อรุณสวัสดิ์หัวใจ # ชอนตะวัน (จบแล้ว)
ความรักก่อให้เกิดความทุกข์ และรักที่เป็นไม่ได้ทุกข์ยิ่งกว่า
ตากับยายหล่อหลอมให้หลานสาวมีวิธีคิดอย่างคนพอเพียง
แต่บุญก็พา วาสนาก็ส่ง ให้เธอเป็นไปเกินกว่าที่ใจปรารถนา..

ไกล สุดเอื้อมมือถึง ไกล อยู่ถึงฟ้ากั้น
ไกล ไปหลายคืนวัน ไย รักมิกรายจากใจ

รักคือการแบ่งปัน รักคือการห่วงใบ รักคือการเสียสละ และรักคือการช่วยเหลือ

"ฉันไม่ได้แย่งเธอมาจากใคร เพียงแต่ว่าฉันทำตามที่ใจฉันเรียกร้องเท่านั้น
ถึงฉันจะเหลวไหลไปตามประสา แต่วันหนึ่งฉันก็รู้ว่าฉันควรหยุดที่ใคร"..

ดุจบ่วง ร้อยรัด ดวงใจ
ยิ่งแก้ ยิ่งพันใจ ยุ่งเหยิง
ยิ่งหนี ยิ่งตามติด ยากหลบ
พบคน ที่หัวใจ วางไว้ ใช่เลย

"ฉันรักเธอตั้งแต่เห็นหน้า เมื่อได้อยู่ใกล้ ๆ ได้เห็นเนื้อแท้จากข้างใน ฉันก็รักเธอยิ่งขึ้น หัวใจของฉันเพรียกหาผู้หญิงดีพร้อมคนหนึ่ง แล้วฉันจะปล่อยเธอไปได้อย่างไร"
Tags: โรแมนติกดราม่า

ตอน: 19.

19

“คุณชวนชม” สายบัวไปร้องเรียกผู้มีพระคุณคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนชี้ให้เด็กที่มาอยู่ใหม่ใส่ปุ๋ยให้พืชผัก

“ลงมือทำเองเลยหรือคะ”

“ก็เธอมาก่อหวอดไว้แล้วทิ้งไป ก็ตกเป็นภาระของคนแก่อย่างฉัน แต่ว่าไปมันก็ดีนะ คือมันโตแล้วเก็บมากินได้ ไม่เหมือนไม้ดอกไม้ประดับที่รูปสวยแต่ไม่อิ่มท้อง”

สายบัวรู้สึกว่าแปลงผักของเธอถูกขยายให้กว้างขึ้น มีผักอีกหลายชนิดซึ่งเธอไม่เคยนำมาปลูกไว้

“คุณอารักษ์ เธอทำ”

พูดแค่นั้น ดูจงใจจะไม่เล่าอะไรมาก เมื่อไม่เล่าสายบัวก็ไม่ถามถึง แต่ลึก ๆ ในใจนั้นเธอยิ้มชื่น คุณอารักษ์มีเรื่องที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงอยู่เสมอ

“นี่นะ ทำไปก็ปาดเหงื่อไป เคยจับจอบขุดดินที่ไหนล่ะ เพราะความรักแท้ ๆ เชียว เกิดนึกอยากจะเป็นเขยบ้านไร่ขึ้นมา” คุณชวนชมเล่าไปโดยที่ไม่ได้มองสีหน้าคนรับฟัง แล้วก็มาหยุดที่ว่า

“เล่นแง่อะไรกัน ไปกันจนถึงโน่นแล้ว ยังคุยกันไม่รู้เรื่องอีกรึ แล้วอุปสรรคทางนี้ก็ลุไปหมดแล้วด้วย”

“คุณชวนชมรู้”

“เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยมีอะไรจะปิดบังล่ะคะ”

สายบัวหน้าแดง

“ตอนนี้คบหากับใครอยู่รึคะ” ถามไปตรง ๆ เพื่อให้รู้ว่า เขายัง ‘ไม่ใช่’ คนในหัวใจของเธอเพราะอะไร

“ไม่มีใครหรอก คิดว่าน่าจะมีเธอคนเดียวในหัวใจ”

สายบัวไม่ต่อคำเพราะเปลืองตัว

“สายบัว ลองเดินเข้าหาเขาสักก้าวซิ แค่ก้าวเดียวเท่านั้น แล้วเขาก็จะวิ่งเข้าหาเธอเอง”

“อย่างไรคะ”

“อ้าว สมัยที่เธอชอบคุณหมอ เอ๊ย! หลวงพี่ เธอก็แค่ไม่ยอมย้ายไปอยู่โรงงานกับเพื่อน หรือไม่ยอมตามน้าเธอไปอยู่ข้างนอก เท่านี้ ใคร ๆ เขาก็รู้แล้วว่าเธอมีใจ”


“เฮ้ย อดทนจริง ๆ วะเพื่อนเรา ทุ่มเทจริง ๆ ยอมแพ้หรือยังวะ ถ้ายังไม่ยอม ก็ลงทุนเพิ่มอีกก็ได้ จะบอกอะไรให้นะไอ้รักษ์ เอ็งเอาเงินและเวลาที่เสียไป ยอมจ่ายค่าแพ้พนันพวกเราดีกว่าว่ะ”

“ใช่ ๆ”

“แค่ผู้หญิงหน้าบ้าน ๆ คนหนึ่ง จริตจะก้านก็ไม่มี ได้มาก็คงเหมือนสากกะเบือ ล้มเกมส์แล้วหาใหม่เถอะว่ะดารานางแบบนางงามผุดขึ้นราวหมู่บ้านจัดสรร”

“เมื่อครั้งที่แล้วก็ลงทุนให้ไอ้โชติพันธ์ กับอีต้นเสียชื่อเสียง คุ้มไหมวะ”

“คุ้มซิโว้ยเอ็ง มันยังได้พากันไปบอกรักถึงที่เกาะช้างที่ที่เอ็งเคยพาไปจัดการมาไง งานนี้มันกะซ้ำรอย”

สายบัวได้ยินทุกถ้อยทุกคำ รู้สึกว่าเรี่ยวแรงที่มีอยู่มันหมดสิ้น ไม่แม้แต่กล้าขยับ

“บัว”

“วิลาวัลย์พาฉันกลับเถอะนะ” สายบัวกระซิบข้างหูเพื่อน เธอมาที่นี่ก็เพื่อทำอย่างที่คุณชวนชมว่าไว้ ก้าวสักก้าวเดียว แล้วเขาจะวิ่งเข้ามาหาเธอเอง กลายเป็นว่า เขาเห็นเธอเป็นของเล่น เป็นเกมส์การพนันที่เขากับเพื่อนรวมหัวกันแกล้งเธอ

“เธอจะไม่สู้สักนิดหรือบัว ยอมหรือ”
แล้ววิลาวัลย์ก็ส่งแก้วเหล้าให้

สายบัวจ้องมอง เดินไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น

“คุณอารักษ์” ถ้อยสำเนียงนั้นบอกให้รู้เจ็บปวด

พอเขาหันมา สายบัวจ้องหน้าด้วยแววตาขุ่นเคือง แล้วสิ่งที่ใคร ๆ ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

สายบัวสาดเหล้าไปที่ใบหน้าหล่อเหลา ตามด้วยตบเต็มแรงอีกหนึ่งที หลังจากนั้นก็รีบมาคว้าข้อมือของวิลาวัลย์วิ่งออกมาจากผับ

“ร้องไห้เถอะ ผู้ชายหมา ๆ อย่างนั้น แค่นี้พวกมันก็คงสะใจกันแล้ว”

สายบัวร้องไห้สะอึกสะอื้น เสียใจ กับใจที่เผลอยกให้เขาไป นี่กระมังวาจาของผู้ชายเจ้าชู้ นี่กระมังฤทธิ์ของความเจ็บปวดเพราะคำป้อยอ ดีที่เธอไม่เสียตัวให้เขาด้วย

คืนนั้นสายบัวหลับไปด้วยน้ำตานองหน้า

เพราะเพิ่งรู้ว่าทุกข์เพราะความรักจอมปลอมเป็นอย่างไร

ถูกหลอก ผู้หญิงอย่างเธอถูกหลอก เป็นเกมส์ของผู้ชายมักง่ายคนหนึ่ง



ตื่นเช้ามา พบว่าน้าดาวเรืองและสามีขับรถมาหาใบหน้านั้นชื่นมื่นซึ่งตรงกันข้ามกับใจของเธอ

“มีอะไรหรือน้า มาทำอะไร” วิลาวัลย์ปรี่เข้าไปทักทาย

“บัวอยู่ในครัว กำลังยุ่งเลย”

พอน้าดาวเรืองเข้าไปถึง

“หยุดได้แล้ว มีข่าวดีจะบอก รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวก่อนเถอะ”

“อะไรน้า”

“รีบไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวให้สุภาพที่สุด แล้วก็แต่งหน้าแต่งตาให้สดชื่นกว่านี้อีกนิด”

เมื่อสายบัวแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ลงจากชั้นที่สาม พบว่า ในห้องรับแขกบนชั้นสองมีคุณหมอกมล คุณศิรินทิพย์ และคุณจารุวรรณ มานั่งรออยู่พร้อมกับน้าดาวเรืองและน้าชนะ

สายบัวทำหน้าแปลกใจ

“คุณอารักษ์ให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอเธอน่ะ”

สายบัวแทบล้มทั้งยืน เป็นไปได้อย่างไร

“อย่าเล่นตัวนักเลย สงสารลูกชายฉันเถอะ”


คุณท่านกลับกันไปหมดแล้ว แต่ในหัวสมองของสายบัวยังครุ่นคิด

เพราะก่อนกลับน้าดาวเรืองก็ว่า

“บัว แต่งเถอะนะ ถ้าคุณอารักษ์ไม่รักเธอจริง ก็คงไม่ให้พ่อแม่มาสู่ขอเธอหรอก ผู้ชายอย่างเขามีโอกาสที่จะแต่งกับใครก็ได้ แต่นี่มันเรื่องของหัวใจ แสดงว่าเขารักเธอและต้องการเธอ”

สายบัวเงียบ

นึกถึงรอยลิปสติก คราวเมื่อเธอเอาเสื้อของเขาไปซัก คุณพ่อเขาเจ้าชู้ ลูกไม้ย่อมตกไม่ไกลจากต้น สายบัวนึกถึงหัวอกของคุณศิรินทิพย์ คงเจ็บช้ำไม่น้อยที่รู้ว่าต้องแบ่งของใช้ของตนให้กับคนอื่น ถ้าเป็นเธอจะทนได้ไหม

เงิน เกียรติยศ เธอจะได้ทับทวีเมื่อเข้าสู่ประตูวิวาห์กับเขา

แต่ความสุขล่ะ ถ้าเขาไม่ได้คิดหยุดตรงนี้ที่เธอ เจ็บ และมันจะทุกข์ทรมาน นานจนตายจากกัน

หลายวันเต็มที สายบัวไม่ออกไปไหน ขลุกอยู่แต่ในร้าน ครุ่นคิดว่าหากเธอต้องอยู่คนเดียวไปจนแก่เฒ่าจะเป็นอย่างไร

มีร้านอาหาร มีการบริหารจัดการ มีเงินเก็บ เธออาจจะออกเดินทางไปเที่ยวรอบโลก และถ้าเธอแก่ตัวลง ก็อาจไปถือศีลอยู่วัดปฏิบัติธรรมเหมือนกับแม่ชีที่ต้องการความสงบสุขในบั้นปลายชีวิต


“สายบัว”
หญิงสาวเงยหน้าจากการลอกผิวสายบัวเพื่อต้มสายบัวกะทิปลาทู

“คิดถึง” สั้น ๆ แต่หนักแน่น

“มีอะไรหรือคะ” สายบัว ถามคืน คล้ายกับว่าไม่ได้ยินประโยคนั้น

“เรื่องคืนนั้นฉันอธิบายได้นะ”

“บัวลืมมันหมดแล้วค่ะ” สายบัวก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ เด็ก ๆ ที่เป็นลูกมืออยู่ในครัว ทยอยออกไปข้างนอก ในครัวจึงเหลือแค่ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งสงวนท่าที กับผู้ชายที่เปิดเผยเรื่องที่อยู่ในใจทุกอย่างออกมา

เมื่อลับตาคนอื่น คุณอารักษ์กรากเขามายืนอยู่อีกฝั่งของโต๊ะเตรียมอาหาร
“ก้านบัวบอกตื้นลึกชลธาร สระบัวแห่งนี้คงจะลึกมากนะ ก้านยาวจัง บัวได้มันมาอย่างไรหรือ”
เมื่อเขาเปลี่ยนเรื่อง สายบัวจำต้องตอบ เพราะรู้ภาวะแห่งตนดี อย่างไรเสียก็เคยอยู่ภายใต้คำสั่งของเขา

“สั่งแม่ค้าที่ตลาด บอกว่าอยากได้แบบนี้ เขาก็หามาให้”

“ไม่เคยกินหรอก เพิ่งรู้นะว่ามันกินได้”

“พวกคุณโตกันมากับเนื้อ นม เนย พิซซ่า อาหารฝรั่ง แล้วก็มาใช้ยาลดความอ้วนให้มันหมดเปลือง”

“อยากชิมนะ อีกนานไหมกว่าจะเสร็จ”
สายบัวเงยหน้า ปะสายตาคู่นั้น แม้จะคล้ายกับดวงตาหมอโกมุท แต่มันก็คือดวงตาที่เปิดเผยความหมายดี ๆ ภายในหัวใจออกมาด้วย

ขนมจีบ หากเธอเผลอรับมันไว้ เธอก็คงจะเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ของเขา น้ำตาเช็ดหัวเข่า เพราะฉะนั้น ไม่มีวันที่เธอจะยอมแต่งงานกับเขาจนกว่าจะมีการพิสูจน์ใจกันให้ถึงที่สุด เขาแกล้งให้เธอชะแง้รอคอยหลังจากได้พบกับเนตรนภัสที่ร้านอาหารได้ เธอก็จะทำบ้าง

“อร่อยนะ ทั้งต้มสายบัว และก็แกงขี้เหล็ก”

“ไหนว่ากินเผ็ดไม่ได้” สายบัวถามตรง ๆ คนที่นั่งมองอยู่ถึงกับสะอึก

“วันก่อนพูดอย่างวันนี้พูดอย่าง วันพรุ่งนี้จะพูดอะไรก็ไม่รู้นะ”

“วันนี้พูดว่า” เขาหันซ้ายหันขวา เด็ก ๆ ในร้านพากันเดินยิ้มไปยิ้มมา เป็นเชิงล้อเลียนเจ้าของร้านคนสวยผู้มีใจแข็งราวกับหินแกรนิต หลังจากเขาชายตาไปมอง เด็ก ๆ ก็หลบวูบไปในที่ห่างหู

“วันนี้พูดว่า ฉันรักเธอ วันหน้าฉันก็จะพูดว่าฉันรักเธอ”

“แล้ววันก่อนเคยพูดคำสามคำนี้กับใครเขาบ้างคะ”

“วันก่อนก็ส่วนวันก่อนซิ สิ่งที่ล่วงมาแล้วพระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่าอย่าไปนึกถึง แม้แต่สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นก็อย่าไปกังวล” ใช้ไม้ตายมาต้อนให้เธอจนมุมอีก

“มือถือสากปากถือศีลนะซิ”

“อ้าว! ทำไมด่าพระที่วัดอีกเล่า มันบาปนะ”

สายบัวกลั้นขำ แต่ถึงกระนั้น หน้าก็เกือบแฉ่งออกมา

‘อีตาคนบ้า คนผีทะเล’



เกือบสองสัปดาห์ที่คุณอารักษ์มาป้วนเปี้ยนอยู่ในร้าน บางวันเป็นลูกค้า บางวันเป็นลูกมือช่วยแม่ครัวใหญ่หยิบจับงาน แต่บางทียิ่งอยากช่วยให้เสร็จเร็ว มันกลายเป็นทำให้ช้า

มีทุ่มเถียง หยอกเย้า แต่สายบัวก็หาใจอ่อน เพราะ

“อ้าว คุณอารักษ์ โลกกลมจังเลย มาทำอะไรที่นี่คะ” เป็นเสียงร้องทักของคนเก่าที่สายบัวรู้ว่า คนกลางจะต้องรีบแก้ไข หากแก้ไม่ได้ หากพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างก็จะจบลงโดยที่เธอต้องทำใจว่า เจ็บแค่นี้ดีกว่าเจ็บไปอีกนาน

เมื่อเห็นฝ่ายชายป้วนเปี้ยนอยู่ที่โต๊ะอาหารกับมาดพนักงานต้อนรับ เนตรนภัสโผจับหมับให้ที่ต้นแขนของคุณอารักษ์ สายบัว ซึ่งกำลังง่วนอยู่กับบัญชีตรงหน้า เงยหน้าขึ้นมามอง แวบเดียวก็รีบหลบสายตาลงดูตัวเลขด้วยหัวใจเหนื่อยล้า และร้อนรุ่ม

“ผมมาช่วยแฟนผมครับ ตอนนี้ที่ร้านคนเยอะ สายบัวเค้าโหมงานหนัก กลัวว่าจะเจ็บไข้ไม่สบาย คือผมไม่อยากเลื่อนงานแต่งนะครับ”

“รึคะ” เนตรนภัสยังตีหน้าระรื่น สอดส่ายสายตามองไปจนทั่ว

“คุณเนตรจะมากินข้าวหรือครับ เชิญนั่งดีกว่า เดี๋ยวผมให้เด็ก ๆ มาช่วยบริการ” เขาพาเนตรนภัสไปที่โต๊ะอาหาร แล้วหันมาทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่สายบัว


“พูดอะไรบ้างซิบัว เล่าอะไรก็ได้ให้ฉันฟังหน่อย เล่าเหมือนตอนที่แอบรักหลวงพี่หมอน่ะ รู้ไหมตอนนั้นฉันเห็นหน้าเธอเป็นสีชมพู ดวงตามีประกายแห่งความหวัง”

“ตอนนั้นฉันยังเด็ก ไร้เดียงสาต่อโลกใบใหญ่นี้ ส่วนตอนนี้ ฉันคิดว่า ให้เวลาพิสูจน์คนเถอะวิลาวัลย์ สันดานคนเรามันขุดยาก เขาเคยออกเที่ยวทุกคืน เคยมีข่าวกับสาวคนนั้นคนนี้อยู่เรื่อย ๆ มาประจ๋อประแจ๋อยู่กับฉันได้แค่ไม่กี่วันจะให้ฉันโอเค ฉันต้องบ้าแน่เลย”

“แต่คนที่กล้าส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอนี่นะ ต้องไม่ธรรมดานะบัว และเขาก็ยังไม่เคยทำอย่างนี้กับใครเลยนะ”

“คนบ้านนี้รักลูก ของเล่นเพื่อให้ลูกเขามีความสุข เขาทำให้ได้”

“คิดมากจังเพื่อนฉัน แล้วแต่เธอเถอะ ถ้าเขาหลุดมือไปจริง ๆ คนที่จะขี้มูกโป่งก็คือเธอไม่ใช่ฉัน”

“เจ็บวันนี้วันเดียว ดีกว่าเจ็บทุกวัน”

“ดื้อรั้นดื้อด้านจริง ๆ” วิลาวัลย์เลี่ยงออกไปทำงานของตนปล่อยให้สายบัว นั่งตรมกับความคิดของตัวเอง


แล้วคุณอารักษ์ก็หายไปหลายสัปดาห์ ตามหน้าหนังสือบันเทิง ไม่มีข่าวว่าไป จิ๊จ๊ะอยู่กับใครที่ไหน สายบัว มองดูใจตัวเอง

มีบ้าง ที่ชะแง้แลหา
ไม่ปะหน้า ยินเสียง คิดถึง
ต้องก้าวข้ามอาวรณ์ สักครั้งหนึ่ง
แล้วจะถึงซึ่งสุข สิ้นทุกข์ใจ

ทำให้คิดถึง รู้เท่าทันก็ยากติดบ่วง คนเจ้าเล่ห์เพทุบาย


“อะไรเนี่ย” สายบัวตกกะใจเมื่อมีซองการ์ดสีเหลืองอ่อนยื่นมาที่ตรงบนโต๊ะบัญชี

“เปิดอ่านดูซิ”

สายบัวค่อย ๆ คลี่กระดาษในซองออกมา แล้วใจของเธอก็เต้นแรง

“จริง ๆ หรือดิน”

“บวชก่อนเบียดจ้ะ ลางานได้ไม่กี่วัน” วิลาวัลย์ตอบสั้น ๆ แล้วก็หันไปหาคนที่ยิ้มเปิดเผยอยู่ข้าง ๆ กัน

“ดีจังบวชที่ตากฟ้า บัวจะได้กลับบ้านซักที”
“ถ้าบัวกลับไป คนที่บ้านคงไม่ได้สนใจพ่อนาคหรอก คงแห่มาดูนางแบบชื่อดัง”

“บัวก็ยังเหมือนเดิม แค่เปลือกที่เปลี่ยนไปเท่านั้น”

“แล้วก็มีใจที่แข็งเหมือนเดิม” วิลาวัลย์ว่าให้

สายบัวถอนหายใจออกมา เมื่อวิลาวัลย์ขยับปากจะพูด

“อย่าเอ่ยถึงเขาให้ฉันได้ยินอีก”

“ถึงฉันไม่เอ่ย เธอก็นึกถึงเขาอยู่ตลอดเวลาแหละ เพราะจะกี่ปีกี่เดือนเธอก็คือเธอ ใช่ไหม”

“ไม่ใช่ ฉันโตแล้วฉันแยกแยะออกแล้วว่า รัก และหลงรูปจูบเงามันแตกต่างกันอย่างไร”

“จ้ะแม่คนเก่งคนดี ถ้าเขาตีจากไปจริง ๆ มีหวังได้อยู่คานทองหรอก”



“สายบัว มีงานถ่ายแบบต่างจังหวัด ผ้าไทย คอนเซ็ป บ้านนอก ๆ เอาไหม”
สายบัวซักไซ้มากกว่าเดิม เพราะกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

“เธอก็รู้แล้วนี่ว่าวันนั้นมันเป็นแผนของคุณอารักษ์ ลำพังพี่เองนะ พี่รักน้องบัวอย่างน้องสาว”

“แล้วถ้าวันนั้นบัวพลาดล่ะ “

“บัว พี่ต้นคิดว่าถ้าคุณอารักษ์ต้องการอย่างนั้นจริง ๆ บัวจะรอดรึ เขารักบัวนะ รักแบบหวังแต่ง ให้มีศักดิ์มีศรีในเรือน เป็นที่หนึ่ง เป็นแม่ของลูก เขาจึงรอ รอให้เธอพร้อมทั้งกายและใจ”

“กายและใจ”

“เธอเจอเขาครั้งแรกอายุเท่าไหร่ สิบห้าไม่ใช่หรือ ตอนนั้นกายเธอพร้อมไหม”

“บ้าแล้วพี่”

“กายเธอไม่พร้อมแต่ใจเธอพร้อมมีรักแล้วไม่ใช่รึ สำหรับเขากายพร้อม แต่ใจไม่พร้อม เธอรักแต่คุณหมอ สิบแปดสิบเก้ายี่สิบยี่สิบเอ็ดเธอเคยมองเห็นเขาบ้างไหม ช่วงเวลานั้นเขาเองก็พยายามหาคนที่หัวใจบอกว่าใช่ ผู้ชายที่พร้อมเรื่องทรัพย์สินถ้าเขาจะยกใครขึ้นมาและหยุดอยู่ที่คนนั้น คนที่จะมาเป็นแม่ของลูก คน ๆ นั้นต้องผ่านกระบวนการของหัวใจ และเธอเองก็ทำตัวได้ดีเกินกว่าที่พี่คิดไว้ด้วยซ้ำ เมื่อเขาให้พี่มาเป็นตัวช่วยกรองว่าที่เจ้าสาว ถามว่าพี่คิดหนักไหม ใจจริงพี่รักเธอ พี่ก็อยากให้เธอสมหวัง แต่ในทางกลับกันพี่ก็กลัวเธอพลาดจากเขาเพราะการกระทำของตัวเธอเอง…พี่ไม่ได้กลัวเธอเสร็จคุณหมอแต่พี่กลัวเด็กหนุ่มในรั้วมหาวิทยาลัยนั่นมากกว่ากลัวเธอเห็นกงจักรเป็นดอกบัว”

สายบัวทึ่งกับความคิดของพี่ต้น

“สายบัว คุณอารักษ์น่ะ รักเธอมานานแล้วนะ ส่วนผู้หญิงอื่น มันต้องว่าเธอด้วยซิ เธอเองก็ไม่เคยชายตามองใครนอกจากหมอโกมุท เขาก็เป็นเขานะ ก็มีความสุขไปตามประสาผู้ชาย ข้อดีเขาก็มี เธอไม่เห็นรึ เขาเคยมีใครติดตัวบ้าง “

“แล้วผู้หญิงพวกนั้น”

“ผู้หญิงพวกนั้น ก่อนที่จะทำตัวแบบนั้น พวกหล่อนก็รู้จักตัวเองดี รู้ว่าเรื่องมันจะจบที่ตรงไหน คนดี เขาไม่เดินเข้าไปในที่ ๆ ผู้ชายมองเห็นเขาเป็นเหยื่อหรอกจ้ะ และพี่ก็มั่นใจว่า พวกหล่อนต่างหากที่คิดว่าผู้ชายเป็นเหยื่อ น้อยรายนักที่จะลงเอยกัน เพราะมันเป็นรักแท้แค่คืนเดียว”

จนด้วยเหตุผล สายบัวตัดสินใจรับงาน
เงินดี มีเธอคนเดียว กับกองที่คุ้นเคย แถมยังได้ออกไปต่างจังหวัด
เมื่อขึ้นรถตู้ ก็เหมือนทุก ๆ ครั้ง สายบัวจะง่วงนอนทันที รถแวะพักเข้าห้องน้ำ ขึ้นรถแล้วก็หลับต่อ

จนกระทั่ง “ถึงแล้วจ้ะ”

สายบัวไล่ความมึนงง ปรือตามองออกไปนอกรถ พบต้นไม้สีเขียวอยู่ภายในบริเวณรั้วปีกไม้ทาสีดำกว้างขวาง เมื่อลงจากรถจึงได้เห็นสภาพตัวบ้าน ซึ่งเป็นบ้านไทยหลังคาหน้าจั่วใต้ถุนสูง มีระเบียงนอกชาน ทาสีขาวทั้งหลัง ที่ใต้ถุนโล่งมีเปลญวน และแคร่วางอยู่ มองทะลุออกไปทางหลังบ้านเห็นเป็นสวนผลไม้พื้นบ้านหลากพันธุ์อยู่รายรอบสระบัว ซึ่งน่าจะมีเนื้อที่ประมาณสองไร่
“ที่ไหน”

ไม่มีใครตอบ ทุกคนต่างทำงานกันง่วนไปหมด สายบัวถูกดึงขึ้นไปบนเรือน ช่างแต่งหน้าบรรจงแต่งนิ่งนานกว่าทุก ๆ ครั้ง เมื่อเห็นเสื้อผ้าสายบัวต้องตกใจ

“ทำไมกลายเป็นชุดเจ้าสาว ก็ไหนว่า”

“เจ้าสาวบ้านไร่บ้านนาไง กลางบึงบัวโน่น ลงเรือถ่ายเชียวนะเธอ ประมาณบ่ายคล้อย แสงกำลังนวลตา”

สายบัวเงียบ ในบรรดาคนทั้งกอง เธอสบายที่สุดแค่โพสต์ท่ามองกล้อง ไม่ต้องยกต้องแบกอะไร
ทั้งนั้น

จะนานแค่ไหนก็ได้ งานสบายเงินดี จะรีบเร่งทำไม ไม่จุกจิกวุ่นวายเรื่องคิว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสายบัวยังขายได้ ขายดี

“ที่ไหน” สายบัวอดถามคำถามซ้ำ ๆ กับช่างภาพและช่างแต่งหน้าไม่ได้ ก็บรรยากาศในตอนนี้เป็นอย่างที่เธอเคยฝันไว้ บ้านใต้ถุนสูง ยกพื้นด้านหลังเสมอเรือนไม้เป็นซีเมนต์มีห้องครัวห้องน้ำทันสมัยแอบซ่อน มีนอกชานระเบียงที่มีพนักนั่งมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา ที่หลังบ้านมีสระบัว มีผลหมากรากไม้ปลูกรายรอบ ที่ริมสระน้ำมีแปลงพืชผักสวนครัว ใครหนอช่างมีความคิดตรงกับใจเธอ อยากคุยกับเจ้าของบ้านจังเลย

“ชอบหรือ”

“ชอบซิพี่ต้น เจ้าของบ้านเป็นใคร ได้แนวคิดนี้มาจากไหน ตรงกับใจบัวเลย”

“อยากเจอะไหมล่ะ”

“อยากไปก็เท่านั้น บ้านคนอื่นเขา คงเป็นพวกเศรษฐีเงินถัง จริง ๆ นะพี่ต้น บรรยากาศที่นี่คล้ายกับที่บ้านของตากับยายนะ บัวมีที่ดินอยู่แปลง ยังคิดเลยว่า จะกลับไปปลูกบ้าน แล้วก็ขุดสระปลูกบัวสาย เลี้ยงปลา ปลูกผลไม้ ปลูกผักเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้เก็บกินเอง แต่จำที่นี่ได้หมดแล้ว ชอบตัวบ้านนะไม่ใหญ่เกินไป สร้างง่าย ๆ ไม่หรูหราแต่ก็มีสไตล์จนต้องหันหลังกลับมามอง “

แววตาของสายบัวเป็นประกาย น้ำเสียงบอกให้รู้ว่า ‘ชื่น’ เต็มกำลัง
“คืนนี้เจ้าของบ้านอนุญาตให้เราสองคนค้างที่นี่ได้ ส่วนคนอื่นให้กลับ”

“อ้าว แล้วเราจะกลับอย่างไร ก็มาด้วยกันนี่”

“ถ้าจะค้างเขาจะส่งรถมารับ ใจดีไหม”

สายบัวจ้องหน้า ค้นหาคำตอบในดวงตา แล้วรถตู้ที่นั่งมา ก็ขับออกไปจากรั้วบ้านโดยไม่ได้ร่ำลา บอกเล่าเหตุผล

“พี่ต้น มีอะไรไม่ชอบมาพากลอีกแล้วนะ” สายบัวหันมาทำตาเขียว เสียงเข้มเข้าใส่

“พี่ขอออกไปเดินเล่นก่อนแล้วกัน”

พอพี่ต้นเดินลงจากเรือน ลับหายออกจากซุ้มประตูซึ่งทำเป็นระแนงจั่วแล้วปลูกต้นสร้อยอินทนิลให้เลื้อยพันแล้วทิ้งช่อดอกสีม่วงเป็นสายลงมาแต่งแต้มให้บริเวณนั้นยิ่งน่าดูชมนัก แล้วรถกระบะแบบสี่ประตูคันที่สายบัวไม่คุ้นเคยวิ่งเข้ามาจอด ชั่วอึดใจที่ใจของสายบัวเต้นแรงคนขับรถก็เผยตัว สายบัวที่อยู่ในชุดเจ้าสาวลุกขึ้นยืนในทันที

“คุณอารักษ์”

คนถูกเอ่ยชื่อยิ้มให้ก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดไปหาที่ระเบียงบ้าน

“ฉันมารับเธอกลับกรุงเทพ”

“หมายความว่า “

คุณอารักษ์ไม่ตอบคำถามในทันที เขาไปยืนเกาะพนักระเบียงแล้วมองไปที่บึงบัว ทิวไม้สวนเขียวขจี พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดจนลึก คล้ายกำลังทำใจที่จะยอมรับความจริงที่ต้องเผชิญเช่นกัน

“ถูกใจไหม”

สายบัวไม่ตอบ เพียงแต่นั่งลง แล้วก็เพ่งมองดูผู้ชายร่างท้วมใหญ่ตรงหน้า รู้ว่าใจของตนสั่นหวิวจนยากจะควบคุม

“ที่นี่เป็นเรือนหอของเรา” พอได้ยินดังนั้น สายบัวเพ่งมองไปภายนอกบ้าน เห็นช่อข้าวฟ่างสีขาวลายดำสูง ๆ ต่ำ ๆ เป็นทิวแถวสีเขียวครึ้มเพราะใบหนาสุดลูกหูลูกตา คลับคล้ายที่ใดสักที่

“ทางทิศเหนือของบ้าน เป็นบ้านของป้าจำปา เลยไปเป็นบ้านตากับยายของเธอ”

“คุณอารักษ์” มือของสายบัวเย็นเฉียบนี่เธอกำลังจะจนมุมของหัวใจอย่างนั้นหรือ?

“ที่แปลงนี้ฉันซื้อต่อจากน้าดาวเรืองของเธอนานแล้ว นานจนกระทั่งขุดสระใช้น้ำปลูกต้นไม้จนเก็บลูกกินได้ ส่วนตัวบ้าน เพิ่งจะปลูกไว้รอเธอ เมื่อคราวกลับจากเกาะช้าง”

สายบัวนิ่งฟัง ด้วยใจที่เกือบจะหยุดเต้น

“ที่ฉันหายไป ไม่ใช่ว่าฉันปล่อยให้เธอชะแง้ แต่ฉันกำลังทำฝันของเธอให้เป็นจริงต่างหาก”

คุณอารักษ์หันกลับมา ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของสายบัวที่เป็นสีแดงระเรื่อดวงตานั้นมีน้ำตาคลอ ตื้นตันจนปิดความในใจไว้ไม่มิด

“ฉันรักเธอนะบัว นึกรักตั้งแต่เห็นหน้าตอนเธออายุสิบห้า และก็รักเธอยิ่งขึ้น ๆ เมื่อได้อยู่ใกล้ ๆ ได้เห็นเนื้อแท้ข้างในของเธอ ฉันยิ่งมั่นใจว่า หัวใจของฉันเพรียกหาผู้หญิงดีพร้อมคนหนึ่ง แล้วฉันจะปล่อยให้เธอหลุดลอยไปได้อย่างไร”

“รักแล้วทำไมต้องแกล้งกันมาตลอด” สายบัวยังตัดพ้อ

“ทำอย่างกับปากเธอไม่จัดอย่างนั้นแหละ”

“ก็คุณ” สายบัวยังพูดไม่ทันจบเขาก็รีบแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“แต่งงานกับฉันนะบัว”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 พ.ค. 2554, 10:58:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 พ.ค. 2554, 10:58:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 2478





<< 18.   20 ตอนจบ.. >>
OPUS 22 พ.ค. 2554, 22:39:53 น.
คุณอารักษ์นี่ทุ่มสุดใจจริง ๆ ใครไม่รักก็บ้าแล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account