แผนรักพันใจ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 7

เจิม จวงและจันทร์ สามสาวพี่น้องทายาทเจ้าของสวนผลไม้ใหญ่เป็นสามพี่น้องที่มีความโดดเด่นกันคนละด้าน เจิมลูกสาวคนโตขึ้นชื่อเรื่องความสวยมีชายหนุ่มมากหน้าหลายตาเข้ามาติดพัน จวงคนรองเก่งงานครัวเพราะชอบคลุกคลี ช่วยงานแม่อยู่ในครัวตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนจันทร์นั้นแม้เป็นลูกคนเล็กแต่ด้วยนิสัยที่ค่อนข้างกล้าตัดสินใจ มีความเป็นผู้นำกว่าพี่ ๆ จึงต้องรับหน้าที่เป็นสานต่อการงานดูแลสวนผลไม้ต่อจากพ่อแม่ที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์

แม้ว่าเจิมจะสวยเด่นกว่าน้องสาวทั้งสอง แต่จวงและจันทร์ก็ไม่ใช่หญิงขี้ริ้ว พอมีชายหนุ่มทั้งรุ่นราวคราวเดียวกัน อ่อนวัย สูงวัยกว่ามาชอบพออยู่บ้าง

สวนผลไม้ของครอบครัวนี้ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำทุกปี ปู่ยาตายายจึงมีเงินนอนหาซื้อที่ทางขยับขยายสวน รวมถึงหาซื้อที่ดินในต่างจังหวัดเก็บไว้เป็นสมบัติให้ลูกหลานได้ตั้งแต่ราคายังไม่สูงมาก และเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มีผู้ชายเข้ามาวนเวียนในชีวิตของหญิงสาวทั้งสามและสำหรับบางคนทรัพย์สมบัติเป็นเรื่องหลัก

เมื่อถึงเวลาอันควรเจิมพี่สาวก็เลือกชายหนุ่มคนหนึ่งมาร่วมชีวิตด้วย และเธอก็เลือกคู่ได้สมกับความสวยของตัว แต่ด้วยความเป็นคนหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาจึงมีผู้หญิงที่เข้ามาพัวพัน ทั้งคนเก่าที่ยังตัดกันไม่ขาดและคนใหม่ที่เข้ามา เจิมเริ่มกลายเป็นคนเก็บกด คอยตามหึงหวงสามี พฤติกรรมนั้นเหมือนเป็นการผลักให้ชายหนุ่มเบื่อหน่าย ลอบไปมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นหลายคน บางครั้งผู้หญิงเหล่านั้นก็พากันมาตามตัว 'สามี' กันถึงบ้านสวน เจิมไม่มีปัญญาจะจัดการอะไรนอกจากคร่ำครวญเสียอกเสียใจ มีเพียงจันทร์ที่ออกโรงคว้าสิ่งของใกล้ตัวโบกไล่ผู้หญิงของพี่เขยออกจากบ้านคนแล้วคนเล่า

จวงน้องสาวได้พบผู้ชายที่ไม่เจ้าชู้ อย่างพี่เขย แต่สามีของเธอนั้นเป็นนักพนันตัวยง มักจะขอเงินไปเข้าบ่อนเล่นพนันหายไปทีวันสองวันบ้าง สี่ห้าวันบ้าง แล้วแต่ว่าจะเล่นได้หรือเล่นเสีย ครั้งไหนที่เสียพนันมามาก ก็มักจะฉุนเฉียว ภรรยาพูดไม่เข้าหูนิดหน่อยก็ลงไม้ลงมือตบตี

จันทร์เรียนรู้จากพี่สาวทั้งสองเธอจึงเลือกคู่ชีวิตอย่างระมัดระวัง แต่กระนั้นก็ยังไม่วายถูกหลอก ชายหนุ่มที่คิดว่าขยันทำมาหากินแม้จะมีฐานะยากจนกลับเปลี่ยนเป็นคนละคนหลังจากแต่งงาน สามีของเธอเที่ยวเตร่ด้วยเงินทองของภรรยา เมากลับบ้านทุกวัน ไม่นานจันทร์เริ่มตาสว่าง สามีของเธอไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่าความสุขสบายจากเงินทองของคู่ชีวิต หากเพราะยังรักมากจึงยินยอมให้เงินเขาไปเที่ยวเตร่ สำมะเลเทเมาไม่เว้นวัน กระทั่งเริ่มชินชากับพฤติกรรมของสามี

เพราะต้องเจอกับปัญหาของตนเองไม่ต่างไปจากพี่สาวทั้งสอง จันทร์ที่ปกติเก่งกล้าสารพัดกลับจนปัญญาจะช่วยเหลืออะไรพี่สาวได้ ทั้งเจิมและจวงยังคงรักใคร่สามีอยู่มาก จันทร์เลยไม่อาจจะหักหาญต่อกรกับพี่เขยทั้งสองได้มากนัก ทว่าเธอโชคดีกว่าพี่ทั้งสองเพราะสามีเมามายจนพลัดตกท้องร่อง จมน้ำตายเสียตั้งแต่แต่งงานกันไม่ถึงสองปีและยังไม่มีลูกด้วยกัน



"ยายถึงได้พูดมาตลอดว่าบ้านเราเหมือนถูกสาป ลูกหลานมีแต่ผู้หญิง แถมแต่ละคนก็ได้เจอแต่พวกผู้ชายเลว ๆ"

จารุดาพอได้ยินได้ฟังว่าคุณยายจันทร์ไม่ชอบผู้ชายเพราะมีประสบการณ์ไม่ดี หากไม่เคยได้ฟังรายละเอียดจากที่ได้ยินจากปากน้าสาวครั้งนี้

"ยายเจิมมีลูกสาวก็คือแม่ของจา ยายจวงก็เป็นยายแท้ ๆ ของน้า" คุณจอมขวัญเหมือนยังอยู่ในห้วงความคิดถึงเรื่องราวในอดีตเมื่อเอ่ยกับหลานสาว "ยายเจิมคอยตามตาตลอด ร้องไห้คร่ำครวญเสียอกเสียใจทุกครั้งที่พบว่าตาไปมีผู้หญิงคนอื่น จนกระทั่งตาเขาไปเจอกับผู้หญิงที่เขาชอบมากจริง ๆ ก็หนีไปอยู่ด้วยกันไม่กลับมาอีก ยายเจิมเสียใจจนไม่เป็นผู้เป็นคน ล้มหมอนนอนเสื่อ ไม่กี่ปีก็เสีย"

"แล้วยายจวงล่ะคะ ยายจันทร์เคยบอกว่ายายจวงพลาดตกบันได" หญิงสาวนึกคาดการณ์แล้ว ยกมือขึ้นแตะริมฝีปากอย่างไม่อยากจะเชื่อความคิดตนเอง "คงไม่ใช่เพราะ..."

"ตาเสียพนันหนักเข้า ยายจวงก็เริ่มไม่มีเงินให้เพราะยายจันทร์บริหารเงินของทั้งบ้าน ยายจวงใช้วิธีขายสร้อย ขายของที่มีติดตัวเอาเงินให้ตาไปเล่นจนกระทั่งไม่มีอะไรจะไปขายแล้ว วันนั้นเลยทะเลาะกันหนักลงไม้ลงมือจนยายจวงตกบันได ตอนนั้นดึกมาก ไม่มีใครสนใจเพราะคู่นี้ทะเลาะกันอยู่เรื่อย พอเช้ามาตาก็หนีไปแล้ว แต่เหมือนกรรมจะตามทันเร็วกว่าที่คิด ตาโดนรถชนตายระหว่างที่หลบหนีการจับกุม"

จารุดาที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังเรื่องราวละเอียดกุมมือตัวเองแน่น รู้สึกได้ว่ามือตนเองเย็นเฉียบ ยายจันทร์คอยสั่งห้ามไม่ให้ใครต่อใครเล่าเรื่องเก่า ๆ ให้หลานสาวฟัง เธอจึงได้รู้จากปากยายเพียงว่า 'พวกผู้ชายมันเลว เชื่อใจไม่ได้' เท่านั้น

"ยายจันทร์เลยเลี้ยงแม่ของหนูจากับน้ามาตั้งแต่ยังเด็ก ไม่ใช่แม่แท้ ๆ ก็เหมือนแม่ คอยพูดคอยสอนแม่จีกับน้าอยู่เสมอ ว่าให้อยู่ห่างจากผู้ชาย ส่งแม่กับน้าเรียนโรงเรียนผู้หญิงมาตลอด แต่พอเข้าสู่สังคมมหาวิทยาลัยมันก็หลีกเลี่ยงยาก"

คุณจอมขวัญถอนใจยาว นึกถึงครั้งที่ตนและจิตาภาเริ่มเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา บ้านสวนที่ว่างเว้นจากเรื่องผู้ชายมานานปีก็กลับมีชายหนุ่มเข้ามาพัวพันอีกครั้ง



จิตาภาเริ่มเรียนมหาวิทยาลัยขณะที่จอมขวัญเพิ่งจะเรียนมัธยมปลาย เมื่อเริ่มเรียนในระดับอุดมศึกษาไม่ใช่โรงเรียนสตรีอย่างที่เคยเป็น 'น้าจันทร์' ก็เริ่มมีปัญหากับหลานสาวที่เลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อยเหมือนเป็นลูกตัว

'อะไรนะ จะไปทำรายงาน ไปที่ไหนยังไง ทำไมไม่มาทำที่บ้านเรา'

'บ้านเพื่อนน่ะจ๊ะน้าจันทร์' จิตาภาเอ่ยตอบคุณจันทร์เมื่อถูกย้อนถามหลังจากขออนุญาตไปทำรายงานบ้านเพื่อน 'เพื่อนในกลุ่มส่วนใหญ่บ้านอยู่ในเมือง ไม่สะดวกมา'

'ก็ให้คนงานในสวนขับรถรับส่งก็ได้ ไม่เห็นจะลำบากลำบนอะไรตรงไหน แล้วที่ว่ารายงานกลุ่มเนี่ยในกลุ่มมีผู้ชายรึเปล่า'

'โธ่! น้าจันทร์จ๋า...ในกลุ่มก็มีทั้งผู้หญิงผู้ชายนั่นแหละจ๊ะ แต่เราไปทำรายงานกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ มีเพื่อนไปกันตั้งหลายคน แต่ถ้าน้าไม่สบายใจล่ะก็ คราวหน้าจีจะเสนอให้เขามาทำรายงานกันที่บ้านสวนของเราดีไหมจ๊ะ สลับกันไป เพื่อนจะได้ไม่ว่าเอาว่าเราเอาเปรียบ'

คุณจันทร์มองหลานสาวอย่างช่างใจก่อนจะหันไปมองหลานสาวอีกคนที่ทำนั่งพิงหมอนขวานอยู่ที่โถงเรือนไม่ไกลนัก ในมือถือหนังสือนวนิยายเหมือนกำลังอ่านหากแต่เมื่อผู้เป็นน้าหันมามองก็รู้ว่าจอมขวัญกำลังสนใจฟังน้ากับลูกผู้พี่คุยกันอยู่

'ให้ขวัญไปเป็นเพื่อนด้วยก็แล้วกัน เพื่อนเราคงไม่ว่าอะไรหรอก ว่าแต่บ้านเพื่อนที่ไปเนี่ย เพื่อนผู้ชายหรือเพื่อนผู้หญิง'

'ผู้หญิงจ๊ะ' จิตาภาตอบน้าสาว แต่สายตามองญาติผู้น้องเหมือนจะบอกนัยบางอย่าง...จิตาภาโกหก

'แล้วจะไปกันยังไง'

'พ่อของเพื่อนที่พักอยู่แถวนี้เขาจะขับรถไปส่งจ๊ะ เขาบอกว่าให้จีติดรถไปด้วยได้ แต่ถ้าขวัญไปด้วย...จีไม่แน่ใจว่าจะมีที่ว่างรึเปล่า'

'ก็โทร.ถามเขาดูก่อนสิว่าจะมีใครไปอีกรึเปล่า หรือจะให้น้าโทร.ให้'

'ไม่เป็นไรจ๊ะ เดี๋ยวจีโทร.เองดีกว่า'

จิตาภารีบบอกแล้วหันมามองสบตาจอมขวัญส่งสายตาแบบที่ลูกเรียงพี่เรียงน้องทั้งสองต่างก็รู้กัน เวลามีเรื่องที่ต้องปิดบังผู้เป็นน้า และการติดตามจิตาภาไปทำรายงานบ้านเพื่อนของจิตาภาในครั้งนั้นก็นำพาเอาเรื่องราวรักใคร่ประสาหนุ่มสาวมาสู่สองพี่น้อง



บ้านชายหนุ่มที่จิตาภาไปทำรายงานด้วยในบ่ายวันเสาร์นั้นเป็นบ้านของทายาทนักธุรกิจดังเจ้าของห้างเดอะเบสท์ บัณฑิตในวันหนุ่มนั้นดูหล่อเหลาไม่แพ้กับดาราชายในยุคนั้น และเพียงแค่ได้เห็นเพื่อนของญาติผู้พี่คนนี้จอมขวัญก็ตกหลุมรักเข้าในทันที แม้จิตาภาจะขออนุญาตเจ้าของบ้านให้จอมขวัญไปเดินเล่นรอบบ้านได้แต่เธอกลับเลือกที่จะนั่งอยู่ภายในศาลาไม้หลังใหญ่กลางสวน รวมกลุ่มอยู่กับลูกผู้พี่และบรรดาเพื่อนนักศึกษา คอยจับจ้องไปทางบัณฑิตอยู่ตลอด ขณะเดียวกันก็จับสังเกตเห็นปฏิกิริยาแปลก ๆ ของจิตาภากับเพื่อนผู้ชายอีกคนหนึ่งในกลุ่ม

'พี่หนึ่ง' มักจะมองลูกผู้พี่ของเธอด้วยสายตาที่สื่อนัยบางอย่าง บ่อยครั้งที่จิตาภาเองก็มองตอบสายตานั้นด้วยอารมณ์หวานล้ำลึกเฉกเช่นกันและหลายครั้งที่จอมขวัญละสายตาจากบัณฑิตก็จะพบว่าจิตาภากำลังจับตามองเธออยู่อย่างจับสังเกต

เมื่อกลับถึงบ้านในตอนเย็น คุณจันทร์ถามไถ่หลานสาวเรื่องการไปทำรายงานของหลานสาว ซักไซ้ถามถึงรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งจิตาภาและจอมขวัญต่างพากัน 'เล่าไม่หมด' ด้วยกันทั้งคู่ และต่างฝ่ายต่างก็รู้กันว่าไม่สามารถที่จะบอกเล่าเรื่องราวให้คุณจันทร์รับรู้ได้ทั้งหมด

หลังมื้อเย็นวันนั้น จอมขวัญไปเคาะประตูห้องจิตาภา มองไปรอบเรือนอย่างระแวดระวังก่อนที่จะก้าวเข้าไปเมื่อเจ้าของห้องเปิดประตูให้เข้าไปในห้อง

'พี่จีชอบพี่คนนั้นใช่ไหม พี่คนนั้นชื่ออะไรน้า...พี่หนึ่งใช่ไหม'

'อะไรกันยัยขวัญ อยู่ ๆ ก็มาถามอะไรแบบนี้' จิตาภาหย่อนตัวลงนั่งบนเตียง แม้จะทำไม่รู้ไม่ชี้แต่ก็ไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มได้ ดวงตาหวานคู่นั้นเหมือนกำลังคิดถึงใครคนหนึ่งอยู่ หากเมื่อนึกขึ้นได้ก็ยกนิ้วชี้ใส่น้องสาว 'ว่าแต่เราเถอะยัยขวัญ พี่ก็เห็นนะว่าเราจ้องพี่ดิดเพื่อนพี่อยู่เหมือนกัน แอบมองเขาบ่อย ๆ ชอบเพื่อนพี่ใช่ไหม'

คราวนี้เป็นจอมขวัญเองที่ตระหนก เธอรีบแตะนิ้วเข้าที่ริมฝีปากก่อนเอ่ยกับพี่สาวด้วยเสียงกระซิบ 'อย่าดังไปสิพี่จี เดี๋ยวน้าจันทร์ได้ยินเข้ามีหวังโดนดีกันทั้งคู่ น้าจันทร์บอกแล้วว่าไม่อยากให้เราไปข้องแวะกับผู้ชาย'

'แต่ถึงเวลาที่เราควรจะมีคู่ เราก็ต้องมีนะขวัญ' จิตาภาว่า แม้น้ำเสียงนั้นจะไม่มั่นใจเท่าใดนัก สองพี่น้องต่างรู้กันดีว่าการที่ผู้ชายสักคนจะเข้ามาในชีวิตของเธอทั้งสองนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ใหญ่มากสำหรับคุณจันทร์ผู้เป็นน้า 'น้าจันทร์คงจะเข้าใจ'

'ขวัญไม่แน่ใจเลยพี่จีว่าน้าจันทร์จะเข้าใจจริง ๆ ดูอย่างคนทำงานในไร่ในสวนสิ ถ้าเป็นพวกผู้ชายล่ะก็น้าจันทร์แทบจะไม่เสวนาด้วยสักคำ คน ขนาดทำงานกับเรามาตั้งนาน'

'พี่เชื่อว่าถึงเวลาน้าจันทร์จะทำใจยอมรับได้'

จอมขวัญพยักหน้ารับคำ ไม่อยากจะขัดลูกผู้พี่เพราะเธอเองก็อยากหวังเช่นกันว่าน้าสาวจะเข้าใจเธอเมื่อถึงเวลาต้องมีเหย้ามีเรือน ชั่ววินาทีต่อมาความคิดคำนึงถึงชายหนุ่มรุ่นพี่ทำให้ความกังวลถูกปัดทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

'แล้วคราวหน้าจะทำรายงานกลุ่มกันที่บ้านเรา พี่ดิดเขาจะมาด้วยรึเปล่าพี่จี'

'มาสิ งานกลุ่มนี่ต้องจับกลุ่มกันตลอดเทอม'

'งั้นพี่จีกับพี่หนึ่งก็ได้ทำรายงานกันไป สบตากันไปอย่างนี้อีกตลอดน่ะสิ'

จิตาภายกมือขึ้นตีต้นแขนญาติผู้น้องด้วยความขวยอาย 'นี่แน่...ล้อเลียนดีนัก ขวัญเองก็อยากเจอพี่ดิดใช่ไหมล่ะ ถึงได้ถามหาน่ะ'

จอมขวัญไม่ตอบคำหากใจนึกไปถึงความหล่อเหลา ท่าทางโก้หรูของบัณฑิตเพื่อนเรียนของลูกผู้พี่ นึกถึงวันที่จะได้เจอชายหนุ่มในฝันของเธออีกครั้ง



ทว่าวันที่จอมขวัญได้พบกับบัณฑิตอีกครั้งกลับไม่ใช่วันที่มีความสุข อิ่มเอมใจที่ได้เห็นหน้าชายหนุ่มในฝันอย่างที่เธอคิดไว้ เพราะบัณฑิตเดินทางมาทำรายงานที่บ้านสวนพร้อมกับมีคนติดตามมาอีกสองคน คนหนึ่งคือบัณทัตน้องชายที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับจอมขวัญ ส่วนอีกคนเป็นหญิงสาวที่เรียนต่างมหาวิทยาลัย

บัณฑิตแนะนำหญิงสาวที่เรียนอยู่คนละคณะกัน โดยแจ้งให้ทุกคนอยู่ที่ศาลาริมน้ำภายในบ้านสวนรวมถึงจอมขวัญที่อาสามาช่วยเหลือดูแลเรื่องขนม เครื่องดื่มให้เพื่อนของลูกผู้พี่ได้รู้จักกับชนัญญาในฐานะคนรัก

โลกของเด็กสาวอย่างจอมขวัญเหมือนถล่มทลายลงตรงหน้า เธอซ่อนความรู้สึกนั้นเอาไว้ขณะที่จัดแจงทุกสิ่งให้เพื่อน ๆ ของจิตาภาจนเรียบร้อย จึงหลบไปหามุมสงบเงียบภายในสวนนั่งร้องไห้สะอื้นเพียงลำพัง

'มาทำอะไรตรงนี้'

เสียงที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง จอมขวัญยกหลังมือทั้งสองข้างปาดน้ำตาทิ้งแล้วหันไปมองคนที่มารบกวนเวลาส่วนตัวอย่างไม่พอใจนัก เด็กหนุ่มที่ดูแล้วไม่มีเสน่ห์ดึงดูดแบบพี่ชายเลยสักนิด เธอแทบจะไม่ได้สนใจจำชื่อตอนที่บัณฑิตแนะนำให้เพื่อนรู้จักกับน้องชายที่ไม่ได้อยู่บ้านในวันที่จอมขวัญติดตามญาติผู้พี่ไปที่บ้านหรือจะเรียกให้ถูก คฤหาสน์หลังใหญ่ ที่พำนักของสองพี่น้อง

เพราะอารมณ์ขัดเคือง จอมขวัญจึงไม่ตอบคำถามหากย้อนเสียงห้วน

'มาเดินเรื่อยเปื่อยในสวนไม่กลัวโดนงูฉกเอาหรือไง'

เด็กหนุ่มตาตี่ ชื่ออะไรนะ...ทัด หรืออะไรสักอย่างยิ้มและยิ่งยิ้มก็ยิ่งทำให้ดวงตาที่เล็กอยู่แล้วเกือบจะกลายเป็นเพียงเส้นตรงสองเส้นใต้คิ้ว แต่แปลกที่มันสร้างความรู้สึกบางอย่างให้เกิดขึ้นกับผู้ที่ได้เห็น

'ยิ้มอะไร เตือนดี ๆ นะ ลูกหลานคนร่ำคนรวย อยู่คฤหาสน์หลังเบ้อเร่อ มาเดินสุ่มสี่สุ่มห้าในสวน เดี๋ยวก็ได้เจองูให้หรอก'

'ถ้ามีงู เธอมานั่งอยู่ตรงนี้ตั้งนานมันคงฉกเธอไปแล้วล่ะมั้ง' บัณทัตพูดอย่างไม่ใส่ใจ หย่อนตัวลงนั่งข้างจอมขวัญ 'ตอนแรกพี่ดิดชวนมาบ้านสวนของเพื่อน ก็นึกว่าจะได้เดินดูโน่นดูนี่ แต่นี่กลับต้องมานั่งเฝ้าพี่ดิดทำรายงาน น่าเบื่อจะตาย เลยขอมาเดินเล่น'

'สวนผลไม้ จะน่าเดินเล่นอะไรตรงไหน'

'ก็เธออยู่มาตั้งแต่เล็กจนโตนี่' บัณทัตโต้ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว 'พาไปดูหน่อยสิ ว่าในสวนเขาทำอะไรกันบ้าง แล้วช่วงนี้มีผลไม้อะไรให้เก็บ'

'ทำไมต้องพาไปด้วย รู้จักกันก็ไม่รู้จักสักหน่อย'

'ไม่รู้จักได้ไง เมื่อกี้ตอนพี่ดิดแนะนำเธอก็อยู่ในศาลา ฉันชื่อทัดไง ส่วนเธอ...พี่จีก็แนะนำแล้วว่าชื่อขวัญ เพราะฉะนั้นเราสองคนรู้จักกันแล้วนะ'

จอมขวัญส่ายหน้า อารมณ์เศร้าจากการที่ชายหนุ่มในฝันพาหญิงสาวคนรักมาแนะนำตัวเหมือนถูกจะแทนที่ด้วยความขวางหูกับชายหนุ่มที่อยู่ดี ๆ ก็มาทำตัวเหมือนสนิทสนมจะให้เธอพาไปดูโน่นดูนี่ หากไม่ทันขยับจะแย้งอะไรเขาก็ลุกขึ้นยืน

'ในฐานะเจ้าบ้านที่ดี พาไปเดินดูสวนหน่อยนะ ปล่อยให้แขกเดินดุ่มสุ่มสี่สุ่มห้าไปคนเดียว เกิดถูกงูกัดตายขึ้นมาจริง คนเขาจะว่าเอาได้ว่าบ้านนี้ดูแลแขกของบ้านไม่ดี'

จะด้วยคำพูดของบัณทัตมีน้ำหนักหรือรอยยิ้มจริงใจที่จอมขวัญได้เห็นขณะที่เขาก้มลงมาพูดกับเธอ จอมขวัญก็ไม่อาจจะระบุได้ หากหญิงสาวรู้เพียงแต่เธอพยักหน้ารับอย่างเสียมิได้ ก่อนจะพาเด็กหนุ่มเดินเที่ยวชมสวน ตอบคำถามเกี่ยวกับต้นหมากรากไม้ที่เธอรู้จักดีมาตั้งแต่เด็ก

ลูกหลานคนรวยนี่จริง ๆ เลย แค่ผลไม้ในสวนแค่นี้ก็ตื่นเต้นไปได้



เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นคุณจอมขวัญก็ได้แต่ยิ้มอย่างเปี่ยมสุข มารู้ตัวเอาตอนที่หลานสาวส่งเสียงกระแอมแผ่วเบา หญิงกลางคนจึงได้สติ

"ตอนแรกที่เจอ คงเพราะคุณทัดเขาไม่ได้หล่อเหลาเหมือนพี่ชาย น้าก็ไม่ได้สนใจอะไร ขวางเสียด้วยซ้ำ แต่พอได้พาเขาเดินดูสวน ได้คุยด้วยก็รู้ว่าคุณทัดเขาเป็นคนอารมณ์ดี น้าที่ตอนนั้นรู้สึกเหมือนอกหักก็ลืมความรู้สึกผิดหวังไปสนิท"

"คนที่คุณทัดพามาแนะนำก็คือคุณแม่ของคุณนินสินะคะ"

"ใช่จ๊ะ...เขาคบหากันแล้วก็แต่งงานกันหลังจากที่เรียนจบไม่นาน"

"ส่วนคนที่น้าขวัญเล่าว่าแม่แอบมองอยู่ก็คือพ่อ"

ผู้เป็นน้าพยักหน้าแทนคำตอบ ผ่อนลมหายใจยาว

"น้าตามแม่เขาไปทำรายงานหลานหน เพราะยายเขาไม่อยากให้แม่ไปลำพัง บางทีคุณดิดก็มาทำรายงานที่บ้านสวนนี่...น้ากับคุณทัดก็ได้เจอกันอีกหลายครั้ง จนได้เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันเราก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นคนรักนะ"

"ยายคงไม่เคยรู้เรื่องเลยใช่ไหมคะ"

"ใช่จ๊ะ ทั้งน้า ทั้งแม่จีของหนู ต่างคนก็ต่างช่วยกันปกปิดเรื่องนี้ แต่พอเรียนจบเข้าทำงานรับราชการ พ่อของหนูเขาก็อยากจะให้แม่ยอมรับความจริงกับยายสักที"

"ยายไม่ยอม" จารุดาต่อเรื่องจากที่เธอเคยได้ยินได้ฟังมาบ้าง

"อาละวาดใหญ่โตเชียวล่ะ"

"แล้วแม่ทำยังไงคะ"

"แม่ของหนูเขาก็อาศัยน้าเหมือนตอนที่น้าอาศัยแม่ไปพบกับคุณทัด ไปส่งน้าทำรายงาน วันไหนที่น้าต้องค้นคว้าอยู่ห้องสมุดจนเย็น แม่เขาก็อาสาไปรอ ยายก็วุ่นกับเรื่องที่สวนตามคุมน้าไม่ได้ตลอดเลยต้องยอมให้แม่ไป แม่กับพ่อเขาก็เลยได้แอบพบกันอยู่หลายครั้ง คิดไปแล้ว...บางทีเรื่องของแม่กับพ่อ น้าเองก็มีส่วนผิด"

คุณจอมขวัญมองสบตาหลานสาวอย่างจะสื่อถึงความรู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ทว่าจารุดากลับยิ้มเอื้อมไปกุมมือน้าสาว

"น้าขวัญไม่รู้นี่จ๊ะว่ามันจะเกิดเรื่อง"

"ตอนที่แม่เขามาบอกยายว่ามีความสัมพันธ์กับพ่อแล้ว และพ่อยินดีที่จะรับผิดชอบ ยายโกรธมากจนล้มป่วย แม่เขาก็เลยต้องบอกปัดพ่อเรื่องที่จะมาสู่ขอ คอยดูแลยาย บอกไปว่าพยายามจะทำให้ยายใจอ่อนให้ได้ให้พ่ออดทนรอแต่พ่อของจาเขาคงจะกลุ้มใจมากถึงได้ไปเที่ยวแล้วดื่มจนเมามายกระทั่ง..."

"ไปพลาดท่าผู้หญิงคนนั้นเข้า" จารุดาต่อให้ เพราะรับรู้เรื่องราวมาบ้าง

"จ๊ะ...ทั้งที่แม่เขาปรนนิบัติยายจนดีขึ้น พูดให้ยายใจอ่อน ยอมที่จะให้พ่อเขามาสู่ขอรับผิดชอบแล้ว แต่ยังไม่ทันที่แม่เขาจะติดต่อพ่อให้พาผู้ใหญ่มาสู่ขอ พ่อเขาก็มาบอกกับแม่ของหนูจา ว่าทำผู้หญิงคนนั้นท้อง"

"ผู้หญิงคนนั้นโกหก"

หญิงสาวโพล่งขึ้นมาอย่างอัดอั้น ภาพอดีตครั้งที่ผู้ให้กำเนิดลอบมาพบเธอที่โรงเรียนและพยายามอธิบายความจริงทั้งหมดให้เธอฟังหวนกลับเข้ามาในห้วงความคิด หลายครั้งที่คุณเอกอมรพยายามจะเข้ามาขอพบลูกสาวที่บ้านสวนแต่ถูกยายจันทร์กีดกัน และผู้เป็นพ่อก็ไม่เคยละความพยายาม ยังหาทางแอบไปพบเด็กหญิงเป็นระยะ

ครั้งที่จารุดายังเป็นเพียงเด็กเล็กเธอเชื่อคำพูดของยายเพียงแค่ผู้ชายคนนี้เป็นคนไม่ดี ทำให้แม่เสียใจจนตาย กระทั่งเติบโตพอจะรู้ความ รับฟังเหตุผลได้ เธอจึงมีโอกาสได้ฟังจากมุมของผู้ให้กำเนิด

"พ่อบอกว่าหลงเชื่อเขา พอแต่งงานกันไปแล้วถึงได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ท้อง พ่อรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้นเพราะคิดว่าเธอท้องจริง ๆ แล้วตำแหน่งของพ่อเค้าก็ใหญ่โตมากในกระทรวง แล้วพ่อก็ไม่รู้ว่าแม่เองก็..."

"ใช่จ๊ะ ตอนนั้น แม่จีของหนูก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เพราะมัวแต่วุ่นดูแลยาย แล้วก็เครียดเรื่องที่ยายไม่ยอมรับพ่อ"

"ยายจันทร์ยิ่งต่อต้าน ไม่อยากให้มีผู้ชายเข้ามาข้องแวะกับน้า กับแม่อยู่แล้ว ตอนนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ตกอยู่ที่น้าคนเดียว ยิ่งแม่ของจามาเสียตอนคลอดจาอีก ยายโทษว่าเป็นเพราะแม่ช้ำใจกับเรื่องพ่อจนต้องตาย ทำให้หลานยายต้องกำพร้าแม่ ตอนที่แม่เขาเสียยายที่เลี้ยงแม่กับน้ามาตั้งแต่เล็กก็แย่เหมือนกัน ล้มป่วยอีกรอบ น้าต้องคอยดูแลอยู่ตลอด"

"เรื่องของคุณทัดกับน้าขวัญก็เลยต้องจบลงเพราะเรื่องของแม่กับพ่อเหรอคะ"

คุณจอมขวัญสะท้อนใจกับคำถามของหลานสาว พยักหน้ารับแผ่วเบา

"ยายเขาขอน้า ไม่ให้น้ายุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหน ยายไม่อยากให้น้าเสียใจเหมือนแม่ของจา" ภาพในอดีตดูเหมือนจะย้อมกลับมารบกวนจิตใจผู้พูดอีกครั้ง "ตอนนั้นยายป่วยมาก เพราะรับไม่ไหวที่ต้องมาเสียหลานไปคนนึง น้าไม่รู้จะทำยังไงได้นอกจากต้องยอมตามคำขอของยาย ยายเลี้ยงน้ามาแต่เล็ก ไม่ใช่แม่ก็เหมือนแม่ น้าไม่อยากให้ยายล้มป่วย เสียใจอีก"

"คุณทัด อาของคุณนินคงเสียใจมากนะคะ"

คนเป็นน้าขมวดคิ้วมองหลานสาวอย่างสงสัยในคำพูด หลานสาวยิ้มอ่อนโยนก่อนอธิบายความคิด

"ดูจากอายุของยัยลิลลี่แล้ว กว่าคุณทัดจะแต่งงานมีครอบครัว ก็คงจะใช้เวลาหลายปีนะคะน้าจันทร์"

"น้าเองก็ไม่รู้ น้าพยายามตัดขาดทุกอย่าง ไม่รับรู้รับฟังอะไรเรื่องของบ้านโน้นอีก...ไม่คิดว่าจู่ ๆ จะมีเหตุบังเอิญให้เราต้องมาได้เจอกันแบบนี้"

เรื่องของคุณจอมขวัญและคุณบัณทัตนั้นคุณยายจันทร์ไม่เคยรับรู้มาก่อน และยิ่งไม่รู้ว่าผู้ชายที่เคยมาติดพันหลานสาวนั้นเกี่ยวข้องกับห้างสรรพสินค้าเดอะเบสท์ ไม่เช่นนั้นแล้วคงจะยื่นคำขาดให้ปฏิเสธการร่วมงานกัน

ขณะที่น้าสาวยังหวนนึกถึงเรื่องความรักของตนในอดีต คนเป็นหลานกลับนึกแย้งคำพูดของคุณจอมขวัญขึ้นมาในใจ...บางทีเรื่องที่มาขอให้ไปร่วมงานด้วย อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญก็ได้ เพียงแต่เธอยังไม่รู้เท่านั้นว่าที่ธนินเข้ามาตีสนิทกับเธอนั้นมีสาเหตุใดอยู่เบื้องหลังกันแน่

จารุดาบอกตัวเองว่าไม่จำเป็นต้องสนใจหาเหตุผล ไม่จำเป็นต้องใส่ใจชายหนุ่ม ทว่าดูเหมือนใบหน้าของเขาจะเข้ามาวนเวียนรบกวนจิตใจของหญิงสาวไม่หยุดหย่อน




กมลภัทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 พ.ย. 2555, 23:54:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 พ.ย. 2555, 23:54:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 3125





<< ตอนที่ 6   ตอนที่ 8 >>
กมลภัทร 21 พ.ย. 2555, 23:59:07 น.
แว้บบบบบบ มาทันวันที่ 21 ตามสัญญา วันพุธปกติมีกิจกรรมออกกำลังกายกว่าจะกลับดึกบ้านก็เกือบห้าทุ่มแล้วครับ ^^

lovemuay >>>> ตอนนี้ย้อนอดีตล้วน ๆ ครับ ตอนหน้าเดินทางต่อ

ของขวัญ >>>> ศึกสายเลือด จารุดากับสุจิรา เป็นพี่น้องคนละพ่อ แต่ความเป็นมาค่อนข้างจะซับซ้อนนิดหน่อยครับ

น้องอุด้ง >>>> มาแล้วคร้าบบบ

wane >>>> อันนี้ปูเรื่องให้คุณยายจันทร์หน่อยนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นคนแก่ไม่มีเหตุผลไป ^_^

เพียงพลอย >>>> เรื่องน้าขวัญกับคุณทัด ไม่ได้เป็นเหตุให้ยายเกลียดผู้ชาย แต่ยายเป็นเหตุให้น้าขวัญไม่สมหวังกับคุณทัดจ้า (เหมือนจะมีพลอยที่เดา ๆ มาทางนี้อยู่คนเดียว)

panon >>>> ตอนนี้ปมจะผูกคอคนเขียนแล้วครับ ท่าทางจะแย่ ^^!


panon 22 พ.ย. 2555, 11:03:39 น.
อืมงานนี้สงสารใครดีเนี่ยยยยยยยยยยยยย


wane 22 พ.ย. 2555, 14:43:54 น.
ผู้หญิงบ้านนี้น่าสงสารจริงๆ ด้วย ...


nasa 22 พ.ย. 2555, 15:20:42 น.
สงสารคู่คุณร้า หวังว่าจะได้กลับมาคู่กันอีก


lovemuay 22 พ.ย. 2555, 20:47:59 น.
โห รุ่นคุณยายน่าสงสารขนาดนี้ ไม่แปลกหรอกที่คุณยายจะมีอคติกับผู้ชายน่ะค่ะ แถมยังมีเรื่องแม่ยัยจาอีก


ของขวัญ 23 พ.ย. 2555, 00:17:12 น.
เรื่องราวอลเวง ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากมายเลยนะคะเนี่ย
สงสารน้าขวัญกับคุณยายจริงๆ ตอนนี้


nunoi 26 พ.ย. 2555, 16:32:47 น.
อยากให้คู่คุณน้ากลับมารักกันอีกจังเลย


เพียงพลอย 26 พ.ย. 2555, 23:15:17 น.
อ่อออออออออ เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง พระเอกลำบากล่ะทีนี้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account