เสน่ห์ร้าย นายมาเฟีย
ซานโตรใช้ปลายนิ้วเขี่ยเส้นผมที่ยาวระใบหน้า เส้นผมสีน้ำตาลราวกับเส้นไหมหยักศกน้อย ๆ ใบหน้าคมคายใส่แว่น สวมชุดยาวจนถึงกลางหลัง รองเท้าบูทไขว่ห้างราวกับกำลังนั่งอยู่ภายในห้องพักในบ้านของตัวเอง คิ้วหนารับกับจมูกโด่งเป็นสัน กับเรียวปากได้รูปราวกับรูปสลัก...
Tags: นิยาย,ความรัก,หวานละมุน,มาเฟีย

ตอน: ตอนที่ 5 มืดที่คมเหมือนมีดโกน

บทที่ 5
มืดที่คมเหมือนมีดโกน

หลังจากที่ทำแผลจนเสร็จ ซานโตรก็หันล้างมือโดยใช้สบู่เสร็จแล้วก็หันมาเช็ดทำความสะอาดที่ผ้าผืนบาง ระหว่างที่เขาทำธุระก็ได้ปล่อยให้ชายผิวสองสีนอนอยู่บนเตียงตามลำพัง เขาได้ยินเสียงเพล๊งออกมาเล็กน้อยก่อนที่ซานโตรจะเดินออกไปดูห้องพัก ปรากฏว่าคนไข้ที่นอนอยู่ไม่ได้อยู่ที่นั้นอีกแล้ว ซานโตรมองดูหน้าต่างที่ถูกเปิดออกจนกว้างสายลมพัดผ่านเข้ามาจึงเดินเข้าไปปิด พร้อมทั้งเหยียดยิ้ม

“เพิ่งจะทำทำแผลเสร็จแท้ ๆ ค่ายายังไม่ได้จ่ายเลย”

ซานโตรเดินไปตรวจดูรอยเตียงที่คนไข้เพิ่งจะนอนอยู่ มองเห็นร่องรอยผ้าปิดแผลที่เจ้าตัวทิ้งไว้ให้

“ไปก่อนที่จะถูกสอบสวนสินะ ไม่เลว”

ใบหน้าคมคายยิ้มบาง ๆ พลางชำเลืองมองออกไปนอกหน้าต่าง

บางที...ผู้ชายคนนั้นอาจจะยังอยู่แถวนี้

“อย่าลงมือหนักเกินไปล่ะ” เขากระซิบแผ่ว...

ที่สวนสาธารณะริมถนน มีเงามืดของผู้ชายที่เพิ่งสวมผ้าพันแผลเดินโซเซมา ร่างของเขากัดฟันด้วยความแค้นพลางคิดว่าจะกลับมาเอาคืนให้ได้ ร่างของคนป่วยที่เพิ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บที่ตัวเองเป็นลงมือเพื่อที่จะได้เข้าไปพาหญิงสาวออกมาเดินลัดเลาะไปตามต้นไม้ ก่อนที่แสงจันทร์จะเผยให้เห็นเงาร่างสูงใหญ่ เส้นผมและดวงตาสีดำสนิท อยู่ในชุดสีดำตลอดทั้งลำตัวยืนอยู่เบื้องหน้า

“ใครกันวะ” มันตะโกนหวังให้อีกฝ่ายถอยไป “บอกให้หลีกไปยังไงล่ะ”

“ไม่ได้หรอกครับ” จีโอกระซิบแผ่ว “เพราะผมรอคุณอยู่เหมือนกัน”

“อะไรนะ”

“เมื่อกี้คุณเข้าไปในคลินิก คิดจะไปทำการบางอย่างแต่น่าเสียดายที่ถูกขัดขวางนะครับ นายแพทย์ของที่นั่นไม่ใช่ที่ ๆ คุณจะเข้าไปแล้วได้กลับออกมาง่าย ๆ”

ชายผิวสองสีกัดฟันด้วยความโกรธแค้น หมอนี่เป็นใครกันดูท่าทางจะไม่ใช่คนธรรมดาซะแล้ว ชายตัวสูงสวมชุดดำตลอดทั้งลำตัวแถมพูดจายังกวนประสาท ดูแล้วน่าจะเป็นคนของแก็งค์ไหน แต่ที่แน่ ๆ มันรู้ว่าเขาเข้าไปในคลินิกแถมยังบอกอีกด้วยว่าน่าเสียดายที่นายแพทย์ไม่ต้องรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ

แปลว่าผู้ชายคนนี้รู้จักกับนายแพทย์คนนั้นงั้นสิ

“แกรู้จักกับไอ้หมอนั่นงั้นหรือ มันเป็นใครแล้วแกเกี่ยวข้องอะไรกับมัน”

“ไม่รู้สิครับ” เขายิ้มบาง ๆ “บางทีเรื่องบางอย่างก็ห้ามพูดเสียด้วย”

“แกจะเอายังไง” ชายผิวสองสีกัดฟันข่ม ลำพังแค่ตอนนี้เอาตัวรอดกลับไปทั้ง ๆ ที่ยังเจ็บแผลก็ยากพออยู่แล้ว แต่ไอ้การที่มีนักฆ่ามาอยู่ใกล้ ๆ อย่างนี้ด้วยแล้ว ตายแล้วเกิดใหม่ดีกว่า

“ผมคงปล่อยให้คุณกลับไปไม่ได้ นอกจาก...” จีโอหลุบตาลงต่ำ

ชายผิวสองสีหรี่ตามองเข้าไปในดวงตาสีดำขลับของอีกฝ่าย

“คุณจะบอกผมว่าต้องการอะไรจากคลินิกนั่น”

“หึ ๆ คิดหรือว่าฉันจะบอกแก”

“งั้นก็ช่วยไม่ได้ ผมคงต้องบังคับให้คุณพูดออกมาเอง”

ขาดคำชายผู้บาดเจ็บก็ชักมีดปลายแหลมออกมาจากกระเป๋าพุ่งเข้าใส่ชายดวงตาสีดำทันที เขาเพียงแต่หลบเล็กน้อยพร้อมทั้งยกมือขึ้นเป็นสันฟาดเข้าใส่สันข้อมือจนเขาทำมีดปลายแหลมหล่นลงพื้นดังสนั่น จากนั้นก็ดึงคอเสื้อเขามาด้านหลังก่อนเข่าที่กลางลำตัวของเขา ทำเอาชายผิวคล้ำถึงกับจุกเนื่องจากบาดแผลที่เพิ่งถูกซานโตรอัดที่กลางลำตัวยังไม่หายดี

“อั่ก !?”

จีโอใช้สันมือคว้าคอเสื้อศัตรูขึ้นมาแล้วใช้ปลายมือจ่อเข้าประชิดลำคอของอีกฝ่าย ปลายมีดอันแหลมคมส่งผลให้ชายผิวสองสีหน้าเข้มขึ้นทันที

“แก...”

“จะยอมพูดหรือไม่ยอมพูด” เขาหลุบตาลงต่ำ “ถ้าคุณไม่พูด รับรองว่าแผลที่ไหล่ซ้ายของคุณคงได้อาบเลือดเพราะรอยแผลมันฉีกขาดแน่”

“อ๊ากกก” มันร้องลั่นเมื่อจู่ ๆ มือมีดโกนก็จิกกดลงไปที่บริเวณแผล จนมันเลือดไหลท่วมมือ

“จะบอกดี ๆ หรือไม่ยอมบอก”

“ไม่มีทางหรอกโว้ย อ๊ากก” ชายผิวสองสีดิ้นราวกับจะถูกฆ่า เมื่อมือแข็งแกร่งกดลงบนบาดแผลจนมันทำท่าจะฉีกขาดออกจากกัน

“ท่าจะชอบความเจ็บปวดนะ”

“ไม่รู้...ฉันรู้แค่ว่าจะต้องพากลับไปให้ได้ แต่เรื่องอื่นไม่รู้อะไรเลย”

จีโอขย้ำปลายนิ้วลงบนแผล รู้สึกได้ถึงรอยเย็บที่กำลังจะฉีกขาดออกจากกันทำเอาชายผิวสองสีร้องลั่น

“อั่ก ไอ้ระยำ ฉันเจ็บนะโว้ย”

“เจ้านายแกให้ไปเอาตัวใครออกมา” ดวงตาของจีโอวาวโรจน์ “หวังว่าคงไม่ใช่นายแพทย์นะ”

“ไม่ใช่ ฉันหมายถึงผู้หญิง...เขาบอกว่าให้เอาออกมาให้ได้ ส่วนเหตุผลนั่นฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไ

จีโอหรี่ตามองชายผู้เคราะห์ร้ายเขม็ง

“แน่ใจแล้วหรือครับ” เขาถามย้ำ

“แน่..ฉันแน่ใจ”

ขาดคำจีโอก็ฟาดสันมือเข้าใส่ท้ายทอยชายผิวคล้ำ จนทำตาเหลือกทิ้งตัวลงกับพื้น ชายผู้มีดวงตาสีดำเช่นเดียวกับกับชุดมองตรงไปยังประตูคลินิกที่ปิดไฟลงทันที ชายผู้นี้ได้รับคำสั่งมาจากนายให้ออกมาลักพาตัวลูเซียนาออกจากคลินิก แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่ามีคนเฝ้าระวังอยู่ถึงสองราย งานนี้ดูเหมือนว่า...

ซานโตรจะเก็บเอาของที่น่าเป็นกังวลเข้าเสียแล้ว...


“เจ้านาย ผมเจอหมอนี่อยู่ประตูทางเข้า”

ชายตัวสูงสวมชุดสีดำเดินถือคอเสื้อของชายผิวสองสีที่ยังคงสลบเหมือดอยู่บริเวณประตู ชายหนุ่มที่ชำเลืองมองจากทางด้านหลังหรี่ตามองชายผู้เคราะห์ร้าย จะเก็บเอาไว้ใช้งานต่อก็ไร้ประโยชน์แต่เห็นทีจะฆ่าก็คงจะเร็วเกินไปหน่อย คาเมโอเหยียดยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินถือแก้วเหล้าเข้าไป แล้วสาดเข้าใส่หน้าของมันเต็มแรง

“ฮ่าห์ !? ผมไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จริง ๆ”

ชายผิวสองสีอ้าปากร้องลั่น ฉับพลันเมื่อลืมตาขึ้นมองก็พบว่าตัวเองอยู่ภายในห้องสีดำขนาดใหญ่ ภายในห้องมีลูกน้องมาเฟียอยู่หลายคนยืนค้ำกะลาหัวอยู่ ตรงกลางที่ด้านหน้าขอบเขากลับทำให้ชายผิวคล้ำถึงกับหนาวเยือกไปถึงสันหลังกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ

“ท่านคาเมโอ...”

“ว่ายังไง ไหนล่ะงานที่ฉันให้ไปทำ” คาเมโอยิ้มเล็กน้อย ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลเป็นประกาย

“เอ่อ คือผมพยายามเข้าไปแล้ว แต่ถูกนายแพทย์ข้างในขัดขวางเสียก่อน...ก็เลย”

“นายแพทย์หรือ น่าแปลกนะที่ฉันฝึกแกไว้ใช้งานแต่กลับไปแพ้ไอ้หมอไร้ฝีมือนั่น”

“ไม่ใช่นะครับ”

“แกมันโง่สิ้นดี เลี้ยงหมายังดีจะดีกว่าแกอีก”

ขาดคำคาเมโอก็ลุกขึ้น บรรดามาเฟียก็กรูเข้าล็อคแขนและขาของชายผู้เคราะห์ร้ายทันที เขาหน้าซีดเผือดรู้แน่ว่าชะตากรรมของเขาจะเป็นอย่างไร ขุมนรกยังนับว่าน้อยเกินไปที่เขาจะได้รับ ชายผิวคล้ำดิ้นรนพร้อมกับร้องตะโกนบ้าคลั่ง เป็นผลให้มาเฟียปล่อยมือ

“นังเด็กนั่น มันอยู่กับใครไม่รู้ ตอนแรกผมพยายามหนีมาแต่กลับต้องถูกมือสังหารลอบทำร้าย” มันตะโกน

คาเมโอเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“แค่ผู้หญิงตัวคนเดียว ยังมีใครที่ไหนมาช่วยมันอีก” เขาเอ่ยเสียงเรียบ

“แต่...มันเข้ามาขวางผมจริง ๆ”

“เอาตัวออกไป แล้วเอาไปถ่วงน้ำแล้วอย่าลืมเอาซีเมนถ่วงขามันให้จมทะเลด้วยล่ะ”

“ม่ายยย”

คาเมโอนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจรดริมฝีปาก ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของชายผู้เคราะห์ร้าย หยดน้ำสีอำพันไม่ได้ช่วยให้ภาพใบหน้าน่ารักเส้นผมยาวเป็นคลื่นจรดกลางหลังมีรอยยิ้มได้เลย ดวงตาดำขลับยังคงหมองหม่นไม่มีรอยยิ้มใดจะเทียบเคียงได้ คาโมโอหลับตาลง...เธอไปอยู่กับใครกันนะ คน ๆ นั้นดีพอที่เธอจะหนีหายไปจากฉันเพื่อให้มันช่วยคุ้มครองเรอะ

ไม่มีทางเสียหรอก

“ลูเซียนา...” คาโมโอถือแก้วเหล้าในมือขึ้นเงาสะท้อนของมันเปรียบเสมือนดวงตาดำขลับงดงาม “เธอจะหนีฉันไปไหน”

เขามองเห็นลูเซียนาที่สวนหลังบ้าน...นานแค่ไหนแล้วนะ

ตอนนั้นแม้เธอจะยังเด็กอายุแค่เจ็ดขวบ แต่ความงามของเธออาจเทียบได้กับนางฟ้าน้อย ๆ ใบหน้าที่น่ารักกับเส้นผมเป็นคลื่นยาวสลวย กับชุดกระโปรงลายดอกกุหลาบ ดวงตากลมโตกับเรียวปากน้อย ๆ ยิ้มให้กับเขา ที่ตอนนั้นเป็นแค่เด็กอายุสิบเอ็ดขวบ และนั่นเป็นสิ่งที่เขาเฝ้าบอกกับตัวเองว่าในโลกนี้ มีเพียงอย่างเดียวที่เขาต้องได้มานั่นคือลูเซียนาผู้มีรอยยิ้มและดวงตาพร่าพราย

ลูเซียนายิ้มให้กับเขา และตอนนั้นเขาก็เริ่มผูกพันเธอ

แต่น่าเสียดาย...ที่เด็กสาวเป็นได้แค่น้องสาว

เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่เกิดจากบิดาของเขากับมารดาอายุอ่อนกว่าแม่ เด็กสาวผมยาวสลวยมีดวงตากลมโตที่ยากจะลืมเลือน คาเมโอเป็นเด็กที่ยากจะยอมรับความจริงได้ รวมถึงการปฏิเสธว่าลูเซียนาไม่ได้มีดวงตาและเส้นผมเหมือนกันบิดา จนกระทั่งวันหนึ่ง...

เขาฆ่าแม่ของลูเซียนาในตอนอายุได้สิบสี่ปี

ลูเซียนากลายเป็นคนไม่ค่อยพูดจา จนเมื่อเขาอายุได้สิบเก้าปีตอนนั้นลูเซียนาอายุได้สิสิบห้าปี เป็นสาวสวยเริ่มจะเป็นผู้หญิงมากขึ้น ริมฝีปากบางระเรื่อกับดวงตากลมโตทำให้คาเมโอเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่ เขาลวงเธอเข้าไปในห้องพยายามจะปลุกปล้ำเธอ แต่เสียงร้องของลูเซียนาทำให้พ่อของเขาเปิดประตูเข้ามาเห็นเข้า

รอยแผลบนระหว่างคิ้วของเขาเกิดจากมือพ่อ

แล้วลูเซียนาก็หนีไปเรียนเมืองนอก และเธอก็กลับมาตอนที่พ่อเสียชีวิตที่ปลายปี

เขาจะไม่ยอมปล่อยเธออีกแล้ว ไม่มีวัน.
..
“ในเมื่อฟ้าลิขิตให้เราเกิดมาเป็นคู่ ก็อย่าหนีฉันเสียให้ยากเลย...” คาเมโอเหยียดยิ้มอำมหิต..


“หายไปไหนแล้ว”

เช้าวันต่อมา เมื่อลูเซียนาเดินลงมาที่ชั้นล่างกะจะมาใส่ยาให้คนเจ็บ แต่เขาก็หนีออกไปแล้วหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้ หญิงสาวเดินออกมาตรงระเบียงแล้วก็ออกไปที่หน้าต่างพบแต่ความว่างเปล่า ลูเซียนาหน้าซีดเผือดรีบวิ่งออกไปจากประตูห้องจนเกือบชนเข้ากับซานโตรเต็มแรง

“อุ้ย”

“ระวังหน่อยสิ จะเดินไปไหนมาไหนก็ให้ดูบ้าง” ซานโตรยกมือขึ้นคว้าไหล่บาง

“ซานโตร” หญิงสาวหน้าตาน่ารักร้อง “ในห้องนั้นไม่มีคนเจ็บนอนอยู่เลยค่ะ เขาอาจจะออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เห็นจะบอกเลย”

“เมื่อคืนน่ะ” เขาตอบเสียงเรียบ

“อะไรนะคะ”

“ตอนผมหันไปล้างมือทำความสะอาด หันกลับมาเขาก็ออกไปเลยน่าจะหน้าต่างบานนั้น” ซานโตรชี้นิ้วโป้งให้ดู ทำเอาลูเซียนากระพริบตาถี่ ๆ ใบหน้าหล่อเหลาเหยียดยิ้ม

“เป็นอะไร นึกเสียดายที่เขายังไม่ทันได้จ่ายค่ารักษารึ”

“เปล่า” ลูเซียนาอดเป็นกังวลไม่ได้ “ตอนที่เขาฟื้นขึ้นมา...เขาพยายามบอกอะไรคุณหรือเปล่าคะ”

“ไม่มีหรอก”

“อืม นั่นสินะ”

“คุณกลัวอะไร กลัวว่าเขาจะพูดอะไรไม่ดีกับคุณหรือ” จู่ ๆ คำตอบของซานโตรก็ทำให้เธอสะดุ้ง

“เปล่าค่ะ ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”

“ถึงผมอยากจะถามเขาจะไม่มีสิทธิที่จะตอบหรอก เล่นหนีออกไปตั้งแต่ผมไปล้างมือ คงไม่อยากจะพูดถึงมันอยู่ดี” ซานโตรทำท่าจะเดินออกไป ลูเซียนาหันไปมองตามก่อนจะเดินออกไปถาม

“คุณจะออกไปไหนคะ” เธอเอ่ย

“บังเอิญว่ามีธุระด่วน ต้องออกไปดูอาการลุงคนไข้โรคหัวใจกะทันหัน”

“โรคหัวใจ” ลูเซียนาร้อง “ทำไมเขาถึงไม่ยอมพาไปโรงพยาบาลกันล่ะ”

“ผมเองก็สงสัยอยู่” ซานโตรเหยียดยิ้ม “ผมไปก่อนนะ”

“เดี๋ยวค่ะ ให้ฉันไปด้วยคน”

ซานโตรขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่คิดว่าผู้ช่วยหมอคนใหม่จะรีบร้อนขนาดนี้ ชายหนุ่มหลุบตาลงต่ำ อันที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้บอกให้อยู่เฝ้าร้านแต่พอมาคิดดูอีกที การที่เธอจะไปเยี่ยนเยียนลุงผู้สูงอายุแถมยังเป็นโรคหัวใจโดยที่ยังไม่รู้อะไรเลยเป็นสิ่งดี เมื่อไปถึงเจอถึงยิ้มแย้มด้วยรอยยิ้มและดวงตาใสแจ๋ว พวกมันไม่หนีหายกันหมดหรือ

“เอ่อ...ไม่ดีกว่า คุณอยู่เฝ้าร้านดีกว่า เดี๋ยวผมกลับมา” ซานโตรสรุป

“วันนี้วันหยุด”

ซานโตรยกมือขึ้นกุมขมับ ให้ตายสิ...

“เอาเป็นว่าวันนี้ผมให้คุณทำความสะอาดเก็บอุปกรณ์ทุกชิ้นให้เรียบร้อย ไปได้แล้ว”

“แต่ฉันเก็บกวาดจนหมดแล้วนี่คะ” ลูเซียนาขมวดคิ้ว “หรือว่าที่คุณไม่อยากให้ฉันไป เพราะจะแอบหนีไปหาผู้หญิง”

“พอเลย ผมจะไปแล้วและห้ามคุณก่อเรื่องอีกล่ะ”

“ค่ะ”

ลูเซียนาเดินตามนายแพทย์เดินสู่ทางเดินริมสระน้ำ เดินลัดเลาะในยังร้านกาแฟแล้วร้านขายภาพริมถนน หญิงสาวเดินไปกับเขาโดยพยายามทำตัวให้เล็กที่สุด ซานโตรชำเลืองมองหญิงสาวหน้าตาน่ารักเส้นผมยาวสลวย ลูเซียนาอยู่ในชุดเสื้อคลุมสีเทารองเท้าหนัง เขาพาเธอมายังซอยเล็ก ๆ ริมสระน้ำ ข้างในเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่มีพื้นที่บริเวณกว้าง มีต้นสนขนาดใหญ่และมีเถาไม้เลื้อยขึ้นสู่กำแพง

อาณาบริเวณช่างกว้างใหญ่ ด้านหน้ามีรูปปั้นแกะสลักรูปเทพธิดากำลังก้มหน้ารินสระน้ำลงในหิน ด้านหน้าประตูมีรูปแกะสลักรูปสิงโต มองขึ้นไปยังคฤหาสน์กว่าสามชั้นทาสีขาวริมกำแพง ข้างหลังเป็นป่าใหญ่ที่ติดกับภูเขาสูง มองดูแล้วลูเซียนาก็วาดภาพราวกับอยู่ในห้วงฝัน

“นี่เป็นบ้านของคุณลุงเหรอคะ”

“ใช่”

“สวยจัง เหมือนกับบ้านในเทพนิยายแน่ะ”

ซานโตรเหยียดยิ้ม “เราเข้าไปในบ้านกันเถอะ”

ลูเซียนาตามหลังซานโตรเข้าไป ภายในบ้านสูงโปร่งมีเพดานกว้างจรดขอบสูง ในบ้านมีรูปภาพตกแต่งมากมายล้วนเป็นภาพศิลปะล้วนมองมาที่หญิงสาวที่มายืนอยู่ตรงด้านหน้าประตูสีขาว ในบ้านมีพ่อบ้านรูปร่างสูงสวมชุดขาวยืนอยู่ตรงระเบียง ภายในบนชั้นสองลูเซียนามองเห็นชายชุดดำยืนอยู่ในห้องจนเต็มและกำลังมองมาที่ลูเซียนาก่อนที่ประตูจะถูกปิดลง

“ยินดีต้อนรับครับคุณซานโตร” พ่อบ้านสูงวัยค้อมศีรษะ “คุณท่านกำลังรอคุณอยู่ที่ชั้นสอง”

“อืม”

“คุณลุงเป็นยังไงบ้างคะ โรคหัวใจค่อยยังชั่วหรือเปล่า”

พ่อบ้านสูงวัยเลิกคิ้ว ชำเลืองมองหน้าซานโตรเป็นเชิงถาม

“คุณหนูคนนี้คือ...”

“เธอชื่อลูเซียนา เป็นผู้ช่วยของฉันเอง”

“อ้อ”

“สวัสดีค่ะ ขอโทษที่ฉันวู่วามไปหน่อย แต่ซานโตรกับฉันมาที่นี่เพื่อดูอาการคนไข้คนป่วยโรคหัวใจยังอยู่ในอาการปกติใช่ไหมคะ” ลูเซียนามองตามเส้นผมสลวยจรดกลางหลัง พ่อบ้านสูงวัยยิ้มเล็กน้อยพลางชำเลืองมองซานโตรที่ยกหลังมือขึ้นกระแอมเบา ๆ

“เขายังคงสบายดี เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”

“นายท่านจะต้องดีใจแน่ ๆ ที่มีคนคอยห่วงใยอย่างนี้”

“ถ้าอย่างนั้นช่วยพาไปหาคุณลุงหน่อย” เธอทำท่าจะพูดต่อแต่พ่อบ้านสูงวัยเอ่ยขัดคอ

“หาไม่ได้ขอรับ นายท่านไม่ชอบข้องเกี่ยวกับใครนอกจากคุณซานโตร”

ลูเซียนากระพริบตาถี่ ๆ ซานโตรเห็นท่าไม่ดีจึงเอ่ยตรง ๆ

“ไปบอกคุณแองเจโลด้วย ว่าวันนี้ผมมีแขกมา”

“แต่ว่า..”

“ผมจะไม่ยอมขึ้นไป หากว่าลูเซียนาไม่ได้ไปด้วย” น้ำเสียงของเขาฟังดูเคร่งเครียด จนลูเซียนาอดไม่ได้ที่จะวางมือลงบนแขนเสื้อเขาเบา ๆ

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยู่ด้านล่างนี้ก็ได้” เธอยิ้ม

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันที

“อะไรนะ”

“คุณบอกเองไม่ใช่หรือว่า ความต้องการของคนไข้คือสิ่งที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอคะ”

ลูเซียนาเดินถอยหลังตรงไปยังประตูทางออก เดินลัดเลาะไปตามลำพังดูไม้เลื้อยที่ตรงประตูทางเข้า ซานโตรมองตามลูเซียนาแล้วก็ต้องถอนหายใจยาว เจ้าของดวงตาสีน้ำตาตวัดมองไปทางพ่อบ้านสูงวัย แววตาของเขาดูเย็นชาราวจะแผดเผาให้อีกฝ่ายเป็นจุณ จนกระทั่งพ่อบ้านสูงวัยต้องก้มหน้า

“คุณแองเจโลกำลังรอคุณอยู่”

“ระหว่างที่ฉันขึ้นไปเยี่ยมคุณแองเจโล ห้ามใครหน้าไหนทั้งนั้นไปยุ่งเกี่ยวกับเธอ”

“ครับคุณชาย”

ซานโตรเดินตรงดิ่งขึ้นไปยังชั้นสอง ที่ซึ่งเขาเดินไปถึงบรรดามาเฟียก็โค้งศีรษะเป็นเชิงยอมถอย ใบหน้าคมคายถอนหายใจยาว เปิดประตูฝั่งทองเหลืองเข้าไปมองดูบนกลางห้อง

ที่กลางเตียง มีชายไว้หนวดสีขาวและเส้นผมหงอกโพลนเหนือศีรษะกำลังมองมาด้วยสายตาเคร่งเครียด สวมชุดสีน้ำเงินลายมังกรที่กลางหลัง ชายผู้นี้คือแองเจโล ผู้ที่เป็นอับดับหัวหน้าใหญ่ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในอิตาลีตอนใต้ เวลานี้กาลเวลาได้ทำได้เซลล์เขาเสื่อมสภาพลงเต็มไปได้โรคภัยไข้เจ็บ แต่หากถามถึงความตายตรงหน้าแองเจโลไม่มีอะไรต้องกลัว หนวดเหนือริมฝีปากของเขาสะดิกเล็กน้อยเมื่อเห็นบุตรชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“มาแล้วเรอะ” แองเจโลหรี่ตามอง “ซานโตร”

ซานโตรเหยียดยิ้มเล็กน้อย ดูเหมือนว่าทางที่เขาเลือกเดินจะมีประโยชน์ก็คราวนี้

“อาการโรคหัวใจที่รุมเร้ายังไม่หายขาดล่ะสิ” เขาเอ่ยเบา ๆ

“ไม่ต้องมาพูดมาก สังขารมันแก่แล้วเป็นธรรมดาจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้” แองเจโลสูดลมหายใจลึก

“คิดได้อย่างนั้นก็ดี” ซานโตรนั่งลงบนเก้าอี้แล้วจับชีพจรดู แองเจโลหรี่ตามองบุตรชายที่หันไปเอาดีด้านหมอ ตอนนั้นเขาตัดขาดออกจากการเป็นพ่อลูก แต่มาจนถึงทุกวันนี้..

เขากลับได้ลูกชายตรวจดูการเต้นของหัวใจให้

....ยังมีอะไรน่าตลกกว่านี้ได้อีก

“เป็นอย่างไรบ้าง ชีพจรแย่ถึงขนาดไม่กล้าพูดเลยหรือ” แอลเจโลหัวเราะเบา ๆ

“เปล่า มันปกติดี”

“อะไรนะ นี่อุปกรณ์แกดีหรือเปล่า”

ซานโตรยกหูฟังออกเบา ๆ

“ที่เป็นปัญหาน่ะไม่ใช่อยู่ที่อุปกรณ์ แต่เป็นปัญหาตอนที่พ่อดีใจตอนที่เห็นหน้าผมต่างหาก”

แองเจโลหน้าซีดก่อนเปลี่ยนเป็นหน้าแดงจัด ที่พูดน่ะถูกอยู่หรอกอาการดีใจที่พ่อได้ยินหน้าลูกมันคงจะทำให้กระชุ่มกระชวยจนชีพจรเต้นเร็วขึ้น แต่ไม่ว่ายังไงการที่คนเป็นบุตรชายจะรู้งานดีอย่างนี้ยังนับว่าเลยเถิดเกินไปหน่อย แองเจโลยกมือขึ้นกระแอมเบา ๆ

“คงจะดีตอนที่ฉันเห็นหน้าแกเนี่ยแหละ”

ซานโตรเหยียดยิ้มเล็กน้อย

“ผมดีใจที่พ่อพูดอย่างนี้”

แองเจโลทอดสายตาอ่อนลง เขาไม่เคยเห็นเด็กหนุ่มที่แหกคอกด้วยการเป็นหมอมากเท่า ๆ กับเขาอีกแล้ว สมัยที่เขายังเป็นอำนาจล้นฟ้ารอยกระสุนนัดเดียวเขาก็สามารถเอาออกให้ใครได้ แต่ซานโตรกลับมองเห็นความแตกต่าง และความอิสระมากเท่า ๆ กับที่มันมอบให้กับคนอย่างเขา

เขาดีใจที่มีลูกเป็นหมอ

“แกโตขึ้นมากนะซานโตร เมื่อไหร่จะแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาสักที”

ซานโตรแทนสำลักกาแฟที่เขาดื่มอยู่ ไม่คิดว่าผู้เป็นบิดาจะยุ่งเรื่องส่วนตัวถึงขนาดนี้

“ก็กำลังดูอยู่ แต่ยังไม่เห็นใครถูกใจสักคน” เขายิ้ม

“แล้วนั่นล่ะ...” แองเจโลชำเลืองมองออกไปนอกหน้าต่าง “หญิงสาวผมยาวคนนั้นเป็นใครกันล่ะ”

ซานโตรมองตามด้วยหางตา พลางถอนหายใจยาว

“ลูเซียนา ผมบังเอิญพบตอนที่เขาจะกระโดดน้ำเลยช่วยเอาไว้ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ”

“งั้นหรือ” แองเจโลชำเลืองมองเด็กสาว หน้าตาของหล่อนดูคล้ายกับเคยเห็นที่ไหน “เห็นจีโอพูดว่าแกอยู่กับเขาสองต่อสองสินะ”

คิ้วขมวดเข้าหากันทันที

“แค่อยู่กันสองต่อสอง ไม่ได้มีอะไรเกินเลยสักหน่อย”

“แน่ใจหรือ”

“ผมแน่ใจ”

ซานโตรรู้สึกอยากจะหลีกเลี่ยงไปพูดเรื่องอื่น ความจริงแล้วเขาไม่ชอบพูดเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังโดยเฉพาะญาติผู้ใหญ่ที่มีสายตาเป็นเลิศในการมองผู้หญิง แองเจโลเหยียดยิ้มเล็กน้อยพลางมองดูซานโตรที่หันหน้าไปทางอื่น ดูแล้วหญิงสาวน่ารักคนนี้ก็มีบางอย่างทำให้เขาสนใจ

“ฉันรอแกอยู่นะซานโตร รอวันที่แกจะมาครองตำแหน่งรองจากฉัน” น้ำเสียงของแองเจโลต่ำลง นัยน์ตาเป็นประกายวูบไหว

ซานโตรนั่งนิ่งมีเพียงลมหายใจเท่านั้น ที่เป็นจังหวะว่าเขากำลังมีลมหายใจอยู่

“ฉันอายุก็ปูนนี้แล้ว ไม่มีทายาทคนไหนก็พอจะไว้ใจได้นอกจากแก”

“ผมเป็นหมอ เป็นนายแพทย์ที่ช่วยชีวิตคนอื่น”

“ฉันรู้ แต่มันก็ไม่ใช่สาเหตุที่แกจะไม่รับตำแหน่ง” แองเจโลเอ่ยปาก “สิบกว่าปีแล้วที่แกออกนอกเส้นทางมาเฟีย ลองใช้เวลาที่เหลือกลับไปคิดเรื่องตำแหน่งแล้วค่อยมาบอกฉัน”

ซานโตรเหยียดยิ้มฝ่ามือล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อ

“จะให้ผมตอบ ยินดีที่จะตอบเดี๋ยวนี้เลยก็ยังได้”

“ยังก่อน” แองเจโลเอ่ย “ยังไม่ใช่เวลานี้ ก็แกพร้อมจะเอาชีวิตแลกกับใครสักคน วันนั้นแหละจะเป็นวันที่แกเลือกรับตำแหน่ง”

ใบหน้าคมคายคิ้วขมวด ยังจะมีวันนั้นอีกหรือ

“หมายถึงอะไร”

“ฉันจะคอยดู ว่าแกยังจะปฏิเสธการรับตำแหน่งอีกไหม” แองเจโลซ่อนรอยยิ้ม ชำเลืองมองไปยังหญิงสาวเสื้อคลุมสีเทากับชายชุดดำเดินไปหาเธอช้า ๆ

“...แล้วนั่นใช่แขกพิเศษของเธอหรือเปล่า”

****************

“สวัสดีครับ ผมจีโอ” จีโอเหยียดยิ้ม “เป็นคนคุ้นกันของที่นี่”

ใบหน้าหล่อเหลาดูขาวสะอาด เส้นผมและดวงตาสีนิลของคนจีนผสมสายอิตาเลียนส่งผลให้จีโอดูดีเป็นพิเศษ ลูเซียนามองเห็นรูปร่างสูงแต่กลับเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างคนที่ชอบออกกำลังกาย หญิงสาวกระพริบตาถี่ ๆ มองดูเขายื่นมือออกมาเป็นการทักทายกัน

“จะไม่ทักทายกันหน่อยหรือครับ”

“เอ่อ ขอโทษค่ะ” ลูเซียนารีบจับมือทักทายพร้อมทั้งเอ่ยเบา ๆ “สวัสดีค่ะฉันชื่อลูเซียนา”

“ลูเซียนา...ชื่อเพราะดีนะครับ”

“ค่ะ” เธอยิ้มบาง ๆ

เธอนั่งอยู่ข้างลานหินที่มีรูปปั้นเทพธิดากำลังก้มหน้ารินสระน้ำลงในหิน รอบ ๆ บริเวณมีเถาไม้เขียวขจีดูราวกับจะแลดูผิวขาวนั่นให้ดูเด่นเป็นพิเศษ ลูเซียนาจ้องมองจีโอและรอยยิ้ม เส้นผมที่ตัดสั้นและดวงตาสีนิล ดูราวกับรูปสลักบนแท่นหินที่มีมีดำพาดผ่านมองเห็นเป็นภาพสลัว รอยยิ้มบนเรียวปากแลดูคลี่รอยยิ้มดูตัดกับสีเขียวของแมกไม้ได้เป็นอย่างดี ลูเซียนาก็รู้เหมือนว่ากำลังดูรูปสลัก

“มีอะไรหรือครับ”

“เปล่าค่ะ แค่กำลังคิดว่าคุณจีโอผิวขาวราวกับออกมาจากภาพวาดทีเดียว”

จีโอเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงประหลาดใจ ความจริงแล้วเขามักจะเมินเฉยกับคำว่าวิจารณ์คนอื่นมากกว่า

“ก็มักจะมีคนพูดอย่างนั้นบ่อย ๆ”

“ขอโทษนะคะ ฉันพูดตรง ๆ ไปหน่อย...หวังว่าคงไม่ถือสา”

“ไม่เป็นไรครับ” จีโอยิ้มบาง ๆ “ไม่ทราบว่าคุณมาเป็นผู้ช่วยซานโตรนานแค่ไหนแล้วครับ”

“เอ่อ....ไม่ถึงอาทิตย์ค่ะ”

“ขอโทษนะครับ ถ้าผมอยากรู้คุณจะช่วยบอกได้ไหม”

ลูเซียนาหน้าซีดก่อนจะกลับคืนสู่ปกติ จริง ๆ แล้วเธอไม่อยากจะพูดเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดมีคนสนใจขึ้นมาเธอเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะพูดยังไงดี

“อืม...มันก็เป็นแค่อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ” ลูเซียนาฝืนยิ้ม “เขาแค่ไปเจอฉันเข้า แล้วจึงชวนมาทำงานด้วย ตอนแรกฉันแทบไม่เชื่อเลยนะว่ามันจะกลายเป็นยังงี้ไปได้แต่พอมาคิด ๆ ดูอีกที ที่ซานโตรทำอย่างนั้นมันก็คงเป็นเพราะกลัวว่าฉันจะยังไม่เลิกคิดผิด ๆ”

จีโอยิ้มบาง ๆ ลูเซียนาเหลือบมองเล็กน้อย

“จะไม่ถามเหรอคะว่าคิดผิดเรื่องอะไร” เธอยิ้ม

“ผมคิดว่าคนเราทุกคนย่อมมีเรื่องที่ไม่อยากตอบ เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรถามมากเกินไป”

ใบหน้าน่ารักเส้นผมเป็นคลื่นสลวยยิ้มกว้าง นัยน์ตาของเธอนั้นอบอุ่นและอ่อนโยน

“คุณจีโอนี่ทำงานอยู่ที่นี่นานแล้วเหรอ”

“ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่พอคุณลุงไปหาหมอที่โรงพยาบาลล่ะคะ บางทีการไปหาหมอที่โรงพยาบาลมันอาจดีกว่าการที่มาหาหมอที่คลินิกก็ได้”

จีโอเหยียดยิ้มพลางจ้องมองขึ้นไปบนหน้าต่างชั้นสอง

“อะไรทำให้คุณคิดอย่างนั้นล่ะครับ”

“ทำไมล่ะ”

“ก็ถ้าหากว่าท่านไปหาหมอที่โรงพยาบาล แล้วถ้าหากอาการป่วยของท่านหนักลง ต้องเจอกับเครื่องช่วยหายใจ กับสายน้ำเกลือไปวัน ๆ คุณลูเซียนาคิดว่าคนป่วยจะเลือกอยู่ที่ไหนมากกว่าละครับ ทรัพย์สมบัติท่านก็มีแล้วสามารถยกอุปกรณ์มาไว้ในบ้านของตัวเอง มีเพียงอย่างเดียวที่ท่าน...เลือกที่จะอยู่ที่คฤหาสน์”

จีโอเหยียดยิ้มบาง ๆ

“เพื่อที่จะได้เจอกับคน ๆ นั้น”

ลูเซียนาถึงแม้จะไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เขาพูด แต่ทว่า...บางสิ่งบางอย่างก็ได้ทำให้เธอนึกถึงความสัมพันธ์ทางครอบครัว

คุณลุงคนนั้นมีบุตรหรือ

“ลุงคนนั้น....มีบุตรชายหรือว่าบุตรสาวคะ”

“ไม่ทราบสิครับ”

ลูเซียนาขมวดคิ้วรู้ได้ทันทีว่าคุณจีโอหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอบ แต่มันก็จริงที่คนเราทุกคนย่อมมีเรื่องที่ไม่อยากตอบ เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่ควรถามมากเกินไป

“ขี้โกงจัง” เธอบ่นเบา ๆ

จีโอหลุบตาลงต่ำแล้วเหยียดยิ้มบาง ๆ เส้นผมสีดำกับนัยน์ตาสีดำสนิท ตลอดทั้งลำตัวของเขาเป็นสีมืดยามราตรี มันทำให้เธอนึกถึง....บางอย่างขึ้นมา ลูเซียนามองเขาตั้งแต่ปลายเส้นผมจรดผิวกายที่ขาวสะอาด นี่อาจเป็นสิ่งที่เธอคิดไปเองก็ได้

“คุณจีโอนี่ดูคล้ายกับมาเฟียเลยนะคะ”

คำตอบของลูเซียนาทำเอาจีโอเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความตกใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีดำเช่นเดิม คำตอบอันแสนอ่อนโยนและอุบอุ่นของหญิงสาวไม่มีอะไรให้สงสัยว่าเธอจะรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่น่าเสียดายทีมันตรงจนแทบจะทำให้เขาหยัดยิ้มออกมาทันที

“งั้นหรือครับ อาจจะเป็นสีผิวกับสีดำที่ตัดกันไปมาก็ได้” จีโอยกมือขึ้นมองสีขาวของผิว

“ในอดีตฉันเคยเห็นมาเฟียคนหนึ่ง เขามีสีผิวและดวงตาคล้ายกับคุณเลย”

“จากที่ไหนล่ะครับ” ชายหนุ่มหลุบตาลงต่ำ

ดูเหมือนลูเซียนาจะหน้าซีดเผือดพยายามที่จะเลี่ยงที่จะพูดเรื่องนี้ เธอหันหน้าหนีไปมองที่อื่น หากทว่าแววตาของเธอกลับเป็นที่สนใจสายตาของจีโอเรียบร้อยแล้ว

“เปล่าค่ะ ฉันคงแค่จำคนผิด” เธอปฏิเสธ

“งั้นหรือครับ เป็นธรรมดาที่คนเราจะพลาดกันได้”

จีโอมองเธอด้วยนัยน์ตาคมปราบ ดวงตาของเขาแทบจะสะกดเธอให้กลายเป็นน้ำแข็ง แต่ลูเซียนาเอาแต่หันหน้าไปทางอื่นจึงไม่ล่วงรู้อะไร ชายหนุ่มชาวจีนและสายเลือดอิตาเลียนไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะมองเห็นคนทั่วไปตามท้องถนนที่เหมือนกันเขาได้ นอกจาก....

เธอจะมองเห็นมันจากมาเฟียด้วยกันเอง

“ลูเซียนา” เสียงทุ้มนุ่มจากทางด้านหลังทำให้ทั้งคู่หันกลับไปมองทันที

“ซานโตร” ลูเซียนายิ้มแย้ม หลังจากเห็นนายแพทย์ตัวสูงเดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าท่าทางบ่งบอกถึงความไม่พอใจ ดวงตาของเขาชำเลืองมองไปทางจีโอ ซึ่งชายหนุ่มชุดดำเองก็เหยียดยิ้มพอใจ

“เขามาพูดอะไรกับคุณหรือเปล่า” น้ำเสียงของเขาต่ำลึก

ลูเซียนามองใบหน้าเขาแล้วสั่นเบา ๆ

“ไม่นี่คะ” เธอเอ่ย

“เกี่ยวกับตัวผมล่ะ เขาได้พูดอะไรไหม”

“เขาไม่ได้พูดอะไรเลย ทำไมเหรอคะ”
ซานโตรระบายลมหายใจออกมาช้า ๆ ลูเซียนามองเขาอย่างแปลกใจ เมื่อกี้เธอเห็นจีโอยกมือขึ้นปิดปากพร้อมเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ ท่าทางคนคู่นี้อายุไล่เลี่ยกันแถมยังอารมณ์ดีเป็นพิเศษอีกด้วย

“คุณรู้จักกับคุณจีโอเหรอคะ”

“ก็เรื่อย ๆ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ” ซานโตรยกมือขึ้นกุมหน้าผาก พลางชำเลืองมองดูจีโอ “ส่วนมากผมก็จะชอบโดนแกล้งมากกว่า จริงหรือเปล่าจีโอ”

“ไม่ทราบครับ ผมไม่อยู่ในฐานะจะตอบได้ด้วย” จีโอน้อมศีรษะโดยมีมือรองอก “ผมไปก่อนนะครับ คุณลูเซียนา”

“ฝากสวัสดีคุณลุงด้วยนะคะ”

“ครับ ผมจะฝากบอกให้” จีโอเหยียดยิ้มก่อนเดินถอยห่างออกไปจากที่ตรงนั้น เหลือเพียงซานโตรและลูเซียนายืนกันตามลำพัง ซานโตรขมวดคิ้วหันมามองลูเซียนาก็กำลังโบกมือยิ้มแย้มให้กับจีโอ

“รู้สึกจะสนิทกันมากกว่าที่คิดอีกนะ”

“ก็คนรู้จักกันนี่คะ” เธอยิ้มแย้ม “แล้วคุณล่ะ เป็นยังไงบ้างอาการโรคหัวใจของคุณลุงดีขึ้นหรือยัง”

“อืม อีกไม่นานอาการก็จะดีขึ้น ถ้าหากว่ายังกินยาสม่ำเสมอ”

“ดีจัง แบบนี้คุณจีโอคงยินดีแน่ ๆ”

ยังไม่ทันพูดจบซานโตรก็ขมวดคิ้วคว้าข้อมือบางเดินตามไปติด ๆ ทำเอาใบหน้าน่ารักเส้นผมยาวเป็นคลื่นจรดกลางหลังร้องอุทานแล้ววิ่งตามไม่ห่าง ซานโตรใบหน้าเครียดขรึมเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงคอยไม่พอใจเวลาที่เห็นลูเซียนามีใจออกห่างจากเขา เขาไม่สนใจเสียงร้องและแรงมันที่ต้นแขนของหญิงสาว จนกระทั่งลูเซียนาอุทานออกมาเบา ๆ

“นี่ปล่อยสิ มันเจ็บนะ” เธอร้อง

ซานโตรจึงได้รู้ตัวปล่อยมือและเดินถอยห่างออกมา เขาหันหน้าไปมองลูเซียนาพร้อมทั้งขมวดคิ้ว

“ขอโทษ ผมอยากให้เราถึงคลินิกเร็ว ๆ เป็นอะไรหรือเปล่า” เขาพยายามเอามือไปรองแขนของเธอ แต่หญิงสาวกลับเอามือไปซ่อนไว้ด้านหลัง

“ไม่ต้องแล้ว การที่ต้องถูกจูงจนเจ็บ สู้ฉันเดินไปเองดีกว่า”

ลูเซียนาเดินสะบัดหน้าหนี เธอเดินตรงไปยังริมทางเดินริมถนน โดยมีซานโตรถอนหายใจยาวเดินตามไปด้วย ใบหน้าคมคายชำเลืองมองหน้าต่างชั้นสองของคฤหาสน์ มองเห็นหน้าแองเจโลยืนอยู่ภายในและกำลังจ้องมองมาอยู่ เขาถึงกับสูดลมหายใจลึกแล้วเดินตามลูเซียนาออกไป


...บนชั้นสองที่แองเจโลมองตามไปจนทั้งคู่กำลังจะหายไปจากสายตา

“คุณหนูคนนั้นเป็นยังไงบ้างล่ะ เป็นไปตามที่ฉันคาดไว้หรือเปล่า”

แองเจโลนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น ด้านหลังมีจีโอเดินตามมาด้วย ใบหน้าของเขามีริ้วรอยเย็นชาและปราศจากรอยยิ้มเหมือนกับเช่นตอนที่คุยกับลูเซียนา เขาก้มลงต่ำพลางเอ่ย

“น่าจะใช่ครับ ผมเห็นตอนที่ซานโตรเดินไปหาสายตาของเขามันบ่งบอกหลายอย่าง”

“ไอ้ลูกคนนี้...” แองเจโลหัวเราะน้อย ๆ

“คุณลูเซียนาฝากสวัสดีท่านด้วยนะครับ”

“งั้นหรือ” เขาเอ่ยเสียงเรียบ

“แล้วก็อีกอย่าง...” จีโอเอ่ยเสียงเรียบ “ผมรู้สึกว่าคุณลูเซียนาไม่ใช่คนธรรมดา เธอมองออกถึงริ้วรอยมาเฟียของผม และก็ยังพูดอีกว่าเคยเห็นคนที่มีลักษณะอย่างผมมาก่อน ตอนนั้นผมพยายามถามว่าเคยเห็นที่ไหนแต่เธอก็ไม่ตอบ”
แองเจโลชำเลืองมองหญิงสาวที่หันหน้ามาเพียงเล็กน้อย

“แล้วแกคิดว่ายังไง”

“ดูเธออาจจะมีบางอย่างเกี่ยวกับมาเฟีย แต่มีอดีตที่ไม่อยากจะเปิดเผยให้คนอื่นรู้”

ใบหน้าซ่อนริ้วรอยกับริมฝีปากเหยียดยิ้มน้อย ๆ หากนี่เป็นชะตาของซานโตรจริงสาวน้อยหน้าหวานนั้นก็คงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดกระมัง

“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ดี” แองเจโลเอ่ยเสียงเรียบ “เพราะอีกไม่นานหรอก....ที่ซานโตรมันจะอยากได้ตำแหน่งที่มันไม่ต้องการ”

*****************************
เอาตอนใหม่มาแล้วค่า
พระเอกเป็นแนวติส ๆ เซอร์ ๆ
เป็นหมออีกตะหาก >//<





เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ต.ค. 2555, 10:28:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ต.ค. 2555, 10:28:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 2518





<< ตอนที่ 4 ชายปริศนา   บทที่ 6 รอยจูบ >>
เบลินญา 17 ต.ค. 2555, 10:34:14 น.
ตอบเม้นท์ค่ะ
แว่นใส >>>> เจ้าเล่ห์ + ปากร้ายด้วยค่ะ

ใบบัวน่ารัก >>>> คนเขียนใจจะละลายแล้วค่า >//<



oikkw 17 ต.ค. 2555, 16:25:52 น.
อัพอีกเร็วน่ะค่ะ


เบลินญา 17 ต.ค. 2555, 16:44:55 น.
เพิ่งเขียนจบค่ะ เลยเอามาให้อ่าน




ใบบัวน่ารัก 17 ต.ค. 2555, 19:47:22 น.
แกล้งลูกอีกหละ ยัดเยียดจริง
เดี๋ยวก็เลือดสาดกันหรอก
เริ่มรักแล้วใช่ไหมคุณหมอ


เบลินญา 18 ต.ค. 2555, 10:18:23 น.
เริ่มรัก แต่เจ้าตัวกลับทำไม่รู้ซะงั้น


Zephyr 24 ต.ค. 2555, 23:06:23 น.
มาเฟียเนี่ยชอบมีคนแหกคอกนะคะ คิดแปลกๆประหลาดๆจากพี่น้องตัวเอง
แล้วก็รักเค้าแล้วแต่ทำมึนอ่ะ


แว่นใส 30 ต.ค. 2555, 14:53:12 น.
วางแผนจริง ๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account