หัวใจใกล้เกินเอื้อม by น้ำจันทร์
“เธอคิดว่านอนกับฉันแค่ครั้งเดียว มันจะพอรึเมธาวี คิดผิดกระมัง!...เพราะว่า...อย่างเธอ ต่อให้ นอนแบ ให้ฉันจนวันตายมันก็ไม่พอ!”
ฉาด!!! แก้มซีกขวาชาไปทั้งแถบ เขาหันกลับมาจะเอาเรื่อง แต่เจ้าหล่อนรู้ทางวิ่งไปที่ประตูเสียก่อน
“วาจาของคุณมัน ด้อยพัฒนา เหลือเกิน คุณภัทร ฝรั่งมังค่ามันสอนแต่ความรู้ในตำราหรืออย่างไร มันลืมสอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ ผู้มีใจสูงให้คุณหรือเปล่า จิตใจของคุณมันถึงได้ สกปรก โสมม ต่ำเตี้ย จนเรี่ยดิน” หล่อนวางระเบิดลูกย่อมๆ เอาไว้ภายในห้องก่อนจะก้าวออกมา ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกพ่นออกมาตามด้วยรอยยิ้มสาใจที่ได้เอาคืนแม้จะเล็กน้อย
ธีรภัทรมองประตูบานใหญ่ตาขวางเขาจะทำอย่างไรถึงจะปราบพยศยัยตัวแสบได้สักทีขนาดโดนเขาจัดชุดใหญ่ให้ยังไม่สำนึก‘พรุ่งนี้เธอเสร็จฉันแน่ยัยตัวแสบ’
ฉาด!!! แก้มซีกขวาชาไปทั้งแถบ เขาหันกลับมาจะเอาเรื่อง แต่เจ้าหล่อนรู้ทางวิ่งไปที่ประตูเสียก่อน
“วาจาของคุณมัน ด้อยพัฒนา เหลือเกิน คุณภัทร ฝรั่งมังค่ามันสอนแต่ความรู้ในตำราหรืออย่างไร มันลืมสอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ ผู้มีใจสูงให้คุณหรือเปล่า จิตใจของคุณมันถึงได้ สกปรก โสมม ต่ำเตี้ย จนเรี่ยดิน” หล่อนวางระเบิดลูกย่อมๆ เอาไว้ภายในห้องก่อนจะก้าวออกมา ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกพ่นออกมาตามด้วยรอยยิ้มสาใจที่ได้เอาคืนแม้จะเล็กน้อย
ธีรภัทรมองประตูบานใหญ่ตาขวางเขาจะทำอย่างไรถึงจะปราบพยศยัยตัวแสบได้สักทีขนาดโดนเขาจัดชุดใหญ่ให้ยังไม่สำนึก‘พรุ่งนี้เธอเสร็จฉันแน่ยัยตัวแสบ’
Tags: Touch Publishing (Viva)
ตอน: บทที่ 3 จุมพิตอันเผ็ดร้อนของธีรภัทร Vs. การเอาคืนเล็กๆ ของเมธาวี 100%
“นี่หล่อน ... เจ้าของโรงแรมอยู่ห้องไหนไม่ทราบ” จิตาภา เจมส์ จีบปากจีบคอถามเลขาหน้าห้องอย่างถือตัว ให้รู้ๆ กันไปเลยว่าเธอนี่ล่ะ นายหญิง คนต่อไปของโรงแรมแห่งนี้ ฉะนั้นคงไม่มีประโยชน์อะไรจะต้องพูดคะขากับพนักงานระดับล่าง อย่างแม่เลขาหน้าสวยคนนี้
“ถ้าคุณขึ้นมาถึงชั้นนี้ได้ ก็คงจะเป็นห้องที่อยู่ข้างในประตูนี่กระมัง” เมธาวีตอบเสียงแข็งไม่มีคะขาเช่นกัน ช่วยไม่ได้ วันนี้เธออารมณ์ไม่ดี ใครมาแบบไหนก็รับกลับไปแบบนั้นก็แล้วกัน
“เอ๊ะ! เธอนี่ ทำไมต้องตอบกวนด้วย เสียมารยาทจริงๆ คอยดูนะ ฉันจะให้ภัทรไล่เธอออก”
“ตามสบายเถอะค่ะ” วันนี้มันวันอะไร ทำไมมีแต่คนกวนประสาทเธอได้ทั้งวัน
“โรงแรมนี้เค้าไม่อบรมพนักงานบ้างรึไงนะ ถึงได้ต่อปากต่อคำกับลูกค้าอย่างนี้” น้ำเสียงเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์ของเจ้าของ เมธาวีคิดว่าถ้ายังเล่นสงครามน้ำลายต่อไปก็มีแต่จะยืดเยื้อ เธอยังไม่อยากฟ้อนเล็บใส่หน้าขาววอกของเจ้าหล่อนให้มันเสียมือ
“เอาล่ะๆ ฉันขี้เกียจต่อปากต่อคำกับคุณแล้ว เดี๋ยวคุณจะเหมาเอาว่าพนักงานที่นี่เป็นแบบนี้ซะหมด ซึ่งความจริงมีแค่ฉันคนเดียวที่กล้าทำแบบนี้ กรุณาแจ้งธุระของคุณมาด้วยค่ะ” เธอกล่าวเป็นงานเป็นการ
“ก็ฉันบอกแล้วไง ว่ามาหาภัทร!” ตอบไปไม่สบอารมณ์
“แล้วจะให้เรียนว่าใครมาพบคะ” จินนี่ยืดอก เชิดหน้า ตอบออกมาอย่างผู้ชนะว่า
“บอกว่า ภรรยา ชื่อจินนี่มาพบย่ะ” เมธาวีสะดุดลมหายใจ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ผู้หญิงคนนี้อย่างนั้นหรือคือ ภรรยา ของเขา เธอขจัดความหวั่นไหวในใจเอื้อมมือไปกดแป้นอินเตอร์คอม
“มีอะไร?” เสียงห้วนจัดดังมาตามสาย เขาจะพูดดีๆ กับเธอบ้างไม่ได้รึยังไงนะ
“มี ยักษ์ ในตะเกียงมาขอพบค่ะ เจ้านาย” คนที่เธอเรียกว่ายักษ์คงอยากกรีดร้องใส่หูเธอ แต่เจ้าหล่อนอดใจไว้ ด้วยกลัวเสียภาพพจน์หากคนปลายสายได้ยิน “พูดจาอะไรของเธอ ไม่เห็นจะรู้เรื่อง”
“ก็ยักษ์ในตะเกียงที่ชื่อ จินนี่ ไงคะ เอ...อย่าบอกนะว่าไม่รู้จัก คุณคงโดนจับกินแน่ๆ เจ้านาย ถ้าตอบอย่างนั้น” ธีรภัทรนิ่งเงียบใช้ความคิด เขาสั่งจิตาภาไว้แล้วนี่นาว่าอย่าเพิ่งเข้ามาที่นี่ แต่ช่างเถอะ หล่อนอาจมีธุระสำคัญก็ได้ “รู้แล้ว ให้เข้ามาได้” เมธาวีวางสายอย่างสุดเซ็ง ตอนนี้เธอกลายเป็นเลขาเต็มรูปแบบไปแล้ว
“เชิญค่ะ...คงไม่ต้องให้ฉันลุกขึ้นไปเปิดประตูให้นะคะ เพราะ ฉันไม่ใช่เลขา แต่ฉันเป็นที่ปรึกษาของโรงแรมแห่งนี้ มีอำนาจหน้าที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนที่คุณเรียกว่า สามี เลยแม้แต่น้อย อ้อ...ไหนๆ ก็จะเข้าไปแล้ว ฝากบอกคนข้างในด้วยก็แล้วกันว่าวันนี้ ฉันไม่มีอารมณ์ทำงานขอลาป่วยครึ่งวันนะคะ” เมธาวีพูดจบก็ฉวยกระเป๋าคู่ใจขึ้นคล้องแขน ขาเรียวยาวก้าวตรงไปที่ลิฟต์ไม่ใส่ใจแม่ภรรยาของเจ้านายอีกต่อไป
“ยัยบ้าเอ๊ย!” จิตาภา หรือจินนี่ด่าไล่หลัง ‘รอให้ฉันได้เป็นนายหญิงของที่นี่ก่อนเถอะ ฉันจะไล่หล่อนออกคนแรกเลย คอยดู’ จิตาภาหายใจหอบแรงด้วยความแค้นเคือง หล่อนรีบปรับสีหน้าท่าทางให้เป็นปกติ แล้วเปิดประตูเข้าไปภายในห้องทำงานของชายคนรัก
ชายหนุ่มพาจินนี่ตระเวนเที่ยว ทั้งดูหนัง ฟังเพลงและซื้อข้าวของต่างๆ ตลอดเวลาเขาแทบไม่มีสมาธิ ในสมองมันมีแต่ใบหน้าของเมธาวีลอยเต็มไปหมด จินนี่บอกว่าหล่อนลาป่วย หล่อนเป็นอะไร? ป่วยการเมือง หรือป่วยจริง แล้วทำไมถึงไม่บอกเขาสักนิด ยัยบ้าเมธาวี หล่อนชอบทำให้คนเป็นห่วงอยู่เรื่อย
‘ห่วง...ทำไมเราต้องเป็นห่วงยัยนั่นด้วย บ้าไปแล้วแน่ๆ’
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
สั่งซื้อเล่มนี้ได้แล้วจ้า ที่เว็บส.ทัชน้า
“ถ้าคุณขึ้นมาถึงชั้นนี้ได้ ก็คงจะเป็นห้องที่อยู่ข้างในประตูนี่กระมัง” เมธาวีตอบเสียงแข็งไม่มีคะขาเช่นกัน ช่วยไม่ได้ วันนี้เธออารมณ์ไม่ดี ใครมาแบบไหนก็รับกลับไปแบบนั้นก็แล้วกัน
“เอ๊ะ! เธอนี่ ทำไมต้องตอบกวนด้วย เสียมารยาทจริงๆ คอยดูนะ ฉันจะให้ภัทรไล่เธอออก”
“ตามสบายเถอะค่ะ” วันนี้มันวันอะไร ทำไมมีแต่คนกวนประสาทเธอได้ทั้งวัน
“โรงแรมนี้เค้าไม่อบรมพนักงานบ้างรึไงนะ ถึงได้ต่อปากต่อคำกับลูกค้าอย่างนี้” น้ำเสียงเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์ของเจ้าของ เมธาวีคิดว่าถ้ายังเล่นสงครามน้ำลายต่อไปก็มีแต่จะยืดเยื้อ เธอยังไม่อยากฟ้อนเล็บใส่หน้าขาววอกของเจ้าหล่อนให้มันเสียมือ
“เอาล่ะๆ ฉันขี้เกียจต่อปากต่อคำกับคุณแล้ว เดี๋ยวคุณจะเหมาเอาว่าพนักงานที่นี่เป็นแบบนี้ซะหมด ซึ่งความจริงมีแค่ฉันคนเดียวที่กล้าทำแบบนี้ กรุณาแจ้งธุระของคุณมาด้วยค่ะ” เธอกล่าวเป็นงานเป็นการ
“ก็ฉันบอกแล้วไง ว่ามาหาภัทร!” ตอบไปไม่สบอารมณ์
“แล้วจะให้เรียนว่าใครมาพบคะ” จินนี่ยืดอก เชิดหน้า ตอบออกมาอย่างผู้ชนะว่า
“บอกว่า ภรรยา ชื่อจินนี่มาพบย่ะ” เมธาวีสะดุดลมหายใจ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ผู้หญิงคนนี้อย่างนั้นหรือคือ ภรรยา ของเขา เธอขจัดความหวั่นไหวในใจเอื้อมมือไปกดแป้นอินเตอร์คอม
“มีอะไร?” เสียงห้วนจัดดังมาตามสาย เขาจะพูดดีๆ กับเธอบ้างไม่ได้รึยังไงนะ
“มี ยักษ์ ในตะเกียงมาขอพบค่ะ เจ้านาย” คนที่เธอเรียกว่ายักษ์คงอยากกรีดร้องใส่หูเธอ แต่เจ้าหล่อนอดใจไว้ ด้วยกลัวเสียภาพพจน์หากคนปลายสายได้ยิน “พูดจาอะไรของเธอ ไม่เห็นจะรู้เรื่อง”
“ก็ยักษ์ในตะเกียงที่ชื่อ จินนี่ ไงคะ เอ...อย่าบอกนะว่าไม่รู้จัก คุณคงโดนจับกินแน่ๆ เจ้านาย ถ้าตอบอย่างนั้น” ธีรภัทรนิ่งเงียบใช้ความคิด เขาสั่งจิตาภาไว้แล้วนี่นาว่าอย่าเพิ่งเข้ามาที่นี่ แต่ช่างเถอะ หล่อนอาจมีธุระสำคัญก็ได้ “รู้แล้ว ให้เข้ามาได้” เมธาวีวางสายอย่างสุดเซ็ง ตอนนี้เธอกลายเป็นเลขาเต็มรูปแบบไปแล้ว
“เชิญค่ะ...คงไม่ต้องให้ฉันลุกขึ้นไปเปิดประตูให้นะคะ เพราะ ฉันไม่ใช่เลขา แต่ฉันเป็นที่ปรึกษาของโรงแรมแห่งนี้ มีอำนาจหน้าที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนที่คุณเรียกว่า สามี เลยแม้แต่น้อย อ้อ...ไหนๆ ก็จะเข้าไปแล้ว ฝากบอกคนข้างในด้วยก็แล้วกันว่าวันนี้ ฉันไม่มีอารมณ์ทำงานขอลาป่วยครึ่งวันนะคะ” เมธาวีพูดจบก็ฉวยกระเป๋าคู่ใจขึ้นคล้องแขน ขาเรียวยาวก้าวตรงไปที่ลิฟต์ไม่ใส่ใจแม่ภรรยาของเจ้านายอีกต่อไป
“ยัยบ้าเอ๊ย!” จิตาภา หรือจินนี่ด่าไล่หลัง ‘รอให้ฉันได้เป็นนายหญิงของที่นี่ก่อนเถอะ ฉันจะไล่หล่อนออกคนแรกเลย คอยดู’ จิตาภาหายใจหอบแรงด้วยความแค้นเคือง หล่อนรีบปรับสีหน้าท่าทางให้เป็นปกติ แล้วเปิดประตูเข้าไปภายในห้องทำงานของชายคนรัก
ชายหนุ่มพาจินนี่ตระเวนเที่ยว ทั้งดูหนัง ฟังเพลงและซื้อข้าวของต่างๆ ตลอดเวลาเขาแทบไม่มีสมาธิ ในสมองมันมีแต่ใบหน้าของเมธาวีลอยเต็มไปหมด จินนี่บอกว่าหล่อนลาป่วย หล่อนเป็นอะไร? ป่วยการเมือง หรือป่วยจริง แล้วทำไมถึงไม่บอกเขาสักนิด ยัยบ้าเมธาวี หล่อนชอบทำให้คนเป็นห่วงอยู่เรื่อย
‘ห่วง...ทำไมเราต้องเป็นห่วงยัยนั่นด้วย บ้าไปแล้วแน่ๆ’
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
สั่งซื้อเล่มนี้ได้แล้วจ้า ที่เว็บส.ทัชน้า

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ต.ค. 2555, 00:32:28 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ต.ค. 2555, 00:32:28 น.
จำนวนการเข้าชม : 2059
<< บทที่ 3 จุมพิตอันเผ็ดร้อนของธีรภัทร Vs. การเอาคืนเล็กๆ ของเมธาวี 80% | บทที่ 4 ปะทะคารม 40% >> |