่วนพักผ่อนไม่อาจจะรับประกันได้ว่าเธอจะไม่เปิดดู จะพาออกไปข้างนอกก็ยิ่งแล้วใหญ่ หากแต่ที่เขากลับมาก็เพราะจะนั่งอยู่กับเธอในห้อง อย่างน้อยๆก็เฝ้าไม่ให้เธอทำอะไรที่เป็นการรับรู้ข่าวสารจากโลกภายนอก

เขากลัวเหลือเกิน…หากหญิงสาวรู้แล้วเขาจะรั้งเธอได้อย่างไร

จะให้ทุบตี จับล่ามโซ่เขาก็ทำไม่ได้

แต่จะให้ปล่อยเธอไป…เขาก็ทำไม่ได้อีกเช่นกัน


-----------------------------------------

สวัสดีค่ะรีดเดอร์ทุกท่านนนน (*o*)\\

วันนี้กี้ก็มาตอนตีสองอีกเเล้ว 555555\\

คุณ @wii รู้รึยังค่ะใครมาลักหลับ 555555 (>\\\\\<)\\

คุณ @ใบบัวน่ารัก ยิ้มอะไรเอ่ยยย (>w<)\\

คุณ @mhengjhy เหมือนกรรมตามสนองพี่เเกค่ะ ปัญหาตามมาเป็นพรวนเลย 5555\\


เเฮ่! คืนนี้ฝันหวานนะคะรีดเดอร์ทุกท่านน

รักษาสุขภาพด้วยน้าา

กี้เป็นห่วง

จุ้บ จุ้บ (=3=)\\





เสี้ยวเดือนเเรม
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ก.ย. 2555, 02:18:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.ย. 2555, 18:57:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 10921





<< บทที่สิบห้า ข่าว 100%   บทที่สิบหก วาบหวาน 100% >>
wii 24 ก.ย. 2555, 08:58:17 น.
อ้าวซวยละสิ กลัวเมียหนีเเต่ไม่รู้จักจัดการขั้นเด็ดขาดกับเเม่คู่หมั้นจอมวีนจอมเหวี่ยงให้เสร็จสิ้นลงไปให้เป็นเรื่องเป็นราว ถ้านาราห์คิดจะหนีก็สมควรเเล้วล่ะ


mhengjhy 24 ก.ย. 2555, 16:25:34 น.
โอ๊ยย ถ้าพิมพ์นารารู้เรื่องนะ สงสารรรร


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account