หัวใจหลงเงา(จบแล้วค่ะ)
เมื่อสาวน้อยสุดเชยราวกับหลงมาจากยุคโบราณพบจุดเปลี่ยนจนต้องลุกขึ้นมาปรับภาพลักษณ์ใหม่หมด จากยายสุดเฉิ่มเป็นสาวน้อยสวยใสสไตล์วินเทจ

เพียงเธอเริ่มเปลี่ยนลุคใหม่ก็ไปเข้าตานักร้องหนุ่มวงบอยแบนด์แสนเจ้าชู้ ที่ตามจีบเป็นว่าเล่น เรื่องคงไม่ชุลมุนขนาดนี้เพราะแต่ละคนที่มาจีบล้วนมีเบื้องหลังไม่น่าไว้วางใจจนพี่ชายต่างสายเลือดชื่อ 'ต้นสัก' ที่แอบรักเธอมานานต้องคอยตามดูแล กันท่าสารพัด จนเธอรอดเงื้อมมือนักร้องมาได้

แต่เธอหลงรักพี่ชายคนนี้ เข้าอย่างจัง ทั้งที่ความจริงในตอนหลังเปิดเผยว่าเขาเป็นลูกพ่อเดียวกันกับเธอ!

แล้วบัวบูชาต้องทำเช่นไร ในสถานการณ์กระอักกระอ่วนสุดแสนหักมุมเช่นนี้

Tags: อดีตสาวน้อยสุดเชยกับวงบอยแบนด์และพี่ชายสุดที่รัก

ตอน: ตอนที่ 6

บทที่ 6


ต้นสักเดินเข้ามาถึงหน้าห้องทำงานส่วนตัวของเพื่อน เพิ่งแน่ใจวันนี้เองว่าเพื่อนสนิทที่สุดในคณะของเขาเป็น ‘ทายาทมหาเศรษฐี’ จริง ไม่ใช่แค่คำเล่าลือ

ก็เมื่อสมัยยังเรียนอยู่ด้วยกันในมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงของภาคเหนือ วิษณุทำตัวติดดิน พักอยู่ในหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัย เป็นรูมเมตของต้นสักตลอดสี่ปีที่เรียนอยู่ที่นั่น และไม่ค่อยเล่าถึงเรื่องครอบครัวของเขาที่กรุงเทพฯ ให้ฟังมากนัก บอกแค่ว่าเป็น ‘ลูกพ่อค้า’ เท่านั้นเอง

จนกระทั่งเรียนจบ ย้ายมาทำงานในเมืองหลวง ต้นสักถึงได้รู้ว่าวิษณุเป็นลูกพ่อค้าก็จริง แต่เป็นพ่อค้าที่ไม่ได้ค้าขายทั่วไป คุณพ่อของวิษณุเป็นถึงเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการเพลงไทย เป็นต้นสังกัดที่สร้างสรรค์นักร้องคุณภาพโด่งดังไปทั่วประเทศมานับไม่ถ้วน และเพื่อนสนิทของเขาก็ถูกวางตัวให้มาสานต่องานในบริษัทนี้แทนผู้เป็นบิดาทันทีที่เรียนจบ

ในเมื่อสายงานเป็นสายที่ต้นสักไม่ถนัด ทั้งสองจึงแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง ต้นสักเวียนว่ายอยู่กับการเป็นพนักงานในบริษัทต่างๆ มาสามปีกว่า แต่ก็ยังไม่พบว่าที่ไหนจะทำให้เขามีความสุขกับงานได้มากนัก น่าจะเป็นเพราะความรักอิสระ ทำให้เขาไม่ถนัดงานนั่งโต๊ะเอาเสียเลย

เมื่อเช้านี้ ตอนที่วิษณุโทรศัพท์มาบอกว่ามีงานน่าสนใจจะให้เขาทำ แถมไม่ใช่งานในสำนักงาน ต้นสักจึงรีบมาหาเพื่อนตามนัดทันที

“คุณต้นสัก เพื่อนของคุณวิษณุใช่มั้ยคะ ท่านสั่งไว้ว่าถ้าคุณมาถึงให้พาเข้าไปพบได้เลย เชิญค่ะ”

เลขาฯ สาวที่นั่งประจำอยู่ตรงโต๊ะหน้าห้องออกปากทักทันทีที่ต้นสักเดินมาถึง ท่าทางคล่องตัวกระฉับกระเฉง การแต่งกายด้วยชุดฟอร์มของบริษัทสีน้ำเงินเข้มทำให้เธอดูน่าเชื่อถือ ... อันที่จริงบริษัทใหญ่ยักษ์นี้ดู น่าเชื่อถือมาตั้งแต่ตึกสูงเก้าชั้นอันทันสมัยนี่แล้ว ต้นสักไม่เคยนึกเลยจริงๆ ว่าเพื่อนสนิทที่ทำตัวสุดแสนธรรมดาจะเป็น ‘ทายาทธุรกิจพันล้าน’ อย่างที่หนังสือพิมพ์พากันตั้งฉายาให้ จนกระทั่งได้มาเห็นกับตาวันนี้
ชายหนุ่มก้าวเท้าตามเลขาฯ สาวสวยเข้าไปในห้องทำงาน จู่ๆ ก็รู้สึกไม่แน่ใจว่ามิตรภาพที่มีต่อกันจะยังเหมือนเดิมหรือเปล่า ในเมื่อวิษณุกลายเป็นรองประธานของบริษัทไปแบบนี้

“อ้าวเฮ้ย! มาเร็วเชียวนะไอ้ต้น นั่งก่อนเลย ...คุณแจน ผมขอกาแฟสองที่นะครับ”

วิษณุในชุดสูทสีเทาเข้มลุกจากโต๊ะทำงานอันใหญ่โต ตรงเข้ามาหา แค่เห็นรอยยิ้มและท่าทางของเพื่อน ต้นสักก็มั่นใจแล้วว่ามันยังเหมือนเดิม เพียงแค่เสื้อผ้าและสิ่งต่างๆ รายรอบตัวเท่านั้นที่เปลี่ยนไป

“บริษัทพ่อแกใหญ่จริงๆ เลยนะณุ ข้าไม่นึกเลยว่าจะใหญ่ขนาดนี้”

“มันก็ค่อยๆ ขยายตามกำลังน่ะ นี่ๆ แกเลิกทำตัวเกร็งแบบนั้นได้แล้วนะไอ้ต้น ข้าหมั่นไส้ว่ะ เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแหละ ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปหรอก”

“อืม” ต้นสักตอบออกไปทั้งที่ไม่มั่นใจสักนิด ตั้งแต่เรียนจบมา เขาแทบไม่ได้พบวิษณุอีกเลย มีโทรศัพท์คุยกันบ้างก็ไม่บ่อยนัก เนื่องจากรู้ว่าเพื่อนกำลังรับหน้าที่ดูแลบริษัทแทนบิดาซึ่งสุขภาพไม่ค่อยดี วิษณุต้องรับช่วงงานต่อมาแทบทั้งหมด ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องง่าย

“ข้าโคตรเหนื่อยเลยว่ะต้น อยากได้คนสนิทๆ กันมาช่วยทำงานบ้าง แล้วงานนี้ข้าก็นึกถึงแกก่อนเลยนะ เห็นว่างานที่ทำๆ อยู่ก็ไม่ได้แฮปปีเท่าไหร่ไม่ใช่เหรอ”

“อืม ใช่ อย่างที่รู้แหละ ข้าไม่ค่อยถูกกับการนั่งโต๊ะทำงานทั้งวัน แต่มันเลือกได้ซะที่ไหน ไม่ทำก็อดตาย” ต้นสักนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ในห้อง โดยมีวิษณุนั่งลงข้างๆ กันอย่างไม่ต้องมีพิธีรีตอง

“ข้าถึงได้โทร. เรียกแกมาวันนี้ไง ถ้าแกไม่ชอบนั่งโต๊ะละก็ งานนี้เด็ดเลย แกไม่ต้องเข้ามาที่นี่ด้วยซ้ำ ถ้าไม่จำเป็น”

เลขานุการสาวสวยวางถ้วยกาแฟสองถ้วยพร้อมคุกกี้จานเล็กลงบนโต๊ะหน้าโซฟา แล้วขอตัวเดินออกไป

“ไม่อยากเชื่อว่ะ จบการตลาดอย่างพวกเรา คงไม่พ้นขลุกอยู่กับการวางแผนและตัวเลขหรอก แกกำลังบอกว่าข้าจะได้ทำงานให้บริษัทนี้ โดยแทบไม่ต้องเข้ามาที่นี่เลยงั้นเหรอ ถามจริง งานอะไรวะ”

ต้นสักเริ่มนึกสนใจขึ้นมาอย่างจริงจัง ยามนี้งานอะไรก็ได้ ขอเพียงได้เงินมาใช้จ่ายในครอบครัว เมื่อคุณดำเกิงเสียชีวิตไปแล้ว เงินอุปการะที่แม่เคยได้ทุกเดือนก็หยุดไป ถึงเวลาที่เขาต้องจริงจังกับการทำงานหาเงินเลี้ยงดูมารดาแล้ว ลำพังค่าภาพวาดสีน้ำที่ทำเป็นงานอดิเรกกับการเป็นพนักงานในบริษัทที่ผ่านๆ มานั้น ได้เงินพอแค่เลี้ยงตัวเองและมอบให้แม่จำนวนไม่มากนัก

“เป็นผู้จัดการส่วนตัวนักร้องว่ะต้น ข้าอยากได้คนสุขุมหน่อยอย่างแกมาดูแลศิลปิน”

“ผู้จัดการส่วนตัวนักร้อง! ... บ้าไปแล้ว ข้าทำไม่ได้แน่ ข้าเอาคนพวกนั้นไม่อยู่หรอก เท่าที่เคยได้ยิน ส่วนใหญ่ผู้จัดการดารานักร้องจะออกแนวตุ้งติ้ง เข้าถึงคนได้ง่าย คล่องคลั่กแล้วยังอึดด้วย ทำไมแกไม่ลองหาพวกนั้นดู ขอโทษจริงๆ ว่ะเพื่อน ข้าคงต้องขอบาย ข้าแทบไม่เคยเฉียดเข้าใกล้วงการนี้เลยนะ แกก็น่าจะรู้” ต้นสักปฏิเสธพัลวัน ในใจนึกถึงภาพผู้จัดการดาราคนดังที่ชอบหิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมสีแสบตาใบเบ้อเริ่ม เดินสายออกงานเป็นว่าเล่น ดูเฉิดฉายไม่แพ้สาวแท้คนไหน...ซึ่งช่างห่างไกลจากตัวเขาเหลือเกิน

“ก็เพราะแกไม่เคยอยู่ในวงการนี่แหละ ข้าถึงเลือกแกไง อยากให้แกดูแลนักร้องของเราแบบพี่ดูแลน้อง แบบธรรมชาติหน่อยน่ะ เด็กๆ จะได้อบอุ่น” วิษณุบอกเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ ซึ่งต้นสักไม่ได้คิดอย่างนั้นสักนิด

“เด็กๆ ... นี่หมายความว่ามีหลายคนเหรอ ที่ข้าต้องดูแลน่ะ”

“ก็เออน่ะสิ ถ้างานเล็กๆ ดูแลตัวต่อตัว คงหาไม่ยาก แต่นี่ แกต้องดูแลวงบอยแบนด์สามหนุ่ม ชื่อวงเดอะบีชว่ะ”

“สามหนุ่ม! ให้คนอย่างข้าเนี่ยนะ ดูแลวัยรุ่มสามคน” ต้นสักโวยวายลั่น

“ใช่ เป็นสามคนที่บริษัทมั่นใจมากว่าต้องโด่งดังเป็นพลุแตก ทันทีที่อัลบัมแรกของพวกเขาออกวางขาย เราจะทุ่มกับโปรเจกต์นี้สุดตัว มั่นใจว่าบอยแบนด์ไทยแท้ที่น่ารักใสๆ แบบนี้จะตีตลาดได้” น้ำเสียงของวิษณุดูมั่นอกมั่นใจอย่างที่เขาบอกจริงๆ

“ข้าก็ยังรู้สึกว่าคงไม่ถูกกับงานนี้อยู่ดี” แม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจความคิดของวิษณุ แต่น้ำเสียงของต้นสักก็อ่อนลงบ้างแล้ว

“เอาน่าต้น นึกว่าช่วยกันไปก่อนนะ มันค่อนข้างกะทันหัน ข้าหาคนที่ไว้ใจได้ยากอยู่สักหน่อย เพราะการปั้นวงเดอะบีชนี่เป็นเรื่องลับ เราต้องไม่ให้คู่แข่งรู้ มันเป็นไม้เด็ดที่จะคว้าอันดับหนึ่งในตลาดเพลงมาครอง น้องๆ สามคนนี้มาจากโครงการประกวดร้องเพลงที่เป็นเรียลลิตีด้วย แกต้องรู้จักแน่ เวทีเอ เอส ... อคาเดมี สเตชันน่ะ โด่งดังจะตาย อย่าบอกนะว่าไม่รู้จัก”

“ก็... รู้จักสิ ออกจะดังขนาดนั้น” ตอบออกไปเบาๆ ทั้งที่ในสมองกำลังทำงานอย่างหนัก ต้นสักพยายามคิดให้รอบด้านกับข้อเสนอที่เพิ่งได้รับมา

“ตอนนี้เรตติ้งสูงสุดเลยล่ะ เราจึงคิดจะต่อยอดทันทีที่จบซีซัน จะคว้าสามคนที่วางตัวไว้แล้วมาทำวงทันที ก่อนอื่นเอาเป็นว่าเพื่อให้ชัวร์ว่าแกจะรู้จักน้องๆ ทั้งสามคนดี ข้าขอบังคับให้เอาไอ้นี่กลับบ้านไปด้วย”

วิษณุผลักกล่องกระดาษที่บรรจุแผ่นซีดีในนั้นไม่ต่ำกว่าสิบแผ่นมาตรงหน้า

“ให้แกเอาไปศึกษาไงล่ะต้น นี่เป็นเรื่องของน้องๆ สามคนนั้น มีทั้งประวัติคร่าวๆ ไปถ่ายทำที่บ้านน้องเลยนะ อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเหตุการณ์ในบ้านเอ เอส จะโฟกัสเฉพาะสามคนในช่วงที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน แกจะได้รู้นิสัยที่แท้จริงของน้อง แล้วก็ยังมีเพลงที่พวกเขาร้องบนเวที คัดไว้ให้แกดูง่ายๆ ไง ข้ามั่นใจว่าข้อมูลทั้งหมดนั่นเพียงพอที่จะทำให้แกรู้จักน้องๆ มากขึ้น เชื่อข้าเถอะต้น งานนี้เป็นงานที่ดีนะ รายได้งามด้วย แม่แกคงสบายไปทั้งชาติละ”

วิษณุช่างรู้ใจ คำว่า ‘แม่’ ที่เอามาอ้าง ทำให้ต้นสักต้องคิดหนัก แม้งานนี้ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ถนัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอันที่จริงต้นสักชอบฟังเพลง มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพลงไม่น้อย สมัยเรียนยังเคยไปเล่นกีตาร์ให้วงของคณะด้วยซ้ำ เรื่องเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้นักร้องวัยรุ่นนั้นไม่น่าเกินความสามารถ ... ที่สำคัญ รายได้ก็คงไม่น้อยนัก

“ข้าตกลงว่ะณุ ยังไงก็ดีกว่าตกงานอยู่แบบนี้ละนะ” ในที่สุดต้นสักก็ตัดสินใจตอบออกไป ทั้งที่ยังกังวลอยู่ไม่น้อย

“วันก่อนข้าโทร. ไปที่ร้าน เห็นน้าเตือนเล่าว่าแกออกจากงานล่าสุดมาอีกแล้ว ข้าก็เลยเกิดความคิดจะให้แกทำงานนี้แหละ เชื่อข้าเหอะ งานดี เงินดี สำหรับแกเนี่ยพิเศษนะ จะได้รับเงินเดือนแบบพนักงานประจำด้วย เพราะช่วงแรกเนี่ย น้องๆ เค้าเพิ่งฟอร์มวงใหม่ๆ คงยังไม่มีงานมาก แต่พอเริ่มรับงานแล้ว คราวนี้แกก็จะได้ส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์อีกด้วย ส่วนเรื่องการแต่งตัวของศิลปิน เรื่องการรับงานและอีกจิปาถะจะมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนคอยช่วย แกไม่ต้องห่วง อยากให้แกเน้นดูแลความประพฤติ เป็นกำลังใจ เป็นที่ปรึกษาให้น้องๆ เพราะแต่ละคนในวงยังใหม่ ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเลย”

“แล้วให้มาอยู่กับผู้จัดการใหม่ ไม่มีประสบการณ์อีกเนี่ยนะ” ต้นสักอดท้วงขึ้นมาไม่ได้

“ใครว่าล่ะ ก็บอกแกแล้วไงว่าเราทำงานเป็นทีมโว้ย นอกจากแกแล้ว ยังมีอีกหลายฝ่ายคอยช่วยๆ กัน ก็ต้องยอมรับล่ะว่าบริษัทเรายังใหม่กับการทำวงบอยแบนด์ แต่งานนี้ต้องทุ่มสุดตัว โอกาสดังมีสูง เรามีฝ่ายโปรโมตโดยตรงอยู่แล้ว เอาน่า แกแค่ทำตัวเป็นพี่ที่ดีของน้องๆ ก็พอ”

“ตกลงว่ะ ขอบใจนะณุ งานก็ดูน่าสนใจดี” ชายหนุ่มตัดสินใจแน่วแน่เมื่อทำใจกว้างฟังๆ ดูแล้วหน้าที่ของเขาไม่ได้หนักหนาอะไรนัก เพื่อนรักยิ้มพอใจ ย้ำกับเขาอีกครั้ง

“รับรอง แกต้องชอบ มันไม่ซ้ำซากจำเจเหมือนงานนั่งในออฟฟิซหรอก ถ้าตกลงตามนี้ข้าจะถือว่าแกเป็นพนักงานของบริษัทตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเลยนะ วันนี้ไหนๆ มาแล้วก็ไปเซ็นสัญญาจ้างงานอะไรนิดหน่อยที่ชั้นสี่ซะเลย ดีใจว่ะเพื่อน ที่เราจะได้เจอกันบ่อยๆ”

วิษณุลุกขึ้นยืน ก่อนจะตบบ่าเพื่อนเบาๆ

“ข้าส่งแกแค่นี้นะต้น แล้วค่อยโทร. คุยกัน”

ต้นสักเดินออกมาหน้าห้องทำงาน เลขาฯ สาวที่ชื่อแจนรู้หน้าที่ เธอเดินนำไปยังลิฟต์ กดเรียกเพื่อจะลงไปยังชั้นสี่

“เดี๋ยวแจนพาไปส่งที่แผนกบุคคลนะคะ คุณต้น ยินดีที่จะได้ร่วมงานกันค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มกว้าง ทำให้ใบหน้าหวานขาวใสนั้นดูน่ามองยิ่งขึ้นไปอีก

“ครับ มีอะไรคุณแจนก็แนะนำด้วยแล้วกัน ผมยังใหม่มาก”

“ได้เลยค่ะ คุณต้นไม่ต้องห่วง พวกเราประชุมสรุปกันแล้วว่าคนมาดูแลน้องๆ ทั้งสาม ถ้าออกแนวไม่ต้องคล่องคลั่กมากก็จะดี เพราะเรามีคนคล่องๆ คอยดูแลด้านอื่นอยู่แล้ว งานนี้วงเดอะบีชต้องดังกับดังเท่านั้นค่ะ”

แจนบอกอย่างมั่นใจ ต้นสักรู้สึกได้เลยว่าวงบอยแบนด์วงนี้เป็นเสมือนความหวังของบริษัท ว่าจะกอบโกยเงินมหาศาลได้ และไม่อยากเชื่อว่าเขาถูกเลือก แถมยังถลำตัวเข้ามาสู่วงจรนี้ไปด้วย

มาถึงขนาดนี้แล้วก็ต้องทุ่มเทเต็มที่ ... ชายหนุ่มกระชับกล่องซีดีกล่องใหญ่ในมือไว้แน่น หวังว่าจะทำความรู้จักสามหนุ่มให้มากที่สุดได้ในเวลาไม่นานนัก

______________________________________________________________


ต้นสักเลือกแผ่นซีดีที่พิมพ์ชื่อหน้าปกไว้ว่า ‘ซี’ ... SEA... แล้วส่งแผ่นเข้าไปในเครื่องเล่น ทันทีที่ภาพปรากฏขึ้นบนจอทีวี เขาถึงขั้นตกตะลึงจนอ้าปากค้าง

ชายหนุ่มที่ชื่อ ซี ... ศิรพล คนนี้ดูดีเอามากๆ ใบหน้าคมสันที่มีไรหนวดเคราจางๆ นั้น
แฝงแววใสซื่อ ติดจะขี้เล่น ดูไม่มีพิษภัย

ไม่น่าเชื่อว่าซีมีที่มาจากไร่นาเลยก็ว่าได้!

ภาพเคลื่อนไหวนั้นเริ่มจากบ้านในต่างจังหวัดของศิรพล ... บ้านที่น่าจะใช้คำว่า ‘กระท่อมเก่าๆ’ แทนเสียมากกว่า นอกจากดูซอมซ่อน่าเวทนาแล้ว ยังดูไม่สะอาดนักอีกด้วย

“ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ทีมงานบุกมาโดยไม่บอกกล่าว เราตั้งใจจะให้ท่านผู้ชมทางบ้านได้เห็นสภาพอันแท้จริง เป็นภาพชีวิตที่ไม่ได้ปรุงแต่งของ ซี ศิรพล เด็กหนุ่มบ้านนาที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง จนดั้นด้นเข้าไปประกวดบนเวทีเอ เอส ของเรา ขอย้ำว่านี่เป็นบ้านของซีจริงๆ ไม่มีการจัดฉากใดๆ ทั้งสิ้น”

เสียงพิธีกรวัยรุ่นชื่อดังอธิบาย ขณะเจ้าตัวก็เดินเข้าไปในบ้าน พร้อมกับยกมือไหว้หญิงชราคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ติดหน้าต่าง

“น้องซีครับ บอกท่านผู้ชมหน่อย ว่าคุณยายท่านนี้เป็นใครครับ”

กล้องจับลงบนใบหน้าของซี ศิรพล ในท่ามกลางแสงสลัว ต้นสักยังมองเห็นถึงความหล่อเข้มของเด็กหนุ่ม แทบไม่เชื่อสายตาว่าชายที่เหมือนเปล่งรัศมีแห่งดาราขนาดนั้น จะมีที่มาจากบ้านเก่าๆ ซึ่งเขายืนอยู่

“นี่คุณยายแท้ๆ ของซีเองครับ คุณพ่อคุณแม่ซีเสียชีวิตตั้งแต่ซีอายุสิบขวบ มีคุณยายคนนี้คนเดียวที่ช่วยเลี้ยงดูซีมาตลอด ซีตั้งใจไว้แล้วว่าหลังออกจากบ้านเอ เอส ถ้ามีงานเข้ามา ซีจะรับทำงานให้ดีที่สุด ไม่หวั่นว่าต้องเหนื่อยแค่ไหน ซีจะเลี้ยงคุณยายเองครับ”

ชายหนุ่มตรงเข้าไปสวมกอดหญิงสูงวัย สองคนยายหลานน้ำตาไหลพราก ฝ่ายคุณยายใช้มืออันเหี่ยวย่นลูบศีรษะหลานชายตลอดเวลา

ภาพตัดไปยังวันประกวดร้องเพลงรอบคัดเลือกของภาคอีสาน ซี ศิรพล น่าจะเป็นนักร้องเพียงหนึ่งเดียวที่มาประกวดโดยไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อนๆ มาเชียร์สักคน แต่เขาก็ผ่านเข้ารอบมาได้ เป็นหนึ่งในตัวแทนจากภาคอีสาน และที่สุด ได้มาแข่งขันในกรุงเทพฯ ผ่านเข้ามาเป็นหนึ่งในสิบสองของนักล่าฝัน เอ เอส...อคาเดมี สเตชัน
ต้นสักปิดเครื่องเล่นเพื่อพักสายตา วันนี้เขาได้รู้จักกับเด็กหนุ่มที่ชื่อ ซี ศิรพลมามากพอดู เพราะเมื่อช่วงเช้าก็เปิดดูการร้องเพลงบนเวทีของเขา ซึ่งทำได้ดีมาก ต้องยอมรับจริงๆ ว่าทางบริษัทช่างคัดสรรเด็กหนุ่มที่จะมาทำวงบอยแบนด์ได้ดีสุดยอด

นี่เป็นแค่หนึ่งในสาม ต้นสักตั้งใจแล้วว่าวันนี้เขาต้องศึกษาเด็กหนุ่มทั้งสามคนที่เขาต้องดูแล ประหนึ่งเป็นน้องชาย เขาต้องรู้จักทุกคนให้ดีที่สุด

ชายหนุ่มใส่แผ่นซีดีที่พิมพ์หน้าปกว่า ‘แซนด์’ ...SAND... ลงไป รู้สึกตื่นเต้น ที่จะได้เห็นสภาพครอบครัวของเด็กหนุ่มคนนี้

แซนด์ ... สหรัฐ เป็นเด็กหนุ่มที่ต่างจาก ซี อย่างสุดขั้ว

แซนด์แต่งกายเหมือนหลุดออกมาจากแคตตาล็อคแฟชั่นเกาหลี ผิวของเขาขาวจัด ใบหน้าผ่องใส ดวงตาเรียวทรงเสน่ห์มีแววขี้เล่น ภาพในทีวีที่ถ่ายบ้านหลังมหึมาของตระกูลนั้น แสดงให้เห็นถึงฐานะของแซนด์ ช่างเหมาะกับใบหน้าท่าทางแสนสำอางเสียเหลือเกิน

“ท่านผู้ชมครับ นี่เป็นบ้านหลังงามที่แซนด์ สหรัฐ ขวัญใจสาวๆ อาศัยอยู่นะครับ จะเห็นได้ว่าโอ่โถง น่าอยู่มาก เราจะพาเข้ามาพบกับปะป๊า หม่าม้าของแซนด์กันนะครับ น้องแซนด์ครับ ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่าทั้งสองท่านดุหรือเปล่า” พิธีกรหนุ่มส่งไมค์ไปให้สหรัฐ

“ไม่เลยครับพี่ ปะป๊า หม่าม้าใจดีมาก ไม่ต้องห่วงครับ เชิญทางนี้เลย”

สหรัฐ เดินนำหน้าตากล้องและพิธีกรเข้าไปถึงห้องรับแขกซึ่งตกแต่งอย่างอลังการสไตล์จีน ชุดรับแขกทำจากไม้แกะสลักเป็นรูปมังกรผงาด ฝีมือวิจิตรบรรจงบ่งบอกคุณค่าและราคาของมันได้เป็นอย่างดี ต้นสักเห็นแค่นี้ก็เดาได้แล้วว่าสำหรับสหรัฐ คำที่เคยได้ยินใครๆ เรียกขานเขาว่า เจ้าชายแห่งบ้านเอ เอส ก็ไม่ได้เกินจริงไปนัก
ครอบครัวอันแสนร่ำรวยและอบอุ่นหล่อหลอมให้แซนด์ สหรัฐเป็นคนมองโลกในแง่ดี สดใสอยู่เสมอจนดูเหมือนเด็กกว่าอีกสองคน ทั้งที่อายุไล่เลี่ยกัน

ผ่านไปสองคน เหลืออีกหนึ่งเดียวคือ ซัน ... อาทิตย์ สภาพบ้านของเขาจะเป็นอย่างไรนะ

ต้นสักใส่แผ่นซีดี ที่ตั้งใจจะดูเป็นแผ่นสุดท้ายในวันนี้เข้าไปในเครื่องเล่น ระหว่างรอภาพปรากฏก็จ้องมองตัวหนังสือบนกล่องซีดี ‘ซัน’ ...SUN...

“วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับน้องซันกันนะครับ บ้านน้องซันอยู่จังหวัดไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางแป๊บเดียวก็มาถึงแล้ว น้องซันอยู่ที่นี่กับใครครับ”

กล้องจับไปยังใบหน้าคมสัน แฝงแววขี้เล่น ลักยิ้มบนใบหน้าเพิ่มความน่ารักให้นักร้องหนุ่มได้ไม่น้อย

พิธีกรชายก้าวเท้าเข้าไปยังบ้านเรือนไทยหลังงามริมน้ำเจ้าพระยา กล้องแพนให้เห็นสภาพภายในบ้าน แม้จะไม่หรูหรา แต่คงไว้ซึ่งความเรียบง่าย น่าอยู่มากที่สุดในบ้านสามหลังของสามหนุ่ม ตามความรู้สึกของต้นสัก

“ผมอยู่กับคุณพ่อครับ คุณแม่เสียไปหลายปีแล้ว”

แม้น้ำเสียงจะมีแววเศร้า แต่แววตาของซัน อาทิตย์ยังฉาบฉายไปด้วยเสน่ห์ มีชีวิตชีวา

เป็นอีกครั้งที่ต้นสักต้องยอมรับว่าทางบริษัทช่างคัดเลือกศิลปินที่จะมาร่วมกันทำวงบอยแบนด์ได้ดีสุดยอด เขาเริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าการเป็นผู้จัดการให้ วงเดอะบีช น่าจะเป็นงานที่ก้าวหน้าและท้าทายไม่น้อย

ขนาดเขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ นั่งดูชีวิตความเป็นไปของทั้งสามหนุ่ม ต้นสักยังรู้สึกได้เลยว่าทั้งสามช่างน่ารัก มีเสน่ห์กันคนละแบบ

แล้วอย่างนี้สาวๆ ทั้งประเทศจะไม่รักไม่หลงวงเดอะบีชได้อย่างไร


จบบทที่ 6

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ

___________________________________________________________


ตอบคอมเมนต์ค่ะ


คุณ หมีสีชมพู คะ ... ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่า ^^

คุณ Pat ขา... อ่านขาดมากๆ ค่ะ เดี๋ยวต้องเริ่มประหลาดใจบ่อยๆ ละ อิอิ

คุณ nunoi คะ ... พี่ต้นแกหล่อค่ะ กวักสาวๆ ได้พอควร (เรื่องนี้ตอนเขียน ดาริยาจินตนาการถึงเคน ธีรเดช เพราะออกขาวๆ ประสาหนุ่มเหนือ >O<)

คุณ anOO คะ... ขอบคุณมากๆ ค่ะ อ่านทีละกี่ตอนก็ได้ แต่อยากให้อ่าน อย่าทิ้งกันนะคะ ^^

คุณ goldensun คะ ... จริงที่สุดเลยค่ะ นั่นคือความรู้สึกของต้นสักเลย ^^


___________________________________________________________



ดาริยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ต.ค. 2555, 05:46:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 พ.ย. 2555, 07:07:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1794





<< ตอนที่ 5   ตอนที่ 7 >>
หมีสีชมพู 1 ต.ค. 2555, 12:07:02 น.
เด็ก af หรือ the star คะเนี่ย


goldensun 1 ต.ค. 2555, 13:48:18 น.
ชื่อเล่นสอดคล้องกันจัง 3S เลยนะคะ ต้นสักได้งานใหม่นี่ คงได้ชนกับอีตาภูแน่ แล้วต้นต้องปรับลุคใหม่ด้วยมั้ย


anOO 1 ต.ค. 2555, 17:47:34 น.
เอาพี่ต้นสักไปเป็นผู้จัดการเนี้ยนะ ไม่อยากจะคิด


nunoi 1 ต.ค. 2555, 18:33:45 น.
เอาให้อยู่นะพี่ต้นสัก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account