ห้วงวิวาห์รักร้อย
เมื่อ มุกอันดา นางเอกสาวยอดนิยม มาตกหลุมรัก ตรัยคุณ หนุ่มใหญ่ที่มีศักดิ์เป็นอาของเพื่อน แถมยังมีคนวางแผนจ้องดิสเครดิต จนทำให้เธอและเขาได้แต่งงานกัน ความรักต่างวัยจึงเริ่มต้นขึ้น

http://www.facebook.com/pariyathorn?ref=hl
Tags: วิวาห์รักแสนหวาน ระหว่างหนุ่มใหญ่กับสาวน้อย

ตอน: ตอนที่ 3 นัดดูตัว (1)

ตอนที่ 3

“อะไรนะครับ ดูตัว?” ตรัยคุณถามกลับอย่างงงๆ หลังจากฟังแม่และพี่สะใภ้พูดจบ

“ใช่ลูก อายุอานามตรัยก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ทุกวันก็มัวแต่ทำงานแล้วจะมีเวลาที่ไหนไปมองใคร แม่เลยอยากให้ตรัยไปดูตัวกับผู้หญิงที่แม่เลือกไว้ให้ รับรองว่าสวยน่ารักตรงสเปคของตรัยทุกอย่าง” เพ็ญนภายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะพยักหน้าให้เกวลินหยิบนิตยสารที่สร้อยขิมทิ้งไว้ส่งให้ชายหนุ่มดู

แม้จะไม่เห็นด้วยแต่ตรัยคุณก็รับมาดู สาวน้อยบนหน้าปกนั้นเป็นดาราดัง ขนาดที่คนไม่สนใจวงการบันเทิงอย่างเขายังรู้จัก เพราะป้ายโฆษณาที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้มีอยู่หลายชิ้นและเห็นได้ทั่วไป

“มุกอันดา ยังเด็กอยู่เลยนะครับ”

“ปีนี้ยี่สิบสามแล้ว อายุเท่ากับขิมนั่นแหละคู่นี้เขาเป็นเพื่อนกัน นี่แม่ก็ให้ขิมไปคุยกับหนูมุกแล้ว ทางนั้นเขาไม่มีปัญหา แม่เลยนัดวันมะรืนนี้ให้ ส่วนสถานที่ตรัยจะเป็นคนเลือกเองก็ได้นะ”

ตรัยคุณฟังแม่ว่าแล้วอดหัวเราะไม่ได้ “นี่ตกลงแม่จะให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงที่อายุเท่ากับหลานสาวของตัวเองเหรอครับ ไม่เหมาะมั้งครับ ถ้านับแล้วก็ห่างกันตั้งรอบนึง ยังเด็กมากเลยในสายตาผม”

“ตรัยก็พูดเกินไป” เพ็ญนภาค่อนพลางตวัดค้อนลูกชาย “ถ้าอายุเท่าน้ำหวานก็ว่าไปอย่าง นี่บรรลุนิติภาวะแล้ว หนังสือหนังหาก็เรียนจบแล้ว แถมมีชื่อเสียงทางสังคม ไม่มีประวัติด่างพร้อย ที่สำคัญหนูมุกน่าจะตรงสเปคตรัยไม่ใช่เหรอ?”

“สเปคผม? แม่ไปรู้มาจากไหนล่ะครับ?”

“อ้าว ก็ตรัยชอบเด็กๆ ไม่ใช่เหรอลูก น้ำหวานบอกแม่เอง”

ตรัยคุณหัวเราะหนักกว่าเดิมอย่างเห็นเป็นเรื่องตลกที่สุด “โธ่ แม่ครับ น้ำหวานน่ะเพิ่งจะเจ็ดขวบเองนะครับ แม่จะเชื่ออะไรกับคำพูดเด็ก แกอาจจะพูดไปอย่างนั้นเองก็ได้ ผมไม่ได้มีสเปคอย่างที่ว่าหรอก”

“อ้าว แม่จะรู้ได้ยังไงก็เห็นตอนครูอร น้ำหวานเอามาเล่าแจ้วๆ ตรัยไม่เห็นว่าอะไร แม่ก็นึกว่าหลานต้องรู้ดีกว่าน่ะสิ แล้วครูอรคนนั้นก็ยังเด็กอยู่เหมือนกันไม่ใช่เรอะ?” เพ็ญนภาหลุดปากถามไปแล้วก็นึกเสียใจที่เผลอไปสะกิดแผลใจของลูกชายเข้า

รอยยิ้มบนใบหน้าชายหนุ่มจางลง หากเขาก็ยังฝืนยิ้มแล้วตอบไปว่า “ครูอรไม่เด็กแล้วล่ะครับ อายุมากกว่ามุกอันดาแน่ๆ แต่เธอเป็นคนรักเด็ก และผมก็ชอบที่เธอเอ็นดูน้ำหวาน ส่วนเรื่องดูตัวแม่ช่วยบอกขิมให้ยกเลิกไปที แล้วก็ฝากขอโทษมุกอันดาแทนผมด้วยนะครับ”

“ถึงงั้นก็เถอะ แม่ก็ไม่เห็นว่าหนูมุกจะมีข้อเสียตรงไหน กับแค่เด็กกว่าแต่ก็เป็นเด็กที่มีความคิดมีความรับผิดชอบนะ แม่ไม่ได้เลือกเด็กกะโปโลที่ไหนมาให้สักหน่อย”

“ก็เพราะผมแก่กว่าเขามากนี่แหละครับ ผมถึงแต่งงานกับมุกอันดาไม่ได้ ผมไม่อยากตายก่อนแล้วทิ้งเขาไว้คนเดียว”

เพ็ญนภางันไป เพราะสามีเธอก็ตายจากไปก่อนเช่นกัน “พูดอะไรอย่างนั้นต่อให้แต่งงานกับคนอายุเท่ากัน ก็ใช่ว่าจะได้ตายพร้อมกันเสียเมื่อไหร่ แม่อยากให้ตรัยแต่งงานมีครอบครัวจริงๆ นะ อยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอลูก บริษัทก็มั่นคงแล้วแม่ว่าตรัยหันมาดูแลเรื่องของตัวเองบ้างได้แล้วนะ”

“นั่นสิตรัย ถ้ายังไงลองไปเจอดูก่อน บางทีตรัยอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ” เกวลินช่วยแม่สามีพูดอีกแรง

“อย่าเลยครับ ถึงไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ผู้หญิงคนนี้อายุเท่ากับขิมเลยนะครับพี่ลิน แค่รู้ว่าเป็นเพื่อนของหลาน ผมก็คิดเป็นอื่นไม่ได้แล้วล่ะ ส่วนเรื่องแต่งงานไว้ผมจะลองมองๆ หาดูนะครับแม่”

“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ?”

“รับรองว่าแม่ได้ช่วยผมเลี้ยงหลานแน่ เอาล่ะวันนี้ผมเหนื่อยมาก ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ”

“เดี๋ยวตรัย บ้านเราไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันนานแล้ว มะรืนนี้แม่จองโต๊ะไว้ที่ร้านคุณเกสรตอนทุ่มหนึ่ง ตรัยอย่าลืมมานะลูก”

“ได้ครับ” ชายหนุ่มรับคำก่อนจะขอตัวขึ้นห้องไป

“เอ๊ะ มะรืนนี้เราจะไปทานข้าวข้างนอกกันเหรอคะ ทำไมลินไม่ยักรู้” เกวลินถามแม่สามีอย่างแปลกใจ

“ไม่ใช่เราหรอก ตรัยกับหนูมุกต่างหาก แม่ไม่ยอมให้ตรัยปฏิเสธง่ายๆ แบบนี้หรอก ยังไงแม่ก็ชอบหนูมุก อยากให้สองคนนี้ได้เจอกันสักครั้ง”

“อ้าว แล้วถ้าตรัยไปแล้วไม่เจอพวกเรา เขาอาจจะขอกลับเลยก็ได้นะคะ เพราะถือว่าตัวเองยกเลิกนัดไปแต่แรกแล้ว”

“แม่รู้จักลูกชายตัวเองดี ถึงจะรู้ทีหลังว่าแม่ให้ไปเจอใคร เขาก็คงไม่เสียมารยาทสะบัดหน้าออกจากร้านโดยไม่ทักทายหนูมุกสักคำหรอกน่า” เพ็ญนภาบอกอย่างมั่นใจในแผนการของตนเอง ก่อนจะโทร.ไปนัดสถานที่กับสร้อยขิม โดยไม่ปริปากให้รู้ว่ามีความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้น อย่างไรเธอก็อยากให้ตรัยคุณได้เจอกับมุกอันดาสักครั้ง การมีเด็กสาวน่ารักมาอยู่ด้วย อาจจะทำให้ชีวิตจืดชืดของลูกชายเธอมีสีสันขึ้น และเธอรู้ว่าคนที่หายใจเข้าออกเป็นงานอย่างตรัยคุณไม่มีทางหาเจ้าสาวเองได้แน่ เธอจึงต้องจัดการทุกอย่างเสียเอง



ลานเล็กๆ ด้านหลังเปียโนสีขาวถูกไขไม่กี่รอบเสียงดนตรีก็ดังขึ้น ตรัยคุณนิ่งฟังแม้จะจำได้จนขึ้นใจว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่อรกานต์เคยเล่นให้เขาฟัง และเขาก็ได้มารู้ทีหลังว่าเป็นเพลงที่เธอกับก้องภพแต่งด้วยกัน เพลงที่เขาไม่มีสิทธิ์แตะต้อง ทว่าก็ยังอดไม่ได้ที่ฟังอยู่ทุกวัน ชายหนุ่มถอนใจเมื่อเสียงเพลงนั้นจบลง เขาไม่ได้ไขลานเพื่อฟังซ้ำ แต่กลับเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเอาใจไปจดจ่ออยู่กับงานแทน



ชายหนุ่มละสายตาจากแฟ้มเอกสารตรงหน้า หันไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ก่อนจะกดรับสายเมื่อเห็นเป็นเบอร์ที่บ้าน

“ตรัย พี่ลินเองนะเย็นนี้ตรัยว่างไหม? พี่อยากให้ช่วยไปรับน้ำหวานแทนพี่หน่อย พอดีวันนี้มีแขกมาที่บ้านกำลังยุ่งเลย ตรัยสะดวกไหม?”

ตรัยคุณนิ่งคิด เขาไม่ได้ไปรับไปส่งหลานสาวที่โรงเรียนสอนดนตรีแห่งนั้นมาสักพักหนึ่งแล้ว ส่วนหนึ่งก็เพราะงาน แต่เหตุผลหลักคือเขายังไม่แน่ใจว่าตัวเองทำใจได้แล้วจริงๆ ที่สำคัญกว่านั้นคือเขาไม่อยากให้ใครเข้าใจผิด

“ได้ครับ เดี๋ยวผมไปรับให้เอง” เขาบอกก่อนจะวางสาย แล้วเลื่อนลิ้นชักหยิบบางสิ่งออกมามองอย่างลังเลใจ ก่อนจะตัดสินใจเอาติดตัวไปรับหลานสาวที่โรงเรียนด้วย



“อ้าว คุณตรัยสวัสดีค่ะ ไม่ได้พบกันนานเลยนะคะ” พนักงานสาวทักขึ้นอย่างคุ้นเคย “น้ำหวานยังไม่ออกมาเลยค่ะ คุณตรัยจะเข้าไปดูก็ได้นะคะ ตอนนี้น่าจะสอนเสร็จแล้ว”

“ขอบคุณครับ” ตรัยคุณตอบยิ้มๆ ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องสอนเปียโนอย่างรู้ทาง เปิดประตูเข้าไปก็เห็นหลานสาวกำลังเตรียมตัวจะกลับอยู่พอดี แต่ที่ทำให้เขาใจเต้นแรงขึ้นคือหญิงสาวที่หันมายิ้มให้

“สวัสดีค่ะคุณตรัย วันนี้มารับน้ำหวานเองเลยนะคะ” อรกานต์ทักอย่างดีใจที่ได้เห็นชายหนุ่ม หลังจากในงานแต่งงานแล้วเธอก็ไม่ได้พบเขาอีกเลย และลูกศิษย์ตัวน้อยของเธอก็ไม่พลาดที่จะเล่าให้ฟังว่า พักหลังมานี้เขาโหมทำงานหนักจนครอบครัวเป็นห่วง ทำให้เธออดรู้สึกผิดต่อเขาไม่ได้

“พอดีที่บ้านมีแขกมาน่ะครับ คุณแม่ของน้ำหวานเลยมาเองไม่ได้ คุณอรสบายดีนะครับ”

“สบายดีค่ะ แต่คุณตรัยผอมไปนะคะ ได้ยินว่างานยุ่งมากแต่ยังไงก็ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ” ยิ่งเขาเคยดีกับเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งเป็นห่วงเขาในฐานะเพื่อนมากเท่านั้น และยังไม่ทันจะได้คุยกันต่อ ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาเสียก่อน

“อรสอนเสร็จแล้วใช่ไหม เย็นนี้เราจะไปกินอะ...” ก้องภพค้างคำที่จะเอ่ยกับภรรยา เมื่อหันไปเห็นชายหนุ่มอีกคนหนึ่งอยู่ในห้องนั้นด้วย “อ้อ คุณตรัยมานี่เอง สวัสดีครับ” เขาทักพลางเดินไปยืนข้างภรรยา

“สวัสดีครับ ผมมารับน้ำหวานกำลังจะกลับพอดี ไปก่อนนะครับคุณอร” ตรัยคุณขอตัวเพราะรู้สึกได้โดยไม่ต้องมีใครบอก ว่าก้องภพกำลังหึงหวงภรรยา ไม่อยากให้เขามายุ่งวุ่นวายกับเธออีก

ทว่าเมื่อเดินออกมาได้หน่อย ชายหนุ่มก็นึกได้ว่าเขามีบัตรแสดงดนตรีอยู่สองใบ และตัวเองคงไม่ว่างไปดู จึงคิดจะเอามาให้เธอและสามีได้ไปดูด้วยกัน หากเสียงที่ลอดออกมาจากในห้อง ทำให้เขาไม่อาจผลักประตูเข้าไปได้

“เมื่อไหร่เธอจะเลิกหึงคุณตรัยซะทีนะ เขาไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” เสียงอรกานต์บ่นคล้ายอ่อนใจ

“ไม่ให้หึงได้ไง ฉันจำได้นะว่าเขาเคยชอบเธอแค่ไหน นี่ขนาดเธอแต่งงานแล้วยังไม่ยอมตัดใจอีก ผู้ชายด้วยกันน่ะมันดูกันออก”

“แล้วจะให้ทำยังไงเธอถึงจะวางใจสักทีเนี่ย”

“ให้เขาแต่งงานมีลูกมีเมียของตัวเองไปก่อนสิ ฉันถึงจะแน่ใจว่าเขาจะไม่มายุ่งกับเมียฉัน”

“คนดีๆ อย่างคุณตรัยต้องหาเจ้าสาวดีๆ ได้อยู่แล้วล่ะ”

“ให้มันจริงเถอะ จะได้เลิกใช้หลานเป็นข้ออ้างแล้วมาหาเธอสักที” ก้องภพบ่นอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเปิดประตูออกมาพร้อมภรรยาแล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นชายหนุ่มที่กำลังพูดถึงยืนอยู่หน้าห้องนี่เอง

“ผมมีบัตรคอนเสิร์ตอยู่สองใบก็เลยเอามาให้ครับ” ตรัยคุณบอกพลางยื่นบัตรในมือให้ หลังจากพากันเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะขอตัวกลับเพราะไม่อยากให้ใครต้องไม่สบายใจอีก

“อาตรัยคะ คุณย่าไม่สบายเหรอคะ?” น้ำหวานถามขึ้นขณะเดินจูงมือไปพร้อมกับคุณอา

“ทำไมคะคุณย่าเป็นอะไร?”

“ก็น้ำหวานได้ยินคุณย่าพูดกับแม่ว่า ถ้าไม่ได้เห็นอาตรัยแต่งงาน คุณย่าคงนอนตายตาไม่หลับ คุณย่าไม่สบายมากเหรอคะ?”

ชายหนุ่มงันไป “เปล่าหรอกค่ะ คุณย่าสบายดีไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวก่อนกลับเราไปกินไอติมกันดีไหม?” เขาลูบหัวหลานสาวเบาๆ ก่อนจะพาเด็กหญิงที่ตอบรับอย่างดีใจไปขึ้นรถ พร้อมแบกความหนักอึ้งให้ต้องถอนใจเป็นระยะไปตลอดทาง ด้วยความรู้สึกอึดอัดเหมือนหลายสิ่งกำลังบีบให้เขาต้องตัดสินใจ



สร้อยขิมมองเพื่อนที่วิ่งเข้าวิ่งออกเปลี่ยนชุดนั้นลองชุดนี้มาตั้งแต่เช้า จนกระทั่งเย็นเจ้าตัวถึงได้ชุดที่พอใจ เป็นเดรสตัวสวยสีชมพู แม้สีจะหวานแต่มุกอันดาก็พยายามเลือกแบบให้ดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุด ดวงหน้าที่บรรจงแต่งอยู่นานออกมานวลลออ เข้ากับผมที่เกล้าขึ้นอย่างลงตัว

“แกว่าฉันดูดีแล้วยังขิม?” คนที่กำลังจะไปดูตัวครั้งแรกถามพลางหมุนตัวให้เพื่อนดูอีกครั้ง

“เออ สวยแล้ว ถ้าอาตรัยเห็นแล้วไม่หลงให้มาโดดเหยียบฉันได้เลย” สร้อยขิมให้กำลังใจเพื่อนที่ตื่นเต้นจนปิดไม่อยู่ และดูจะมั่นใจขึ้นเมื่อได้คำชมจากเธอ

“โอเค งั้นฉันไปล่ะ ขอบใจนะขิม”

“เดี๋ยวมุก” สร้อยขิมรั้งเพื่อนไว้ “ถึงอาตรัยจะยอมตกลงไปดูตัว แต่แกเผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะ” สังหรณ์บางอย่างทำให้เธออดจะเตือนไม่ได้

“รู้น่า ขอแค่ให้ได้เจอกันสักครั้ง ต่อให้เขาปฏิเสธกลับมา ฉันก็จะไม่เสียใจหรอก แกสบายใจเถอะ” มุกอันดากอดแม่สื่อหนึ่งที ก่อนจะคว้ากระเป๋าและกุญแจรถก้าวออกจากห้องไป ไม่นานเธอก็ขับรถมาถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง แล้วขึ้นลิฟต์ตรงไปยังร้านอาหารที่นัดกับตรัยคุณไว้ทันที



แสงแดดด้านนอกอาคารบอกเวลาเย็นแล้ว หากชายหนุ่มที่ทำงานอยู่โดยไม่มีเวลาเลิกงานของตนเอง ยังคงง่วนอยู่กับแผนงานตรงหน้า พร้อมกับคุยโทรศัพท์ข้ามประเทศกับเพื่อนไปด้วย

“เรื่องถ่ายแบบไม่มีปัญหานะเคท ยกกองมาที่รีสอร์ตผมได้เลย แล้วผมจะให้เจ้าหน้าที่เขาเตรียมทุกอย่างไว้ให้” ตรัยคุณบอกกับเพื่อนสาวซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ และเขาได้รู้จักกับเธอตอนไปเรียนอยู่ต่างประเทศ ปัจจุบันเคทจัดเป็นนางแบบชื่อดังคนหนึ่ง และเธอมีความต้องการจะมาถ่ายแบบที่เมืองไทย จึงโทร.มาขอความช่วยเหลือจากเขา

ชายหนุ่มสนทนากับเพื่อนอีกครู่เดียว ก่อนจะวางสายลงเพื่อหันกลับไปทำงานต่อ เขากำลังรอให้เลขาฯ ติดต่อลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งเพิ่งเดินทางมาถึงประเทศไทย และหลายบริษัทต่างจับจ้องจะเจรจาธุรกิจด้วย แน่นอนว่าเขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

“คุณตรัยคะ เรียบร้อยแล้วค่ะทางมิสเตอร์ลีอนุญาตให้เราไปพบได้ที่โรงแรมตอนหนึ่งทุ่มค่ะ” หญิงสาวซึ่งเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของเขารีบเข้ามารายงานด้วยความยินดี หลังจากพยายามติดต่อมาตั้งแต่เมื่อวานนี้

“โอเคครับ คุณเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยแล้วกลับบ้านได้เลย” เขาตอบแล้วหันมาจัดการกับงานตรงหน้าต่อ พยายามหางานให้ตัวเองทำให้มากที่สุด เพื่อให้สมองไม่มีเวลาไปคิดถึงแผลที่ยังเจ็บหนึบเป็นพักๆ อยู่ในใจ และชายหนุ่มก็มีสมาธิกับงานตรงหน้า จนลืมนัดทานข้าวกับครอบครัวไปสนิทใจ



มุกอันดายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาอีกครั้ง และตอนนี้ก็เลยเวลานัดมาเกือบสามชั่วโมงแล้ว เธอนั่งอยู่ที่นี่นานจนแขกบางคนจำได้และเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย แม้จะหงุดหงิดคนที่มาช้า แต่เธอก็ยังยิ้มกับกล้องได้อย่างไม่มีปัญหา ก่อนจะรีบโทรศัพท์ไปหาสร้อยขิมให้ช่วยเช็คกับชายหนุ่มให้ เพราะเธอไม่มีเบอร์ของเขา ทว่าตรัยคุณกลับปิดมือถือจนสร้อยขิมเองก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน



ตรัยคุณลุกขึ้นยืนหลังการเจรจาธุรกิจเสร็จสิ้นลง เขาได้รับเชิญให้อยู่ทานมื้อค่ำกับลูกค้าต่อ ก่อนจะกลับมาที่รถด้วยความโล่งใจที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี กว่าจะมานึกถึงนัดกับที่บ้านได้ ก็เมื่อเหลือบไปเห็นตุ๊กตาของหลานสาวนอนกลิ้งอยู่เบาะหลัง เขารีบหยิบมือถือจะโทร.หาพี่ชาย ที่วันนี้ก็เจอกันที่ออฟฟิศแต่ไม่ยักเตือนเรื่องนัดทานข้าว แล้วก็ต้องถอนใจเมื่อแบตฯ ในเครื่องหมดเกลี้ยง แถมเขายังลืมสายชาร์จไว้ที่ออฟฟิศอีก

ชายหนุ่มมองเวลาและระยะทางแล้วคิดว่าตัวเองน่าจะไปทัน แม่ของเขากับคุณเกสรเจ้าของร้านสนิทสนมกันดี บางทีอาจจะอยู่ที่นั่นจนร้านปิดก็เป็นได้ จึงรีบขับรถตรงไปร้านอาหารให้เร็วที่สุด

จบตอนที่ 3



ปริยาธร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ต.ค. 2555, 21:08:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ต.ค. 2555, 15:10:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 3278





<< ตอนที่ 2 อุบัติเหตุเมื่อแรกพบ   ตอนที่ 4 นัดดูตัว (2) >>
ปริยาธร 23 ต.ค. 2555, 21:20:13 น.
ตอบเม้นต์ตอนที่ 2 จ้า

คุณgoldensun มุกขาดพ่อก็เลยรู้สึกว่าตรัยเป็นให้ตัวเองได้ทุกอย่างค่ะ แต่ชีวิตเธอคงไม่ลำบากเท่าไหร่ เพราะมีพระเอกเราคอยช่วยอยู่แล้วค่ะ

คุณgrazioso เรื่องนี้พระเอกเรายังแสนดีอยู่ค่ะ ต้องมาลุ้นกันว่าคู่นี้จะได้แต่งงานกันได้ยังไง ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ

คุณpimsaowaluck เรื่องนี้ออกแนวกุ๊กกิ๊กค่ะ แอบดรา่ม่านิดๆ ยังเขียนไม่จบเลยค่ะ ตอนนี้ที่เป็นอีบุ๊คมีแค่ soul mate อธิษฐานซ่อนรัก สนพ.อรุณ เรื่องเดียวค่ะ ส่วนเรื่องอื่นยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการผลิตอยู่เลยค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ^^

คุณปั้นฝัน ขอบคุณที่มาอ่านค่ะ กำลังลุ้นอยู่เลยว่านักอ่านที่อ่านตามรักในรอยใจ จะตามมาอ่านเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า เห็นคอมเม้นต์แล้วดีใจจังค่ะ

คุณpseudolife ดีใจที่ยังจำได้นะคะ ห่างจากเรื่องนั้นไปนานเหมือนกันเนอะ แต่ยังจำได้ว่าเรื่องนั้น คุณpseudolife ก็แวะมาอ่านและเป็นกำลังใจให้กันทุกตอน ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ

ขอบคุณนักอ่านเงาทุกท่านด้วยจ้า แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ


pseudolife 23 ต.ค. 2555, 22:14:03 น.
โอ๊ย สู้ๆ นะหนูมุก เดี๋ยวคุณตรัยจะรีบไปนะ


goldensun 24 ต.ค. 2555, 00:47:45 น.
นัดแรกก็กร่อยซะแล้ว ยิ่งรีบมาแล้าเจอมุกยังรออยู่ แทนที่จะเป็นแม่ ตรัยจะทำยังไงต่อ ลุ้น


pimsaowaluck 24 ต.ค. 2555, 08:51:50 น.
หาไม่เจอค่ะ ไม่ทราบขายที่แอปใหน พิมมีทุกแอปที่ขายอีบุ๊ค แต่หาเรื่องอธิษฐานซ่อนรัก ไม่เห็นจริงๆ


iamhappy 24 ต.ค. 2555, 18:07:59 น.
มุกเลยกลายเป็นแม่สายบัวเลย หวังว่าจะไม่ต้องคอยเก้อนะคะ


grazioso 24 ต.ค. 2555, 18:18:43 น.
โอยยยยยย อ่านแล้วสงสารคุณตรัยจังค่ะ พ่อเจ้าประคุณ คุณก้องภพก็เหลือเกิน ยังจะหึงอะไรกันเนี่ยยยย สงสาร(อดีต)พระรองบ้างเถอะ... TT___TT ลุ้นมากค่ะ อยากให้ได้แต่งกับหนูมุกไวไว อยากอ่านชีวิตวุ่นๆ หลังแต่งงานจะแย่แล้ว >///<


lookpud 24 ต.ค. 2555, 20:44:36 น.
น่าสงสารหนูมุก


nunoi 24 ต.ค. 2555, 23:21:48 น.
สงสารหนูมุก คุณตรัยรีบมาด่วน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account