แผนรักพันใจ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 8

ร้านอาหารนานาชาติในโรงแรมระดับห้าดาวเป็นสถานที่สำหรับอาหารมื้อพิเศษของสองครอบครัว คนที่ดูจะชื่นมื่นกับการทั้งอาหารและบรรยากาศเป็นพิเศษก็คือคุณชนัญญาและคุณสโรชาที่ต่างก็หมายหมั้นให้ลูกชายและลูกสาวของอีกฝ่าย

คุณบัณฑิตและคุณเอกอมรนั้นแต่แรกบอกกับภรรยากันเพียงว่าเป็นเพื่อนเรียนคณะเดียวกัน ละที่จะเอ่ยถึงความสนิทสนมเพราะความห่างเหิน และขัดเคืองหลังจากที่ฝ่ายแรกเคยเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ ใช้เส้นสายทางราชการแต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายหลัง ทว่ามิตรภาพที่เคยมีในอดีตก็ทำให้หนุ่มใหญ่ทั้งสองสามารถลืมความขุ่นข้องหมองใจพูดคุยกันได้ตามมารยาท โดยที่คุณบัณฑิตต้องพยายามซ่อนความอึดอัดใจที่มีเรื่องต้องปิดบังเพื่อนเก่า เรื่องที่คุณบัณฑิตให้ลูกชายเข้าไปตีสนิทกับลูกสาวของอีกฝ่ายเพื่อหวังผลทางการเจรจาซื้อขายที่ดิน

ขณะที่ธนินก็ใช้เวลาในการร่วมโต๊ะอาหารเพื่อพิจารณาหญิงสาวที่มารดาจัดแจงให้เขาได้มาพบ สุจิราดูอ่อนหวานเรียบร้อยไม่เปรี้ยวเข็ดฟันอย่างผู้หญิงที่เขาชอบคบหา ควงไปเที่ยวไหนต่อไหน แต่ก็ไม่ได้ดูเชยแบบจารุดา การแต่งเนื้อแต่งตัวไม่ได้เปิดเผยจนไม่มีอะไรให้ลุ้นแต่ก็ไม่ได้ปิดมิดชิดไปเสียหมด ชุดเดรสเกาะอกสีน้ำทะเลทับด้วยเสื้อนอกสีครีม ต่างหู สร้อยคอและกำไลข้อมือเข้าชุดนั้นเป็นคอลเลคชั่นใหม่เอี่ยมของเครื่องประดับยี่ห้อดัง ปลายผมดัดเป็นคลื่นยาวระเนินอกอิ่ม

เขาถูกตาผู้หญิงคนนี้ แต่ยังไม่ได้คิดเรื่องต้องใจ และยิ่งไม่คิดถึงเรื่องการตกร่องป่องชิ้นกันอย่างที่รู้ว่าคุณชนัญญาหมายมาด ยิ่งลองถ้าคุณชนัญญาจัดแจงบีบให้ทั้งเขาและพ่อมาร่วมโต๊ะรับประทานอาหารเย็น และยังแสดงออกชัดแจ้งว่าพึงพอใจสุจิราอย่างออกนอกหน้าเช่นนี้ย่อมหมายความว่าผู้ให้กำเนิดต้องมองการณ์ไกล...ไกลไปกว่าที่เขาคิดมากและนั่นทำให้ความรู้สึกพึงพอใจต่อหญิงสาวตรงหน้านั้นถูกกั้นเอาไว้ด้วยความหวั่นเกรง และชายหนุ่มให้เหตุผลกับตัวเองว่าเขายังไม่คิดเรื่องแต่งงานแต่งการ ไม่คิดว่าจะผูกชีวิตเอาไว้กับใคร

"เบื่อรึเปล่าจ๊ะ หนูจินนี่ ฟังผู้ใหญ่อย่างลุง ๆ ป้า ๆ คุยกัน" คุณชนัญญาเอ่ยขึ้นหลังจากจบเมนูของหวาน "นิน...พาน้องไปชมวิวยืนชมวิวสิลูก"

แม่ของทั้งสองฝ่ายลอบมองสบตากันอย่างมาดหมาย ขณะที่สามีของทั้งคู่มองกันอย่างอึดอัดอยู่ในที ธนินขยับลุกขึ้นก่อนเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้สุจิรา หญิงสาวกล่าวขอบคุณพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานก่อนเอ่ยขอตัวกับผู้ใหญ่ทั้งสี่



ธนินและสุจิราเดินเคียงกันไปตามทางเดินสู่บริเวณดาดฟ้าที่จัดไว้ให้กับแขกของโรงแรมและห้องอาหารได้ยืนชมทัศนียภาพ หญิงสาวกระชับแขนทั้งสองข้างแนบอกเมื่อมีลมมาปะทะ

"อากาศเย็นเหมือนกันนะคะ"

"น้องจินนี่หนาวรึเปล่าครับ" ชายหนุ่มขยับจะถอดเสื้อสูท

"ไม่เป็นไรค่ะพี่นิน ลมเย็นนิดหน่อย"

"อ่าครับ"

สองหนุ่มยาวหยุดยืนหน้าแผงกั้นซึ่งทำจากกระจก ตึกรามสูงใหญ่ล้วนแข่งกันเปิดไฟชื่ออาคาร รวมถึงไฟประดับแต่งแต้มสีสันให้กรุงเทพยามราตรี แม้แสงไฟจากรถยนต์ก็ดูผิดไปจากเมื่อต้องเผชิญกับการจราจรอันคับคั่งอยู่บนท้องถนน ต่างฝ่ายต่างนิ่งงันไปพักหนึ่งก่อนที่สุจิราจะเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน

"พี่นินลำบากใจรึเปล่าคะ"

"ลำบากใจ" ชายหนุ่มทวนคำอย่างสงสัย "เรื่องอะไรครับ"

"ก็เรื่องที่แม่ของจินนี่เหมือนพาจินนี่มาให้พี่นินกับคุณลุง คุณป้าดูตัวไงคะ" สุจิราดูเหมือนจะไม่สบายใจนัก "ที่จริง จินนี่ก็ไม่เห็นด้วยเรื่องนี้แต่ก็ขัดคุณแม่ไม่ได้"

"น้องจินนี่ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ"

"ถ้าพี่นินเข้าใจ จินนี่ก็สบายใจค่ะ" สุจิรายิ้มกว้าง "คุณแม่คงเห็นว่าจินนี่ไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนเป็นพิเศษ เลยพยายามจะหาคู่ให้จินนี่"

ชายหนุ่มเพียงแต่พยักหน้านิ่งฟัง สายตาเลื่อนจากภาพกรุงเทพยามค่ำมาจับอยู่ที่ใบหน้าของคู่สนทนา

"จินนี่ก็ไม่เคยคิดจริง ๆ นะคะ เรื่องมีคู่ จินนี่ยังอยากอยู่ดูแลคุณพ่อคุณแม่ ตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือ จินนี่ก็คิดแต่เรื่องเรียน พอมาทำงานที่กระทรวงเดียวกับคุณพ่อ จินนี่ก็สนุกกับงาน จนไม่คิดเรื่องแต่งงานมีครอบครัว" หญิงสาวเล่ามาถึงตรงนี้ก็ชะงัก "ตายจริง...เผลอคุยแต่เรื่องตัวเองให้พี่นินฟังเสียยาว ปกติจินนี่ขี้อายไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้าเท่าไหร่ ไม่รู้ทำไมกับพี่นินถึงพูดซะยืดยาว ขอโทษนะคะ หวังว่าคงไม่ได้ทำให้พี่นินเบื่อ"

"ไม่หรอกครับ น้องจินนี่ไม่ต้องคิดมากนะครับ" ธนินยังไม่อาจละสายตาจากสุจิราได้ เขามองเห็นอะไรบางอย่างแต่เหมือนจะนึกไม่ออกว่ามีอะไรที่ทำให้เขาต้องจับจ้องเธอขนาดนี้

"ค่ะ...จินนี่แค่อยากแน่ใจว่าพี่นินจะอึดอัดใจ"

สุจิรานิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะเสถามไปถึงเรื่องการงานของชายหนุ่ม กิริยาอ่อนหวานหากไม่ใช่คนที่พูดน้อยจนเกินไปนั้นทำให้ธนินสามารถพูดคุย เล่าเรื่องงานของตนให้อีกฝ่ายฟังได้ไม่เบื่อ ทั้งเขายังคงครุ่นคิดขณะที่สายตายังคงมองจ้องไปที่ใบหน้างามนั้นอยู่ตลอดถึงสาเหตุอะไรบางอย่างที่ติดอยู่ในใจของตน

นานพักใหญ่กว่าที่ชายหนุ่มจะนึกออก และสิ่งที่นึกได้นั้นทำให้ธนินอดไม่ได้ที่จะแปลกใจตัวเอง

บ้าแล้วไอ้นิน ผู้หญิงสวย อ่อนหวาน แต่งหน้าแต่งตัวดูดีอย่างน้องจินนี่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไหงดันนึกไปถึงยัยป้าแว่นได้วะ



'ป้าแว่น' ยืนอยู่ที่หน้าต่างห้องภายในเรือนไม้บ้านสวน หญิงสาวมองออกไปภายนอกหน้าต่างแม้รอบเรือนจะมีแต่ความมืดมิดทว่าสายตาของหญิงสาวกลับมองเห็นภาพเหตุการณ์ในอดีตของครอบครัวตนเอง

คุณยายจันทร์ผ่านเรื่องร้ายมามาก เสียทั้งพี่สาว หลานสาว รวมถึงสามคน นั่นเป็นเหตุผลที่พอเพียงที่จะทำให้หญิงชรากางปีกป้องหลานสาวทั้งหลานน้าหลานยายให้ห่างไกลจากผู้ชาย

ที่ผ่านมาจารุดารู้เพียงไม่ต้องการให้ยายโกรธ แต่เมื่อได้ฟังเรื่องราวละเอียดจากปากของคุณจอมขวัญเธอรู้ดีว่าเบื้องลึกของความโกรธเกรี้ยวเวลามีผู้ชายมาวนเวียนใกล้ตัวหลานสาวนั้นคือความเศร้าเสียใจกับความสุญเสียในอดีต

ความรู้สึกของยายเป็นสิ่งที่ต้องทนุถนอมไม่ให้บอบช้ำมากไปกว่าเดิมอีก...แต่กับความรู้สึกของตัวเองนั้นจารุดาไม่แน่ใจว่าเธอต้องการที่จะหลีกหนีจากผู้ชายทุกคนเพื่อยายหรือไม่ ชีวิตคู่ของคนที่ทำงานทั้งงานสวนอาหาร งานในสวนหลายคู่แม้จะลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่จารุดาก็เคยเห็นสีหน้า แววตาของความสุขเมื่อคู่รักอยู่เคียงคู่กัน ไหนจะคู่รักอีกหลายต่อหลายคู่ภายนอกอาณาบริเวณบ้านสวนแห่งนี้อีกเล่า

โชคร้ายที่ชีวิตคู่ของยายจันทร์และพี่สาว รวมถึงแม่ของจารุดามีอิทธิพลกับความคิดของผู้เป็นยายเหนือสิ่งอื่นใด

'ผู้ชาย' คนหนึ่งที่ก้าวเข้ามาในช่วงเวลานี้ทำให้หญิงสาวเริ่มนึกถึงความสุข สมหวังของการใช้ชีวิตคู่ของบรรดาคู่รักที่เธอเคยพบเจอ แต่ขณะเดียวกันการได้รับรู้เรื่องราวในอดีตก็ทำให้เธอต้องพยายามนึกถึงเขาให้น้อยลง

เขาก็เป็นแค่หนุ่มเพลย์บอย ที่เข้ามาพัวพันกับเราเพราะวัตถุประสงค์อะไรบางอย่างเท่านั้น เขาไม่มีทางจริงจังกับเรา แล้วเราก็จะผิดหวังเหมือนยายทั้งสามคน เหมือนแม่

หรือไม่บางที เธออาจจะไม่โชคร้ายเหมือนยาย หรือแม่ของตัวเอง บางทีเธอควรจะเปิดโอกาสให้ใครสักคนได้ก้าวเข้ามาในชีวิต ถึงแม้ว่ามันจะมีอุปสรรค

จารุดาไม่อาจหาข้อสรุปให้กับตนเอง คงทำได้เพียงแต่ยืนมองออกไปในความมืดมิดยามราตรีเท่านั้น



การเตรียมงานเทศกาลอาหารสี่ภาคที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ภายในฮอลล์ของห้างสรรพสินค้าเดอะเบสท์เสร็จสิ้นก่อนวันเริ่มงาน ธนินได้โอกาสติดต่อจารุดา...ที่จริงต้องบอกว่าติดต่อนิคมเพื่อให้แจ้งจารุดาอีกทีว่าอยากให้มาดูแลความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนวันเริ่มงานจริง งานครัวของบ้านสวนคุณจันทร์ยุ่งขึ้นอีกเท่าตัวเพราะต้องเตรียมของส่วนหนึ่งไว้สำหรับงานเทศกาลอาหาร

ด้วยเหตุที่สถานที่จัดงานจำลองเป็นเรือนไทยจากภาคต่าง ๆ จึงไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับปรุงอาหารเพื่อจำหน่ายในปริมาณมากจึงต้องเตรียมให้แล้วเสร็จมาแล้วส่วนหนึ่งเพื่อให้ทันกับการจำหน่ายในช่วงเปิดงาน แต่จารุดาคำนวณความสามารถของแม่ครัวที่จะพาไปช่วยงาน จำนวนเครื่องครัวที่ทางผู้จัดงานเตรียมไว้ให้แล้ว ตัดสินใจทำเตรียมไว้แค่พอขายระยะหนึ่ง ค่อยคำนวณจากการขายว่าจะต้องทำอาหารอย่างไหนเพิ่มเป็นปริมาณมากน้อยเพียงใด

ธนินที่ฟังการคาดการณ์จากจารุดาอย่างสนอกสนใจแอบระบายลมหายใจยาวหลายครั้ง เพราะแม้ว่าการพบกันครั้งนี้จะไม่มี นิคมมาเป็นกันชนแต่ก็มีทั้งคุณจอมขวัญและคุณยายจันทร์ตามมาด้วย

สายตาของหญิงชรานั้นคมวับเมื่อหันมาจับจ้องที่ใบหน้าของชายหนุ่ม ทำเอาเขาใจตุ้มต่อม ต้องรีบเลื่อนสายตาที่จับใบหน้าจารุดาไปทางอื่นทันทีที่เห็นแววจับผิดนั้น

"ดูเสร็จรึยังล่ะ นี่ก็ไม่เห็นว่าจะขาดเหลืออะไรแล้วนิ ยายว่าเรากลับกันได้แล้วมั้ง" คุณยายจันทร์หันไปเอ่ยกับหลานสาวแล้วหันมาตวัดสายตาคมใส่ธนินอีกครั้ง "พ่อหนุ่มคนนี้ก็เหมือนกัน...ที่จริงก็ไม่เห็นว่าจะต้องมาดูมาแลอะไรมากมายกับเรือนภาคกลาง ภาคอื่น ๆ ก็มี ไม่ไปสนใจเขาบ้างล่ะ"

"เอ่อ...คือ" ชายหนุ่มถึงกับลิ้นพันทั้งที่เตรียมคำตอบไว้แล้วกรณีมีคนถาม ต้องตั้งสติอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบคำของคุณยายจันทร์ได้ "เราแบ่งหน้าที่กันน่ะครับ เรือนอื่นผมก็แบ่งให้ลูกน้องช่วยดูแล"

"แล้วทำไมไม่ให้ลูกน้องผู้หญิงมาดูแล"

"เอ่อ"

"น้าจันทร์จ๊ะ เขาวางแผนงานไว้แล้ว แล้วนี่ก็จะเริ่มงานแล้วด้วย"

"โอ๊ย...ก็ฉันไม่ไว้ใจนี่แม่ขวัญ ผู้ชายสมัยนี้ใส่สูท ผูกไท แต่งตัวดี หน้าตาดี แต่เจ้าเล่ห์เพทุบาย จิตใจคิดคดลดเลี้ยวมีถมไป" หญิงชราว่า แล้วแสร้งหันมาถามเอากับ 'ผู้ชายใส่สูท ผูกไท' ที่ยืนรวมกลุ่มอยู่ด้วย "จริงไหมพ่อหนุ่ม"

'พ่อหนุ่ม' ยืนเหวอ ขากรรไกรค้างเพราะอยู่ในข่ายมีเล่ห์กับเขาเหมือนกัน หากยังหลอกตัวเองได้บ้างว่า เขายังขยับตัวไม่ถึงไหน เรียกได้ว่ากำลังดำเนินแผนระยะตั้งครรภ์ด้วยซ้ำเลยฝืนยิ้มสู้ตอบรับว่าครับเพียงคำเดียว

"น้าจันทร์" คุณจอมขวัญเอาน้ำเย็นเข้าลูบ "ฉันจะคอยมาดูแลที่นี่เป็นหลัก ส่วนหนูจาก็ให้มาตอนที่ว่างจากสอนที่โรงเรียน แล้วก็ดูแลร้านเรียบร้อยแล้ว น้าจันทร์ไม่ต้องห่วงหรอก"

"ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอสักหน่อย ฉันก็แค่ไม่ไว้ใจไอ้พวกผู้ชายเท่านั้นแหละ"

ธนินกลั้นใจกรอกตาขึ้นบนเพดานนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจ ดีที่คุณยายจันทร์ดูท่าจะไม่อยากเปิดศึกทะเลาะกับหลานสาวจึงเงียบไปเสีย ชายหนุ่มเลยถอนใจออกมาได้อย่างโล่งอก



จารุดาหุบยิ้มที่มุมปากทันทีเมื่อผู้เป็นยายเลื่อนสายตามาจับที่ใบหน้าของตน ท่าทางของธนินทำให้หญิงสาวอดที่จะนึกขันและยิ้มออกมาเล็กน้อยไม่ได้ ลองใครก็ตามที่เป็นผู้ชายได้เจอยายจันทร์ของเธอเข้ามีอันต้องอับจนที่จะสานสัมพันธ์ด้วยทุกครั้งไป เว้นแต่ว่าเขาจะเปลี่ยนรสนิยมและพฤติกรรมทางเพศไปเป็นแบบเดียวกับนิคมเพื่อนสนิทของเธอ

มีอะไรบางอย่างในท่าทีและสายตาของธนินที่ทำให้จารุดาคอยหันไปมองอยู่หลายครั้ง ราวกับเกรงว่าจะลืมใบหน้า รอยยิ้ม ท่าทางไม่มั่นใจเมื่อมีคุณยายจันทร์มาร่วมตรวจสอบความเรียบร้อยของครัวด้วยอย่างนี้ ทว่าเมื่อสบสายตากับผู้เป็นยายความหวั่นเกรงในใจก็ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอต้องปัดความรู้สึกแปลกประหลาดนั้นออกไปให้พ้นแม้กระนั้นก็ยังรู้สึกว่าหัวใจยังเต้นไม่เป็นจังหวะอย่างไม่อาจควบคุมได้

"นินขา"

เสียงหวานร้องเรียกชายหนุ่มดังมาจากทางด้านหนึ่ง ตามด้วยเสียงพึมพำบ่นว่าของเจ้าของเสียหวานนั้นเมื่อทุกคนหันไปมองต้นเสียงก็พบกับนางแบบสาวที่เดินนำหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยที่เดินคุมเชิงมาห่าง ๆ

"นินดูรปภ.พวกนี้สิคะ นิกาบอกว่าจะเข้ามาพบนินก็จะไม่ยอมให้เข้าท่าเดียว"

พนักงานรักษาความปลอดภัยที่เดินตามมาดูจะยังพยายามปฏิบัติหน้าที่ กระทั่งธนินต้องผละจากกลุ่มครอบครัวของจารุดาก้าวเข้าไปตบไหล่เบา ๆ

"คุณผู้หญิงคนนี้ ผมรู้จัก คุณกลับไปทำหน้าที่ต่อเถอะ"

จารุดามองอาการของธนินอย่างใคร่ครวญ เขาไม่ตำหนิพนักงานที่ปฏิบัติตามหน้าที่ ทั้งยังไม่เอ่ยให้ท้ายนางแบบสาวที่ถือวิสาสะเดินหนีการควบคุมเข้ามา จะว่าไปคำพูดนั้นดูจะเป็นการตำหนิชนิกากลาย ๆ เสียด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนรายนั้นจะไม่ได้รู้สึกรู้สม

"นินต้องอบรมพนักงานบ้างนะคะ เขาควรจะรู้ว่าตัวเองเป็นใคร นิกาเป็นใคร เขาไม่มีสิทธิมาหวงห้ามไม่ให้นิกามาพบนิน"

"รปภ.ที่นี่ ต้องรู้จักผู้บริหารทุกคน กรณีอำนวยความสะดวก แต่เขาคงจำเพื่อนของผู้บริหารไม่ได้ทุกคนหรอกนิกา" ธนินว่า มองมาทางสามสาวบ้านสวนด้วยสายตาที่ดูคล้ายจะกังวลเล็กน้อย "ตอนนี้ข้างในกำลังวุ่นวายกันเตรียมเปิดงาน ถ้าไม่เข้ามาพร้อมกับพนักงานของห้างมีบัตรวิซิเตอร์หรือมาพร้อมกับกลุ่มผู้บริหารเขาก็คงต้องห้ามไม่ให้เข้า"

"แหม...แต่นิกาก็มาหานินที่นี่ เดินไปไหนมาไหนกับนินตั้งบ่อยนะคะ"

"เอาเถอะนิกา เขาแค่ทำหน้าที่อย่าไปถือเขาเลย" ชายหนุ่มกระแอมเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน "ว่าแต่นิกามาพบผมมีธุระอะไรเหรอ"

"นิน พูดอะไรอย่างนั้นคะ" ชนิการ้องเหมือนกับได้ยินอะไรที่ไร้สาระที่สุดเท่าที่เคยฟัง "ทำไมนิกามาพบนินต้องมีธุระด้วยล่ะคะ เราก็..."

"เอ่อ...นิกา" ธนินชิงดึงตัวนางแบบสาวเข้ามารวมกลุ่มกับหญิงสาวสาววัยที่ยืนมองอยู่ไม่ไกล "นี่คุณยายจันทร์ คุณจอมขวัญ ยายกับน้าของคุณจารุดา นิกาเคยพบคุณจาแล้วเมื่อตอนมาเดินแบบที่นี่ จำได้ไหม"

"อ๋อ! พวกแม่ครัวสินะคะ"

การสรุปความด้วยน้ำเสียงและสายตาที่สื่อถึงการประเมิน 'พวกแม่ครัว' ว่าต่ำต้อยกว่าตน ของชนิกาทำเอาสาวสาว สามแม่ครัวพากันนิ่งอึง คุณจอมขวัญกับจารุดาลอบสบตากันอย่างหวาดหวั่น สองน้าหลานคู่นี้ไม่ถือสากับความไร้มารยาทนั้นเพราะเกรงใจธนินแต่รู้กันอยู่ในใจว่านางแบบสาวกำลังแหย่รังแตน

ธนินเองก็รู้สึกถึงน้ำเสียงหมิ่นเย้ยนั้นกำลังขยับจะแก้ 'ความเข้าใจผิด' ของชนิกาทว่าไม่ทันกับหญิงชราที่ขยับเดินเข้าไปยืนมองหญิงสาวรุ่นหลานจากหัวจรดเท้า

"อ้อ...นี่ก็พวกเปิดหน้าเปิดหลังโชว์แลกเงินล่ะสินะ วันนี้มาทำงานหรือว่ามาแจกอาหารตาให้พวกผู้ชายดูฟรีล่ะจ๊ะแม่หนู ดูแต่งเนื้อแต่งตัวเข้าสิ นมต้มล้นมาเกือบจะครึ่งเต้า ชุดก็สั้นแทบจะเผยอเปิดกางเกงในโชว์อยู่รอมร่อ" คุณยายจันทร์ยกนิ้วขึ้นชี้หน้าเมื่อชนิกาขยับจะอ้าปาก "อย่าขัดผู้ใหญ่พูด มันไม่ดีนะหนู ฉันแค่อยากจะเตือนด้วยความหวังดี ว่าถ้าอาชีพของหนูน่ะ ต้องอาศัยเปิดนมเปิดถันอวดชาวบ้านแลกเงิน เวลาที่ไม่ได้ทำงาน ก็น่าจะปิด ๆ มันเอาไว้บ้างนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นอีกหน่อยคงไม่มีใครจะจ้างเพราะเขาเห็นถึงไหนต่อไหนเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว"

"นินคะ" ชนิกาที่ตั้งท่าวางมาดว่าเหนือกว่าเซไปเกาะธนินอย่างจะหาตัวช่วย

"หมดเรื่องรึยังพ่อหนุ่ม ฉันว่าของที่เตรียมมาก็คงครบแล้ว แม่ขวัญกับยัยจาเขาก็ให้รายการพวกของสด ของแห้งอะไรที่ต้องใช้กับลูกน้องเธอไปแล้วเมื่อกี้ ฉันว่าคงหมดธุระกันแล้วล่ะมั้ง พวกแม่ครัวอย่างฉันจะได้กลับกันสักที"

"เอ่อ...ผมเดินไปส่งครับ"

"ไม่ต้อง" คุณยายจันทร์รีบห้าม "ท่าทางแม่หนูคนนี้จะศูนย์ถ่วงไม่ดีแล้วล่ะ ถ้าไม่อาศัยตัวของพ่อค้ำไว้ คงจะล้มคว่ำคะมำหงาย นุ่งสั้นซะขนาดนั้นเกิดล้มไปกองที่พื้น คงจะไม่งาม...ไปแม่ขวัญ ยัยจา กลับบ้านกันได้แล้ว"

ธนินทำได้เพียงแต่กระพุ่มมือไหว้คุณยายจันทร์และจอมขวัญ จารุดามองภาพการเกาะกุมกันของธนินและชนิกาพลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตน

เธอจึงไม่ยิ้มตอบเมื่อเขาส่งยิ้มกว้างมาให้ ทว่าเมื่อเขาดูเหมือนจะผิดหวังกับความนิ่งเฉยของเธอ จารุดาก็รู้สึกแปลบขึ้นมาในอกเล็กน้อย หญิงสาวต้องตัดใจหันหลังเดินตามน้าและยาย

คนอื่นที่เคยผ่านมาแสดงท่าทางชอบพอตน จารุดายังสามารถที่จะปฏิเสธได้อย่างง่ายดาย ครั้งนี้มันก็ควรจะง่ายเหมือนอย่างทุกครั้ง มันควรจะเป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือ



ธนินใจลอยตลอดเวลาที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ในห้องเรียนทำอาหาร ความคิดของชายหนุ่มฟุ้งเสียยิ่งกว่าแป้งที่เขาร่อนเละเกลื่อนเสียอีก ไหนจะเรื่องที่ยังหาทางใกล้ชิดจารุดาไม่ได้ ทั้งเรื่องที่มารดาตั้งท่าจะล็อคคอ ผูกมือเท้าลากเขาเข้าสู่เส้นทางชีวิตคู่ ไหนจะความรู้สึกแปลกประหลาดเวลาที่มองหญิงสาวที่ทำหน้าที่ครูอยู่เบื้องหน้า ไหนจะเรื่องชนิกาที่ทำท่าว่าจะไม่ได้อยากจะอยากคบหาเขาช่วงสั้น ๆ อย่างคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาอีก ทุกสิ่งทุกอย่างดูประดังประเดเข้ามาในหัวสมองจนเขาทำอะไรไม่ถูก

และเพราะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจึงทำให้เขาทำพลาดในชั้นเรียนเกือบตลอดเวลา ยิ่งเมื่อเหลือบมองคนที่ยืนเรียนอยู่ข้างตัวยิ่งมีข้อเปรียบเทียบ ยศกฤตแทบจะเป็นนักเรียนดีเด่นของห้อง เขาทำตามคำสอนของจารุดาได้ไม่มีที่ติ ร่อนแป้งไม่เลอะเทอะเหมือนธนิน ตวงส่วนผสมได้พอดีไม่เทโน่นนี่หกล้นเหมือนธนิน

ปัดโธ่เว้ย! ก็จะให้มีกะจิตกะใจทำอะไรได้ล่ะ ทุกอย่างมันประดังประเดเข้ามาแบบนี้ ตั้งแต่วันที่ชนิกามาแสดงตัวต่อหน้าคุณยายจันทร์ คุณจอมขวัญและจารุดาอีกรอบ ก็ดูเหมือนหญิงสาวที่มีท่าทีมึนตึงกับเขามากขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้าสถานการณ์ก็กำลังจะดีแล้ว

ป้าแว่นยิ้มให้เขา ตอนที่เขาเดินพาสามสาวบ้านสวนดูสถานที่ก่อนวันงาน สาบานได้ เขาเห็นรอยยิ้มจริง ๆ แล้วก็เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผู้หญิงเชย เฉิ่มกลับดูสดใสขึ้นอย่างมากในสายตาเขา แต่พอนางแบบสาวมาปรากฏตัวเท่านั้นทุกอย่างก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ งานวันรุ่งขึ้นจารุดามาควบคุมดูแลความเรียบร้อย รวมถึงลงมือทำอาหารเอง ธนินก็ทำทีไปดูแล ให้ความช่วยเหลือ แต่ฝ่ายนั้นแทบไม่พูดกับเขาสักคำ ปล่อยให้คุณจอมขวัญเป็นผู้ตอบคำถามของเขาแทน ขาดเหลืออะไร ต้องการอะไรเพิ่มเติม

แต่คนอย่างธนินยอมแพ้ง่าย ๆ ไม่เป็นอยู่แล้ว วันนี้เขาจึงได้นัดหมาย 'ตัวช่วย' ให้มาพบที่โรงเรียนในตอนเย็น อดทนขายหน้าคนอื่นที่ทำอะไรไม่ได้เรื่องอีกนิด รอไม่กี่อึดใจก็ใกล้เวลาเลิกแล้ว

ธนินเงยหน้าจากหายนะตรงหน้าเมื่อจารุดาเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ของเขา เธอยื่นมือมาเหมือนจะขอตะกร้อมือที่ชายหนุ่มถืออยู่เมื่อเขาส่งให้เธอก็จัดการคนส่วนผสมในชามพลางอธิบายวิธีการให้เขาฟังแล้วส่งตะกร้อมือคืน เดินไปหยุดยืนตรงหน้านักเรียนคนถัดไป...ยศกฤต

"แบบนี้ใช้ได้ไหมครับ"

แบบนี้ใช้ได้ไหมครับ...ฮึ่ยยย....ใช้ได้กับผีอะไรล่ะ ถ้าของแกแค่ใช้ได้แล้วของฉันจะเรียกว่าอะไรวะไอ้ยอร์ช ทำเป็นถาม อยากจะทำคะแนนล่ะสิ

ชายหนุ่มจับตามองผู้สอนอยากเห็นปฏิกิริยา หญิงสาวเพียงส่งยิ้มให้กับนักเรียนดีเด่นตรงหน้าแต่นั่นก็เกินพอที่จะทำให้ธนินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขวาง สองสามวันนับแต่เริ่มงานเทศกาลอาหาร จารุดาไม่ยิ้มให้เขาเลยสักครั้งแต่กลับยิ้มให้ยศกฤต

รอยยิ้มนั่น...เขาต้องการเห็นอีกครั้ง ยิ้มที่ส่งให้เขา ไม่ใช่ส่งให้คนอื่น



การล้างอุปกรณ์และทำความสะอาดเคาน์เตอร์ดูเป็นสิ่งที่ธนินทำได้ดีที่สุดของวัน แม้จะทำน้ำเปรอะลดตัวเองบ้าง แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ทำให้ดูเลอะเทอะเหมือนแป้ง ส่วนผสมที่หกกระจายบนเคานเตอร์ ชายหนุ่มถอนใจหนักหน่วงแม้จะกระดากอายเมื่อสบสายตากับนักเรียนคนอื่นอยู่บ้าง ถ้ามีการจัดอันดับมอบรางวัลกัน เขาสมควรได้รับตำแหน่งนักเรียนยอดแย่ของห้องอย่างไม่ต้องสงสัย

ช่างมัน...ตอนนี้ล่ะ โอกาสมาถึงแล้ว หวังว่าคงไม่พลาด

นักเรียนคนอื่นพากันเดินจากห้อง มีเพียงยศกฤตที่เดินไปที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า ยืนคุยอะไรกับจารุดาคล้ายจะสอบถามสิ่งที่ได้เรียนในวันนี้ ธนินยิ่งนึกขวาง เขายืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ตัวเองใจจดจ่อที่จะเดินไปคุยกับจารุดากระทั่งได้ยินเสียงหญิงสาวพูดกับยศกฤต

"เราเดินไปคุยไปดีไหมคะ เลยเวลาเลิกมามากแล้ว แม่บ้านจะได้มาทำความสะอาดแล้วปิดห้อง"

ยศกฤตรับคำ สองหนุ่มสาวก้าวฉับตามกันออกไปทางหน้าห้อง ธนินรีบเดินตามไปสายตาจับจ้องไปบริเวณหน้าห้องอาหารของโรงเรียนที่อาและหลานสาวของเขายืนรออยู่ ชายหนุ่มพยักหน้าส่งสัญญาณ ลิลลี่พยักหน้ารับอย่างรู้จังหวะ ทว่ายังไม่ทันที่เด็กสาวจะขยับตัวก็เกิดการขโมยซีนกันขึ้น

หญิงสาวคนหนึ่งตรงปรี่มาหยุดยืนหน้ายศกฤต ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะอ้าปากพูดอะไร เธอคนนั้นก็ตวัดฝ่ามือลงบนใบหน้าของฝ่ายชายเสียงดังสนั่น




กมลภัทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ธ.ค. 2555, 22:21:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ธ.ค. 2555, 22:21:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 3180





<< ตอนที่ 7   ตอนที่ 9 >>
กมลภัทร 1 ธ.ค. 2555, 22:25:54 น.
panon >>>> สงสารคนแต่งไหมครับ T_T

wane >>>> อะไร ๆ มันอาจจะดีขึ้นกับรุ่นหลานก็ได้เนอะ ^^

nasa+nunoi >>>> อันนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไป อิอิ

lovemuay+ของขวัญ >>>> ตอนเขียนกังวลเหมือนกัน เพราะตั้งใจจะเล่าในตอนเดียว กลัวไม่ละเอียด แต่ถ้าแยกซีนสงสัยกว่าจะย้อนอดีตหมด คงอีกหลายตอน

เพียงพลอย >>>> เอาใจช่วยธนินไปด้วยกัน เอาใจช่วยคนเขียนด้วย ปั่นสลับกับหมุนเล่นมานานละ




lovemuay 2 ธ.ค. 2555, 11:38:11 น.
ฮั่นแน่ คุณธนินชักจะยังไงยังไงซะแล้ว


แล่นแต๊ 2 ธ.ค. 2555, 14:54:38 น.
หนูจาจะโดนด้วยไหมเนี่ย


ของขวัญ 2 ธ.ค. 2555, 23:44:07 น.
มีตัวช่วยโดยไม่ต้องขอเลย รอดูค่ะ ว่าตัวช่วยที่ขโมยซีนคือใคร


nunoi 3 ธ.ค. 2555, 09:03:15 น.
สงสัยคุณนินจะหมดคู่แข่งซะแล้ว


wane 4 ธ.ค. 2555, 05:51:48 น.
นายธนินได้ตัวช่วยโดยไม่ต้องออกแรงเลย


น้องอุด้ง 4 ธ.ค. 2555, 08:20:15 น.
ใครน้า มาโขมยซีนเฉยเลยยยย><


panon 8 ธ.ค. 2555, 10:55:24 น.
อยากรู้จังว่าใครนะมาโขมยซีนนนนน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account