ทัณฑ์รัก LUCIFER จะส่ง ส.น.พ
"กับสิ่งที่ฉันเสียไปเธอจะต้องชดใช้ให้กับฉัน3เท่า!"

หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มที่เมื่อตอนแรกเขานั้นเปรียบดั่งเทพบุตรไม่ว่าฐานะ หน้าตา การเอาอกเอาใจเธอ
แต่บัดนี้เขาเปรียบดั่งมารที่คอยขัดขวางตามล้างตามผลาญเธอ...

ทัณฑ์รัก LUCIFER

แนว มาเฟีย ที่เอาคืนถูกคน พระเอกทำตัวสมกับคนมีการศึกษา ไม่ปากจอปากจัดด่ากราดไปทั่ว ไม่ทำร้ายนางเอกด้วยคำพูด หรือทำร้ายร่างกายนางเอก ไม่มีการข่มขืน ฝืนใจ หรือ ตบจูบ มีแต่การยินยอมของทั้งสอง อ้อ นายเดเร็ค โผล่หน้าหล่อๆมาให้แม่ยกทั้งหลายได้ชื่นใจนิดๆหน่อยๆ ห้ามสาวๆทั้งหลายแต๊ะอั้งนายนี่เด็ดขาด ดูได้เท่านั้น

http://writer.dek-d.com/LiLFae/story/view.php?id=569156

นําเนอ img ตัวละคร

ลูซิเฟอร์ ลูชาโน โรมัน กรีมัลดิ
Lucifer Luciano Roman Grimaldi

เขา มาเฟีย ตัวจริงเสียงจริง ในวัย30+
ลูกครึ่งอิตาลี่-โคลัมเบีย และลูกเสี้ยวไทย
เมื่อต้องเสียแม่ของลูกและลูกไปเพราะ
คุณหนูลูกสาววัยรุ่นของผู้มีอิทธืผลของเมืองไทย
การเอาคืนจึงเกิดขึ้น
มันผู้ใดที่พรากของ ของเขาไปมันผู้นั้นต้องชดใช้ให้สาสม
"ตาต่อตา ฟันต่อฟัน"
มันไม่ไช่เหตุบังเอิญหรอกที่ ลูซิเฟอร์ คือชื่อแรกที่พ่อตั้งให้


มินนี่ เหมือนฝัน บริรักษ์

เธอ คุณหนู ที่วันหนึ่งโดนคนทั้งเมืองประนาม
ครอบครัวจึงตัดหางปล่อยวัดและเนรเทศให้ไปอยู่
ต่างประเทศ เพราะความผิดที่ทําให้หลายชีวิตดับสิ้น

เธอคือคุณหนูตกอับ ที่ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่ก้าวแรก
ที่เดินพลาด ลูซิเฟอร์ ตัวพ่อ ได้เป็นเงามืดตามติด
ก่อกวนชีวิตของเธอ ทั้งๆที่เธอสํานึกผิดและพยายาม
ที่จะดําเนินชีวิตให้ถูกต้อง แต่เหมือน ลูซิเฟอร์ไม่เป็นใจ
กลั่นแกล้งเธอทุกวิถีทาง!
หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เขาเสียไปเธอจะต้องชดใช้เกินร้อย!!

ทําให้ชีวิตของเธอ เหมือนฝัน ร้าย ที่ไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อใด
Tags: มาเฟีย Lucifer, หวาน, ซึ้ง, โหด, หี่น, เอาคืนถูกคน, รักเดียวใจเดียว ไม่โลเล, พระเอกทำตัวสมกับคนมีการศึกษา ไม่ปากจอปากจัดด่ากราดไปทั่ว ไม่ทำร้ายนางเอกด้วยคำพูด หรือทำร้ายร่างกายนางเอก ไม่มีการข่มขืน ฝ

ตอน: Ch. 1 + Ch. 2 Sweet Sixteen วันที่ก้าวผิด บาปและหายนะ กลายเป็นเงาตามติด

Ch. 1 + Ch. 2 Sweet Sixteen วันที่ก้าวผิด บาปและหายนะ กลายเป็นเงาตามติด


วันศุกส์ เวลา 21:10 นาฬิกา ที่คลับใต้ดิน ณ มุมหนึ่งของ เมืองเอลเอ รัฐคาลิเฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ

“เฮ้ย มินนี่ ไม่ลองยานี้สักหน่อยเหรอ? รับรองมันจะทำให้เธอหมดทุกข์หมดโศก มีความสุขอย่างหลุดโลก” หนึ่งในกลุ่มเพื่อนสี่คนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กยื่นมือที่มียาเม็ดเล็กสีขาวสองเม็ดวางอยู่ที่ฝ่ามือมาให้

“ไม่อะ” ปฏิเสธเสียงแข็ง “ดริ้งสักหน่อยไหม แก้คอแห้ง?” เพื่อนผู้หวังดียังคงเชื้อเชิญ

“อ๊ะ บ้าดิแล้วฉันจะขับรถพาพวกเธอสี่คนไปส่งที่คอนโดของยายกี้ได้ยังไง? สรุปแล้วที่โทรไปอ้อนวอนให้มารับนี่ จริงๆแล้วพวกเธอต้องการให้มาดื่มมาเสพเป็นเพื่อนใช่ไหม?”

“เออดิ” เหมือนฝัน บริรักษ์ คุณหนูผู้ถือพาสปอร์ตสองสัญชาติที่เพิ่งอายุครบสิบหกมาหมาดๆส่ายหัวเบ้ปากอย่างเซ็งกับคำตอบที่ได้รับ นึกแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้

“’งั้นฉันกลับละ พวกเธอก็เพลาๆหน่อยนะ อย่าดื่มและเสพมากจนเกินไปละ จะกลับเมื่อไหร่ก็โทรเรียกพี่หวานให้มารับนะ อย่าโทรเรียกแท็กซี่ละเรากลัวว่ามันจะไม่ปลอดภัยเท่าที่ควร” เหมือนฝันยังอดห่วงเหล่าผองเพื่อนที่มาจากครอบครัวที่ ’อบอุ่น’ จนร้อนระอุและถูกเลี้ยงมาด้วยวัตถุและเงินตรามากกว่าความรักและความใกล้ชิดจากพ่อแม่ ที่มัวแต่ยุ่งอยู่กับการหาเงินและสังคมสงเคราะห์ปล่อยให้ลูกโตมากับแนนนี่ โทรทัศน์และคอมพิวเตอร์

“อ้าย ยัยมินนี่แกจะรีบไปไหนนี่มันวันศุกร์นะแก รีแล็กซ์และมาชิลกับพวกฉันก่อนดิ” เพื่อนอีกคนยังพยายามที่จะดึงตัวสาวน้อยเอาไว้

“ไม่อะ ต้องรีบกลับบ้านเอารถไปคืนพี่เซ็ธก่อนสี่ทุ่ม เพราะพี่เขาจะไปรับเพื่อนที่สนามบินเอลเอเอ็กซ์” ความจริงแล้วเหมือนฝันโดนพี่ชายทำโทษที่กลับบ้านผิดเวลาเมื่อเดือนที่แล้ว โดยปกติแล้ววันศุกร์และวันเสาร์สาวน้อยจะต้องถึงบ้านสี่ทุ่มครึ่ง แต่เด็กสาวกลับช้ายี่สิบนาทีทำให้ถูกพี่ชายทำโทษด้วยการยืดเวลาที่จะซื้อรถให้หัดขับอย่างเป็นทางการเมื่อตอนอายุครบสิบหกปีเป็นอายุสิบเจ็ดปีจึงจะออกรถให้ และสาวน้อยก็ยังโดนทำโทษให้กลับถึงบ้านทุกวันสามทุ่มตรงจนกว่าจะอายุสิบเจ็ด


“ยะจะไปไหนก็ไปซะ ไรวะมาไม่ถึงสิบนาทีจะรีบกลับแล้ว แต่ถ้าเกิดเปลี่ยนใจจะกลับมาจอยก็อย่าลืมเอาอะไรติดไม้ติดมือมาด้วยละ” อีกคนกำชับปนบ่นเล็กน้อย

เหมือนฝันหยิบแก้วน้ำแครนเบอร์รี่ (cranberry juice) มาดื่มพลางกวาดตามองเพื่อนแต่ละคนที่อายุไล่ๆกันแต่ก็ไม่เกินสิบแปดหรือต่ำกว่าสิบหก แต่ละคนอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นอยากทดลองอยากรีบโตเป็นผู้ใหญ่เพื่อนกลุ่มนี้ของเธอชอบเที่ยวและชอบลองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆและตอนนี้กำลังเริ่มลองยาชนิดต่างๆกัน เรื่องดื่มนี่เธอพอหลับหูหลับตาทำเป็นไม่สนใจได้แต่เรื่องยาเสพติดนี่โดยส่วนตัวแล้วเธอไม่ชอบเอาซะเลย เห็นทีจะต้องหากลุ่มเพื่อนใหม่ที่ไม่เล่นยาและไม่ดื่ม ไม่งั้นการเรียนอาจจะตกต่ำและอาจจะทำให้เข้ามหาลัยวิทยาลัยในฝันอย่างสแตนด์ฟอร์ดหรือฮาร์วาร์ดไม่ได้ งานนี้สงสัยคงต้องคบกับกลุ่มเพื่อนของตะเกียงดาวและเลิกคบกับเพื่อนกลุ่มนี้ซะแล้ว

“อูย ทำไมบูทเรามันถึงหมุนได้อะ? พวกเธอรู้สึกไหมอะ?” กี้หนึ่งในแก็งนั่งโยกไปโยกมาถามเพื่อนสาวรอบข้าง

“แหมหล่อน เมาแล้วยังไม่รู้ตัวอีก กลับบ้านไปได้เลยไม่ต้องอยู่ต่อพวกฉันไม่มีเวลามาคอยดูแลคนเมาหรอกยะ”

“นั้นดิ กลับพร้อมมินนี่เลยแกเดี๋ยวพวกฉันจะไปดิ้นกลางฟลอร์กัน ถ้าขืนแกอยู่ตรงนี้เดี๋ยวโดนใครไม่รู้มาลากไปปู้ยี้ปู้ยำแล้วจะแย่”

“เออใช่ เดี๋ยวโดนลากไปรุ่มโทรมข่มขืน ท้องป่อง ติดโรคขึ้นมาจะแย่นะแก” อีกคนสมทบซะจนเห็นภาพทำให้สาวน้อยหลายคนเริ่มทบทวนว่าตัวเองดื่มกันไปแล้วกี่แก้วกี่ขวดและเริ่มสำรวจอาการว่าเมาไม่เมา เพราะคืนนี้ยังอีกยาวไกลแต่ละคนก็ยังไม่อยากเมาตั้งแต่หัวค่ำ

“กรี้ด!! พวกแกมาแช่งฉันทำไมยะ? เชอะยังไงฉันก็ยังดีกว่ายัยสาที่คิดจะกินยานั้น ไอ้ยานั้นมันยิ่งกว่าจะทำให้เมานะยะและถ้าเกิดคืนนี้ตำรวจบุกแล้วโดนจับได้ ติดคุกอย่างน้อยหนึ่งคืนนะขอเตือนไว้ก่อน ปะมินนี่เราไปกันเถอะ” สาวกี้ฮึดฮัดใส่กลุ่มเพื่อนสาวทั้งหลาย ร่างบางลุกขึ้นยืนอย่างโงนเงน เหมือนฝันเข้าไปประคองเพื่อนออกจากผับอย่างรีบร้อน

เมื่อสองสาวเข้ามานั่งอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว เพื่อนสาวนามกี้ก็บอกให้เหมือนฝันโทรหาพี่หวานซึ่งหารายได้พิเศษด้วยการเป็นแท็กซี่ดำให้โทรหาเพื่อนๆในกลุ่มคอนเพิรม์การไปรับส่งและให้รอสแตนด์บายรอโทรศัพท์จากกลุ่มเพื่อนๆให้ไปรับ เพราะเมื่อยืนยันกับพี่หวานแล้วเพื่อนๆจะไม่แยกกลุ่มกันแต่จะเกาะกลุ่มกลับพร้อมกัน เพราะถ้ายืนยันว่าจะให้พี่หวานมารับและไปส่งที่บ้านทุกอย่างก็โอเคแต่ถ้าผิดคำกับพี่หวานละก็เป็นเรื่องแน่เพราะพี่หวานจะโทรหาทางบ้านทันทีเลยไม่มีวัยรุ่นไหนกล้าผิดนัดรับส่งกับพี่หวาน

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

รถเล็กซัสสีขาวรุ่นRX450ไฮบริด วิ่งบนถนนด้วยความเร็วที่เกินกำหนดของถนนฟรีเวย์อย่างเร่งรีบเพื่อที่จะไปให้ถึงบ้านเร็วๆก่อนที่พี่ชายจะกลับเข้าบ้านเวลาสี่ทุ่มตรง แต่ดูเวลาแล้วถ้าเธอจะไปส่งเพื่อนสาวที่คอนโดคงกลับบ้านไม่ทันเวลาที่พี่ชายจะกลับมาบ้านแน่นอน แล้วการที่เธอเอารถออกมาใช้โดยไม่ได้ขออนุญาตพี่ก่อนคงไม่พ้นถูกลงโทษอีกแน่ แล้วไหนเธอจะขับมาคนเดียวโดยที่ยังไม่มีใบขับขี่ และไม่มีคนที่มีใบขับขี่นั่งคู่เป็นโค้ช์มาด้วย ความผิดข้อนี้หนักกว่าความผิดที่เธอเคยทำมา งานนี้ถ้าถูกจับได้พี่ชายคงลงโทษเธออย่างหนักแน่นอน แค่คิดก็หนาวแล้วแต่ทำไงได้เพื่อนๆขอร้องและอ้อนวอนให้ช่วยไปรับกลับไปส่งที่บ้านของสาแทนเพราะดูท่าแล้วที่คลับคืนนี้คงไม่สนุก ในกลุ่มมีเธอคนเดียวที่ขับรถเป็นตั้งแต่อายุสิบสี่จึงไม่แปลกที่โชเฟอร์ของกลุ่มจะเป็นเธอ เหมือนฝันพยายามปฎิเสธแต่สุดท้ายเธอก็ใจอ่อนออกไปรับเพราะความเป็นห่วงเพื่อนๆ ถึงแม้ว่ามันจะเสี่ยงสำหรับเธอแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็ขอยอมเสี่ยง เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอออกไปรับเพื่อนๆจากคลับต่างๆและสาวน้อยไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับตัวเองและกลุ่มเพื่อน แต่ขณะนี้เธอรู้สึกใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก

“นี่กี้ เราไปส่งตัวที่คอนโดไม่ทันแน่เลยคืนนี้ตัวค้างที่บ้านเรานะ”

“จะยากอะไรตัวก็เหยียบเพิ่มขึ้นดิแล้วก็ซิกแซ็กสะหน่อยเดี๋ยวเดียวก็ถึงแล้ว”

“โหนี้เราเหยียบเกินมากแล้วนะ ดูแล้วยังไงก็ไม่ทันแน่เลย ตัวค้างที่บ้านเราเหอะ”

เพราะการละสายตาจากถนนฟรีเวย์และขาดสมาธิไปแค่ชั่วอึดใจทำให้เหมือนฝันไม่ทันเห็นรถมีนี่แวนที่อยู่ตรงหน้าทางขวามือตีไฟเข้ามาที่เลนของตัวเองที่อยู่เลนซ้ายสุด และด้วยความเร็วสูงที่ขับเกินกำหนดทำให้ด้านหน้าของรถชนท้ายของรถมีนี่แวนอย่างแรง ทำให้รถมีนี่แวนหมุนกระเด็นกลับเข้าไปเลนเดิม และชนเข้ากับรถที่กำลังวิ่งมากระแทกเข้ากับขอบปูนอย่างแรง ส่วนเหมือนฝันด้วยความตกใจทำให้เหยียบเบรคอย่างแรงและขณะเดียวกันรถพอร์ชสีแดงเพลิงที่วิ่งมาข้างหลังด้วความเร็วสูงกว่าเกินกำหนด ก็ชนรถเล็กซัสสีขาวของพี่ชายเหมือนฝันก็ที่ข้างหลังอย่างจังทำให้รถสองคันหมุนกันไปคนละทิศละทาง

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

หลังจากเสียงเหล็กปะทะกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหวหลายครั้งติดๆกันก็มีแต่เสียงเงียบที่บริเวณเกิดเหตุ ก่อนที่จะมีเสียงครางโอดโอยจากผู้ประสบอุบัติเหตุที่ยังไม่ได้หมดสติ
เหมือนฝันนั่งตัวแข็งทื่อหน้าซีดด้วยความช็อกสองมือยังคงกำพวงมาลัยแน่น ผ่านไปครู่หนึ่งสาวน้อยถึงได้สติและนึกได้ว่ามีเพื่อนนั่งรถมาด้วยจึงรีบหันไปดูเห็นเพื่อนนั่งนิ่งคอพับไม่ไหวติง

“กี้ตื่นเร็วกี้” ทั้งส่งเสียงเรียกอย่างดังทั้งเอื้อมมือไปขยั่วตัวเพื่องสาวอย่างแรง

“กี้เร็วตื่นๆเราต้องรีบออกจากรถ” เหมือนฝันเรียกเพื่อนอีกครั้งก่อนที่จะเปิดประตูรถออกไปและรีบเดินไปเปิดประตูรถฝั่งผู้โดยสารและพยายามเอาตัวเพื่อนออกมาจากรถอย่างทุลักทุเล ปากก็ส่งเสียงเรียกเพื่อนอยู่ตลอดเวลา เหมือนฝันลากเพื่อนออกมาจากรถได้ไม่ไกลนักเสียงระเบิดของถังน้ำมันจากรถที่โดนรถมีนี่แวนชนอัดอยู่ที่ขอบปูนก็ดังขึ้นและการระเบิดแบบลูกโซ่ก็เกิดขึ้นกับรถสามคันที่เหลือ แรงระเบิดส่งผลให้เหมือนฝันและเพื่อนล้มศีรษะกระแทกถนนหมดสติไป

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ขณะเดียวกันที่ ประเทศโคลัมเบีย

ร่างหนาใหญ่ที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ก็มีอันสะดุ้ง เปลือกตาที่ปิดบังดวงสีฟ้าก็เปิดขึ้นพร้อมกับอาการใจหายวาบก็เกิดขึ้นแว็บหนึ่งกับเจ้าของร่างทำให้ชายหนุ่มสังหรณ์ใจว่าคงมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นเป็นแน่ แต่จะเป็นใครนั้นพรุ่งนี้น่าจะรู้แน่ชัด ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งสมาธิต่อจนกว่าจะครบเวลาสองชั่วโมงที่ได้ตั้งใจไว้ คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ปล่อยวางทุกสิ่งทำใจให้ว่างและกำหนดสติตามลมหายใจเข้าออก ไม่นานจิตก็สงบได้ที่เป็นสมาธิ ตัวเบาสบาย จิตใจแช่มชื่น เป็นสุข ปัญหาที่ขบคิดตอนกลางวันที่ยังหาทางแก้ไม่ได้พลันวิธีแก้ปัญหาก็ปรากฎขึ้นในสมอง
สองชั่วโมงถัดมาร่างขนาดยักษ์ใหญ่ก็เดินออกมาจากห้องสมาธิ เห็นเลขาผู้ควบตำแหน่งบอดีการด์นั่งอ่านเอกสารออยู่ที่โต๊ะใกล้หน้าต่างไม่ไกลจากประตูห้อง

“มีอะไรคาร์โลส? หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“ครับคุณลูซิเฟอร์ เมื่อเกือบสามชั่วโมงที่ผ่านมา มิส นาตาลี เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เอลเอครับผม รายละเอียดต่างๆไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือผู้ร่วมอุบัติเหตุในครั้งนี้ คนของเราและนักสืบกำลังรวบรวมกันอยู่ครับ” สิ่งที่ได้ยินจากปากเลขาทำให้ผู้เป็นเจ้านายขมวดคิ้ว

“ครอบครัวของเธอรู้ข่าวหรือยัง?”

“ผมแจ้งให้ทราบเรียบร้อยแล้วครับและบอกไปแล้วว่าทางเราจะรับผิดชอบงานศพ ให้คอยอยู่ที่นี่เราจะเดินทางไปเอลเอและจัดการทุกอย่างเอง”

“ดีมาก เครื่องเจ็ทพร้อมบินแล้วใช่ไหม?”

“ครับ คุณลูซิเฟอร์พร้อมเมื่อไหร่ก็บินได้ทันทีครับนักบินและทีมรออยู่บนเครื่องเรียบร้อยแล้วครับ”

“อีกสิบนาทีให้รถมารับได้เลยคาร์โลส”

“ครับ”

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

บ่ายวันต่อมาที่ห้องทำงานในคฤหาสน์กรีมาลดี เมืองเอลเอ

ลูซิเฟอร์ ลูชาโน โรมัน กรีมัลดิ มาเฟียผู้มีอิธิพลแผ่ขยายไปทั่วอเมริกาใต้และสหรัฐอเมริกาวางไอเพดที่จุไปด้วยข้อมูลและวีดีโอของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนฟรีเวย์เมื่อค่ำวานนี้และข้อมูลของคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดลงบนโต๊ะอย่างแรงโดยไม่สนใจว่ามันจะพังหรือไม่ ดวงตาสีฟ้าแปล่งประกาย ใบหน้าหล่อคมเข้มที่มีเคราหนวดบางขึ้นเป็นกรอบครึ่งหน้า กำลังหน้าบึ้งตึง กระแสแห่งความโกรธกร้าวแผ่ออกมาจากร่างหนาใหญ่ที่มีความสูงถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบห้าเซ็นติเมตร ลูกบอลพลาสติกขนาดพอมือที่วางบนโต๊ะทำงานถูกมือใหญ่หยิบมาบีบอย่างเร็วและแรงพร้อมกับลมหายใจที่ถูกบังคับให้เข้าออกอย่างช้าๆ เวลาสักครู่ผ่านไปริมฝีปากสวยจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยายามข่มให้เรียบสงบ

“คาร์โลส หาข้อมูลของยัยเด็กซ่าตีนผีที่ชื่อมินนี่ เพิ่มขึ้นรวมทั้งข้อมูลของพ่อแม่พี่น้องตระกูลและธุรกิจทุกอย่างที่มีและใครบ้างที่เป็นมิตรและศัตรูของครอบครัวนี้มาให้ได้อย่างละเอียด” มาเฟียรูปงามหยุดเพื่อนับหนึ่งถึงสิบ มือใหญ่ยังคงบีบลูกบอลต่อไปอย่างกับว่าจะบีบให้มันแหลกค่ามือ เห็นท่าทางที่เดือดได้ที่ของนายเส้นเลือดในสมองของคาร์โลสก็แทบจะแตกเพราะความเครียดและความวิตกว่าต่อจากนี้ไปงานนี้เลือดจะสาดหรือไหลท่วมหรือมันจะเป็นการเอาคืนที่เยือกเย็นและสุดแสนที่จะทรมาน

“ครับผม ตอนนี้ผมกำลังให้คนของ คุณดีมอน คุณเดวิล และคนของเราจัดการให้ครับ”

ร่างหนาลุกขึ้นยืนและถอดเสื้ออสูทออกคลุมไว้ที่เก้าอี้ก่อนที่จะเดินไปที่หน้าต่าง ดวงตาสีฟ้าเข้มมองออกไปสุดสายตา “ดีมากคาร์โลส เด็กนั้นจะต้องชดใช้ให้ฉัน ลูกที่ฉันเสียไปหนึ่งคนเด็กนั้นจะต้องคืนฉันมาสองคน นาตาลีเป็นเลิฟเวอร์ของฉันห้าเดือน เด็กนั้นจะต้องอุ่นเตียงบำเรอสวาทให้ฉันเป็นเวลาหนี่งปี” ลูซิเฟอน์เผยออกมาอย่างครุ่นคิด มือหนายังคงบีบลูกบอลต่อแต่ไม่แรงเท่าเมื่อครู่

“เอ่อ แต่นายครับเด็กนั้นอายุเพิ่งจะสิบหกเองนะครับ มันผิดกฎหมายนะครับ แล้วมันไม่ใช่ความผิด…” มาเฟียหนุ่มหันควับมาจ้องหน้าลูกน้องคนสนิท มือหนาที่บีบลูกบอลอยู่หยุดลง ให้ตายสิถ้าเป็นเวลาอื่นเขาคงได้ตบหัวคาร์โลสที่มาพูดเรื่องผิดกฎหมายทั้งๆที่วันหนึ่งก็ทำผิดกฎหมายกันหลายเรื่อง เพิ่มอีกสักเรื่องมันจะเป็นไรไป แต่ขณะนี้เขาไม่ไว้ใจแรงฝ่ามือและแรงโกรธ ไม่แน่ถ้าคาร์โลสโดนตบหัวในตอนนี้หัวอาจจะหลุดจากบ่าเขายังไม่อยากจะเสียลูกน้องคนสำคัญในตอนนี้ ยิ่งคิดใบหน้าและแววตายิ่งฉายแววโกรธแค้นมากขึ้นแต่เมื่อตอบลูกน้องน้ำเสียงกลับเรียบสงบ

“นี่นายเป็นฝ่ายไหนกันแน่คาร์โลส นายจะเข้าข้างเด็กซ่านั้นหรือไง? หึไม่เห็นเป็นไรถ้าฉันจะจับเด็กกิน เด็กสาวชาวบ้านแถวนี้และทั่วโลกทั้งอดีตและปัจจุบันอายุสิบสี่ สิบห้าก็มีลูกมีผัวกันแล้วไม่เห็นจะแปลก เด็กสาวสมัยนี้ด้วยแล้วแก่แดดจะตายอายุสิบห้าสิบหกก็อยากจะโตเป็นสาวกันแล้ว ยิ่งเด็กสาวตามเมืองใหญ่ๆบางพวกนะแรดจะตาย ยัยเด็กซ่าตีนผีนั้นก็คงเป็นหนึ่งในนั้นที่แก่แดดแก่ลมอยากรู้อยากเห็นเรื่องเซ็กซ์ป่านนี้ไม่น่าจะยังบริสุทธิ์อยู่ เพราะพฤติกรรมหลายอย่างมันส่อ เที่ยวแทค เที่ยวดิสโก้ เที่ยวบาร์ หัดกินเหล้า ป่านนี้คงอัพยาเสพติดชนิดต่างๆเป็นแล้วมั้ง แต่ไม่ต้องห่วงฉันจะไม่เผลอเอาเด็กนั้นขึ้นเตียงจนกว่าหล่อนจะอายุครบสิปแปดแน่นอน” มาเฟียหนุ่มนึกถึงข้อมูลแบบคราวๆของเหมือฝันและกลุ่มเพื่อนที่อ่านไปเมื่อกี้ ก็ยิ่งทำให้เกิดอารมณ์เดือดดาลกับพฤติกรรมของเหล่าคุณหนูทั้งหลายที่พากันเที่ยวกลางคืนวีคหนึ่งไม่ต่ำกว่าสามคืนทั้งๆที่อายุยังไม่เต็มสิบแปด ไม่รู้ว่าพ่อแม่ม่สนใจดูสั่งสอนกันบ้างหรือไง หรือว่าสั่งสอนแต่เด็กสาวเหล่านั้นดื้อไม่ฟัง แต่ละคนคงเป็นสปอยด์แบร้ท (spoiled brat = เด็กซนที่มีแต่คนเอาใจจนเสียนิสัย)

“แต่นายครับ…” ลูซิเฟอร์หน้าบอกบุญไม่รับ ดวงตาสีฟ้าราวกับมีไฟลุกอยู่ในนั้น คาร์โลสตีหน้าตายพยายามอย่างมากที่จะไม่กลืนน้ำลาย เอาละสิงานนี้ซวยเพราะความปากไวแล้วไม่ละนายคาร์โลส เดี๋ยวก็โดนคุณลูซิเฟอร์พาลเหมารวมแล้วไม่แคล้วงานพิเศษได้เข้ามาแบบตั้งตัวไม่ทันแน่เลย ดูสิตาที่มองมามาดูขวางๆชอบกลแฮะ อยากจะตบปากตัวเองฉิปเป็ง เลขาหนุ่มคิดและพยายามบังคับมือไม่ให้หยิบผ้าเช็ดหน้าที่เสียบไว้ในกระเป๋าด้านหน้าของเสื้อสูทมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก

“นายกล้ามากนะที่เถียงว่ายัยเด็กผีนั้นไม่ผิด เห็นๆกันอยู่ว่าในกล้องทุกตัวของทางหลวงที่ติดตั้งไว้เป็นระยะๆ เด็กนั้นขับเร็วเกินกำหนดอย่างมากตั้งแต่ขึ้นฟรีเวย์ นาตาลีก็ผิดที่ขับเร็วเกินกำหนดแต่ไม่เท่าเด็กนั้น รถตู้ก็ผิดที่ตีไฟแล้วเปลี่ยนเลนเข้ามาเร็วเกินไปถ้ารออีกนิดก็อาจจะรอดถ้ายัยเด็กบ้านั้นไม่ขับเร็วเกินไป แต่สุดท้ายต้นต่อการตายของคนหลายคนมาจากยัยเด็กนรกนั้น” ลูซิเฟอร์เอ่ยเสียงเครียด วีดีโออุบัติเหตุที่ดูหลายเที่ยวและข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประสบภัยที่รู้เบื้องต้นทำให้เขาเดือดดาลด้วยความโกรธ และยิ่งมารู้ว่าเด็กสาวที่ขับรถเอสยูวีสีขาวนั้นไม่มีใบขับขี่ มีแค่ใบอนุญาติให้หัดขับและเป็นลูกของคนมีเงินซึ่งมีพ่อเป็นคนไทยที่มีทั้งเงินและอิทธิผลส่วนแม่เป็นคนอเมริกันที่มีฐานะ และอิทธิผลทางการเมือง มาเฟียสุภาพบุรุษจอมสร้างภาพยิ่งโกรธเคืองมากกว่าเก่าและความชิงชังเริ่มผสมเข้ามาและเมื่อนึกถึงว่าการรับโทษของเด็กสาวคงไม่หนักหนาสาหัสเพราะอำนวจเงินของพ่อแม่ ความแค้นก็เข้าเขาจะไม่ปล่อยให้เด็กนรกนั้นลอยนวลแน่ เด็กนั้นจะต้องได้รับการลงโทษจากเขา เสียงข้อมูลเข้ามือถือของคาร์โลสดังขึ้น

“คุณลูซิเฟอร์ครับ ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดสิบคนครับรวมมิสนาตาลีและเด็กในท้องครับ สรุปแล้วรถทั้งสี่คัน สามคันตายหมด รถคันที่สี่เอสยูวีสีขาวรอดทั้งสองคนครับ”

“ยัยเด็กนรกกับเพื่อนรอดที่เหลือตายงั้นหรือ?” มาเฟียสุภาพบุรุษจอมสร้างภาพย้ำเพื่อความแน่ใจ

“ครับ เด็กสองคนนั้นหัวแตกเย็บไม่กี่เข็มมีบาดแผลเล็กๆน้อยๆและร่างกายฟกช้ำดำเขียว”

“โชคดีอะไรยังงี้” ความโกรธปนความแค้นผสมความชิงชังผสานเข้าด้วยกันอย่างหนาแน่นส่งผลให้มาเฟียหนุ่มในขณะนี้น่ากลัวสมชื่อลูซิเฟอร์

“คาร์โลสติดต่อนัดเจอพ่อแม่พี่ๆของเด็กตีนผีมินนี่ให้เร็วที่สุดให้ทุกคนมาพร้อมกัน และติดต่อสื่อทุกสื่อของสหรัฐและที่ไทยไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ ทีวี วิทยุให้ลงข่าวนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ที่สำคัญติดต่อแฮ็กเกอร์ให้กระพือข่าวและกระจายข่าวในเว็บต่างๆในเน็ตและให้และเริ่มสร้างม็อบในเน็ตเตรียมพร้อมที่จะจัดการให้ยัยเด็กผีไม่ได้ผุดได้เกิดไปอีกนาน” เริ่มแล้วไหมละการเอาคืนที่เยือกเย็นและสุดแสนที่จะทรมานส่วนเลือดจะสาดหรือไหลท่วมคงต้องรอดูกันหลังจากเจอพ่อแม่และพี่ๆของเด็กสาว แค่จินตนาการว่าจะเกิดอะไรกับเด็กสาวตั้งแต่วันนี้ไปคาร์โลสก็มือเย็นเชียบเกิดอาการกลัวขึ้นมาแทนเด็กสาว

“อืมคาร์โลสฉันมีงานพิเศษให้ทำไปกวดซื้อหุ้นและธุรกิจต่างๆในเอเชียเพิ่มขึ้นเน้นหนักที่เมืองไทยและหาข้อมูลของบริษัทต่างๆในแอฟฟริกาที่ต้องการนักลงทุนมาให้ฉันอย่างเร็วที่สุดด้วย อ้อ อย่าลืมซื้อหุนทุกกิจการของครอบครัวยัยเด็กซ่านั้นด้วย ไม่ว่าครอบครัวนั้นมีเอี่ยวที่ไหนเราก็เข้าไปเอี่ยวด้วยไม่ว่ามันจะใหญ่หรือเล็กแค่ไหน” เสร็จละสิงานเข้าจนได้ แค่ได้ยินคำว่างานพิเศษไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือโทษฐานที่บังอาจจะแก้ตัวแทนเด็กสาว งานนี้คงไม่ได้หลับไม่ได้นอนอย่างเต็มที่ไปอีกนาน คาร์โลสเอ้ยไม่น่าปากไวเลยให้ตายสิ

“ฉันจะไปว่ายน้ำสักครึ่งชั่วโมง อีกหนึ่งชั่วโมงเตรียมรถให้พร้อมเราจะไปดูสภาพของเด็กซ่าตีนผีนั้น”ลูซิเฟอร์มองหน้าเลขาที่โตมาด้วยกันแว้บหนึ่งก่อนออกจากห้องไป

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑


Ch. 2 Sweet Sixteen วันที่ก้าวผิด บาปและหายนะ กลายเป็นเงาตามติด


บ่ายเดียวกันถัดมาอีกสองชั่วโมง ที่โรงพยาบาลชื่อดังของเมืองเอลเอ ภายในห้องผู้ป่วย สิปปกร บริรักษ์ ยืนเท้าเอวมองน้องสาวที่นั่งหน้าซีดอยู่บนเตียงอย่างเอาเรื่อง

“หนูมินเป็นอะไรทำไมถึงได้บ้าระห่ำแบบนั้นฮ้า? พี่จำได้ว่าไม่เคยอนุญาตให้เราเอารถของพี่ไปใช้เลยนะ พี่เข้าใจนะว่าช่วงหัดขับรถและช่วงที่ได้ใบขับขี่ใหม่ๆนี่มันคันไม้คันมืออย่างจะขับ แต่นี้มันเกินไปแล้วนะหนูมิน พี่ว่านี่คงจะไม่ใช่ครั้งแรกสินะที่หนูมินแอบเอารถพี่ไปใช้”

“หนูมินขอโทษค่ะพี่เซ็ธหนูมินจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วค่ะ” เด็กสาวพนมมือและก้มศรีษะสำนึกผิด

“มาสำนึกตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว ทำไมหนูมินทำอะไรไม่รู้จักคิดเลยละ หนูมินโตเป็นสาวแล้วนะไม่ใช่เด็กอีกต่อไป จากนี้ไปจะทำอะไรให้คิดก่อนทำ ไม่ใช่สักแต่ทำรู้ทั้งรู้ว่าที่ทำนะมันผิดยังทำอยู่ แล้วทำไมไม่โทรให้พี่หวานไปรับเพื่อนๆของเราแทนที่จะเอารถพี่ไปรับ? ทำไมเมื่อไปถึงไม่จอดรถไว้แล้วเรียกพี่หวานให้มารับหนูมินและเพื่อนๆ? แสดงว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกใช่ไหมที่ทำแบบนี้? ทำไมหนูมินไม่คิดหือ? ทำไมหนูมินโง่อย่างงี้? รู้ไหมว่าความไม่คิดของหนูมินทำให้ใครตายบ้าง?” สิปปกรเริ่มร่ายยาวแต่ก็ถูกเสียงเครือที่กำลังร้องไห้ขัดกลางคัน

“ก็เพราะว่าหนูมินคิด…ฮือๆ…หนูมินถึงออกจากบ้านเมื่อเพื่อนๆโทรหา หนูมินไม่อยาก…ฮือๆคุณพ่อ…ฮือๆ…” เหมือนฝันร้องไห้เมื่อนึกถึงสิ่งที่บิดาบอกก่อนที่ท่านจะออกจากบ้านไป

“คุณพ่ออะไรหนูมิน? บอกพี่มา” สิปปกร ขยับเข้าไปใกล้น้องสาวต่างมารดาด้วยใจที่ร้อนรน
ก่อนที่เหมือนฝันจะมีโอกาสได้ตอบประตูห้องคนป่วยก็ถูกเปิดออก ร่างสูงวัยห้าสิบกว่าของบิดาทั้งสองก็ก้าวเข้ามา

“มินนี่ ยังไม่ทันสามเดือนแกก่อเรื่องอีกจนได้ครั้งนี้เป็นไง? สิบศพ ไหนแกจะทำผิดกฎหมายอีก ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าครั้งนี้จะต้องเสียเงินเท่าไหร่แกถึงจะหลุดรอดจากเรื่องบ้าๆนี่” สิ่งที่ได้ยินทำให้ร่างเล็กบนเตียงคนป่วยตัวแข็งทื่อ คุณพระช่วย สิบศพงั้นหรือไหนพี่ชายเธอบอกว่ากี้ปลอดภัยดีและมีคนเสียชีวิตหนึ่งคนเท่านั้น หันไปมองพี่ชายก็เห็นชายหนุ่มยืนหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง

“เซ็ธ แกติดต่อทนายคดีแนวนี้ที่เก่งที่สุดได้รึยัง? ถ้ายังพ่อจะได้ติอต่อขอความช่วยเหลือจากคุณเลียม โอเนียล” บิดาผู้มีเชื้อสายไทยจีนอังกฤษถามเสียงเครียด

“เรียบร้อยแล้วครับพ่อ พรุ่งนี้ตอนบ่ายทนายเขาจะแวะมาคุยกับพวกเรา”

“ดีมากเซ็ธ”

“คุณพ่อครับ คุณเลียมนี่…”

“ก็ไม่มีอะไรมากตระกูลโอเนียลติดหนี้บุญคุณพ่อ พ่อว่าจะเรียกคืนให้เขามาช่วยน้องแก ถ้าได้เขามาช่วยเราก็ไม่ต้องใช้เงินเยอะและเรื่องก็จะจบเร็ววินวินกันทั้งสองฝ่าย”

“แล้วพ่อไปรู้จักเขาตั้งแต่ตอนไหนครับ?” เขารู้ดีว่าทั้งทางส่วนตัวและธุรกิจตระกูลโอเนียลนั้นค่อนค่างที่จะเก็บตัวเข้าถึงยากมากและการที่คนในตะกูลโอเนียลจะติดหนี้ใครนี่ยิ่งยากกว่าการงมเข็มในมหาสมุทร

“แกลืมไปเลยเรื่องนี้เซ็ธ ถึงเวลาแกก็จะรู้รายละเอียดเอง” ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมีแววเข้มขึ้นเมื่อหันมามองดูลูกสาวที่อยู่บนเตียงผู้ป่วย ดวงตาสีเขียวเหม่อมองไปข้างหน้า ตั้งแต่เด็กสาวอายุได้สิบสี่ปีก็มีแต่เรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามาให้รบกวนเวลาทำความรำคาญใจอยู่เนื่องนิจไม่ว่าจะเป็นเรื่องก่อกวนผู้หญิงแต่ละคนที่เข้ามาในชีวิตของผู้เป็นพ่อและพี่ชาย เรื่องแอบออกไปเที่ยวดึกๆดื่นๆ เรื่องท้าพนันยิงปีนกับเพื่อนชายที่เด็กสาวยิงผลาดหรือตั้งใจก็ไม่แน่ชัดยิงถูกเท้าคู่ท้า ไหนจะเรื่องแอบหนีไปแข่งรถที่ไม่ว่าจะห้ามจะขู่จะทำโทษยังไงเจ้าตัวก็ไม่ยอมเลิก ดีที่ไม่มีปัญหาเรื่องการเรียนและเกรดไม่ตก สิ่งเสพติดทั้งหลายเด็กสาวไม่ยุ่ง เรื่องผู้ชายก็ไม่มีให้เป็นห่วงว่าจะท้องก่อนวัย แค่นี้ทั้งเขาและลูกชายก็ปวดหัวกันจะแย่อยู่แล้ว เรื่องครั้งนี้ก็ไม่รู้จะเสียเงินอีกเท่าไหร่ไหนจะชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลอีก คันไม้คันมืออยากจะฟาดไปที่หน้เด็กสาวแต่ก็ห้ามใจไว้ได้ ตั้งแต่สองพี่น้องออกและโตมา เขาไม่เคยตีเลย แต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาร่ำๆเกือบพลั้งมือกับเด็กสาวแต่ก็หยุดได้ทัน อดคิดไม่ได้ว่าถ้าลงไม้ลงมือบ้างเหมือนฝันก็อาจจะไม่เจอวันนี้ก็ได้
พ่อลูกสองหันไปมองหน้าลูกชายที่ยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง สองมืออยู่ในกระเป๋ากางเกง

“เซ็ธ เย็นนี้แกมีธุระหรือแพลนอะไรไว้หรือเปล่า? ถ้ามียกเลิกซะ”

“ไม่ครับตั้งแต่เกิดเรื่องของมินนี่ผมก็บอกเลิกแพลนส่วนตัวที่มี” ร่างสูงของหนุ่มวัยยี่สิบหันมามองบิดา

“ดีเพราะเย็นนี้เรามีนัดกับคนสำคัญ”

“ใครครับพ่อ?”

“ลูซิเฟอร์ กรีมาลดิ!”

“นักธุรกิจอินเตอร์ new age ที่ชอบลงทุนและชอบสร้างโรงเรียนให้เด็กด้อยโอกาสทั่วโลกได้เรียนฟรี ผู้ที่มีคนกล่าวขานเขาว่าเป็น มาเฟียสุภาพบุรุษ แห่งโคลัมเบียนะหรือครับ?”

“ใช่”

“พ่อทำยังไง ถึงได้นัดนี้มาละครับ” ดวงตาสีเขียวเฉกเช่นน้องสาวหรี่ลงนิดหนึ่ง

“ไม่รู้สิ ชั่วโมงที่แล้วพ่อได้รับโทรศัพท์จาก คาร์โลส เลขาของเขาบอกว่ามิสเตอร์ ลูซิเฟอร์ มีธุระสำคัญอยากจะคุยด้วยเชิญให้พ่อและเซ็ธไปพบที่คฤหาสน์กรีมาลดิเย็นนี้ทุ่มครึ่ง คาร์โลสย้ำว่าให้ไปให้ได้เพราะสำคัญมากและอาจจะไม่มีครั้งต่อไปถ้าพลาดครั้งนี้ พ่อว่ามันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเรา”

“ครับ” สิปปกรรับคำ สมองครุ่นคิดว่าบิดามีเรื่องอะไรปิดปังเขาอยู่หรือไม่มันแปลกที่อยู่ๆเลียม โอเนียล และลูซิเฟอร์ กรีมาลดิ จะเริ่มเข้ามาข้องเกี่ยวกับพ่อหลังจากที่พ่อพยายามจะเจอชายทั้งสองนี้มาพักหนึ่งแต่ก็ไม่สำเร็จสักที ล่าสุดคนของทั้งสองติดต่อมาหาเขาให้บอกบิดาว่า ให้เลิกพยายามยุ่งกับนายของเขา ไม่งั้นเป็นเรื่องแน่

“เซ็ธ เย็นนี้เกือบทุ่มเอาลีโมซีนไปรับพ่อที่โรงแรมโฟร์ซีซันส์ เบเวอร์ลี ฮิลส์” สั่งเสร็จก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียงคนป่วย สิปปกรเดินไปนั่งที่ขอบเตียงมือใหญ่จับมือเล็กของน้องกุมเอาไว้

“มินนี่” เรียกน้องสาวที่ยังเหม่อลอยให้ได้สติ “มินนี่”

“คะ พี่เซ็ธ” เสียงแผ่วเบาที่ตอบรับทำให้พี่ชายใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย

“หนูมินอย่าคิดมากนะ คนเราผิดพลาดกันได้ ขอให้จำไว้แล้วเอามันมาเป็นครูสอนเรา และพยายามทำผลลัพธ์ของการกระทำให้ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย พี่อยู่เคียงข้างหนูมินเสมอ” ตบมือน้องเป็นกำลังใจ ไม่แน่ใจว่าเด็กสาวจะได้ยินหรือรับรู้กับสิ่งที่พูดไหมเพราะยังดูใจลอย

“พี่เซ็ธ…” เสียงแหบสั่นเครือด้วยแรงอารมณ์หลายชนิดที่ตีกันทั้งเสียใจ เศร้าใจและรู้สึกผิด“พ่อบอกว่าสิบศพ มันเป็นความผิดของมินใช่ไหมคะ” โผเข้ากอดร่างหนาอย่างขวัญเสีย

“มันเป็นอุบัติเหตุนะหนูมิน” ฝ่ามือใหญ่ตบหลังบางอย่างปลอบขวัญ

“มินผิดเอง ฮือๆ เป็นความผิดของมินเอง ฮือๆ” สิปปกรปล่อยให้เหมือนฝันร้องไห้ไปได้พักใหญ่ๆก่อนที่จะเรียกสติน้องและปลอบให้หยุดร้องไห้

“หนูมินหยุดร้องเถอะร้องไปก็ไม่ช่วยให้ใครฟื้นขึ้นมามีชีวิตต่อได้ ท่องเอาไว้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ เป็นอุบัติเหตุ เข้าใจไหม?” คำตอบที่ได้รับคือเสียงสะอื้น

“หนูมิน ท่องตามพี่…เป็นอุบัติเหตุ เป็นอุบัติเหตุ ท่องตามพี่เดี๋ยวนี้หนูมิน เป็นอุบัติเหตุ เป็นอุบัติเหตุ เป็นอุบัติเหตุ”

“เป็น…หือ..อุบัติเหตุ…หือ…เป็นอุบัติเหตุ” เหมือนฝันท่องอยู่หลายรอบจนสิปปกรคลายอ้อมแขนออก

“เอาละหนูมิน พี่ว่าหนูมินพักผ่อนต่อเถอะนะ พี่มีนัดทานข้าวเย็นกับมรุต หลังจากนั้นพี่จะต้องไปธุระกับพ่อ”

“พี่เซ็ธคะ ทำไมพ่อไม่รักมินคะ” เป็นครั้งแรกที่เด็กสาวเอ่ยถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยมานาน

“ทำไมหนูมินคิดยังงั้นละ”

“ตั้งแต่คุณแม่เสียตอนมินอายุห้าขวบพ่อก็ไม่เคยกอดมินอีกเลยและตั้งแต่นั้นมาพ่อไม่สนใจมิน พ่อจะไปไหนมาไหนก็ไม่เคยบอกมินเลย มินไม่ได้อยู่ในสายตาของพ่อ ยิ่งตอนนี้พ่อคงเกลียดมินแน่นอนที่สร้างแต่ปัญหาให้ มินก็แค่อยากจะให้พ่อสนใจมินบ้างเท่านั้นเอง”

สิปปกรลอบถอนหายใจ มือหนาลูบผมสีน้ำตาลอ่อน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเหมือนฝันทำหลายอย่างเพื่อเรียกร้องความสนใจจากบิดาแต่นั้นก็ดูเหมือนจะยิ่งทำให้ทั้งสองห่างออกจากกัน เขาเองพออายุสิบขวบก็ถูกส่งไปเข้าโรงเรียนประจำที่อังกฤษ ปีหนึ่งจะได้กลับมาเยี่ยมบ้านก็ตอนที่โรงเรียนหยุดพักหน้าร้อน ทำให้เขาและน้องสาวไม่ค่อยสนิทกัน ได้มาอยู่บ้านเดียวกันอีกครั้งก็เมื่อเขามาเรียนปริญญาตรีที่มหาลัยยูเอสซีและกำลังทำปริญญาอีกใบที่มหาลัยยูซีเอลเอ หลังจากนั้นจึงจะไปทำปริญญาโทที่มหาลัยฮาร์วาร์ด ส่วนน้องน้องสาวก็มาเรียนไฮสคูลที่เอลเอ…

“รักสิหนูมิน คุณพ่อรักหนูมินแน่นอน ท่านงานยุ่งมากเลยไม่มีเวลาให้หนูมินมากนัก เชื่อพี่สิหนูมิน พักผ่อนซะพรุ่งนี้ตอนเย็นพี่จะมาหา”

“คะพี่เซ็ธ” รับปากอย่างง่ายดายทั้งที่ในใจค้านพี่ชายเด็กสาวอยากจะให้พี่ชายอยู่เป็นเพื่อนอีกสักพัก เพราะถ้าอยู่คนเดียวสาวน้อยจะเกิดอาการเหงาและรู้สึกโดดเดี่ยว ในความรู้สึกลึกสุดของหัวใจ…เหมือนถูกทอดทิ้ง…จากแม่ พ่อและพี่ชาย อยากจะให้พี่ชายอยู่ใกล้ๆความเหงาและความเดียวดายจะได้ไม่มาเยือน…
“พี่ไปละนะหนูมิน นอนพักซะนะ” ก้มลงไปจูบแผ่วเบาที่หน้าผากน้องก่อนไป
เหมือนฝันมองตามหลังร่างสูงด้วยใบหน้างอยเหงา

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

“คาร์โลส พยายามอย่าให้ใครเข้าไปจนกว่าฉันจะออกมา” ลูซิเฟอร์กำชับก่อนที่จะเปิดประตูห้องผู้ป่วยเข้าไป

ร่างเล็กบอบบางที่นอนหลับตะแคงหันหลังให้ประตูไม่รู้ว่าตอนนี้หายนะและอันตรายได้มายืนอยู่ข้างเตียงเรียบร้อยแล้ว ลูซิเฟอร์ชะโงกหน้าไปมองพิจรณาหน้าเจ้าของร่างบอบบาง อืม…สวยน่ารักเหมือนในรูป เปลือกตาปิด คิ้วโก่ง จมูกโด่งสวยได้รูป ปากน่าจูบ...ลูซิเฟอร์มองดวงหน้าสวยน่ารักอย่างเพลินตา ใบหน้าหล่อก้มลงไปใกล้ใบหน้าสวยน่ารักอย่างเผลอไผล ลืมไปชั่วขณะว่าเจ้าของใบหน้าเพิ่งจะอายุสิบหก
ดวงตาสีเขียวเปิดขึ้น หน้าสวยน่ารักตระหนกตกใจเมื่อเห็นหนุ่มแปลกหน้าที่ก้มอยู่ใกล้ใบหน้าจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนที่กระทบผิวแก้ม

เพี้ยะ! เสียงฝ่ามือเล็กที่กระทบแก้มหนุ่มแปลกหน้าดังก้องในหูของสองหนุ่มสาวที่ต่างก็ตกตะลึงในสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาสีฟ้าสบดวงตาสีเขียว ตาสีฟ้ามีแววตะลึงที่กรุ่นไปด้วยไฟโธสะ ส่วนตาสีเขียวนั้นมีแววตระหนกตกใจ

“คุณเป็นใคร มาจ้องหน้าฉันทำไม?” เสียงหวานถามเป็นภาษาอังกฤษ ตาสวยมองสำรวจใบหน้าของอีกฝ่ายที่บอกบุญไม่รับที่ยังอยู่ใกล้หน้าของเธอ มือบางเคลื่อนไปใกล้ใบหน้าที่อยู่เหนือเธอเพื่อที่จะผลักให้ออกไปไกลจากหน้าเธอ แต่ทว่ามือเล็กกลับถูกมือใหญ่ปัดออก

“จะโง่ตบหน้าผมอีกหรือไง?” เสียงทุ้มถามเป็นภาษาอังฤษด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจ

“ก็คุณมาจ้องหน้าฉันทำไม? ฉันลืมตามาก็ตกใจนะสิ มือมันก็เลยไวไปหน่อย ช่วยไม่ได้มันเป็นความผิดของคุณเอง” คนที่ได้ฟังเหตุผลของสาวน้อย เดือดดาลด้วยความโกรธ เป็นความผิดของเขานี่นะที่โดนตบหน้าโดยไม่มีทางป้องกัน ผู้หญิงอื่นมีแต่จะปล้ำจูบเขา ยัยเด็กบ้านี่เป็นใครที่กล้ามาตบหน้าเขา ถ้าเป็นผู้ชายเขาคงจะตบกลับเป็นแน่แต่นี่เป็นผู้หญิง เขาควรจะทำโทษยัยเด็กเหลือขอนี่ยังไงดีที่บังอาจทำในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำ

“นี่คุณจะจ้องหน้าฉันไปอีกนานไหม?” ดวงตาสีฟ้าที่มองเธอด้วยแววตาแปลกที่เธอไม่เคยเห็น ทำให้เหมือนฝันรู้สึกหวาดหวั่นขนแขนลุก

“ทำไมจะจ้องไม่ได้? หน้าตาเธอก็น่ารักดีนี่” คำชมที่ออกจากปากอิ่มและสายตาที่มีประกายทำให้สาวน้อยหน้าแดงด้วยความอาย มือเล็กเคลื่อนไปที่ออกหนาและออกแรงผลักหวังให้คนไซส์ยักษ์ห่างกายเธอ แต่ก็ดูเหมือนคนที่ยืนค้ำเธอทำตัวเป็นยักษ์ปักหลักไม่ขยับหรือไหวติงเลยสักนิด

“นี่คุณออกไปให้ห่างจากหน้าฉันได้ไหม” เอ่ยปากไล่หลังจากที่พยายามจนหมดแรงน้อยนิดที่มี ตั้งแต่เธอฟื้นขึ้นมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงหายไปไหน ขนาดจะทานโจ๊กหมูสับที่พี่ชายเอามาฝากก็แทบจะยกช้อนไม่ขึ้น จนสุดท้ายพี่ชายก็ต้องป้อนให้

“คุณนี่โรคจิตหรือเปล่า? ไม่รู้จักกันก็มาจ้องหน้าคนอื่นเขา โรคจิตแน่เลย!” ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ทำให้เธอเสียมารยาทว่าเขาแบบนั้น มาเฟียตาเขียวปัดเมื่อโดนกล่าวหาจากสาวน้อย แต่ก่อนที่มาเฟียจอมสร้างภาพที่ดีและไม่ดีจะได้ทำอะไรก็มีเสียงเคาะประตูพร้อมกับประตูห้องคนไข้ก็ถูกเปิด

“เหมือนฝัน!!” สาวน้อยที่ก้าวเข้ามาพร้อมกับร่างสูงและคนติดตามอีกสองชะงักกับภาพที่เห็น…สองร่างใกล้กันและสองใบหน้าที่ชิดใกล้จนทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าก่อนที่เธอจะเข้ามาได้เกิดอะไรขึ้นหรือไม่หรือว่าเกือบจะเกิดขึ้น

“ตะเกียงดาว!!” มือน้อยผลักอกกว้างออกห่างกายขยับกายลุกนั่งพอดีกับที่ตะเกียงดาวเดินมาถึงตัวและสวมกอด

“เป็นยังไงบ้าง? เจ็บตรงไหนมากที่สุด?” ส่งภาษาไทยถาม ดวงตาสีเฮเซลมองสำรวจร่างบางอย่างละเอียดรอยฝกช้ำตามผิวที่พ้นจากชุดคนไข้ ใบหน้าที่มีแผลขูดขีดช้ำเล็กน้อยและรอยเย็บบนมุมหน้าผาก

“แล้วนี่ใคร? แฟนเหรอ?” ถามภาษาไทย

“ไม่ใช่นะ!!” “ไม่ใช่แฟนผม!!” สองเสียงตอบพร้อมกันเป็นภาษาไทยเสียงหนึ่งชัดอีกเสียงไม่ค่อยชัด
ลูซิเฟอร์สบถในใจที่เผลอเปิดเผยในสิ่งที่น้อยคนจะรู้ว่าเขานะอ่านและฟังภาษาไทยได้ถึงแม้จะพูดไม่ค่อยชัดแต่คนฟังก็ฟังรู้เรื่อง นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาไม่ชอบใจบิดาและมารดาที่บังคับเขี่ยวเข็นให้เขาเรียนรู้ภาษาไทยและขนบประเพณีและวัฒธรรมต่างๆของคนไทยและเป็นที่มาจากหลายเหตุที่ทำให้เขาเกลียดผู้หญิงไทยอย่างจับจิต

“ผมพอฟังเข้าใจในระดับหนึ่ง” มาเฟียหนุ่มตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ

“แล้วคุณเป็นใคร?” คำถามของเหมือนฝันทำเอาตะเกียงดาวและหนุ่มร่างใหญ่ที่ยืนข้างกายแปลกใจ นึกว่าทั้งสองรู้จักกัน

“ผมชื่อ ลูซิเฟอร์ กรีมัลดิ ผมมาเยี่ยมคนรู้จักที่ไม่ได้เจอกันนาน ผมเข้าห้องผิดและกําลังจะออกไป”

“มิสเตอร์ กรีมัลดิ ยินดีที่ได้เจอครับ ผมเคนดริก ถัง(เปลี่ยนจากคิมหันต์เป็นเคนดริกพราะรู้สึกว่าชื่อเฮียหลงแกโหลไปนิสส์1)” สองหนุ่มจับมือกัน
“เช่นกันครับ”

“นี่โซอี้ พิบูลทรัพย์” เคนดริกแนะนำ “และที่อยู่บนเตียงมินนี่ บริรักษ์” สองสาวยกมือไหว้ลูซิเฟอร์

“ยินดีที่ได้เจอคะ” สองสาวยกมือไหว้ลูซิเฟอร์ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน สาวหนึ่งไหว้เพราะไม่ชอบให้ชายอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนสนิทหรือญาติของเคนดริกถูกเนื้อต้องตัว สาวน้อยหวงเนื้อหวงตัวไว้ให้คุณอาที่รักคนเดียว ส่วนอีกสาวเพราะไม่พอใจที่ตื่นขึ้นมาก็เจอคนแปลกหน้ามานั่งใกล้ชิดจ้องหน้า อยากจะบอกเขาเป็นนัยว่าไม่ชอบไม่อยากรู้จักและไม่อยากจับมือ แต่สิ่งที่สองสาวทำกลับทำให้ลูซิเฟอร์รู้สึกชื่นชมเธอทั้งสองที่ไม่ทิ้งวัฒณธรรมการไหว้แบบไทย

“ผมขอตัว” ลูซิเฟอร์บอกกลุ่มที่มาใหม่ “มิส มินนี่ ขอโทษที่รบกวนหวังว่าเราคงได้พบกันอีก” มาเฟียหน้าเข้มทิ้งท้ายก่อนออกจากห้องไป
“อาหลงขา โซอยากทานแครอทเค้กคะ” น้ำเสียงและแววตาที่ออดอ้อนพร้อมกับมือน้อยที่เอื้อมไปจับมือใหญ่มากุมไว้แนบแก้ม ไม่บอกตรงๆเคนดริกก็รู้ว่าตะเกียงดาวทั้งอยากกินและอยากคุยกับเพื่อนตามลำพัง

“อาให้เวลาโซสี่สิบนาที” ตะเกียงดาวขเย็งปลายเท้าจูบแก้มคุณอาสุดที่รัก

“ขอบคุณคะคุณอาสุดที่รักของโซ” ยิ้มหวานให้อาหนุ่มต่างสายเลือดผู้เป็นเจ้าของหัวใจดวงน้อย
พออยู่กันสองคนตะเกียงดาวก็ถามสิ่งที่ค้างคาใจ “เออนี่มินนี่ ตำรวจมาคุยกับเธอหรือยัง?”

“ยังเลย เห็นพี่เซ็ธบอกว่าพรุ่งนี้เช้าจะมานะ ทำไมหรือ?”

“ฉันอยากให้เธอเตรียมตัวเตรียมใจนะมินนี่ ที่สำคัญฉันไม่อยากให้เธอไม่สบายใจ...แต่ฉันต้องบอกและถามเธอเพื่อความปลอดภัยของเธอ”

“มีอะไรหรือโซอี้?”

“เธอรู้ไหมว่าตอนนี้ในเน็ตทั้งในเมกาและที่ไทยมีแต่ข่าวเรื่องอุบัติเหตุของเธอ ยิ่งในเน็ตไทยนะข่าวแรงมากเลยแล้วในเฟซนะกระแสความไม่พอใจเธอยิ่งแรงมากฉันสังหรณ์ใจยังไงไม่รู้มินนี่...”

“เหรอ...ศัตรูหรือคนเกลียดไม่มีนะที่รู้...ที่ไม่รู้...ไม่รู้สิ” สาวน้อยครุ่นคิด แต่คิดยังไงก็ไม่ออกว่าจะใครบ้างที่เกลียดหรือเป็นศัตรูกับเธอ

“งั้นคงไม่มีอะไรฉันคงคิดมากไปมันคงเป็นแค่กระแสเดี๋ยวก็คงเงียบไปเมื่อมีเรื่องอื่นเข้ามาแทนที่”

“อืม...แล้วข่าวว่าไงบ้าง จริงไหมที่มีผู้เสียชีวิตสิบศพโซอี้?”

“มันก็เป็นแค่ข่าวอย่าไปสนใจเลยมินนี่”

“แล้วจำนวน?” เหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างติดที่คอของสาวน้อย น้ำตาที่แห้งไปไหลออกมาจากตาที่เริ่มแดงจากความสะเทือนใจและความรู้สึกผิด

“รถสี่คัน...คันหนึ่งเป็นของเธอ ที่เหลืออีกสามคันตายหมด รอดแต่เธอและผู้โดยสารของเธอ...”

“สามคันแล้วเป็นสิบ...ได้ไง?” เหมือนฝันเสียงเครือ

“ก็รถเก๋งสอง รถตู้หก รถสปอรท์สอง ความจริงหนึ่งแต่คนขับที่เป็นผู้หญิงท้องเจ็ดเดือนเขาเลยนับเด็กในท้องด้วย และที่ไม่มีใครรอดเพราะส่วนมากออกมาไม่ทัน...รถระเบิดและบางคนตายที่โรงพยาบาล…” เหมือนฝันยกมือขึ้นปิดหน้าพร้อมกับปล่อยโฮกับสิ่งที่ได้ยิน ตะเกียงดาวกอดเพื่อนอย่างสงสาร...สงสารที่เพื่อนเจอเรื่องแบบนี้และสงสารคนที่ต้องมาเสียชีวิตกับเหตุการณ์นี้...

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

19:30 ภายในห้องทำงานของลูซิเฟอร์

“ขอบคุณที่มาตามคำเชิญผม” มาเฟียหนุ่มมองสองพ่อลูกที่นั่งตรงหน้า

“จะดื่มอะไรดีครับ? วิสกี้ บรั่นดี ไวน์ ชาเขียว กาแฟ น้ำผลไม้ปั่น หรืออย่างอื่น?” เจ้าของบ้านถามอย่างสุภาพพร้อมกับผายมือไปยังรถเข็นสีเงินที่มีขวดเครื่องดื่มชนิดต่างๆพร้อมเครื่องเคียงวางอยู่

“ผมและลูกชายขอไวน์ขาว”
คาร์โลสรีบจัดการเปิดขวดไวน์ขาวเสริฟพร้อมกับลูกแพร์พร้อมเนยแข็งและเนยนิ่มหลายชนิดเช่น brie, greve, camembert และแคร์กเกอร์

“ผมมีเรื่องส่วนตัวและเรื่องธุรกิจที่จะคุยกับคุณสองคน” สองพ่อลูกรอฟังด้วยใจที่เริ่มเต้นแรง

“เรื่องส่วนตัวนั้นเกี่ยวกับลูกสาวคุณและสิ่งที่เกิดขึ้นบนฟรีเวย์เมื่อคืนก่อนนู้น”

“คุณลูซิเฟอร์เกี่ยวข้องกับอุบัติยังไงครับ?” สิปปกรถามด้วยใจที่เต้นเร็วและแรง

“คู่นอนผมและลูกในท้องเธอเสียชีวิตในเหตุการณ์นั้น จะให้ผมปล่อยเฉยกับเรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่ได้” ตาสีฟ้าที่มองมายังสองพ่อลูกไม่เผยสิ่งใดให้รู้มันเรียบสงบดั่งทะเลที่ปราสจากคลื่นและลมก่อนที่พายุจะก่อตัวขึ้น

“คุณ...” สิปปกรพูดไม่ออกเดาไม่ถูกว่ามาเฟียหนุ่มจะมาไม้ไหนแต่ที่แน่ๆมันเกี่ยวกับน้องสาวของเขาแน่นอน ชายหนุ่มชายตาดูบิดาก็เห็นท่านนั่งหน้านิ่งรอฟังมาเฟียหนุ่มอย่างใจเย็น

“เพราะ ความเป็นผม ศักดิ์ศรี ตำแหน่ง และอีกร้อยแปดเหตุผลทำให้ผมปล่อยน้องสาวคุณลอยนวลไปไม่ได้ น้องสาวของคุณจะต้องชดใช้ให้ผมแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน”

“คุณจะฆ่าน้องสาวผมเพราะอุบัติเหตุนั้น?” สิปปกรเดาไม่ถูกว่าคนตรงหน้าจะมาไม้ไหน เขาใจร้อนอยากจะรู้ให้เร็วว่าเจ้าพ่อคนนี้ต้องการอะไร

“ผมจะไว้ชีวิตน้องคุณแต่เธอจะต้องชดใช้กับสิ่งที่ผมเสียไปและน้องของคุณจะต้องถูกลงโทษ!!”

“คุณลูซิเฟอร์ช่วยขยายความให้ด้วยครับ” อนิวัตถามอย่างรอบคอบ

“ผมเสียคู่นอนไปพร้อมกับเด็กในท้องเธอที่เป็นลูกผม ลูกสาวคุณจะต้องมาเป็นคู่นอนของผม1ปีและมีลูกให้ผม!” สิ่งที่ได้ยินทำเอาสองพ่อลูกหน้าตึง

“อะไรนะ?” สิปปกรผุดลุกขึ้นมือทั้งสองกำมือแน่นใจอยากจะชกไปที่มาเฟียตรงหน้าแต่เหมือนบิดาจะรู้ชายหนุ่มจึงโดนอนิวัตจับข้อแขนและดึงให้นั่งลง

“พวกคุณฟังถูกแล้ว”

“แต่น้องผมเพิ่งจะอายุสิบหก จะยังไงคุณจะเอาน้องผมทำเมียไม่ได้”

“ผมไม่ได้พูดว่าจะเอาน้องคุณทำเมีย เธอจะเป็นแค่คู่นอนของผม ตำแหน่งเมีย หรือคำว่าเมียนี่ผมไม่ได้ให้ใครอย่างง่ายดายหรือใช้คำนั้นพร่ำเพรื่อหรอกนะและผมก็ไม่เคยยกย่องผู้หญิงคนไหนให้ใช้คำนี้ได้ ผู้หญิงส่วนมากจะเป็นได้แค่คู่ควง คู่นอนชั่วคราว นางบำเรอ หรือวันไนต์สแตนด์เท่านั้นไม่คู่ควรที่จะมาเป็นเมียผมหรือถูกเรียกว่าผู้หญิงของผม”

“ยังไงผมก็ไม่ยอม น้องผมแค่สิบหก ผมจะแจ้งความและเอาเรื่องคุณอย่างถึงที่สุดถ้าคุณทำอะไรน้องผม”

“ผมรอให้น้องคุณอายุเต็มสิปแปดได้และเมื่อน้องคุณสมยอมผมใครหน้าไหนก็ทำอะไรผมไม่ได้” จอมสร้างภาพมั่นใจในฝีมือของตัวเองยิ้มที่มุมปาก

“คุณ!” สิปปกรเดือดดาลถ้าบิดาไม่จับแขนเขาไว้และบีบอย่างแรงเป็นระยะเพื่อเตือนสติเขาคงได้ตะบันหน้าเจ้าของบ้านเป็นแน่

“แล้วคุณมาบอกผมและลูกชายทำไมคุณลูซิเฟอร์? คุณต้องการอะไรกันแน่?”

“อย่างที่บอกไปแล้ว น้องสาวคุณต้องชดใช้ให้ผมเพราะมันเป็นความผิดของน้องคุณ”

“มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ความผิดของน้องผม”

“ผมไม่สนว่าคุณจะว่ายังไง น้องคุณต้องชดใช้ ที่ผมให้คุณสองคนมาพบก็เพื่อที่จะบอกว่าอย่ามายุ่งหรือขัดขวางเรื่องระหว่างผมและมินนี่ไม่อย่างงั้นคุณทั้งสองคนจะเดือดร้อนแน่ ใครมาขวางผมถ้าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตไม่ว่าจะเป็นชีวิตหรือเรื่องธุรกิจ”

“ผมไม่ยอมให้คุณรังแกน้องผมแน่” สิปปกรค้านเสียงแข็ง เขารู้ว่ามาเฟียสุภาพบุรุษที่นั่งอยู่ตรงหน้านี่ร้ายกาจและโหดเหี้ยมขนาดไหนอีกทั้งมีอิทธิพลมากแค่ไหน ไม่งั้นใครต่อใครจะเรียกเขาว่าลูซิเฟอร์ตัวพ่อหรือและไหนจะน้องชายอีกสองคนที่แค่ชื่อก็เหลือทำเอาคนในวงการหนาวไปถึงไหนๆ ดีมอน ที่ร้ายกาจจนคนทั้งรัสเซียและยุโรปยกนิ้วให้ และ เดวิล ที่บ้าระห่ำ จนผู้นำของประเทศทั่วโลกและเหล่าผู้มีอทธิผลทั่วโลกต้องเกรงใจ

“ผมขอเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่า อย่ามาแสหาเรื่องกับผม มันเป็นเรื่องระหว่างผมและมินนี่ อย่านึกว่าฉายามาเฟียสุภาพบุรษของผมจะเป็นดั่งเช่นพวกคุณได้ยินอย่าลืมว่าลูซิเฟอร์คือชื่อแรกที่พ่อผมตั้งให้และเป็นชื่อที่สมกับตัวผมสะด้วยสิ”
อนิวัตบีบแขนลูกชายพร้อมส่ายหน้า เสียเวลาเวลาและไม่มีประโยชน์ที่จะไปต่อคำหรือเถียงกับลูซิเฟอร์คนระดับนั้นคำไหนคำนั้น ตอนนี้เรื่องกำลังร้อนเป็นถ่าน รอให้เรื่องเย็นลงแล้วค่อยว่ากันอีกทีมีเวลาอีกตั้งสองปีกว่าเหมือนฝันจะอายุสิปแปด สิ่งที่เขาสนใจคือเรื่องธุรกิจ

“ความจริงผมไม่จำเป็นที่บอกคุณสองคนว่าผมจะทำอะไร แต่ผมเป็นคนตรงไม่ใช่หมาลอบกัดและผมอยากให้คุณรับรู้เพื่อที่ว่าพวกคุณจะได้มีความทุกข์ เหมือนกับครอบครัวของผู้ประสบเหตุต้องทุกข์ พวกคุณโชคดีที่มินนี่ไม่ตาย และผมมั่นใจว่ามินนี่ต้องรอดจากเงื้อมมือกฎหมายแน่ เพราะพวกคุณมีเงินมีอิทธิพลและกฎหมายของรัฐนี้ให้โอกาสผู้เยาว์ เพราะฉะนั้นน้องคุณจะต้องได้รับบทเรียนและการลงโทษจากผม” ผู้ที่ตั้งตัวเป็นผู้พิพากษาตั้งศาลเตี้ยเสร็จสรรพโดยไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้นนั่งไขว่ห้างมองสองพ่อลูกอย่างใจเย็น

“แล้วเรื่องธุรกิจที่คุณต้องการคุยละครับ” อนิวัตถามในสิ่งที่อยากรู้ เขาไม่สนหรอกว่าเหมือนฝันจะไปขึ้นเหวลงห้วยหรือขึ้นสวรรค์ตกนรกขุมไหนก็ช่างเด็กสาวไม่ได้อยู่ในความคิดหรือความห่วงของเขาสักนิดเดียวตั้งแต่เธออายุได้ห้าขวบเด็กสาวก็ไม่ได้อยู่ในสายตาและสมองของ เมื่อไหร่ที่เด็กสาวเรียนจบมหาวิทยลัยหน้าที่พ่อของเขาก็จะสิ้นสุดลง

“เรื่องธุรกิจ ผมต้องการคุยกับคุณคนเดียวลูกชายคุณไม่เกี่ยว”

“เซ็ธ แกไม่ต้องรอพ่อ กลับไปพักผ่อนซะ” สิปปกรขบกรามแน่น ความรู้สึกหลากหลายวิ่งวุนอยู่ในสมองของชายหนุ่ม หนักใจกับชีวิตของน้องสาวที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากเหตุการณ์คืนนั้น ร่างสูงลุกขึ้นกำลังจะก้าวเดินออกจากห้องก็มีอันชะงัก

“เดี๋ยว ผมขอเตือนคุณว่าอย่าเอาเรื่องที่เราคุยกันไปเล่าให้ใครฟังหรือเตือนน้องส่าวของคุณเด็ดขาด ไม่งั้นน้องสาวคุณจะโดนหนักกว่าที่จะดดนหลายเท่าตัว และผมจะเล่นงานคุณและพ่อของคุณด้วย ถ้าคุณรักน้องของคุณอย่ายุ่งกับเรื่องของผมและน้องคุณ ไม่งั้นหนึ่งในสิ่งที่เธอจะโดนเพิ่มคือ นอกจากนอนกับผมแล้วเธอจะต้องนอนกับลูกค้าทุกคนของผมที่ต้องการเธอ” สิปปกรแม้มปากกับสิ่งที่ได้ร่างใหญ่สั่นเทาด้วยโทสะอยากจะฆ่าไอ้มาเฟียหน้าหล่อให้ตายคามือ แต่เขาก็ทำไม่ได้ ชายหนุ่มก้าวเดินต่อไป เอาเหอะตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้ แต่เขาเชื่อว่ามันจะต้องมีวิธีที่จะช่วยน้องสาวของเขาจากลูซิเฟอร์ตัวพ่อได้

๑๑๑๑๑๑๑๑

1. โทษทีที่มีคำผิดหรือถ้าผิดพลาดประการใดขอภัยนะจ๊ะ >_<

2. ขอบคุณทุกคนที่ comments และ กด LIKE ให้ข้าน้อยเด้อ ^_^

3. ฝากด้วยเด้อเรื่องนี้ อ่านแล้ว ติชมกันได้ อย่างไม่ต้องกลัวคนเขียนจะโกรธหรือน้อยใจ อ่อนไหว แบบว่า sensitive จนน่าถีบ ^_<
อาเจ๊ลิล ยินดีรับฟังทุกความเห็นที่มาพร้อมเหตุและผล ที่จะทําให้นิยายดีขึ้น

Nanny – แนนนี่ = พี่เลี้ยงเด็ก

วินวิน - win-win (win-win situation) = สถานการณ์ ที่ทำให้ ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์

วันไนต์สแตนด์ - one night stand = คู่นอนคืนเดียว = การมี เพศสัมพันธ์ข้ามคืนของชายหญิงที่ไม่รู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน แต่รู้สึกถูกใจกันและยินยอมที่จะมีความสัมพันธ์ทางเพศ เพื่อระบายความต้องการทางเพศและความความใคร่ของทั้งสองฝ่าย และนำมาซึ่งความสนุกสนาน ตื่นเต้น อีกทั้งไม่ต้องมีความผูกพันทางด้านจิตใจต่อกัน และไม่ต้องรับผิดชอบต่อสัมพันธภาพที่เกิดขึ้นภายหลัง โดยกระบวนการทั้งหมดนี้จะเริ่มต้นและจบลงอย่างรวดเร็ว



มณีโชติรส
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ต.ค. 2555, 16:12:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ต.ค. 2555, 16:38:55 น.

จำนวนการเข้าชม : 4080





<< ...Prelude ... บทนํา......    Ch.3 Like Taking A Candy From A Baby - ผู้ใหญ่รังแกเด็ก >>
แล่นแต๊ 23 ต.ค. 2555, 21:37:25 น.
พระเอกโหด


มณีโชติรส 25 ต.ค. 2555, 03:04:53 น.
คุณ แล่นแต๊ ^_^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account