มนตรากระดังงา
นางพริมา กีรติอนันต์ พัฒนภิรมย์ กับ นายภัทร์ พัฒนภิรมย์ คู่สามีภรรยาที่ครองรักกันมากว่า 6 ปี และมีพยานรักเป็นเด็กชายน่ารัก 2 คน ต้องจบชีวิตคู่ที่เริ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยลงเพราะฝ่ายชายไปมีเมียน้อยซึ่งกำลังจะมีลูกสาวด้วยกัน หญิงสาวยอมหย่าให้และยอมเป็นแม่หม้ายในวัยเพียง 30 ปี ชีวิตคู่ที่พังทลายกลับสร้างพริมาคนใหม่ให้แกร่งกว่าเดิม เธอเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวขึ้น กระดังงาลนไฟดอกนี้จึงกลายเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั้งหลาย รวมทั้งภัทร์ พัฒนภิรมย์ ที่เพิ่งสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของอดีตภรรยา จนทำให้ความรักที่เขาคิดว่าได้มอดเชื้อไปแล้วนั้นปะทุขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
รักครั้งใหม่กับคนเดิมจะสมหวังได้หรือไม่ เพราะฝ่ายชายก็มีครอบครัวใหม่แล้ว ส่วนฝ่ายหญิงก็มีชายหนุ่มมากมายมาเข้าแถวให้เลือก อานุภาพของความรักจะประสานรอยร้าวของหัวใจสองดวงให้กลับมาหลอมเป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้งหรือไม่ โปรดติดตาม......อาทิตา

Tags: รักร้าว มีเมียน้อย คืนดี

ตอน: ตอนที่ 13 มา 50 % แล้วค่ะ



มาแล้วนะคะ รีบมาอัพให้ก่อนตามสัญญา.....แลกกับคอมเม้นต์นะคะ

ตอนที่ 13

“อะแฮ่มๆๆ” วรปรัชญ์ตั้งใจกระแอมเพื่อดึงดูดความสนใจของราเมศวรที่ยังคงทอดสายตามองตามพริมาอย่างเปิดเผย

“นั่นน่ะ คุณแม่ลูกสองแล้วนะฮะ คงจะมาเป็น ‘นางสีดา’ ให้คุณเมศไม่ได้แล้วล่ะฮะ” วรปรัชญ์บอกความจริงเพียงแค่นั้น พราะในใจก็ยังอยากให้เพื่อนได้คืนดีกับสามีเพื่อรักษาครอบครัวเอาไว้

“ว้า! ผมช้าไปอีกแล้วล่ะสิ” ราเมศวรแกล้งโอดครวญทั้ง ๆ ที่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยรอยยิ้มมหาเสน่ห์ เพราะข้อสันนิษฐานที่คิดไว้เป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป ทำไมเขาจะไม่รู้ในเมื่อประกายแหวนเพชรของเธอนั้นส่องประกายวูบวาบระยิบระยับเสียขนาดนั้น สาว ๆ ที่ไหนจะใส่แหวนเพชรบนนิ้วนางข้างซ้ายกันเล่น ๆ

“ไม่ช้าไปหรอกฮะ ก็ปรัชญ์เคยบอกคุณเมศแล้วนี่ฮะ ว่าปรัชญ์รอคุณเมศอยู่เสมอ ฮ่าๆๆ” วรปรัชญ์ได้ทีรีบหมาหยอกไก่

“ผมก็ขอย้ำชัด ๆ อีกครั้งว่าเราน่ะต่างขั้วกันน่ะครับคุณปรัชญ์ คนละขั้วแต่ไม่ดูดเข้าหากัน เอ...หรือต้องเรียกว่าขั้วเดียวกันดีครับ เพราะขั้วเดียวกันมันเลยไม่วิ่งเข้าหากันคอยแต่จะผลักกันออก” ราเมศวรพูดติดตลกตามนิสัยของคนอารมณ์ดี

“งั้นจะขั้วไหนก็ไม่สำคัญล่ะฮะ ถ้าไม่วิ่งเข้าหากัน ขั้วเหมือนหรือขั้วต่างก็ไม่เกิดประโยชน์ เชอะ!” วรปรัชญ์แกล้งงอนใส่

“ฮ่า ๆ ๆ แต่ถ้าบอกว่าขั้วเดียวกันก็ไม่ดีอีกเดี๋ยวจะมีคนเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ที่สำคัญผมยังตามหา ‘นางสีดา’ อยู่ ขอบอกตรง ๆ นะครับแบบคุณพริมานี่ล่ะครับที่ผมหามานาน” ราเมศวรไม่อ้อมค้อม

“ไหน ๆ ก็หามานานแล้ว งั้นก็จงหาต่อไปนะฮะพระราม” วรปรัชญ์แซวเล่น

“คุณพริมานี่น่ารักดีน่ะครับ ดูสวยแบบเย็น ๆ อยู่ด้วยแล้วน่าจะสบายใจดี เสียแต่ดูเศร้า ๆ ไปหน่อย หรืออาจเป็นเพราะช่วงนี้เธอมีเรื่องต้องคิดมากอยู่ในใจ ใช่หรือเปล่าครับคุณปรัชญ์” ราเมศวรช่างสังเกตตามนิสัยของนักการทูตที่ต้องละเอียดรอบคอบ

“......” วรปรัชญ์เลือกที่จะเงียบโดยการหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ และโชคดีที่ผู้ถูกพูดถึงกำลังเดินกลับมาพร้อมขนมในจาน บทสนทนาเรื่อง ‘นางสีดา’ เลยต้องยุติเพียงเท่านั้น

หลังจากนั่งดื่มกาแฟต่อได้สักพัก ทั้งสามคนก็ขับรถกลับโรงแรม ‘ณ นิมมานรดี’ ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญอีกครั้งที่ราเมศวรก็จองห้องพักที่นั่นเช่นกัน เขาจึงเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารมื้อเย็นเป็นการขอบคุณที่ทั้งสองให้ติดรถของโรงแรมกลับไปด้วย แต่วรปรัชญ์และพริมามีนัดกับพิชญธิดาที่ ‘คุ้มนิมมานรดี’ เสียแล้ว ทั้งสามจึงตกลงและนัดที่จะเดินทางจากโรงแรมไปสนามบินด้วยกันในวันรุ่งขึ้นแทน เพราะเหตุบังเอิญที่สาม คือ ทั้งหมดต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยสายการบินเที่ยวเดียวกัน…..จะเป็นเหตุบังเอิญหรือพรหมลิขิตของคนบนฟ้าก็ไม่แน่ใจ



************************



ก่อนเครื่องบินจะทะยานขึ้นฟ้าในอีกไม่นาน พริมาและวรปรัชญ์ฆ่าเวลาด้วยการเอาทั้งกล้องถ่ายรูปและมือถือมานั่งดูรูปถ่ายบรรดาลูก ๆ ของพิชญธิดาและวิชญ์ เด็ก ๆ ทั้งสามหน้าตาน่ารักน่าชังกันทั้งนั้นเพราะได้ส่วนดีของพ่อและแม่มาผสมผสานได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว ‘ด.ญ. วิชญาพา นิมมานรดี’ หรือแม่หนูอินเลิฟนั้นมีอายุ 5 ขวบเศษ ซึ่งไล่เลี่ยกับ ด.ช. ภัทรดนัยหรือน้องป๊อปลูกชายคนโตของพริมา หนูน้อยอินเลิฟนั้นนอกจากจะมีผิวพรรณขาวอมชมพูแล้ว หน้าตาก็น่ารักน่าเอ็นดู บวกกับผมดำหยิกยาวสลวยด้วยแล้ว หนูน้อยอินเลิฟมีแววที่จะสวยแบบมารดาอย่างไม่ต้องสงสัย และรูปร่างที่ดูว่าจะสูงยาวเพราะทั้งพ่อและแม่เป็นคนสูงกันทั้งคู่ หากต้องการเข้าวงการนางแบบคงไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะฝ่าด่านอรหันต์ของคุณพ่อวิชญ์ผู้ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องหวงลูกสาวไปให้ได้ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะความเข้าใจผิดกันของวิชญ์และพิชญธิดา จึงทำให้พิชญธิดาต้องอุ้มท้องลูกสาวคนนี้ตามลำพังและหนีไปคลอดไกลถึงอังกฤษ กว่าจะได้พบกับหน้ากับพ่อบังเกิดเกล้านั้น หนูน้อยก็อายุ 16 เดือนเข้าไปแล้ว เมื่อวิชญ์และพิชญธิดาสามารถปรับความเข้าใจและกลับมาคืนดีกันแล้ว วิชญ์จึงชดเชยทั้งความรักและเวลาให้กับลูกสาวคนนี้อย่างหมดหัวใจ เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่ขาดหายไป หนูน้อยอินเลิฟจึงเป็นยิ่งกว่าเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ ของพ่อวิชญ์

“ดูหน้าตาเจ้าวินสิ ตล้ก ตลกอะ” วรปรัชญ์หัวเราะชอบใจที่เห็นหน้าตาเหรอหราของหลานชายสุดหล่อ ‘ด.ช. พิชญ นิมมานรดี’ ที่ถูกน้องชายตัวน้อยแหวะนมใส่เสื้อเพราะพ่อพี่ชายพยายามจะเข้าไปอุ้มน้องที่เพิ่งกินนมอิ่ม ๆ ให้ได้

“ขนาดตลกก็ยังหล่อเลยนะ” พริมาชมหลานชายอายุ 2 ขวบเศษซึ่งมีอายุเท่ากับลูกชายคนที่ 2 ของเธอ ด.ช. พัทธดนย์หรือน้องปิ๊ปพอดิบพอดี

“ใช่เลย เด็ก ๆ สมัยนี้หน้าตาน่ารักกันทั้งนั้น หล่อ ๆ แทบทุกคน ลูกแก 2 คนนั่นก็ใช่ย่อย จะหล่อล้ำหน้าพ่อแล้วนะ ขออย่าให้เจ้าชู้หลายใจเหมือนพ่อด้วยก็แล้วกัน....” วรปรัชญ์หยุดปากพาจนของตัวเองไม่ทันอีกครั้ง

“เอ่อ...ไม่ได้ตั้งใจน่ะปริม” วรปรัชญ์รีบกล่าวขอโทษ

“งั้นก็ตั้งใจบ้างก็ได้นะ” พริมาแกล้งต่อว่าก่อนที่จะหันไปดูรูปถ่ายในมือถือของตนเองต่อ ซึ่งเป็นรูปหนูน้อยคนสุดท้องของบ้านนิมมานรดี ‘ด.ช.พิชเญศ นิมมานรดี’ หรือน้องวันตัวอ้วนจ้ำม่ำที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จและกำลังถูกคุณแม่และคุณยายช่วยกันแต่งตัว พริมาดูรูปไปก็อดยิ้มไปไม่ได้ที่ได้เห็นความอบอุ่นของครอบครัวเพื่อนรัก พลันนึกถึงคำพูดของวิชญ์ที่เมื่อคืนเขาได้พูดคุยกับเธอตามลำพังที่ระเบียงบ้านหลังอาหารมื้อค่ำ

‘เท่าที่พี่รู้จักกับโป๊ปมา พี่แน่ใจนะปริมว่าโป๊ปคงทรยศปริมแค่เรื่องร่างกาย แต่เรื่องหัวใจพี่มั่นในว่าเขายังรักปริม ที่เขาไม่อยากหย่าก็เพราะเขายังรักปริมอยู่ ผู้ชายเราน่ะไม่ได้รักใครกันง่าย ๆ หรอกนะ ถึงบางคนจะโดนเรียกว่ามากรักก็เถอะ ที่มากน่ะไม่ใช่ความรัก แต่เป็นกิเลสตัณหาต่างหากล่ะ.......พี่ไม่ได้พูดให้ปริมต้องเปลี่ยนหรือตัดสินใจอะไรใหม่ พี่แค่อยากให้ปริมได้รับรู้อีกมุมหนึ่งของผู้ชาย’ วิชญ์ที่แทนตัวเองว่าพี่เพราะมีอายุมากกว่าพริมาและพิชญธิดาถึง 5 ปี รวมทั้งแก่กว่าภัทรประมาณ 2 ปีเศษให้ข้อคิดแก่พริมาอย่างตรงไปตรงมา เพราะได้รับการไหว้วานจากศรีภริยาให้ช่วยพูดให้อีกแรง ทั้งสองครอบครัวสนิทกันมาหลายปีแล้วเพราะนอกจากฝ่ายหญิงจะเป็นเพื่อนรักกันมายาวนานแล้ว ฝ่ายชายก็ยังทำธุรกิจร่วมกันอีกด้วย วิชญ์มากู้เงินก้อนโตจากธนาคารของภัทรเพื่อไปลงทุนทำโรงแรม ณ นิมมานรดี แห่งใหม่ในเวียดนาม นอกจากจะปล่อยให้กู้ด้วยเงื่อนไขพิเศษแล้ว ภัทรยังขอเข้าร่วมหุ้นด้วย เพราะเชื่อมั่นในการบริหารของวิชญ์ ชายหนุ่มทั้งสองจึงรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

‘แล้วทำไมพี่โป๊ปถึงต้องทรยศปริมด้วยล่ะคะ ที่พี่วิชญ์ทะเลาะกะอัณณ์ตั้งเป็นปีสองปี ทำไมพี่วิชญ์ถึงไม่มีคนอื่นละค่ะ’ พริมาถามอย่างใคร่รู้เพราะต้องการเปรียบเทียบกับเรื่องของตนเอง

‘เรื่องของโป๊ปพี่คงตอบแทนเขาไม่ได้ คนเรามีสาเหตุแตกต่างกัน ส่วนเรื่องของพี่คงเป็นเพราะหัวใจสลายล่ะมั้ง พี่ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไรอัณณ์ถึงทิ้งพี่ไป และเราก็เพิ่งจะลงตัวกันได้ไม่นาน พูดง่าย ๆ ว่าพี่อกหักแล้วกัน มันเลยไม่รู้สึกไยดีกับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น เรื่องของพี่กะของโป๊ปมันต่างกันนะปริม อย่าเอามาเปรียบเทียบกันเลย ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก พี่ว่า....ปริมลองถามตัวเองดีกว่านะว่าเพราะอะไร แต่ถ้าปริมตอบไม่ได้เพราะไม่รู้จริง ๆ ก็ต้องไปถามเจ้าตัวผู้ที่รู้คำตอบดีที่สุด’

‘พี่วิชญ์บอกว่าพี่กะอัณณ์เพิ่งลงตัวกัน พี่เลยไม่คิดมีคนอื่นเพราะยังทำใจไม่ได้ งั้นคู่ของปริมก็มาจากที่คบกันมานานน่ะสิคะ’ พริมาเริ่มคิดมากอีกครั้ง

‘นั่นไง! พี่เพิ่งบอกว่าอย่าเอาไปเปรียบเทียบกัน ไม่ทันไรเลย’ วิชญ์พูด

‘พี่ว่า ณ ตอนนี้ปริมอย่าไปสนใจดีกว่าไหมว่าเพราะอะไร พี่อยากให้ปริมมองไปข้างหน้าก่อนว่าจะเอาอย่างที่ตัดสินใจแล้วจริง ๆ เหรอ ถ้ายังยืนยันก็ให้ลองคิดถึงภาพในอนาคตของตัวเองดูว่าจะไปทิศทางไหน ถ้าคืนดีกันไม่ได้จริง ๆ อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนกัน เพราะต้องช่วยกันเลี้ยงลูกอีก ไหน ๆ ก็เลิกกันแล้ว ก็ขอให้เลิกกันด้วยดี อย่าบาดหมางกันเลย เพราะยังต้องพูดต้องคุยเรื่องลูกกันอีกยาวไกล....’ วิชญ์พูดยังไม่ทันจบดีก็มีเสียงดังขัดขึ้นว่า

‘พี่วิชญ์นี่อะไรกัน ใช้ไม่ได้เรื่องเลยนะ อัณณ์บอกให้มาช่วยพูดให้พวกเขาคืนดีกัน นี่อะไร มานั่งพูดให้เขาเป็นเพื่อนกันหลังเลิกกันแล้ว ผู้หญิงคนไหนจะอยากเป็นเพื่อนกับอดีตสามีที่นอกใจบ้างละคะ ถ้าเป็นอัณณ์ อัณณ์ก็ไม่เป็นเพื่อนด้วยหรอก ทางใครทางมันไปเลย อะไรกัน นอกใจมีคนอื่นแล้ว ยังจะให้มาคบเป็นเพื่อนอีกนี่นะ ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอคะ ไม่ต้องเป็นเพื่อนก็ช่วยกันเลี้ยงลูกได้ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเองให้ดีก็ได้แล้วนิ พ่อทำหน้าที่พ่อ แม่ทำหน้าที่แม่ก็พอแล้ว ไม่เห็นจะต้อง.....’ พิชญธิดาเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นแล้วต่อว่าสามีตัวดีที่ทำงานไม่สำเร็จอย่างยืดยาว โดยลืมคิดถึงผู้ฟังอีกคนที่อยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วย

‘อัณณ์!’ วิชญ์ปรามภรรยาเพราะเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของพริมา

‘อุ้ย! อัณณ์ลืมตัวไป ขอโทษนะปริม อย่าฟังฉันเลย ช่วงหลังคลอดใหม่ ๆ น่ะ สมองยังไม่ทำงานเต็มร้อย’ พิชญธิดารีบขอโทษเพื่อนรัก

‘แล้วสมองแกเคยทำงานเต็มร้อยด้วยเหรอนังเอ๋อเหรออัณณ์ ฉันเห็นไม่ลืมโน่นก็ลืมนี่อยู่ตลอดเวลา กี่ปีกี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยน’ วรปรัชญ์ที่ตามมาสมทบและรีบฉวยโอกาสซ้ำเติมเพื่อนซี้อย่างไม่ให้ตั้งตัวได้

‘ฮ่า ๆ ๆ’ วิชญ์หัวเราะเพราะแอบเห็นด้วยกับวรปรัชญ์ แต่ก็มีอีกหนึ่งคนที่นอกจากจะไม่ขำด้วยแล้ว น้ำตายังเริ่มซึมออกมาจนเธอต้องรีบกะพริบไล่มันออกไปก่อนที่ใคร ๆ จะได้เห็นและพากันหมดสนุก



************************



“ปริม ๆ เป็นไรอะ เรียกตั้งสองสามทีแล้วนะยะ” วรปรัชญ์เขย่าแขนพริมาเมื่อเห็นว่าเพื่อสาวเริ่มออกอาการเหม่อและเศร้าอีกแล้ว

“เปล่า ๆ จ้ะ พอดีกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ น่ะ นี่ดูรูปตาวินรูปนี้สิ น่ารักน่าฟัดมากเลยเนอะ เห็นแล้วคิดถึงเจ้าลิงสองตัวที่บ้านจัง วันนี้ว่าจะเลยไปรับตาป๊อปด้วย ไปด้วยกันไหม” พริมารีบเปลี่ยนประเด็นเพราะรู้ดีว่าคนฉลาดอย่างวรปรัชญ์นั้นช่างสังเกตมากแค่ไหน เธอไม่อยากพูดเรื่องนั้นในที่สาธารณะแบบนี้ พูดเสร็จพริมาก็ใช้นิ้วชี้เลื่อนรูปถัดไปบนหน้าจอมือถือพลางชักชวนให้วรปรัชญ์สนใจรูปถ่ายแทน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่มีข้อความปรากฎขึ้นบนหน้าจอ

“อ้าว! นังนี่ขึ้นเครื่องแล้วยังไม่ปิดสัญญาณอีก แกนี่....” วรปรัชญ์หยุดชะงักเพียงแค่นั้นเมื่อได้อ่านข้อความที่เห็นไปพร้อม ๆ กับพริมา

‘Darling - กลับวันนี้ใช่ไหม เดี๋ยวพี่ไปรับนะ อยากคุยเรื่องหย่าให้เรียบร้อย’

ไม่ต้องการคำขยายใด ๆ ทั้งนั้น เพราะ ‘Darling’ ก็บอกได้อย่างชัดเจนแล้วว่าข้อความนี้มาจากใคร และเขาต้องการจะบอกอะไรกับเธอ.....อยากคุยเรื่องหย่าให้เรียบร้อย.... คงเป็นประเด็นสำคัญกว่า ....เดี๋ยวพี่ไปรับนะ..... เขาจะมารับเพราะอยากคุยเรื่องสำคัญ ไม่ใช่การมารับเธอเป็นเรื่องสำคัญเหมือนสมัยก่อนที่เคยรักกัน.....ทันที่ วรปรัชญ์ยื่นมามาบีบให้กำลังใจ พริมาก็ปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงมาอย่างอ่อนล้าเงียบ ๆ ไม่มีเสียงสะอื้นเพราะสถานที่ไม่เอื้ออำนวย เธอรีบซับน้ำตาแล้วจึงเอนศีรษะไปซบกับไหล่ของวรปรัชญ์ ที่เดียวในตอนนี้ที่เธอจะพอพักพิงหัวใจได้......แต่ทว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นนั้น ไม่รอดสายตาของราเมศวรไปได้ สายตาที่มองมาอย่างสงสัยใคร่รู้และเจ้าตัวก็อยากเสียเหลือเกินที่จะเป็นเจ้า ของไหล่หนาให้เธอได้ซบบ้างในยามท้อแท้และอ่อนแอ



************************

ไม่เคยสนใจจำนวนตัวเลขของผู้เข้าอ่าน เพราะมัวแต่รอคอย ‘คอมเม้นต์’ ของทุกท่าน อิๆๆ




อาทิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ต.ค. 2555, 11:58:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ต.ค. 2555, 11:58:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 1927





<< ตอนที่ 13 มา 20 % ก่อนนะคะ   ตอนที่ 13 ครบ 100% แล้วค่ะ >>
pretty 4 ต.ค. 2555, 12:57:50 น.
เฮ้ออออ สงสารนางเอกมากมาย


สายลมแห่งรัก 4 ต.ค. 2555, 19:10:38 น.
ตัดไปเลย ยังมีพระรามอยู่อีก


poy 4 ต.ค. 2555, 21:47:00 น.
ค้างอ่ะมาต่อไวๆๆนะค่ะสงสารนางเอกที่สุดนายโป๊ปเคลียกับนังเมียน้อยได้แล้วใช่ป่าวเนี่ย


อ้อย 5 ต.ค. 2555, 01:18:48 น.
มีคนอยากให้ซบไหล่ด้วย*


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account