แผนรักพันใจ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 6

คุณบัณฑิตถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อได้รับแจ้งจากเลขานุการประจำตัวถึงการมาเยือนของน้องชาย หนุ่มใหญ่รู้ว่าเรื่องที่เขาคิดอ่านไว้คงต้องรู้ถึงน้องชายเข้าสักวัน เขารู้จากลูกชายตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้วว่าน้องชายได้พบกับสองน้าหลานจากบ้านสวนยายจันทร์แล้ว และที่มาพบเขาในวันนี้ก็คงจะอารมณ์ร้อนมาเต็มที่

ปกติหากน้องชายมาแสดงอารมณ์ใส่คุณบัณฑิตคงจะเคืองอยู่ไม่น้อย หากแต่รู้ว่าตนมีส่วนผิดอยู่ในเรื่องนี้จึงได้แต่นิ่งรับ

"พี่ดิดคิดจะทำอะไรอยู่"

"อะไรกันเจ้าทัด จู่ ๆ ก็โวยมาเชียว ไปกินรังแตนมาจากไหนเนี่ย" พี่ชายยิ้มสู้ทั้งที่ใจขยาดอยู่เล็กน้อย "เรื่องอะไรกัน...ลมอะไรพัดมาถึงนี่ได้ ร้อนวันพันปีไม่เคยบุกมา แถมมาแต่เช้าเสียด้วย"

"พี่อย่ามาทำไม่รู้เรื่อง ผมว่าพี่รู้ดีว่าเรื่องอะไร" คุณบัณทัตตอบเสียงห้วน "ผมมาเพราะอยากรู้เหตุผลที่พี่ให้เจ้านินมันไปเชิญบ้านนั้นเขามาร่วมงานกับเรา"

"ร้านอาหารของคุณจันทร์เขาขึ้นชื่อเรื่องอาหารภาคกลาง ฉันก็เลยมอบหมายให้เจ้านินไปเชิญมาก็เท่านั้นเอง แกจะโวยวายทำไมกันเจ้าทัด"

คนเป็นน้องหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ไม่เบานักพร้อมกับยกมือขึ้นตบโต๊ะหนักหน่วงก่อนยกขึ้นสะบัดเล็กน้อยเพราะอารมณ์ฉุนเฉียวทำให้ลืมนึกไปว่าผิวหนังตนแข็งไม่เท่าโต๊ะไม้ตัวใหญ่

"ถึงผมจะทำแต่งานด้านบุคคล ไม่ได้ยุ่งเรื่องอื่นในเดอะเบสท์ แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรไม่เป็นนะพี่ดิด เรื่องนี้มันต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังแน่ ๆ และผมต้องการรู้ความจริง"

"โอเค ๆ" คุณบัณฑิตยกมือขึ้นเหมือนจะขอสงบศึกกับน้องชาย "ฉันมีแผนจริง แต่มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร"

"แล้วมันเรื่องอะไร"

เจ้าของห้องระบายลมหายใจยาว กดอินเตอร์คอมสั่งเครื่องดื่มจากเลขานุการสาวก่อนบอกกับน้องชาย

"ใจเย็น ๆ นะเจ้าทัด เรื่องนี้ต้องเล่ากันยาว ขอน้ำมาจิบแก้คอแห้งหน่อย แกเองก็น่าจะมาน้ำจิบให้ชื่นใจหน่อย จะได้ใจเย็นขึ้นไม่จับฉันกินก่อนฉันจะเล่าจบ"

คุณบัณทัตไม่ตอบรับหรือปฏิเสธหากนั่งกอดอกนิ่ง มองพี่ชายอย่างจะจับผิด สายนั้นหลังกรอบแว่นนั้นเหมือนจะบอกพี่ชายแทนคำพูดว่าผมรู้นะถ้าพี่เล่าเรื่องไม่จริง เพราะฉะนั้นอย่าได้คิดจะโกหก



"พี่ดิด" คุณบัณทัตเรียกชื่อพี่ชายอย่างไม่เชื่อหูหลังจากได้ฟังเรื่องจากคุณบัณฑิต "พี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ถึงได้คิดจะไปยุ่งกับบ้านนั้นอีก แถมยังคิดให้หลานไปหลอกเค้าด้วยแบบนี้"

"หลอกอะไรกัน พี่ไม่ได้คิดจะให้เจ้านินมันไปหลอกอะไรหนูจา แค่หาทางเข้าไปตีสนิทด้วยจะได้คุยเรื่องที่ทางได้ แกก็รู้ว่าถ้าเข้าทางคุณจันทร์ตรง ๆ ไม่มีทางสำเร็จ แต่ถ้าโน้มน้าวหนูจาได้ มันก็อีกเรื่อง พี่สืบมาแล้วคุณจันทร์ถึงจะยังขึ้นชื่อเรื่องดุเหมือนเดิม แต่ก็เชื่อแล้วก็ตามใจหลานสาวพอสมควร"

"พี่ดิดไม่น่าทำแบบนี้" คนเป็นน้องได้แต่รำพึงแม้จะไม่เห็นด้วยก็ไม่อาจจะก้าวก่ายงานของพี่ ทั้งยิ่งไม่อยากจะให้เรื่องแผนการนี้ล่วงรู้ถึงหูคนบ้านสวน "บ้านนั้นเจอเรื่องร้าย ๆ มาแค่ไหนพี่ก็น่าจะรู้ดีพอกับผม"

"มันไม่ใช่อย่างที่แกคิด"

"ที่จริงเราอยู่ห่างบ้านนั้นมานานขนาดนี้แล้วพี่ดิดไม่น่าจะให้หลานเข้าไปพัวพันด้วยอีกเลยนะ อย่างน้อยไม่เห็นแก่คนบ้านนั้นก็น่าจะเห็นแก่พ่อหนูจาบ้าง พี่หนึ่งพ่อหนูจาเขาเป็นเพื่อนพี่นะ"

"เรื่องอดีตที่แล้วก็ให้มันแล้วไปเถอะ ไอ้หนึ่งมันก็ห่างเหินกับพี่ไปตั้งแต่แต่งงานไปกับลูกสาวอธิบดีคนนั้นแล้ว พูดก็พูดพี่ยังน้อยใจมันอยู่ที่พอตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โตแล้วทำตัวไม่เหมือนเดิม จะติดต่อขอให้ช่วยอะไรก็ปฏิเสธตลอด"

"พี่ก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ที่เขาไม่อยากจะติดต่อเราก็เพราะไม่อยากพัวพันกับเรื่องธุรกิจ เขาอยากเป็นข้าราชการที่ทำงานโดยซื่อสัตย์ไม่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง เขาไม่ทำ เราน่าจะดีใจที่อย่างน้อยก็มีข้าราชการที่ดีรับใช้บ้านเมือง"

"มันก็จริง...แล้วไอ้หนึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยใครเลยสักคน แต่จะว่าไปที่มันแต่งเมียก็เพราะกลัวเรื่องตำแหน่งหน้าที่การงานไม่ใช่เหรอ แกเองก็ยังเคยโกรธเป็นฝืนเป็นไฟตอนเขาประกาศจะแต่งงานกัน" คุณบัณฑิตส่ายหน้าเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับน้องชายในอดีต "ไม่อย่างนั้นเรื่องของแกกับขวัญก็คงไม่เป็นแบบนี้"

การสนทนาระหว่างสองพี่น้องถูกขัดด้วยเสียงจากเครื่องอินเตอร์คอมบนโต๊ะทำงานใหญ่ เสียงที่ผ่านลำโพงของเครื่องนั้นไม่ใช่เสียงเลขานุการสาวหากเป็นเสียงของภรรยาเจ้าของห้อง

"สองพี่น้องคุยธุระสำคัญกันรึเปล่าคะ ฉันเข้าไปได้ไหม"

คุณบัณฑิตมองหน้าน้องชายอย่างจะขอความเห็น คุณบัณทัตได้แต่พยักหน้าแทนคำตอบ ผู้เป็นพี่จึงเอื้อมมือไปกดเครื่องเอ่ยเรียกภรรยาให้เข้ามาในห้องเพียงครู่ประตูห้องเปิดออกตามด้วยเสียงของคุณชนัญญาที่ก้าวฉับ

"ว่าไงคะพี่น้อง คุยอะไรกันอยู่"

"อ้อ...ไม่มีอะไรหรอกคุณ เจ้าทัดแค่มาคุยตามประสาพี่น้อง" คนเป็นสามีลุกขึ้นยืนรับภรรยาที่เดินเข้ามาเกาะแขนเขาแผ่วเบา "ไม่รู้ว่าคุณจะออกมาข้างนอก ที่จริงน่าจะมาซะพร้อม ๆ กัน"

"ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ ขืนนั่งมากับคุณก็นั่งฟังแต่โทรศัพท์คุณคุยธุรกิจ ติดต่องาน อีกอย่างกลางวันวันนี้ฉันมีนัดค่ะ...ว่าแต่เรื่องที่ฉันขอร้องเอาไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ"

"ที่แท้ก็กลัวว่าจะพลาดเรื่องสำคัญเรื่องนี้เอง ผมจัดการให้เรียบร้อยแล้วเรื่องล็อคตัวลูกชาย พรุ่งนี้ช่วงบ่ายเจ้านินจะมีประชุมงานส่งเสริมการตลาดตลอดบ่ายกว่าจะเลิกก็คงเย็น ดิ้นไปไหนไม่ได้แน่ถ้าคุณไปรอยังไงก็คงได้เจอ"

"ดีค่ะ ฉันนัดกับบัวเค้าเอาไว้แล้ว คงจะบอกให้สองคนแม่ลูกมารอที่นี่"

"จู่โจมถึงที่เลยเหรอคุณ" คุณบัณฑิตยิ้มเมื่อภรรยาทำท่าค้อนขวับ ก่อนหันไปอธิบายกับน้องชายที่นั่งงงเพราะตามเรื่องไม่ทัน "พี่สะใภ้แกเค้าจะพาเพื่อนกับลูกสาวมาดูสินค้า"

"นี่คุณ" คุณชนัญญาหยิกต้นแขนสามีเต็มรัก ชนิดที่เนื้อผ้าสูทหนากับไม่อาจปกป้องได้จนคุณบัณฑิตร้องโอย "พูดจาน่าเกลียด ฉันแค่อยากให้เด็ก ๆ ได้รู้จักกันไว้เท่านั้นเอง"

"แหม...เจ้านินจะมีคู่ที่แม่จัดไว้ให้แบบนี้ สงสัยจะเที่ยวไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่ไหนไม่ได้แล้วสิครับ" คุณบัณทัตเอ่ยสายตามองพี่ชายนิ่ง "ใช่ไหมครับพี่ดิด ไม่อย่างนั้นสาว ๆ จะช้ำใจกันเสียเปล่า"

"ตาทัด พูดอะไรอย่างนั้นจ๊ะ" คนเป็นแม่เอ่ยอย่างตกใจ ปกป้องลูกชายตามสัญชาตญาณ "ถึงพี่จะเป็นคนยุคเก่าหัวเก่า แต่ก็เข้าใจหนุ่มสาวสมัยนี้นะ คบ ๆ เลิก ๆ มันเรื่องปกติ ที่ผ่านมาพี่ก็กลุ้มใจไม่อยากให้ตานินทำตัวลอยชายไปมา มันไม่ดีกับทางผู้หญิง แต่สาวสมัยนี้เราก็รู้กันอยู่ว่าเป็นยังไง"

"ถ้าผู้หญิงเขาคิดแค่สนุก ควงเจ้านินโก้ ๆ ผมก็ไม่ห่วงหรอกครับพี่ญา กลัวแต่ว่ามันจะไปทำให้ใครเขาหลงรักมันจริงจัง พอถึงเวลาเอาเข้าจริง ก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่พี่ญาคัดให้ เด็กมันจะเสียใจเอา"

"นี่ทัดคงไม่ได้หมายถึงแม่นางแบบ นิกาอะไรนั่นหรอกนะจ๊ะ รายนั้นพี่ดูปราดเดียวก็รู้เปรี้ยวจี๊ดอย่างนั้น ผละจากตานินก็คงมีคนใหม่เข้ามา ก่อนหน้าก็เคยมีข่าวกับดาราคนโน้นคนนี้มาไม่รู้กี่คนแล้วด้วย แล้วพี่คงรับไม่ไหวหรอกนะสะใภ้แบบนี้"

"ผมก็พูดเผื่อไว้ถึงผู้หญิงคนอื่นน่ะครับ อยากให้พี่ญากับพี่ดิดช่วยดูหน่อย ว่าไม่ให้เจ้านินไปทำร้ายจิตใจผู้หญิงคนไหนเข้า" คุณบัณทัตมองตาพี่ชายอย่างจะสื่อให้รู้ว่ากำลังพูดถึง 'ผู้หญิง' คนไหนเป็นพิเศษ "ผมขอตัวไปทำงานก่อนก็แล้วกันนะครับ"

คุณบัณทัตเอ่ยลาพี่ชายและพี่สะใภ้ก่อนจะผละเดินออกจากห้องทำงานของคุณบัณฑิตไปอย่างรวดเร็ว พี่สะใภ้มองตามน้องสามีด้วยความข้องใจ

"ตาทัดเป็นอะไรไปคะ พูดจาซีเรียสชอบกล"

"นั่นสินะ ไม่รู้เจ้าทัดไปอารมณ์เสียอะไรมา เข้ามาถึงก็บ่นเรื่องโน้นเรื่องนี้ ท่าทางงานบุคคลคงจะยุ่งจัด"

คุณชนัญญาพยักหน้ารับรู้ "จริงสิคะ คุณต้องไปกินข้าวด้วยนะคะเย็นวันพรุ่งนี้ บัวเขาก็จะพาสามีเขามาด้วยเหมือนกัน"

คุณบัณฑิตขยับตัวนั่งเมื่อภรรยาปล่อยมือจากการเกาะกุมต้นแขนเดินไปนั่งที่ชุดโซฟารับแขกด้านหนึ่งของห้องทำงาน ขยับจะเปิดแฟ้มเอกสารอยู่พอดีเมื่อภรรยาเอ่ยต่อ

"สามีของบัวเขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงใหญ่นะคะ งานนี้ฉันยอมให้เสียหน้าไม่ได้จริง ๆ เพราะบัวเขาอุตส่าห์ดึงตัวคุณหนึ่งมาได้"

คนที่เตรียมจะเปิดแฟ้มเอกสารเริ่มงานชะงักมือ เงยหน้าขึ้นเอ่ยทวนชื่อที่ได้ยินจากภรรยา

"หนึ่ง"

"ค่ะ...คุณหนึ่ง เอกอมร เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คนยกย่องเกรงใจกันมาก ถึงตัวเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกธุรกิจ ไม่ใช้เส้นสายช่วยเหลือใครก็จริง แต่ถ้าได้ดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน คนก็คงจะเกรงเราอยู่บ้าง การเจรจาอะไรต่ออะไรก็น่าจะง่ายขึ้น"

หนุ่มใหญ่ชะงักมือ วางแฟ้มลงบนโต๊ะมือข้างหนึ่งเปิดแฟ้มมืออีกข้างหนึ่งยกขึ้นแตะขมับ โลกมันกลมเอาเสียจริงแถมมีเรื่องบังเอิญเหมาะเจาะได้อย่างกับในละครไม่มีผิด

พอริเริ่มคิดการให้ลูกชายเอาตัวไปพัวพันกับคนบ้านสวน คนที่เกี่ยวพันกับทั้งคนบ้านสวนและเขากับน้องชายก็ปรากฏตัวขึ้นมาพัวพันด้วยอีกคน

คุณบัณฑิตได้แต่หวังว่าความเกี่ยวข้องอย่างคาดไม่ถึงนี้จะไม่นำมาซึ่งปัญหาในภายหลัง ได้แต่หวังเท่านั้นจริง ๆ



เรือนไม้ในสวนของคุณยายจันทร์เป็นเรือนที่ปลูกมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าของคุณจอมขวัญหากได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีตลอดจึงดูใหม่อยู่เสมอ แม้ว่าลักษณะของเรือนจะเป็นเรือนไม้แบบโบราณแต่เพราะอากาศที่ร้อนจัดขึ้นทุกวัน ห้องนอนทุกห้องจึงติดเครื่องปรับอากาศ คุณจอมขวัญมักจะปิดเครื่องปรับอากาศแต่เช้ามืด ก่อนเปิดหน้าต่างรับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า คุณจอมขวัญและจารุดาสลับสับเปลี่ยนกันคุมแม่บ้านไปจ่ายตลาดคนละวัน วันนี้จารุดาทำหน้าที่ คุณจอมขวัญจึงมีเวลายืนพิงกรอบหน้าต่างมองออกไปที่บริเวณสวนในแสงสลัวยามเช้ามืด

สองวันมานี้สาวใหญ่รู้ตัวว่าใจคอไม่เป็นปกติเท่าใดนักแม้ว่าจะพยายามซ่อนอาการแต่ทั้งน้าสาวและหลานสาวต่างพากันถามไถ่ถึงความผิดปกติซึ่งเธอก็ได้แต่ปฏิเสธ

ทว่าเมื่อใดที่ว่างเว้นจากงาน ไม่มีเรื่องอะไรให้คิดให้ทำ ภาพเหตุการณ์ตอนรับประทานอาหารมื้อเย็นร่วมกับหลานสาว ธนิน คุณบัณทัตและลูกสาวก็มักจะวนเวียนกลับมาสู่ห้วงคำนึงของคุณจอมขวัญ

ร้านอาหารเฟรนไชส์ที่มีอาหารให้สั่งหลากหลายทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง ภายในห้างสรรพสินค้าเดอะเบสท์ เป็นร้านที่คุณบัณทัตเลือกพาลูกสาว หลานชายและสองน้าหลานไปรับประทานอาหาร

'วันนี้เป็นอาหารไทย สั่งกับข้าวก็แล้วกันนะยัยลี่ คุณน้าเค้าจะได้ทานได้ด้วย'

'ลี่ทานได้ทุกอย่างอยู่แล้วค่ะ สบายมาก' เด็กสาวตอบพลางควงแขนบิดาเดินตามบริกรไปที่โต๊ะ 'นาน ๆ จะได้ร่วมโต๊ะกับพ่อพร้อมแล้วก็มีพี่นินด้วยแบบนี้ อะไรก็ได้ทั้งนั้น'

โต๊ะใหญ่ที่อยู่ค่อนข้างลึกเข้าไปในตัวร้านสามารถนั่งได้หกที่ สองน้าหลานเลือกนั่งติดกันที่ด้านหนึ่งของโต๊ะ คุณบัณทัตเหมือนจะรอจังหวะอยู่พักหนึ่งก่อนจะเลือกนั่งเก้าอี้ตัวกลาง ตำแหน่งเดียวกับที่คุณจอมขวัญนั่ง ส่วนธนินเลือกนั่งตรงข้ามกับจารุดาส่วนลิลลี่ที่เกาะแขนบิดาอยู่นั้นนั่งลงข้างคุณบัณทัต

สาวใหญ่มองสบตาผู้ที่นั่งลงตรงข้ามตนได้ไม่นานก็ต้องหลบสายตาคู่นั้น เสคว้าเมนูที่บริการนำมาวางให้ข้างตัว

'ทานอะไรกันดีล่ะ' หนุ่มใหญ่เอ่ยถามคนอื่น 'ว่าไงยัยลี่ จะเอาอะไรดี'

'ลี่แล้วแต่คุณพ่อดีกว่าค่ะ ขี้เกียจคิด'

'ยัยลี่เขาเป็นคนกินจุ' ธนินชี้แจงก่อนจะรีบเปลี่ยนคำพูดเมื่อลูกผู้น้องเอื้อมมืออ้อมหลังบิดามาตีไหล่พี่ชาย 'กินง่ายครับ คุณจากับคุณน้าขวัญสั่งได้เลยนะครับ'

'เราก็ทานกันง่าย ๆ ค่ะ อะไรก็ได้'

'ถ้าอย่างนั้นผมสั่งเลยก็แล้วกันนะ'

คุณบัณทัตหันไปกล่าวกับบริกร ก่อนสั่งอาหารหกรายการโดยไม่เปิดเมนูดูแม้แต่น้อยและโยนให้คนอื่นเลือกสั่งเครื่องดื่มกันเอง เมื่อบริกรรับรายการอาหาร เครื่องดื่มและเดินผละไปแล้ว จารุดาก็เอ่ยขึ้น

'อาหารที่คุณทัดสั่ง ของโปรดน้าขวัญทั้งนั้นเลยนะคะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะบังเอิญชอบเหมือนกันได้แบบนี้'

หนุ่มใหญ่เพียงแต่ยิ้มไม่เอ่ยอะไร ผิดกับคุณจอมขวัญเองที่รู้สึกแปลบขึ้นมาในอกหากต้องข่มใจหันไปเอ่ยกับหลานสาว

'อาหารที่อาของคุณนินสั่งก็เป็นอาหารธรรมดาทั่วไปนะจ๊ะ สงสัยน้าจะชอบอะไรพื้น ๆ แบบที่ใครก็นึกถึงมากกว่า'

เด็กสาวที่สวมชุดนักเรียนรีบโบกมือเป็นเชิงปฏิเสธคำพูดนั้น

'ปกติเวลามาร้านแบบนี้คุณพ่อก็สั่งอย่างอื่นนะคะ อาหารที่สั่งไปนี่ไม่ค่อยจะสั่งเท่าไหร่ เผลอ ๆ บางทีก็ยกให้ลี่เป็นคนสั่งหมดเลย เอ...หรือว่าคุณพ่อจะมีญาณวิเศษ ถึงรู้ได้ว่าคุณน้าขวัญชอบทานอะไร'

'เหลวไหลแล้วยัยลี่ พ่อจะมีญาณทิพย์ ญาณวิเศษอะไรจากไหนกันล่ะ พ่อก็แค่เดาว่าคุณขวัญกับหนูจาเขาน่าจะชอบอาหารแนวนี้ก็เท่านั้นเอง'

'รู้ใจผู้หญิงแบบนี้ ทำไมยังไม่มีสาวคนไหนยอมมาเป็นแม่เลี้ยงลี่ก็ไม่รู้นะคะพี่นิน'

คำพูดของเด็กสาวทำให้คุณจอมขวัญประหลาดใจ เธอไม่ได้ติดตามข่าวคราวของคุณบัณทัตมาเป็นสิบปี คาดการณ์ได้ว่าเขาน่าจะแต่งงานมีครอบครัว แต่...เขาคงเลิกรากับภรรยาไปแล้วกระมัง

'พ่อของลี่เขาคงรักคุณแม่มาก' ธนินตอบญาติผู้น้อง 'แม่เค้าเสียไปตั้งแต่ลี่เพิ่งจะไม่กี่ขวบ พี่ก็ไม่เห็นว่าพ่อเขาจะมีท่าทีสนใจจะแต่งงานกับใครอีก'

ลิลลี่ดูมีสีหน้าสลดลงเล็กน้อย คุณจอมขวัญที่สังเกตเห็นจึงเอ่ยปลอบ 'น้าเสียใจด้วยนะจ๊ะ หนูลี่'

'ไม่เป็นไรหรอกค่ะน้าขวัญ ตอนที่คุณแม่เสียลี่ยังเด็ก จำอะไรไม่ได้เลยแต่ที่ลี่อดคิดไม่ได้คือ ไม่รู้ว่าเพราะลี่รึเปล่าพ่อถึงไม่ยอมแต่งงานใหม่สักที ลี่อยากให้พ่อของลี่มีความสุข'

'อยู่อย่างนี้พ่อก็มีความสุขดีแล้วล่ะ มีลูกสาวน่ารักแบบนี้อยู่ทั้งคน' คุณบัณทัตยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาว กล่าวต่อโดยที่สายตานั้นส่งมาทางคุณจอมขวัญราวกับจะบอกความตั้งใจที่จะสื่อถึงเป้าสายตาโดยตรง 'อีกอย่าง พ่อเสียคนที่รักมาแล้วทั้งจากเป็น จากตาย พ่อว่าพ่อคงจะรับไม่ไหวแล้วถ้าต้องเสียใครไปอีก'

คุณจอมขวัญถึงกับต้องเอ่ยปากขอตัวเข้าห้องน้ำกับถ้อยคำที่บ่งบอกความเจ็บปวด สายตาที่สื่อถึงความรวดร้าวใจของคุณบัณทัต หากกระนั้นกระทั่งตอนนี้เธอก็ยังไม่อาจจะสลัดสายตาคู่นั้นจากห้วงความคิดได้



เสียงเคาะประตูไม้พร้อมเสียงเรียกของหลานสาวดังขึ้นเรียกให้คุณจอมขวัญหันหลังก้าวไปดึงสลักไม้เปิดประตู ปัดเรื่องที่รบกวนจิตใจออกไปได้ในที่สุด อย่างน้อยก็ชั่วขณะ

"กลับมาแล้วเหรอหนูจา เร็วจริง" คุณจอมมขวัญมองหลานสาวเห็นแววของความสงสัยใคร่รู้ในดวงตาของจารุดา "หนูจายังคิดว่าน้าไม่สบายอยู่อีกเหรอ"

"ขอจาเข้าคุยด้วยได้ไหมคะน้าขวัญ"

"ได้สิจ๊ะ"

คุณจอมขวัญเอื้อมไปกดเปิดสวิตซ์ไฟในห้องก่อนเดินไปนั่งที่เตียง จารุดาสอดสลักไม้ล็อกประตูก่อนเดินไปนั่งข้างน้าสาว

"น้าขวัญกับคุณทัด อาของคุณธนินรู้จักกันมาก่อนรึเปล่าคะ"

"ทำไมหนูจาถึงถามน้าแบบนี้ล่ะจ๊ะ"

"จาสังเกตเห็นว่าน้าขวัญแปลกไปตั้งแต่วันก่อนนั้น วันที่เราไปที่ห้างเดอะเบสท์กัน ยิ่งผิดปกติตอนที่เจอกับคุณทัด"

"หนูจาช่างสังเกตจริง" คุณจอมขวัญฝืนยิ้ม "เรื่องมันนมนานมาแล้ว น้าไม่อยากพูดถึง"

"แต่ถ้าน้าขวัญจะไปช่วยจาคุมงาน ยังไงก็คงต้องเจอกับคุณทัดนะคะ แล้วน้าขวัญจะ..."

"น้ากับคุณทัดไม่ได้เกลียดกัน ไม่มีปัญหาอะไรหรอกจ๊ะ"

จารุดาเอื้อมมากุมมือน้าสาวแผ่วเบา "น้าขวัญไม่ไว้ใจจาเหรอคะ"

"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกจ๊ะ"

"ถ้าจาพอจะแบ่งเบาเรื่องที่หนักใจของน้าขวัญได้จายินดีนะคะ บางทีการได้ระบายได้เล่าอะไรออกมา อาจจะทำให้น้าขวัญสบายใจขึ้นบ้างก็ได้"

คุณจอมขวัญลังเล หากหลานสาวเอ่ยเหมือนรู้ใจ

"ก่อนจะมานี่ จาไปดูคุณยายมาค่ะ คุณยายบอกว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่จะนอนพักอีกหน่อย เรื่องนี้น้าขวัญไม่อยากให้คุณยายรู้ใช่ไหมคะ"

"จานี่เดาอะไรเก่งจริงนะ รู้ด้วยเหรอว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับคุณยาย"

"สำหรับจากับน้าขวัญ เราก็คงเหมือนกันนั่นแหละค่ะ ทำทุกอย่างเพื่อให้ยายสบายใจ แล้วจาว่าเรื่องที่คุณอาของคุณธนินเขารู้ใจ รู้ว่าน้าขวัญชอบทานอะไร แล้วก็พูดเรื่องจากเป็นจากตายอะไรนั่น ก็เพราะเขารู้จักน้าขวัญมาก่อนใช่ไหมคะ" จารุดาคาดเดา "ที่จาเห็นอาการแปลก ๆ ของน้าขวัญตั้งแต่เราไปถึงห้างเดอะเบสท์ก็เพราะคิดเอาไว้แล้วว่าอาจจะได้เจอคุณบัณทัต เรื่องบ้านเราในอดีตนอกจากเรื่องของแม่แล้ว มีเรื่องอะไรที่จายังไม่รู้อีกใช่ไหมคะ"

คุณจอมขวัญนิ่งงันไปพักใหญ่ ตระหนักว่าหลานสาวรู้จักตนดีและเปล่าประโยชน์ที่จะปฏิเสธ

"เรื่องบ้านเรามันมีมากกว่าที่จารู้จริง ๆ นั่นแหละจ๊ะ ถ้าจะว่าไปแล้วจาจะเข้าใจยายมากขึ้นถ้าได้รู้เรื่องของยายอีกสองคน เรื่องของรุ่นยายน้าก็ไม่ได้รู้ละเอียดนัก น้าเองก็ฟังต่อมาอีกทีจากคนเก่าคนแก่ในบ้านแล้วก็แม่ของจาแต่เรื่องแม่ของจากับเรื่องของน้านี่ประสบการณ์ตรงเลยล่ะ"

เหตุการณ์ในอดีตทั้งจากคำบอกเล่าของคนอื่นและทั้งจากสิ่งที่ได้พบเจอกับตนเองหวนกลับเข้ามาสู่ห้วงคำนึงอีกครั้งเมื่อหญิงกลางคนถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านั้นให้หลานสาวฟัง




กมลภัทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 พ.ย. 2555, 20:04:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 พ.ย. 2555, 20:04:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 3412





<< ตอนที่ 5   ตอนที่ 7 >>
กมลภัทร 11 พ.ย. 2555, 20:18:32 น.
lovemuay >>>> ตอนหน้าน้าขวัญจะเล่าให้ฟังครับ ตัวละครพาร์ทอดีตจะเยอะหน่อยแต่จะช่วยอธิบายถึงปัจจุบันได้ครับ

bluelily >>>> พี่ก็อยากนะ แต่มันไม่ทันจริง ๆ

panon >>>> เดี๋ยวตอนหน้าเคลียร์อดีตไปส่วนหนึ่งครับ

nasa >>>> แม่นแล้วครับ

เพียงพลอย >>>> ยังอ่านขาดเหมือนเดิม เหมือนนั่งในใจคนเขียนเลยนะหนูพลอย (เป็นคนเดียวที่เดาไปทางนั้น ทางไหน ไม่บอก 555)

ของขวัญ >>>> มีแน่ ๆ ครับ ตอนหน้ารู้กัน ^^


lovemuay 11 พ.ย. 2555, 22:14:34 น.
ตอนหน้าจะเฉลยแล้ว แต่เราก็พอจะเดาได้รางๆค่ะ
น้าขวัญกับคุณทัตคงจะเป็นแฟนเก่ากัน
แถมเรื่องหนูจาเองดูเรื่องจะวุ่นนะคะ พี่น้องอาจจะมาแย่งผู้ชายคนเดียวกัน

เดี๋ยวจะคอนดูตอนหน้าๆ ว่าจะเดาถูกมั๊ย อิอิ


ของขวัญ 12 พ.ย. 2555, 01:05:01 น.
ลุ้นรอไปอีกสิบวันเลยสิคะเนี่ย เรื่องของพ่อหนูลี่กับน้าขวัญ พอจะเดาทางได้กลายๆ
แต่เรื่องแม่หนูจานี่สิ ต้องมีอะไรเยอะแยะแน่ๆเลย ใช่มั้ยคะ


น้องอุด้ง 12 พ.ย. 2555, 08:36:24 น.
โอยลุ้นๆ รอตอนต่อค่า^O^


wane 13 พ.ย. 2555, 02:44:03 น.
ความลับกำลังจะคลี่คลายอีกเรื่องนึงแล้ว


เพียงพลอย 13 พ.ย. 2555, 23:22:36 น.
แง่ม เดาไปทางไหนถูกล่ะเนี่ย เดี๋ยวตามไปเรื่อยๆ คนเขียนอย่าเลี้ยวหนีเค้าละกานนน อิอิ

คุณยายสองคน คุณแม่นางเอก คุณน้าจอมขวัญอีก เหวออออ บ้านนี้ต้องคำสาปไรป่าวเนี่ยยยย 555 คนอ่านเพ้อได้ออกทะเลมากคร่าาาาา

ว่าแต่อิรุงตุงนังกันขนาดนี้ พระเอกนางเอกจะอินเลิฟกันเมื่อไหร่อ่า เค้ารอ ร๊อ รอ อยู่น้า


panon 16 พ.ย. 2555, 16:03:46 น.
โห้ซับซ้อนพันกันยุ่งเป้นยุงตีกันจะแกะออกไหม ปมที่ผูกเนี่ยยยยยย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account