พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว # จุฬามณี (ลิขสิทธิ์ สนพ.มายดรีม)
เรื่องย่อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว
เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..
วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..
หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..
มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..
ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ
และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ
กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...
ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..
และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..
เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..
วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..
หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..
มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..
ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ
และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ
กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...
ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..
และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..
Tags: รักสามเส้า เราสามคน
ตอน: 41.2/42.1“แต่ผมรักมาลีจริงๆ นะ”
เมื่อรู้ข่าวการหมั้นหมายแบบสายฟ้าแลบของคุณชัชชัยกับมาลีในงานฉลองครบรอบวันเกิดของผู้เป็นพ่อ กลยุทธก็ถึงกับหมดเรี่ยวแรงไปทำงาน วันนี้จึงเป็นอีกวันที่เขาลาหยุด เมื่อโทรไปแจ้งทางบริษัทแล้วเขาปิดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ปิดประตูบ้านแล้วเข้าไปขังตัวเองอยู่ในห้องของกุลกัญญา และด้วยอยากรู้ว่ากุลกัญญามีอะไรซ่อนเร้นไว้บ้าง กลยุทธจึงตัดสินใจเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เขาไม่เคยคิดวุ่นวาย
ที่หน้าจอปรากฏรูปของกุลกับนิวัฒน์ถ่ายคู่กันโดยกล้องจากโทรศัพท์มือถือ
เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นแววตาสดชื่นที่สุดของกุลกัญญา ความรักทำให้กุลกัญญายิ้มและร้องไห้ น้ำตาของพี่ชายไหลออกมาอีก เมื่อคลิกเข้าไปที่หมวดของรูปภาพ เขาก็เห็นรูปถ่ายมากมายของนิวัฒน์เพียงคนเดียวและนายนิวัฒน์กับกุลกัญญาในอิริยาบถต่างๆ
ตัวเองแอบมีรูปของมาลีเพียงใบเดียว ยังแอบมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่นี่กุลกัญญามีภาพของนิวัฒน์มากมาย เมื่อถูกแฟนของคนที่ตัวเองทุ่มเทหัวใจให้เข้ามาทำร้าย กุลกัญญาจะเจ็บปวดเพียงไหน
แล้วกลยุทธก็คลิกไปจนพบไดอารี่ ใจหนึ่งก็นึกอยากอ่าน แต่อีกใจ เขาก็อยากให้มันตายไปกับกุลกัญญา แต่เมื่อกุลตั้งใจบันทึกไว้ แล้วทำไมเขาจะไม่เปิดอ่านดูความรู้สึกของกุลกัญญาดูบ้าง
‘พี่ยุทธคะ ต้องขอบใจมาลีทีเดียวที่ทำให้กุลได้รู้จักกับนิว บอกตามตรงนะคะว่ามาลีพยายามเตือนกุลแล้ว แต่ว่ากุลไม่รับฟัง กุลแกล้งเฉไฉ เพราะอะไรหรือ กุลอยากมีความรักค่ะ ไม่รู้ว่ากุลคิดถูกหรือเปล่า กุลคิดว่า ความรักทำให้คนมีพลัง มีแรงที่สู้ชีวิต หากพ่อกับแม่ไม่มีเรา บางทีพ่อกับแม่อาจไม่อยากทำงานหนักๆ แต่เมื่อต้องส่งเสียเราสองพี่น้องให้เล่าเรียนในโรงเรียนดีๆ พ่อแม่จึงต้องอดทน คิดถึงพ่อกับแม่ทีไรกุลพยายามไม่เศร้า แต่กุลก็ทำไม่ได้ พี่ยุทธก็คงเหมือนกัน พูดถึงความรักกันต่อดีกว่า ตอนนี้กุลมั่นใจว่าคุณชัชชัยจีบมาลีค่ะ กุลชอบดูนะคะเวลาที่มาลีทำตัวเป็นแม่งอน กับพ่อแง่อย่างคุณชัช กุลว่าคู่นี้น่ารักดีฯลฯ’
หลายๆ ความรู้สึกของกุลกัญญานั้นทำให้กุลยุทธต้องร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งเขาต้องปิดไฟล์แล้วคลิกหาเรื่องอื่นๆ ที่กุลเขียนไว้ เขาพบไฟล์งานเรื่อง ‘เป็นวิมานอยู่บนดิน’ ที่ตีพิมพ์ในเลดี้วีค อยากจะอ่านทั้งหมด แต่เห็นว่ามี ‘เรื่องพระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว’ อีกเรื่องที่เขียนหัวเรื่องว่าเป็นนวนิยาย เมื่อคลิกไปที่หน้าสุดท้ายจึงได้รู้ว่าเรื่องนี้กุลกัญญายังแต่งไม่จบ
เขาคลิกกลับไปยังหน้าที่ 1อารัมภบท
‘เคยอ่านบทสัมภาษณ์คุณชัชชัย เขาเคยเอ่ยถึงคำบรรยายภาพวาดบนผนังในห้องนอนว่า “พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว” ชอบชื่อนี้ เก็บไว้ในใจ จนกระทั่งได้มีโอกาสรู้จักคุณชัช และวันนี้ เห็นคนสองคู่ สี่คน แล้วอดนึกไม่ได้ว่าพวกเขาจะลงเอยกันอย่างไร ...ดังนั้น นิยายเรื่องนี้ จึงมีส่วนที่เป็นทั้งความจริงและจินตนาการฯ’
กลยุทธก็นั่งไล่อ่านไปทีละบรรทัด
แล้วเขาก็ได้รู้ว่า กุลกัญญาให้เหตุผลว่าตัวละครที่เปรียบเสมือนตัวเขาควรจะเลือกใคร แต่นั่นแหละกุลต้องการให้เขาเลือกรมณีย์ เพื่อความสุขของตัวละครเปรียบเสมือนตนเอง กับเพื่อความสุขของผู้มีบุญคุณอย่างตัวละครที่เปรียบเสมือนชัชชัย
และในความคิดของกุลกัญญานั้น ตัวละครที่เปรียบเสมือนตัวของมาลีแม้จะมีความสับสนในเบื้องต้น แต่สุดท้ายก็จะเริ่มชัดเจน เพราะตัวละครที่เปรียบเสมือนตัวเขานั้น เริ่มอยากรักความสุขสบายมากกว่าทำตามอำนาจของหัวใจ จนไม่ได้มีเวลาทำคะแนนหัวใจเท่ากับฝ่ายตรงข้าม
แต่สุดท้ายกุลกัญญาก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า เขาควรจะเลือกรมณีย์เพราะเหตุใด
รมณีย์สร้างเหตุผลให้เขารักไม่ได้ หรือเขาไม่รักเธอเอง
กลยุทธเริ่มครุ่นคิด สำหรับตัวเขาเอง การที่คนสองคนจะลงเอยกันได้นั้น มันไม่ใช่แค่เสื้อผ้าน้ำหอมและโอกาสดีๆ ที่อีกคนหยิบยื่นให้ แต่เขาต้องการคู่ครองที่เกิดขึ้น เพราะว่าหัวใจบอกว่าขาดเธอไปไม่ได้ เหมือนกับที่เขาต้องการทวงมาลีคืนมาในยามนี้
เมื่อเหลือแค่ชีวิตเดียว แล้วทำไมเขาจะไม่อยากทำตามใจตัวเองบ้างเล่า เวลายังมีสำหรับทำคะแนนหัวใจกับมาลี และนวนิยายเรื่องนี้เขาก็นึกอยากแต่งเติมให้มันสมบูรณ์ด้วยตัวและหัวใจของเขาเอง
แล้วในเวลาหกโมงเย็น ที่บ้านของกลยุทธก็ได้ต้อนรับสมศักดิ์กับสุชินที่หิ้วเบียร์มาพร้อมกับกับแกล้มจำนวนมากมาย เจ้าของบ้านลงมาเปิดประตู เมื่อเสียงออดและเสียงตะโกนเรียกดังอยู่นานสองนาน ใบหน้าที่ไม่รับแขกนั้น ยิ่งทำให้แขกต้องรีบทำหน้าที่ของเพื่อนที่ดี
“ซีเรียสเรื่องอะไรหว่า บอกกันบ้างโว้ย อย่าทำเหมือนไม่ใช่เพื่อนกัน”
สมศักดิ์เปิดฉากก่อน แล้วสุชินก็ตามด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
“วันนี้คุณรมณีย์กลับบ้านแต่หัววัน คนซุบซิบกันยกใหญ่ว่าเป็นเพราะมึงลาหยุด ก่อนลาออกจริงๆ”
“คิดดีแล้วหรือวะ หางานได้แล้วเหรอ”
“ยัง อยากพัก อยากเปลี่ยนบรรยากาศ”
“ไม่จำเป็นต้องทนหาเงินแล้วนี่เนอะ” สุชินพูดถึงความทุกข์ตรมของเพื่อนครั้งหนหลัง
“นึกถึงหัวอกเขาบ้างนะโว้ย” สมศักดิ์วกกลับมาที่เรื่องคุณรมณีย์
“ถ้าไม่ได้อย่างที่อยากได้ ก็ไม่รู้จะเอาที่ไม่อยากได้มาทำไม”
“เขาได้ยินก็คงเสียใจแย่เลย”
เมื่อเจ้าของบ้านไม่ยอมชวนเข้าบ้าน แขกจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าบ้านไปพร้อมกับถุงกับแกล้มและเบียร์ไทยจำนวนหนึ่งโหล เมื่อเข้าไปแล้ว สมศักดิ์ก็ถือกับแกล้มตรงดิ่งไปในครัว สุชินนั้นรีบไปคว้าแก้วเปล่าทรงสูงมาเปิดเบียร์ รินแบบไร้ฟองวางเรียงเย้ายวนน้ำลาย
“เขาไม่ดีตรงไหนวะ หรือว่ารวยเกินไป” สุชินถามเมื่อยื่นเบียร์ไปให้เจ้าของบ้าน
“วันข้างหน้าต้องมีปัญหากันอยู่ดี ถอยวันนี้เลยดีกว่า”
กลยุทธยกเบียร์ขึ้นกระดกรวดเดียวหมดแก้ว สุชินรีบสบตากับสมศักดิ์ที่ถือจานลาบหมูและจานไก่ย่างเข้ามา
“ศักดิ์เอ๊ย เพื่อนเรากลายเป็นคนกลัวปัญหาไปซะแล้ว”
“อยากทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง อดทน ทนอดมานานแล้ว”
“ดีแตกหรือไงวะ ตกลงเป็นเพราะใคร เพราะมาลีใช่ไหม” สมศักดิ์จี้ไปหาคนสำคัญ
“เขายังไม่ได้แต่งนี่ ยังพอมีเวลาทวงคืน”
“กูนึกไว้ไม่ผิดจริงๆ แบบนี้กูก็เสียพนันนะซิ”
สมศักดิ์นึกถึงคำพนันที่แอบพูดบ่อยๆ กับสุชินและวรรณา
“เกมยังไม่จบโว้ยเพื่อน บางทีข้าอาจจะเสียก็ได้อย่าเพิ่งจ่าย เกมยังไม่จบ”
“แล้วมึงคิดว่ากูสองคนจะมีได้มีเสียกันเมื่อไหร่”
สมศักดิ์ยังพยายามทำให้กลยุทธอารมณ์ดี มีใบหน้าบ่งบอกว่าใจเย็นเช่นเดิม กลยุทธอดขำนิดๆ ขึ้นมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชีวิตรักของเขา จะกลายเป็นเรื่องพนันของเพื่อนรักไปได้
“เร็วซิบอกมา” สุชินเร่งเร้า
“เมื่อกูหรือมาลีแต่งงานแล้วกัน ถ้ากูแต่งกับมาลีไอ้ศักดิ์ได้ ถ้ากูแต่งกับคุณรมณีย์ไอ้ชินได้ และถ้ากูแต่งกับคนอื่นกูจะเป็นคนจ่ายให้พวกมึงเอง ดีไหม”
“ดีมากคร้าบเพื่อนรัก” สมศักดิ์รีบตอบรับและสุชินก็พูดต่ออีกว่า
“ยุติธรรมที่ซู๊ดดดดดดดด”
42.
แม้การประกาศหมั้นอย่างเป็นทางการกับมาลีจะไม่มีปัญหาจากคุณพ่อตามมา แต่ชัชชัยก็ใช่จะวางใจว่า มาลีนั้นตกลงปลงใจเป็นคู่หมั้นคู่หมายอย่างที่เขาต้องการ หญิงสาวคืนแหวนให้เขาก่อนจะลงจากรถ เขาไม่รับไว้ มาลีก็วางไว้ที่เบาะก่อนจะเปิดประตูลงไปพร้อมกับถุงเสื้อผ้าชุดเดิมของตนเอง เมื่อเขาโทรกลับมาถามมาลีก็ยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเองชัดเจน
“เราน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว และอีกอย่างไม่อยากได้ตำแหน่งคู่หมั้นเพราะเหตุการณ์มันพาไป”
“แต่ผมรักมาลีจริงๆ นะ”
“เราน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว ขอตัวก่อนนะ ง่วงนอน ราตรีสวัสดิ์นะคะ”
และในคำปฏิเสธกับเจตนารมณ์นั้น เขามีเวลาทำคะแนนหัวใจเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น และอีกอย่างเขายังนึกกลัวปัญหาจากกลยุทธ เพราะพี่ศรีวรรณแจ้งมาว่า เขากำลังลาออกเปลี่ยนที่ทำงานโดยไม่ได้สนใจความรู้สึกของรมณีย์สักนิด เมื่อเหตุการณ์มันพลิกมาเป็นอย่างนี้ วันนี้เขาจึงต้องโทรนัดรมณีย์ให้ออกมาทานอาหารค่ำด้วยกัน
แม้สีสันที่ใบหน้าจะสดใสแต่เมื่อนั่งใกล้ๆ แล้ว ชัชชัยยังคงเห็นรอยหม่นเศร้าในดวงตาคู่นั้น
“ค่าแหวนเท่าไหร่” เขาเลี่ยงเรื่องที่อยากรู้นั่นเสีย
“ถ้าบอกว่ายกให้ล่ะ”
“ไม่เอาหรอก”
“ก็ชัชเอาไปหมั้นมาลีคนที่เป็นคู่แข่งของรมมี่ คิดอย่างนี้ ควรเสียดายแหวนไหม”
ชัชชัยยิ้มให้รมณีย์ ก่อนจะดึงแหวนจากกระเป๋าเสื้อมาวางไว้
“เขาไม่รับ”
“เขากำลังจะไปเช่นกัน”
รมณีย์หมายถึงกลยุทธที่ทำให้เธอเจ็บช้ำ คนสองคนถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ก่อนจะพูดพร้อมกันว่า
“รักแล้วถอยไม่ได้”
เมื่อถอยไม่ได้ทั้งคู่ ชัชชัยจึงต้องเดินหน้าช่วยทำให้กลยุทธสิ้นหวังจากมาลีโดยเร็วที่สุด เมื่อแยกจากรมณีย์แล้วชัชชัยก็ดิ่งไปยังหอพัก ป้าเจ้าของหอที่ชัชชัยจ้างวานให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ รีบมาหาพร้อมกับรายงานความเคลื่อนไหวของมาลี
“ได้งานออกไปแจกสินค้าตัวอย่างค่ะ”
“มีใครมาหาบ้างไหม”
“มีแต่นายนิวคนเดียวส่วนใหญ่ จะแวะเอาผลไม้มาฝากหรือไม่ก็ซื้อขนมนมเนยมาให้ คู่นี้คงรักกันแบบเพื่อนค่ะคุณ คุยกันมึงกูบ้าง แกข้าบ้าง”
“ถ้ามีคนชื่อกลยุทธมาหานะป้า บอกไปเลยว่ามาลีไม่อยู่ หรือไม่ก็รีบโทรแจ้งผมเลยนะ เออป้ารถเขาฮอนด้าสีขาวคันกลางเก่ากลางใหม่นะ” พูดจบชัชชัยก็ควักเงินส่งให้ป้าเจ้าของหอไปห้าร้อยบาท
เมื่อกลับมาจากทำงาน มาลีถึงกลับแปลกใจที่เห็นชัชชัยนั่งคุยกับป้าเจ้าของหออย่างสนิทชิดเชื้อ แต่เมื่อนึกได้ว่า เขานั้นพร้อมสนิทสนมกับทุกคนทุกชนชั้นอยู่แล้ว มาลีก็ไม่ได้เก็บความสงสัยมาใส่ใจ
“กินข้าวมาหรือยัง”
ชัชชัยร้องทัก มาลียิ้มหน้าเจื่อนให้ ยิ่งตัวเองลำบากเท่าไหร่ ก็รู้สึกว่าเขานั้นดูห่างไกลขึ้นทุกที
ในขณะเดียวกัน แม้อยู่ห่างไกลจากคุณกลยุทธ มาลีกลับรู้สึกห่วงและสงสารเขายิ่งกว่าเดิม แต่ถึงอย่างไรมาลีก็ไม่โทรไปถามสารทุกข์สุกดิบตามคำแนะนำของพี่ศรีวรรณที่ว่า
‘เมื่อไม่ได้คิดอะไร ก็อย่าไปแสดงความห่วงใยให้เขาคิด ช่วงนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเพื่อนๆ ของเขา เมื่อก่อนเขาไม่มีมาลี เขาก็อยู่มาได้ หากต้องอยู่คนเดียวจริงๆ เขาก็ต้องแก้ปัญหาเหงาๆ เศร้าสร้อยนั้นด้วยตัวของเขาเอง’
ชัชชัยลาป้าแล้วลุกขึ้นมาหา
“กินข้าวมาหรือยัง ถามแล้วยังจ้องหน้าอีก…ผอมไปหรือเปล่า”
เขาใช้สายตาสำรวจไปจนทั่วเรือนกายของมาลีอย่างไม่ได้นึกว่ามันน่าเกลียด มาลีเองก็ไม่ได้นึกขวยเขินที่เขาทำอย่างนั้น
“พรุ่งนี้มีใครจ้างทำอะไรหรือยัง”
“ว่าจะขอป้าเขาถูพื้นหอทั้งหลัง” มาลีพูดความจริง
“อย่านะ ไม่ยอมนะ” ชัชชัยร้องเสียงหลงทีเดียว
“ต่อไปไม่ต้องจ่ายค่าหอเอง ผมจะจ่ายให้ป้าไว้เลยตลอดทั้งสองปี รวมถึงค่าน้ำค่าไฟฟ้าด้วย”
“คุณชัช บ้าหรือเปล่า”
“เราเป็นอะไรกันล่ะครับ” น้ำเสียงของชัชชัยนั้นน่ารักทีเดียว
“คุณเล่นมัดมือชกฉันนี่”
“ยังไม่เชื่ออีกเหรอว่าผมรักจริงหวังแต่ง”
“แต่ฉันเป็นแค่”
“ผมไม่ได้สนใจว่าคุณเป็นใครนะมาลี ผมสนใจแต่ว่า เรารักกัน เรามีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน”
“คุณอย่ามัดมือฉันซิ”
“ผมยืนคุยกับคุณเฉยๆ นะ”
ชัชชัยยังคงแกล้งรวน แล้วมาลีก็หัวเราะออกมา ตรงนี้เองที่ทำให้เธอผลักเขาออกไปไม่ได้ แต่เขาก็ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจนัก บางทีผู้ชายมีเงิน เขาก็ต้องการเพียงช่วงเวลาที่สนุกสนาน
“พรุ่งนี้ไปเออ”
ใช่ซินะเขาไม่ได้เขียนคอลัมน์ในเลดี้วีคแล้ว แล้วจะชวนมาลีไปดูปลายน้ำแม่กลองได้อย่างไร
“เออ ไปเที่ยวกันไหม ผมอยากตระเวนเที่ยวก่อนเดินทางไปไกลแสนไกล”
เมื่อได้ยินแค่นั้นใจของมาลีหายวาบ เขาต้องจากเธอไปถึงสองปี คงเป็นสองปีที่เธอมีแต่ความคิดถึงเขาอย่างแน่นอน
“เอาง่ายๆ เลยนะ อยากชวนให้ไปด้วยกัน แต่ก็กลัวมาลีไม่ยอมไป จะจ้างแล้วกัน เพราะรู้ว่าคุณชอบเงิน”
“มันเป็นเงินที่ต้องชอบธรรมด้วย ไม่ใช่รับจ้างไปเสียทุกอย่าง” มาลีขึ้นเสียงอธิบายทันที
“เออนั่นแหละไปไหม ตลอดทริปหมื่นหนึ่ง กินอยู่พร้อมแต่ต้องผลัดกันขับรถนะ ขับนานๆ ผมจะง่วงนอน” ชัชชัยพูดเพื่อให้ดูน่าเป็นห่วง
“บอกตรงๆ นะ ฉันอยากได้เงินแต่ว่าฉันกลัวคุณคิดไม่ซื่อ”
“ถูกต้องเลย คิดไม่ซื่ออยู่แล้ว แต่มาลีอย่าลืมซิว่าเรา โอเค เมื่อตอนที่อยู่อุ้มผางก่อนที่เราจะเดินทางไปหมู่บ้านกะเหรี่ยงด้วยกันผมก็เคยสัญญา แล้วเป็นไงผมก็ทำได้ ทั้งที่ตอนนั้น ผมก็มีโอกาส”
“ถ้าคุณทำอะไรฉันตอนนั้นก็ไม่ได้ออกมาจากอุ้มผางหรอก ฉันมีปืนลูกซองคุณก็เห็นนี่”
“เออน่า ไปนะ ไม่ทำอะไรก็ไม่ทำอะไร แล้วจะโอนเงินเข้าบัญชีให้ แถมให้อีกหนึ่งหมื่นเลยเอ้า หรือว่าน้อยไป ห้าหมื่นเลยไหม”
“รวยนักหรือไง”
“ก็คนมันมีเงินแล้วทำไมจะต้องให้ว่าที่แม่ของลูกไปลำบากด้วยเล่า หัดเข้าใจอะไรง่ายๆ หน่อยได้ไหมแม่คุณเอ๊ย”
ที่หน้าจอปรากฏรูปของกุลกับนิวัฒน์ถ่ายคู่กันโดยกล้องจากโทรศัพท์มือถือ
เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นแววตาสดชื่นที่สุดของกุลกัญญา ความรักทำให้กุลกัญญายิ้มและร้องไห้ น้ำตาของพี่ชายไหลออกมาอีก เมื่อคลิกเข้าไปที่หมวดของรูปภาพ เขาก็เห็นรูปถ่ายมากมายของนิวัฒน์เพียงคนเดียวและนายนิวัฒน์กับกุลกัญญาในอิริยาบถต่างๆ
ตัวเองแอบมีรูปของมาลีเพียงใบเดียว ยังแอบมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่นี่กุลกัญญามีภาพของนิวัฒน์มากมาย เมื่อถูกแฟนของคนที่ตัวเองทุ่มเทหัวใจให้เข้ามาทำร้าย กุลกัญญาจะเจ็บปวดเพียงไหน
แล้วกลยุทธก็คลิกไปจนพบไดอารี่ ใจหนึ่งก็นึกอยากอ่าน แต่อีกใจ เขาก็อยากให้มันตายไปกับกุลกัญญา แต่เมื่อกุลตั้งใจบันทึกไว้ แล้วทำไมเขาจะไม่เปิดอ่านดูความรู้สึกของกุลกัญญาดูบ้าง
‘พี่ยุทธคะ ต้องขอบใจมาลีทีเดียวที่ทำให้กุลได้รู้จักกับนิว บอกตามตรงนะคะว่ามาลีพยายามเตือนกุลแล้ว แต่ว่ากุลไม่รับฟัง กุลแกล้งเฉไฉ เพราะอะไรหรือ กุลอยากมีความรักค่ะ ไม่รู้ว่ากุลคิดถูกหรือเปล่า กุลคิดว่า ความรักทำให้คนมีพลัง มีแรงที่สู้ชีวิต หากพ่อกับแม่ไม่มีเรา บางทีพ่อกับแม่อาจไม่อยากทำงานหนักๆ แต่เมื่อต้องส่งเสียเราสองพี่น้องให้เล่าเรียนในโรงเรียนดีๆ พ่อแม่จึงต้องอดทน คิดถึงพ่อกับแม่ทีไรกุลพยายามไม่เศร้า แต่กุลก็ทำไม่ได้ พี่ยุทธก็คงเหมือนกัน พูดถึงความรักกันต่อดีกว่า ตอนนี้กุลมั่นใจว่าคุณชัชชัยจีบมาลีค่ะ กุลชอบดูนะคะเวลาที่มาลีทำตัวเป็นแม่งอน กับพ่อแง่อย่างคุณชัช กุลว่าคู่นี้น่ารักดีฯลฯ’
หลายๆ ความรู้สึกของกุลกัญญานั้นทำให้กุลยุทธต้องร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งเขาต้องปิดไฟล์แล้วคลิกหาเรื่องอื่นๆ ที่กุลเขียนไว้ เขาพบไฟล์งานเรื่อง ‘เป็นวิมานอยู่บนดิน’ ที่ตีพิมพ์ในเลดี้วีค อยากจะอ่านทั้งหมด แต่เห็นว่ามี ‘เรื่องพระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว’ อีกเรื่องที่เขียนหัวเรื่องว่าเป็นนวนิยาย เมื่อคลิกไปที่หน้าสุดท้ายจึงได้รู้ว่าเรื่องนี้กุลกัญญายังแต่งไม่จบ
เขาคลิกกลับไปยังหน้าที่ 1อารัมภบท
‘เคยอ่านบทสัมภาษณ์คุณชัชชัย เขาเคยเอ่ยถึงคำบรรยายภาพวาดบนผนังในห้องนอนว่า “พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว” ชอบชื่อนี้ เก็บไว้ในใจ จนกระทั่งได้มีโอกาสรู้จักคุณชัช และวันนี้ เห็นคนสองคู่ สี่คน แล้วอดนึกไม่ได้ว่าพวกเขาจะลงเอยกันอย่างไร ...ดังนั้น นิยายเรื่องนี้ จึงมีส่วนที่เป็นทั้งความจริงและจินตนาการฯ’
กลยุทธก็นั่งไล่อ่านไปทีละบรรทัด
แล้วเขาก็ได้รู้ว่า กุลกัญญาให้เหตุผลว่าตัวละครที่เปรียบเสมือนตัวเขาควรจะเลือกใคร แต่นั่นแหละกุลต้องการให้เขาเลือกรมณีย์ เพื่อความสุขของตัวละครเปรียบเสมือนตนเอง กับเพื่อความสุขของผู้มีบุญคุณอย่างตัวละครที่เปรียบเสมือนชัชชัย
และในความคิดของกุลกัญญานั้น ตัวละครที่เปรียบเสมือนตัวของมาลีแม้จะมีความสับสนในเบื้องต้น แต่สุดท้ายก็จะเริ่มชัดเจน เพราะตัวละครที่เปรียบเสมือนตัวเขานั้น เริ่มอยากรักความสุขสบายมากกว่าทำตามอำนาจของหัวใจ จนไม่ได้มีเวลาทำคะแนนหัวใจเท่ากับฝ่ายตรงข้าม
แต่สุดท้ายกุลกัญญาก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า เขาควรจะเลือกรมณีย์เพราะเหตุใด
รมณีย์สร้างเหตุผลให้เขารักไม่ได้ หรือเขาไม่รักเธอเอง
กลยุทธเริ่มครุ่นคิด สำหรับตัวเขาเอง การที่คนสองคนจะลงเอยกันได้นั้น มันไม่ใช่แค่เสื้อผ้าน้ำหอมและโอกาสดีๆ ที่อีกคนหยิบยื่นให้ แต่เขาต้องการคู่ครองที่เกิดขึ้น เพราะว่าหัวใจบอกว่าขาดเธอไปไม่ได้ เหมือนกับที่เขาต้องการทวงมาลีคืนมาในยามนี้
เมื่อเหลือแค่ชีวิตเดียว แล้วทำไมเขาจะไม่อยากทำตามใจตัวเองบ้างเล่า เวลายังมีสำหรับทำคะแนนหัวใจกับมาลี และนวนิยายเรื่องนี้เขาก็นึกอยากแต่งเติมให้มันสมบูรณ์ด้วยตัวและหัวใจของเขาเอง
แล้วในเวลาหกโมงเย็น ที่บ้านของกลยุทธก็ได้ต้อนรับสมศักดิ์กับสุชินที่หิ้วเบียร์มาพร้อมกับกับแกล้มจำนวนมากมาย เจ้าของบ้านลงมาเปิดประตู เมื่อเสียงออดและเสียงตะโกนเรียกดังอยู่นานสองนาน ใบหน้าที่ไม่รับแขกนั้น ยิ่งทำให้แขกต้องรีบทำหน้าที่ของเพื่อนที่ดี
“ซีเรียสเรื่องอะไรหว่า บอกกันบ้างโว้ย อย่าทำเหมือนไม่ใช่เพื่อนกัน”
สมศักดิ์เปิดฉากก่อน แล้วสุชินก็ตามด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
“วันนี้คุณรมณีย์กลับบ้านแต่หัววัน คนซุบซิบกันยกใหญ่ว่าเป็นเพราะมึงลาหยุด ก่อนลาออกจริงๆ”
“คิดดีแล้วหรือวะ หางานได้แล้วเหรอ”
“ยัง อยากพัก อยากเปลี่ยนบรรยากาศ”
“ไม่จำเป็นต้องทนหาเงินแล้วนี่เนอะ” สุชินพูดถึงความทุกข์ตรมของเพื่อนครั้งหนหลัง
“นึกถึงหัวอกเขาบ้างนะโว้ย” สมศักดิ์วกกลับมาที่เรื่องคุณรมณีย์
“ถ้าไม่ได้อย่างที่อยากได้ ก็ไม่รู้จะเอาที่ไม่อยากได้มาทำไม”
“เขาได้ยินก็คงเสียใจแย่เลย”
เมื่อเจ้าของบ้านไม่ยอมชวนเข้าบ้าน แขกจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าบ้านไปพร้อมกับถุงกับแกล้มและเบียร์ไทยจำนวนหนึ่งโหล เมื่อเข้าไปแล้ว สมศักดิ์ก็ถือกับแกล้มตรงดิ่งไปในครัว สุชินนั้นรีบไปคว้าแก้วเปล่าทรงสูงมาเปิดเบียร์ รินแบบไร้ฟองวางเรียงเย้ายวนน้ำลาย
“เขาไม่ดีตรงไหนวะ หรือว่ารวยเกินไป” สุชินถามเมื่อยื่นเบียร์ไปให้เจ้าของบ้าน
“วันข้างหน้าต้องมีปัญหากันอยู่ดี ถอยวันนี้เลยดีกว่า”
กลยุทธยกเบียร์ขึ้นกระดกรวดเดียวหมดแก้ว สุชินรีบสบตากับสมศักดิ์ที่ถือจานลาบหมูและจานไก่ย่างเข้ามา
“ศักดิ์เอ๊ย เพื่อนเรากลายเป็นคนกลัวปัญหาไปซะแล้ว”
“อยากทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง อดทน ทนอดมานานแล้ว”
“ดีแตกหรือไงวะ ตกลงเป็นเพราะใคร เพราะมาลีใช่ไหม” สมศักดิ์จี้ไปหาคนสำคัญ
“เขายังไม่ได้แต่งนี่ ยังพอมีเวลาทวงคืน”
“กูนึกไว้ไม่ผิดจริงๆ แบบนี้กูก็เสียพนันนะซิ”
สมศักดิ์นึกถึงคำพนันที่แอบพูดบ่อยๆ กับสุชินและวรรณา
“เกมยังไม่จบโว้ยเพื่อน บางทีข้าอาจจะเสียก็ได้อย่าเพิ่งจ่าย เกมยังไม่จบ”
“แล้วมึงคิดว่ากูสองคนจะมีได้มีเสียกันเมื่อไหร่”
สมศักดิ์ยังพยายามทำให้กลยุทธอารมณ์ดี มีใบหน้าบ่งบอกว่าใจเย็นเช่นเดิม กลยุทธอดขำนิดๆ ขึ้นมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชีวิตรักของเขา จะกลายเป็นเรื่องพนันของเพื่อนรักไปได้
“เร็วซิบอกมา” สุชินเร่งเร้า
“เมื่อกูหรือมาลีแต่งงานแล้วกัน ถ้ากูแต่งกับมาลีไอ้ศักดิ์ได้ ถ้ากูแต่งกับคุณรมณีย์ไอ้ชินได้ และถ้ากูแต่งกับคนอื่นกูจะเป็นคนจ่ายให้พวกมึงเอง ดีไหม”
“ดีมากคร้าบเพื่อนรัก” สมศักดิ์รีบตอบรับและสุชินก็พูดต่ออีกว่า
“ยุติธรรมที่ซู๊ดดดดดดดด”
42.
แม้การประกาศหมั้นอย่างเป็นทางการกับมาลีจะไม่มีปัญหาจากคุณพ่อตามมา แต่ชัชชัยก็ใช่จะวางใจว่า มาลีนั้นตกลงปลงใจเป็นคู่หมั้นคู่หมายอย่างที่เขาต้องการ หญิงสาวคืนแหวนให้เขาก่อนจะลงจากรถ เขาไม่รับไว้ มาลีก็วางไว้ที่เบาะก่อนจะเปิดประตูลงไปพร้อมกับถุงเสื้อผ้าชุดเดิมของตนเอง เมื่อเขาโทรกลับมาถามมาลีก็ยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเองชัดเจน
“เราน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว และอีกอย่างไม่อยากได้ตำแหน่งคู่หมั้นเพราะเหตุการณ์มันพาไป”
“แต่ผมรักมาลีจริงๆ นะ”
“เราน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว ขอตัวก่อนนะ ง่วงนอน ราตรีสวัสดิ์นะคะ”
และในคำปฏิเสธกับเจตนารมณ์นั้น เขามีเวลาทำคะแนนหัวใจเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น และอีกอย่างเขายังนึกกลัวปัญหาจากกลยุทธ เพราะพี่ศรีวรรณแจ้งมาว่า เขากำลังลาออกเปลี่ยนที่ทำงานโดยไม่ได้สนใจความรู้สึกของรมณีย์สักนิด เมื่อเหตุการณ์มันพลิกมาเป็นอย่างนี้ วันนี้เขาจึงต้องโทรนัดรมณีย์ให้ออกมาทานอาหารค่ำด้วยกัน
แม้สีสันที่ใบหน้าจะสดใสแต่เมื่อนั่งใกล้ๆ แล้ว ชัชชัยยังคงเห็นรอยหม่นเศร้าในดวงตาคู่นั้น
“ค่าแหวนเท่าไหร่” เขาเลี่ยงเรื่องที่อยากรู้นั่นเสีย
“ถ้าบอกว่ายกให้ล่ะ”
“ไม่เอาหรอก”
“ก็ชัชเอาไปหมั้นมาลีคนที่เป็นคู่แข่งของรมมี่ คิดอย่างนี้ ควรเสียดายแหวนไหม”
ชัชชัยยิ้มให้รมณีย์ ก่อนจะดึงแหวนจากกระเป๋าเสื้อมาวางไว้
“เขาไม่รับ”
“เขากำลังจะไปเช่นกัน”
รมณีย์หมายถึงกลยุทธที่ทำให้เธอเจ็บช้ำ คนสองคนถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ก่อนจะพูดพร้อมกันว่า
“รักแล้วถอยไม่ได้”
เมื่อถอยไม่ได้ทั้งคู่ ชัชชัยจึงต้องเดินหน้าช่วยทำให้กลยุทธสิ้นหวังจากมาลีโดยเร็วที่สุด เมื่อแยกจากรมณีย์แล้วชัชชัยก็ดิ่งไปยังหอพัก ป้าเจ้าของหอที่ชัชชัยจ้างวานให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ รีบมาหาพร้อมกับรายงานความเคลื่อนไหวของมาลี
“ได้งานออกไปแจกสินค้าตัวอย่างค่ะ”
“มีใครมาหาบ้างไหม”
“มีแต่นายนิวคนเดียวส่วนใหญ่ จะแวะเอาผลไม้มาฝากหรือไม่ก็ซื้อขนมนมเนยมาให้ คู่นี้คงรักกันแบบเพื่อนค่ะคุณ คุยกันมึงกูบ้าง แกข้าบ้าง”
“ถ้ามีคนชื่อกลยุทธมาหานะป้า บอกไปเลยว่ามาลีไม่อยู่ หรือไม่ก็รีบโทรแจ้งผมเลยนะ เออป้ารถเขาฮอนด้าสีขาวคันกลางเก่ากลางใหม่นะ” พูดจบชัชชัยก็ควักเงินส่งให้ป้าเจ้าของหอไปห้าร้อยบาท
เมื่อกลับมาจากทำงาน มาลีถึงกลับแปลกใจที่เห็นชัชชัยนั่งคุยกับป้าเจ้าของหออย่างสนิทชิดเชื้อ แต่เมื่อนึกได้ว่า เขานั้นพร้อมสนิทสนมกับทุกคนทุกชนชั้นอยู่แล้ว มาลีก็ไม่ได้เก็บความสงสัยมาใส่ใจ
“กินข้าวมาหรือยัง”
ชัชชัยร้องทัก มาลียิ้มหน้าเจื่อนให้ ยิ่งตัวเองลำบากเท่าไหร่ ก็รู้สึกว่าเขานั้นดูห่างไกลขึ้นทุกที
ในขณะเดียวกัน แม้อยู่ห่างไกลจากคุณกลยุทธ มาลีกลับรู้สึกห่วงและสงสารเขายิ่งกว่าเดิม แต่ถึงอย่างไรมาลีก็ไม่โทรไปถามสารทุกข์สุกดิบตามคำแนะนำของพี่ศรีวรรณที่ว่า
‘เมื่อไม่ได้คิดอะไร ก็อย่าไปแสดงความห่วงใยให้เขาคิด ช่วงนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเพื่อนๆ ของเขา เมื่อก่อนเขาไม่มีมาลี เขาก็อยู่มาได้ หากต้องอยู่คนเดียวจริงๆ เขาก็ต้องแก้ปัญหาเหงาๆ เศร้าสร้อยนั้นด้วยตัวของเขาเอง’
ชัชชัยลาป้าแล้วลุกขึ้นมาหา
“กินข้าวมาหรือยัง ถามแล้วยังจ้องหน้าอีก…ผอมไปหรือเปล่า”
เขาใช้สายตาสำรวจไปจนทั่วเรือนกายของมาลีอย่างไม่ได้นึกว่ามันน่าเกลียด มาลีเองก็ไม่ได้นึกขวยเขินที่เขาทำอย่างนั้น
“พรุ่งนี้มีใครจ้างทำอะไรหรือยัง”
“ว่าจะขอป้าเขาถูพื้นหอทั้งหลัง” มาลีพูดความจริง
“อย่านะ ไม่ยอมนะ” ชัชชัยร้องเสียงหลงทีเดียว
“ต่อไปไม่ต้องจ่ายค่าหอเอง ผมจะจ่ายให้ป้าไว้เลยตลอดทั้งสองปี รวมถึงค่าน้ำค่าไฟฟ้าด้วย”
“คุณชัช บ้าหรือเปล่า”
“เราเป็นอะไรกันล่ะครับ” น้ำเสียงของชัชชัยนั้นน่ารักทีเดียว
“คุณเล่นมัดมือชกฉันนี่”
“ยังไม่เชื่ออีกเหรอว่าผมรักจริงหวังแต่ง”
“แต่ฉันเป็นแค่”
“ผมไม่ได้สนใจว่าคุณเป็นใครนะมาลี ผมสนใจแต่ว่า เรารักกัน เรามีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน”
“คุณอย่ามัดมือฉันซิ”
“ผมยืนคุยกับคุณเฉยๆ นะ”
ชัชชัยยังคงแกล้งรวน แล้วมาลีก็หัวเราะออกมา ตรงนี้เองที่ทำให้เธอผลักเขาออกไปไม่ได้ แต่เขาก็ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจนัก บางทีผู้ชายมีเงิน เขาก็ต้องการเพียงช่วงเวลาที่สนุกสนาน
“พรุ่งนี้ไปเออ”
ใช่ซินะเขาไม่ได้เขียนคอลัมน์ในเลดี้วีคแล้ว แล้วจะชวนมาลีไปดูปลายน้ำแม่กลองได้อย่างไร
“เออ ไปเที่ยวกันไหม ผมอยากตระเวนเที่ยวก่อนเดินทางไปไกลแสนไกล”
เมื่อได้ยินแค่นั้นใจของมาลีหายวาบ เขาต้องจากเธอไปถึงสองปี คงเป็นสองปีที่เธอมีแต่ความคิดถึงเขาอย่างแน่นอน
“เอาง่ายๆ เลยนะ อยากชวนให้ไปด้วยกัน แต่ก็กลัวมาลีไม่ยอมไป จะจ้างแล้วกัน เพราะรู้ว่าคุณชอบเงิน”
“มันเป็นเงินที่ต้องชอบธรรมด้วย ไม่ใช่รับจ้างไปเสียทุกอย่าง” มาลีขึ้นเสียงอธิบายทันที
“เออนั่นแหละไปไหม ตลอดทริปหมื่นหนึ่ง กินอยู่พร้อมแต่ต้องผลัดกันขับรถนะ ขับนานๆ ผมจะง่วงนอน” ชัชชัยพูดเพื่อให้ดูน่าเป็นห่วง
“บอกตรงๆ นะ ฉันอยากได้เงินแต่ว่าฉันกลัวคุณคิดไม่ซื่อ”
“ถูกต้องเลย คิดไม่ซื่ออยู่แล้ว แต่มาลีอย่าลืมซิว่าเรา โอเค เมื่อตอนที่อยู่อุ้มผางก่อนที่เราจะเดินทางไปหมู่บ้านกะเหรี่ยงด้วยกันผมก็เคยสัญญา แล้วเป็นไงผมก็ทำได้ ทั้งที่ตอนนั้น ผมก็มีโอกาส”
“ถ้าคุณทำอะไรฉันตอนนั้นก็ไม่ได้ออกมาจากอุ้มผางหรอก ฉันมีปืนลูกซองคุณก็เห็นนี่”
“เออน่า ไปนะ ไม่ทำอะไรก็ไม่ทำอะไร แล้วจะโอนเงินเข้าบัญชีให้ แถมให้อีกหนึ่งหมื่นเลยเอ้า หรือว่าน้อยไป ห้าหมื่นเลยไหม”
“รวยนักหรือไง”
“ก็คนมันมีเงินแล้วทำไมจะต้องให้ว่าที่แม่ของลูกไปลำบากด้วยเล่า หัดเข้าใจอะไรง่ายๆ หน่อยได้ไหมแม่คุณเอ๊ย”
จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 พ.ย. 2555, 07:55:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 พ.ย. 2555, 08:13:04 น.
จำนวนการเข้าชม : 2159
<< 41.1“ถ้าจักษ์อยากมีผู้หญิงสักคนพี่ก็ไม่ว่านะ” | 42.2“รับความปรารถนาดีนี้ไว้นะจักษ์” >> |
จุฬามณีเฟื่องนคร 14 พ.ย. 2555, 07:56:28 น.
นครสวรรค์อากาศเย็น ๆ แล้วนะครับ ที่อื่นเป็นไงบ้างไม่รู้ ดูแลสุขภาพด้วยแล้วกัน สำหรับ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว สนนราคา 360 บาท คาดว่าจะวางแผงวันที่ 20 พ.ย. หนาวนี้นะครับ ฝากอุดหนุนผลงานชิ้นนี้ด้วยนะครับ ให้กำลังใจกับนักเขียนคนยาก...จุ๊บ ๆ //
นครสวรรค์อากาศเย็น ๆ แล้วนะครับ ที่อื่นเป็นไงบ้างไม่รู้ ดูแลสุขภาพด้วยแล้วกัน สำหรับ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว สนนราคา 360 บาท คาดว่าจะวางแผงวันที่ 20 พ.ย. หนาวนี้นะครับ ฝากอุดหนุนผลงานชิ้นนี้ด้วยนะครับ ให้กำลังใจกับนักเขียนคนยาก...จุ๊บ ๆ //
saralun 14 พ.ย. 2555, 08:51:59 น.
เป็นกำลังใจให้ค่า ^^
เป็นกำลังใจให้ค่า ^^
สิรินดา 14 พ.ย. 2555, 08:52:09 น.
แวะมาเจิม - - แค่อยากจะบอกว่า คิดถึง ฮิ้วววววววว
แวะมาเจิม - - แค่อยากจะบอกว่า คิดถึง ฮิ้วววววววว
mottanoy 14 พ.ย. 2555, 09:30:47 น.
วางขายเป็นebookมั้ยคะ
วางขายเป็นebookมั้ยคะ
ปอยอะนะ 14 พ.ย. 2555, 11:23:58 น.
รู้สึกสงสารชัชชัยเหมือนกันนะ
รู้สึกสงสารชัชชัยเหมือนกันนะ
จุฬามณีเฟื่องนคร 14 พ.ย. 2555, 12:08:36 น.
http://www.pimkham.com/Book/BookDetail.aspx?id=2025 ทางสถาพร เปิดจำหน่ายทางเว็บแล้วนะครับ
http://www.pimkham.com/Book/BookDetail.aspx?id=2025 ทางสถาพร เปิดจำหน่ายทางเว็บแล้วนะครับ
Orathai 14 พ.ย. 2555, 13:45:15 น.
มาลียึดมั่นในตัวเองเข้าไว้..อย่าเพิ่งใจอ่อน
มาลียึดมั่นในตัวเองเข้าไว้..อย่าเพิ่งใจอ่อน
konhin 14 พ.ย. 2555, 21:22:47 น.
ฮ่าๆๆ ขำประโยคสุดท้าย
ฮ่าๆๆ ขำประโยคสุดท้าย
evelover 15 พ.ย. 2555, 07:34:07 น.
อืมมมมม.... อยากอ่านต่อจังเลยคร้า
อืมมมมม.... อยากอ่านต่อจังเลยคร้า