พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว # จุฬามณี (ลิขสิทธิ์ สนพ.มายดรีม)
เรื่องย่อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว

เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..

วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..

หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..

มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..

ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ

และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ

กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...

ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..

และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..

Tags: รักสามเส้า เราสามคน

ตอน: 33.“มันทนอยู่ไม่ได้เลยหรือ”

33.

ตรีทศถึงกับผงะ จากโทรศัพท์มือถือของเพื่อนร่วมงาน เมื่อเห็นภาพนายแบบที่ชนะการประกวดจากจีผับ วิจักษ์ตัดสินใจทำอย่างนี้ได้อย่างไร อารมณ์ทำงานเคยเต็มที่เริ่มหดหาย ไฟลท์ ไปกลับ กรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง-กรุงเทพฯ ในวันนี้เขาอยากให้มันจบลงโดยเร็วที่สุด

มันมีคำถาม มันมีความหวัง

เมื่อวิจักษ์กล้าเข้าถึงในนั้น เมื่อมีคนพาวิจักษ์เข้าไปถึงตรงนั้นได้ แสดงว่าวิจักษ์เองก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา

แล้วเขาจะกลัวอะไรอีก เรือนกายกำยำคือสิ่งที่เขาต้องการจากเด็กหนุ่มคนบ้านเดียวกันเช่นกัน หากแต่ว่าวิจักษ์ไม่เล่นด้วย วิจักษ์คงเลือกเดินออกไปจากชีวิตของเขา

“หน้าตาไม่ดีเลยเป็นไรวะ ไม่สบายเปล่า ลาป่วยบ้างก็ได้นะโว้ย”

ตรีทศค้อนให้ แต่เพื่อนที่รู้ใจก็ยังไม่เลิกปากหมา “ได้ข่าวว่าเลี้ยงเด็กๆ ไว้ในบ้านจริงหรือเปล่าว้า”

“จริง” ตรีทศรับสารภาพ

“ถึงว่าดูโทรมๆ ทำงานบนฟ้าก็หนักพอแรงแล้ว บนเตียงก็อย่าหักโหมมาก เดี๋ยวจะน็อคคาสนามซะก่อน”

“ว่าแต่เค้า ดูสารรูปตัวเอง ตกลงเก็บตกเด็กจากเวทีนี้กี่คน”

“ได้ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเวทีก็หลายคน แต่ที่ได้ที่หนึ่งนี่ไม่รู้ว่ามาจากแหล่งไหน เห็นแต่วงในเค้าคุยกันว่ายังเวอร์จิ้น แม่งโคตรอยากทุ่มจังเลยว่ะ น่ารักโคตรๆ” คนตอบพูดได้หน้าตาเฉยมาก

ด้วยมีเงินทองเข้ามา ด้วยมีพวกหมู่แนะนำ ทำให้ตรีทศคล้อยตามและหาความสุขให้กับตัวเองบ้างเป็นบางครั้ง ธรรมชาติสร้างมนุษย์มาพร้อมกับกาม เมื่อทนไม่ได้ก็ต้องกระโจนลงไปปลดเปลื้อง

แต่ถึงอย่างไรในทุกๆ วัน เขาก็ยังมองหาใครสักคนที่รักเขาจริง จนคิดอยู่กันไปยืดยาว เป็นเพื่อนที่รู้ใจถึงยามแก่เฒ่า มีเรา มีกันและกัน ลดความเหน็บหนาวในหัวใจ แต่ถ้าหาแบบที่ต้องการไม่ได้ ผ่านมาแล้วผ่านไป แค่สุขร่วมกันครั้งคราวแล้วจากไป ไม่ทุกข์ไม่ผิดหวังไม่ช้ำใจ จะวางวิจักษ์ไว้ที่ตรงไหน น้องรักหรือที่รัก


เมื่อเห็นเป็นเบอร์ของตรีทศ วิจักษ์รีบกดรับสายแล้วผงะออกไปจากนันทาและพี่ต้น แต่ถึงกระนั้นเสียงอึกทึกก็ยังดังเข้ามาในเสียงโทรศัพท์

“อยู่ที่ไหนเสียงดังจังเลย”

“โบว์ลิ่งครับ”

“มีเงินเข้าโบว์ลิ่งเลยหรือ”

น้ำเสียงตรีทศคล้ายคนที่ตกใจ วิจักษ์เลี่ยงออกมาจากห้องที่อึกทึก โดยมีสายตาของพี่ต้นและนันทามองตามหลัง

“บอกตามตรงนี่พี่ต้น คนบ้านเดียวกันกับหนู แล้วหนูสนใจเค้าเป็นกรณีพิเศษด้วย”

“อยากเป็นเจ๊ดันว่างั้นเถอะ พี่เองช่วยน้องนุ่งได้ แต่ถ้าน้องไม่นุ่งให้พี่ได้เห็นบ้าง พี่ก็มีแรงทำงาน”

“ช่วยเอาบุญสักคนแล้วกันนะพี่”

“ย่ะ เอาบุญเอาคุณมาเยอะแล้ว ตอนยังไม่ดังอะไรก็ได้ อีต้นนี่

เป็นนางฟ้าจุติลงมาเกิด เป็นแม่พระ แต่พอดังแล้ว อีต้นกลายเป็นนังมาร เป็นพวกทำนาบนหลังคน ตรูละเบื่อ”

“เบื่องานตัวเองได้หรือ ถ้าพี่ไม่อยากปั้นเขา หนูพาไปโมเดลลิ่งที่หนูรู้จักก็ได้”

“ก็ไหนๆ ก็ช่วยจากปากอีจุ๋มมาแล้วก็อยากช่วยให้ถึงที่สุด คงทำเวรทำกรรมร่วมกันมา แต่อย่างไรเธอเองนั่นแหละนันทา เจียมใจไว้ให้มากกว่าพี่แล้วกัน ตอนยังไม่ดังเธอก็สำคัญกับเขา แต่พอดังแล้วเธอจะถูกถีบหัวส่ง สะกดซิ ถีบ-หัว-ส่ง”

“ไม่ต้องย้ำหรอกพี่ ถึงถูกถีบหัวส่งก็ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยในประเทศไทยก็จะมีดาราที่มาจากอุ้มผางสักคน แค่นี้หนูก็คิดว่ามีความสุขแล้ว แต่พี่อย่าบอกเขานะว่าหนูเป็นคนที่นั่น ถ้าเขาถามก็บอกแค่ว่าเคยเรียนอยู่มหา’ลัย เดียวกันมา แค่นั้นนอกนั้นบอกไม่รู้ไม่เห็น”

“แม่ความลับเยอะ”

พอดีที่วิจักษ์มีสีหน้าไม่สู้ดีเดินเข้ามาหา

“พี่ชายผมอยากให้กลับบ้าน”

“รู้เรื่องนั้นแล้วมั้ง” พี่ต้นพูดเรื่องในจีผับ วิจักษ์ไม่ตอบคำถามนั้น พี่ต้นจึงถามต่อ

“พี่ชายแท้ๆ หรือเปล่า”

“เปล่าครับ แค่คนหมู่บ้านเดียวกัน”

“ทำงานอะไร” พี่ต้นยังคงซักอย่างไม่ต้องเกรงใจใคร

“สจ๊วต”

“ไหมล่ะ”

พี่ต้นมองหน้านันทาแล้วยิ้มๆ อย่างพอรู้กันว่า วิจักษ์น่าจะอยู่กับเขาอีกคนที่วิจักษ์พูดถึงในลักษณะไหน

“ไป นันทา พาเด็กของเธอกลับบ้าน อย่างไรก็อย่าลืมนะจ๊ะ เอาเงินจากอีจุ๋มมาให้ได้แล้วก็ลาออกจากงานซะ ถ้ามาเป็นเด็กในสังกัดของเจ๊แล้วกลัวอดตาย ก็หางานใหม่ที่มันดูดีกว่ายาม แล้วอย่าทิ้งการเรียน รามเปิดก็ไปสมัครเรียนซะ เส้นทางที่เจ๊จะพาไปหากไม่ถึงดวงดาว ก็จะได้มีอาชีพอื่นรองรับ แต่บอกไว้ก่อนนะวิจักษ์ เส้นทางสายที่นันทาหรือเธอเองต้องการ มันไม่ใช่เส้นทางที่ดีนัก เข้าไปแล้วไปไม่ถึงจุดหมาย มันก็จะกลายเป็นตัวตลกให้คนชี้คนดูเวลาเดินไปไหนๆ เรื่องธรรมดาของเธอจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ความสุขในโลกใบนี้ของเธอจะถูกจำกัดพื้นที่ลง ถ้าทำใจได้ก็ก้าวตามพี่มา แต่อย่างไรคืนนี้ไปคิดให้ดีก่อน อย่าลืมนะ เอาเงินจากอีจุ๋มมาให้ได้ ถ้าไม่ได้บอกพี่ คิดค่าทวงหนี้นิดหน่อย”

นันทาหัวเราะยกมือขอบคุณพี่ต้นพร้อมกับวิจักษ์ ก่อนจะถูกพี่ต้นเรียกให้จ่ายค่าอาหารและบริการ นันทาหันกลับมาแยกเขี้ยวเข้าใส่ทำนองว่า ‘เค็ม’ พี่ต้นก็แสยะเขี้ยวเข้าใส่ทำนองว่า หล่อนก็ ‘เกลือ’ นันทาดึงการ์ดออกมารูด พี่ต้นจึงยักคิ้วหลิ่วตาให้วิจักษ์แบบล้อเล่น วิจักษ์มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก

จนกระทั่งเดินออกมาจากห้างสรรพสินค้า

“ถ้าคิดจะอยู่ในวงการ จักษ์จะเจอแบบนี้ตลอดแหละ พวกนี้แค่ได้ลูบๆ คลำๆ เขาก็มีความสุขกันแล้ว ตกลงอยากเข้าวงการจริงหรือเปล่า ถ้ากลัว ถอยยังทันนะ”

วิจักษ์ครุ่นคิดถึงคำพูดของนิวัฒน์ ชีวิตมันจะได้มีรสมีชาติ เมื่อมีโอกาสทำไมเขาจะไม่ลองทำดู


เมื่อรถของนันทาถอยออกจากหน้าบ้านไปแล้ว วิจักษ์ก็เดินกลับเข้าบ้านด้วยหน้าตากล้าๆ กลัวๆ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขาพบว่า ตรีทศเปิดแผ่นเพลงคาราโอเกะท่วงทำนองสนุกสนาน บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟายังมีขวดเบียร์พร้อมกับแกล้มวางอยู่เคียงกัน

“อ้าว ทำไมไม่ชวนเพื่อนเข้าบ้านก่อนล่ะ”

“เขาติดธุระครับ” วิจักษ์ถือโอกาสไปนั่งลงยังโซฟาตัวตรงกันข้าม

“ไปเอาแก้วมากินเป็นเพื่อนกัน”

วิจักษ์ทำหน้าแปลกใจ

“แหมพี่ไม่ใช่คนดีเลิศหรอกจักษ์ พรุ่งนี้มีบินเที่ยวดึก ก็เลยอยากกินฆ่าพยาธิสักหน่อย”

วิจักษ์เดินเข้าครัวไปเอาแก้วจากตู้ออกมา ตรีทศตะโกนให้เอาน้ำแข็งหลอดในช่องฟรีช ออกมาใส่กระติกใบเล็กแล้วหิ้วออกมาด้วย เมื่อตรีทศดูสนุกสนานวิจักษ์จึงรู้สึกเบาใจ ตอนแรกนึกว่ามาถึงแล้วจะถูกด่าเรื่องนั้นเสียอีก หรือว่าตรีทศยังไม่รู้ แต่ถึงไม่รู้เขาก็จะบอกในวันนี้

“โทรหาไอ้วัฒน์มันบ้างหรือเปล่า มันไปถึงไหนแล้ว”

จริงๆ หลังจากที่วางสายจากวิจักษ์ ตรีทศโทรหานิวัฒน์เพื่อนยากสมัยที่เข้าเมืองกรุงมาพร้อมกันแล้ว แล้วทางนั้นก็ให้สติเขามากมาย ชนิดที่ตรีทศเองก็คิดไม่ถึง
‘ถ้าไอ้จักษ์ไม่มีดีแล้วใครที่ไหนจะกล้าพามันไปประกวด และดีของมันก็เลยทำให้มันได้ที่หนึ่งมา แม้ว่าจะเป็นที่หนึ่งบนเวทีของชาวสีม่วง ทศเอ๊ย โชคชะตาและวาสนาของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน มึงเองก็เถอะ เคยฝันไหมวะ ว่าจะมีวันนี้ มึงยังถูไถไปจนได้ อาจเป็นวาสนาของมันก็ได้ เพราะฉะนั้นดูมันไป ช่วยมันได้ก็ช่วยเอาบุญ หรือมึงอยากได้มันแล้ว ถ้ามึงอยาก มึงก็จะทุกข์เหมือนที่มึงเคยทุกข์’

ด้วยอยู่ด้วยกันมานาน ตรีทศกับนิวัฒน์จึงรู้ไส้กันทุกขด นิวัฒน์เองก็เอาตัวเข้าแลกกับเงินกับแม่ม่าย แม่ร้าง สาวใหญ่ หญิงมีสามีแล้ว แต่ใจกล้า เกย์กะเทยมาแล้วกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มันพูดเสมอว่า ของอย่างนี้ไม่ได้สึกได้กร่อน

ตรีทศเคยถามมันว่า ไม่คิดมีเป็นตัวเป็นตนบ้างเหรอ มันก็อ้างว่า ยังไม่บรรลุเป้าหมาย เป้าหมายของมันคือดาราและแค่ตัวประกอบเท่านั้น แต่กี่ปีแล้วนะที่มันมุ่งอยู่ตรงนั้น ล้มลุกคลุกคลานแต่มันก็ยืนหยัดด้วยตัวของมันเอง มันไม่เคยเอ่ยปากยืมเงินตรีทศ มากสุดคือให้เลี้ยงเพียงครั้งคราวที่มันไม่มีจริงๆ

“ก็ทะทะโทรคุยกันบ้าง” เมื่อคิดว่าจะถูกคาดเอาความจริง ใจของวิจักษ์เริ่มเต้นแรง
“ดื่มซิดื่มให้หมด”

“ผมไม่เคยเห็นพี่กิน” เมื่อตรีทศเปลี่ยนเรื่องวิจักษ์จึงเปลี่ยนเรื่องบ้าง

“ก็อยู่บ้านจะกินกับใคร อารมณ์กินมันไม่มี ก็เลยไม่กิน ไปบินได้พักผ่อนตามโรงแรม มีร้านอาหารดีๆ บรรยากาศดีๆ ก็ดื่มบ่อยไป”

“อิจฉาพี่จังเลยได้เที่ยวทั่วโลก”

“ยังไม่ทั่วเลย ยังทำแค่ไฟลท์ในแถบเอเชียเท่านั้นเอง เออเป็นไง เงินทองพอใช้ไหม”

“พะพะพอครับ”

“ขาดเหลืออะไรก็บอกพี่ได้นะ พี่ยินดีช่วยเหลือ”

“แค่นี้ก็มากไปแล้วครับ มากไปจริงๆ” วิจักษ์เริ่มอึดอัด

“เอ้าชนแก้ว”

ตรีทศหยิบแก้วเบียร์ของตัวเองชนกับแก้วของวิจักษ์ ก่อนจะยกขึ้นดื่มจนหมด เมื่อหมดแล้วเขาก็ส่งแก้วให้วิจักษ์รินอีก

“พี่เมาแล้วเป็นอย่างไร ผมจะได้เตรียมตัวรับมือถูก”

“จักษ์ล่ะเมาแล้วเป็นอย่างไรพี่จะได้รับมือถูกเช่นกัน”

“ผมอ๊ะ เมาแล้วหลับ”

ตรีทศทำเป็นไม่ได้ยินไม่ได้สนใจประโยคนั้น เพราะภาพที่นักร้องสาวเต้นเย้ายวนบนชายหาดในเพลงฮู้ลาฮู้ล่านั้น มันชวนให้มันส์จนต้องขยับเนื้อตัวตามไปด้วย

“ร้อนๆ อย่างนี้อยากไปนอนเล่นที่ทะเลจังเลย ไปไหม”

“พรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้า”

“แค่ชลบุรีใกล้ๆแค่นี้เอง ไปเถอะ ไปๆ ไปเก็บกระเป๋า เตรียมกางเกงไปเล่นน้ำด้วยนะ อยากเล่นน้ำ”

“แต่มันจะค่ำแล้วนะครับ”

“เหอะ เอาเบียร์แช่ตู้เย็น แล้วรีบขึ้นไปเก็บผ้า”

ตรีทศคะยั้นคะยอแบบชนิดที่วิจักษ์ตั้งตัวไม่ทัน แต่ถึงอย่างไรเมื่อเขาเองก็อยากไป เมื่อมีโอกาสแล้วทำไมเขาจะไม่ไป


เมื่อกลับถึงบ้าน มาลีนำของฝากไปมอบให้พี่ศรีวรรณ ซึ่งคนได้รับเมื่อเห็นของจำพวกหน่อไม้ ผักสด ผลไม้ ก็ขอบคุณเสียยกใหญ่ มาลีจึงบอกว่า คนจ่ายเงินคือคุณชัชชัย พี่ศรีวรรณจึงยิ้มกริ่มขึ้นมา

“สวีทกันจังเลย เริ่มชัดเจนแล้วมั้งว่าใครกันแน่”

มาลีนิ่งเงียบ

“ตกลงจะออกจากงานจริงๆ หรือ”

“ค่ะ ขอบคุณพี่ศรีวรรณนะคะ”

ว่าแล้วมาลีก็ยกมือพนม แล้วก้าวเข้าไปกราบที่บริเวณหัวไหล่หนาของพี่สาวใจดี
“มีอะไรปรึกษาพี่ได้นะ อย่าเก็บไว้คนเดียว”

เหมือนพี่ศรีวรรณจะรู้อะไรในใจของมาลีถึงได้เอ่ยประโยคนั้นออกมา แต่มาลีก็ตั้งใจไว้แล้วว่าตราบใดที่ยังไม่มีอะไรชัดเจน เธอจะปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
เมื่อกลับเข้าบ้าน มาลีอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมานั่งดูระเบียบการของมหาวิทยาลัยรามคำแหงรอนันทา พักใหญ่นันทาก็กลับเข้าบ้านมาด้วยสีหน้ามีความสุข

“ไปนครนายกได้อะไรกลับมาบ้าง”

“มีมะปรางไข่ ชมพู่ แล้วก็ฝรั่งสด”

เมื่อได้ยินนันทาเบ้หน้า มาลีพอรู้อยู่แล้วว่าพี่สาวของตนเองนั้นไม่ค่อยกินอะไรด้วยกลัวอ้วน แต่มาลีก็เห็นขนมยูโร่เค้ก มาลีสงสัยแต่ไม่กล้าถาม

“พี่นันทา คือ มาลีออกจากงานแล้ว”

“อ้าว ทำไมล่ะ”

“รามใกล้เปิด ก็เลยคิดว่าไปหางานทำแถวๆ หน้ารามคงดีกว่า ถ้าทำที่นี่คงไม่มี
โอกาสได้เรียนและทำงานไปด้วย”

“เหตุผลดีนี่”

“มาลีว่าจะย้ายไปอยู่หอแถวหน้ารามด้วย กำลังให้เพื่อนช่วยดูให้อยู่”

นันทาหน้าบึ้งขึ้นมาทันที มาลีพูดจาเนิบๆ แต่หนักแน่นแบบนี้หมายความว่าจะไม่แคร์เธอกับแม่งั้นหรือ

“บอกป้าหรือยัง” นันทาโยนไปให้คนที่ส่งมาลีมาหาเธอ

“ยัง ว่าจะบอกพรุ่งนี้”

“คิดว่าเอาตัวรอดได้รึ หรือว่ามีใครจะส่งเสียให้เรียน”

นันทาเริ่มคิดไปในทางไม่ดี เพราะมาลีไม่ใช่คนหน้าตาขี้เหร่นัก

“เป็นความต้องการของชัชชัยหรือพี่ชายเพื่อนเธอล่ะ”

มาลีพยายามสงบสติอารมณ์ แต่ถึงกระนั้นเธอก็อยากกวนอารมณ์นันทาคืนกลับบ้าง

“ทั้งสองคนแหละ” มาลีตอบความจริง

นันทาเบ้หน้า

“ตามใจเธอแล้วกัน แต่อย่าบอกกับแม่ฉันนะว่า ฉันไล่เธอออกจากบ้าน”

“พี่ก็อย่าบอกว่า มาลีหนีตามผู้ชายไปละกัน บอกแค่ว่ามาลีต้องการความสะดวกสบายใจเท่านั้น”

“อยู่กับฉันอึดอัดมากซิ แค่ให้กวาดบ้านถูบ้านซักผ้ารีดผ้าให้แค่นี้ เธอคงรับไม่ไหว”
มาลีไม่อยากต่อปากต่อคำ

“ขอบคุณมากนะคะ ไม่แน่มาลีอาจจะย้ายพรุ่งนี้ตอนเย็น

“เอาเถอะแม่คุณ อยากย้ายตอนไหนก็เชิญเลย” ว่าแล้วนันทาก็ลุกขึ้นลงส้น เดินขึ้นชั้นบนไป


แรกทีเดียวตรีทศตั้งใจจะไปแค่บางแสน แต่วิจักษ์บอกว่าอยากเห็นเมืองพัทยา ตรีทศตามใจ และเมื่อรถพ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์ เขาให้วิจักษ์ลองเปลี่ยนขับรถดูบ้าง วิจักษ์เริ่มสนุกกับรถเกียร์ออโต้และทักษะการขับรถบนท้องถนนกว้างที่มีรถมากมาย

เมื่อได้ที่พักริมหาดพัทยา ค่ำคืนนั้นตรีทศก็พาวิจักษ์ออกไปย่ำราตรี วิจักษ์จึงได้เห็นว่า ชีวิตในยามค่ำคืนของคนมีความหวังว่าชีวิตจะดีกว่าเดิมเป็นอย่างไร
ผู้หญิงที่ยืนเรียกลูกค้าชาวฝรั่ง ที่แต่งตัวเย้ายวนเปิดเผยกิริยาท่าทางทุกอย่างเพื่อเรียกความสนใจ และที่ย่านของชายรักชาย วิจักษ์ก็ได้เห็นผู้ชายที่มีหน้าตาผิวพรรณดีเช่นตัวเอง อยู่ในชุดกางเกงรัดรูปทั้งสั้นและยาวใส่เสื้อกล้ามเผยหุ่นให้ดูเร้าใจ

ตรีทศไม่พูดอะไร เพียงพาเขาเดินไปเรื่อยๆ แต่วิจักษ์ก็ได้คิดอะไรมากมาย จนกระทั่งถึงถนนคนเดิน วิจักษ์ตื่นตากับแสงสีและผู้คนที่เดินไปเดินมา แล้วตรีทศก็พาวิจักษ์ไปหยุดอยู่ที่ร้านซึ่งมีไฟสลัว มีเสียงดนตรีอึกทึก วิจักษ์ตื่นตาตื่นใจ เมื่อมีสาวเสิร์ฟนุ่งน้อยห่มน้อยมาบริการรินเบียร์ลงแก้ว และแทบจะประคองเข้าปาก
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง วิจักษ์ออกไปเต้นรำกับสาวโต๊ะข้างๆ อย่างสนุกสนาน จนกระทั่งเริ่มได้ที่ เขาก็กลับมานั่งหาวอย่างที่เคยบอกตรีทศไว้ว่า ถ้าเมาแล้วเขาจะง่วงนอน ตรีทศยิ้มนิดๆที่มุมปาก สายตาของเขาจับอยู่ที่ใบหน้าได้รูปจมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากที่บางเฉียบนั่น

หากว่าเขาได้เป็นเจ้าของดอมดม คงขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น



เช้าวันรุ่งขึ้น กลยุทธแปลกใจที่เห็นว่าแม่บ้านที่กำลังขัดห้องน้ำไม่ใช่มาลี ชายหนุ่มเก็บความสงสัยไว้ จนกระทั่งพี่ศรีวรรณเดินขึ้นมาตรวจงาน กลยุทธรีบลุกจากโต๊ะออกมาถาม ด้วยเขาโทรไปแล้วมาลีไม่ยอมรับสาย เบื้องต้นพี่ศรีวรรณอึกอัก แล้วก็ต้องโกหกตามความต้องการของมาลีไปว่า ‘มาลีป่วย’ กลยุทธโทรกลับไปหากุลกัญญา ให้ช่วยมาดูหน่อยว่ามาลีเป็นอย่างไร

เมื่อกุลกัญญาโทรกลับมาแจ้งว่ามาลีไม่อยู่บ้าน กลยุทธก็เห็นถึงความผิดปกติ เขานึกถึงชัชชัยขึ้นมา หรือว่าคนทั้งคู่จะไปไหนด้วยกัน ถึงแม้จะดีใจที่มาลีมีหนทางที่ดีกว่ามาเลือกผู้ชายมีแต่ตัวพร้อมภาระอย่างตน แต่ใจที่ปักลงไปแล้วยากจะถ่ายถอนคืนมาได้โดยง่าย ความเจ็บปวดเหมือนมีปลายเข็มทิ่มแทงหัวใจตื้นๆ ทำให้เขาหมดอารมณ์ทำงานตรงหน้า

“มีอะไรเปล่ายุทธ” สุชินเข้ามาถามเมื่อเห็นสีหน้าหม่นเศร้าของหัวหน้างาน

“ยังไม่มีอะไร” พูดพลางถอนหายใจ แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานไป ทั้งที่ลูกน้องทุกคนมองเห็นความผิดปกติ


เมื่อเห็นสภาพหอพักรวมของนิวัฒน์ มาลีก็ทำหน้ากระอักกระอ่วน

“ถูกหน่อยแต่มันอันตราย ถ้าจะไปอยู่หอสตรีที่ดีๆ เดือนหนึ่งก็สามพันกว่า ไหวไหม แถวๆ ซอย 51 มีคนรู้จักกันพักอยู่ แถวนั้นมีโมเดลลิ่งด้วย เผื่อไม่มีเรียนก็หาไปนั่งปรบมือตามรายการเกมโชว์ ส่งเสียงกรี๊ดๆ แบบเสียงกับหน้าไม่ไปด้วยกัน”
ด้วยขณะเดินดูห้องพัก นิวัฒน์ก็เล่าถึงงานมากมายที่ตัวทำมา ซึ่งแต่ละงานนั้นมาลีแทบไม่เชื่อว่าเพื่อนจะไปทำได้ แต่มันก็ให้เหตุผล สั้นๆ ว่า ต้องการเพียงความตื่นเต้นและไม่เน้นความมั่นคง ความมั่นคงของมันคือ การเดินเข้าสู่วงการเท่านั้น
“แบบนี้ถ้าเกิดใครเอาปลายนิ้วสะกิดประตูก็หลุดเข้าไปแล้ว สามพันกว่าเลยหรือ น้ำไฟด้วยหรือยังเนี่ย”

“ยังหรอก ใช้มากจ่ายมากใช้น้อยจ่ายน้อย หรือจะพักอยู่ด้วยกันก่อน”

“ไม่เอาหรอก ไม่อยากไว้ใจใคร”

“เออนะ มีกินไม่ได้อดหรอก”

นิวัฒน์พูดตามตรง มาลีมองหน้ามองหุ่นกำยำเกินคนธรรมดาของมัน แล้วคิดว่า มันทำอะไรอีกหว่า แต่มาลีก็ไม่กล้าพูดออกไป แต่ใจของมาลีนั้นเริ่มนึกถึงกุลกัญญา ทำอย่างไรจึงจะให้กุลกัญญาถอนตัวจากผู้ชายไม่ธรรมดาอย่างนิวัฒน์นี้ได้ แต่เธอก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ให้คนเหล่านั้นเข้ามาสร้างความยุ่งยากในชีวิตตนอีก มาลีถอนหายใจทิ้งทั้งลมและคน

จนกระทั่งเดินตามนิวัฒน์ไปยังหอพักในซอย 51 เมื่อเห็นสภาพหอพัก ป้ายรถเมล์ และร้านอาหารระหว่างทาง มาลีก็เริ่มชอบขึ้นมา จนได้เห็นสภาพหอและคนที่ดูแลซึ่งดูใจดี มาลีก็ถึงกับขอขึ้นไปดู เมื่อถูกใจ มาลีจึงพยักหน้าให้นิวัฒน์ที่มีสีหน้าหิวข้าว

“จะย้ายเมื่อไหร่”

“วันนี้เลย นั่งรถเมล์ไปเอาของแล้วนั่งแท็กซี่กลับมาเลย”

มาลีตอบนิวัฒน์ หลังจากที่จ่ายเงินค่ามัดจำและค่าห้องเรียบร้อยแล้ว

“มันทนอยู่ไม่ได้เลยหรือ”

“อยากก้าวว่ะ บอกก่อนนะ อย่าบอกกุลเด็ดขาด บอกว่าไม่รู้ว่าฉันหายไปไหน เบอร์เก่าฉันไม่ใช้แล้วใช้เบอร์ที่โทรหาแกเมื่อกี้นี้”

“มีอะไร” นิวัฒน์ยังสงสัย

“พรุ่งนี้ตอนเช้าจะไปสมัครเรียน เสร็จแล้วจะเริ่มหางานทำ มีงานอะไรให้ทำบ้างล่ะ”
“ขายผลไม้ไหมล่ะ จะถามป้าเขาให้เผื่อมีใครไม่ขาย แกก็ทำกินเปอร์เซ็นต์เอา”

มาลีครุ่นคิดตาม แต่เมื่อสายตาแลไปเห็นคนยืนแจกเอกสาร มาลีก็นึกอยากทำอย่างนั้นบ้าง หรือว่าจะลองทำอะไรเล่นๆ ไปเรื่อยๆ ทำตัวให้เหมือนนิวัฒน์ คิดอย่างมัน ชีวิตก็คงมีความสุขเหมือนกัน แต่เมื่อนึกถึงเงินที่ร่อยหรอลง มาลีก็ต้องหยุดชะงักความคิดแบบนั้นไว้ แม่ น้อง การศึกษาและงานที่ดีกว่าเดิม


ชัชชัยถึงกับแปลกใจเมื่อกุลกัญญาโทรมาถามว่า มาลีหายไปไหน งานการไม่ไปทำ แถมพี่ศรีวรรณบอกว่าป่วย แต่เมื่อไปหาที่บ้านกลับไม่มี ชัชชัยเริ่มครุ่นคิดนึกถึงหน้าสดชื่นผิดปกติของมาลีในบางขณะ

มาลีจะไปไหน เขาจะไม่ยอมให้มาลีไปไหนเด็ดขาด เขาโทรหานันทา แล้วเสียงปลายสายก็หัวเราะเบาๆ อย่างสะใจเล็กๆ ก่อนจะบอกว่า ‘ไม่รู้’ ชัชชัยนึกโมโหนันทา แต่เมื่อนึกถึงความเจ็บปวดที่เขาหยิบยื่นให้เจ้าหล่อนก่อน ไม่แปลกที่นันทาจะแค้นเคืองเขา

ชัชชัยโทรหาพี่ศรีวรรณอีกรอบ คาดคั้นเอาความจริง แล้วเขาก็ได้รู้จากปากพี่ศรีวรรณว่า มาลีลาออกจากงานตั้งแต่วันเสาร์ตอนเย็น มาลีต้องการหนีเขา ชัชชัยเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข เขาโทรเข้าเครื่องมาลีอีกหลายๆ ครั้ง ไม่มีสัญญาณตอบรับ เมื่อเป็นดังนั้นเขาจึงต้องขับรถมายังบ้านของนันทา แล้วรีบเปิดประตูเข้าไปในบ้านวิ่งพรวดพราดขึ้นไปยังห้องนอน มาลีเก็บของลงกระเป๋าไว้เรียบร้อยแล้ว มาลีจะไปไหน

ชัชชัยครุ่นคิดหาทางแก้ปัญหาที่เขาไม่รู้นี้


ชัชชัยต้องแปลกใจที่เห็นมาลีนั่งรถแท็กซี่กลับเข้ามา แล้วรีบลงจากรถเปิดประตูบ้านเข้าไป ชั่วอึดใจมาลีก็หิ้วสัมภาระที่มีเพียงกระเป๋าใบเดียวกันกับที่มาลีหอบหิ้วมาจากอุ้มผาง และกล่องใบเล็กที่วางคู่กับกระเป๋าเมื่อครู่ รถแท็กซี่คันที่จอดรถแล่นออกไป

ชัชชัยถอนหายใจออกมา อย่างน้อย เขาก็ยังรู้ว่ามาลีกำลังจะทำอะไร เมื่อรถแล่นออกมาจากซอยลาดพร้าว 71 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบทางด่วนแล้วกลับรถ ขึ้นสะพานข้ามแยกลาดพร้าว โดยไม่มุ่งหน้าไปยังหมอชิตชัชชัย ก็อุ่นใจว่ามาลีคงไม่ได้กลับบ้าน แต่มาลีจะไปไหน รถแท็กซี่เลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่มุ่งหน้าสู่รามคำแหง
จนกระทั่งจอดลงที่ปากซอยรามคำแหง 51 มาลีก็หอบหิ้วสัมภาระลงจากรถ เขาอยากจะเลี้ยวตามไป แต่ก็กลัวว่ามาลีจะเห็น เมื่อรถแท็กซี่เคลื่อนออกไปแล้ว ชัชชัยขยับรถตามมา แล้วในที่สุดเขาก็เห็นหลังมาลีเลี้ยวหายเข้าไปยังตึกพัก ชัชชัยอ่านป้ายที่ยื่นออกมาแล้วโล่งอก ถ้าเป็นหอพักสตรี ก็แสดงว่ามาลี ไม่ได้มีใครในหัวใจ


เมื่อนึกถึงความเจ็บปวดของแม่ จากเรื่องที่เธอถือดีไม่คิดพึ่งพิงญาติผู้ใหญ่ ผสมกับสีหน้าผิดหวังของกุลกัญญาและกลยุทธ ที่อยากให้เธอเป็นคนเคยช่วยเหลือน้องสาวของเขา ไหนจะพี่ศรีวรรณนั่นอีก เย็นนี้คงรู้จากปากนันทาแล้วว่า เธอหายไปจากบ้านโดยทิ้งปริศนาทิ้งไว้

เมื่อวางกระเป๋าลงบนพื้นห้องที่ไร้ที่นอน หมอน ผ้าห่ม มาลีก็กลั้นน้ำไว้ไม่อยู่ ต่อแต่นี้ไปเธอจะมีชีวิตอยู่เหมือนกับนกน้อยในป่าใหญ่ รังแคบๆ ที่แสนอึดอัดนี้ จะเป็นที่ให้เธอสร้างเนื้อตัวให้แกร่งขึ้นมา

มาลีเปิดกระเป๋าออกแล้วหยิบเสื้อผ้าไปใส่ตู้ พร้อมกับเช็ดน้ำตาไปพลาง ชัชชัยจะรู้สึกอย่างไรบ้าง เธอสะใจตัวเองที่หนีเขาเสียได้ ถ้าเขาตามหาเธอล่ะ มาลีเริ่มนึกถึงความทุกข์ที่เธอตั้งใจมอบให้ทุกคน แค่บอกว่าเธออยู่ตรงไหน ทุกคนก็จะคลายความกังวล

มาลีมองโทรศัพท์ในมืออีกรอบ อยากเปลี่ยนกลับไปใช้ซิมเบอร์เดิม แต่เมื่อคิดก้าวแล้วต้องก้าวให้พ้นจากเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์














จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 ต.ค. 2555, 20:39:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ต.ค. 2555, 20:43:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 1714





<< 32.“มาลีรักผมหรือเปล่าล่ะ”   34. “แค่อยากยืนอยู่ด้วยตัวเองเท่านั้น” >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 31 ต.ค. 2555, 20:39:49 น.
มาแก้เขิลที่โพสต์ผิดเรื่องฮะว์....อายจังเลยอ่ะ...


รอให้เป็นเล่ม 31 ต.ค. 2555, 20:46:11 น.
เขิลบ่อยๆ นะฮ๊าฟฟฟฟ
จะได้มีตอนใหม่อ่านเยอะๆ


Orathai 31 ต.ค. 2555, 20:57:43 น.
สู้ต่อไปนะมาลี...


evelover 1 พ.ย. 2555, 07:05:10 น.
เอาใจช่วยมาลี อายบ่อย ๆ นะคะ จะได้อ่านหลาย ๆ ตอน 555+++


ปอยอะนะ 1 พ.ย. 2555, 10:51:45 น.
555 ชอบๆ


อ้อย 2 พ.ย. 2555, 16:24:28 น.
กรี๊ดๆๆๆๆๆ คุณชัชตามมาจนได้ๆๆๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account