จับใจไว้ด้วยรัก
เรื่องราวของนักธุรกิจหนุ่มฉายา เจ้าชู้หลบใน กับหญิงสาวที่มีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่ไม่ใช่เรื่องแต่งงาน เรื่องราวความรักที่สุดแสนจะปั่นป่วนเริ่มขึ้นเมื่อฝ่ายหนึ่งตามตื้อ ส่วนอีกฝ่ายก็คอยวิ่งหนี เขาจะทำให้เธอหันมามองและเปลี่ยนเป้าหมายในชีวิตได้ไหม ติดตามได้ใน 'จับใจไว้ด้วยรัก'
Tags: หวาน,น่ารัก,โรแมนติก

ตอน: ตอนที่ 16

ตอนที่ 15

ดนัยนั่งหน้าเครียดอยู่ภายในห้องวีไอพีของผับหรูใจกลางเมือง สถานที่นัดพบประจำของเขากับใครอีกคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน มือหนากระดกเหล้าในมือเข้าปากอย่างหงุดหงิด ชายหนุ่มนั่งหันหลังในกระจกใสที่สามารถมองออกไปที่เวทีสำหรับวงดนตรีด้านนอก นักร้องสาวดาวเด่นประจำผับกำลังครวญเพลงเร้าอารมณ์นักเต้นชายหญิงให้ออกมาเริงร่ากลางฟลอร์ หากเป็นปกติเขาจะต้องนั่งฝั่งตรงข้ามเพื่อชมความงามของหญิงสาวอย่างสุขใจพร้อมกับคอลเคลียสาวสวยวัยขบเผาะซึ่งมานั่งเบียดกระแซะเอาใจ

แต่วันนี้ความคับแค้นใจที่เกิดขึ้นเพราะไอ้ศัตรูตัวแสบทำให้ไม่มีอารมณ์จะเกี้ยวสาวเช่นทุกวัน พอชายหนุ่มนึกถึงเรื่องเมื่อหัวค่ำแล้วก็เจ็บใจ วันนี้ที่เขาจัดงานเลี้ยงก็เพื่อจะเหยีบไอ้กรวีร์...ศัตรูคู่อาฆาตให้ดับดิ้น เพราะเขาสามารถแย่งเอาที่ดินที่มันหมายปองมาครองได้ แต่ทุกอย่างก็พังหมดเพราะนังอสรพิษคิดไม่ซื่อลิซ่า

ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ นี่ถ้าเขาไม่มัวหน้ามืดตาลายหลงอยู่กับหน้าอกหน้าใจที่มันใหญ่โตเกินมาตรฐานหญิงไทยของแม่นั่นจนไม่สนคำเตือนของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เขาก็คงได้เห็นไอ้กรวีร์กระอักเลือดไปแล้ว!

“โธ่โว้ย!” ดนัยคำรามก่อนจะปาแก้วในมือไปกระทบประตูห้อง ร่างที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาชะงัก เลิกคิ้วมองซากแก้วที่แหลกละเอียดหมดราคาอยู่แทบเท้าอย่างฉงน ก่อนจะเปลี่ยนไปมองคนลงมือ

“นายนี่มันไร้น้ำยา ทำอะไรไอ้กรวีร์ไม่ได้ก็มาลงกับสิ่งที่ไม่มีชีวิตแบบนี้นี่ ไม่ได้เรื่อง”

“หุบปากไปเลย! อย่ามายั่วโมโหกันดีกว่า ตอนนี้ฉันยิ่งหงุดหงิดอยู่” ดนัยย้อนพร้อมกับยกแก้วที่เพิ่งชงใหม่แทนใบที่ปาแตกไปขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ร่างที่เตี้ยกว่าดนัยยักไหล่ เดินเข้ามานั่งตรงกันข้ามในส่วนที่แสงไฟส่องไปไม่ถึงทำให้ไม่เห็นว่ายามนี้อีกฝ่ายมีสีหน้าเช่นไร เขาเอื้อมไปชงเหล้าให้ตนเอง ปากก็พูดไปเรื่อย

“ฉันก็แค่จะเตือนไม่ให้นายใช้แต่อารมณ์ก็เท่านั้น ก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้าปล่อยให้อารมณ์มันมีอำนาจเหนือเรามันจะเกิดอะไรขึ้น”

“รู้แล้วๆ! เลิกเทศน์ฉันซะที”

ร่างในเงามืดยักไหล่ยกแก้วขึ้นจิบ ทอดสายตามองนักร้องสาวนอกห้องที่กำลังโยกตัวไปมาตามจังหวะเพลง พร้อมทิ้งสายตาเชิญชวนให้หนุ่มใหญ่หลายคนอย่างมีจริต เขายิ้มมุมปากดวงตาเป็นประกายเมื่อภาพของใครคนหนึ่งซ้อนทับนักร้องสาว ก่อนที่ความคิดจะสะดุดเพราะเสียงของบุคคลร่วมห้อง

“แล้วไหนล่ะแผนใหม่ บอกมาซะทีสินั่งเงียบอยู่ได้ ฉันไม่ได้มีเวลาทั้งคืนหรอกนะ”

คนที่กำลังอยู่ในอารมณ์สุนทรีถอนหายใจกับความงี่เง่าของคู่หูที่ยังไงๆก็ไม่เคยจะใช้สมองมากกว่าอารมณ์ซะที เขาวางแก้วในมือลง ประสานมือไว้ด้านหน้า สายตาจับจ้องที่ก้อนน้ำแข็งภายในแก้วขณะเอื้อนเอ่ย

“เราจะไม่ใช้ความรุนแรงแต่จะเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่น คราวนี้ฉันก็จะลงมือด้วย”

ดนัยเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ไม่ได้แปลกใจเรื่องวิธีการเพราะหลายครั้งที่เล่นงาน เพื่อนร่วมอุดมการณ์คนนี้เปลี่ยนแนวทุกครั้ง อย่างเมื่อต้นเดือกนก่อนที่มันจะไปฝรั่งเศส เพื่อนคนนี้ก็วางแผนล่อให้ไอ้กรวีร์ไปดูโรงแรมสาขาหนึ่งที่ต่างจังหวัดซึ่งโดนวางเพลิงห้องพักพนักงาน ก่อนจะส่งคนตามไปประกบยิง แต่มันไหวตัวทัน หนีรอดไปได้ แถมยังสั่งให้คนของมันตามล่าตนของเขากลับจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน

แต่นั่นมันก็แค่ช่วงสองอาทิตย์แรกเท่านั้นล่ะนะ เพราะหลังจากที่ไอ้หมอนี่มันรู้ว่ามีคนตามล่ามือปืนของเขาอยู่ มันก็ส่งคนสนิทของมันไปเก็บเสียเรียบ ลงไปรับโทษอยู่ในนรกเรียบร้อย!

แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือการที่หมอนี่บอกจะลงมือเองต่างหาก ตั้งแต่เป็นพันธมิตรกันมาเขาไม่เคยเห็นว่ามันจะลงมาทำอะไรที่เสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางเองซักครั้ง ถ้าไม่ยืมมือเขาก็มักสั่งให้คนสนิทที่เขาไม่เคยเห็นหน้าจัดการให้ตลอด

ใช่ว่าเขาจะโง่ดูไม่ออกว่ามันต้องการจะให้เขามือเปื้อนเลือดเพียงคนเดียว พอเกิดอะไรขึ้นมามันก็รอด หากแต่ตอนนี้เขายังต้องพึ่งมันสมองอันชาญฉลาดของมันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายก่อน แล้วหลังจากนั้นเขาจะกำจัดมันออกจากหนทางความเจริญของเขา!

ดนัยแสยะยิ้ม นึกสนใจขึ้นมาทันที “ไหนลองบอกมาสิ ฉันชักจะอยากรู้จริงๆแล้วว่าอะไรทำให้เสือหลับอย่างนายตื่นได้”

อีกฝ่ายหัวเราะหึ ดวงตาเปล่งประกายยามนึกถึงใบหน้าของคนที่มาปลุกให้เขาตื่นอย่างที่ดนัยบอก

“ก็นะ...แค่วันนี้ได้เจออะไรถูกใจในงานนิดหน่อย แต่เผอิญดันอยู่กับเป้าหมาย อ่อ งานนี้นายก็หาเรื่องยั่วโมโหมันไปเล่นๆแล้วกัน มีที่ดินอีกที่ที่มันอยากได้ ไปตัดหน้าเอามากอีกก็ดี”

“เรื่องนั้นฉันจัดการได้แน่นอน แต่อย่าบอกนะว่าไอ้ ‘อะไรถูกใจ’ของนายเป็นยายหน้าจืดที่ไอ้กรวีร์มันควงมา อะไรกัน...ระดับอย่างนายน่าจะสนใจอะไรที่มันเจริญหูเจริญตากว่านี้หน่อยสิ”

“ฉันไม่ค่อยสนใจรูปร่างหน้าตาเท่าไหร่ แต่สนที่ความคิดมากกว่า ผู้หญิงคนนั้นฉลาดมากจนไม่คู่ควรกับไอ้กรวีร์ ฉันจะแย่งหล่อนมา”

“นายจะใช้วิธีนี้เนี่ยนะ แย่งเด็กมันให้มันคลั่ง ฉันว่านายเสียแรงเปล่า” เขาปรามาส เพราะใครๆก็รู้ว่ากรวีร์เป็นเสือผู้หญิง เปลี่ยนผู้หญิงอาทิตย์ละคน แต่ละคนสวยบาดตาหุ่นบาดใจ แล้วยายจืดที่เขาเห็นนั่น หน้าตาพอไปวัดไปวาได้ หุ่นก็ เอ่อ งั้นๆ ไม่มีอะไรดึงดูดใจ แล้วจะสามารถมัดใจกรวีร์ได้นานแค่ไหนกันเชียว อย่างมากเขาตีให้เลยว่าหนึ่งอาทิตย์กับอีกหนึ่งวันเอ้า!

คู่สนทนายิ้มมุมปาก นึกสมเพชกับคนที่อ่านคนไม่ขาดอย่างดนัยเสียเหลือเกิน อย่างว่าดีแต่ใช้กำลังแต่ไม่มีสมองเลยต้องแพ้ไอ้กรวีร์อยู่ร่ำไป

“นายไม่ได้เห็นอย่างที่ฉันเห็นนี่ หมอนั่นออกจะทะนุถนอมหล่อนอย่างกับอะไรดีสายตาที่มันใช้มองเธอก็ดูอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยได้เห็นเวลามันมองคนอื่น แบบนี้ถ้าไม่จริงจังมันก็โง่มากที่ปล่อยเพชรงามหลุดมือไป”

“ดูนายมั่นใจมาก แน่ใจได้ไงว่ามันไม่ได้แค่หลอกยายหน้าจืดนั่นให้ตายใจ พอฟันแล้วก็ทิ้งเหมือนคนอื่นๆ”

ชายหนุ่มหมุนแก้วเหล้าเล่น บอกเสียงเข้มจริงจัง

“ฉันกล้าเอาบริษัทฉันเป็นประกัน ถึงตอนนี้จะยังดูไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ แต่ถ้ามีใครไปยุ่งกับเธอแล้วล่ะก็ ไอ้กรวีร์ไม่อยู่เฉยแน่ มันจะต้องร้อนรน จากนั้นความเยือกเย็นที่มันมีก็จะหายไป แล้วเราก็จะตีมันจากข้างใน ในที่สุดมันก็จะพังไม่เป็นท่า เสียทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิต!”

เพล้ง!

สิ้นประโยคพร้อมกับบีบแก้วเหล้าแตกคามือ ท่ามกลางความตกตะลึงของดนัย เขาลุกขึ้นยืนไม่สนใจเลือดสีแดงสดที่ไหลตามบาดแผลที่มือ วางเงินค่าเครื่องดื่มไว้บนโต๊ะแล้วหันกลับเดินไปยังทางออก ขายาวชะงักชายหนุ่มหมุนตัวกลับมาส่งยิ้มให้คนที่ยังนั่งเหงื่อตก

“อีกอย่างนะเธอคนนั้นจะต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ใครที่มาขวางทางก็จะต้องลงนรกตามไอ้กรวีร์ไป!”


“แกนะแก ตาวีร์ ทำไมเป็นคนแบบนี้ มือไวใจเร็วไม่พอ ยังหน้าด้านหน้าทนอีก พ่อกับแม่หนูเบญเขาออกมายืนหัวโด่ตั้งนาน แต่แกก็ไม่สนใจ ยังลวนลามลูกสาวเขาอยู่อีก” คุณมีนาลากหูลูกชายตัวโตมาภายในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเหวี่ยงอีกฝ่ายไปกระแทกโซฟาเต็มแรงจนชายหนุ่มจุก ร้องโอดโอยเรียกคะแนนความสงสารจากมารดา แต่นาทีนี้คุณมีนากำลังโกรธเลยไม่สนใจท่าทางสำออยของเขา

นางยืนเท้าสะเอวมองลูกชายตาคว่ำ กรวิชญ์ที่นั่งดูข่าวภาคดึกอยู่ย้ายตัวเองไปนั่งด้านข้างอย่างรวดเร็ว แถมยังเท้าแขนกับที่วางแขน สายตาก็ชมเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเพลิดเพลิน ไม่คิดที่จะเข้าไปช่วยพี่ชายแต่อย่างใด อย่างว่าระหว่างพี่กับเพื่อน แน่นอนว่าเขาต้องเลือกเพื่อนอยู่แล้ว!

“ไม่ต้องมาทำสำออยให้คุณแม่เห็นเลยนะตาวีร์ มีอะไรจะแก้ตัวไหม คุณแม่ให้เวลาสามวิฯ”

กรวีร์เลิกเล่น ชายหนุ่มหนุ่มยืดตัวตรงหันไปเผชิญหน้ากับมารดา ตอบเสียงระรื่น “ไม่มีครับ ผมตั้งใจมองหน้าอกน้องเบญของผมจริงๆ”

คุณมีนาอ้าปากค้าง กรวิชญ์นั่งนิ่งทั้งอึ้งทั้งทึ่งกับความใจกล้าหน้าด้านของพี่ชายคนเดียวซะจริง พูดซะเต็มปากเต็มคำไม่มีสร้างภาพ หนุ่มหน้าหวานหัวเราะหึๆก่อนจะเข้าไปประคองมารดาที่ทำท่าจะเป็นลมกับคำตอบของลูกชายคนโต...ความหวังของตระกูล พอนังลงได้ นางก็ชี้นิ้วสั่นๆไปทางเขา ก่อนจะพูดติดๆขัดๆเพราะความโกรธผสมความเจ็บใจ

“แก....ตาวีร์....แกมัน...โอ๊ย! ฉันพูดอะไรไม่ถูกแล้ว ไปได้นิสัยแบบนี้มาจากไหนนะ ตาวิชญ์แม่อยากจะเป็นลม เอิ๊ก!”

“ถ้าแม่ไม่รู้จะพูดอะไรกับผมก็ไม่ต้องพูดสิครับ นั่งเงียบๆรอฟังผลอย่างเดียวพอ เดี๋ยวจะหาหลานมามให้อุ้มสมใจอยาก อ้อ..แถมลูกสะใภ้สุดน่ารักให้ด้วย”

“แกยังจะหวังอีกเหรอ พ่อแม่เขาเห็นแกจ้องหน้าอกลูกสาวเขาตาเป็นมัน เขาคงจะยกให้หรอก” นางมองค้อนไปด้วย สูดยาดม ยาลม ยาหม่อง และอีกสารพัดที่ลูกชายคนเล็กและคนสนิทขนมาให้ กรวีร์ยักไหล่ ร่างสูงลุกขึ้นยืน สะบัดเสื้อสูทไปทางด้านหลัง มืออีกข้างก็ปลดเนกไทลงมาให้หลวม เดินตรงไปทางประตู ก่อนจะหันกลับมาหามารดา ยิ้มมุมปาก

“แม่คอยดูแล้วกัน คนอย่างผมจีบใครไม่เคยพลาด เปิดปุ๊บสตาร์ทติดง่าย” แล้วก็เดินผิวปากขึ้นบันไดไปอย่างสบายอารมณ์ ทิ้งให้สามคนในห้องนั่งอึ้งปนสมเพชกับท่าทางหลงตัวเองของชายหนุ่ม คุณมีนาฮึดฮัดหันไปหาลูชายอีกคนที่เป็นเพื่อนของว่าที่สะใภ้หมายเลขหนึ่ง บอกน้ำเสียงจริงจัง

“น้องวิชญ์ไปบอกน้องเบญนะว่าคุณแม่อนุญาตจัดการพี่วีร์ให้หมอบกระแตไปเลย ไม่ต้องออมมือ เอาให้รู้ไปเลยว่าผู้หญิงอย่างเราฆ่าได้ หยามไม่ได้!”

“ครับ เดี๋ยววิชญ์บบกน้องเบญให้ แต่แม่ฮะ...” กรวิชญ์รับคำมารดา ก่อนจะแย้ง

“...วิชญ์ไม่ใช่ผู้หญิงนะแม่”

คุณมีนามองอีกฝ่ายตาปริบๆ แล้วพูดหน้าตาเฉย

“แม่ลืมไปเลยว่าน้องวิชญ์เป็นผู้ชาย”

“ขอบคุณครับ”

กรวีร์ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินเอาผ้าขนหนูเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ ชายหนุ่มสวมกางเกงนอนตัวเดียวอวดแผงอกกำยำตรงไปยังหน้ากระจกไม่ได้รับรู้ว่ามีใครอยู่ในห้องนอกจากตนเอง กรวิชญ์นั่งอยู่ขอบเตียงมองพี่ชายที่กำลังพิจารณาความหล่อของตัวเองอยู่หน้ากระจกเอือม สุดท้ายก็ทนไม่ไหวเปรยออกไปให้รับรู้

“นี่ถ้าผมเป็นเกย์นะ พี่วีร์โดนจับปล้ำไปนานแล้ว”

“เฮ้ย! เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่วะไอ้วิชญ์!” เจ้าของห้องหันขวับ ก่อนจะคว้าเอาผ้าขนหนูที่โยนลงตะกร้าไปแล้วขึ้นมาปิดส่วนบนที่เปลือยเปล่า มองน้องชายที่ยังจ้องหน้าอกเขาเป็นจริงเป็นจังอย่างระแวง

“นานพอที่จะถ่ายคลิปนู้ดพี่วีร์ไปลงเว็บโป๊ก็แล้วกัน”

“ไอ้น้องบ้า...”ชายหนุ่มปาผ้าเช็ดตัวใส่หน้าอีกฝ่าย ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าคว้าเสื้อนอนลายสีเดียวกันกับกางเกงมาสวมอย่างหงุดหงิด ถามเสียงห้วน

“เข้ามาทำไม แกหัดดูเวลาบ้างว่ามันกี่โมงกี่ยามแล้ว ถึงพรุ่งนี้จะวันหยุดแต่ฉันก็ต้องการพักผ่อนเหมือนกันนะ”

“ก็แค่จะเข้ามาบอกว่า วันนี้ตอนที่พี่วีร์ไม่อยู่ คุณตำรวจเขาโทรมาบอกว่าไอ้คนที่ลอบยิงพี่วีร์น่ะ มันตายแล้วนะ”

ชายหนุ่มนิ่งไปเล็กน้อย เขาเดินไปนั่งที่โซฟาสีดำขนาดใหญ่ปลายเตียง มือหนาหยิบเอารีโมทโทรทัศน์ขึ้นมาเปิดสีหน้าเรียบเฉยหากแต่แววตาดุดัน กรวิชญ์เฝ้ารอพี่ชายเงียบๆ รู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังโกรธ เป็นเขาก็โกรธ อุตส่าห์ควานหาตัวทั่วแผ่นดิน สุดท้ายกลับกลายเป็นศพ ทีนี้ก็ไม่มีทางรู้กันว่าใครกันแน่ที่เป็นคนสั่งฆ่าพี่ชายเขา

“ทำไมไม่มีใครรายงานฉัน”

“ไม่มีใครรู้ว่าก่อนหรอกพี่ ตำรวจเขาก็เพิ่งทราบเรื่อง มีชาวบ้านมาแจ้งว่ากำลังทอดแหแล้วไอ้กระสอบที่ใส่ศพไอ้มือปืนคนนี้มันก็ลอยมาติด พอเปิดออกก็เห็นเป็นศพเลยไปบอกตำรวจ พอตำรวจตรวจสอบแล้วก็พบว่ามันคือคนที่พวกเราตามหาตัวอยู่”

กรวีร์กำหมัดแน่น พยายามข่มความโกรธรู้ดีว่าไม่มีใครผิดทั้งกรวิชญ์และคนสนิททั้งสามของเขาพยายามกันเต็มที่แล้ว แต่ที่หาไม่เจอก็เพราะมีคนจัดการกับมันไปแล้วนี่เอง ถ้าจะใครที่สมควรโดนเขาชกสักหมัดก็คือไอ้คนจ้างวานต่างหาก ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วงรู้สึกหนักใจที่ทุกอย่างแย่ลงไปอีก

“แล้วมันตายนานหรือยัง”

“ประมาณสามสี่อาทิตย์ได้ ถ้ให้ผมกะก็น่าจะประมาณหลังพี่วีร์ไปฝรั่งเศสได้สักพัก”

“ฆ่าตัดตอนชัดๆ ไอ้คนจ้างมันเหี้ยมได้ใจจริงๆ พอหมดประโยชน์ก็เชือดทิ้งซะงั้น” กรวีร์เดาซึ่งก็ตรงกับความคิดของน้องชายที่ตอนนี้ยามลงมานั่งข้างๆ แถมยังถือวิสาสะแย่งรีโมทไปเปลี่ยนเป็นช่องหนังต่างประเทศที่ตอนนี้กำลังฉายซีรี่ย์แนวสืบสวนโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์จากประเทศแถบตะวันตก

“แล้วจะให้ทำไงต่อ” ปากถามแต่ตาจับจ้องอยู่กับฉากผ่าศพพิสูจน์หลักฐาน กรวีร์มองตามแล้วก็ต้องเบือนหนีเมื่อเห็นว่าหนึ่งในตัวเอกกำลังล้วงมือเข้าไปในส่วนที่คิดว่าเคยเป็นหน้าอกของศพ ไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่เสียดายมื้อดึก

“ปล่อยไป ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่ ผู้ต้องหาลงโลงไปแล้วแบบนี้ รอก็แค่ให้มันจัดยกสองมา...” เขายิ้มมุมปาก มือแย่งรีโมทกลับมาเมื่อเห็นว่ากำลังตัดเข้าสู่โฆษณา จัดการเปลี่ยนเป็นช่องการ์ตูนดังจากทวีปเดียวกันกับซีรี่ย์เมื่อครู่ เรื่องราวของเด็กหนุ่มตัวเอกที่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ต่างดาวหลากหลายสายพันธ์ด้วยอุปกรณ์ที่คล้ายนาฬิกาข้อมือที่เขากำลังติดใจ สายตาของเขามองภาพการเปลี่ยนร่างให้เป็นมนุษย์ต่างดาวที่คล้ายกับผีเสื้อขนาดใหญ่ ขณะพูดต่อประโยคเมื่อครู่

“...เดี๋ยวฉันจะเอาคืนทบต้นทบดอกทั้งของเก่าและของใหม่ ให้พวกมันตั้งรับไม่ทันไปเลย แล้วมันจะต้องร้องไห้ที่คิดจะมาเป็นศัตรูกับคนอย่างฉัน”

กรวิชญ์มองหน้าจอที มองหน้าพี่ชายที แล้วก็ต้องเก็บความสงสัยเอาไว้ ไม่พูดออกไป ‘คนที่จะมาเป็นศัตรูกับผู้ใหญ่ที่ติดการ์ตูนเด็ก ถ้าไม่บ้าก็เพี้ยนล่ะนะ’

“ตามใจก็แล้วกัน ผมไปนอนก่อนนะ อย่าหมกมุ่นกับงานอดิเรกให้มันมากนักล่ะพี่วีร์ เดี๋ยวตื่นไม่ทันไปจ็อกกิ้งพรุ่งนี้กับน้องเบญแล้วจะหาว่าน้องสุดหล่อคนนี้ไม่เตือน”
กรวีร์ลุกพรวดก้าวเดียวถึงตัวน้องชายที่กำลังจะออกจากห้อง มือหนาคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายไว้ทันท่วงที กระชากเสียงถาม

“แกรู้ได้ไงว่าน้องเบญเขาจะไปวิ่งพรุ่งนี้ ไอ้วิชญ์!”

“ก็เขาโทรมาชวนผมให้ไปวิ่งเป็นเพื่อนเมื่อกี้นี้เอง”

“ว่าไงนะ! งั้นแกไม่ต้องไป นอนหลับยาวตื่นอีกทีหกโมงเย็นไปซะ”

“เรื่อง! ผมจะไปกับเพื่อนผม พี่มีสิทธิ์อะไรมาห้าม แฟนน้องเบญรึก็ยังไม่ใช่ ที่ยอมบอกนี่ถือว่าเอาบุญนะ เห็นว่าวันนี้ยังไม่คืบหน้าไปไหนซะที ถ้าขับรถอยู่นี่ต้องบอกว่าช้าจนเต่ากัดล้อ” พอโดนน้องชายพูดจี้ใจดำเขา ท่านประธานหนุ่มเจ้าเสน่ห์แห่งสิทธิวัติก็เกิดอาการองค์ลง กระโดดเข้าไปตะลุมบอนกับน้องชายคนเดียวที่ตั้งท่ารออยู่แล้ว

เสื้อนอนที่กลัดกระดุมอยู่แค่สองเม็ดหลุดลุ่ยจนเจ้าตัวโมโหเขวี้ยงทิ้งเหลือแต่กางเกง ส่วนกรวิชญ์ที่โดนพี่ชายตัวดีกระชากคอเสื้อจนขาดก็ถอดเสื้อตัวเองออกเช่นกัน สองพี่น้องตรงเข้าโรมรันกันในสภาพเปลือยท่อนบนทั้งคู่ ห้านาทีผ่านไปก็ถอยออกมายืนหอบแฮ่ก มุมปากของกรวีร์มีรอยหมัดของอีกฝ่ายติดเอาไว้ให้ประทับใจ

กรวิชญ์เองก็ไม่น้อยหน้า ดวงตาข้างขวาปิดสนิทเพราะหมัดขวาทะลวงโลกของพี่ชายซัดโครมเข้าให้ ทั้งคู่กำลังจะต่อยกสองเพื่อความสะใจและตั้งใจจะให้อีกฝ่ายหมดหล่อไปเลยที่เดียว แต่เสียงคล้ายลังเลใจของใครบางคนก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงหอบหายใจของสองพี่น้อง

“เอ่อ แบบว่า แม่ก็ไม่อยากจะมาขัดจังหวะการอนุรักษ์ป่าไม้ของพวกลูกกันหรอกนะ แม่แค่จะเข้ามาบอกพี่วีร์ว่าอย่าลืมไปขอโทษคุณน้าบุษเขาด้วย ก็แค่นั้น แม่เอ่อ แม่ไปดีกว่า พวกลูกจะได้ต่อกัน แหะๆ” คุณมีนาที่ดอดเข้าห้องลูกชายมาโดยไม่เคาะก่อน จนต้องเจอภาพบาดตาทำร้ายใจเข้าให้อย่างจังเอ่ยเสียงอ่อย ใบหน้าจืดเจื่อน กรวีร์และกรวิชญ์มองหน้ากัน หมัดที่เงื้อค้างไว้ค่อยๆตกลง มองมารดาที่กำลังถอยหลังออกไปอย่างตะลึง ก่อนจะแข่งกันตะโกนเรียกมารดาเสียงลั่นบ้านเมื่อผู้ให้กำเนิดร้องไห้โฮจากไปพร้อมประโยคที่ว่า

“โฮ! เสียใจนัก ลูกรักเป็นเกย์!”

“แม่/แม่ครับ!!!”


เบญญาภาตื่นนอนแต่เช้าเพราะตั้งใจไว้ว่าจะไปวิ่งออกกำลังกายรีดเอาไขมันที่น่าจะเกิดจากบะหมี่มื้อดึกเมื่อคืนออกไปซะ หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อยืดลายการ์ตูนน่ารักพอดีตัวมีผ้าขนหนูผืนขนาดไม่ใหญ่มากคล้องคอเอาไว้ ท่อนล่างสวมกางเกงผ้ายืดสำหรับออกกำลังกายยาวถึงเข่า ร่างบางกำลังเดินลงบันไดขณะที่มารดาเพิ่งจะเดินออกมาจากครัวเห็นบุตรสาวคนเดียวอยู่ในชุดเต็มยศจึงเอ่ยทักพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน

“ตื่นแต่เช้าเชียว จะออกไปวิ่งเหรอลูก...น้องเบญ”

หญิงสาวหันไปตามเสียงเรียก ยิ้มกว้างแล้วรีบวิ่งไปกอดมารดาอย่างออดอ้อน ก่อนจะหอมแก้มมารดาซ้ายทีขวาที

“โอ๊ย...แก้มแม่ช้ำหมดแล้วลูกคนนี้”

“ก็เบญรักแม่นี่คะ ก็เลยหอมมากหน่อย” เบญญาภาบอกเสียงอ่อนพร้อมกับเอนซบไหล่ คุณบุษราโคลงศีรษะอย่างอ่อนใจกับท่าทางเหมือนเด็กไม่ร็จักโตของลูกๆบ้านนี้ บุญญฤทธิ์อีกคนวันไหนหยุดอยู่บ้านต้องกลายร่างเป็นลูกแมวขี้อ้อนมานอนหนุนตักจนบิดาเขม่นใส่ไปหลายครั้งแล้ว

“เรากับตาบุญนี่จริงๆเลย โตกันแล้วนะยังจะมาอ้อนแม่อีก แล้วแบบนี้ใครจะมาขอ...ฮึ?”

“ไม่มีก็ช่างสิคะ เบญไม่สนหรอกอยู่กับพ่อกับแม่นี่แหละดีที่สุด”

“แล้วกันลูกคนนี้ จะอยู่กับพ่อแม่ตลอดไปได้ยังไง อีกหน่อยพ่อกับแม่ก็ต้องจากไป แล้วเบญจะอยู่ยังไง แม่จะบอกให้นะต่อให้เราเก่งแค่ไหนแต่เบญก็เป็นผู้หญิง บางปัญหาเราแก้ไขเองไม่ได้จึงจำเป็นต้องมีคนดูแลนะลูก” ผู้เป็นแม่สอนลูกสาวอย่างคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน เบญญาภาย่นจมูกเข้าใจอยู่หรอกแต่คนยังไม่อยากจะมีภาระนี่นา สุดท้ายเมื่อเห็นว่ามารดาคงไม่ยอมจบหัวข้อนี่แน่ หญิงสาวจึงเป็นฝ่ายเลี่ยงไปถามเรื่องอื่นแทน

“แล้วทำไมวันนี้คุณแม่ตื่นเช้าจังคะ จะหนีลูกไปเดทกับคุณพ่อที่ไหนเอ่ย บอกมานะ เบญจะได้ลากพี่บุญตามไปขัดคอถูก”

“เซี้ยวแล้วก็ออกนอกเรื่องเก่งจริงนะเรา...” นางค้อน ก่อนจะตอบ “...ไม่ได้ไปไหนหรอก เมื่อคืนพ่อเราเขาบ่นอยากกินข้าวต้มปลาน่ะ แม่เลยตื่นมาสั่งป้าออให้ซื้อปลากะพงมาด้วยน่ะจ้ะ”

“แสดงว่าเช้านี้มีข้าวต้มสินะคะ ดีจัง งั้นเบญขอตัวไปรีดเอาไขมันส่วนเกินออกก่อนแล้วเดี๋ยวกลับมา” หญิงสาวผุดลุกแล้วรีบวิ่งออกไปข้างนอกทันที คุณบุษรามองตามหลังไปอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินกลับเข้าครัวไปเตรียมอาหารเช้า

เบญญาภาที่ออกมายืนนอกรั้วบ้านของตัวเองเรียบร้อย มองไปทางขวามือยังไม่เห็นว่ากรวิชญ์จะออกมา หญิงสาวเลยวอร์มอัพร่างกายรอเพื่อนที่นัดเอาไว้ ห้านาทีผ่านไปก็ยังไม่มีวี่แววของคนที่รอ เธอเลยออกวิ่งไปก่อนกะว่าพอกลับมาอีกรอบเพื่อนคงจะมาพอดี

หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกขณะวิ่งเหยาะๆไปตามทางยาวของซอยบ้านเพื่อรับเอาอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าที่ค่อนข้างจะหายากในยุคสมัยที่รถมากกว่าถนน บางครั้งก็ส่งยิ้มทักทายให้กับเพื่อนบ้านบางคนที่พาสัตว์เลี้ยงตัวโปรดมาออกกำลังกายด้วยกัน ร่างบางวิ่งอ้อมวงเวียนน้ำพุรูปนางฟ้ากลางหมู่บ้านเพื่อย้อนกลับไปทิศทางที่ตั้งบ้านของตน ก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อยังไม่เห็นวี่แววของกรวิชญ์ทั้งๆที่เธอไปวิ่งฆ่าเวลามารอบนึงแล้ว นึกเคืองเพื่อนชายตัวดี ‘เบี้ยวเบญนะวิชญ์ เดี๋ยวต้องบังคับให้เลี้ยงข้าว’

เบญญาภาเลี้ยวเข้าซอยขวามือตรงข้ามกับบ้านของเธอ เพื่อใช้เป็นทางลัดไปทะลุวงเวียนน้ำพุก่อนจะวนกลับมาที่บ้าน ระหว่างที่วิ่งก็คิดว่าจะให้กรวิชญ์เลี้ยงอะไรดีโทษฐานที่ผิดนัด

“เอ...อาหารญี่ปุ่นอีกดีกว่า ชวนอันย่าไปด้วย แถมด้วยหนังแล้วก็แกล้งปล่อยให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกันในโรงหนัง ส่วนเราก็หนีออกมาช้อปปิ้ง ใช่เลยตอนนี้มีหนังผีเรื่องใหม่เข้าฉายด้วยนี่นา คราวนี้ต้องคืบหน้าสุดๆ เจ๋งมากเลยน้องเบญ! เดี๋ยวกลับไปโทรหาอันย่าเลยดีกว่า” หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้น ที่สามารถคิดแผนให้เพื่อนรักทั้งสองคนได้ใกล้ชิดกันโดยไม่ต้องพึ่งใครบางคนได้ ร่างบางวิ่งไปฮัมเพลงไปอย่างมีความสุข

“พี่ว่าแผนมันเด๊ก เด็ก แบบนี้ไอ้วิชญ์มันไม่หลงกลหรอก” เสียงทุ้มปริศนาดังขึ้นข้างหลัง เบญญาภาหยุดฮัมเพลง หันขวับไปมองแล้วก็ต้องอ้าปากค้าง เผลอชี้นิ้วใส่คนที่รีบวิ่งมาตีคู่กับเธอทันที

“คะ คะ คุณ..”

กรวีร์ยิ้มกว้าง เอ่ยเสียงระรื่น “อรุณสวัสดิ์ครับน้องเบญ เมื่อคืนฝันดี ฝันถึงพี่วีร์สุดหล่อหรือเปล่าเอ่ย?”

---------------------------------------------------------------------------------------
มาแล้วจ้า ตอนนี้ไม่ค่อยจะมีสาระเท่าไหร่ แต่บรรดาเหล่าร้ายเริ่มเดินหน้ากันแล้ว เป้าหมายเป็นใครหว่า รู้แต่งานนี้พี่วีร์เจอศึกหนัก เรื่องรักไม่คืบหน้า เรื่องรบก็มาจ่อหน้าประตูแล้ว เอาใจช่วย(หรือเหยียบซ้ำ) พี่วีร์กันต่อไปนะคะ

เจอกันตอนหน้าวันจันทร์ค่ะ ติชมได้ค่ะ



ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ต.ค. 2555, 13:23:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ต.ค. 2555, 13:23:15 น.

จำนวนการเข้าชม : 1732





<< ตอนที่ 15   ตอนที่ 17 >>
anOO 13 ต.ค. 2555, 19:43:40 น.
น้องเบญจะตกหลุม(รัก)พลางของพวกคนร้ายหรือเปล่านะ


ลูกกวาดสีส้ม 17 พ.ย. 2555, 23:37:08 น.
คุณพงษ์นี่ตัวร้ายใช่มะ เห็นเงียบๆไม่นึกว่าจะแรง...

มีอะไรฝังใจกับพระเอกรึเปล่าเนี่ย


ปล.เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ (เพื่อนแนะนำมาค่ะ)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account