บุหงาซ่อนกลิ่น (ช่องสามซื้อลิขสิทธิ์แล้ว)
ด้วยความรู้สึกผิด เขาจึงติดตามชดใช้
จนกลับกลาย...มาเป็นความรัก

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สิมิลัน มายาวี เจ้าของฉายาสาวฮอตทะเลร้อนไม่เข้าใจเล้ย! ว่าทำไมในละครถึงชอบให้พระเอกข่มขืนนางเอก แล้วตอนท้ายนางเอกก็ดันไปหลงรักผู้ชายเฮงซวยจำพวกนั้นเสียด้วย

เพราะวันที่ฝันร้ายเกิดขึ้นกับเธอ หญิงสาวเกลียดปัณณ์ รัชนาถ จนแทบไม่อยากเห็นหน้า ถ้าฆ่าเขาให้ตายคามือได้โดยไม่ติดคุก เธอก็คงทำไปแล้วแน่ๆ

แต่แล้วเมื่อข่าวหลุดลอดออกไป แทนที่ผู้คนจะเห็นใจว่าเธอถูกกระทำ กลับหาว่าเธอจงใจยั่วซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของวงการ ทั้งยังวางแผนแบล็คเมล์กะจับเขาให้อยู่มือเสียอีก

โอ๊ย! โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้วนี่!

ครั้นจะลุกขึ้นมาทวงศักดิ์ศรี ใครล่ะจะเชื่อ ในเมื่อเธอเป็นแค่ตัวอิจฉาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่นางเอกที่จะเรียกร้องความเห็นใจจากใครได้เลย

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ค่าตัวแพงไม่เบานะ” เสียงห้าวที่ดังมาจากด้านหลังหยุดย่างก้าวของเธอได้ชะงัดนัก

หญิงสาวตัวชาวาบ หันขวับมาตวัดมองเจ้าของเสียงทันควัน ปัณณ์ในเครื่องแต่งกายชุดใหม่เดินลงบันไดโค้งมายืนอยู่ตรงหน้า

“ถึงฉันจะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันขายตัว”

“แต่งตัวยิ่งกว่าผู้หญิงกลางเมือง ยังจะปฏิเสธอีก เธอนี่โชคดีเหลือเกินนะ ยายเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คืนเดียวเรียกได้ตั้งยี่สิบล้าน!”

ดวงตาสิมิลันวาวจ้าราวแม่เสือ กระนั้นกลับมีหยาดน้ำวาวๆ คลอเต็มหน่วย หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น รวบรวมทุกกำลังใจที่เหลืออยู่น้อยนิด ย้ำกับตัวเองว่าให้เข้มแข็งเข้าไว้ หากจะตายก็ขอไปตายที่อื่น อย่าให้ผู้ชายคนนี้เห็นความอ่อนแอของเธอเด็ดขาด อย่าให้เขาหัวเราะเยาะ เย้ยหยันเธอได้อีก

หญิงสาวเชิดหน้า แต้มยิ้มเหยียด “ก็คงไม่โชคดีเหมือนไอ้เฒ่าตัณหากลับอย่างคุณหรอก แก่ขนาดนี้แล้วยังอุตส่าห์ได้เคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างฉันน่ะ”
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๒๐

หลังการแถลงข่าวในวันนั้นแล้ว ปัณณ์ก็ยัดเยียดตัวเองมาเป็นแขกที่บ้านของสิมิลันทุกเช้าโดยไม่มีใครออกปากเชิญ

เขายืนยันว่าการพาหญิงสาวไปให้แพทย์ตรวจแผลที่เปลือกตาและข้อมือเป็นหน้าที่อันชอบธรรมทั้งด้วยความรับผิดชอบที่เป็นต้นเหตุให้เธอเจ็บตัว และในฐานะของคนรักที่ดี

กิริยาสุภาพ นุ่มนวล แสนดีแบบที่พระเอกหนุ่มเล่นละครชนะใจสาวมาแล้วทั่วประเทศทำให้มารดาของหญิงสาววางใจและอนุญาตให้ปัณณ์รับบุตรีออกไปได้ แต่ก็มีข้อแม้ว่าเขาจะต้องพาสิมิลันกลับมาส่งที่บ้านตามเวลาที่กำหนด

ระหว่างที่แผลตรงเปลือกตาและข้อมือยังไม่หายดี สิมิลันจำเป็นต้องขาดงานโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ หญิงสาวจึงทุ่มเทเวลาให้กับการไปมหาวิทยาลัย และเรียนให้อาจารย์ทราบล่วงหน้าว่าหลังจากดวงตากลับมามองได้ตามปกติ เธอจะต้องขาดเรียนเพื่อไปทำงานชดเชยให้กับผู้ว่าจ้างหลายราย

เป็นหนึ่งสัปดาห์แรกในชีวิตนักแสดงที่สิมิลันไม่ได้ทำงานเลยแม้แต่วันเดียว เธอไปเรียน แวะไปโรงพยาบาล แล้วก็กลับบ้าน โดยมีผู้ชายเอาแต่ใจทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้มารับ-ส่งด้วยตัวเอง หรือบางวันที่ติดงาน ปัณณ์ก็จะส่งรถของแอบโซลูตเจมส์พร้อมคนขับรถมาให้เธอเรียกใช้แทน

วันแรกสิมิลันลองของด้วยการไม่แยแสความเมตตาของแฟนกำมะลอ ละเลยรถที่เขาส่งมาให้ แล้วขอแรงงามตาขับรถไปส่งที่มหาวิทยาลัยแทน เย็นวันนั้นเองปัณณ์ก็แสดงให้เห็นว่าเขาไม่พร้อมจะรับคำปฏิเสธหรือการแข็งข้อจากเธอไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น และเมื่อไรที่เธอคิดต่อต้านคำสั่ง ผลของมันก็จะทำให้ตัวเธอเองนั่นแหละที่ต้องอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีเสียเอง

เปล๊า! เขาไม่ได้มาอาละวาด ทำตัวงี่เง่าหรือวางอำนาจข่มเธอให้อับอายหรอก

แต่เขาเจ้าเล่ห์กว่านั้นเยอะ ปัณณ์หอบดอกไม้ช่อใหญ่ที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นไปยืนคอยเธอที่หน้าห้องเรียนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม...เอาชนะ

เสียงฮือฮา ชี้ชวนกันดู รวมไปถึงกิริยากรี๊ดกร๊าดปลาบปลื้มทั้งต่อหน้าและลับหลังของสาวๆ ในคณะทำให้เธอถูกคนมอง เพื่อนหลายคนส่งสายตารู้ทันล้อเลียนมาให้ บ้างก็แอบมากระซิบว่าอิจฉาเธอใจจะขาด

สิมิลันเพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า ’แพ้ภัยตัวเอง’ ก็คราวนี้เอง เพราะแทนที่จะได้สะใจกับการขัดใจปัณณ์ และแสดงให้คนภายนอกเชื่อว่าการแถลงข่าวนั่นเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง เธอไม่ได้เป็นแฟนเขาสักหน่อย แต่แล้วการณ์ก็กลับกลายเป็นว่าเขาเอาความดื้อดึงของเธอไปใช้ประโยชน์กับตัวเองจนได้

หญิงสาวจำต้องยอมรับว่าการที่เธออายุน้อยกว่าปัณณ์รอบเศษ นี่มันเป็นข้อเสียเปรียบอย่างใหญ่หลวงมหาศาลจริงๆ เธอผ่านโลกมาน้อยกว่า อาบน้ำร้อนมาน้อยกว่า ระดับความเจ้าเล่ห์แสนกลฉลาดแกมโกงนั้น หากเทียบกับปัณณ์แล้วเธอแพ้ราบคาบ

สุดท้ายสิมิลันจึงยอมละทิฐิ แต่เรื่องอะไรจะปฏิบัติตามง่ายๆ ให้เขาตีปีกดีใจว่าบังคับเธอได้ล่ะ หญิงสาวยอมทำตามที่เขาสั่งทุกเรื่อง ทว่าด้วยสีหน้า แววตา และท่าทางซังกะตายจนน่าหมั่นไส้

แต่ก็นั่นแหละ...ปัณณ์ทำเป็นไม่เห็นเสียอย่างนั้น แถมยังพูดคุยกับเธอเป็นปกติ นั่นทำให้สิมิลันจนปัญญาจะต่อต้านหรือหาเรื่องงัดข้อกับเขาอีกต่อไป

เธอเริ่มทำใจให้ชินกับการถูกบงการชีวิต ต้องมีผู้คุมคนใหม่ และมีคนหน้าตาน่าหมั่นไส้โผล่มาให้เห็นใกล้ๆ และบ่อยๆ อย่างจำยอม

แต่วันแรกที่กลับไปทำงานที่กองถ่าย หญิงสาวก็ต้องอ้าปากค้างซ้ำอีกคำรบ เมื่อพบว่าปัณณ์ได้เลื่อนระดับจากคนเอาแต่ใจขึ้นเป็นจอมเผด็จการชนิดสมบูรณ์แบบแล้ว

กระโจมสีขาวหลังเล็กที่เคยกางอยู่มุมหนึ่งของกองถ่าย ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมเครื่องปรับอากาศไว้เป็นห้องส่วนตัวของพระเอกหนุ่ม มาบัดนี้ขนาดของเต๊นท์ใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า จากโครงสร้างด้านนอกทำให้มองออกได้ไม่ยากว่าภายในจะต้องถูกแบ่งเป็นห้องเล็กสองห้องแน่นอน

ปัณณ์ชี้ไปยังกระโจมสี่เหลี่ยมสีขาวตรงหน้าแล้วอธิบายอย่างภาคภูมิ “พี่สั่งคนขยายห้องให้กว้างขึ้นเป็นสองเท่า อีกครึ่งหนึ่งเป็นห้องของตองไงจ๊ะ จากนี้ตองจะได้ไม่ต้องไปใช้ห้องแต่งตัวปะปนกับนักแสดงคนอื่น”

“แต่ฉันไม่ได้ต้องการนี่” สิมิลันปฏิเสธระรัวจนลิ้นแทบจะพันกัน “ห้องแต่งตัวนักแสดงก็ไม่ได้คับแคบสักหน่อย ไม่มีความจำเป็นที่ฉันจะต้องมาใช้เต๊นท์บ้านี่หรอก”

“จำเป็นสิตอง ลืมแล้วหรือไงว่าตอนนี้ตองเป็นแฟนพี่นะ ตองจะมาทำตัวเป็นนักแสดงสบทบแบบเดิมไม่ได้แล้ว” คนพูดผายมือให้เธอเดินนำเข้าไปในเต๊นท์ที่เขาแหวกผ้าด้านหนึ่งไว้ให้เป็นทางเข้า

สิมิลันเหลือบมองชาวกองถ่าย ก็เห็นแต่ละคนลอบมองมาจากมุมไกลๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นกันถ้วนหน้า จึงรู้ดีว่าไร้ประโยชน์ที่จะต่อต้าน เธอจำใจก้าวเข้าไปด้วยกิริยาอ่อนใจอย่างทุกครั้ง เบื่อจะงัดข้อกับเขาเต็มทีแล้วเช่นกัน ที่ผ่านมาน่ะ อย่าพูดถึงชนะเลย แค่เสมอยังไม่เคย เพราะเธอแพ้ตลอด

“อ้าว แคเรน มาทำอะไรที่นี่” เสียงห้าวจากด้านหลังเธอดังขึ้นเมื่อเข้ามาภายในแล้วพบว่าที่พัก ‘ส่วนตัว’ ของเขามิได้ว่างเปล่าดังที่คาด

“แคเรนมาคอยต้อนรับแซมน่ะค่ะ เป็นไงจ๊ะเพื่อน เจ็บเสียตั้งหลายวัน หายดีแล้วเหรอ แคเรนว่าจะไปเยี่ยมตั้งหลายหนแล้ว แต่ก็ไม่ว่างสักที”

สิมิลันเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจกับท่าทีเป็นมิตรผิดปกติ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่นำพา แสร้งทำเป็นไม่เห็นเสียอย่างนั้น

“ที่นี่น่าสบายดีนะ ถ้าแคเรนจะขอเข้ามาอาศัยนั่งอ่านบทด้วยได้ไหมเนี่ย เราจะได้เมาท์กันตามประสาสาวๆ ด้วยเนอะ”

สิมิลันกลอกตาไปมาอย่างอึดอัด อยากตอบตามตรงไปว่าจะทำอะไรก็เชิญตามสบาย แต่แปลก...ใจหนึ่งเธอกลับไม่อยากฉีกหน้าคนข้างๆ ขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“ถามผมบ้างหรือเปล่าน่ะแคเรน ผมสั่งคนมาปักกระโจมเพิ่มเพื่อให้แฟนผมพักผ่อนได้สบายๆ ไม่ใช่เอาไว้ให้เป็นที่พักอาศัยของใคร เข้าใจเสียใหม่ด้วยนะ” ปัณณ์โพล่งขึ้นมาดื้อๆ

“เอ้อ...แหม...พี่ปัณณ์นี่ล้อเล่นซะแรงเชียว”

“กลับไปห้องแต่งตัวของคุณ ไปอยู่กับพี่ดาโน่นไป อย่ามาเกะกะแถวนี้เลย” เขาตัดบทอย่างไม่ไว้หน้า

นางเอกสาวประจำกองหน้าเสีย ขยับจะแก้ตัว แต่ก็เปลี่ยนใจเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากกระโจมปรับอากาศไปด้วยสีหน้างอง้ำ

“ไม่เห็นต้องพูดแรงขนาดนั้นเลย” สิมิลันเปรย

“ไม่พูดไม่ได้หรอก เมื่อก่อนเขาพูดไม่ดีกับหนูตั้งเยอะแยะ ตอนนี้ก็ต้องได้รับบทเรียนบ้าง”

เธอเหลือบมองสีหน้าเขาด้วยความแปลกใจ คาดไม่ถึงว่าเขาจะสังเกตหรือจดจำเรื่องที่แคเรนเคยแขวะประชดเธอในกองถ่ายพวกนั้นด้วย

“ไม่ได้มีแต่แคเรนคนเดียวสักหน่อยที่พูดจาไม่ดีกับฉันน่ะ” กระนั้นเธอก็อดย้อนเขาไม่ได้อยู่ดี

“แต่พี่ไม่ได้คิดอย่างที่พูดนี่ แค่...อยากจะแหย่หนูให้โกรธเท่านั้นเอง”

“เลิกเรียกฉันว่าหนูได้แล้ว ตรงนี้ไม่มีใครแล้ว” สิมิลันแย้ง ท่าทางฉุนเฉียว เมื่ออีกฝ่ายเพียรย้ำเหลือเกินว่าเขาจะต้องเล่นบทคนรักที่แสนดี

“พี่ว่าน่ารักดีออก หนูไม่ชอบหรือ”

“เอ๊ะ! คุณนี่! ฉันบอกว่าให้เลิกเรียกไง”

“แต่พี่ชอบนี่ คนโน้นคนนี้อย่างมากก็เรียกแซม เรียกตอง แต่พี่ไม่อยากเหมือนใคร เพราะฉะนั้นพี่จะเรียกว่าหนูนี่ล่ะ ดีแล้ว พี่ชอบ”

“ถามฉันบ้างก็ได้นะ” สิมิลันยกคำที่เขาใช้ปรามนางเอกสาวเมื่อครู่มาพูดบ้าง

“หัวไวนะเนี่ย จะว่าไปพี่ก็ชอบผู้หญิงฉลาดๆ นะ สวยอย่างเดียวแต่โง่นี่ไม่ไหว”

“พอเลยคุณลุง ไปปากร้ายกับคนอื่นเถอะ ฉันขี้เกียจฟังคุณพูดแล้ว” สิมิลันชักเหลืออดเมื่อเขาตั้งท่าจะนินทาผู้หญิงให้เธอฟังดื้อๆ หญิงสาวหันรีหันขวาง

“ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเข้าฉาก”

“เดี๋ยวให้ใครเอามาให้เปลี่ยนที่นี่ก็ได้” ปัณณ์แนะแล้วชี้ไปที่ราวเสื้อผ้าในห้องเขา “เหมือนพี่นี่ไง”

“ไม่ต้อง ฉันไม่อยากทำตัวแปลกแยกจากคนอื่น”

ปัณณ์ยักไหล่ “ตามใจนะ งั้นเดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อนละกัน”

“ไม่ต้อง”

“หนูห้ามได้ แต่พี่จะทำหรือเปล่าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเนอะ” คนพูดทำกิริยาสบายอกสบายใจร่าเริง...เกินเหตุ แถมเมื่อสิมิลันก้าวฉับๆ หนีไปทางห้องแต่งตัวของนักแสดง ร่างสูงก็ขยับตามมาเบื้องหลังง่ายๆ อีกด้วย

“เอ๊ะ! แล้วคุณไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้าเตรียมเข้าฉากหรือไง” สิมิลันหันขวับไปทำตาเขียวขึงใส่ พลางกระซิบเบาๆ

“พี่แต่งตัวแป๊บเดียว เดี๋ยวไปเป็นเพื่อนหนูก่อนก็ได้”

“อย่าทำให้ฉันลำบากใจได้ไหม” สิมิลันถอนใจ “ฉันไม่อยากถูกใครมอง แค่นี้ก็อึดอัดจะตายอยู่แล้ว”

“อ้าว ไหนหนูเคยบอกว่ามีคนมองสิดี แปลว่าหนูดัง”

“นั่นมันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ใครๆ เขาไม่ได้มองเพราะฉันดัง เขามองเพราะเขาอยากรู้ว่าฉันทำเสน่ห์ใส่คุณอีท่าไหน คุณถึงได้ทำท่าทางคลั่งรักบ้าบออยู่นี่น่ะ”

ปัณณ์ยิ้มกริ่ม เย้าหน้าเป็น “ทะลึ่งไปเปล่า ถึงขนาดอยากรู้ว่า ‘ท่าไหน’ เลยเนี่ย”

แทนที่จะเย้าเล่นหรือแหวใส่ สิมิลันกลับเม้มปากแน่น เสเมินมองไปทางอื่นทันควัน ปัณณ์จึงระลึกได้ว่าเขาแตะต้องเข้าไปยังจุดเปราะบางในหัวใจเธอเข้าแล้ว

“พี่ขอโทษ” เขางึมงำ “พี่มันก็ปากเสียอย่างนี้แหละ อย่าถือสาเลยนะ”

หญิงสาวก้มหน้าเดินหนี ปัณณ์ไม่ยอมง่ายๆ จ้ำตามไปอย่างรวดเร็ว

“ตอง คุยกันก่อน ฉันบอกแล้วไงว่าขอโทษ เธอจะไม่ให้อภัยเลยหรือไง คนเขาไม่ได้ตั้งใจ” พอรีบร้อนเข้าหน่อย เขาก็เผลอเสียงแข็ง ใช้สรรพนามแบบเดิมด้วยความลืมตัว

“ขอร้องล่ะ ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะลืมเรื่องนั้นซะ ช่วยเลิกยกขึ้นมาพูดถึงเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดาเสียที ฉันไม่เคยสนุกด้วยหรอกนะ”

ปัณณ์หน้าบึ้ง “มันเป็นเรื่องธรรมดาสิมิลัน คนสองคนรักกันก็ต้องมีเรื่องอย่างนั้นทั้งนั้นแหละ”

“คุณพูดถูก ถ้าคนสองคนรักกันไง” หญิงสาวทวนคำ “แต่เราไม่ใช่!”

ปัณณ์หน้าเสียเล็กน้อย แต่แล้วก็ยิ้มกว้าง เปลี่ยนกิริยาราวกับปิดสวิตช์

“ไม่เป็นไร ตอนนี้ไม่รัก อีกหน่อยก็รักเองแหละ”

“ฉันไม่ขำ” หญิงสาววีนเสียงเข้ม

“พี่ก็ไม่ได้จะให้ขำ แต่พี่พูดเพราะอยากให้หนูรู้ ว่าพี่คิดอย่างนั้นจริงๆ”

สิมิลันชะงัก เหลือบขึ้นสบตาอีกฝ่ายนิ่งๆ ยอมรับว่าประกายมั่นคงของเขาทำให้เธอหวั่นไหว ทว่าเธอรู้...ว่าเขาเป็นสุดยอดนักแสดง กับอีกแค่ทำแววตาสีหน้าให้น่าเชื่อถือ ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลยสักนิด

“ค่ะ ขอบคุณละกัน” เธอหมุนกายเดินไปยังห้องแต่งตัวอย่างรวดเร็วราวกับจะหนีบางสิ่ง ซึ่งแม้แต่เจ้าตัวก็ไม่กล้าถามตัวเองด้วยซ้ำว่ากำลังหนีอะไร แล้วเธอจะทำได้สำเร็จจริงหรือ

การที่พระเอกหนุ่มซึ่งเคยแต่หมกตัวอยู่ในที่พักส่วนตัวเกิดจะโผล่มาในห้องแต่งตัวของนักแสดงทั้งกอง เป็นเรื่องน่าประหลาดจนทำให้ทุกคนหยุดสิ่งที่กำลังกระทำอยู่แล้วหันมามองปัณณ์ด้วยสายตาฉงน

“ผมเดินมาส่งแซมน่ะครับ น้องต้องเปลี่ยนชุดแล้วก็แต่งหน้าเตรียมเข้าฉาก เห็นว่าเพิ่งหายป่วย เลยเป็นห่วงน่ะครับ” คนพูดอธิบายยาวๆ ด้วยความร้อนตัว ทั้งที่ยังไม่มีใครถามสักคำ

“ไม่ต้องห่วงนะคะพี่ปัณณ์ เดี๋ยวพวกเราจะดูแลหัวใจพี่อย่างดีเลยล่ะค่ะ” ช่างแต่งหน้าเป็นตัวแทนตอบให้ทุกคน ซึ่งตอนท้ายประโยคก็เรียกเสียงโห่จากรอบๆ ได้เป็นอย่างดี

ปัณณ์เหลือบมองคนข้างกายที่ยืนทำหน้านิ่งๆ แล้วรีบบอก

“ขอร้องล่ะฮะ อย่าแซวกันเลย ผมน่ะไม่เท่าไหร่ แต่น้องแซมเขาจะอาย”

“โอ๊ย อิจฉาค่า” เสียงใครสักคนจากในห้องโพล่งขึ้นมาลอยๆ อีกหลายคนจึงรีบสนับสนุน “เนอะๆ ความรักนี่ทำให้คนเปลี่ยนไปจริงๆ ด้วย”

สิมิลันรู้ว่าขืนปล่อยไปอย่างนี้ คงไม่ต้องทำงานกันพอดี จึงรีบส่งยิ้มให้เปิ้ลซึ่งทำหน้าที่ดูแลเครื่องแต่งกายของนักแสดง

“ชุดที่วันนี้แซมต้องใส่อยู่ไหนหรือคะ เดี๋ยวเปลี่ยนแล้วจะได้มาแต่งหน้า”

เพียงแค่เอ่ยถาม เสื้อยืดตัวจิ๋วกับกางเกงยีนสั้นก็ถูกยื่นมาตรงหน้าทันใจ

“ชุดนี้จ้า พี่หนุ่มเขาจะถ่ายซ่อมตอนที่ ๙ น่ะ แซมจำได้ใช่ไหม ที่คราวที่แล้วเราเทกไป ๒๔ เทกนั่นล่ะ”

“จำได้ค่ะ” สิมิลันถอนใจ “ไหนว่าจะเอาไว้ถ่ายตอนหลังไงล่ะคะ จู่ๆ ทำไมยกกลับขึ้นมาซ่อมก่อนล่ะ”

“เห็นว่าพี่หนุ่มต้องส่งเทปเข้าห้องตัดต่อ เอาสิบตอนแรกออกมาก่อนน่ะ ทางช่องอยากเห็น จะได้จัดคิวออกอากาศให้เลย” ช่างทำผมหันมาตอบ

“อ้อ...ค่ะ” สิมิลันพยักหน้า รับเสื้อผ้ามาถือไว้ กำลังจะเดินไปยังฉากผ้าที่กั้นไว้ให้นักแสดงผลัดเสื้อผ้า แต่ก็ช้ากว่า...

“เดี๋ยวสิตอง ขอพี่ดูเสื้อผ้านั่นหน่อยสิ” เสียงห้าวท้วง

“ดูทำไม”

“เสื้อมันแนบเนื้อมากเลยนะ แล้วกางเกงก็สั้นมากด้วย ไม่มีชุดที่มันปิดเนื้อปิดตัวกว่านี้เหรอ” ปัณณ์หันไปทางคนจัดเสื้อผ้า

“นี่ก็เสื้อผ้าปกติของหวันยิหวานี่คะ อยู่ๆ ทำไมพี่ปัณณ์ถามอย่างนี้ล่ะ” เปิ้ลอธิบาย

ปัณณ์เกี่ยวเสื้อเสื้อยืดตัวเล็กที่สิมิลันถืออยู่แล้วชูขึ้น

“นี่มันเกือบจะเป็นชุดว่ายน้ำอยู่แล้วนะเปิ้ล เอาแบบที่มันหลวมกว่านี้ได้ไหม จะได้ไม่ต้องเน้นรูปร่างน้องแซมมากเกินไป”

“คงไม่ได้หรอกพี่ปัณณ์ ชุดมันต่อเนื่องกัน ฉากอื่นๆ ถ่ายไปแล้ว ขืนเปลี่ยนชุด เดี๋ยวมันจะโดดซีน”

สิมิลันกลอกตาอย่างชั่งใจ รู้ว่าขืนปล่อยให้ผู้ชายจอมยุ่งอยู่ในห้องแต่งตัวอย่างนี้ เธอคงไม่เป็นอันต้องทำงานแน่นอน “ส่งเสร็จแล้ว คุณก็กลับไปเปลี่ยนชุดทำผมแต่งหน้าเตรียมเข้าฉากสิคะ ส่วนทางนี้เดี๋ยว...” สิมิลันกัดริมฝีปาก ชั่งใจว่าจะใช้สรรพนามแทนตัวว่าอย่างไรดี ในเมื่อทุกคนกำลังสนใจฟังอยู่
“เดี๋ยวตองจัดการเองค่ะ”

“แต่ว่า...”

เธอไม่เปิดโอกาสให้เขาแย้ง แต่รีบคว้าเสื้อจากมือเขาไปส่งให้เปิ้ล แล้วรุนหลังชายหนุ่มออกจากห้อง

“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นค่ะ คุณกลับไปแต่งตัวเถอะ” สิมิลันงับประตูปิดทันควัน แต่เมื่อหันกลับมาก็ต้องยิ้มแหย เพราะทุกคนในห้องอมยิ้มบ้างก็ขยิบตาให้เธออย่างล้อเลียน

“สวีตหวานซ้า เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเวลาพี่ปัณณ์อินเลิฟแล้ว เขาจะขี้หวงขี้หึงขนาดนี้” เปิ้ลเหวี่ยงเสื้อยืดในมือเล่นอย่างไร้ความหมาย “ตกลงว่า...แซมจะใส่เสื้อตัวนี้ไหมเนี่ย”

“ใส่สิคะ มันต่อเนื่องกับฉากที่ถ่ายไปแล้วนี่” จริงๆ เธอก็ไม่ได้ชอบเสื้อผ้าชิ้นเล็กน้อยพวกนี้หรอกนะ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อผู้จัดเลือกเธอมาเล่นบทนี้ก็เพราะหวังจะให้เธอแต่งตัวเปิดเผยเนื้อหนังเรียกเรตติ้ง ในฐานะที่ไม่ได้มีทางเลือกมากมายนัก สิมิลันจึงจำต้องยอมรับกับทุกสิ่งที่ถูกส่งมาให้โดยไม่มีคำโต้แย้ง

“เอางี้...เดี๋ยวพี่จะลองดูให้นะว่าฉากไหนยังไม่ได้ถ่ายบ้าง ถ้าเป็นไปได้เดี๋ยวจะหาเสื้อผ้าที่มันชิ้นใหญ่กว่านี้มาให้ละกัน ปัณณ์เขาจะได้เบาใจเนอะ” เปิ้ลหันไปยักคิ้วกับช่างทำผม

“แซมขอบคุณล่วงหน้าก็แล้วกันค่ะ” สิมิลันฝืนยิ้ม รีบรับเสื้อจากเปิ้ลเข้าไปเปลี่ยนหลังฉากกั้นอย่างรวดเร็ว จึงไม่ทันเห็นว่าใครคนหนึ่งซึ่งนั่งหลับตาเงียบๆ ให้แต่งหน้าอยู่ลืมตาขึ้นตวัดค้อนตามไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความริษยา!






“ทำแบบนี้มันจะดีเหรอวะ” ผู้กำกับหนุ่มใหญ่ติงอย่างไม่แน่ใจ เมื่อได้ฟังข้อเสนอของปัณณ์ครบถ้วน

“ดีสิครับพี่ ก็พี่หนุ่มบอกเองว่าทางช่องอยากได้เรต ๑๓+ ถ้าขืนปล่อยเลิฟซีนแรงๆ ออกมา มันก็ไม่ตรงตามเจตนารมย์และวัตถุประสงค์ของช่องสิ เอาอย่างที่ผมว่านี่แหละดีกว่าแน่ๆ เชื่อผม”

“แต่ว่า...”

“นะครับพี่หนุ่ม ช่วยผมหน่อย” ปัณณ์อ้อนเสียงนุ่ม “ผมสัญญาเลยว่าถ้าพี่ช่วยผมคราวนี้ เกิดใครติดต่อผมไปลงละครเรื่องใหม่ ผมจะเลือกพี่เป็นผู้กำกับ”

ข้อเสนอของซูเปอร์สตาร์หนุ่มน่าสนใจ เพราะในวงการนี้มีนักแสดงแค่ไม่กี่คนหรอกที่ ‘ยิ่งใหญ่’ พอที่จะเลือกผู้กำกับมาร่วมงานด้วยตัวเองได้ การที่ปัณณ์ให้คำมั่นเช่นนี้ เป็นเหมือนหลักประกันว่าเขาจะมีงานต่อเนื่องให้ทำแน่นอน

หนุ่มเริ่มลังเล แต่ยังไว้ท่า “พี่คงต้องปรึกษาคนเขียนบทก่อน”

“ถ้าต้องมีค่าใช้จ่าย พี่บอกผมได้เลย ผมรับได้” ปัณณ์เสนอผลตอบแทนให้อีกอย่างแนบเนียน

“เฮ้ย ไม่ต้องหรอก เอาแค่...ที่ปัณณ์สัญญาเรื่องละครเรื่องถัดไปก็พอแล้ว” หนุ่มยิ้มแย้ม ท่าทางบอกว่าตกลงใจไปแล้วเกินกว่าครึ่ง

ปัณณ์ขืนริมฝีปากไว้มิให้ยิ้มกว้างด้วยความสมใจที่ทุกอย่างเป็นไปดังที่เขาประสงค์ง่ายดายนัก






การถ่ายทำซ่อมฉากเลิฟซีนระหว่างนางร้ายของเรื่องกับตัวโกงกำลังจะเริ่มขึ้น สิมิลันและยงยุทธที่แต่งหน้าทำผมเรียบร้อยแล้วเข้ามายืนในฉากเตรียมซ้อมก่อนเริ่มถ่ายจริง

“เห็นว่าคราวก่อนแซมเล่นไม่ดีเลย พี่เป็นห่วงว่าแซมยังเด็กอาจไม่คุ้นกับการเล่นเลิฟซีนแรงๆ พี่ก็เลยไปปรึกษาคนเขียนบท ขอปรับบท เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะเปลี่ยนบล็อกกิ้งกันนิดหน่อย”

หนุ่มตบโซฟา กำหนดจุดยืนและนั่งของนักแสดง “ยงยุทธมานั่งตรงนี้”

“อ้าว ทำไมล่ะพี่ ผมต้องยืนแล้วผลักน้องแซมลงไปนอนที่โซฟาไม่ใช่เหรอ”

“บอกแล้วไงว่าปรับบท แทนที่จะให้เธอเป็นฝ่ายรุก พี่จะเปลี่ยนให้เธอนั่งเฉยๆ แล้วให้น้องแซมเป็นคนแสดงในส่วนที่ต้องใช้สีหน้าและอารมณ์แทน ตามบทแล้วหวันยิหวาต้องแค้นพระเอกมากจนยอมวางแผนนี้ขึ้นมาเพื่อเอาคืน เพราะฉะนั้นหวันยิหวาก็ต้องยั่วให้เธอหลง แล้วก็ยอมตกเป็นเครื่องมือของเขายังไงล่ะ”

ผู้กำกับเหลือบไปนอกฉากหลิ่วตาให้ปัณณ์ ซึ่งยกนิ้วโป้งให้อย่างมีพิรุธ

กิริยาที่สองคนส่งสัญญาณคุยกันด้วยภาษากายไม่พ้นสายตาของสิมิลันไปได้ เป็นครั้งแรกของวันที่หญิงสาวก้มลงแอบอมยิ้มกับตัวเอง พอจะเดาได้รางๆ แล้วว่าเหตุใดฉากเลิฟซีนที่เธอเทกยับเมื่อคราวก่อน มาวันนี้จึงกลายเป็นซีนง่ายๆ จากหน้ามือเป็นหลังมือ แถมบทยังเปลี่ยนจากที่เธอต้องถูกยงยุทธทั้งกอดทั้งหอม มาเป็นการนั่งเบียดกันบนโซฟา จับมือถือแขนเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนฉากจูบซุกไซ้ที่ชวนใจหายใจคว่ำ ก็เหลือเพียงเธอเป็นฝ่ายรุก ใช้มุมกล้องรับหน้าของนักแสดง โดยไม่ต้องเปลืองตัวเลยแม้แต่นิดเดียว

ดวงหน้างามเสหันไปยิ้มให้กับแจกันดอกไม้บนโต๊ะด้วยความรู้สึกชื่นบานแปลกๆ เมื่อเหตุและผลของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าเข้าใจได้แสนง่ายดาย

ปัณณ์ไม่ต้องการให้เธอเล่นฉากถึงเนื้อถึงตัวกับผู้ชายคนอื่นงั้นเหรอ

ตาลุงเอ๊ย หวงอะไรไม่เข้าท่า ชิ!

ตั้งแต่ถูกจอมเผด็จการพาตัวเองเข้ามาบงการโน่นนี่ในชีวิต เพิ่งจะมีครั้งนี้เองที่สิมิลันรู้สึกว่าปัณณ์ รัชนาถ ก็ไม่ถึงกับเป็นคนเลวร้ายไปเสียทั้งหมด

ดูๆ ไปเขาก็มีส่วนน่ารักอยู่บ้าง แม้จะเป็นเสี้ยวที่เล็กน้อยมากๆ ก็ตามที



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ต.ค. 2555, 16:39:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2555, 16:39:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 2685





<< ตอนที่ ๑๙   ตอนที่ ๒๑ >>
สิริณ 5 ต.ค. 2555, 16:47:06 น.
ขอบคุณทุกๆคนที่ช่วยกดไล้ค์ให้นะคะ
แอบลุ้นว่าจะแตะหลัก ๕๐ คนบ้างไหมมาหลายตอนแระ
แต่ก็ยังวนๆได้แค่ ๔๐ คนต้นๆ ตลอด
สงสัยยังสนุกไม่พอ เลยยังมีคนชอบไม่ถึงครึ่งร้อยสักที! :P

ถ้ายังไงขอฝากผลงานเล่มอื่นๆของสิริณด้วยนะคะ
ทั้ง ภาพรักในฝัน รอยตะวัน และแผนก่อการรัก
หาซื้อได้ที่ร้านหนังสือทั่วไป
หรือจะจดไว้ในรายชื่อสำหรับไปช็อปปิ้งในงานสัปดาห์หนังสือที่จะมาถึงก็ได้น้า
สิริณจะไปประจำที่บูธนายอินทร์ วันที่ ๒๗ ตุลาคม เวลา ๑๔.๐๐-๑๕.๐๐ น.
ใครว่างแวะไปเจอกันได้นะคะ

และพรุ่งนี้ (๖ ตุลาคม) เวลา ๑๙.๐๐ - ๒๐.๐๐ น. ทางช่อง TNN24
สิริณ และ ดวงมาลย์ สองนักเขียนแห่งสำนักพิมพ์อรุณ
จะไปออกรายการ คุยกันวันเสาร์
อย่าลืมติดตามชม และตอบคำถามร่วมสนุกกับทางรายการนะคะ
จะได้รับหนังสือชุด เรื่องรักรสเด็ด เปรี้ยว หวาน มัน(ส์) เผ็ด สะเด็ดถึงใจ ฟรีด้วยค่ะ ^^


sai 5 ต.ค. 2555, 17:03:12 น.
อ๊ายยย นายปัณญ์ น่ารักขึ้นเยอะนะย่ะ


alecigor 5 ต.ค. 2555, 17:05:37 น.
หนูตองชักใจอ่อนซะแล้ว


ปูจ้า 5 ต.ค. 2555, 17:16:48 น.
ตาลุง...เผด็จการแบบน่ารักนะคะ


supayalak 5 ต.ค. 2555, 17:46:36 น.
มาโหมดนี้ ไม่รักได้งัย


violette 5 ต.ค. 2555, 17:53:50 น.
ตาลุงน่ารักเกินไปแล้ว หนูตองก็ใจอ่อนแย่สิเนีย


เด็กหญิงม่อน 5 ต.ค. 2555, 18:00:50 น.
เวลาอ่านตอนที่ปัณณ์เรียกตองว่าหนูแล้วขนลุกทุกทีเลยค่ะ แต่ก็น่ารักอีกแบบ ><


chocoholic 5 ต.ค. 2555, 18:30:06 น.
อร๊าย มาอัพบ่อย ๆ อย่างงิรักตายเลยค่า

ลุงปัณนะ พอรู้ตัวก็เอาใหญ่เลย เรียกนางเอกว่า หนู ดั้ว


รอให้เป็นเล่ม 5 ต.ค. 2555, 19:58:12 น.
หนู... แอร๊ยยย


wind 5 ต.ค. 2555, 20:05:42 น.
ที่จริงก็แก่กว่าไม่เท่าไร แต่พอเรียกว่า หนู เลยกลายเป็นลุงจริงๆเลย


กาซะลองพลัดถิ่น 5 ต.ค. 2555, 20:46:08 น.
แหม ลุงอะไรจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้หนอ ทั้งหึงและหวง ยอม ๆ มั่งก็ได้นะจ๊ะหนูตอง....แต่ก็สมนำหน้ายัยแครีนจังโดนลุงตอกหน้าเข้าให้...


mhengjhy 5 ต.ค. 2555, 21:20:57 น.
โอ้ยย น่ารักกกกกกก


มะดัน 5 ต.ค. 2555, 21:44:29 น.
ไปสมัครอีก log in มาไลค์ให้ 555


หมวยจ้า 5 ต.ค. 2555, 22:36:01 น.
likeค่าาา


nateetip 5 ต.ค. 2555, 22:51:20 น.
ชอบมากค่ะ


nunoi 5 ต.ค. 2555, 23:00:09 น.
โอ๊ยยย เรียก "หนู" เลยเหรอค่ะคุณลุง ตอนนี้น่ารักมาก


หมูอ้วน 5 ต.ค. 2555, 23:31:14 น.
ตาลุงน่ารักมาก ๆ เลยค่ะ


wane 6 ต.ค. 2555, 05:47:09 น.
ปัณณ์น่ารักขึ้นเรื่อยๆ


Siang 6 ต.ค. 2555, 08:36:28 น.
ลุงน่ารักจริงๆ


winbkin 6 ต.ค. 2555, 08:37:14 น.
อร๊ายยยย!!! ลุงปัณณ์น่ารักได้จัย


alecigor 6 ต.ค. 2555, 17:10:40 น.
คนรักลุงปัณณ์จะครบห้าสิบแล้ว ครบห้าสิบเมื่อไหร่อัพเพิ่มฉลองเลยนะคะ


Pat 7 ต.ค. 2555, 20:38:53 น.
58like แล้วค่า


minafiba 8 ต.ค. 2555, 12:31:36 น.
^_^


85valse 8 ต.ค. 2555, 20:56:28 น.
ว้ายยยยยยย น่ารวักอะ


ling 9 ต.ค. 2555, 16:41:17 น.
น้านนน แอบมีใจให้แล้วล่ะซิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account