หัวใจไกลคานทอง
พราวพุธสาววัยเบญจเพสกำลังเผชิญเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด ต้องแก้ชง ด้วยการหาคู่สมพงศ์มาแต่งงานแก้เคล็ด พร้อมทั้งรีบปั๊มทายาทสืบสกุลพรหมพยากรณ์แบบหัวปี ท้ายปี!!


ถึงไม่เชื่อเรื่องกรรมเก่า แต่ก็ไม่อยากปีนไปอยู่บนคานทองจนวันตาย ดังนั้นการหาลูกเขยเข้าบ้านจึงตกเป็นของหญิงสาวอย่างเลี่ยงมิได้


กระนั้นก็ไม่รู้จะโยนมาลัยรักเลือกใคร? เพราะจู่ๆ เกิดมีรถไฟรักวิ่งมาชนกันถึงสามขบวน!!!



เอกลักษณ์ ท่านประธานสุดหล่อผู้เป็นดั่งชายในฝัน

สิงห์นักบิด ธงทิว เทพบุตรแห่งความโชคดี

และพี่ชายข้างบ้าน ดรณ์ เจ้าของร้านขนมหวาน



ในภารกิจที่ต้องใช้ความโสดเป็นเดิมพัน ใครกันหนอที่จะช่วยปลดล็อคหัวใจพราวพุธลงจากคานทอง เฮ้อ...งานนี้คนสวยเลือกได้ปวดตับจริงๆ




ลงก่อนวางแผง ต้น พย.2555 นี้ครับ
Tags: เขมปัณณ์,หัวใจไกลคานทอง,บุพนิมิต

ตอน: บทที่ ๒ ผู้ชายในฝัน

บทที่ ๒ ผู้ชายในฝัน


เสียงร้อง ‘แก แก’ ไม่ได้ทำให้พราวพุธเอะใจว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับตน หล่อนสนุกกับการเลือกเสื้อผ้า เสริมความงามให้สวยสมเป็นซิลเดอเรลล่าสำหรับปาร์ตี้สละโสด ลืมเรื่องการถือศีลห้าเสียสนิท


เสื้อผ้าแบรนด์แนมแปลงโฉมพราวพุธสวยสะดุดตาในชุดเกาะอกสีชมพูสุดหวาน หล่อนติดเข็มกลัดหงส์ฝังเพชรซึ่งเป็นของรักที่คุณย่าจวงมอบให้อย่างเก๋ๆ ตรงผ้าผันคอ ตั้งใจพรางสายตาซุกซนของหนุ่มๆ ไม่ให้จ้องหน้าอกหน้าใจอวบใหญ่คัพดี!!


ชุดด้านล่างเป็นกระโปรงสั้นเหนือเข่า ประดับด้วยขนสีทองอ่อนๆ พลิ้วไหวตามการขยับตัว พอจับคู่กับสาวร่างเล็กบัวบูชาซึ่งสวมเดรสพอดีตัวสีม่วงอมทอง สองสาวเลยดึงดูดสายตาคนในงานให้หยุดมองด้วยความสนใจ


งานปาร์ตี้สละโสดจัดในสถานที่ของคุณเอกลักษณ์ เทพวัฒนาไพศาล คลับเฮาส์สุดหรูสร้างเสร็จได้ไม่นาน เขาตั้งใจใช้ต้อนรับแขกในสโมสรกีฬาแทนบ้านพักบนชายหาดส่วนตัว ซึ่งกำลังปรับปรุงไว้เป็นเรือนหอต้อนรับเจ้าสาวในอนาคต


พราวพุธอมยิ้มสุขใจ เมื่อนึกถึงความทรงจำในวันวาน ภาพการไปทำบุญในเช้าวันอาทิตย์กับคุณหนึ่งตะวัน คุณจันทร์วาดผุดขึ้นในหัว


เอกลักษณ์มักจะมาที่วัดเป็นเพื่อนคุณพิมพา เขาคือพี่ชายผิวขาวร่างสูงใหญ่ หุ่นนักกีฬา ผมสีดำดกหนาดูยุ่งนิดๆ ท่าเดินเหมือนหุ่นยนต์ ชอบทำหน้าขรึม แบบเสือยิ้มยาก กระนั้นก็ทำให้สาวน้อยอย่างหล่อน เพ้อหา แอบฝันหวานอยากอยู่ข้างกายเขาเสมอมา


จวบจนเขาไปเรียนต่อต่างประเทศ หล่อนยังเฝ้าติดตามข่าวมิขาด กระทั่งได้มาทำงานที่โรงงานในเครือเทพวัฒนาไพศาลกรุ๊ป หล่อนจึงมีความเชื่ออยู่ลึกๆว่า ‘ฟ้ามีตา’ และเปิดโอกาสให้หล่อนมีช่วงเวลาดีๆ เพื่อใกล้ชิดเขาอีกครั้ง


พราวพุธกวาดตามองรอบๆ งาน ไม่ได้สนใจสิ่งแวดล้อมสักเท่าไหร่ เพราะกำลังมองหาชายในป้ายโฆษณาที่ขับรถชนเมื่อเช้านี้


พี่เอก... หล่อนภาวนาในใจ ขอให้พบเขาในงานปาร์ตี้คืนนี้ โอมเพี้ยง!


‘รู้ไหมพราว คุณเอกอนุญาตให้ใช้คลับสุดหรูเชียวน้า น่าเสียดายแทนพวกที่ชอบเล่นตัว ไม่ยอมมางาน สมน้ำหน้า อดเหล่หนุ่มๆ ไปตามระเบียบ’ บัวบูชาบอกกับพราวพุธขณะที่ทั้งคู่ เดินเข้าออกห้างดังกลางเมืองหลวง


‘...ไหนบัวบอกว่าจะจัดงานเล็กๆ ไง ทำไมคนแยะขนาดนี้ พราวอึดอัดจัง รู้อย่างนี้นั่งดูละครเป็นเพื่อนพี่พบยังดีเสียกว่า’


‘แหม ปากไม่ตรงกับใจแบบนี้ คอยดูเถอะ เดี๋ยวได้นั่งบนคานทอง ตามติดชีวิตสาวโสดเหมือนคุณพี่ๆ ไปอีกคนหรอก’ บัวบูชายิ้มเจ้าเล่ห์ เธอรู้ทันคนที่ปากไม่ตรงกับใจอย่างพราวพุธดี


‘ใจร้ายจัง อยากให้พราวใช้ชีวิตอยู่บนคานทองหรือไง’ หล่อนค้อนวงใหญ่ สองแก้มแดงระเรื่อ


‘ต้องเล่นไม้นี้ละ ไม่งั้นพราวก็เอาแต่เก็บตัวในบ้าน หนุ่มๆ ที่ไหนจะกล้าปีนกำแพงมนตราฝ่าภูตผีเข้าไปหาคุณพราวพุธละ’


‘ถ้าคิดจะจีบพราว ต้องกล้าเสี่ยงหน่อย อยากแอ้มลูกสาวตระกูลพรหมพยากรณ์ ห้ามป๊อดรู้ไหม’


‘บัวว่าแค่เห็นหลังคาบ้าน ร้อยทั้งร้อยคงเผ่นป่าราบแล้ว คิดดูสิ กิติศัพท์ล่ำลือแค่ไหน คนเขารู้กันทั่ว ทั้งเจ้าบ้านเจ้าเรือน ไหนจะลูกกรอก ไหนจะโหงพราย อ๋อ...ยังมีควายธนูอีก...สารพัดคุณผีขนาดนี้ น่ากลัวตายชัก’


‘เกินไปละ บ้านพราวไม่ใช่ตำหนักหมอผีนะ คนพูดเลอะเทอะไปทั่ว บ้านพราวมีแต่สาวโสดหัวใจยังว่าง รอผู้ชายดีๆ มาเป็นคู่ชีวิตต่างหาก’ หล่อนบ่นอย่างเพ้อๆ


‘ใช่...บ้านสาวโสดที่ชวนขนหัวลุกที่สุด!’


ได้ยินคำนั้น พราวพุธทำตาพอง เท้าสะเอวเตรียมปรี๊ดใส่


‘จริงไหมละ…คุณหนึ่งมีหูทิพย์ได้ยินเสียภูติพราย คุณจันทร์มีสัมผัสพิเศษสแกนกรรมขยำกระดาษ ส่วนพี่พบฝันแม้น แม่น ทำนายอะไรได้เป็นฉากๆ เฮ้อ...ผู้ชายมายื่นใบสมัครเป็นเขยบ้านนี้ คงคิดหนักละ’


บัวบูชาจำข่าวดังชั่วข้ามคืนเมื่อหลายปีก่อนได้ดี สามสาวบ้านพรหมพยากรณ์ไปออกรายการแนวระลึกชาติจนกลายเป็นเรื่องฮือฮาอยู่พักใหญ่ เพราะเกิดกระแสต่อต้านกล่าวหาว่าพวกเธอลวงโลก หากินบนความทุกข์ของคนอื่น


ความเดือดร้อนนี้ ทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสีย คุณหนึ่งตะวันเลยสั่งห้ามคนในบ้านยุ่งเกี่ยวกับรายการพวกนี้อีก รวมถึงการปิดตำหนักพรหมพยากรณ์ไปโดยปริยาย


‘ถ้าคุณพี่ๆ มีของวิเศษติดตัวจริง ป่านนี้คงตามหาเนื้อคู่ให้ตัวเองเจอแล้วละ’ พราวพุธตอบเสียงอ่อย สิ่งที่ยากสำหรับสี่สาวตระกูลพรหมพยากรณ์คือการหาผู้ชายดีๆ มาเป็นคู่ครอง


คู่แฝดสองพันปีนั้นยกธงขาวยอมแพ้เรื่องชีวิตคู่ไปหลายปีแล้ว ด้วยพบเจอแต่ผู้ชายที่ไม่คู่ควร กระนั้นยังติดนิสัยการเชื่อเรื่องโชคลาง คุณๆ จึงชอบไปดูดวงตามตำหนักต่างๆ นอกจากการดูดวง พวกเธอยังมีสมาคมเล็กๆไว้พบปะกัน นัยว่าเป็นคลับสาวโสดวัยดึก ก่อตั้งขึ้นเพื่อระดมทุน บริจาคเงินสร้างโบสถ์ สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในวัดที่ห่างไกลความเจริญ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือสถานสงเคราะห์เด็กและคนชรา


ส่วนพบพรพี่สาวคนที่สาม ถึงจะอายุเพียงสามสิบสามปี แต่ด้วยเป็นคนเก็บตัว พูดน้อย ติดจะขี้อายอยู่มาก การที่จะเจอเนื้อคู่ของเธอเลยเป็นเรื่องยากกว่าใคร สำหรับพราวพุธนั้น ถึงอยากจะตามหาเนื้อคู่ให้ตนเองสักแค่ไหน แต่เหมือนมีบางสิ่งขวางกั้นหล่อนไว้ บางทีหล่อนสัมผัสได้ว่า มีใครสักคนอยู่ใกล้ๆ คอยกวนตัว กวนใจ เพียงแต่เวลานี้ พรหมลิขิตได้ปิดประตูใจเอาไว้ พราวพุธเลยมองผ่านคนที่ใช่...คนนั้น !?



//////////////////////////////



ชายหนุ่มร่างสูงเพรียวยืนกอดอกมองผู้คนในงานอย่างหงุดหงิดใจ ปกติเวลาหัวค่ำดรณ์มักออกกำลังกายอยู่บ้าน จากนั้นก็พาสมุนไปนั่งชมนกชมไม้ ริมคลองหลังบ้าน เขาเลี้ยงสุนัขพันธุ์เยอรมันเชเพิร์ดตัวโตชื่อ ‘ลีโอ’ ไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา ตามประสาหนุ่มโสดที่ยังไม่อยากมีพันธะ


แต่วันนี้มีเหตุจำเป็นต้องออกมาดูแลงานข้างนอกที่คลับเฮาส์หรูของเอกลักษณ์ ดรณ์จึงมายืนตีหน้ายุ่ง ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้


ยิ่งดึกคนยิ่งหนาตา ต่างแต่งตัวกันสุดฤทธิ์ทั้งชายหญิง หากปาร์ตี้คืนนี้เป็นงานเล็กๆ อย่างที่รับปากไว้แต่แรก ดรณ์คงไม่หนักใจ แต่จู่ๆ เจ้าภาพคุณพิมพาให้เลขาปากกรรไกรที่ชื่อจุ๋มจิ๋มติดต่อขอเพิ่มรายการอาหารขึ้นอีกเกือบเท่าตัว ใจจริงเขาอยากปฏิเสธไม่รับงานเสีย แต่เพราะเกรงใจคุณหนึ่งตะวัน คุณจันทร์วาด ซึ่งแนะนำลูกค้าพิเศษให้บ่อยๆ จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตา เนรมิตอาหารตามสูตรลับซึ่งได้รับมรดกตกทอดมาจากมารดาอย่างสุดฝีมือ


ความรักในการทำอาหารถูกถ่ายทอดออกมา พร้อมกับพรสวรรค์ที่ติดตั้งมาตั้งแต่เกิด ขนมที่เขาปั้นแต่งขึ้น จึงรสเลิศ และงามตา


ฮัดเช้ย! ดรณ์จามเสียงดัง จนปลายจมูกแดงจัด เขาฮึ่มๆ หัวเสีย มองไปยังริมสระว่ายน้ำ ซึ่งตอนนี้มีบาร์เคลื่อนที่มาบริการเครื่องดื่มให้คนในงาน


กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยมาตามสายลม และเสียงเพลงซึ่งดังอยู่ในคลับหรูทำให้ใจเดือดปุดๆ ทั้งที่ในอดีต สุรา นารี คือสิ่งที่อยู่ข้างกายเขา แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์พลิกพลัน บิดาและมารดาจากไปด้วยอุบัติเหตุ จากการประมาทของคนขับรถซึ่งดื่มหนักขับรถฝ่าไฟแดงด้วยความเร็วสูงเกิดการประสานงานกัน ดรณ์จึงสูญเสียบิดาและมารดาไปพร้อมกัน


หลังงานศพผ่านพ้นไป ดรณ์ตัดใจจากอบายมุข มุ่งมั่นตั้งใจทำงานอย่างหนัก เขาหวังจะลืมเรื่องร้ายๆ ไปจากใจ


เขาสานต่อกิจการร้านขนมไทยตามความฝันของมารดา สร้างร้านเล็กๆ ขึ้นภายในพื้นที่บ้านของตัวเอง และตั้งชื่อว่า ‘แก้วตาขนมไทย’ ตามชื่อมารดา


งานหนักเปลี่ยนคนที่ไม่เอาถ่านให้เป็นคนหนุ่มที่มีอนาคตไกล ถึงแม้สาวอวบข้างบ้านอย่างพราวพุธจะมองเขาว่าเป็นแค่พ่อค้าขายขนมหวาน มาดมาเฟียก็ตาม


ดรณ์มองขนมในถาดที่ตบแต่งอย่างสวยงาม ขนมดอกอัญชัน ขนมชั้น และกระทงทอง ประยุกต์ให้ทันสมัย เข้ากับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ เป็นที่ถูกใจสาวๆ ออฟฟิศ ถึงแม้ผู้ชายขายขนมหวานจะดูไม่ค่อยเข้ากัน แต่ด้วยวัยยี่สิบกว่าๆ การเรียนก็ย่ำแย่ จบออกมาด้วยเกรดสองจุดศูนย์นิดๆ นอกจากขนมหวานที่เห็นมาตั้งแต่เกิด เขาไม่มีฝีมือด้านอื่นเลย อาชีพพ่อค้าขนมหวานของดรณ์ จึงเป็นงานหลักที่ช่วยให้เขาลืมตาอ้าปากได้


“คุณดรณ์ขา หน้ายักษ์แบบนี้ ขนมมันจะบูดหมดเสียก่อนน้า พี่ดาวกับเด็กๆ นั่งหลังขด หลังแข็งทั้งวัน ดูสิเจอสายตาคุณดรณ์แป๊บเดียว ขนมหวานจะกลายเป็นของบูดหมดแล้ว” แสงดาวสาวท้วมลูกจ้างในร้านพูดเย้าเจ้านายหนุ่ม


ดรณ์หันขวับไปมองแสงดาว ขึงตาดุๆ ให้เธอ


“ค้อนขนมไม่พอ ยังจะมาค้อนพี่ดาวอีก... แต่ช้าแต่ เขาแห่ยายมา มาถึงศาลา เขาวางยายลง ขี้ตู่กลางนา ขี้ตาตุ๊กแก ขี้มูกยายแก่ ออระแร้ ออระชอน…” แสงดาวหัวเราะร่วน แต่เจ้านายเกิดอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างหนัก


ก่อนหน้านี้แสงดาวพบพราวพุธตอนที่เข้าไปเติมขนมในงาน จึงรีบมารายงานดรณ์อย่างระเอียดยิบว่าหล่อนแต่งตัว เช้งวับ เปิดไหล่ เปิดหลัง ได้ยินแบบนั้น เขาเกิดอาการงุ่นง่าน นั่งไม่ติดเก้าอี้ทีเดียว


คิ้วเข้มของดรณ์ขมวดมุ่น ดวงตาคมมองอาหารตรงหน้า แล้วเอ่ยอย่างพาลๆว่า


“เมื่อไหร่ จะเลิกกินกันเสียที เตรียมมาตั้งเยอะ กินทิ้งกินขว้างแบบนี้ นึกว่าเลี้ยงโต๊ะลิงหรือยังไง”


“แหม ดูพูดเข้าสิ ไม่ได้กินทิ้ง กินขว้างหรอกคะ ขนมฝีมือคุณดรณ์อร่อยเหาะขนาดนี้ ใครเห็นก็

คว้าหมับเคี้ยวตุ้ยๆ ถ้าพี่ดาวไม่หัวไวเตือนเสียก่อน บางคนเตรียมจะห่อกลับบ้านด้วยละ” แสงดาวเอ่ยอย่างขำๆ
“ กินอย่างกับยัดนุ่น คนพวกนี้ทำให้กินฟรียังเสียดายของเลย” ดรณ์ยังไม่หายขุ่นใจ


ดรณ์เปิดร้านขนมไทยสไตร์โมเดิร์นมาได้สามปีเศษ ร้านได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบความแปลกใหม่แต่เน้นรสชาติคุ้นลิ้น ตอนนี้กำลังขยายกลุ่มกว้างขึ้น โดยเฉพาะคนที่ใส่ใจต่อสุขภาพ กลุ่มวัยทำงานและคนสูงวัย


“อุ้ย พูดไม่ดีเลย คนเขาชอบขนมเราน่าดีใจออก ‘ขนมไทยอร่อยที่สุดในโลก’ พี่ดาวได้ยินสาวฝรั่งผมทองพูดชมอย่างนี้ละ”


“ฝีมือผมชั้นนี่ ไม่อร่อยก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว” ได้ที่พ่อค้าขนมหวานยืดอกรับ เก๊กหน้าอวดความเก่งของตน


“คนชอบเยอะๆ อย่างนี้ก็ดี คุณดรณ์จะได้ขยายสาขา เปิดร้านใหญ่โต คราวนี้ พี่ดาวจะได้รวยกับเขาสักที”


แสงดาววาดความหวัง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างชอบใจ


“ฮึ ร้านทำขนมขายนะพี่ แค่พออยู่พอใช้ดีถมไปแล้ว ถ้าหวังรวยนั่งกินนอนกิน คงไม่ใช่”


“พี่ไม่ได้หวังรวยอะไรหรอก แค่เก็บเงินได้สักก้อนเอาไปทำจมูกก็ดีใจแล้ว” เธอยิ้มอายๆ


“อยากรวยเร็วไปอยู่บ้านคุณหนึ่งสิ...ผมเห็นไปเฝ้าทองเอกเช้าถึง เย็นถึงไม่ใช่หรือ เดี๋ยวผมจะบอกคุณเขาให้ บ้านนั้นงานไม่หนักเท่าไหร่ แถมว่างๆ ไปขูดต้นมะขามขอหวยได้ด้วย”


ดรณ์มักใช้แสงดาวไปเป็นสายสืบ ดูความเคลื่อนไหวของคนในบ้านพรหมพยากรณ์ โดยเฉพาะเรื่องของพราวพุธ แต่กลายเป็นว่าแสงดาวไปขลุกอยู่กับทองเอกน้องชายคนเล็กของบ้านหลังนั้นแทน


“ม่ายดีหรอกค่ะ พี่ชอบมองคุณทองก็จริง หนุ่มผิวขาว ปากนิดจมูกหน่อย น่ารักดี แต่ถ้าให้รักให้ชอบจริงๆ คงไม่ไหว บอกตรงๆ กลัวน้ำตาเช็ดหัวเข่า แฟนคุณทองแต่ละคน โอย ไม่อยากเล่า หล่อลากเลยคุณขา...”


แสงดาวทำตาวิบวับ เมื่อนึกถึงชายหนุ่มที่แวะเวียนมาส่งน้องชายคนสุดท้องของบ้านพรหมพยากรณ์ ถึงทองเอกจะยังไม่เปิดตัว แต่คนในบ้านมองตาแล้วเข้าใจ น้องชายของพวกเธอ ‘แอบหวาน’ จากการเลี้ยงดูของหนึ่งตะวันและคุณจันทร์วาดนั่นเอง


“สงสัย คนที่จะหาลูกเขยเข้าบ้านได้ก่อนใครคงเป็นทองเอกนี่ละ จริงไหมพี่ดาว” ดรณ์หัวเราะหึๆ ตบท้ายประโยค


“ว้าย! พูดอย่างนี้ฟ้าฝ่าตายพอดี คุณทองแค่บริหารเสน่ห์ ไม่ได้คิดจริงจังกับใคร อีกอย่างคุณพี่ใหญ่ทั้งสองมีหรือจะยอม ทั้งดุ ทั้งระเบียบจัดปานนั้น ขืนน้องทองพาผู้ชายเข้าบ้านจริงๆ มิเสียชื่อพี่สาวหมดหรือคะ ผู้หญิงสี่คนสวยสะเด็ดทั้งนั้น ใครจะยอมให้น้องชายพาน้องเขยเข้าบ้าน เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ พี่ดาวเอาหัวเป็นประกัน” แสงดาวรีบแย้ง


“พี่ดาวรู้ดีไปเสียทุกเรื่องเลยนะ ไม่เสียแรงที่แอบอู้งานบ่อยๆ”


“นี่คุณดรณ์ ชมพี่ดาวใช่ไหมคะ หรือว่าพูดประชดกันแน่” สาวท้วมหน้าคว่ำนิดๆ


“เห็นพี่เข้าออกบ้านนั้นได้ผมก็ดีใจ วันไหนร้านเจ๊งขึ้นมา จะได้ฝากฝังพี่ไปอยู่บ้านนั้นไง”


“ไม่เอาหรอกคะ ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ พี่ดาวขอกลับบ้านนอกดีกว่า คุณดรณ์ก็รู้ กลางค่ำ กลางคืนใครจะกล้าเข้าไปที่นั่น ทั้งเสียง ทั้งกลิ่น มากันพรึ่บ แค่คิดก็สยอง!” แสงดาวมักคุ้นกับคนในบ้านหลังนั้นดี แต่ให้ไปอยู่ด้วยจริงๆ เธอคงขอลาขาด สิ่งลี้ลับซึ่งอยู่ในอาณาเขตบ้านหลังนั้น ชวนให้ครั่นคร้ามใจ แถมคนในบ้านยังมีสัมผัสพิเศษด้วย เธอคงอกสั่นขวัญหายหากต้อง ได้ยิน ได้เห็นอะไรแวบๆ วนเวียนรอบตัว


“ใช่ แค่คิดก็ขนลุก” ดรณ์ทำเสียงเหี้ยมเสริมคำพูดเธอ


ชายหนุ่มขยับตัวบิดความเมื่อยล้า สีหน้าสีตาเขาออกจะเพลียอยู่สักหน่อย พอแสงดาวเห็นอย่างนั้นจึงนึกเป็นห่วง


“...พี่ดาวว่าคุณดรณ์กลับไปก่อนเถอะ ทางนี้พี่กับเด็กๆ ช่วยดูแลได้ งานนี้คงดึกอยู่นา”


“ไหนๆ ก็มาแล้ว ผมคงรอให้อาหารเสิร์ฟหมดโน่นแหละ”


“แปลกจริ๊ง ร้อยวันพันปี ไม่เคยเห็นคุณดรณ์ใส่ใจดูแลลูกค้าขนาดนี้ หรือว่ามีอะไรในก่อไผ่” แสงดาวกลั้นยิ้ม รู้ทั้งรู้ว่าเขาอยากจะตามมาคุมพราวพุธนั่นเอง


“ไม่มี้ ไม่มี ...ผมมาดูช่องทางทำตลาด” ดรณ์เกาศีรษะแก้เขิน เมื่อเช้าหลังจากได้ยินพบพรบอกว่าพราวพุธจะมางานเลี้ยงที่คลับแห่งนี้ เขาก็ตั้งใจว่าจะออกมาดูงานด้วยตัวเอง


“จริงนา ไม่ใช่ที่มาเพราะอยากดูแลหัวใจตัวเองหรอกนะ”


“มั่วแล้วพี่ดาว อย่างผมมีหัวใจให้ดูแลด้วยเหรอ”


“อุ้ยๆ ไม่มั่วหรอก ตอนนี้คุณพราวเดินเฉิดฉายอยู่ข้างในโน่น อยากตามมาคุมละซี...คนเราก็อย่างนี้ บ้านใกล้เรือนเคียงแท้ๆ จะคว้าไม่รีบคว้า มัวแต่ยึกๆ ยักๆ เฮ้อ เสี่ยเหลี่ยมมาเฟียขนมหวานหมด!”


“ไปกันใหญ่ พราวไม่เกี่ยวอะไรกับผมสักหน่อย งานนี้คุณหนึ่งเขาติดต่อมา อยากให้ช่วยงานลูกชายคุณพิมพา ผู้ใหญ่ออกปากทั้งที ผมต้องรับผิดชอบให้เต็มที่ อีกอย่างคุณพิมพาอยากให้เปิดหน้าร้านขายขนมที่โรงงานและในห้างใหม่ด้วย ผมต้องเตรียมงานอีกหลายอย่าง งานเยอะขนาดนี้ ผมคงไม่มีเวลาไปสนใจยายอ้วนข้างบ้านหรอก” ดรณ์พูดถึงแผนงานในอนาคตให้แสงดาวฟัง พยายามย้ำอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีเวลาตามติดชีวิตพราวพุธแน่ๆ เพราะงานกำลังล้นมือ


“คอยดูเถอะ มัวแต่สนเรื่องงาน จนลืมดูแลหัวใจ อกหักเมื่อไหร่ อย่าหาว่าพี่ดาวไม่เตือนนะคะ” สาวท้วมไม่วายแหย่เจ้านายหนุ่ม


“พี่แสงดาววุ่นวายจังนะ คืนนี้อยากนอนเป็นเพื่อนไอ้ลีโอใช่มั้ย!”


“...ดูเขาทำกับสาวน้อยอย่างแสงดาวสิ พูดแทงใจดำหน่อยก็จะตัดหางปล่อยวัด คุณดรณ์เนี่ยใจร้ายจริ๊ง” แสงดาวกระเง้ากระง้อด


ดรณ์ส่ายหน้าอย่างระอา ครั้นหันไปมองในงาน สายตาสะดุดกับพราวพุธในชุดวาบหวิวพอดี เห็นแค่นั้นทุกอย่างก็ขวางหู ขวางตาไปหมด


“คิดยังไง ถึงได้แต่งชุดมาโชว์จ้ำบ๊ะ อุจาดตาจริง ขาโต๊ะสนุก พุงก็หลาม! ยายอ้วนข้าวต้มมัด!! ” ดรณ์กัดฟันกรอด โกรธหัวฟัด หัวเหวี่ยงแทบจะพุ่งเข้าไปอุ้มพราวพุธกับบ้านเสียเดี๋ยวนั้น






เขมปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ต.ค. 2555, 21:16:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ต.ค. 2555, 21:16:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1523





<< บทที่ ๑ ชนท้ายหัวใจ    บทที่ ๓ ช่วยเก็บผ้าเช็ดหน้าให้ฉันที >>
เขมปัณณ์ 16 ต.ค. 2555, 21:19:27 น.
เรื่องนี้เขียนจบแล้วครับ จะทะยอยลงก่อนวางแผง พย.55 นี้นะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ิติดตาม


pseudolife 16 ต.ค. 2555, 22:29:36 น.
รอติดตามนะคะ ^^


เขมปัณณ์ 16 ต.ค. 2555, 22:36:19 น.
ขอบคุณครับ คุณpesudolife จะลงให้ต่อเนื่องก่อนหนังสือวางแผงฮะ


หมออนุ่น 24 ต.ค. 2555, 14:40:03 น.
น่าติดตามมากค่ะ ขอบคุณนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account