บ่วงรักแรงอธิษฐาน
รักในปัจจุบันผูกพันกับรักที่ปวดร้าวในอดีตชาติ
คำอธิษฐานและบุพเพสันนิวาสนำเขาและเธอกลับมาพบกันอีกครั้ง
แต่จะทำเช่นไรเมื่อหนึ่งคือเพื่อนรักที่ยอมสละชีพเพื่อเราและหนึ่งคือยอดดวงใจที่เฝ้ารักเฝ้ารอมาหลายภพชาติ
Tags: ย้อนอดีต ระลึกชาติ บุพเพสันนิวาส

ตอน: ตอนที่ 3 บุพเพอาละวาด



“น้ำเย็นชื่นใจจังเลย พี่ปราณกับพี่ปอนด์ลงมาเล่นด้วยกันสิคะ” น้องสาวคนเล็กที่ชื่นชอบน้ำใสไหลเย็นเป็นชีวิตจิตใจร้องชวน ขณะลอยคอในน้ำที่ลึกเพียงอก สองมือตีน้ำป๋อมแป๋ม

“เล่นกันไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่กับพี่ปราณจะไปหาของกิน ยายปริมดูแลน้องดีๆ ล่ะ”

“เจ้าค่ะคุณพี่ แหมๆ ทีน้องคนนี้ไม่เห็นจะแสดงความเป็นห่วงบ้างเลยนะ จิกกัดอยู่ได้ทุกวันไม่รู้เบื่อเลย”
“ไม่ต้องพูดมากเป็นพี่ก็ต้องดูแลน้อง เดี๋ยวพี่มา”

คนเป็นพี่ชายกอดคอเพื่อนรักผละจากไป ทิ้งให้น้องสาวทั้งสองเล่นน้ำรอไปก่อนตามลำพัง บริเวณน้ำตกมีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำกันบ้างประปราย วันนี้พี่ปอนด์ขอยืมรถคันเล็กของคุณพ่อพาน้องๆ ออกมาเปิดหูเปิดตาบ้าง ไม่ได้ออกไปไหนให้ไกลจากควันพิษนานแล้ว ซึ่งขับรถเพียงชั่วโมงเศษๆ ทั้งสี่ก็มาถึงน้ำตกชื่อดังซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

ปิ่นปัทมานั้นดูจะชอบน้ำเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะน้ำตกหรือทะเล เจอเมื่อไหร่ก็อยากจะลงไปดำผุดดำว่ายให้ชุ่มฉ่ำเสียทุกทีไป ถึงจะเคยมีประสบการณ์เลวร้ายเมื่อวัยเด็ก แต่ก็ไม่ได้ทำให้กลัวการเล่นน้ำแต่อย่างใด วันนี้สองสาวมาในชุดเล่นน้ำกางเกงยีนส์ขาสั้นเสมอเข่าและเสื้อยืดลายริ้วสีทึบ ปลอดภัยแม้เวลาเปียกน้ำท่ามกลางสายตาประชาชีกอทั้งหลาย

สองสาวดำผุดดำว่ายในบริเวณน้ำตื้นใกล้ๆ ตลิ่ง โขดหินน้อยใหญ่สลับซับซ้อนช่วยทานกระแสน้ำไม่ให้เชี่ยวกรากเหมือนร่องน้ำลึกกลางลำธาร
“เขาจะเอาหินไปโรยกระถางต้นไม้นะพี่ปริม”

ปิ่นปัทมาบอกกับพี่สาวก่อนจะผลุบหายไป โดยมือน้อยก็ยังเกาะขากางเกงของพี่สาวเอาไว้แน่น ก็ยังว่ายน้ำไม่เก่งนี่นาเกิดตกน้ำป๋อมแป๋มเหมือนเมื่อตอนเด็กละก็แย่เลย หินกรวดที่ถูกกระแสน้ำชะกร่อนมานับพันนับล้านปีเรียงรายอยู่เบื้องล่าง แสงแดดสาดส่องผ่านระลอกคลื่นบนผิวน้ำกระทบเป็นเงาวิบวับ ถ้าเอาไปเรียงไว้รอบๆ กระถางต้นไม้จะต้องสวยมากๆ เลยทีเดียว

‘ว้าว หินก้อนนั้น ขาวสะอาดกลมมนเหมือนไข่มุกเลย แต่ก็ไกลสุดเอื้อมถ้าไม่ปล่อยมือจากพี่ปาริมาซะก่อน ปล่อยสักแป๊บเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง คว้าได้แล้วจะรีบกลับมา เอาละ ปล่อยละนะ ฮึ๊บ... อ๊ะ! แย่แล้ว’
“น้องปิ่น!”


“เฮ้ยปราณ เดี๋ยวฉันไปคนเดียวก็ได้ แกกลับไปดูน้องละกัน อยู่กันสองคนรู้สึกเป็นห่วงยังไงไม่รู้”
ปราณผละจากมา ให้ปณิธานเดินไปหาของกินลำพัง น้ำตกที่นี่ดูผิวเผินก็ร่มรื่นสวยงาม แต่จากจำนวนผู้ประสบอุบัติเหตุบอกให้รู้ว่าอันตรายไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว บางสิ่งที่มีคุณอนันต์ก็กลับมีโทษมหันต์ได้เช่นกันหากเกิดอะไรที่ผิดที่ผิดทางขึ้นมา


“น้องปิ่น!”
คนเป็นพี่สาวใจหายวูบเมื่อน้องสาวตัวเล็กถูกกระแสน้ำพัดไปในร่องน้ำลึก

‘แย่แล้วน้องปิ่นว่ายน้ำไม่แข็ง’ สองเท้าตะกายน้ำพาร่างบางๆ พุ่งตามออกไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนรอบข้าง สายน้ำไหลเชี่ยวพาปิ่นปัทมาป๋อมแป๋มไกลออกไปทุกที ความคุ้นเคยกับน้ำคงช่วยให้พยุงตัวอยู่ได้อีกสักพัก ปริมาแหวกว่ายตามไปจนทัน เข้าโอบร่างเล็กจากทางด้านหลังตะเกียกตะกายเข้าฝั่งอย่างยากเย็น แม้เป็นระยะทางเพียงไม่กี่เมตรแต่การต้องมีคนอีกหนึ่งคนเป็นภาระก็เล่นเอาเหนื่อยหอบ

‘อีก..นิดเดียว’ น้ำเชี่ยวพาร่างกายอ่อนล้าแทบหมดแรง แต่ไม่ว่าจะยังไงน้องปิ่นจะต้องปลอดภัย

“เกาะกิ่งไม้ไว้!” พี่สาวบอกพลางรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายเหวี่ยงร่างของน้องสาวให้เกาะกิ่งไม้ที่ทิ้งตัวอยู่ริมตลิ่ง

“แค่ก... พี่ปริม! ช่วยด้วยช่วยพี่ปริมด้วย! ฮือๆ ”

เสียงดังจากริมน้ำเรียกความสนใจจากปราณที่กำลังเดินกลับมา

“น้องปริม!” ภาพที่เห็นอยู่ไกลๆ ปาริมากำลังถูกน้ำพัดไกลออกไป และดูเหมือนว่าจะหมดแรงพยุงตัวเองจวนจะจมอยู่รอมร่อ ชายหนุ่มออกแรงวิ่งสุดผีเท้า เวลาแต่ละวินาทีมีค่าเท่ากับชีวิตของปาริมาทั้งชีวิต

“อดทนไว้นะ!” อีกเพียงสิบเมตรจะถึงลำธาร ปาริมาโผล่หายใจเหนือน้ำเฮือกสุดท้ายก่อนจะจมหายไป

“พี่ปริม...”


อีกมุมหนึ่งของวนอุทยาน

“สวัสดีคร้าบ ผมชื่อปอนด์ ว่าที่ร้อยตรีรูปหล่ออนาคตไกล อยากมีไว้เป็นกิ๊กประดับบารมีสักคนไหมคร้าบ”
คนรูปหล่อยังคงรูปหล่อต่อไปอย่างไม่มีทางจะฉุดรั้ง แม้สองมือจะหอบของกินพะรุงพะรัง ลูกชิ้นทอด กล้วยปิ้ง โรตีสายไหม ผลไม้และของขบเคี้ยวอื่นๆ พลางส่งสายตาเจ้าชู้อันเป็นประกายวิบวับ เอ่ยปากทักทายสาวๆ มาตลอดทางอย่างกับว่ารู้จักกันมาแรมปี

“จอย เจน รอด้วย! โห... โคตรตื่นเต้นเลยว่ะแก ตะกี้มีคนตกน้ำด้วย” สาวน้อยอีกคนพาความน่ารักอันจำกัดอยู่ในหุ่นอันตุ้ยนุ้ยวิ่งตามเพื่อนสวนทางมาด้วยท่าทีเหนื่อยหอบ ละล่ำละลักบอกกับเพื่อนว่าที่ลำธารมีคนจมน้ำ
ลำธาร...
“น้องปิ่น!”

ว่าที่ผู้หมวดหนุ่มใจหายแว้บ ขออย่าให้เป็น... ยกขนมมากมายให้กับสามสาวที่ยืนงงก่อนจะวิ่งไปที่ลำธาร ในวินาทีที่กลิ่นไอของความสูญเสียจ่ออยู่ที่ปลายจมูก ความเป็นห่วงเค้นหัวใจจนปวดหนึบ ขอให้ไม่ใช่ทีเถอะ

“ยายปริม!”

คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดไม่ใช่น้องปิ่น แต่กลับเป็นปริมที่นอนนิ่งอยู่บนผืนหญ้า น้องปิ่นนั้นตอนนี้กอดร่างสงบนิ่งของพี่สาวแสนรักร้องไห้สะอึกสะอื้น ปราณกระโดดลงไปคว้าตัวเอาไว้ได้ทันก่อนจะพาร่างปวกเปียกขึ้นมานอนนิ่งอยู่ในขณะนี้

“ยายปริม! เป็นยังไงบ้าง ทำใจดีๆ ไว้นะ พี่จะตามรถพยาบาล” เถลือกไถลกอหญ้าริมตลิ่งโผเข้าประคองร่างน้องสาว เอื้อมมือสั่นเทาอังจมูกเชิดนั้นเพื่อตรวจลมหายใจ ถึงจะผ่านการฝึกมามากแต่เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์จริงก็ทำเอาควบคุมสติไม่อยู่ แค่เพียงนึกว่าต่อไปจะไม่มียายหมีดำคอยต่อปากต่อคำอีกแล้ว ใจคอมันหดหู่ตีบตันเกินจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้

“ยายปริม...”

“โอย...จะร้องทำไมเนี่ยกำลังหลับสบายเลย” แล้วเปลือกตาที่ปิดสนิทก็ใสแป๋วอีกครั้ง

อ้าว...ที่แท้ยายหมีดำไม่ได้เป็นอะไรนี่นา ว่าที่ผู้หมวดขี้แยต้องแสร้งหันไปลูบหัวน้องสาวคนเล็กแก้เก้อ โอ๋ๆ คงตกใจมากสินะ ไม่เป็นไรพี่มาแล้วไม่ต้องกลัว ความโล่งใจและดีใจถูกเก็บกดไว้มากมายจนล้นอก ในขณะที่คนได้ทีรีบขี่แพะไล่ ลุกขึ้นเอียงคอตาม ขอมองให้ชัดๆ หน่อยซิว่า ที่ปริ่มๆ จะล้นนั่นมันน้ำตาใช่หรือเปล่า ตาสวยแม้จะเปียกปอนยิ้มหยียั่วเย้า หัวเราะคิกอย่างผู้กำชัย

“ขออีกทีได้มั้ยแบบตะกี้ แบบว่าฟังไม่ชัดแต่รู้สึกดีจังเลย ไหนๆ มีน้ำตาด้วย ซึ้งซะไม่มีละ”

“เปล่าซะหน่อย ฝุ่นมันเข้าตาหรอกยายหมีดำ” ทำเสียงขึงขังถลกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตาที่ปริ่มๆ จะนอง

“เหนื่อยมากเลย นี่ถ้าไม่มีพี่ปราณ ปริมคงแย่ ขอบคุณมากนะพี่ปราณ”

“หมั่นไส้เว้ย เสียงงี้เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยนะเวลาพูดกับไอ้ปราณน่ะ”

“ชิ..” แสร้งค้อนวงใหญ่ อันที่จริงก็ปลื้มใจไม่ใช่น้อยที่คนปากแข็งแสดงความเป็นห่วงมากมายปานนี้ ความต่างพ่อต่างแม่ไม่ใช่ปัญหาเลยจริงๆ สำหรับความห่วงหาอาทร


ดวงอาทิตย์ของวันที่ไม่เชิงจะเลวร้ายเริ่มบ่ายคล้อย หลังจากเล่นน้ำกันพอหอมปากหอมคอ และทานมื้อเที่ยงกันแล้ว ทั้งสี่ก็เดินชมบรรยากาศรอบๆ บริเวณวนอุทยาน ถนนหนทาง ดอกไม้พุ่มไม้ถูกตัดแต่งเอาไว้ร่มรื่นสวยงาม นานๆ ทีจะได้หนีจากความวุ่นวายมาสู่ที่เงียบสงบเช่นนี้เสียที ไม่มีใครบ่นอยากจะกลับบ้านเลยสักคนเดียว

“สา...ธุ”

น้องสาวคนเล็กหันไปยกมือสาธุกับศาลเจ้าที่ที่ตั้งอยู่ข้างทางตรงพุ่มไม้ไม่ไกลนัก แปลกจัง ทำไมศาลเจ้าที่ถึงได้ทาสีดำนะ คงเป็นรสนิยมของคนสร้าง หรือไม่ก็เป็นความต้องการของท่านเจ้าที่ เคยมีเพื่อนเล่าให้ฟังว่าไปเที่ยวต่างถิ่น ลืมยกมือไหว้ทำความเคารพเจ้าที่ ต้องเป็นไข้ตั้งหลายวันแน่ะ ทางที่ดี...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ดีกว่า ลูกหลานมาเที่ยวนะเจ้าคะ ปกป้องคุ้มครองด้วยเถิด สา...ธุ

เส้นทางคดเคี้ยวไกลออกไปนอกบริเวณพื้นที่สำนักงานของวนอุทยาน ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีไร้การตกแต่ง ได้บรรยากาศและกลิ่นไอของธรรมชาติอย่างแท้จริง เดินพลางต้องหันมองทางและทำเครื่องหมายไปพลางเกรงจะหลงป่า แต่อีกสักพักก็คงกลับแล้วละ ขืนเข้าไปลึกกว่านี้กว่าจะกลับออกไปได้ก็คงมืดค่ำพอดี

“สา...ธุ”

เจ้าที่ที่นี่มีเยอะจริงๆ เท่าที่นับได้ตลอดทางนี่ก็จุดที่สี่แล้ว ลูกมาเที่ยวเฉยๆ นะเจ้าคะ เดี๋ยวก็กลับแล้ว ขอให้เดินทางปลอดภัยด้วยเถอะเจ้าค่า สา..ธุ

“น้องปิ่นทำอะไรน่ะ พี่เห็นสาธุๆ หลายทีแล้ว ขอหวยรึไงจ๊ะ” ปณิธานหันมาเอ่ยถาม ปลายเสียงกลั้วหัวเราะอยู่กริ่มๆ ทุกคนหันมามองด้วยรอยยิ้มเป็นตาเดียว

“ก็..ไหว้เจ้าที่ไงคะ” ปิ่นทมาชี้มือไปที่ศาลท่านเจ้าที่หลังล่าสุด ซึ่งเหมือนกับทุกๆ ที่ที่ผ่านมา

“หือ...หึหึหึ”

คนแก้มใสมองหน้าคนโน้นทีคนนี้ที หัวเราะอะไรกันนะคนสวยไม่เข้าใจเลย

“ก็...นั่นมันที่ให้อาหารนก ไม่ใช่ศาลเจ้าที่จ้าน้องปิ่น ฮ่าๆๆ ” ปราณรีบเฉลยก่อนจะหัวเราะขำจนแทบหายใจไม่ทัน

“ทางโน้นมีศาลเจ้าด้วย แวะเข้าไปดูกันดีกว่ามั้ย” พี่สาวคนสวยช่วยเบนความสนใจของสองหนุ่มที่กำลังหัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหลกับความเปิ่นของน้องสาวคนเล็ก สองหนุ่มหันไปมองหน้าคนตัวเล็กพร้อมๆ กันเพื่อตอกย้ำความเปิ่น แต่ก็ต้องสกัดกั้นอารมณ์ขันเอาไว้แต่เพียงเท่านั้น เมื่อแก้มใสกลายเป็นแก้มป่อง และควันเริ่มจะออกหูเล็กน้อย ค้อนคนนั้นขวับคนนี้ขวับ

“...” เงียบ พยายามอดกลั้นไม่ให้หัวเราะ หน้านิ่งหลับตาปริบๆ แต่เริ่มแดง เส้นเลือดแห่งอารมณ์ขันปูดขึ้นเด่นชัด ช่างอัดอั้นแท้หนอ

“ฮ่าๆๆ”

“พี่บ้า!”

บรรยากาศภายในศาลเงียบสงบ พื้นหินอ่อนกลางโถงที่คะเนด้วยสายตาคงมีพื้นที่ร่วมหนึ่งร้อยตารางเมตรนั้น สะอาดสะอ้าน บอกให้รู้ว่ามีการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี แสงสว่างจากช่องที่ถูกออกแบบให้เปิดจากเบื้องบนส่งให้รูปปั้นอันวิจิตรของใครสักคนบนแท่นบูชาขนาดใหญ่ดูโดดเด่นเป็นสง่าท่ามกลางความอึมครึมรอบข้างอย่างตั้งใจ รูปปั้นของหญิงสาวผู้แหงนหน้ามองฟ้าด้วยแววตาเปี่ยมสุข ผนังที่เป็นเสมือนฉากหลังของรูปปั้นลอยตัวนั้น เป็นภาพนูนต่ำที่คาดว่าจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของหญิงสาวผู้นั้นพร้อมทั้งสถานที่แห่งนี้ ตะเกียงน้ำมัน แจกันดอกไม้ และกระถางธูปใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยก้านธูปเก่าๆ แสดงให้เห็นว่าเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของคนจำนวนมาก

“น่าสนใจจริงๆ”

ปราณดูจะแสดงความสนใจเป็นพิเศษ นับปีแล้วที่เขียนคอลัมน์เกี่ยวกับสถานที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพบูชาของคนทั้งหลาย แต่ไม่เคยปรากฏว่ามีเรื่องราวของสตรีผู้นี้ผ่านตาเลยสักครั้ง คงต้องหาโอกาสกลับมาศึกษาอย่างละเอียดอีกครั้งในเร็วๆ นี้ อักขระจารึกบนแผ่นหินอ่อนผนึกไว้รอบฐานแท่นบูชาทั้งสี่ด้าน ประมวลคร่าวๆ นี่เป็นสตรีผู้ยึดมั่นในรักข้ามภพจนกลายเป็นตำนาน

“เสี่ยงเซียมซีกันดีกว่า”

ปาริมาปรี่เข้าหากระบอกเซียมซีที่วางอยู่ใกล้ๆ ตู้คำทำนายติดกับกระถางธูป เรื่องแบบนี้สาวๆ จะชื่นชอบเป็นพิเศษ ถึงแม้บางครั้งคำทำนายจะยอกย้อนและวกวนตามประสาภาษาที่กลอนพาไป แต่ก็ถือว่าเสี่ยงเล่นขำๆ ไม่ได้จริงจังอะไร ถ้าออกมาดีก็เป็นกำลังใจ ถ้าออกมาไม่ดีก็แค่คำทำนาย แล้วทุกคนก็ผลัดกันเขย่ากระบอกเซียมซี และได้คำทำนายมาคนละใบ ปาริมานั้นอ่านไปยิ้มไป คำทำนายบอกว่าความรักจะสมหวัง รักที่ถูกเก็บงำและซับซ้อนจะถูกเปิดเผยในไม่ช้า แล้วชีวิตจะสุขโขสโมสร เชื่อได้รึเปล่าก็ไม่รู้ เอ๊ะ..แล้วพี่ปราณจะได้เบอร์อะไรหนอ ไวดังความคิดคนสวยคอยาวแว้บมองใบเซียมซีในมือพี่ปราณ

“เบอร์ห้า... ว้าย! ได้ใบเดียวกับปริมเลย สงสัยเราจะเป็นเนื้อคู่กันนะคะพี่ปราณ”

“ดูมัน” พี่ชายคนโตคันปากยิบๆ หมั่นไส้ทุกทีที่เห็นสะพานทอดกรอบจานโตของยายน้องสาวคู่ปรับนิรันดร์กาล พลางแอบชะเง้อดูใบของปิ่นปัทมา

“เอ๊ะ.. ของน้องปิ่นเลขเดียวกับพี่เลย”

ไม่มีคำพูดใดจากคนเป็นน้องสาวมีเพียงรอยยิ้มจางๆ แสดงการรับรู้ ความหมายของใบเซียมซีบอกว่า แม้ไม่เคยสมใจเลยสักครั้ง แต่พลังแห่งรักจะหนุนนำให้สุขสม ปิ่นปัทมานึกไม่ออกเหมือนกันว่า จะมีหนทางใดให้รัก...ได้สุขสม หรือบางทีมันอาจจะเร็วเกินไปที่เธอมาจะคิดถึงเรื่องนั้น

“ถ้าสว่างๆ กว่านี้หน่อยก็คงดีนะ” ปาริมาและปณิธานเดินชมไปรอบๆ ส่วนปิ่นปัทมาเดินอ้อมไปอีกด้านหนึ่ง

“เนื้อคู่?”

เสียงใสเอ่ยเพียงแผ่วเบากับตัวเองแต่ก็กังวานในความเงียบ พี่ปราณเดินเข้าไปสมทบทางด้านหลัง
แก้มใสกลายเป็นชมพูระเรื่อ เมื่อจังหวะที่จะหันกลับมาเรียกพี่สาวนั้นต้องมาจ๊ะเอ๋กับชายหนุ่มเจ้าของแววตาอบอุ่น ใกล้ชิดจนสัมผัสได้แม้ไออุ่นของลมหายใจ แต่ก็ต้องรีบสลัดอารมณ์วูบไหวที่กำลังก่อตัวขึ้น เมื่อพี่ปราณทำท่าเหมือนกำลังไม่สบาย

คนตัวสูงต้องรีบคว้ามือเรียวเล็กยึดเหนี่ยวพยุงกาย รู้สึกเวียนศีรษะกะทันหัน เงาจางๆ ของใครสักคนกับรอยยิ้มที่คุ้นตาวูบไหวทับซ้อนคนตัวเล็กเบื้องหน้า

“พี่ปราณเป็นอะไรคะ!”

“พี่ปราณเป็นอะไร?” ปาริมาถึงตัวพี่ปราณอย่างรวดเร็วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง สีหน้าเป็นกังวล

“ไม่เป็นไร พี่..หายแล้ว..” เมื่อเห็นว่ากำลังทำให้คนอื่นเป็นห่วงชายหนุ่มจึงรีบสลัดความมึนงงออกไปอย่างรวดเร็ว

“สงสัยเมื่อวานจะลงมือกับพวกนั้นหนักไปหน่อยเลยหมดแรงน่ะ”

“ตลกละพี่ปอนด์”

“เนื้อคู่เหรอ” ว่าที่ผู้หมวดหนุ่มกอดอกอ่านอักขระจารึกบนผนังอย่างพิจารณา ในนั้นบอกเอาไว้ว่า เนื้อคู่ของคนเราอาจมีเป็นแสนคนผูกพันกันข้ามภพชาติ ครั้งแล้วครั้งเล่าชาติแล้วชาติเล่าที่เราเกิดมาเราอาจเคยสร้างคู่ใหม่ๆ ของเราคนแล้วคนเล่าเช่นกัน และเมื่อมีอันต้องพลัดพรากจากกันไป บ้างก็ได้มีโอกาสกับมาครองรักกันอีกครั้ง บ้างก็ต้องจากไกลชั่วนิรันดร์

การกลับมาพบกันอีกครั้ง เราอาจรู้ได้เพียงแค่สบตากันครั้งแรกดังที่เราเคยได้ยินคำว่า “รักแรกพบ” หรืออาจต้องใช้เวลายาวนานฝ่าฟันอุปสรรคมากมายกว่าจะได้ลิ้มรสความหอมหวานแห่งรักที่รอคอย และเนื้อคู่ในชาติที่แล้วอาจเป็นใครสักคนใกล้ๆ ตัวเราในชาติปัจจุบัน

“ปริมว่าปริมเจอเนื้อคู่แล้วละ เฮ้อ..โชคดีจังไม่ต้องตามหาให้ยาก” เกาะแขนซบไหล่เนื้อคู่จำเป็นที่ยังมึนๆ จากภาพซ้อนเมื่อสักครู่ ยั่วเย้ารั้วผุๆ ของชาติด้วยหางตาประกายระยับ

“เก็บอาการหน่อยยายหมีดำ”
“ปริมย่ะปริม ไม่ใช่หมีดำ”
“ปริมดำ”
“ดำเขาก็มีคู่แล้วย่ะ ไม่เหมือนพี่ปอนด์หรอก ว่าที่นายน้อยห้อยต่องแต่ง แต่ไม่มีใครเอา”
“ห้อยกระบี่เว้ยยายหมีดำ” แล้วคู่ปรับนิรันดร์กาลก็ไล่ตีกันไปรอบๆ เรียกรอยยิ้มให้กับอีกคู่หนึ่งที่เฝ้ามอง ก่อนพากันเดินทางกลับบ้านในเวลาใกล้ค่ำ แล้ววันหยุดอันแสนรื่นรมย์และมากด้วยความหมายก็จบลงอีกครั้งหนึ่ง

++++++++++++++++++++

วันเป็นเดือน เดือนเป็นปี เมื่อปาริมาเรียนจบมัธยมปลายกลับไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยเดียวกับปราณอย่างที่ตั้งใจไว้ เธอเปลี่ยนใจสอบชิงทุนรัฐบาลเพื่อเรียนไปต่อต่างประเทศในคณะรัฐศาสตร์ตามคำแนะนำของคุณบุญเลิศผู้เป็นบิดาซึ่งเป็นอดีตนายอำเภอ ส่วนปิ่นปัทมานั้นกำลังเรียนต่อชั้น ม.สี่ ปณิธานและปราณต่างก็เรียนปีสุดท้าย

งานเลี้ยงส่งปาริมาที่จัดอย่างเรียบง่ายผ่านไปอย่างรวดเร็ว เคยมีคนบอกว่า เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วกว่าที่ใจอยากให้เป็น เมื่อทยอยส่งเพื่อนๆ กลับกันแล้วทุกอย่างก็กลับสู่ภาวะปกติ พี่ปราณค้างที่ห้องพี่ปอนด์ สองสาวพี่น้องก็นอนห้องเดียวกันเช่นเคย แต่จากวันพรุ่งนี้ไปที่นี่ก็คงจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะนานๆ กว่าปาริมาจะกลับมาสักครั้ง

นึกถึงการจากไกลแล้วใจหาย ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา น้องปิ่นกับพี่ปริมแทบจะไม่เคยห่าง แต่ก็นั่นแหละ เมื่อเวลาผ่านไป เราทุกคนต่างมีภาระหน้าที่ ก็จำต้องแยกจากกันไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ความเป็นพี่น้องจะคงอยู่ยืนยาวตลอดไป

“เขาต้องคิดถึงพี่ปริมแน่ๆ เลย”

น้องสาวเอื้อมมือโอบเอวคอดของพี่สาวจากทางด้านหลัง ปีนี้น้องปิ่นตัวสูงเท่าพี่ปริมแล้ว ปริมาทอดสายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง

“เป็นอะไรไปคะ พี่ปริมไม่เคยเงียบแบบนี้นี่นา” รั้งแขนกระชับเอวให้แนบแน่น แอบจุ๊บแก้มพี่สาวเบาๆ “นั่นแน่ะๆ อย่าบอกนะว่า...” คลายวงแขนเอื้อมมือหมุนหัวไหล่หันมามองหน้าให้ชัดๆ

“แค่นึกว่าต้องจากไปไกล ก็อดใจหายไม่ได้ น้องปิ่นดูแลตัวเองดีๆ นะ” เจ้าของแววตาเศร้าลูบเรือนผมสลวยเจ้าของตาโตบ้องแบ๊วที่กำลังมองมาอย่างมีเลศนัย

“ไม่ใช่แค่ห่วงน้องละมั้งที่เศร้าขนาดนี้เนี่ย...”

“พี่ฝากดูแลพี่ปราณด้วยนะน้องปิ่น” ปลายเสียงแผ่วลงเห็นได้ชัด รู้สึกกระดากต่อสิ่งที่พูดไปไหนจะรอยยิ้มยั่วเย้านั่นจนต้องหลบตาไปทางอื่น

“โอ้...นี่ตกลงเป็นแฟนกันแล้วเหรอคะ”

“ยังจ้ะ..แต่พี่เชื่อว่า พี่ปราณคือเนื้อคู่ของพี่ และเมื่อถึงเวลา พี่จะเป็นคนบอกพี่ปราณเอง”

+++++++++++++++++++++




ไอรายา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 พ.ค. 2554, 14:46:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 พ.ค. 2554, 14:46:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 2096





<< ตอนที่ 2 ผู้ปกป้อง   ตอนที่ 4 รักที่ซ่อนเร้น >>
ไอรายา 16 พ.ค. 2554, 14:47:44 น.
ขอบคุณ 63 คนที่เข้ามาอ่าน และ 1 คนที่ชอบตอนที่แล้วครับผม ^^

และขอบคุณพิเศษสำหรับน้องปูสีน้ำเงินครับ


saralun 16 พ.ค. 2554, 15:00:29 น.
แล้วมาต่อไว ๆ นะคะ...อยากรู้จังว่าใครจะคู่กับใคร ฮ่า ๆ ๆๆ


ปูสีน้ำเงิน 16 พ.ค. 2554, 16:33:31 น.
ตอนนี้ชักเข้าโหมดเศร้าๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็อีกนั่นแหละมันเศร้าแต่ไม่สุดนะ
ไงรีบมาอัพตอนต่อไปนะ ปูรออยู่ค่า


ปิลันธน์ 17 พ.ค. 2554, 03:19:59 น.
เป็นความรักที่น่าติดตามนะคะ รักที่เกิดขึ้นแบบข้ามภพข้ามชาติและผูกพันกันชนิดที่เรียกได้ว่ากาลเวลาไม่อาจพรากเนี่ย...ซึ้งมากมาย^^
มีหยอดมุขตลกประปรายนะนี่..^^


ไอรายา 17 พ.ค. 2554, 08:15:56 น.
saralun
ติดตามได้ทุกวันนะครับ ทยอยเอามาลงครับ ^^

ปูสีน้ำเงิน
วันนี้จะลงอีกตอนนึงครับ ช่วงนี้เป็นช่วงปูพื้นเก็บคะแนนอยู่ อดทนอ่านให้จบนะครับ สู้ๆ^^

ปิลันธ์
ตกลงมันยังขำอยู่ชิมิๆ
ลองดูนะว่ามันดีขึ้นแล้วหรือแย่ลงกว่าเดิม 555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account