หัวใจหลงเงา(จบแล้วค่ะ)
เมื่อสาวน้อยสุดเชยราวกับหลงมาจากยุคโบราณพบจุดเปลี่ยนจนต้องลุกขึ้นมาปรับภาพลักษณ์ใหม่หมด จากยายสุดเฉิ่มเป็นสาวน้อยสวยใสสไตล์วินเทจ

เพียงเธอเริ่มเปลี่ยนลุคใหม่ก็ไปเข้าตานักร้องหนุ่มวงบอยแบนด์แสนเจ้าชู้ ที่ตามจีบเป็นว่าเล่น เรื่องคงไม่ชุลมุนขนาดนี้เพราะแต่ละคนที่มาจีบล้วนมีเบื้องหลังไม่น่าไว้วางใจจนพี่ชายต่างสายเลือดชื่อ 'ต้นสัก' ที่แอบรักเธอมานานต้องคอยตามดูแล กันท่าสารพัด จนเธอรอดเงื้อมมือนักร้องมาได้

แต่เธอหลงรักพี่ชายคนนี้ เข้าอย่างจัง ทั้งที่ความจริงในตอนหลังเปิดเผยว่าเขาเป็นลูกพ่อเดียวกันกับเธอ!

แล้วบัวบูชาต้องทำเช่นไร ในสถานการณ์กระอักกระอ่วนสุดแสนหักมุมเช่นนี้

Tags: อดีตสาวน้อยสุดเชยกับวงบอยแบนด์และพี่ชายสุดที่รัก

ตอน: ตอนที่ 4

สวัสดีค่ะนักอ่านที่รักทุกท่าน ^^

มาเร็วกว่าที่นัดกันไว้หนึ่งวัน เพราะพรุ่งนี้ดาริยาไม่อยู่บ้านค่ะ ฝากไว้ให้อ่านกันตั้งแต่คืนนี้เลยนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^_____^

___________________________________________________________


บทที่ 4


งานพิธีพระราชทานเพลิงศพผ่านพ้นไปด้วยดี บัวบูชายืนเคียงข้างนมเป็ดเพื่อส่งแขกที่ทยอยลากลับ ญาติที่เคยห่างหายมาร่วมงานศพกันครบ แต่ไม่มีใครสักคนที่บัวบูชารู้สึกสนิทใจด้วย

บุคคลที่วุ่นกับงานพิธีมากที่สุดกลับยืนอยู่เบื้องหลังตลอดเวลา นางเตือนใจช่วยดูแลจัดการงานศพอย่างแข็งขัน ส่วนต้นสักนั้น เขาช่วยให้ทุกขั้นตอนผ่านพ้นไปด้วยดี วิ่งวุ่นให้ทุกเรื่องไม่ติดขัด แม้จะแทบไม่ได้พูดกันเลย แต่บัวบูชาก็รับรู้ถึงความห่วงใยที่ชายหนุ่มส่งมาทางสายตา

“แขกไปกันหมดแล้ว น้าคงต้องลากลับละจ้ะหนูบัว ฉันกลับก่อนนะคะ นมเป็ด”

นางเตือนใจยกมือไหว้นมเป็ด ทั้งที่ฝ่ายนั้นอายุน้อยกว่า

“อุ๊ย! อยากให้ฉันอายุสั้นรึไง ไม่ต้องมาว่งมาไหว้นะยะ เอาละ ขอบใจมากๆ เลย ทั้งเธอทั้งลูกชายช่วยแบ่งเบาฉันได้เยอะ บางทีก็งงๆ จนไม่รู้จะทำอะไรก่อน งานพิธีผ่านพ้นไปด้วยดีแบบนี้ก็โล่งอก” นมเป็ดบอกเบาๆ น้ำตายังซึมขอบตาตลอดเวลา

“มีอะไรให้ฉันช่วย คุณนมก็บอกมาได้เลยนะคะ ยินดีช่วยทุกอย่าง ถือเสียว่าฉันเป็นข้าเก่าของอัครบดีศักดิ์”

“พูดอะไรอย่างนั้น ฉันไม่ลืมหรอกว่าเธอก็เป็นเมียคนหนึ่งของท่านเหมือนกัน อันที่จริงฉันไม่เคยรังเกียจเธอหรอกนะ เพราะขนาดคุณหญิงท่านยังรักเธอ แล้วฉันจะไปเกลียดได้ยังไง” นมเป็ดบอกภรรยาคนหนึ่งของผู้ล่วงลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ขอบคุณมากค่ะคุณนม ฉันกับลูกชายลากลับเลยแล้วกัน”

นางเตือนใจตรงเข้ามากุมมือทั้งสองข้างของบัวบูชาไว้ เยื้องไปด้านหลังของนางมีร่างสูงของต้นสักยืนอยู่ไม่ห่าง เขาส่งสายตาคมกล้ามาพร้อมรอยยิ้มจางๆ เหมือนจะให้กำลังใจ

“หนูบัวต้องเข้มแข็งนะจ๊ะ ต่อไปนี้ต้องดูแลตัวเองดีๆ ไปหาน้าบ่อยๆ ก็ได้นะคะ จะได้ไม่เหงา”

“บัวขอเอาไข่ไปส่งทุกวันเสาร์เหมือนเคยนะคะ แม่ไก่กำลังออกไข่ดีเลย พอรุ่นนี้หมดแล้วคงไม่ซื้อรุ่นใหม่มาเพิ่ม บัวไม่มีเวลาดูแลขนาดนั้น เรียนหนักขึ้นด้วยค่ะ”

“อีกแค่ปีกว่าก็จบแล้ว อดทนอีกหน่อยนะคะ”

“ไม่ต้องทนเลยค่ะน้าเตือน บัวรักดนตรีอยู่แล้ว”

“ดีแล้วค่ะ ขอให้สนุกกับการเรียนนะคะ น้าไปละ ไปจ้ะต้น” ประโยคหลังนางเตือนใจหันไปบอกลูกชายที่กำลังยกมือไหว้นมเป็ดเพื่อล่ำลา เขาเดินเคียงข้างผู้เป็นมารดาไปเงียบๆ มือแตะข้อศอกหญิงสูงวัยไว้ตลอดเวลา บัวบูชากำลังจะหันหลังกลับก็เห็นต้นสักหันกลับมามองเธอ แววตาที่ส่งมานั้นแม้จะอยู่ท่ามกลางแสงสลัวยามเย็นแต่ก็เห็นชัดเจนว่าแฝงความห่วงใย

เป็นแววตาในแบบที่บัวบูชาชอบเป็นที่สุด
______________________________________________________________


เสียงไก่ขันดังระงมนั้นดูจะรบกวนโสตประสาทมากกว่าทุกวัน บัวบูชาเริ่มกระสับกระส่ายมากขึ้นทุกทีเมื่อรู้สึกเหมือนกำลังถูกบีบรัดรอบลำคอ อึดอัดจนหายใจแทบไม่ออกทั้งที่ไม่มีมือใครสัมผัสบนลำคอเลย ในสมองยังเห็นภาพคุณพ่อกับคุณหญิงแม่ยืนยิ้มอยู่ไม่ไกล แต่พอเธอวิ่งเข้าไปหา ทั้งสองท่านยิ่งดูเหมือนห่างออกไปทุกที แต่แม้จะไกลแค่ไหน บัวบูชาก็เห็นว่าคุณพ่อคุณหญิงแม่กำลังโบกมือลาพร้อมรอยยิ้ม ทั้งที่ใบหน้าของทั้งสองท่านเปื้อนเลือด! หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียง เมื่อเห็นว่าจู่ๆ สองร่างอันแสนคุ้นเคยนั้นก็หายวับไปกับตา

“คุณพ่อคุณแม่ กลับมาก่อนค่ะ กลับมาหาบัวก่อน”

เสียงตะโกนดังลั่นของตัวเองทำเอาบัวบูชาสะดุ้ง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเคาะประตูห้องนอน

“คุณหนูบัว คุณหนูบัวคะ เปิดประตูให้นมหน่อยค่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า ตะโกนลั่นบ้านเลย”

บัวบูชาลุกขึ้นนั่งบนเตียง หอบหายใจจนเหนื่อย ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรับร่างท้วมของนมเป็ด หญิงกลางคนตรงเข้าสวมกอดเธอ มืออวบลูบลงบนแผ่นหลัง เสียงปลอบดังอยู่ข้างหู

“โถๆ คุณหนูบัวของนม ฝันถึงคุณพ่อคุณแม่อีกแล้วใช่ไหมคะเนี่ย แบบนี้นมว่าชักจะไม่ไหวแล้วนะ ต้องหาทางแก้”

“บัวก็ไม่รู้จะแก้ยังไงค่ะนมเป็ด ในฝันทุกครั้งใบหน้าของคุณพ่อกับคุณแม่เปื้อนเลือด เห็นแล้วน่าสงสารที่สุด” หญิงสาวบอก ใบหน้านวลยังชื้นเหงื่อ หัวใจเต้นแรงราวกับได้พบเหตุการณ์จริง

“ต้องเป็นเพราะคุณหนูบัวรู้สึกโดดเดี่ยว ขาดเพื่อนแน่ๆ ในบ้านนี้เหลือแต่นมกับบ่าวไพร่ คุณหนูบัวไม่มีคู่คิด ไม่มีเพื่อนไปไหนมาไหน นมเองก็ล้าสมัยลงทุกที แบบนี้คงต้องปฏิวัติ ในเมื่อคุณท่านทั้งสองไม่อยู่แล้ว นมขอตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างนะคะคุณหนู” แม่นมบอกอย่างมาดมั่น

“เปลี่ยนแปลง?” บัวบูชาผละจากอ้อมกอด จ้องแม่นมของเธอตาแป๋ว เพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้หูฝาด

“ใช่ค่ะ คุณหนูบัวคงไม่รู้หรอกว่าลึกๆ แล้วนมออกจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเลี้ยงคุณหนูแบบโบราณเกินไป ปิดกั้นให้อยู่ในโลกแคบๆ นมกลัวคุณหนูบัวไม่ทันคนอื่น ต่อไปนี้คุณท่านทั้งสองก็ไม่อยู่แล้วด้วย คุณหนูต้องเก่งขึ้น ต้องดูแลตัวเองได้ คงต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง คุณหนูเห็นว่าไงคะ”

“บัวแล้วแต่นมเป็ดค่ะ”

บัวบูชาตอบอย่างชินปาก ... คำว่า ‘แล้วแต่นมเป็ด’ ‘แล้วแต่คุณพ่อคุณแม่’ นั้นเป็นคำติดปากของเธอก็ว่าได้ และตอนนี้เธอก็รู้สึกว่าโดดเดี่ยวอย่างที่แม่นมว่าจริงๆ แม้ตระกูลของคุณพ่อคุณแม่จะเก่าแก่ ร่ำรวย แต่อาภัพที่ไม่ค่อยมีใครนับญาติด้วย ทันทีที่สมบัติทุกอย่างตกเป็นของคุณพ่อซึ่งเป็นลูกโทนโดยไม่กระเส็นกระสายไปให้ญาติคนไหน พวกนั้นจึงตีจากคุณพ่อไปไม่ดูดำดูดี ส่วนทางคุณแม่นั้นญาติมีน้อยมากและส่วนใหญ่ไปตั้งรกรากอยู่ที่ต่างประเทศ

“เริ่มจากอย่างแรกก่อนนะคะ นมตัดสินใจแน่วแน่แล้ว คือจะต้องติดตั้งอินเทอร์เน็ตในบ้านให้คุณหนูบัวเสียที เวลาทำรายงานก็สะดวก ไม่ต้องดั้นด้นไปทำที่บ้านเพื่อน แถมยังได้เปิดหูเปิดตา ทันโลกบ้าง แต่คุณหนูต้องสัญญากับนมก่อนว่าจะแบ่งเวลาให้ดี เข้าดูเฉพาะเรื่องที่ควรดู และไม่ติดเกม ติดคอมพิวเตอร์จนเสียการเรียนนะคะ”

นมเป็ดตั้งข้อกำหนดเสียยาวเหยียด อันที่จริงสิ่งที่นมเป็ดกำลังจะให้นั้นเป็นสิ่งที่บัวบูชาอยากได้มานาน คุณพ่อซึ่งเคยสัญญาจะติดอินเทอร์เน็ตให้ตั้งแต่ตอนเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ก็มาผิดคำพูด เพียงเพราะความเป็นห่วงเกินกว่าเหตุ ที่สุดบัวบูชาก็ได้แค่มีโน้ตบุ๊คส่วนตัวแต่ไม่เคยมีอินเทอร์เน็ตที่บ้านมาจนป่านนี้ ไปบอกเพื่อนๆ คนไหนก็ไม่มีใครเชื่อ

“นมเป็ด!!! นมเป็ดน่ารักที่สุด นี่จะติดเน็ตให้บัวจริงๆ เหรอคะ บัวดีใจที่สุดเลย คราวนี้จะได้ไม่รู้สึกแปลกแยกกับเพื่อนๆ ที่คณะเสียที”

บัวบูชาตะโกนลั่นบ้าน ในที่สุดเธอก็ได้ในสิ่งที่ปรารถนามานาน หญิงสาวตรงเข้าสวมกอดนมเป็ดอีกครั้ง

“นมจะให้คุณประภาโทร. ติดต่อบริษัทมาติดตั้งให้นะ ขานั้นเค้าคล่อง คงรู้หมดว่าเน็ตของบริษัทไหนดีที่สุด เอาละสายแล้ว คุณหนูบัวเตรียมตัวเถอะค่ะ มีเรียนตอนเช้านี่คะ” คุณนมเอ่ยชื่อคุณประภาซึ่งเป็นอดีตเลขาฯ ของคุณดำเกิง แม้เมื่อท่านเกษียณแล้วก็ยังว่าจ้างให้ช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ตามคำสั่ง คุณประภาเป็นเสมือนมือขวาของท่านจนวาระสุดท้าย

“ขอบคุณค่ะนม”

หญิงสาวส่งยิ้มให้แม่นม มั่นใจว่าชีวิตต่อจากนี้จะไม่ต้องเหงา เส้นทางที่เธอก้าวเดินต่อไปคงไม่โดดเดี่ยวเกินไปถ้าสามารถท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้

______________________________________________________________


นมเป็ดปิดประตูห้องนอนของบัวบูชาลงอย่างเบามือ ให้เวลาเธออาบน้ำ แต่งตัวเตรียมไปมหาวิทยาลัย

หญิงกลางคนยืนนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะแหงนหน้ามองขึ้นไปเหนือศีรษะราวกับจะบอกไปถึงคนเบื้องบน

“คุณท่านทั้งสองคะ อิฉันทำถูกต้องแล้วใช่ไหมคะ ให้อิสระกับคุณหนูบัวบ้างเถอะค่ะ อิฉันสงสารเธอมานานแล้ว”

นมเป็ดสูดหายใจลึกๆ เรียกความมั่นใจ นางรักบัวบูชาราวกับลูกของตัวเอง ย่อมไม่อยากให้ความลับที่คุณท่านพยายามปกปิดนั้นเปิดเผย แต่การที่ทำเสมือนกักขังเด็กสาวไว้ในโลกแคบๆ เก่าๆ นางไม่ค่อยเห็นด้วยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

มั่นใจว่าต่อให้ปล่อยบัวบูชาเป็นอิสระมากขึ้น ได้เป็นสาวน้อยที่อยู่ในโลกเดียวกับเพื่อนคนอื่นๆ เธอก็จะยังคงเป็นคนน่ารักเช่นเดิม เพราะถูกหล่อหลอมมาตั้งแต่เด็ก การให้หญิงสาวเปิดกว้างสู่โลกภายนอกก็เพื่อให้ทันคน เข้มแข็ง อยู่ในสังคมปัจจุบันได้ดีขึ้น แม้จะต้องแลกกับการเสี่ยงที่ความลับจะเปิดเผย แต่ก็มั่นใจว่าคุ้ม

ที่สำคัญ นางเองนี่แหละที่จะเป็นคนช่วยปกปิดความลับสำคัญไว้จนสุดชีวิต ไม่มีวันที่ความลับนั้นจะถูกเปิดเผยได้ง่ายๆ แน่ นมเป็ดมั่นใจ

______________________________________________________________


คฤหาสน์อัครบดีศักดิ์สีขาวที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเหมือนกระตุ้นให้ภูวดลก้าวต่อไป จากโรงรถมาจนถึงประตูหน้าบ้าน บอกตัวเองตลอดเวลาว่าต้องเดินหน้าต่อ ...ไม่ใช่เพียงคฤหาสน์หลังนี้เท่านั้นหรอก เท่าที่คาดเดาไว้ บัวบูชาน่าจะได้ครอบครองสมบัติทั้งหมดของตระกูลอัครบดีศักดิ์ เนื่องจากเธอเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลนี้

เมื่อเป็นเช่นนั้น เขาไม่ควรรีรอ การเดินหน้าทำตามความต้องการของผู้ใหญ่ที่แอบหมายมั่นให้บัวบูชากับเขาได้แต่งงานกันจึงกลายเป็นสิ่งสุดยอดปรารถนาของภูวดลไปแล้ว เมื่อทั้งคุณพ่อคุณแม่ของเธอเสียชีวิตไปพร้อมๆ กัน ทรัพย์สมบัติมหาศาลรออยู่ไม่ไกล

“พี่ภู มาแต่เช้าเลยนะคะ”

เสียงใสดังทักทาย ขณะเจ้าตัวเดินออกมาต้อนรับเขาถึงหน้าประตู ภูวดลต้องลอบถอนใจเมื่อเห็นชุดที่หญิงสาวสวมอยู่ ยอมรับว่าปกติก็ไม่ได้สนใจเรื่องเสื้อผ้าของผู้หญิงสักเท่าไร สนก็แต่รูปร่างหน้าตา แต่บัวบูชามักทำให้เขาสะดุดตากับชุดสุดแสนเฉิ่มเชยของเธอได้ทุกครั้งไป

ดูอย่างวันนี้ มีสาวน้อยอายุยี่สิบคนไหนจะยังสวมกางเกงผ้าฝ้ายสีครีมที่ตัดเย็บประณีตกับเสื้อคอฮาวายลายดอกไม้ดอกใหญ่สีสด แขนเสื้อยาวถึงข้อมือ ปกปิดความผ่องใสของผิวสาวที่อยู่ภายในไว้อย่างมิดชิด... ถ้าบอกว่าบัวบูชาหลงมาจากยุคโบราณก็ดูจะไม่เกินจริง

“น้องบัวเตรียมตัวพร้อมหรือยังครับ” เขาแสร้งถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นเต็มที่

“พร้อมแล้วค่ะพี่ภู ชุดขี่ม้าอยู่ในกระเป๋าใบนี้ค่ะ บัวไม่อยากใส่ไปจากบ้าน”

หญิงสาวชูกระเป๋าผ้าแบบย้อนยุคขึ้นอวด รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าทำให้เธอดูดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ภูวดลพยายามเตือนตัวเองว่า ต่อให้เป้าหมายดูเชยเฉิ่มขนาดไหน เธอก็ยังมีดีตรงที่หน้าตาผิวพรรณหาที่ติไม่ได้ สวยในแบบลูกครึ่งแปลกตาอย่างนี้ไม่ใช่หากันง่ายๆ รูปร่างของสาวน้อยก็สมส่วน เลือดตะวันตกที่ผสมมาทำให้เธอดูสาวสะพรั่งเกินวัย แม้จะถูกปกปิดด้วยเสื้อผ้าหลวมโคร่ง แต่คนผ่านสาวๆ มาเยอะอย่างภูวดลก็ยังดูออกว่าบัวบูชามีทรวดทรงซ่อนรูปงดงามใช่ย่อย

“เราไปกันเลยดีมั้ย พี่ต้องออกตัวก่อนนะ ว่าขี่ม้าไม่เก่ง คงไม่ได้ขี่ด้วย แค่เป็นคนพาน้องบัวไปจะดีกว่า เห็นคุณพ่อพี่เล่าว่าปกติน้องบัวไปขี่ม้าบ่อย” ชายหนุ่มชวนคุยเมื่อเข้ามานั่งอยู่ด้วยกันในรถยุโรปคันหรูของเขา จำต้องเลือกเปิดเพลงเก่าของสุนทราภรณ์เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเอาใจเธอขนาดไหน

“ใช่ค่ะ คุณพ่อของบัวชอบขี่ม้า บัวเลยได้ตามไปที่สนามขี่ม้าเป็นประจำ บัวเริ่มขี่เป็นตั้งแต่แปดขวบแล้วค่ะ” น้ำเสียงที่หญิงสาวเล่าเต็มไปด้วยความภูมิใจ แต่ภูวดลกลับรู้สึกว่าเรื่องที่คุยมันออกจะประหลาดอยู่สักหน่อย สาวน้อยคนนี้ถนัดการขี่ม้าอันเป็นกิจกรรมซึ่งน้อยคนจะถนัด ในขณะที่เรื่องอื่นๆ เธอดูจะไม่ทันใคร ประสบการณ์ชีวิตก็แสนน้อยนิด

“ว่าแต่เห็นน้องบัวบ่นๆ อยากติดอินเทอร์เน็ตที่บ้าน ตกลงได้ติดหรือยัง”

“เรียบร้อยแล้วค่ะ พี่ภู บัวดีใจจนพูดไม่ออกเลย ไปเล่าให้ใครฟังต้องว่าบ้าแน่ๆ ที่บ้านเพิ่งจะติดเน็ต” หญิงสาวปิดท้ายด้วยเสียงหัวเราะสดใส ใบหน้าสวยคมดูกระจ่างตา จะว่าไปบัวบูชาก็ไม่ถึงกับทำให้เขารู้สึกอึดอัด ความน่ารักสดใสของเธอมากล้น เพียงแค่มันถูกฉาบทับไว้ด้วยความเชยแบบสุดขั้วเท่านั้นเอง

“นมเป็ดใจดีนะ อนุญาตให้ติดตั้งด้วย เออ พูดถึงคุณนม นึกขึ้นได้ น้องบัวลองถามคุณนมดูหรือยังว่าทำไมทนายความไม่เปิดพินัยกรรมเสียที” ภูวดลเลียบๆ เคียงๆ ถามถึงเรื่องที่เขาอยากรู้ที่สุด

“บัวถามแล้วค่ะ นมเป็ดบอกว่าคุณลุงศักดิ์ชัย ทนายประจำตระกูลทำตามเงื่อนไขในพินัยกรรม คุณพ่อกำหนดไว้ค่ะว่าให้รอเวลา ไม่ให้เปิดพินัยกรรมทันทีหลังท่านเสีย คุณลุงทนายบอกบัวว่าคุณพ่อกำหนดเวลาที่แน่นอนไว้อย่างรอบคอบ ถ้าไม่ถึงเวลานั้นจะห้ามเปิดเด็ดขาด ถึงเปิดไปก็ยังไม่มีผลใดๆ บัวฟังแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไร เพราะทุกวันนี้นมเป็ดก็รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดแทนคุณพ่อคุณแม่ ท่านจัดสรรใส่บัญชีธนาคารไว้หมดแล้วค่ะ รอบคอบมากๆ เลย”

“เรื่องเงินน้องบัวน่าจะจัดการเอง ไปไว้ใจนมเป็ดได้ไง” ชายหนุ่มติง น้ำเสียงจริงจัง

“ทำไมพี่ภูพูดแบบนี้ล่ะคะ นมเป็ดไม่ใช่คนอื่น เธอเป็นเหมือนแม่ของบัวเลยนะคะ เลี้ยงบัวมาตั้งแต่เกิด” บัวบูชาทำเสียงแข็งขึ้นมาทันที

“ยังไงก็แค่คนใช้”

ภูวดลอดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกไป เขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ครอบครัว ‘อัครบดีศักดิ์’ ไว้ใจคนนอกมากไป ถ้าเงินทองรั่วไหลไปหมดจะว่าอย่างไร ทั้งนมเป็ดและบัวบูชาต่างก็ดูโง่พอกัน

ชายหนุ่มรู้สึกถึงความไม่พอใจที่ปรากฏบนใบหน้าหญิงสาว จึงรีบกลบเกลื่อนด้วยการชวนเธอคุยเรื่องอื่นไปตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงสนามขี่ม้าของกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ที่บัวบูชามาขี่เป็นประจำ

“จอดรถด้านหน้านี่เลยก็ได้ค่ะพี่ภู”

หญิงสาวชี้มือไปยังลานจอดรถ ในขณะที่ภูวดลหันไปมองรอบๆ สถานที่ก็พบว่ามันช่างแตกต่างจากสนามขี่ม้าทันสมัยซึ่งเปิดกันมากขึ้นในปัจจุบัน เขาเคยขับผ่านดูเหมือนจะดูดีกว่านี้มาก

“ทำไมน้องบัวไม่ลองไปที่อื่นๆ ดูบ้าง พี่เห็นสนามขี่ม้าเปิดใหม่ดูทันสมัยเยอะแยะ”

“บัวชินกับที่นี่ค่ะ แล้วก็ไม่เห็นจะล้าสมัยตรงไหน เค้าก็ปรับปรุงเป็นระยะนะคะ ถึงจะไม่ใหม่เอี่ยม แต่ก็ดูแลดี ความสะอาดก็ใช้ได้ ม้าก็ดีมากด้วย ที่สำคัญครูฝึกก็คุ้นกันอยู่แล้ว บัวรู้จักมาตั้งแต่เล็ก มาที่นี่ทีไรก็เหมือนมาบ้าน”

ภูวดลหมดคำพูด เขาลอบถอนใจเบาๆ ขณะลงไปเปิดประตูรถให้บัวบูชา ชักไม่แน่ใจว่าจะทนไปได้นานแค่ไหนกับการต้องมาใกล้ชิดดูแลหญิงสาวที่น่าเบื่อคนนี้

แต่สถานภาพทางการเงินในบริษัทของตระกูลซึ่งกำลังง่อนแง่นและคำขอร้องของพ่อก็ทำให้เขาจำต้องเดินหน้าต่อไป ถ้าได้เงินมหาศาลจากตระกูลอัครบดีศักดิ์มาเกื้อกูล ทุกบริษัทในเครือโกลด์คอร์ปอเรชันก็จะอยู่รอด แถมยังได้ขยับขยายไปทำค่ายเพลงอย่างที่เขาใฝ่ฝัน

เขาต้องอดทนและพยายามต่อไป ผู้หญิงซื่อบื้อ อ่อนประสบการณ์อย่างนี้ ไม่ยากนักหรอกที่จะทำให้เธอยอมแต่งงานด้วยในเวลาอันรวดเร็ว เผลอๆ ถ้าเงื่อนไขบ้าบอที่ทนายยังปิดไว้คือการที่บัวบูชาต้องแต่งงานถึงจะได้สมบัติละก็... ถือว่าเรื่องช่างเข้าทางเขาเสียจริงๆ

จบบทที่ 4


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ


___________________________________________________________

ตอบคอมเมนต์ค่ะ

คุณหมีสีชมพู คะ ... อีกไม่นานค่ะ ^^

คุณ Pat คะ ... ขอบคุณที่สงสารหนูบัวและติดตามเชียร์หนูบัวนะคะ

คุณ nunoi คะ ... ตอบได้เลยว่าตามมาอีกเยอะเลยค่ะ และหวังว่านักอ่านจะสนุกกับเรื่องราวเข้มข้นที่จะตามมา อิอิ

คุณ anOO ขา ... ช่วยวิเคราะห์เจาะลึกอีกแล้ว ขอบคุณมากๆ นะคะ ^^

คุณ goldensun คะ ... แอบดีใจค่ะ ที่คุณ goldensun "อิน" กับเนื้อเรื่องมากๆ ...ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

คุณ Auuuu ขา ... ต่อไปจะไม่เศร้าแล้วค่ะ น่าจะมีสีสันขึ้นเรื่อยๆ (หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ อิอิ)

_______________________________________________________





ดาริยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.ย. 2555, 21:21:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 พ.ย. 2555, 07:06:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 2012





<< ตอนที่ 3   ตอนที่ 5 >>
Pat 25 ก.ย. 2555, 21:41:50 น.
นมเป็ดเก็บความลับอะไรไว้น้า(ชาติกำเนิดหนูบัวหรือเปล่าน้อ คุณท่านมีลูกตอนแก่นี่ก็น่าสงสัย) คนหวังสมบัติหนูบัวมาแล้วหนึ่ง


หมีสีชมพู 26 ก.ย. 2555, 07:21:13 น.
ทำไมบัวไม่ประท้วงที่ไม่มีเน็ตใช้อ่ะ


แว่นใส 26 ก.ย. 2555, 09:52:07 น.
ระวังตัวนะ เสือหิวโผล่มาแล้ว


goldensun 26 ก.ย. 2555, 13:04:31 น.
ปริศนามาอีกเรื่อง ความลับของบัว เกี่ยวกับที่เป็นลูกครึ่งชัดเจนรึเปล่า
เริ่มชัดเรื่องความรู้สึกของภูแล้ว บัวจะทันเล่ห์ภูมั้ย บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ยังแล้วแต่นมเป็ดอยู่เลย


nunoi 27 ก.ย. 2555, 00:09:05 น.
ความลับน่าจะเป็นชาติกำเนิดของหนูบัวนะ (หรือเปล่า) ยังไงก็เอาใจช่วยหนูบัวนะจ๊ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account