พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว # จุฬามณี (ลิขสิทธิ์ สนพ.มายดรีม)
เรื่องย่อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว

เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..

วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..

หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..

มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..

ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ

และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ

กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...

ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..

และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..

Tags: รักสามเส้า เราสามคน

ตอน: 40.1“แต่เราคนบ้านเดียวกันนะมาลี”

40.
วิจักษ์แปลกใจที่เห็นใบหน้าหม่นเศร้าของนิวัฒน์

“เป็นอะไรวะ”

“เอ็งหายไปไหนมา”

“เออ...” วิจักษ์ลังเลกับคำตอบ

คำตอบที่หนึ่งคือ กลับบ้านไปงานแต่งของอนันต์กับรุ่งทิพย์ คำตอบถัดมาคือ เมื่อกลับมาจากอุ้มผางแล้วตรีทศพาเขาไปเที่ยวฮ่องกงด้วย ขืนเขาพูดออกไป นิวัฒน์จะต้องสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตรีทศอย่างแน่นอน

“เพิ่งกลับมาจากอุ้มผางไปงานแต่งอนันต์มา เออมาลีเป็นอย่างไรบ้าง กูโทรหาก็ไม่รับสาย”

“เปลี่ยนเบอร์แล้ว เปลี่ยนที่อยู่ด้วย”

“มาลีมาอยู่กับพี่สาว กูเพิ่งรู้ว่าเป็นนันทาน้องของไอ้อนันต์”

“กูไม่ได้บอกมึงเหรอ”

“สงสัยกูไม่ได้ยิน กูบังเอิญไปเจอนันทาในที่ทำงานว่ะ เขาเป็นพนักงานในออฟฟิศกูเป็นยาม คนละชั้นกันเลย”

“หลงรักเขาหรือ”

“ก็เกือบ เฮ้ย ชีวิตเอาแน่อะไรไม่ได้เลย ลงเรียนรัฐศาสตร์แล้วไม่รู้จะเป็นอย่างไรต่อไป มึงล่ะงานในวงการที่มึงฝันไปถึงไหนแล้ว”

“งานในวงการ กูหน้าตาไม่ดี มีแต่บทพวกตัวประกอบมือปืน ค่าแรงได้น้อยกว่าขายผลไม้ บางทีกูก็ไม่รับ” นิวัฒน์บอกอย่างไม่อาย

“มึงเป็นอะไรยังไม่ได้บอกกูเลย”

“มาลีมันย้ายมาอยู่หอหน้า ม.ราม แล้วนะ” นิวัฒน์ตอบคำถามก่อนหน้านั้น
“เปลี่ยนเบอร์ด้วยนะมึงจะเอาไหม”

“เอา แต่ไม่อยากเจอหรอก รู้สึกแปลกๆ อย่างไรก็ไม่รู้ บอกตามตรงนะว่า มันหมดรักมาลีไปแล้ว”

“แต่มึงดูมีความสุขแสดงว่าเจอรักใหม่ ใครวะ คนที่ไหน ตรีทศมันรู้หรือเปล่าว่ามึงริมีแฟนตั้งแต่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียน อย่าให้มันรู้นะ มันรู้มันบ่นมึงวันละสามกระบุงแน่”

“แล้วมึงกับเพื่อนของมาลีคนนั้นล่ะเป็นไงบ้าง”

วิจักษ์เปลี่ยนเรื่องคุยบ้าง แต่คราวนี้เขาไม่ได้คำตอบเป็นคำพูด แต่เป็นหยดน้ำตาตอนที่คู่สนทนาก้มหน้าลงใช้ผ้าเช็ดตู้กระจกใส่ผลไม้

“เฮ้ยเป็นไรวะ”

“พี่วิจักษ์”

เป็นเสียงเรียกของมาลี วิจักษ์หันไปมอง พบว่าสีหน้าของมาลีที่อยู่ในชุดกระโปรงบานพลิ้วเสื้อยืดรองเท้าผ้าใบนั้นค่อนข้างหม่นเศร้า นิวัฒน์ยังคงก้มหน้าเช็ดตู้อย่างไม่ยินดียินร้ายกับมาลีที่เดินมาหยุดอยู่ข้างๆ

“เป็นไรของเอ็ง” มาลีตบบ่าเพื่อนชายตัวสูงใหญ่แรงๆ

“เลิกกับน้องคนนั้นแล้วเหรอ” วิจักษ์จี้ใจดำ มาลีถอนหายใจออกมา เธอไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนี้ให้มันหรอกนะ

“กุลเขาตายแล้ว” พูดแค่นั้นนิวัฒน์ก็สะอื้นฮักๆ

วิจักษ์มองหน้ามาลี เห็นว่าในนั้นมีเรื่องอีกมากมายทีเดียวที่เขาควรจะรู้ไว้ แต่ไม่ใช่ต่อหน้านิวัฒน์


มาลีกับวิจักษ์เดินข้ามสะพานลอยไปยังโรงอาหารของมหาวิทยาลัย มาลีไปซื้อข้าวราดแกงมาสองจาน ในขณะที่วิจักษ์เดินไปซื้อน้ำเปล่ามาสองขวด มาลีสังเกตดูว่าเสื้อผ้าของวิจักษ์ที่สวมใส่อยู่นั้นไม่ใช่ตัวละร้อยกว่าบาทที่ขายอยู่หน้ารามเป็นแน่ แต่มาลีก็ไม่กล้าถามว่าวิจักษ์ไปเอาเงินทองมาจากไหน

แล้วมาลีก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่เธอเป็นคนแนะนำให้กุลกัญญารู้จักกับนิวัฒน์ จนถึงวันที่หลินแฟนหรือเมียของนิวัฒน์จิกตบกุลกัญญาท่ามกลางสายฝนริมถนนรามคำแหง จนกระทั่งร่างกายของกุลกัญญาทรุดลงเพราะพิษน้ำฝนและพิษรักที่นิวัฒน์มอบให้

วิจักษ์ถอนหายใจออกมา แต่มาลีก็ไม่กล้าเล่าให้วิจักษ์ได้ฟังถึงเรื่องพี่ชายกุลกัญญากับตัวเอง

มาลีไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่ามันจะไปเกี่ยวกันได้ หลังจากที่เพื่อนๆ ของเขาไปพบตัวคุณกลยุทธที่เมามายแล้วนำกลับมาที่บ้าน พอวันจันทร์พี่ศรีวรรณก็โทรมาหาเธอว่า คุณกลยุทธลาป่วยเพราะด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ เมื่อรู้ข่าวมาลีกำลังได้งานแจกสินค้าตัวอย่าง จึงไม่ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล แต่พี่วรรณาก็โทรมาตามบอกว่ากลยุทธเพ้อถึง ด้วยเห็นว่าเขากำลังซวนเซอย่างหนัก ตอนหัวค่ำมาลีจึงไปเยี่ยม
แต่เมื่อไปถึง เธอพบว่าในห้องผู้ป่วย คุณรมณีย์กำลังป้อนผลไม้เข้าปากคนป่วย ชนิดเด็กก็รู้ว่าท่าป้อนแบบนี้ไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องเป็นแน่ มาลีเข้าไปเก้ๆ กังๆ ด้วยเห็นสายตาละห้อยคอยหา และสายตาเหมือนแม่เสือของคุณรมณีย์ ทำให้มาลีต้องรีบขอตัวกลับ

เมื่อกลับมาถึงห้องพัก มาลีก็ได้รับโทรศัพท์จากคนป่วยว่า เขาต้องการมาลีถึงเพียงไหน

มาลีถอนหายใจออกมา อยากจะตัดสายทิ้ง แต่เธอก็ทนฟังทุกถ้อยคำจากใจของเขาจนหมดสิ้น เขาจะลาออกจากบริษัท เพราะว่าเงินรายได้ค่าลิขสิทธิ์ของกุลกัญญาที่คุณชัชชัยนำมาให้ก่อนที่กุลกัญญาจะเสียนั้น พอกับเงินที่คุณรมณีย์สำรองไปก่อนกับโรงพยาบาลที่รักษาตัวจนกุลกัญญาสิ้นใจ

เขาเล่าถึงตำแหน่งงานใหม่ในที่ใหม่ใกล้ๆ บ้านกับเงินเดือนที่น้อยกว่าเดิม แต่เขาจะอยู่อย่างสบายใจ ไม่ต้องเกรงคำครหาของใครอีก มาลีอยากจะพูดคำพูดเดิมในร้านเคเอฟซีกับเขา แต่ในเวลานี้มาลีเพียง ค่ะๆ เพื่อให้เขามีกำลังใจสู้ชีวิตเท่านั้น
แล้วมาลีก็อดนึกถึงคุณรมณีย์ไม่ได้ หากรู้ว่าผู้ชายกำลังจะหนีไปเธอจะรู้สึกอย่างไร

“แล้วตอนนี้มันกับหลินนั่นล่ะเป็นอย่างไร”

“ไม่อยากถาม ช่างมันเถอะ ตอนมันไม่มีพวกเรา มันก็ยังอยู่ตามประสาของมันมาได้”

“แต่เราคนบ้านเดียวกันนะมาลี”

“สงสัยมาลีจะกลืนความรู้สึกของคนกรุงเทพฯ ไว้ในใจมากไปแล้วมั้ง”

มาลีพูดติดตลก ทั้งที่ในใจนั้นเป็นห่วงนิวัฒน์อย่างกับอะไรดี แม้แต่วิจักษ์นี่ก็เหมือนกัน

“พี่วิจักษ์สบายดีนะ ไม่ทำงานแล้วหรือ” วิจักษ์สั่นหัว “แล้วจะเอาเงินที่ไหนเรียน”

“พี่ตรีทศเขาอยากให้เรียนจบโดยเร็วก็เลยออกทุนให้ก่อน เรียนจบแล้วค่อยใช้”
วิจักษ์ไม่กล้าเล่าถึงเรื่องไปประกวดชายงาม กับโครงการมุ่งสู่ดวงดาวโดยการผลักดันของนันทากับพี่ต้นให้มาลีได้รับรู้ เพราะฟังจากปากของนันทาระหว่างนั่งรถกลับบ้านมานั้น มาลีแทบไม่มีดีในความรู้สึกของนันทาเลยสักนิด จริงๆ เขาก็ห่วงมาลีเรื่องที่มีผู้ชายมากหน้าหลายตามาติดพัน แต่มาลีคงเอาตัวรอดได้

“อย่างไรก็ดูแลตัวเองให้ดีให้ได้นะมาลี อย่าคิดว่าเราไม่มีใคร อย่างน้อยพวกเราก็มีกันนะ มีอะไร คิดถึงใครๆ ไม่ออก ก็ไปหาพี่ตรีทศได้ พี่เขาพร้อมที่จะช่วยพวกเรานะ”

“ฝากขอบคุณพี่เขาด้วยนะพี่จักษ์ แต่มาลีคงช่วยตัวเองให้มากที่สุดแหละ”

ขณะที่ทั้งสองก้มลงดูดน้ำจากขวด ตาสองคู่ก็ประสานกัน

“พี่จักษ์คิดถึงบ้านบ้างไหม”

“บางทีเราก็เดินมาไกลกว่าที่จะหันหลังกลับนะมาลี ดูอย่างไอ้นิวมันซิ เรายังไม่เรียกมันว่าไอ้วัฒน์เหมือนเมื่อก่อนเลย ชีวิตมันต้องเปลี่ยนไป ทำใจเถอะนะ พี่เข้าใจว่ามาลีอาจจะเหงาแต่เราต้องผ่านไปให้ได้ และอย่างมาลีเป็นผู้หญิง คงมีใครๆ มากมายอยากอยู่เคียงข้าง แต่ในความเป็นผู้หญิงพี่ก็อยากให้มาลีคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป”

วิจักษ์นึกถึงความอบอุ่นของตนที่ได้รับจากพี่ตรีทศ และนึกถึงความเหน็บหนาวที่นิวัฒน์และมาลีต้องเผชิญตามลำพัง เขาโชคดีกว่าคนทั้งคู่หลายเท่าทีเดียว แต่นั่นเป็นเรื่องที่เขาจะเอ่ยออกมาให้ใครฟังไม่ได้เช่นกัน ยิ่งเขาอยากดังมากเท่าไหร่ ภาพทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในภายภาคเบื้องหน้า จะต้องมีแต่ความสวยหรูเท่านั้น
เมื่อได้ฟังคำพูดของวิจักษ์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ มาลีกะพริบตาถี่ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นเพื่อไล่หยาดน้ำตาไม่ให้หลั่งริน ยอมรับกับตัวเองว่าเหงาในเมืองใหญ่ที่มีคนมากมายแห่งนี้ แต่ใครสักคนที่พี่วิจักษ์พูดถึง จะเป็นใครล่ะ เป็นใครถึงจะดี

แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือของวิจักษ์ก็ดังขึ้น

“ครับ ได้ครับพี่ ผมจะไปหานะครับ ให้ผมนั่งแท็กซี่ไปเหรอครับ ครับ ครับ”
วิจักษ์วางโทรศัพท์ลงแล้วก็กดพิมพ์ชื่อมาลีพร้อมกับถามเบอร์โทรใหม่ มาลีแจ้งกลับไป วิจักษ์กดโทรออก โทรศัพท์ของมาลีดัง มาลีกดเซฟเบอร์ของวิจักษ์ไว้
“พี่ไปก่อนนะมาลี ดูแลตัวเองด้วยนะ เอ้อ พี่ลืมบอกไป พี่เจอนันทาด้วยนะ พี่เข้าใจแล้วว่าทำไมมาลีถึงอยู่กับเขาไม่ได้ แต่พี่ไม่เชื่อว่ามาลีจะเป็นอย่างนั้นเพราะพี่รู้จักมาลีมานาน ถึงเราจะไม่ได้เป็นคนรู้ใจกัน แต่เราก็เป็นพี่น้องกันได้นะ ส่วนอนันต์มันกลืนคำพูดมันหมดสิ้น มันบอกในงานแต่งงานว่า มันรักผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่แรกพบ”

มาลีหัวเราะทั้งน้ำตา พี่วิจักษ์ค่อยๆ เดินออกจากคลองจักษุของมาลีไป แต่ยิ่งเขาเดินออกไปไกล มาลีกลับยิ่งเห็นรัศมีอันสว่างไสวของเขา เป็นเพราะอะไรพี่วิจักษ์ถึงดูเปลี่ยนไป และเป็นเพราะเธอหรือเปล่า ช้างเผือกตัวนี้จึงออกจากป่า



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 พ.ย. 2555, 09:57:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 พ.ย. 2555, 09:57:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 1680





<< 39.“ผมสงสารเขาจังเลย”   40.2“สิ้นเดือนเมษายนนี้ผมจะลาออก” >>
mottanoy 11 พ.ย. 2555, 11:18:26 น.
มากดF5รอตั้งแต่เช้า(ของที่นี่)

ขออย่าให้มาลีเห็นใจคุณยุทธเล้ย ผู้ชายไม้เลี้อย เกลียดแล้วอ่ะ


loveleklek 11 พ.ย. 2555, 21:02:20 น.
ใกล้ความจริงแล้วนะ


อ้อย 11 พ.ย. 2555, 21:48:21 น.
สู้ๆนะคะมาลี


konhin 12 พ.ย. 2555, 06:58:22 น.
อืม ไม่อยากให้มาลีเลือกยุทธเพราะเห็นใจแบบนี้ค่ะ เพราะวันนึงที่อีกคนยืนได้ขึ้นมา เขาก็ทิ้งเราไปหาที่ใหม่ อ้อ ไม่นับว่ามีนอกมีในกับอีกคนด้วยอ่ะ


evelover 12 พ.ย. 2555, 07:29:18 น.
อยากรู้จังมาลีจะเลือกใคร


Orathai 12 พ.ย. 2555, 19:19:04 น.
มาลีต้องเรียนหนังสือก่อนเนอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account