พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว # จุฬามณี (ลิขสิทธิ์ สนพ.มายดรีม)
เรื่องย่อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว

เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..

วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..

หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..

มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..

ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ

และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ

กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...

ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..

และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..

Tags: รักสามเส้า เราสามคน

ตอน: 31.“ไม่ ไม่ปล่อย รักแล้ว ถอยไม่ได้”

31.

เมื่อวางโทรศัพท์จากกุลกัญญาแล้วกลยุทธก็ถึงกับถอนหายใจออกมา เมื่อเป็นดังนั้นคนที่นั่งอยู่ด้านข้างจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้

“มีอะไรหรือเปล่าคะ”

กลยุทธนิ่งคิด

“ไม่เล่าก็ไม่เป็นไรนะ”

“กุลเขาจะมานครนายกกับคุณชัช”

“มากับชัชแค่สองคน” เจอคำถามแบบนี้ ร้อยทั้งร้อยก็จะต้องปฏิเสธแล้วเล่าความจริงออกมา

“เปล่าครับมาลีมาด้วย กุลมาเป็นเพื่อนมาลี”

“คุณก็เลยไม่สบายใจ รมมี่ว่าตัดใจได้แล้วมั้ง มองคนที่เขาสนใจคุณจริงๆ ดีกว่าไหม”

น้ำเสียงของรมณีย์ดูตลกปนด้วยความจริงจัง ชนิดที่ว่าหากผิดหวังเธอก็จะไม่เสียหน้า

กลยุทธหันมามองหน้าเจ้านายสาวแล้วยิ้มนิดๆ จะว่าไปแล้วคุณรมณีย์ก็มีมุมสบายๆ จนเขารู้สึกผ่อนคลายเมื่ออยู่ใกล้ๆ มากยิ่งขึ้น แต่หัวใจบางทีมันก็ปักลงไปตรงนั้นเอง ว่าชอบ ว่าใช่ ว่าถูกใจ เขาถูกใจมาลีแบบไม่มีเหตุผล รู้แต่ว่าเรื่องความยากจน ความด้อยกว่าทางการศึกษาหรือฐานะไม่ได้สลักสำคัญ ขออย่างเดียวขอให้ได้เธอมาครอบครอง เหตุผลตื้นๆ ผิดจากหลักเรื่องคู่ครองที่เคยวางไว้

“เขาจะค้างกันที่นครนายกใช่ไหม เอางี้ดีกว่า” พูดจบรมณีย์ก็กดโทรศัพท์ทันที
เมื่อได้เรื่องแล้ว เธอก็สรุปให้กลยุทธได้รับรู้

“นายชัชบอกว่า จะมาเที่ยวชมสวนผลไม้หลังโรงเรียนนายร้อย แล้วจะไปเที่ยวที่เขื่อนขุนด่านปราการชลเพื่อถ่ายรูปทำงาน คืนนี้จะพักรีสอร์ตแถวๆ นั้นด้วย รมมี่ก็เลยสั่งให้เขาจองให้อีกสองห้อง ก็ไหนๆ เราก็อยู่สระบุรีแล้ว น้องคุณก็อยู่ที่นั่น หัวใจคุณก็อยู่ที่นั่น เราไปกันก็ดีนะคะ ไปขัดขวางเขาไปแย่งชิงมาลีกลับคืนมา”

รมณีย์พูดเรื่องที่ตัวเองเจ็บปวดได้อย่างหน้าตาย

“คุณเต็มใจ”

“ฉันใจกว้าง แต่มาลีต้องเป็นน้อยนะฉันถึงจะยอม”

รมณีย์พูดเล่น แต่มันก็ทำให้กลยุทธถึงกับยิ้มกว้างขึ้นมาแล้วเขาก็อดสงสัยขึ้นมาไม่ได้

“คุณชอบผมจริงๆ หรือครับ” ในที่สุดกลยุทธก็กลั้นใจถามกลับไป

“ตอนแรกก็จะหลอกฟัน แต่ตอนนี้ชักอยากจริงจัง แล้วคุณว่าไง”

“ถ้าคุณให้ผมเก็บอีกคนหนึ่งไว้ได้ ผมก็ว่าน่าสนใจนะครับ” กลยุทธหยอกคืนกลับไปบ้าง

“งั้นลุกขึ้นค่ะ ไปเลยดีกว่า”

“แล้วงานที่นี่ละครับ” กลยุทธมองเอกสารทางการเงินที่อยู่บนโต๊ะมากมาย

“คุณก็รู้ว่าฉันจะมาหรือไม่มา งานในโรงงานก็เดินหน้าได้อยู่แล้ว แต่ที่ฉันมาก็เพราะอยากมากับคุณ อยากอยู่กับคุณตามลำพัง และถ้าไม่อ้างงานคุณก็จะปฏิเสธฉันอีก”

เมื่อได้ฟังกลยุทธถึงกับสลดหัวใจ ความรัก คุณรมณีย์ยอมเสียอะไรมากมายได้เพื่อหัวใจของเธอเลยหรือ

เมื่อออกจากประตูห้อง กลยุทธเดินตัวลอยๆ ใจหวิวๆ ไปยังรถคันหรูของหญิงสาวที่จอดอยู่ เมื่อราวสองโมงเช้าคุณรมณีย์มารับที่บ้าน กุลกัญญาได้ของฝากเป็นเสื้อผ้ารองเท้าและเครื่องประดับราคาแพงเหมือนเคย ตัวเขาเอง คุณรมณีย์ก็มีชุดลำลองตีตราต่างประเทศมาหยิบยื่นให้ เขาอยากจะปฏิเสธ แต่เธอก็ว่า

“งานที่ไปไม่ได้ให้โอที แค่อยากให้ไปเป็นเพื่อน รับไว้เถอะค่ะ”

กี่ครั้งแล้วนะที่เธอเอาเรื่องงานมาอ้างเพื่อให้ได้อยู่กับเขาตามลำพัง เสียงซุบซิบนินทาในบริษัทถึงมันจะหนาหูมากแค่ไหนเธอก็ไม่เคยสนใจ พบหน้ากันทีไรเธอจะมีรอยยิ้มกว้าง ชมว่างานในส่วนของเขานั้นดีจนหาที่ติไม่ได้

“คิดอะไรอยู่หรือคะ”

เมื่อเขาขับรถออกจากโรงงานย่านอำเภอพระพุทธบาท มุ่งสู่อำเภอเมืองจุดมุ่งหมายคือแยกสู่อำเภอวิหารแดง อำเภอบ้านนา และเมืองนครนายก

“คะ คือ เราไม่ได้เอาเสื้อผ้ามานะครับ คุณจะพักค้างจริงๆ หรือผมว่าเรากลับบ้านดีกว่านะครับ”

“ทำไมคะกลัวภาพบาดตาตำใจหรือไง”

“ประมาณนั้นครับ”

กลยุทธรับสมอ้าง หากว่ามาลีจะเลือกนายชัชชัยลูกเศรษฐี วันนั้นเธอเลือกเขา แต่วันนี้เธอมากับหมอนั่นมีกุลกัญญามาด้วย หรือเป็นเพราะเกรงใจกุลกัญญา กลยุทธยังไม่ปักใจเชื่อว่ามาลีเป็นอื่น

“ตั้งแต่รู้จักกัน รมมี่ไม่เคยเห็นเขามีแฟนหรือแคร์ใคร เอาแต่ใจตัวเองน่าดู ว่ารมมี่หนักแล้วเขาหนักกว่า รมมี่เคยออกเดทกับเพื่อนชายหลายเชื้อชาติ พี่ไทยก็มี แต่เขาไม่เคยเลย เคยถามเขาว่าเป็นเกย์หรือเปล่า เพราะเขาไว้ผมยาว มือไม้เรียวอย่างมือกับผู้หญิง ผิวพรรณหน้าตาสะอาด ทำอะไรชักช้ามีลีลาพลิ้วไหว
เขากลับมาเรียนต่อตรีที่เมืองไทย รมมี่คิดว่าเขาคงมีแฟนเป็นพวกลูกไฮโซด้วยกัน แต่ที่ไหนได้ เขาบอก รมมี่ว่า เขารักผู้หญิงคนนั้นมาก หากรมมี่เห็นเขาเป็นเพื่อน อย่าทำอะไรรุนแรง”

“รุนแรง” กลยุทธทวนคำพลางหันหน้ามาหาหญิงสาว

“ในเกมหัวใจ คุณคิดว่ารมมี่น่าจะปล่อยมาลีไปไหมล่ะ”

เมื่อได้ยินกลยุทธขนลุกขึ้นมาทีเดียว เขากับมาลีบางทีทำเหมือนคุณรมณีย์เป็นหัวหลักหัวตอ

“เมื่อคราวที่เลดี้วีคติดต่อให้รมมี่ถ่ายรูปเก็บเรื่องเล็กๆในมุมมองผู้หญิงทำงานที่บ้านรมมี่ เขามาเป็นช่างกล้อง เราคุยกันยืดยาว รมมี่ถามเขาว่าถ้าเค้าเป็นรมมี่เค้าจะทำอย่างไร”

กลยุทธจ้องอยู่ที่ถนน เขาเริ่มรู้แล้วว่า คำว่า ‘อิทธิพล’ ของคนมีเงินนั้นยากเลี่ยงหลบ

“ทำให้เป็นอุบัติเหตุหรือทำให้อับอายง่ายนิดเดียว แต่รมมี่เห็นแก่เขา แต่อีกใจหนึ่งรมมี่ก็นึกสนุก นึกถึงคนกลางอย่างคุณ บางทีรมมี่ก็คิดว่า เงินซื้อคนได้ไหม

ระหว่างตัวกับหัวใจรมมี่อยากได้อะไร รมมี่เริ่มสนุกขึ้น เมื่อคิดดีๆ ชัชชัยเขาบอกว่า หน้าที่ของเราคือทำให้เขารัก ความรักเป็นเกมอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นพวกเอาแต่ใจตัวอย่างพวกเรา จึงต้องเล่นเกม”

ถึงไม่ได้สารภาพรักออกมาตรงๆ แต่กลยุทธก็รู้แล้วว่า คุณรมณีย์รักเขามากแค่ไหน แล้วเขาล่ะ ไม่มีคำถามสำหรับเรื่องเล่านั้น กลยุทธนิ่ง คุณรมณีย์ม่อยหลับไป จนกระทั่งรถถึงแยกเข้าตัวเมืองนครนายก เขาแวะปั๊มน้ำมัน คุณรมณีย์ตื่นขึ้นมา

“ถึงนครนายกแล้ว เข้าห้องน้ำก่อนดีกว่าครับ”

เขาเปิดประตูรถออกไป โทรศัพท์มือถือของรมณีย์ดังขึ้น

“ถึงไหนแล้ว อยู่ในปั๊ม ปตท.ตรงไหนก็ไม่รู้” รมณีย์มองซ้ายมองขวา จนกระทั่งสายตาของเธอไปเห็นชัชชัยอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ

“คงอยู่ในปั๊มเดียวกันแหละ เห็นแล้วๆ”



เมื่อออกมาจากห้องน้ำ กลยุทธก็พบว่ามาลีกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำหญิงเช่นกัน

“คุณยุทธ”

“มาลี”

คนทั้งคู่มองหน้ากัน

“มาได้อย่างไรคะ”

“ก็คุณชัชชัยชวนมา”

พูดแล้วกลยุทธก็ถอนหายใจออกมา หากให้เขาตัดใจจากมาลีในวันนี้ เขาทำไม่ได้แน่

“สีหน้าไม่ดีมีอะไรไหม”

“กุลกัญญาอยู่ไหนเป็นไงบ้าง”

“หลับอยู่หลังรถ”

“แล้วงานของกุล”

เขาพยายามชวนคุยในเรื่องของอีกคน เพราะเรื่องระหว่างเขากับมาลีนั้น ถ้าไม่ใช่เรื่องหัวใจ เขาก็ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร

“เอาไว้ถามเจ้าตัวดีกว่า ฟังซ้ำๆ คุณคงไม่ตื่นเต้น”

พูดแล้วมาลีก็เลี่ยงไปทางร้านสะดวกซื้อ ในสายตาของกลยุทธพบว่า ที่หน้าร้านคุณรมณีย์ยืนพูดจาหน้าตายิ้มแย้มอยู่กับเพื่อนหนุ่มของตนเอง แล้วเขาก็อดคิดไม่ได้ ทำไมคนทั้งคู่ไม่รักกันเองให้สมฐานะ ไยทั้งคู่ถึงได้มาเลือกที่จะพรากเขากับมาลีออกจากกัน ใจมันทุกข์จึงยากที่จะปั้นหน้าให้สุขได้ เมื่อเดินเข้าไปร่วมวงตามมารยาท เขารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก

“คืนนี้ผมเปลี่ยนใจพักที่โฮมสเตย์ อยากแกล้งคุณหนูสักหน่อย”

ชัชชัยหันมาหากลยุทธ พร้อมหัวข้อมาสนทนาแก้เก้อได้ดีทีเดียว

“ผมอะไรก็ได้ครับ แล้วกุลเป็นอย่างไรบ้าง”

“คุยแจ้วๆ มาจนถึงอำเภอองครักษ์ ให้ผมแวะดูตลาดดอกไม้ที่คลองสิบห้า บอกว่าอยากเห็น”

“เขาชวนผมมาหลายครั้งแล้ว แต่วันหยุดทีไรไม่ว่างสักที”

“ว่ารมมี่หรือเปล่า”

“บางทีผมก็คิดว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องมา ซื้อต้นไม้แถวๆ บ้านก็ได้ ก็เลยผัดผ่อนไป เรื่องจำเป็นอีกคน บางทีมันก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเรา อาจจะไปขัดใจเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัวได้ อย่าฟังคนธรรมดาอย่างผมเลยครับ ผมขอตัวไปดูอะไรข้างในหน่อย”

เมื่อกลยุทธผลักประตูเข้าไปในร้านแล้ว ชัชชัยก็จ้องหน้ารมณีย์ ที่มีสายตาทอดไปยังขุนเขาสีเขียวเบื้องหน้า

“วันนี้เล่าอะไรให้เขาฟังเยอะแยะเลย รู้สึกแย่เหมือนกันนะชัช รักเขาแต่เขาไม่รักตอบ”

“มั่นใจว่าเลือกเขาไม่ใช่หรือ”

“เขารักมาลี พร้อมกัดก้อนเกลือกินด้วยซ้ำ”

“มาลีก็ดูชอบเขา หรือเราจะปล่อยให้เขาไปด้วยกัน”

“ไม่ ไม่ปล่อย รักแล้ว ถอยไม่ได้”

รมณีย์พูดตรงๆ ทำหน้าบึ้งๆ แล้วยิ้มๆ จนกระทั่งชัชชัยต้องปล่อยก๊ากตามไปด้วย

“รักแล้วถอยไม่ได้ ชอบประโยคนี้จังเลย ซื้อต่อนะ”

“จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริปนี้ด้วยละกัน บ้านพัก อาหารอะไรก็แล้วแต่”

“ได้ๆ อยู่แล้ว ว่าแต่เพื่อนเถอะ จะทนอารมณ์เถื่อนผมได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง”

“ถ้ามาลีได้ รมณีย์ก็ได้”

“แล้วคุณจะได้รู้เองว่า คนของผมอึดขนาดไหน”



เมื่อได้เสื้อผ้าและเครื่องอาบน้ำชำระร่างกายตามความต้องการของคุณรมณีย์แล้ว กลยุทธก็ขับรถตามรถของชัชชัยที่มีมาลีนั่งไปเพียงลำพัง ด้วยรมณีย์นั้นชวนกุลกัญญามานั่งด้วยกัน ทำนองว่าอยากให้คนทั้งคู่ได้อยู่กันตามลำพัง เขาจึงได้แต่นิ่งเงียบ แสดงออกมากไป ก็จะเป็นการทำร้ายจิตใจคุณรมณีย์ หากนิ่งเงียบจำนนต่อการชักนำมาลีก็ไม่พอใจ

รถของชัชชัยแล่นไปด้วยความเร็วพอประมาณ ในความรู้สึกของกลยุทธนั้นร้าวรานพอๆ กับเวลาที่ค่อยๆ เคลื่อนไป กุลกัญญานั้นเล่าถึงงานที่คุณแม่ของชัชชัยชื่นชมให้รมณีย์ฟังด้วยน้ำเสียงมีความสุข แล้วในหูของเขาก็ได้ยินรมณีย์ชวนกุลกัญญาไปช็อปปิ้งที่ฮ่องกง กุลกัญญาดีใจยกใหญ่ เขาเองก็อยากไป แต่เมื่อนึกเงินรายได้และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ยากจะหลีกหนี จำต้องถอนหายใจออกมา ถ้าคุณรมณีย์ชวนอย่างไรเขาจะต้องปฏิเสธ ถ้าไปด้วยกันถึงฮ่องกงเป็นข่าวใหญ่แน่ๆ
เมื่อถึงบ้านพักซึ่งอยู่กลางสวน รมณีย์ก็ถึงกับหน้าเจื่อนลง

“ที่ไหนเนี่ยชัช”

ชัชชัยที่ลงจากรถแล้วบิดขี้เกียจถึงกับหัวเราะใส่รมณีย์ด้วยใบหน้าเยาะเย้ย

“โฮมสเตย์ไง พักบ้านคุณลุงอินทร์กับป้าสว่าง เมื่อก่อนเคยให้ลุงเขานำทางไปน้ำตกในป่าก็เลยสนิทสนมกัน เหงาๆ เบื่อๆ อยากเที่ยวป่า ก็มาที่นี่แหละ”

“ที่อื่นก็มีไม่ใช่เหรอ รีสอร์ตเต็มไปหมดไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ แต่คุณพูดเองนะว่าอยากมาด้วย”

“แต่”

ไม่เฉพาะรมณีย์ กุลกัญญาเองก็เหลียวซ้ายแลขวาด้วยสีหน้าตระหนก

“แกล้งกันใช่ไหม แกล้งกันแน่ๆ เลย” รมณีย์ยังพยายามทำให้เป็นเรื่องสนุก
ในสายตาของกลยุทธนั้น มาลีเองก็กวาดสายตามองไปยังตัวบ้านไม้สองชั้นและตัวสวนผลไม้ด้วยความสนใจ แต่วันนี้มาลีคงไม่ออกความเห็นอะไรหรอก ขณะที่สายตาของเขาทอดไปหามาลีนั้น หญิงสาวก็ทอดสายตามาหาแล้วหลบวูบ พอดีกับเจ้าของบ้านเดินออกมาจากสวน ชัชชัยยกมือพนมไหว้ ทุกคนจึงต้องรีบทำตาม

“มากันเยอะเลย ลุงเขาอยู่ในสวน”

“ผ่านมาก็เลยแวะมาเยี่ยมครับ”

ว่าแล้วชัชชัยก็กดรีโมทเปิดท้ายรถ แล้วเดินไปหยิบถุงพลาสติกที่บรรจุของจำพวกเครื่องดื่มชนิดชงมาให้

“เอาอะไรมาฝากป้าอีก”

“รับไว้เถอะครับป้า เล็กๆ น้อยๆ”

เจ้าของบ้านรับไว้พร้อมกับให้ศีลให้พร ชัชชัยเองก็ได้แต่ครับๆ ถามสารทุกข์สุกดิบกัน จนกระทั่งป้าสว่างเอยประโยคที่ผู้ใหญ่ชอบถามคนที่ยังไม่ได้แต่งงาน

“แล้วคนไหนแฟนคุณ”

รมณีย์หัวเราะหวานๆ ออกมา กุลกัญญาเองก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และไม่มองหน้าใครทั้งนั้น กลยุทธเองก็ถึงหันไปทางอื่นเช่นกัน มาลีเมื่อรู้ว่าตนติดบ่วงแน่จึงรีบถลึงตาแยกเขี้ยวเข้าใส่ชัชชัย แต่เจ้าตัวทำเป็นไม่รู้ไม่เรื่อง โดยตอบป้าไปว่า

“ป้าคิดว่าน่าจะเป็นคนไหน”

ทีนี้ทั้งรมณีย์และกุลกัญญา ที่อยู่ในชุดกระโปรงพลิ้วรองเท้ารัดส้นทันสมัย ต่างพากันหันกลับมาหาคุณป้าพร้อมโปรยยิ้มให้เหมือนประกวดนางงามทีเดียว คนต้องทายเริ่มมองหน้าทีละคน จนกระทั่งไปจบลงที่สาวร่างสูงโปร่งในชุดกางเกงยีนเสื้อยืดหน้าตาจิ้มลิ้มธรรมดาๆ

“คนนี้ใช่เปล่า” แล้วป้าก็ชี้ไปยังคนที่มีสีหน้าไม่ค่อยเหยียดจน
ชื่น เหมือนรูปหน้าที่สะสวยนั่น

“ผมใช่เขา แต่เขาไม่ใช่ผม” ชัชชัยยังพูดเอาทำนองขอความรัก

“อย่าไปฟังเขาป้า เขาพูดเล่น” มาลีรีบแก้ตัว โดยไม่ได้มองว่ากลยุทธมีสีหน้าอย่างไรบ้าง

เมื่อมอบอาหารเสริมให้ป้าแล้ว รถของชัชชัยก็พาเคลื่อนออกจากบ้านป้าสว่าง โดยมีมะยงชิดถุงใหญ่เป็นของฝากคุณแม่ของเขา


เมื่อรถแล่นออกมาแล้ว สายตาของมาลีก็จับอยู่ที่ทิวเขาด้านหน้าและด้านข้าง โดยทำเหมือนว่านั่งมาคนเดียว

“คิดอะไรอยู่”

“อยากกลับบ้านที่อุ้มผาง เบื่อชีวิตในกรุงเทพฯ แล้ว”

“อยากไปเมืองนอกไหม”

เมื่อได้ยินคำถามมาลีหันกลับมาทำหน้าบึ้งใส่ทันที เขาจะยั่วเธอไปถึงไหนกัน รู้ทั้งรู้ว่าอย่างอีมาลีนี่ไม่มีปัญญาไปไหนอยู่แล้ว ยังถามมาได้

“เป็นอะไร ถามแค่นี้ก็โกรธ”

“คุณก็รู้ว่าฉันเป็นอย่างไรแล้วจะถามทำไม ถามแล้วได้อะไรขึ้นมา แล้วเรื่องฟงเรื่องแฟนนี่อีก บอกแล้วใช่ไหม ว่าแค่เพื่อนเท่านั้น แต่คุณกับคุณรมณีย์ก็พยายามจะให้ฉันยอมรับ”

เมื่อได้ระบายแล้ว มาลีจึงยั้งสติที่ขาดผึงไว้ไม่ได้

“พวกคุณเห็นฉันเป็นของเล่นใช่ไหม นึกอยากมาก็มา อยากไปก็ไป อยากให้ฉันเป็นอย่างไร คุณก็หาคนที่ฉันต้องเกรงใจมาตะล่อม สนุกนักหรือ สนุกนักหรือไง”
เสียงของมาลีดังขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายบ่อน้ำตาก็แตกทะลัก

“เป็นเพราะฉันมันจน เป็นเพราะฉันมันโง่ เป็นคนเซ่อซ่า เป็นเด็กบ้านนอก จึงถูกพวกคุณปั่นหัว”

มาลียกขาเรียวยาวในกางเกงยีนขึ้นมาบนเบาะนั่งทั้งสองข้าง
หลังมือทั้งสองข้างก็ทำหน้าที่ปาดป้ายน้ำตาที่ทะลักออกมา เสียง ‘ฮือๆ’ แสดงความเสียอกเสียใจ ต้องทำให้ชัชชัยต้องผ่อนแรงรถให้ช้าลง

“ใจเย็นๆ เป็นอะไร”

“ไม่ต้องมาพูดเลย”

ตะคอกกลับไม่พอ มาลียังใช้มือทุบไปที่หัวไหล่เขาอย่างแรงหนึ่งที ชัชชัยนิ่งเงียบ มองถนนข้างหน้าพร้อมกับอ้าปากหวออย่างคนที่คิดหนัก

เสียงสะอื้นยังดังไม่หยุด จากที่ตั้งใจจะเลี้ยวเข้ารีสอร์ต ชัชชัยจำต้องวิ่งตรงไปยังทางเขื่อนขุนด่านปราการชล โดยเพิ่มความเร็วของรถอีกนิดเพื่อไม่ให้คันที่ขับตามมาผิดสังเกต

เมื่อร้องไห้จนหนำใจแล้ว มาลีก็รับกระดาษทิชชูจากมือเรียวสะอาดของเขา มาเช็ดน้ำตา ชัชชัยไม่พูดอะไร มาลีเองก็เขินที่เผลอสติระบายความอัดอั้นตันใจออกไปอย่างลืมตัว

เมื่อรถไปหยุดยังจุดชมวิวบนสันเขื่อน ชัชชัยก็เปิดประตูลงไปยืนบิดขี้เกียจเหมือนเคย มาลีมองภาพนั้นแล้วอยากจะตุ๊ยท้องที่เห็นไรขนนั่นสักที

เมื่อถอนหายใจกลั้นสะอื้นเฮือกใหญ่แล้ว มาลีก็เปิดประตูรถแล้วเถลไถลเดินออกไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับรถอีกคัน ที่แล่นตามมาแล้วจอดคู่กัน

“มาลีเดินไปไหน” กุลกัญญามองตามไปแล้วเปรยออกมาเบาๆ

“แดดยังแรงนะกุล อย่าเดินตามเขาไป” กลยุทธแสดงความเป็นห่วงน้องสาว
แม้จะเกือบห้าโมงเย็น แต่ด้วยเป็นฤดูร้อนแสงแดดบนท้องฟ้าจึงยังเปล่งแสงเต็มที่
เมื่อลงจากรถมาแล้ว รมณีย์จึงให้กลยุทธใช้รีโมทเปิดกระโปรงท้าย เพื่อหยิบร่มออกมาให้กุลกัญญาและตัวเอง

มาลียังคงเดินเรื่อยๆ ไปยังสันเขื่อน ส่วนชัชชัยก็ยืนเล็งเลนส์ไปยังทิศทางต่างๆ ก็เขาบอกแล้วว่าเขามาทำงาน ดังนั้น คนสามคนที่อยู่ตรงนี้ จึงต้องหามุมที่ทำให้ตัวเองมีชีวิตชีวาขึ้นมาเอง

“ไปดูตรงสันเขื่อนไหมครับ”

กลยุทธถามคุณรมณีย์ซึ่งยืนจ้องไปยังท้องน้ำสีครามที่ล้อมไปด้วยภูเขาสีเขียว เป็นเพราะบารมีของพระเจ้าอยู่หัวจึงทำให้ชาวไทยมีน้ำกินน้ำใช้ และมีแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ

“ไม่ดีกว่าค่ะ ร้อน”

ใจจริงนั้นหญิงสาวอยากดูว่าเขาจะเดินตามมาลีไปหรือเปล่า แล้วเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ เมื่อเห็นเขาเดินไปยังทิศทางนั้น รมณีย์ก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดจนลึก

กุลกัญญามองตามหลังพี่ชายที่เดินไปยังทิศทางสันเขื่อนที่สามารถมองเห็นวิวด้านล่าง แล้วมองดูชัชชัยที่เล็งเลนส์กล้องด้วยใบหน้าไม่สดชื่นนัก แม้แต่คุณรมณีย์ที่ทอดสายตาไปยังท้องน้ำกว้างนั่นอีก

‘ใจ’ ของพวกเขาทั้งสี่คนเป็นอย่างไรบ้างนะ เธออยากรู้จริงๆ


เมื่อดวงตาได้เห็นทิวเขา ป่าไม้ และสายน้ำที่ไหลออกจากเขื่อนไปสู่เบื้องล่าง มาลีจึงรู้สึกสดชื่นขึ้นมา แต่เมื่อสายตาเห็นกลยุทธเดินฝ่าแสงแดดที่ลดกำลังลงมาหา แล้วมาหยุดยืนข้างๆ พร้อมเกาะราวเหล็กตามด้วยสูดลมหายใจเข้าปอดจนลึก มาลีก็เริ่มอึดอัดใจ

“อากาศดีเนอะ” เขาชวนคุย

มาลีไม่กล้าสบตา เพราะกลัวว่าเขาจะเห็นว่าเธอมีหูตาบวมมีคราบน้ำตา แล้วเธอจะบอกกับเขาว่าอย่างไร ด้วยตนเองนั้นพอรู้ใจตัวเองอยู่แล้ว ว่าเพิ่มน้ำหนักหัวใจเทไปให้ใครมากน้อยแค่ไหน

แต่เมื่อเห็นใบหน้าอมทุกข์ของเขา มาลีก็อดสงสารขึ้นมาไม่ได้

“บางทีผมก็ต้องการกำลังใจเพื่อสู้กับชีวิตเหมือนกันนะมาลี” เขาเปรยออกมาเบาๆ มาลีนิ่งฟัง

“เมื่อก่อนผมมีน้องสาว มีกุลเป็นแรงใจให้สู้ ให้ผมทำงานหนัก

หามรุ่งหามค่ำก็เพื่อเขาคนเดียว แต่เมื่อสองเดือนก่อนผมได้เจอะคุณ คุณทำให้ผมมีความคิดที่เปลี่ยนไป ผมเคยคิดว่าผมจะไม่มีใคร เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครทนรับสภาพอันหนักอึ้งของผม ที่จะอยู่กับผมไปตราบชั่วอายุของกุลได้ จนผมได้พบว่ามาลีเป็นผู้หญิงคนนั้น ที่ทั้งถูกใจและน่าจะทนผมสภาพผมได้”

กลยุทธหยุดพูดมองออกไปยังทิวทัศน์เบื้องหน้า พลางใช้มือเคาะเบาะๆ ที่เหล็กกั้นเป็นเชิงเพิ่มความมั่นใจและระบายความอัดอั้นออกมาด้วย

“ผมเจอคุณรมณีย์ก่อน เขาเข้ามาในชีวิตผมก่อน ผมไม่เคยคิดจะเลือกเขา ผมเจียมตัวเองว่าเขาเป็นใครและผมเป็นใคร มาลีสู้คุณรมณีย์ไม่ได้สักอย่างเดียว แต่ผมรู้สึกว่าผมต้องการแค่นี้ แล้วแค่นี้ของผมก็กำลังหลุดลอยไป ผมดีใจกับคุณนะมาลี ผมคงไม่รั้งคุณไว้”

“คุณยุทธ”

“คุณแค่สงสาร แค่เห็นใจ แค่อะไรสักอย่างที่ผมทำให้คุณไขว้เขว”

“ฉัน”

มาลีอ้ำอึ้ง เมื่อเขามาพูดอย่างนี้ก็หมายความว่าเธอกับเขาต้อง ‘จบ’ กันแล้วอย่างนั้นหรือ

“อย่างไรผมก็ยังเหมือนเดิมนะมาลี ตอนนี้ผมให้คุณตัดสินใจแล้วกันว่าอยากจะรักใคร แต่ถ้ามาลีเลือกผม ผมคงให้ความสุขมาลีไม่ได้เท่าเขา”
พูดจบคุณกลยุทธผู้ชายร่างสูงสมส่วนก็เดินจากมาลีไป
แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ไม่ได้คิดวิ่งตาม

ถ้าเขาอยากให้เธอได้พบกับคนดีๆ มีฐานะ เธอเองก็อยากให้เขาได้พบคนดีๆ มีฐานะและรักเขาจริงเหมือนกันบ้าง


เมื่อรู้ว่าห้องพักของตนกับกุลกัญญาอยู่ตรงไหน มาลีก็รีบยกกระเป๋าของตนและกุลกัญญามุ่งตรงไปทางนั้น โดยไม่ได้สนใจว่า คนที่ยืนอยู่ข้างหลังจะรู้สึกอย่างไร กุลกัญญาวิ่งตามมาด้วยสีหน้ายินดีมีความสุข

“คุณชัชพักห้องหนึ่ง คุณรมณีย์ห้องหนึ่ง พี่ยุทธคนเดียวห้องหนึ่ง เราสองคนห้องหนึ่ง บอกไว้ กลัวมาลีเข้าใจพี่ชายกุลผิด”

“หมดเวลาแล้วกุล ตอนนี้เรากับพี่ยุทธไม่มีอะไรกันแล้ว”

“จริงอ่ะ” กุลกัญญามีสีหน้าตกใจ

“มาลีเลือกคุณชัชอย่างนั้นหรือ”

“ไม่เลือกใครทั้งนั้นกุล มันยังไม่ถึงเวลา มาลีแค่สิบเก้าย่างยี่สิบ เรียนก็ยังไม่จบ ความรู้ไม่มี ฐานะหน้าที่การงานไม่มั่นคง แถมยังมีน้องมีแม่ต้องเป็นภาระอีก เพราะฉะนั้นเรื่องหัวใจคงอีกนาน”

“แบบนี้พี่กุลก็อกหักซิ สงสารพี่ยุทธจังเลย”

“ถามจริงๆ เถอะกุล กุลอยากได้มาลีเป็นพี่สะใภ้เพราะอะไร”

“เพราะ” กุลกัญญานึกหาคำตอบที่ฟังแล้วดูดี

“ไม่ตอบก็ได้นะ” ว่าแล้วมาลีก็ล้มตัวลงนอน กุลกัญญาเดินไปเปิดแอร์ทั้งที่อากาศกำลังเย็นสบาย

“โปรแกรมมีอะไรบ้างนะ เดี๋ยวออกไปถามคุณชัชก่อนแล้วกัน”

เมื่อกุลกัญญาออกจากห้องไปแล้วมาลีนอนลืมตาโพลง กุลกัญญาต้องการเพียงร้อยเธอไว้เป็นเพื่อนชั่วคราวเท่านั้น หากการตัดสินใจของคุณกลยุทธมีกุลร่วมตัดสินใจด้วย อย่างไรเสียกุลกัญญาก็ต้องเลือกทางรมณีย์แน่นอน แล้วเธอจะทนให้เขามาบงการชีวิตได้อย่างไร

เมื่อเห็นปัญหาในการอยู่ใกล้ๆ กัน มาลีเริ่มนึกถึงการขยับขยายที่อยู่ อยู่กับนันทาก็อึดอัด ไม่รู้ว่าคิดอะไร คิดจะแต่งงานหรือเปล่า เผื่อมีใครที่ไหน จริงๆ เขาอยู่คนเดียวก็ต้องการความเป็นส่วนตัว

มาลีนึกถึงเงินในบัญชีธนาคาร นึกถึงการออกจากงานที่ทำ ออกจากบ้านไปอยู่หอพักหน้าราม หางานพิเศษทำแถวๆ นั้น ให้นิวัฒน์ช่วย เปลี่ยนสังคมไปเลย
ไม่มีทั้งคุณกลยุทธ ไม่มีชัชชัยที่อ้างว่ามาหานันทาแล้วก็มาวอแวกับตน ไม่มีภาระเรื่องพากุลกัญญาไปเรียน หรือเป็นแม่สื่อให้กุลกับนิวัฒน์ มันน่าจะดีกว่าเกี่ยวพันกันยุ่งเหยิงอยู่อย่างนี้

เมื่อคิดว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางใด มาลีก็เริ่มสนุก ชีวิตที่เป็นอยู่มันยังสู้ไม่ยิบตา มันบ้าไปกับอำนาจของหัวใจ มันเลยทุกข์เลยใช่เหตุ เพราะฉะนั้น เธอจะเอาแค่ชีวิตเธอแม่และน้องเท่านั้น ตราบใดที่ยังไม่ได้ดี เธอจะไม่มีทางคิดถึงเรื่องหัวใจอีกเด็ดขาด




จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ต.ค. 2555, 11:39:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ต.ค. 2555, 11:39:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 2463





<< 30.“ครับพี่ วันนี้ผมไม่ได้กลับบ้านนะครับ”   32.“มาลีรักผมหรือเปล่าล่ะ” >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 25 ต.ค. 2555, 11:40:05 น.
ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจนะครับ /// ม่านพรหม เป็นเล่มแล้วนะครับ ฝากสนับสนุนผลงานเรื่องนี้กับนามปากกา เฟือ่งนคร ด้วยนะครับ //วันเสาร์ที่ 27 มิตติ้งเว็บเลิฟแล้วเจอกันนะครับ


nateetip 25 ต.ค. 2555, 12:01:39 น.
ยิ่งอ่านยิ่งสนุกค่ะเรื่องนี้..สนุกขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะ ชอบค่ะ


saralun 25 ต.ค. 2555, 13:17:37 น.
เป็นกำลังใจให้ค่า ^^


ปอยอะนะ 25 ต.ค. 2555, 20:14:14 น.
อยากเกิดใหม่ใช้ชีวิตแบบมาลีจัง
อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกตัวเองไม่มีหัวคิดเลยพับผ่า


Orathai 26 ต.ค. 2555, 08:39:54 น.
มาลีคิดดีแล้วละ...อายุยังน้อยย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account