หทัยแห่งสุริยัน
...ดวงใจ เจ้ารู้บ้างไหม ว่ามีหนึ่งใครหวงห่วงหา...
...แม้นตราบสิ้นดินฟ้า รักของข้าจักคงอยู่เคียงข้างกาย...

เพราะความเจ้าชู้ ทำตัวเป็นเพลย์บอยของเทพอพอลโล่ สร้างความเดือดร้อนให้นางฟ้านางสวรรค์หลายองค์ เขาจึงถูกศรของเทพคิวปิดยิงใส่จนเป็นเหตุให้ต้องตกหลุมรักสาวน้อยชาวมนุษย์นางมนุษย์
ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าเป็นเพราะฤทธิ์ศรรักปักอก แต่ทำไม๊ ทำไม เขาจึงละสายตาจากเธอไม่ได้
ทำไมหัวใจถึงไม่ยอมฟังคำสั่งเขา... เทพเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพอย่างเขาหรือ จะมาหลงรักมนุษย์สาวแสนธรรมดาได้...

Tags: แฟนตาซี รักซึ้งกินใจ นิรันดร์แห่งรัก อพอลโล เฮเดส พริมา ยมโลก เทพเจ้า

ตอน: บทที่1


ร่างเล็กๆ ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าอ่อนกับกระโปรงทรงแคบยาวกรอมเข่าค่อยๆ ก้าวเดินออกจากโรงเรียน เตรียมจะเดินเข้าไปตามซอยเล็กๆ ภายในหมู่บ้านอย่างเชื่องช้า หากดูเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันของผู้คนแถวนั้นไปแล้วที่จะเห็นร่างเล็กแบบบางของหญิงสาวคนหนึ่งค่อยๆ เดินไปมา ระหว่างโรงเรียนอนุบาลหน้าหมู่บ้านและบ้านพักของตัวเอง ตั้งอยู่ถัดห่างออกไปอีกสามซอย
“อ้าว เพียง เลิกสอนหนังสือแล้วเหรอ” เสียงของหญิงสาวร่างท้วมคนหนึ่งตะโกนถามขึ้นจากบริเวณฝั่งตรงข้ามของถนน
“จ้า น้าแก้วมีกับข้าวอะไรเหลือให้เพียงทานบ้างจ๊ะ” เพียงเพชรค่อยๆ พาร่างแบบบางของตัวเองข้ามถนนมายังร้านขายข้าวแกงฝั่งตรงข้าม

“น้าเก็บไข่พะโล้ของโปรดของเพียงไว้แล้ว” ถุงพลาสติกบรรจุน้ำสีดำและไข่ไก่สามฟองถูกยื่นให้หญิงสาวพร้อมกับข้าวสวยอีกถุง
“ขอบคุณนะคะ” เสียงหวานตอบรับพร้อมกับรอยยิ้มกระจ่าง
เพียงเพชรยื่นเงินค่ากับข้าวให้อีกฝ่ายก่อนค่อยๆ เดินกลับมาถึงบ้าน ระหว่างทางเดินกลับมา เธอเพิ่งเห็นบ้านข้างๆ ที่เคยแปะป้ายประกาศขายบ้านไว้ ยามนี้ป้ายสีขาวขนาดใหญ่ถูกถอนออกไปแล้ว เช่นเดียวกับสวนหน้าบ้านที่เคยรกทึบ ถูกตกแต่งใหม่อย่างวิจิตรสวยงาม
ร่างระหงแบบบางของหญิงสาวคนหนึ่งยืนก้มๆ เงยๆ อยู่บริเวณแปลงดอกไม้ข้างรั้วบ้าน ทำให้เพียงเพชรอดไม่ได้ที่จะชะโงกหน้าไปทักทาย

“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานใสเอ่ยทักพร้อมกับดวงหน้าแฉล้ม เผยให้เห็นรอยยิ้มกว้างและลักยิ้มบุ๋มลงไปสองข้างแก้ม
ร่างระหงแบบบางค่อยๆ หันมาหาเพียงเพชร เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าของผู้เป็นเจ้าของบ้านคนใหม่ นัยน์ตากลมโตก็เบิ่งตาขึ้นด้วยความตื่นตะลึง
ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเห็นหญิงสาวคนไหนงดงามถึงเพียงนี้มาก่อน... เพียงเพชรอุทานกับตัวเองในใจขณะจ้องมองหน้าอีกฝ่าย
ใบหน้ารูปไข่งดงามเย้ายวนตาไปด้วยเครื่องหน้าอันสมบูรณ์แบบ ยิ่งประกอบกับเส้นผมสีน้ำตาลทองยาวลงมาระพวงแก้มทั้งสอง ยิ่งทำให้หญิงสาวเบื้องหน้าดูไม่ต่างจากเทพธิดา หลุดออกมาจากจินตนาการ
“เจ้าเรียกข้างั้นรึ?” น้ำเสียงหวานดั่งระฆังแก้วเอ่ยถาม

“เอ่อ...ค่ะ” เพียงเพชรงุนงงเล็กน้อยกับสรรพนามของอีกฝ่าย หากก็มีมารยาทมากเกินกว่าจะเอ่ยสิ่งใดออกไป “ฉันชื่อเพียงเพชรค่ะ อยู่บ้านหลังติดกับคุณนี่เอง ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” เธอเอ่ยแนะนำตัวอย่างคนเป็นมิตร
“เจ้านั่นเอง” ออโรราพึมพำกับตัวเองขณะกวาดตามองดวงหน้าแฉล้มของหญิงสาวร่างบอบบางนอกรั้ว
ในที่สุดก็เจอเสียที นี่หรือหญิงสาวที่องค์เหนือหัวของนางทรงตามหาอยู่... เทพธิดาแสนสวยกวาดตามองไปทั่วเรือนร่างของมนุษย์สาวด้วยท่าทีหนักใจไม่น้อย นางแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าหญิงสาวเบื้องหน้าคือสตรีที่องค์สุริยเทพทรงเฝ้าตามหาแทบพลิกแผ่นดิน

“คุณว่าอะไรนะคะ?” เพียงเพชรถามด้วยความงุนงง เพราะได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายไม่ถนัดนัก
“เปล่า ยินดีที่ได้พบ ข้า...เอ่อ ฉันกับเจ้านายเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่เมื่อวานนี้เอง ยังไงก็ขอฝากตัวด้วย” เสียงหวานดั่งระฆังแก้วเอ่ยบอกเธอ
“แล้วคุณชื่ออะไรคะ?” เพียงเพชรถามอย่างใคร่รู้
“ออโรรา” สาวสวยตอบคำถามเธอ
เพียงเพชรสนทนากับเพื่อนบ้านคนใหม่อยู่อีกเพียงครู่เดียว จึงเอ่ยปากลา เดินกลับเข้าบ้านของตัวเองไป ส่วนออโรราเอง นางก็ตั้งหน้าตั้งตารอการเสด็จกลับมาขององค์เหนือหัว

“นายท่าน” เสียงหวานเอ่ยทักทันทีที่ประตูบ้านถูกเปิดออกด้วยเจ้าของเรือนร่างกำยำสูงใหญ่ โดดเด่น สะดุดสายตาใครต่อใคร
แม้ยามนี้อพอลโลจะถูกลงทัณฑ์ให้กลายเป็นแค่เพียงมนุษย์เดินดินธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้มีรัศมีแห่งทวยเทพและยศถาบรรดาศักดิ์เฉกเช่นเดียวกับยามอาศัยอยู่บนสรวงสวรรค์ หากสิ่งเหล่านี้กลับไม่ได้บั่นทอนความหล่อเหลาดั่งเทพบุตรลงได้เลย เมื่อเรือนกายแกร่งและดวงหน้าดั่งประติมากรรมชิ้นเอกกลับกลายเป็นสิ่งถูกตาต้องใจบรรดาหญิงสาวมากมายบนโลกมนุษย์
“ยังไม่กลับไปอีกหรือ” นัยน์ตาสีทองตวัดมองมายังหญิงสาวที่ยืนต้อนรับเขาอยู่ภายในบ้านด้วยแววตาสงสัย
เป็นผลให้สตรีอีกคนหนึ่งผู้เดินตามติดเขามาถึงบ้านเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ ยิ่งเมื่อได้เห็นใบหน้ารูปไข่ งดงามเย้ายวนเกินกว่าผู้หญิงคนไหนที่เคยพบมา ปรากฏกายอยู่ในบ้านของชายหนุ่มที่เธอหมายตา

“ถ้าคุณไม่สะดวก ไว้ฉันมาหาใหม่วันหลังก็ได้นะคะ” เจนจิราบอกด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก ตั้งท่าจะสะพายกระเป๋าเดินออกจากบ้านไป
มือแกร่งรั้งเธอไว้ได้ทัน พร้อมทั้งถือวิสาสะเอื้อมมาโอบเอวบางไว้มั่น
“เดี๋ยวก่อนสิ ใครบอกกันน้าว่าคืนนี้จะไม่หนีผมไปไหน” เสียงทุ้มหวานออดอ้อนจนคนฟังใจอ่อนยวบ ไม่คิดตั้งแง่กับผู้ชายตรงหน้าอีก
นี่เป็นครั้งแรกตลอดชีวิตสาวอันโลดโผนของเจนจิรา เธอไม่เคยรู้สึกติดตาต้องผู้ชายคนไหนเท่ากับหนุ่มหล่อข้างกายยามนี้ นับตั้งแต่วินาทีแรกเมื่อเขาก้าวเข้ามาในผับหรูกลางเมือง สายตาของเธอก็ไม่อาจละไปจากดวงหน้าคมและเรือนกายแกร่งของผู้ชายคนนี้ได้ เขาทั้งหล่อเหลา เย้ายวน ชักชวนเธอให้นึกอยากลองเป็นเจ้าของดูสักครั้ง
‘คืนนี้อยากลองรักผมดูสักครั้งไหม คนสวย’ น้ำเสียงแหบพร่า เซ็กซี่หน่อยๆ ของผู้ชายคนนี้ ทำให้เจนจิราไม่อาจปฏิเสธได้เมื่อถูกชวนมายังบ้านของเขา

“แต่คุณมีคนอื่นรออยู่แล้วนี่คะ” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด ไม่ได้คิดอยากจะเดินกลับออกจากประตูบ้านหลังนี้จริงอย่างปากพูดเลยสักนิด
“ไม่มีเสียหน่อย คืนนี้เป็นของคุณคนเดียว คนสวย” อพอลโลย้ำคำพูดของตัวเองด้วยการก้มลงไปขบเม้มติ่งหูของอีกฝ่ายอย่างหยอกเย้า
“แต่...” เจนจิรายังคงพูดด้วยน้ำเสียงลังเล แม้ยามนี้จะไม่มีสิ่งใดสามารถไล่เธอออกจากบ้านหลังนี้ได้ก็ตาม
“กลับไปได้แล้ว” อพอลโลหันมาเอ่ยปากไล่ออโรรา

เทวีองค์งามมีสีหน้าลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อเป็นคำสั่งขององค์เหนือหัว นางก็จำต้องทำตามโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ความจริงยามนี้ออโรราไม่จำเป็นต้องตามลงมารับใช้อพอลโลเลยด้วยซ้ำ ในเมื่อนางยังคงดำรงตำแหน่งเทวีผู้ครองแสงเงินแสงทองอยู่เฉกเช่นเดียวกับเหล่ามิวส์ผู้เป็นบริวารทั้งเก้า แต่ด้วยความจงรักภักดีที่ยังคงมีต่อเทพบุตร แม้เขาจะไม่ได้ดำรงศักดิ์เป็นเทพแห่งสุริยัน เหล่าบริวารทั้งหลายก็ยังคงแวะเวียนตามลงมารับใช้ยามเมื่อมีโอกาส โดยเฉพาะออโรรา ทุกครั้งหลังจากนางเสร็จภาระหน้าที่รับใช้เทพสุริยันองค์ใหม่ ออโรราก็มักใช้เวลาที่เหลืออยู่รับใช้องค์เหนือหัวอย่างผู้จงรักภักดี
“เจ้าค่ะ แล้วข้าจะกลับลงมาใหม่ยามสายของวันพรุ่งนี้” นางบอกก่อนออกจากบ้านไป
สร้างความสงสัยให้กับหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ยืนฟังบทสนทนาของทั้งคู่อยู่ด้วยความงุนงง
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่คะ?” เจนจิราถามในทันทีที่ประตูบ้านถูกปิดลง
“ออโรราเหรอ? บริวารของผมเอง” อพอลโลบอกด้วยท่าทีไม่ใส่ใจนัก เพราะสิ่งที่เขานึกสนใจยามนี้มีเพียงเรือนร่างระหงของคนข้างกาย

“คนใช้เหรอคะ?” เจนจิราถามด้วยความแปลกใจ
เธอไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงหน้าตาดีคนไหนยอมทำงานเป็นคนใช้ให้ใคร หึ ผู้หญิงคนนั้นก็คงหวังอาศัยความใกล้ชิดขยับฐานะจากคนใช้มาเป็นอย่างอื่นกระมัง...
“คุณจะเรียกแบบนั้นก็ได้ แต่เวลานี้สิ่งที่คุณควรสนใจน่าจะเป็นผมมากกว่า คุณมีเวลาเพียงแค่ค่ำคืนเดียวนะคนสวย” เสียงแหบพร่ากระซิบบอกเธอพร้อมกับมือหนาที่เคยซุกซนอยู่ไม่สุข
จากนั้นเจนจิราก็แทบไม่มีความคิดใดอยู่ในหัวสมองอีกเลย นอกจากตอบสนองสิ่งที่ผู้ชายตรงหน้าเรียกร้องจากเธอไม่หยุดหย่อน

พอลโลมักลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนเวลารุ่งสาง ร่างระหงของคนข้างกายซึ่งยังคงหลับสนิทอยู่ ไม่ได้ช่วยให้อารมณ์บางอย่างที่ยังคงตกตะกอนอยู่ในหัวใจเขาจางหายไปได้
เมื่อคืนนี้เรือนกายเย้ายวนของมนุษย์สาวนางนี้ควรจะดับความร้อนรุ่มของเขาลงได้ ทว่าผู้หญิงคนนี้กลับเป็นเหมือนหญิงสาวหลายคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาตลอดระยะเวลาสองเดือนกว่าบนโลกมนุษย์ ไม่มีผู้ใดดับกระหาย และความปรารถนาลึกๆ ในจิตใจของเขาลงได้
เรือนกายแกร่งสมส่วนชายชาตรีลุกขึ้นจากเตียงนอนโดยไม่ได้สนใจหญิงสาวอีกคนที่ได้ใช้เวลาตลอดค่ำคืนร่วมกันเลย อพอลโลตรงดิ่งไปยังห้องเล็กๆ ตั้งอยู่ถัดออกไปจากห้องนอนเขา ห้องแห่งนี้ถูกกั้นขึ้นมาใหม่ตอนเขาตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ ภายในห้องสีขาวขนาดเล็กไม่มีเครื่องเรือนใดๆ อยู่เลย นอกจากแท่นหินอ่อนสูงถึงเอวตั้งเด่นอยู่กลางห้องและอ่างน้ำทำจากหินอ่อนสีขาวขัดมันวาว...สิ่งของชิ้นเดียวที่นำติดตัวลงมาจากสวรรค์เบื้องบน

เงาสะท้อนภายในอ่างน้ำไม่ได้ฉายภาพสะท้อนของเขา หากกลับปรากฏภาพหญิงสาวนางหนึ่งขึ้นแทน อพอลโลเฝ้าค้นหาเธอผู้นี้มาตลอดระยะเวลาที่ลงมาอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์ ใบหน้านวลกระจ่างใสติดตาตรึงใจแม้ในยามหลับตา และด้วยความคิดถึงนี้เองเขาจึงสั่งให้ออโรราแอบนำอ่างน้ำ ออกจากวิมานบนสวรรค์มาเก็บไว้กับตัวเขายังโลกมนุษย์
อพอลโลแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่า เขามักใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันหมดไปกันการจ้องมองภาพนิมิตในอ่างน้ำ ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนแปลงไปตามกิจวัตรประจำวันของเธอ หากส่วนใหญ่เขามักเห็นใบหน้านวลกระจ่างใสด้วยรอยยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้ม ส่งผลให้โลกทั้งใบพลันสดใสขึ้น ดวงหน้ารูปไข่ของเธอไม่ได้มีส่วนใดโดดเด่นไปกว่าเหล่าเทวีและเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ หากเขากลับไม่อาจละสายตาจากใบหน้าแฉล้มดวงนี้ได้เลย

ต้องเป็นเพราะพิษรักบ้าๆ ของศรคันนั้นแน่ๆ เขาถึงหลงใหลมนุษย์สาวได้ถึงเพียงนี้ อพอลโลคิดด้วยความหงุดหงิดใจ รุ่งสางวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่เขาเข้ามาในห้องสีขาวขนาดเล็กเพื่อเฝ้าดูเธอหลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข ความรุ่มร้อนที่ไม่เคยมีหญิงคนไหนดับกระหายได้ กลับค่อยๆ บรรเทาลง ยามนั่งอยู่เพียงลำพังในห้องแคบๆ กับภาพนิมิตของหญิงสาวปริศนา
เมื่อไหร่กันหนอถึงจะตามหานางพบ... นั่นเป็นอีกหนึ่งความปรารถนาที่แม้สมองจะปฏิเสธอย่างไร หากหัวใจกลับเรียกร้องให้ออกตามหาหญิงสาวในนิมิต เขาและเหล่าบริวารทั้งสิบออกสำรวจไปทั่วโลกมนุษย์จนกระทั่งมาพบกับหมู่บ้านแห่งนี้ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับสภาพแวดล้อมที่มักปรากฏอยู่เบื้องหลังดวงหน้าแฉล้ม อพอลโลไม่ลังเลสักนิดยามตัดสินใจเดินทางจะใช้ชีวิตอีกหลายเดือนบนโลกมนุษย์ในหมู่บ้านแห่งนี้ เขาเชื่อมั่นว่าหญิงสาวในนิมิตอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่เอื้อมเท่านั้น

“พอลคะ ทำไมตื่นเช้าจัง” เสียงหวานร้องทักพร้อมกับร่างระหงเยื้องย่างลงมายังบริเวณห้องอาหารเบื้องล่าง
เจนจิราชะงักปลายเท้าเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้นั่งอยู่เพียงลำพัง หากกลับมีร่างระหงของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเสิร์ฟอาหารเช้าให้เขาอยู่ สิ่งเลวร้ายกว่านั้นก็คือผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คนเดียวกับที่เธอพบเมื่อวาน ใบหน้าของหญิงสาวผู้นี้งดงาม เย้ายวนตา ไม่ต่างจากสาวรับใช้คนก่อนเลย
นัยน์ตาสีทองสุกปลั่งตวัดมามองเธอเพียงเล็กน้อย ก่อนก้มลงรับประทานอาหารเช้าบนโต๊ะอาหารต่ออย่างไม่สนใจเธอนัก กิริยาของชายหนุ่มตรงหน้าทำเอาเจนจิราหน้าเสียไปเล็กน้อยเมื่อพบกับท่าทีห่างเหินของเขา
“เช้าแล้วผมว่าคุณควรกลับบ้านไปได้แล้ว” น้ำเสียงเย็นๆ ของคนตรงหน้าดังขึ้นสะดุดหูเธอ
ผู้ชายตรงหน้าเธอยามนี้ช่างแตกต่างกับหนุ่มร้อนแรงเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาเหลือเกิน

“อะไรกันคะ ทำไมคุณถึงไล่เจนนี่แบบนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อคืนนี้เรายังเข้ากันได้ดีอยู่เลย” เจนจิราต่อว่าต่อขาน หากคำพูดของเธอกลับชะงักค้างไปเมื่อสบกับนัยน์ตาสีทองของชายหนุ่ม
นัยน์ตาคู่นั้นไม่ได้รุ่มร้อน เย้ายวนใจเหมือนเช่นยามค่ำคืน แต่กลับเยือกเย็นจนคนถูกมองหนาวยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจ
“ก็แค่เมื่อคืน คุณเองก็ทำความเข้าใจดีมาก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่เหรอว่าความสัมพันธ์ของเรามีเพียงแค่ค่ำคืนเดียว” อพอลโลบอกอย่างเห็นเป็นเรื่องปรกติ เนื่องจากผู้หญิงส่วนมากที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาล้วนแต่เป็นเพียงความสัมพันธ์ระยะสั้น ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาติดใจถึงขนาดคิดกลับไปหา หรือสานสัมพันธ์กับเธอให้ยาวนานขึ้นกว่าหนึ่งค่ำคืน
“แต่พอลคะ คุณไม่ได้คิดว่าเราจะจบกันเพียงแค่นี้ใช่ไหม” เจนจิราอึ้งไปกับคำตอบของชายหนุ่ม
เมื่อคืนผู้ชายคนนี้ร้อนแรงและเรียกร้องจากเธอไม่หยุดหย่อน จนเธอไม่คิดเลยว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงแค่ความฝัน ในเมื่อเขาดูปรารถนาในตัวเธอเหลือเกิน และเธอเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าติดใจผู้ชายแสนเพียบพร้อมและเร้าอารมณ์คนนี้ไม่น้อย

“มันจะเป็นเช่นนั้นเจนนี่ ค่ำคืนเดียวที่ผมบอกกับคุณ ผมหมายความตามนั้นจริงๆ” อพอลโลมั่นใจว่าเขาได้ย้ำชัดถึงความสัมพันธ์ชั่วคราวระหว่างเขากับเธอไปแล้วหลายครั้ง ก่อนจะพาเธอมาถึงบ้านด้วยซ้ำ
หากเจนจิราก็ยังเป็นเหมือนมนุษย์สาวเกือบทุกคนบนโลก หรือแม้แต่เหล่าเทวีและเทพธิดาบางองค์ที่ไม่เคยเชื่อในสัจจะของเขา พวกเธอล้วนคาดหวังจะสานสัมพันธ์ต่อไป ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยคิดหรือแสดงสิ่งใดออกไปเลยด้วยซ้ำว่าเขาต้องการความสัมพันธ์ยาวนานกว่าหนึ่งค่ำคืน

“ไม่จริง ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคุณจะทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนี้” เจนจิราบอกด้วยความโกรธเกรี้ยว เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก แต่ไหนแต่ไรมาผู้หญิงอย่างเธอมักเป็นฝ่ายเลือก เธอเลือกที่จะรัก เลือกที่จะตัดขาดจากผู้ชายคนไหนก็ได้ แต่ไม่เคยมีใครเป็นฝ่ายทิ้งเธอไปก่อนเช่นนี้ “ก็ได้ค่ะ ถ้าเช้านี้คุณยังอารมณ์ไม่ดี ฉันจะกลับบ้านก่อนแล้วเราค่อยคุยกันใหม่” มือบางหยิบนามบัตรของเธอวางทิ้งไว้บนโต๊ะอาหาร ก่อนจะหันหลังกลับไปด้วยความรู้สึกขัดใจ
คอยดูเถอะ คนอย่างเจนจิราไม่เคยมีผู้ชายคนไหนกล้าปฏิเสธเธอ...

“ทิ้งมันไปเถอะ ข้าไม่คิดว่าจำเป็นต้องใช้มัน” อพอลโลหันมาสั่งกับธาไลอา หนึ่งในเหล่ามิวส์ที่ตามลงมารับใช้เขายังผืนโลก
“เพคะฝ่าบาท” เทพธิดาองค์งามน้อมรับคำสั่งอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ก่อนเรือนร่างระหงจะหายลับไปพร้อมกับนามบัตรบนโต๊ะอาหาร
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ร่างเพรียวแกร่งของอพอลโลก็ก้าวออกมาภายนอกบ้านก่อนรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่จะแตะแต้มขอบฟ้า สิ่งนี้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเขาไปแล้วเมื่อเทพบุตรหนุ่มมักใช้เวลาทุกเช้าก่อนราชรถสุริยันที่เคยเป็นของเขาจะโคจรลงสู่โลกมนุษย์ นัยน์ตาสีทองเหม่อมองขึ้นไปยังขอบฟ้าเบื้องบน เห็นราชรถสีทองคำค่อยๆ เคลื่อนเลยขอบฟ้าผ่านหมู่บ้านไป เทพเฮลิออส ผู้ทำหน้าที่ขับรถสุริยันแทนเขาโบกมือทักทายพร้อมกับแสงสีทองฉายลงสู่ตัวหมู่บ้าน

เช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นเฉกเช่นเดียวกับทุกๆ วันที่เคยผ่านมา อพอลโลเห็นผู้คนในหมู่บ้านหลายคนต่างทยอยกันออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน เห็นเด็กชายเด็กหญิงเตรียมตัวเดินออกจากบ้านไปยังโรงเรียนหน้าหมู่บ้าน หรือไม่ก็ขึ้นรถโรงเรียนที่ขับเข้ามารับถึงหน้าบ้าน ขณะกำลังมองกิจวัตรประจำวันของเหล่ามนุษย์อย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น จู่ๆ นัยน์ตาคมก็ตวัดเหลือบมาเห็นร่างแบบบางของใครบางคนกำลังก้าวพ้นรั้วประตูบ้านมา พลัน ความวุ่นวายอันเคยรายล้อมอยู่รอบตัวกลับหยุดชะงักลง เมื่อสายตาคมเลื่อนขึ้นไปปะทะยังดวงหน้าแฉล้ม
อพอลโลรู้สึกเหมือนลมหายใจหยุดลงทันทีที่รับรู้ว่าหญิงสาวซึ่งยืนห่างออกไปไม่ไกลคือสาวปริศนา ผู้ที่เขาเฝ้าตามหามาสองเดือนกว่าแล้ว ดวงหน้ารูปไข่ซึ่งเคยกระจ่างชัดอยู่แต่เพียงในนิมิต บัดนี้กลับมีชีวิตอยู่จริงเบื้องหน้าเขา ซ้ำร้ายยามเมื่อนัยน์ตาโตสีน้ำตาลเข้มหันมาสบตาเขาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง จนเห็นลักยิ้มบุ๋มลงไปบนสองข้างแก้ม หัวใจของชายหนุ่มก็เต้นระรัวกระหน่ำจนแทบจะหลุดออกมาจากอก

“สวัสดีค่ะ คุณอยู่บ้านหลังนี้เหรอคะ” เพียงเพชรทักด้วยน้ำเสียงสดใส
ความจริงเธอแทบจะลืมหายใจเลยด้วยซ้ำตอนเห็นหน้าเพื่อนบ้านใหม่ของเธอ เมื่อวานนี้เธอได้มีโอกาสเห็นสาวสวยที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ เพียงเพชรคิดว่าผู้หญิงคนนั้นงดงามเกินคำบรรยายใดๆ แล้ว แต่ยามนี้สิ บุรุษหนุ่มผู้ยืนสบตาเธออยู่ ช่างหล่อเหลาเกินกว่าจินตนาการใดๆ จะฝันถึง
ผู้ชายเบื้องหน้าเธอมีเรือนกายเพรียวแกร่งน่ามอง แม้จะอยู่ภายใต้เสื้อยืดสีขาวธรรมดา แต่ก็หาได้บดบังความกำยำของเรือนร่างได้ ยิ่งประกอบกับผิวสีน้ำตาลอมทองบนเรือนกายแกร่ง ผมสีทอง และนัยน์ตาสีทองทรงเสน่ห์ของเขา เพียงเพชรก็คิดว่าชายหนุ่มอาจจะเป็นแค่เพียงความฝัน จนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากทักออกไปให้แน่ชัดว่า ผู้ชายซึ่งกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเธอมีตัวตนจริงหรือไม่
“อรุณสวัสดิ์” น้ำเสียงแหบพร่า เซ็กซี่เล็กๆ ของเพื่อนบ้านคนใหม่ทำเอาเธอรู้สึกราวกับตัวเองใกล้จะขาดอากาศหายใจลงทุกที

ให้ตายเถอะ ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยหลงเสน่ห์ผู้ชายคนไหนมาก่อนไม่ใช่เหรอ... เพียงเพชรย้ำเตือนถึงตัวตนอันต่ำต้อยของตัวเองอย่างหนักแน่นอีกครั้ง ก่อนรอยยิ้มหวานสดใสจะส่งให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร
“ฉันชื่อเพียงเพชรค่ะ เรียกเพียงก็ได้ อยู่บ้านหลังข้างๆ คุณนี่เอง คุณพูดภาษาไทยชัดจัง คุณ...”
“อพอลโล” ชายหนุ่มตอบคำถามเธอพร้อมกับพาร่างกายที่ดูไม่เป็นตัวของตัวเองเคลื่อนกายเข้ามาใกล้เธอ
สองขายาวๆ ของเขาก้าวตรงไปหยุดลงเบื้องหน้าหญิงสาว นัยน์ตาสีทองกวาดสำรวจไปทั่วร่างบางอย่างห้ามใจไม่อยู่ ก่อนมาสะดุดลงกับบางสิ่งที่เธอถืออยู่ในมือและขาข้างซ้ายของเธอ ความเจ็บปวดบางอย่างก็พุ่งตรงเข้าบีบรัดหัวใจของเขาอย่างที่สมองไม่อาจห้ามปรามได้

เขาได้พบหญิงปริศนาที่เฝ้าคำนึงหาแล้ว นอกจากผู้หญิงคนนี้จะเป็นมนุษย์ เธอยังพิการอีกต่างหาก
บ้าเอ๊ย นี่เขากำลังหลงรักมนุษย์ผู้หญิงไม่สมประกอบงั้นเหรอ... อพอลโลสบถด่าเทพคิวปิดอยู่ในใจ พนันได้เลยว่าถ้าเขากลับขึ้นไปยังสวรรค์โอลิมปัสอีกครั้ง เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อถอนพิษของศรรักออกจากหัวใจให้จงได้
ทว่าในยามนี้หัวใจของเขากลับไม่เชื่อฟังผู้เป็นเจ้าของเลยแม้แต่น้อย เมื่อมันมีแต่พองโตคับอกด้วยความดีใจที่ได้พบเธอ อีกทั้งยังสงสาร ปรารถนาอยากจะปกป้องเรือนร่างเล็กกระจ้อยร่อยนี้ ผู้หญิงตรงหน้าเขาให้ความรู้สึกราวกับเธอเป็นเพียงดอกไม้สีขาวดอกเล็ก มีกลีบบางเบาจนใครบางคนคงเผลอจับแรงไปจนกลีบน้อยบอบช้ำ ชวนให้นึกสงสารจับใจ

เพียงเพชรรู้สึกอายเหลือเกินเมื่อพบกับสายตาสำรวจ หยุดนิ่งมองขาข้างซ้ายของเธอ แต่เพราะขาพิการไม่อาจขยับเขยื้อนได้ดั่งใจคิด ทำให้เธอไม่อาจชักเท้าหนีสายตาของชายหนุ่มตรงหน้าได้ หญิงสาวทำได้แค่เพียงเอ่ยปากขอตัว ตั้งใจจะก้าวถอยห่างจากผู้ชายคนนี้ ทว่าขณะกำลังล็อกรั้วประตูบ้าน มือของเธอดันพลาดไปปัดไม้ค้ำซึ่งพิงไว้กับรั้วบ้านล้มลง ร่างแบบบางตั้งใจจะก้มลงเก็บ หากความไม่สมประกอบของร่างกาย เธอจึงไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อย่างใจคิด
ในขณะกำลังจะก้มลงไปเพื่อหยิบไม้ค้ำ ร่างสูงกำยำของคนที่เคยยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกล กลับขยับเข้ามาชิดใกล้จนรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากคนข้างกาย มือเรียวแกร่งสีน้ำตาลทองก้มลงเก็บไม้ค้ำกลับมายื่นคืนมาให้เธอ หนำซ้ำเขายังถือวิสาสะจับแขนข้างหนึ่งของเธอไว้มั่น ช่วยประคองเธอให้กลับขึ้นมายืนเต็มตัวอีกครั้ง

“คุณเรียกผมว่าพอลก็ได้ ผมคงอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ไปอีกพักใหญ่” เสียงทุ้มต่ำของเขาสะกดให้เธอจำต้องเงยหน้าขึ้นสบตาเขา
แววตาสีทองสุกปลั่งของผู้ชายตรงหน้านอกจากจะทรงเสน่ห์แล้ว เพียงเพชรกลับไม่ได้รู้สึกถึงแววตาดูถูกใดๆ เจือปนอยู่ในดวงตาคู่นั้นเลย และนั่นจึงทำให้เธอยอมยิ้มรับไมตรีของผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ใช่ไหม” หญิงสาวชวนคุย
“เมื่อวานนี้เอง เลยยังไม่ได้มีโอกาสทำความรู้จักเพื่อนบ้านที่น่ารักอย่างคุณ” เสียงทุ้มต่ำชวนฟังบอกกับเธอ เล่นเอาคนไม่ค่อยได้ยินคำหวาน แก้มร้อนผะผ่าวขึ้นมาในทันใด
ใจเย็นไว้ยายเพียง ผู้ชายคนนี้เขาก็แค่ปากหวานไปตามมารยาทเท่านั้น... หญิงสาวนึกปรามตัวเองอยู่ในใจ
“แล้วผู้หญิงสวยๆ อีกคนล่ะคะ ภรรยาคุณหรือ?”
“ผมยังโสดครับ อยู่บ้านหลังนี้คนเดียว ถ้าวันไหนคุณเพียงว่างก็แวะมาบ้านผมบ้างนะครับ ยินดีต้อนรับเสมอ” อพอลโลบอกพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น

ชายหนุ่มหมายความตามนั้นจริงๆ เมื่อยามนี้เขาได้พบหญิงสาวปริศนาที่เคยได้แต่เฝ้ามองเธอในนิมิตมานานนับเดือน เช่นนี้แล้วมีหรือเขาจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ ไม่ว่าความรู้สึกในหัวใจของเขาจะเริ่มต้นมาจากอะไร แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ายามนี้ตัวเขาเองกำลังหลงใหลหญิงสาวตรงหน้าอยู่...อย่างหัวปักหัวปำเสียด้วย
“เอ่อ...ค่ะ” เพียงเพชรรับคำอย่างไม่เต็มเสียงนัก เพราะไม่คิดว่าจู่ๆ จะถูกหนุ่มหล่อแสนเพอร์เฟกต์อย่างผู้ชายตรงหน้าเอ่ยปากชวน แม้จะเป็นแค่การชวนตามมารยาทก็ตามที
“ผมหมายความตามนั้นจริงๆ นะครับ” ดวงหน้าคมเข้มก้มลงมาย้ำคำพูดของตัวเองจนหน้าผากเกือบจะชนเข้ากับดวงหน้าของอีกฝ่าย
เพียงเพชรขยับตัวเพื่อถอยหลังให้ห่างจากคนตรงหน้าด้วยความตกใจ ทว่ามือของชายหนุ่มยังคงกระชับมั่นอยู่บนข้อมือบางทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวได้อย่างใจคิด

“ฉันทราบแล้วค่ะ เอ่อ...แต่คุณปล่อยมือฉันก่อนดีกว่า ต้องไปทำงานแล้วค่ะ” เสียงหวานที่เคยเจื้อยแจ้วอ้อมแอ้มตอบ
ดวงหน้านวลก้มต่ำลงอย่างตั้งใจหลบสายตาของอีกฝ่าย
“คุณทำงานที่ไหนเหรอ?” อพอลโลถามด้วยความใคร่รู้
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตอันเป็นนิรันดร์ที่เคยผ่านพ้นมาเลยกระมังที่เขานึกสนใจเรื่องราวของหญิงสาวสักคน มากกว่ารูปร่างหน้าตาและความงดงาม เย้ายวน
“หน้าหมู่บ้านนี้เองค่ะ ฉันเป็นครูสอนหนังสือเด็ก” เธอบอกขณะพยายามขยับกายถอยห่างด้วยท่าทีอึดอัด “ต้องไปแล้วละค่ะ สายแล้ว”
“งั้นเดี๋ยวผมเดินไปส่ง” อพอลโลตัดสินใจได้ในวินาทีถัดมาว่า การเอ่ยปากลาหญิงสาวตรงหน้ายังไม่ใช่สิ่งที่เขานึกอยากทำตอนนี้

เขาเสียเวลามาตั้งนานกว่าจะตามหาเธอพบ เรื่องอะไรจะปล่อยไปง่ายๆ...
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่หน้าหมู่บ้านเอง”
“ไม่เป็นไร เช้าๆ แบบนี้ เดินเล่นออกกำลังกายเสียหน่อยก็ดี มาครับ ผมช่วยถือเอง” เขาก้มลงคว้าถุงผ้าใบใหญ่ข้างประตูรั้วบ้านขึ้นมาถือ ก่อนออกแรงรั้งน้อยๆ ให้ร่างแบบบางก้าวตามเขาไป
“เอ่อ...ปล่อยมือเถอะค่ะ ฉันเดินเองได้” หญิงสาวพยายามจะขยับข้อมือตัวเองออกจากการถูกเกาะกุม แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่อาจสลัดมือตัวเองให้หลุดได้
อพอลโลมองเห็นดวงหน้านวลถูกแต่งแต้มไปด้วยสีระเรื่อบนพวงแก้ม เลยจำต้องปล่อยข้อมือบางออกด้วยความเสียดายเล็กๆ

“ระวังล้มล่ะ” ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจำต้องเป็นห่วงหญิงสาวคนไหน แต่ยามนี้นอกจากหัวใจจะสั่งให้ชะลอฝีเท้าลงแล้ว น้ำเสียงแหบพร่ายังเอ่ยเตือนเธอด้วยความเป็นห่วงก่อนสมองจะทันได้คิดยับยั้ง
นับเป็นครั้งแรกในนิรันดร์กาลอันยาวนาน ที่เทพบุตรอย่างเขาจำต้องชะลอฝีเท้าลงเพื่อใครสักคน
เฮ้อ คิดถูกรึเปล่าที่ตามหานางจนพบ ท่าทางพิษศรรักจะกำเริบหนักหนาสาหัสกว่าเก่า เมื่อต้องมาอยู่ใกล้ผู้หญิงที่เขาถูกกามเทพกลั่นแกล้งให้ตกหลุมรักแบบนี้...



ริญจน์ธร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 พ.ค. 2554, 00:10:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ม.ค. 2555, 12:31:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 1980





<< บทนำ   บทที่2 >>
Gingfara 20 พ.ค. 2554, 07:34:08 น.
อิอิ เจอแล้วความรัก มาให้กำลังใจนะคะ


ปูสีน้ำเงิน 20 พ.ค. 2554, 16:02:19 น.
ในที่สุดก็เจอซะที


หมูอ้วน 21 พ.ค. 2554, 06:07:21 น.
แค่แรกเห็น ก็ตกหลุมรักเข้าเต็มเปาซะแย้วว ฮิ...


ริญจน์ธร 22 พ.ค. 2554, 02:27:20 น.
ขอบคุณค่ะ เรื่องนี้ขอตกหลุมรักตั้งแต่ฉากแรกเลยนะคะ หวังว่าคนอ่านจะหลงรัก(หรือหมั่นไส้ดี) อพอลโล ไม่ต่างจากเฮเดสนะคะ


Zephyr 24 พ.ค. 2554, 00:55:40 น.
ดีจัง ภาคต่อ มีเฮเดส กับ พริมารับเชิญมั้ยคะ สักนิดก็ดีนะคะ คิดถึง


nainoinoy 26 พ.ค. 2554, 17:41:50 น.
พี่พอล ยังหลอกตัวเองอยู่ใช่ไหมว่าเป็นเพราะศรรัก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account