หัวใจหลงเงา(จบแล้วค่ะ)
เมื่อสาวน้อยสุดเชยราวกับหลงมาจากยุคโบราณพบจุดเปลี่ยนจนต้องลุกขึ้นมาปรับภาพลักษณ์ใหม่หมด จากยายสุดเฉิ่มเป็นสาวน้อยสวยใสสไตล์วินเทจ

เพียงเธอเริ่มเปลี่ยนลุคใหม่ก็ไปเข้าตานักร้องหนุ่มวงบอยแบนด์แสนเจ้าชู้ ที่ตามจีบเป็นว่าเล่น เรื่องคงไม่ชุลมุนขนาดนี้เพราะแต่ละคนที่มาจีบล้วนมีเบื้องหลังไม่น่าไว้วางใจจนพี่ชายต่างสายเลือดชื่อ 'ต้นสัก' ที่แอบรักเธอมานานต้องคอยตามดูแล กันท่าสารพัด จนเธอรอดเงื้อมมือนักร้องมาได้

แต่เธอหลงรักพี่ชายคนนี้ เข้าอย่างจัง ทั้งที่ความจริงในตอนหลังเปิดเผยว่าเขาเป็นลูกพ่อเดียวกันกับเธอ!

แล้วบัวบูชาต้องทำเช่นไร ในสถานการณ์กระอักกระอ่วนสุดแสนหักมุมเช่นนี้

Tags: อดีตสาวน้อยสุดเชยกับวงบอยแบนด์และพี่ชายสุดที่รัก

ตอน: ตอนที่ 3



บทที่ 3


ภาพในฝันที่หญิงสาวกำลังใส่ชุดครุยเตรียมจะเข้าหอประชุมเพื่อรับปริญญาบัตรนั้นทำให้บัวบูชาเฉลียวใจขึ้นมา ต้องเป็นความฝันแน่ๆ เพราะตอนนี้เธอเพิ่งเรียนอยู่ปีสามนี่นา

เป็นเพราะความฝันแสนสุขนั้นทำให้เธอไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้องนอน นมเป็ดคงยืนเคาะอยู่นาน กว่าหญิงสาวจะงัวเงียลุกขึ้นมาเปิดรับ มือยังขยี้ตาตอนที่ส่งเสียงออกไป

“นมเป็ดมีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมมาปลุกบัวดึกๆ แบบนี้”

บัวบูชายกมือขึ้นเสยผมยุ่งขึ้นไป แต่แล้วเมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของนมเป็ด เธอก็ต้องรีบถามซ้ำเสียงดังลั่น

“มีอะไรหรือเปล่าคะนม เกิดอะไรขึ้น นี่...นี่นมเป็ดร้องไห้ทำไม” ไม่ใช่แค่ร้องไห้ ถ้ามองไม่ผิดเธอเห็นแม่นมกำลังสะอื้นจนตัวโยน หญิงสาวใจหายวาบ

“คุณหนูบัวคะ เมื่อตะกี้มีโทรศัพท์จากอเมริกา ทางโรงพยาบาลโทร. มาแจ้งข่าวว่า...ว่า...”

บัวบูชาเผลอจับแขนอวบเขย่าอย่างแรง

“บอกบัวมาเร็ว เกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อคุณแม่ใช่มั้ย” หญิงสาวเริ่มเสียงสั่น หัวใจเหมือนตกวูบจากที่สูงเมื่อนึกทบทวนภาพในฝันเมื่อครู่...วันรับปริญญาของเธอไร้เงาของทั้งคุณพ่อและคุณหญิงแม่!

“ใช่ค่ะคุณหนูบัว ฟังดีๆ นะคะ คุณท่านกับคุณหญิงเกิดอุบัติเหตุ รถชนประสานงากัน คุณท่านทั้งสอง เอ้อ...” เสียงที่ตามมาคือเสียงร้องไห้โฮๆ ของนมเป็ดซึ่งไม่อาจเล่าอะไรต่อได้ บัวบูชาตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน ยิ่งเห็นนมเป็ดฟูมฟาย ทำท่าเหมือนจะเป็นลม เธอก็ยิ่งใจไม่ดี แต่ก็ต้องพยายามตั้งสติ

เธอไม่ใช่เด็กวัยรุ่นที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ บัวบูชาย้ำกับตัวเองว่าอีกปีเดียวเธอก็จะเรียนจบแล้ว เธอต้องเป็นผู้ใหญ่พอที่จะควบคุมสถานการณ์ไว้ให้ได้

“นมเป็ดใจเย็นๆ นะคะ นมแน่ใจหรือเปล่าว่าไม่ได้ฟังผิด คนโทร. มาพูดภาษาอังกฤษใช่มั้ยคะ”

แม้จะรู้ว่านมเป็ดมีความรู้ ฟังและพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง แต่บัวบูชาก็ยังอยากให้นมเป็ดฟังผิดอยู่ดี เธอหวังลมๆ แล้งๆ ด้วยซ้ำว่าเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่นี้เป็นแค่ความฝัน

“เขาพูดชัดเจนค่ะคุณหนูบัว นมฟังไม่ผิดแน่ มั่นใจมากๆ ค่ะ เขาบอกว่าคุณท่านทั้งสองเสียชีวิตคาที่ นมไม่อยากจะเชื่อเลย แต่นมก็ขอเบอร์โทร. กลับไว้นะคะ คุณหนูบัวลองโทร. ไปเช็กอีกทีก็ได้ เผื่อว่านมจะฟังผิดจริงๆ”

แม่นมของเธอยื่นกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ มาให้ บัวบูชารับมาแล้วก็วิ่งตรงไปยังโทรศัพท์หัวเตียง กดหมายเลขบนแป้นมือไม้สั่น ในใจภาวนาให้เป็นแค่ความเข้าใจผิด ...คุณพ่อกับคุณหญิงแม่ของเธอเพิ่งเดินทางไปเที่ยวอเมริกาได้แค่ไม่ถึงอาทิตย์ ไม่อยากจะเชื่อว่านั่นเป็นการจากไปตลอดกาลของทั้งสองท่าน...เป็นไปไม่ได้!

แต่เมื่อได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์กับโรงพยาบาลที่อเมริกาแล้วบัวบูชาก็ค่อยๆ ยอมรับความจริง เธอสูญเสียทั้งบิดาและมารดาไปพร้อมๆ กัน ด้วยอุบัติเหตุรุนแรงทางรถยนต์ โรงพยาบาลยืนยันว่าจะส่งร่างไร้วิญญาณของทั้งสองท่านกลับมาที่เมืองไทยให้ โดยมีสถานทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกาจัดการทุกอย่างด้วยความเต็มใจ เนื่องจากคุณดำเกิงเคยเป็นเลขาทูตประจำที่นั่น ทุกคนที่สถานทูตรู้จักและนับถือท่านทั้งสองมาก

“นมได้ยินที่บัวคุยกับทางโน้นแล้วใช่ไหมคะ เราคงต้องรอรับคุณพ่อคุณแม่อยู่ที่นี่ ทางโรงพยาบาลบอกว่าไม่มีประโยชน์ที่บัวจะไปรับศพถึงที่โน่น วุ่นวายเปล่าๆ สถานทูตยืนยันจะจัดการทั้งหมดให้เองค่ะ”

“โธ่! คุณท่านทั้งสอง ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะอายุสั้น ท่านอยากเห็นคุณหนูบัวรับปริญญา อีกปีเดียวเท่านั้นเอง ไม่น่าเลย”

นมเป็ดฟูมฟายอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน หญิงกลางคนกอดบัวบูชาไว้แน่น ร่ำไห้เสียงดังลั่นบ้าน จนบ่าวไพร่แตกตื่น พากันมายืนหน้าสลอน บัวบูชาจึงถือโอกาสบอกทุกคนด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น

“ไหนๆ ก็มากันพร้อมหน้าแล้ว บัวขอบอกทุกคนพร้อมๆ กันตรงนี้ว่าคุณพ่อกับคุณหญิงแม่เสียชีวิตแล้วที่อเมริกา พวกเราต้องช่วยกันจัดการงานศพอย่างสมเกียรติ ส่วนงานการในบ้านทุกอย่างขอให้คงไว้เหมือนเดิม บัวจะพยายามดูแลทุกคนต่อจากคุณพ่อและคุณหญิงแม่ให้ดีที่สุด”

บ่าวไพร่รับคำแล้วแยกย้ายกันไป หลายคนที่เป็นรุ่นเก่าแก่ถึงกับร้องไห้ร้องห่ม ไม่เว้นแม้ลุงหวิน คนขับรถประจำตัวบัวบูชา ชายสูงวัยเดินเข้ามาหา น้ำตานองหน้า

“เสียใจด้วยจริงๆ ครับคุณหนู ไม่นึกเลยว่าท่านจะจากไปไวขนาดนี้ คุณหนูไม่ต้องห่วงนะขอรับ ลุงหวินจะดูแลคุณหนูให้ดีที่สุด นมเป็ดก็อยู่ทั้งคน ไหนยังคุณศักดิ์ชัย ทนายประจำตัวของท่านอีก เดี๋ยวทุกอย่างคงค่อยๆ เข้าที่เข้าทาง คุณหนูอย่าคิดมากนะขอรับ”

“ขอบคุณจ้ะ ลุงหวิน บัวไม่เป็นอะไรหรอก ลุงไปพักผ่อนเถอะ เรามีงานต้องทำกันอีกเยอะแยะเลย ช่วยๆ กันนะคะลุง”

คนขับรถเก่าแก่เดินจากไป พร้อมๆ กับที่บัวบูชาโผเข้าหาอ้อมกอดของนมเป็ด ที่พึ่งเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้ เมื่อเห็นแม่นมยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น เธอจึงไม่กล้าทำตัวอ่อนแอแต่กลับเป็นฝ่ายปลอบ

“นมเป็ดหยุดร้องเถอะนะคะ ยังไงทั้งสองท่านก็จากไปแล้ว เราต้องเข้มแข็งนะคะนม”

ดูเหมือนการเตือนสติของเธอจะได้ผล นมเป็ดผละออกไป ยกมือขึ้นปาดน้ำตา จ้องหน้าบัวบูชาราวกับเห็นสิ่งประหลาด

“นี่คุณหนูบัวไม่ร้องไห้เลยเหรอคะเนี่ย เป็นไปได้ยังไง”

“ก็เห็นนมเป็ดร้องมามากพอแล้ว ถ้าบัวร้องอีกคน พวกคนในบ้านจะใจหายแย่ อันที่จริงบัวก็อยากร้องค่ะ แต่เหมือนน้ำตามันไหลย้อนกลับเข้าไปข้างในจนอึดอัดไปหมดแล้ว” หญิงสาวสารภาพเสียงสั่น

“ระบายออกมาบ้างก็ได้ค่ะคุณหนูบัว นมสัญญาจะร้องแค่วันนี้ แล้วก็ต้องกลับมาเข้มแข็งให้ได้ คุณท่านทั้งสองเคยขอร้องนมไว้ว่าถ้าท่านสิ้น ขอให้นมดูแลคุณหนูบัวต่อไป ท่านพูดแบบนี้เพราะเห็นว่ามีลูกเมื่อแก่ คงดูแลไปตลอดไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดเลยนะคะ ว่าท่านจะจากไปไวขนาดนี้” น้ำเสียงท้ายประโยคสั่นเครือ ตามมาด้วยเสียงสะอื้น

“บัวยังคว้างๆ อยู่ ยังทำอะไรไม่ถูก แต่คิดว่าเวลาน่าจะทำให้อะไรๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เราก็คงต้องรอร่างของคุณพ่อคุณแม่กลับมานะคะ เดี๋ยวสายๆ บัวว่าจะไปหาน้าเตือนที่ร้าน ไปบอกข่าวเสียหน่อย”

“อันที่จริงก็ไม่ค่อยได้ข้องเกี่ยวกันแล้ว ไม่ต้องรีบไปบอกก็ได้” หญิงกลางคนขัดขึ้นเบาๆ

“นมเป็ดคะ ยังไงน้าเตือนก็เคยเป็นเมียคุณพ่อ บอกไปก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดีเสียอีก จะได้ช่วยกันคิด ช่วยกันจัดงานให้สมเกียรติคุณพ่อคุณแม่”

“ก็แล้วแต่เถอะค่ะ ตามใจคุณหนูบัว แต่นมคงไม่ไปด้วยนะคะ คุณหนูไปกับลุงหวินก็แล้วกัน”

“ค่ะ งั้นสายๆ บัวขอไปแป๊บนึงนะคะ”

นมเป็ดไม่ตอบ ได้แต่เดินจากไปพร้อมทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงห่วงใย

“ตอนเช้านมจะสั่งในครัวทำข้าวต้มกุ้งไว้ให้ คุณหนูบัวไปพักผ่อนต่ออีกสักหน่อยเถอะค่ะ นี่เพิ่งตีสามเอง”

“นมก็ต้องไปพักเหมือนกันนะคะ ดูสิ ร้องไห้จนตาบวมหมดแล้ว” บัวบูชาตรงเข้าไปกุมมือแม่นมของเธอไว้

“แต่จะว่าไปนมก็ดีใจนะคะ ที่คุณหนูบัวของนมเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลย อายุยี่สิบแล้ว โตพอจะรับผิดชอบตัวเองเสียที เก่งค่ะ ไม่ร้องไห้โวยวายเลย”

“บัวจะดูแลนมเป็ดและทุกคนในบ้านให้ดีค่ะ” หญิงสาวให้คำมั่น ทั้งที่ในใจลึกๆ ต้องยอมรับว่าไม่มั่นใจในสิ่งที่พูดเอาเสียเลย

“แต่ก็ไม่ต้องห่วงนะคะคุณหนูบัว คุณท่านเคยเปรยๆ ไว้ว่าท่านฝากฝังคุณหนูบัวไว้กับคุณพ่อคุณแม่ของคุณภูวดลอยู่เหมือนกัน เป็นเพื่อนรักมากของท่าน คงช่วยเหลือดูแลคุณหนูบัวได้”

“ถ้าไม่จำเป็นคงไม่ต้องรบกวนคนอื่นขนาดนั้นหรอกค่ะนมเป็ด บัวโตแล้วนะคะ เราอยู่กันสองคนก็ได้”

“แต่นมว่าถ้าจะให้ดี เรียนจบก็รีบแต่งงานกับคุณภูวดลเลยดีกว่า อีกปีเดียวเอง จะได้มีคนดูแลคุณหนูบัวอย่างแท้จริง”

“อย่าพูดไปถึงขนาดนั้นเลยค่ะนม ดูๆ กันไปก่อน นี่ขนาดมีเรื่องมีราวแบบนี้ บัวยังไม่กล้าโทร. ไปบอกพี่ภูเลย เกรงใจน่ะ งานเค้าก็ยุ่งจะแย่อยู่แล้ว”

“แต่ก็ควรบอกนะคะ เดี๋ยวฝ่ายโน้นจะน้อยใจ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลสักหน่อย คุณหนูบัวก็รู้ว่าผู้ใหญ่แอบหมายมั่นให้ครองคู่กันอยู่แล้ว”

“อย่าพูดแบบนี้อีกนะคะนม เราเป็นฝ่ายหญิง ถ้าจะยังไงให้ฝ่ายชายเป็นคนเริ่มจะดีกว่า บัวเองก็ยังคิดกับพี่ภูแบบพี่ชาย ไม่ได้คิดมากอะไรสักหน่อย”

พอพูดถึงคำว่า ‘พี่ชาย’ บัวบูชาก็แทบอยากตีตัวเองเมื่อสมองเจ้ากรรมแล่นปราดไปคิดถึงพี่ชายต่างสายเลือดที่ชื่อต้นสักขึ้นมาทันที หญิงสาวสลัดภาพของเขาออกไปจากสมอง สั่งตัวเองด้วยคำสั่งเดิมๆ ... เธอต้องไม่หวังพึ่งเขา ต้องทำราวกับไม่เคยสนิทสนมกันมาก่อน...ทำให้เหมือนที่เขาทำกับเธอมาตลอด
_____________________________________________________________


บัวบูชาสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะก้าวลงจากรถ เธอบอกลุงหวินด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าเนื่องจากอดนอนมาทั้งคืน หลังรู้ข่าวการเสียชีวิตของคุณพ่อคุณแม่ เธอไม่อาจข่มตาหลับได้ลง

“ลุงหวินจอดรอรับเลยก็ได้ค่ะ ไม่นานหรอก บัวตั้งใจจะมาบอกข่าวน้าเตือนสักหน่อย”

“ตามสบายครับคุณหนูบัว ลุงไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว คุณหนูได้คุยได้เล่าอะไรบ้างน่าจะดี ดูคุณหนูเครียดมาก นิ่งๆ เงียบๆ เกินไป ระบายออกมาบ้างยังจะดีซะกว่า อย่าหาว่าลุงสอนเลยนะขอรับ”

“ลุงช่างสังเกตจัง บัวจะทำตามที่แนะนำจ้ะ งั้นบัวไปก่อนนะคะ”

บัวบูชาลงมายืนข้างรถ ก้มลงมองชุดกระโปรงติดกันสีดำล้วนของตัวเอง คอบัวปิดและแขนยาวทำให้รู้สึกร้อน แต่ก็ต้องทนเพราะเธอมีชุดดำเพียงชุดเดียว จำได้ว่าเป็นชุดที่ใส่ในงานศพของคุณย่าดวงทิพย์ ไม่เคยคิดเลยว่าต้องใช้มันอีก ในเวลาไม่กี่ปีต่อมา
ทันทีที่ผลักประตูเข้าไปในร้าน บัวบูชาก็เห็นต้นสักนั่งอยู่ตรงหน้าเครื่องคิดเงิน อดนึกสงสัยไม่ได้ว่าทำไมวันนี้เขาไม่ไปทำงานแต่ก็ไม่ได้ถามออกไป ชายหนุ่มส่งยิ้มจางๆ มาทัก ครั้งนี้เขาคงจนมุม ไม่อาจหลบหน้าไปไหนได้ จึงเป็นครั้งแรกที่จำใจต้องพูดกับเธอ

“มาหาแม่ใช่มั้ย แม่พักผ่อนอยู่ข้างบนแน่ะ จะขึ้นไปหามั้ยล่ะ คงยังไม่หลับหรอก”

เขาบอกเสียงเรียบ ใบหน้าคมสันไร้รอยยิ้ม

“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่รบกวนน้าเตือนดีกว่าเผื่อท่านหลับ บัว...บัวแค่จะมาบอกน้าเตือนว่า...ว่า...”

ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น นาทีนี้บัวบูชารู้สึกเหมือนความอ่อนแอถาโถมเข้าใส่อย่างรุนแรง กะทันหันจนตั้งตัวไม่ติด เธอตั้งใจจะมาระบายกับน้าเตือน มั่นใจว่าท่านต้องปลอบขวัญเธอได้ แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครเสียแล้ว ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าก็คงไม่สนใจหรอกว่าชีวิตของเธอจะเป็นเช่นไร ยิ่งคิด น้ำตาก็พานจะไหล รู้สึกเหมือนก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“มีอะไรรึเปล่าบัว...เกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมใส่ชุดดำแบบนี้”

ต้นสักลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ เขาตรงเข้ามาหา จับต้นแขนสองข้างของเธอไว้ จ้องตาไม่กะพริบราวกับเร่งเอาคำตอบ

“คุณพ่อคุณแม่ตายแล้วค่ะพี่ต้น”

ไม่รู้อะไรดลใจให้บัวบูชาโผเข้าหาอ้อมกอดของชายหนุ่ม ซบหน้าลงกับอกกว้าง ร้องไห้โฮๆ รู้สึกถึงมือแข็งแกร่งของเขาลูบลงบนแผ่นหลังเบาๆ แล้วเลื่อนขึ้นมาที่ศีรษะ ลูบเรือนผมอย่างอ่อนโยน

“ไม่เอา อย่าร้องนะ ใจเย็นๆ ก่อน ขึ้นไปคุยกับแม่ข้างบนดีกว่า แม่ยังไม่นอนหรอก พี่แน่ใจ”

ต้นสักสั่งให้แววคอยเฝ้าหน้าร้านแทน แล้วเขาก็ประคองเธอเดินขึ้นบันไดหลังร้าน พามาจนถึงหน้าห้องโดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ แต่บัวบูชากลับรู้สึกได้ถึงความอาทรในดวงตาและท่าทางของเขา

เมื่อประตูห้องนอนของนางเตือนใจเปิดออก บัวบูชาก็โผเข้าไปหาหญิงสูงวัย บอกนางด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“น้าเตือนคะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณพ่อกับคุณแม่จากบัวไปแล้ว ท่านเสียพร้อมกันเพราะอุบัติเหตุรถชนที่อเมริกา บัวเสียใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว”

นางเตือนใจคว้าร่างบอบบางไปกอดไว้ บัวบูชาเหมือนถูกปลดปล่อย เธอร้องไห้อย่างที่ใจอยากร้องตั้งแต่นาทีแรกที่รู้ข่าวร้าย จำต้องฝืน ทำเหมือนเข้มแข็งนักหนา แต่ต่อหน้าหญิงสูงวัยใจดีคนนี้ เธอไม่ต้องกังวลสิ่งใด มั่นใจว่านางเตือนใจเข้าใจความรู้สึกของเธอดี

“ผมออกไปข้างนอกก่อนนะแม่ จะลงไปเฝ้าร้านต่อ แม่คุยกับบัวตามสบาย”

เสียงต้นสักเอ่ยแทรกขึ้นมา เขาออกไปจากห้อง ปิดประตูลงเบาๆ

“หนูบัวของน้า อย่าคิดมากเลยนะคะ เกิดเหตุไปแล้ว เราแก้ไขอะไรไม่ได้ นอกจากทำใจยอมรับความจริง” นางเตือนใจลูบลงบนแผ่นหลังเธอเบาๆ ตลอดเวลาเพื่อปลอบโยน

“บัวจะพยายามค่ะน้าเตือน ตอนนี้บัวรู้สึกเคว้งจริงๆ คุณพ่อคุณแม่จากไปทั้งคู่ บัวไม่เหลือใครแล้ว” พูดได้แค่นี้หญิงสาวก็ปล่อยโฮอีกครั้ง สะอื้นจนตัวโยน

“ใครบอกว่าหนูบัวไม่เหลือใคร ยังมีน้าเตือนคนนี้กับพี่ต้นอีกล่ะ ไหนยังนมเป็ดและบ่าวไพร่ทั้งบ้านนับสิบ เชื่อเถอะจ้ะว่าคุณดำเกิงท่านรอบคอบ ท่านคงสั่งทนายไว้หลายอย่างแล้วละ ทนายส่วนตัวคงค่อยๆ บอกหนูบัวว่าต้องทำตัวอย่างไรต่อไป หนูบัวอายุครบยี่สิบแล้วด้วย บรรลุนิติภาวะแล้ว ธุรกรรมทุกอย่างคงง่ายขึ้น น้ามั่นใจว่านมเป็ดและทุกคนจะอยู่เคียงข้างหนูบัว” เมื่อเห็นหญิงสาวนิ่งฟัง นางเตือนใจจึงถือโอกาสเล่าถึงเรื่องในอดีตเท่าที่นางรู้ เพื่อบัวบูชาจะได้มั่นใจว่าตนเองไม่ได้โดดเดี่ยว

“หนูคงรู้แล้วว่านมเป็ดเลี้ยงหนูบัวมาตั้งแต่คลอดที่โรงพยาบาลในอเมริกา ตอนที่คุณดำเกิงไปเป็นเลขาทูตประจำที่นั่น นมเป็ดตามไปดูแลรับใช้อยู่แล้ว ก็เลยรับหน้าที่แม่นมไปด้วยเลย ที่สำคัญ ก่อนหน้านั้นนมเป็ดเกิดและเติบโตในบ้านอัครบดีศักดิ์ พ่อแม่ของเธอเป็นข้าเก่าของตระกูลที่ภักดีกับเจ้านายมาก หนูบัวคิดเสียว่าเธอเป็นแม่ทดแทนคุณหญิงแม่ที่จากไปเถอะนะคะ จะได้ไม่อ้างว้าง”

นางเตือนใจบอก พร้อมเตือนสติเธอด้วยคำพูดยาวเหยียด การเล่าถึงเบื้องลึกเกี่ยวกับแม่นมให้ฟังอาจทำให้หญิงสาวสนิทใจกับนมเป็ดมากขึ้นอีก

“ขอบคุณค่ะน้าเตือน ที่ช่วยแนะนำ ตอนนี้บัวแค่อยากร้องไห้กับใครสักคนแค่นั้นเอง นี่บัวยังไม่ได้โทร. บอกญาติๆ เลยนะคะ น้าเตือนก็รู้ว่าญาติส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะรักบัวสักเท่าไหร่ แล้วก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเพราะไม่พอใจที่คุณพ่อรับมรดกมหาศาลจากคุณปู่ไปเกือบหมด”

“ก็ญาติพี่น้องคนอื่นของท่านหวังแต่สมบัตินี่คะ ไม่เคยดูแลคุณย่าดวงทิพย์เลย คุณดำเกิงเป็นลูกชายคนเดียวก็ย่อมต้องได้รับมรดกมากเป็นธรรมดา” นางเตือนใจชวนคุยเพื่อดึงหญิงสาวให้ไกลออกไปจากเรื่องการสูญเสียบิดามารดาไปพร้อมกัน

“คงเพราะหน้าตาบัวที่กระเดียดไปทางลูกครึ่งด้วย ยิ่งทำให้พวกนั้นคลางแคลงใจ ทั้งที่คุณพ่อบอกแล้วว่าให้ไปสืบได้เลย ถึงท่านจะใบหน้าดูเป็นชายไทยแท้ แต่คุณปู่ที่เสียไปนานแล้วก็เป็นชาวฮอลันดา เลือดมาแสดงผลเอากับบัว บัวเลยลำบากหน่อย โดนเพ่งเล็งตลอดเวลา” บัวบูชาถือโอกาสระบายเรื่องราวที่ขุ่นมัวในใจมานานออกไปด้วย บางทีการเก็บความรู้สึกต่างๆ ไว้ในใจมากๆ ก็ทำให้อึดอัดเหลือเกิน วันนี้ได้โอกาสเธอต้องขอพูดให้หมด

“อย่าไปสนใจเลยค่ะ น้าเตือนก็รู้มาจากคุณดำเกิงอยู่เหมือนกันว่าท่านมีคุณพ่อเป็นชาวต่างชาติ แล้วไล่ขึ้นไปกว่านั้นก็มีบรรพบุรุษเป็นแหม่ม ลงเรือมาจากต่างประเทศเพื่อมาเป็นสะใภ้อัครบดีศักดิ์ คุณหนูบัวก็เลยหน้าตาออกไปทางลูกครึ่งมากหน่อย ไม่เห็นจะแปลกเลย อย่าไปสนใจคำพูดใครทั้งนั้น น้าขอเตือนไว้เลยนะคะ ช่วงงานศพถ้ามีญาติคนไหนเข้ามาวุ่นวายหรือตีสนิท ไม่ต้องไปสนเลย ทุกคนทำให้คุณพ่อคุณแม่ของหนูบัวไม่สบายใจมาเยอะ ช่วงที่ทะเลาะกันเรื่องสมบัติน่ะ”

“น้าเตือนรู้เรื่องคุณพ่อดีจัง”

“ก็...ก็มีบ้างแหละค่ะ อย่างน้อยช่วงหนึ่งเราก็เคยรักกัน” เสียงพูดนั้นแผ่วเบา หายไปในลำคอ

“งั้นน้าเตือนต้องรักบัวด้วยนะคะ รักมากๆ คอยอยู่ข้างๆ บัว ช่วยสอนบัวให้ทำตัวให้ถูกด้วย พอไม่มีคุณพ่อคุณแม่แล้วบัวเคว้งคว้างจริงๆ”

“อย่าห่วงเลยค่ะ หนูบัวไม่ขอ น้าก็จะดูแลอยู่แล้ว อย่าคิดว่าน้าเป็นคนอื่นเลยนะคะ”

บัวบูชาสอดมือไปรอบเอวบางของนางเตือนใจ โอบกอดนางไว้แนบแน่น ก่อนซบหน้าลงกับอก บอกเสียงอู้อี้

“บัวสบายใจขึ้นแล้ว ขอบคุณน้าเตือนมากๆ เลยค่ะ”

หญิงสาวบอกตัวเองว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เธอแสดงความอ่อนแอ นับจากนี้ไปบัวบูชาต้องเข้มแข็ง ก้าวเดินไปบนทางชีวิตด้วยตัวเอง ไร้การประคับประคองจากคุณพ่อ คุณหญิงแม่ซึ่งเคยดูแลราวเธอเป็นไข่ในหิน เป็นเจ้าหญิงในวังที่แทบปิดตาย

บัวบูชาจะก้าวออกสู่โลกกว้างอย่างแท้จริงเสียที

จบบทที่ 3

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ


____________________________________________________________

ตอบคอมเมนต์ค่ะ

คุณ หมีสีชมพู คะ ... ตื่นเช้ามากค่า ขอบคุณนะค้า ^^

คุณ Oleang ขา ... ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ

คุณ goldensun คะ ... เดี๋ยวยังมีตามมาอีกหลายรายเลยค่ะ...ได้โปรดติดตาม อิอิ

คุณ anOO คะ ... ดีใจที่ได้เจอกันอีก เอ้อ....พี่ต้นโดนก่อนใครเลย >O<

คุณ nunoi คะ ... ที่ไม่พูดเพราะมีเหตุค่ะ ติดตามนะค้า อิอิ

คุณ Pat ขา ... แทบจะได้ยินเลยว่าเสียงคุณ Pat ที่ถามในคอมเมนต์นั้นขุ่นขนาดไหน...พี่ต้นระวังตัวให้ดี อิอิ



ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่เข้ามาคุยกัน นอกจากทำให้ไม่รู้สึกเงียบเหงาแล้ว ยังสร้างกำลังใจให้ "ดาริยา" ด้วย ... ขอบคุณค่าาาา ^_______^

_________________________________________________________




ดาริยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ก.ย. 2555, 04:40:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ก.ย. 2555, 04:40:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 2388





<< ตอนที่ 2   ตอนที่ 4 >>
หมีสีชมพู 24 ก.ย. 2555, 06:07:54 น.
นางเอกเข้มแข็งเร็วๆ นะ


Pat 24 ก.ย. 2555, 06:13:33 น.
น่าสงสารหนูบัว ทายาทเพียงคนเดียวจะมีเรื่องวุ่นวายอะไรตามมาอีกไหมนะ


nunoi 24 ก.ย. 2555, 10:30:05 น.
เรื่องวุ่นๆ เริ่มจะตามมาหรือเปล่าค่ะเนี๊ยะ


anOO 24 ก.ย. 2555, 15:42:54 น.
อุบัติเหตุจริงๆ ใช่ไหม ไม่มีเบื้องลึก เบื้องหลังอะไรนะ
หนูบัวจะทำไงต่อไปล่ะเนี้ย


goldensun 24 ก.ย. 2555, 19:36:34 น.
ได้เห็นใจกัน ก็ยามทุกข์นี่แหละ อาจทำให้นมเป็ดมองคุณเตือนแง่ดีขึ้น
อีตาภูจะออกลายรึเปล่า


Auuuu 24 ก.ย. 2555, 21:20:28 น.
เฮ้ออออ เศร้าาาาาา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account