กุหลาบซ่อนกลิ่น (จบแล้ว)
นางเอกโตมาในไซด์งานก่อสร้าง ที่นั่นทำให้เธอรู้ว่า การแสดงตัวว่าเป็นหญิงเป็นเรื่องอันตราย ดังนั้นนางเอกจึงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเอง จนใคร ๆ มองว่าเป็นทอม แต่แท้จริงแล้ว เธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีรัก..และรักของเธอก็เป็นรักที่มีเวลามาเป็นตัวกำหนด....


Tags: โรแมนติก..

ตอน: 20. เกิดวันที่ 20 ก็ เอาตอนที่ 20 ไปด้วย..

20.
พอได้เวลาเลิกงานอรพิมที่ตั้งใจจะไปโรงพยาบาลเพื่อกันท่าสูรย์กับกุสุมาก็ถึงกับอารมณ์เสียเมื่อออกมายังรถของตนแล้วพบว่า ล้อหน้าฝั่งคนขับมีปัญหา

อรพิมหันซ้ายหันขวา แล้วก็พบถมยาเดินออกมาจากไซด์งานด้วยเหงื่อโทรมกาย

“นี่ นี่” วันนั้น นอกจากให้ถมยานั่งรถไปด้วยพอถึงอู่อรพิมก็บังคับให้เขารออยู่เป็นเพื่อนเพราะกริ่งเกรงกับสายตาของช่างในอู่ที่มองเห็นเธอเหมือนเหยื่อ และระหว่างนั้น เขาก็ต่อรองขอให้เธอเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวเขาหนึ่งชาม เธอเห็นว่าราคาของมันไม่ถึงห้าสิบบาทจึงยอมตกลงและด้วยตัวเองก็หิวไม่น้อย เมื่อเขาถามว่าคุณจะกินด้วยกันไหม อรพิมจึงสั่งมากินด้วยด้วยน้ำเสียงอย่างเสียไม่ได้

“มีอะไรหรือครับ”

“รถฉันยางแบน”

“ครับ..” รับทราบแล้วถมยาก็เดินต่อทำเหมือนเป็นเรื่องไม่สำคัญ แต่อรพิมก็ไวพอที่จะวิ่งไปดักหน้า

“มีอะไรหรือครับ ผมจะรีบกลับห้อง ผมง่วงเพลีย ไม่มีอารมณ์”

“ฉันไม่ได้อยากให้นายมีอารมณ์..นี่ รถฉันยางแบน”

“ก็รถคุณ ผมเกี่ยวอะไรด้วยละครับ”

“แล้วฉันจะกลับบ้านอย่างไง ฉันจะทำอย่างไง นายต้องช่วยฉัน”

“ผมหิวข้าว ผมไม่แรง วันนี้เทปูนคนงานไม่พอ ผมต้องช่วยเขา ผมเหนื่อย ผมเมื่อย ผมอ่อนเพลีย”

ถมยาทำท่าท้อแท้

“แต่รถฉันเสีย” อรพิมขึ้นเสียง ถมยาเบ้หน้า แสร้งมองฟ้าแล้วสูดลมหายใจเข้าปอด และตอนเขาเงยหน้าอรพิมก็เห็นว่า ตรงลูกกระเดือกขอเขามีเหงื่อเกาะพราว แม้ตัวเขาจะมีกลิ่นเหม็นสาบ แต่อรพิมกลับรู้สึกว่า นี่แหละคือกลิ่นผู้ชายแท้ ๆ ที่เขาว่ากันว่า ถ้าสูดเข้าไป มันจะทำให้ผ่อนคลาย..

และพอรู้ตัวว่าคิดเลยเถิด อรพิมก็ตั้งสติใหม่ แล้วก็ปรับน้ำเสียงให้รื่นหูขึ้น..

“ถมยา ถมยาช่วยพิมหน่อยนะ ช่วยเปลี่ยนล้อให้พิมหน่อย”

“ผมหิวข้าวครับ...” ว่าแล้วถมยาก็ชะเง้อชะแง้ไปทางเพิงขายอาหารตามสั่งที่อยู่เยื้อง ๆ กับทางเข้าสำนักงานโครงการ

“ฉันเลี้ยงข้าวนายก็ได้นะ”

“ข้าวผัดสองจานนะ วันนี้ผมหิวมากกกกกกกกกกก”



กินข้าวผัดหมดไปสองจาน น้ำอัดลมอีกหนึ่งขวด ถมยาก็เดินกลับมานั่งผึ่งพุง รอให้อาหารย่อยโดยไม่ได้สนใจว่าอรพิมจะหงุดหงิดเพียงไหน แล้วท่าผึ่งพุงของเขาก็คือ ดึงชายเสื้อยืดคอปกขึ้นเผยให้เห็นกล้ามเนื้อท้องที่มีไรขนสีดำ และด้วยเป็นกางเกงยีนเอวต่ำบ็อกเซอร์สีขาวลายดำจึงโผล่ออกมาด้วย อรพิมที่เดินคุยโทรศัพท์กับเพื่อนมองไปเห็นแต่ว่าก็ต้องเมินหน้าไปทางอื่น และเมื่อเห็นว่าได้เวลาแล้ว อรพิมก็วางสายแล้วเข้ามาหาเขาที่นั่งหลับตาหายใจเบา ๆ

หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงของลมหายใจเข้าออกและเขาก็ปล่อยลมหายใจยาว ๆ อย่างคนที่อ่อนใจ ดวงตาของเขามีขนตางอนคิ้วนั้นก็ดำเป็นเปื้อน จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากของเขาบางเฉียบได้รูป ใบหน้านั้นคร้ามแดดแต่ด้วยเขายังหนุ่มใบหน้าของเขาจึงดูเต่งตึงกว่าใบหน้าของสูรย์เพราะไม่มีเคราเขียว ๆ มีเพียงขนอ่อน ๆ ที่อยู่เหนือริมฝีปาก

“ระวังหลงรักผมนะครับ”

อรพิมสะดุ้งโหย่ง ขมุบขมิบปากพูดเบา ๆ “ฝันไปเถอะ”

ถมยาหัวเราเห็นฟันขาวดวงตานั้นแพรวพราวผิดที่อรพิมเคยเห็น

“มายืนมองหนุ่ม ๆ นั่งหลับ”

“รู้ได้ไงว่าฉันมอง”

“รู้แล้วกัน” พูดไปถมยาก็ใช้มือลูบท้องไปพลางและทำท่าจะลูบลงต่ำไปกว่านั้น ดีแต่ว่าอรพิมรีบหันหลังหนี

“อิ่มแล้วก็รีบ ๆ หน่อย ยุงกัดขาฉัน”

“ผมอยากเป็นยุงจังเลย...จะดูดให้ตัวซีดดดดด”

“บ้า..” อรพิมยังหันหลังให้เขา และก็ต้องตกใจเมื่อรู้สึกว่าถมยามายืนอยู่ข้างหลัง อรพิมขยับไปข้างหน้าก่อนจะหันมาทำตาเขียวเข้าใส่

“ตังค์ทอน” เธอให้แบงก์ร้อยเขาไป ข้าวสองจานก็คงใช้ไม่หมด

“เอาไปเหอะ..แต่รีบทำงานให้ฉันหน่อย”

“ไม่ใช่งานนะครับ”

“โอเค ..รีบ ๆ ช่วยฉันเปลี่ยนล้อ ฉันจะรีบกลับบ้าน”

“นึกว่าจะไปหาแฟนซะอีก ไม่อยากให้ไป เลยไม่รีบให้” ว่าแล้วถมยาก็ไปเปิดประตูด้านคนขับ ปลดล็อคกระโปรงท้าย หลังจากนั้นเขาก็เดินไปรื้อค้นสมบัติบ้าของหญิงสาวเพื่อหาเครื่องมือ

“รถคุณไม่มีเครื่องมือเหรอครับ”

“ไม่รู้อ่ะ..”

“แฟนคุณนี่ไม่ไหวเลยนะ จะบอกอะไรให้นะครับ ถ้าจะคบใครเป็นแฟนนะ คบคนที่เขารักคุณเถอะ”

“รู้ได้ไงว่าเขาไม่รักฉัน”

“ถ้าเขารักคุณจริง ๆ เขาไม่ปล่อยให้รถคุณมีปัญหามากมายขนาดนี้หรอก รถคุณไม่ได้เก่าบุโรทั่งแต่มันไม่ได้รับการเอาใจใส่มันก็เลยเป็นแบบนี้”

อรพิมหน้าง้ำเมื่อเขาพูดแทงใจดำ หญิงสาวพยายามที่จะไม่โกรธเขาแต่ว่าอารมณ์น้อยใจสูรย์ก็ทำให้น้ำตาอรพิมคลอครองหน่วยตาขึ้นมา เขาไม่รักเธอ เขาก็เลยไม่สนใจเธอ ผิดกับตอนที่เขาคบหาอยู่กับพี่สาวของเธอ ตอนนั้นรถคันนี้แทบจะเป็นรถของเขา อรพิมสูดลมหายใจเข้าปอด..คิดเรื่องตัวเองแล้วกลุ้มหาเรื่องทะเลาะกับเด็กหนุ่มเล่นดีกว่า

“แล้วทำปากดี..นายเองมีความรู้เรื่องรถแค่ไหนกันเชียว..เห็นเดินต๊อกต๋อย” น้ำเสียงและสีหน้าของอรพิมทำให้ตาของถมยาวาวขึ้นมา

“ถึงผมจะเดินต๊อกต๋อยกินข้าวข้างถนนน่ะ บ้านผมไม่ได้ยากจนจนหาไม่มีรถใช้หรอกครับ..”

“แกล้งจนเหรอ”

“จนจริง” เขาหันไปรื้อค้นจนกระทั่งได้เครื่องมือและก็ชุดว่ายน้ำของอรพิมติดมือมาด้วย..

“อี้..” ด้วยความอายอรพิมรีบวิ่งไปหาเขา หลังจากนั้นก็เข้าแย่งผ้าชิ้นเล็กสองชิ้น ในขณะที่เขาก็ชูให้สูงพลางหมุนตัวหลบ พอหมุนตัวพันกันมา อรพิมก็เสียหลักจะล้ม แต่ถมยาก็เลวพอจะรั้งเอวบางนั้นไว้ และไหน ๆ ก็ไหน ๆ ถมยาก็เลยปล่อยตัวให้เลยเถิดดึงตัวอรพิมมารัดไว้จนแน่น ใจหนึ่งก็นึกอยากจะฝังจมูกลงที่ซอกคอกระทำการปลุกปล้ำนางเอกปากจัดอย่างละครเรื่องมนต์รักซาตาน แต่พอนึกได้ว่า ยังไม่ถึงเวลาเผด็จศึก เขาจึงต้องค่อย ๆ คลายวงแขนเมื่อเห็นว่าอรพิมดิ้นสุดแรง..และไม่แค่ดิ้นแต่ว่าอรพิมใช้ปลายเล็บทั้งสองมือจิกที่ต้นแขนทั้งสองข้างของเขาด้วย

“โอ้ย ๆ ปล่อยแล้ว”

“ปล่อยฉันนะ” อรพิมตวาด

“ก็คุณจะล้ม”

“แต่นายกอดฉันแน่นเกินไป..” มันไม่ใช่แค่กอดจนแน่นแต่อรพิมรู้สึกว่าเขาใช้หน้าขากำยำบดเข้ามาที่หน้าขาของเธอด้วย แม้มันจะรวดเร็วแต่อรพิมก็สัมผัสได้ถึงความตื่นตัวเต็มกำลัง และเสี้ยววินาทีนั้นมันก็ทำให้จิตใจของเธอปั่นป่วนแต่อย่างไรเสียสัญชาตญาณต้องกันตัวของเธอก็เร็วพอที่จะทำการปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง

“ก็ผมตกใจ..”

“ปล่อย” อรพิมแข็งขืนและไม่ทันที่ถมยาจะปล่อยมือ ทรงฤทธิ์ที่ขับรถออกมาจากไซด์งานก็บีบแตรขัดจังหวะ ถมยาปล่อยมือ อรพิมทุบอกเขาไปหนึ่งครั้งก่อนจะแย่งชุดว่ายน้ำแล้วเดินกลับไปทางออฟฟิศ


หลังจากเปลี่ยนล้อรถให้อรพิมเสร็จแล้ว ถมยาก็เดินไปบอกอรพิมที่นั่งหน้างออยู่ในสำนักงาน แม้ในมือจะมีหนังสือแต่เขาก็ดูออกว่า อรพิมกางมันไว้อย่างนั้นเอง

“รู้แล้ว..”

ถมยาปิดประตู เดินไปเก็บยางที่ไม่มีลมเพราะฝีมือของเขาเองเมื่อตอนอรพิมเผลอ ไปไว้ยังช่องยางอะไหล่ อรพิมเดินตามมา เขาแสร้งทำงานโดยไม่สนใจจะคุยด้วยจนกระทั่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพร้อมเดินทาง เขาก็เอยขึ้นมาสั้น ๆ อย่างไม่ได้สำนึกผิดกับการกระทำของตน และก็ทำเหมือนลืมเรื่องเมื่อครู่ไปแล้ว

“อย่าลืมเอาไปปะด้วยละ เดี๋ยวยางเส้นอื่นมีปัญหาแบบนี้ จะไม่มียางใช้”

“ขอบใจ” ว่าแล้วอรพิมก็เดินไปประจำที่คนขับ สตาร์ทรถ ถมยาก็ใช้ช่วงเวลานั้นเดินออกรั้วโครงการพอดีมีรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างผ่านมาเขาจึงเรียก..

อรพิมเลื่อนรถออกมาอยู่บนถนนหลักหญิงสาวชะลอรถแล้วมองหาถมยา และเมื่อไม่เห็นเขาอรพิมก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้น..

“อีตาบ้า จะให้พาไปร้านปะยางสักหน่อย แล้วหายไปไหนเนี่ย”


ตอนเย็นสูรย์ขอตัวกลับไปที่ร้าน แต่เขาก็สัญญากับกุสุมาว่าจะมาอีกรอบพร้อมกับอาหารรอบดึก กุสุมานั่งดูโทรทัศน์ด้วยดวงใจอิ่มสุข บทเข้าพระเข้านางในวันนี้ดูน่าสนใจกว่าวันก่อน และความขวยเขินทำให้ กุสุมาต้องดึงหมอนหนุนมานั่งกอด หลังจากนั้นก็หอมเบา ๆ เพราะนึกให้เป็นใบหน้าของสูรย์..

เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ กุสุมาสะดุ้งเฮือก..พอประตูถูกผลักเข้ามา กุสุมาก็เห็นใบหน้าคมคายที่เปื้อนรอยยิ้มของถมยา

“ข่มขืน สำเร็จไหมละ”

“เกือบ..แต่เอาไว้ให้เขาสมยอมดีกว่า มึงเป็นไงมั่ง”

“ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แต่เจ้านายกูใจดี อยากให้กูนอนเล่นที่นี่”

“ต่อไปมึงคงสบาย ได้เป็นคุณนาย”

“วาสนาอะนะ ไม่อยากก็ต้องได้เป็น”

“กูนึกตอนมึงปั้นหน้าเป็นคุณนายร้านอาหารไม่ออกเลยวะม่า..มึงมีลูกมึงจะทำลูกมึงหลุดมือไหมเนี่ย”

“ไอ้บ้า..ดูถูกกู”

ว่าแล้วทั้งสองก็หัวเราะพร้อมกันเพราะสนุกกับจินตนาการที่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นไปอย่างไง ถมยาเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำกิน ปากก็คุยเรื่องงานที่ค่อนข้างจะหนักเอาการ กุสุมาก็ให้กำลังใจตามแบบฉบับ

“งานหนักก็ดีกว่านั่งขอทานบนสะพานลอย” กับ “งานไม่หนักเขาก็คงทำเองหรอก” จนกระทั่งถมยานึกได้ว่า มีเรื่องสำคัญจะถาม

“มึงเอาปากกามาทำไม มีอะไรรึ”

“กูว่ากูบอกมัน ว่าอย่าบอกใคร หรือมันได้ยิน กูพูดว่า บอกต่อ ๆ ไปนะ”

“มันก็เพื่อนมึง มันก็ห่วงมึง มันบอกคนนั้นคนนี้ไป คนอื่น ๆ จะได้ระวัง ๆ ให้มึงไง ไอ้ม่า ถ้าไอ้พวกนั้นมันบ้าอย่างที่พูดจริง ๆ มึงไม่ถึงที่สุด มึงอย่าใช้ปากกานะโว้ย ตายนะโว้ย”

“ที่สุดของมึงคืออะไร ถ้ามันยังไม่ได้แก้ผ้างั้นเหรอ”

เสียงเคาะประตูดังขึ้น กุสุมาเดาว่าเป็นสูรย์ จึงใช้มือป้องปากสั่งสัญลักษณ์ให้ถมยาไม่คุยเรื่องนี้อีก

สูรย์ที่อยู่ในชุดลำลองดูสบาย ๆ ผลักประตูเข้ามาพร้อมกับปิ่นโตเถาใหญ่ ถมยายกมือไหว้..

“มานานหรือยัง”

“จะกลับแล้วครับ ดูแล้วคุณนายเธอคงไม่ตายง่าย ๆ หรอกครับ”

“รอให้มึงตายก่อน...” กุสุมาก็ปากไวแต่พอนึกได้ว่าอยู่กับสูรย์กุสุมาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องและน้ำเสียง

“เอาอะไรมาเยอะเลย ถมยากินข้าวด้วยกันก่อนนะ อย่าเพิ่งไป”

“ผมอิ่มแล้วครับ..ขอบคุณครับ..ผมกลับก่อนดีกว่า ตามสบายเลยครับ”

ถมยายกมือลาสูรย์อีกรอบ แล้วก็เปิดประตูออกจากห้องไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกของกุสุมาให้อยู่ด้วยกันก่อน และพอถมยาไปแล้ว สูรย์เอ่ยถามกุสุมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่า

“วันนี้ถมยากินยาลืมเขย่าขวดหรือเปล่า..



ทรงฤทธิ์เงยหน้าขึ้นจากแผงแผ่นวีซีดีภาพยนตร์เมื่อรู้สึกได้ว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงกันข้ามกับเขาคือน้องกิ๊บ และยังไม่ทันที่เขาจะตัดสินใจว่าจะทักหรือแสร้งทำเป็นไม่เห็น กิ๊บซี่ก็เงยหน้ามาสบตากับเขาพอดี

เบื้องต้นสีหน้าของกิ๊บซี่นั้นดูตกใจที่บังเอิญเจอเขา แต่เขาก็รีบยิ้มให้..

“อ้าว วันนี้ไม่ทำงานเหรอ”

“วันหยุดค่ะ” ตอบเขาแล้วกิ๊บซี่ก็ละสายตามาดูปกดีวีดีต่อ โดยไม่คิดว่าทรงฤทธิ์จะเดินอ้อมมาหยุดอยู่ข้าง ๆ พลางชวนคุย

“ชอบดูหนังเหมือนกันเหรอ”

“ชอบค่ะ” กิ๊บซี่ตอบทรงฤทธิ์โดยที่ไม่ได้เงยหน้าสบตาของเขา เพราะตัวเขาสูงมาก และที่สำคัญเธอก็รู้สึกเขิน ๆ บอกกับใจตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ว่าทำไมถึงไม่กล้าสบตาของเขาตรง ๆ แต่ถ้าถามว่าเวลานี้ดีใจเมื่อได้เจอเขาหรือไม่ กิ๊บซี่ตอบได้เลยว่า เธอดีใจมาก แต่อีกนั่นแหละ เธอก็ไม่รู้จะชวนเขาคุยให้สนุกอย่างไร มารยาหญิงที่เธอมีมันน้อยนิดเสียจนนึกโมโหตัวเองที่ไม่สนใจฟังคำสั่งสอนของตุ๊ดซี่ผู้ปราดเปรื่องเรื่องบริหารเสน่ห์“ชอบหนังแนวไหน”

“แนว..” กิ๊บซี่เผยให้เห็นปกหนังไทยเรื่อง ‘แฟนเก่า’ ที่ถือแก้เขินไว้และทรงฤทธิ์ก็เบิกตากว้าง ด้วยไม่คิดว่า คนหน้าตาซื่อ ๆ ดูเรียบร้อยทำงานอยู่กับขนมสวยงามจะชอบหนังแนวเดียวกับเขา


“เมื่อวานแกไปดูหนังกับคุณซ้งมา โอ้วววว ก้าวหน้า เป็นไปได้อย่างไง ไม่จริง ไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้..”

กิ๊บซี่ได้แต่ซ่อนยิ้มหลังจากที่เล่าจบแล้วตุ๊ดซี่ก็มีอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมา..เธอเองก็ไม่คิดว่าหนังจากที่เขารู้ว่าเธอชอบหนังแนวนี้ เขาก็ชวนเธอเข้าโรงหนังโดยเขาบอกว่าจะเลี้ยง เมื่อหนังฉายจบแล้ว เขาก็ยังพาเธอไปกินข้าว แล้วก็บอกกับเธอว่า ที่ห้องพักของเขามีหนังแนวผี ๆ สาง ๆ สิ่งลี้ลับ และแนวอื่น ๆ อยู่เต็มไปหมด และพอรู้ว่าเรื่องที่เธอชอบหลายต่อหลายเรื่องตรงกับที่เขาชอบ เขาก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ชวนคุยแต่เรื่องหนัง จนกระทั่งอิ่มข้าว เขาก็ขับรถไปส่งเธอที่บ้านเช่า ระหว่างทางเขาก็บอกกับเธอว่า พรุ่งนี้ ก็คือวันนี้ตอนเย็นเขาจะหอบหนังมาให้ยืม และตั้งแต่เช้าใจของเธอก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มันลอยไปตรงทางเข้าร้าน ทั้งที่รู้ว่าอย่างไรเสียเขาก็ต้องมาที่ร้านหลังเวลาเลิกงาน แต่ว่าใจมันไปแล้ว

“แล้วในโรงหนังละ เขา เขา มีอะไรพิเศษกับเธอหรือเปล่า มีแอบแต๊ะอั๋งเธอมั่งหรือเปล่า”

“ไม่มี..ก็ต่างคนต่างดู..” ต่างคนต่างดูแต่กิ๊บซี่รู้สึกใจเต้นแรงผิดปกติ หนังผีที่น่ากลัวสยอมขวัญเธอรู้สึกว่ามันกลายเป็นหนังรักไปเสียได้

“แล้วตอนนี้เธอรู้สึกอย่างไรกับเขา..บวกขึ้นมั่งหรือยัง”

พอถูกตามตรง ๆ แม้ไม่ได้คำตอบ แต่ว่าใบหน้าแดงซ่านของกิ๊บซี่ แต่ตุ๊ดซี่ก็รู้แล้วว่าเพื่อนรัก คงจะได้พบเรื่องเสียวไส้ในเร็ววันนี้..


“อ้าว วันนี้ไอ้ม่าไม่ไปทำงานอีกแล้วเหรอ” อำพันเอ่ยถามเมื่อเห็นกุสุมาที่อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นลายพรางน้ำตาลขาวเสื้อเชิ้ตคอปกสีดำพอดีตัว เดินลงมาจากชั้นบนแล้ววกเข้าไปในครัว

“มันเพิ่งหายไข้” เมื่อวานสูรย์พามาส่งที่บ้าน หลังจากนั้นเขาก็กลับมาไปทำงาน แต่ว่าตอนเย็นเขาก็ขับรถมาหา ขออนุญาตพากุสุมาออกไปช่วยซื้อของ กลับมาถึงบ้านก็เกือบสองทุ่ม เช่นเดิมว่าในมือมีของพะรุงพะรังติดมือกลับมาด้วย พอเขากลับไป บังเอิญก็ได้คำตอบจากกุสุมาว่า

“เดี๋ยววันนี้เขาจะมาสอนทำอาหารที่บ้าน ของพวกนั้นก็คือวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร”

และเมื่อมีรายการนี้เข้ามาต่างจากแผนเดิมที่วางไว้ บังเอิญก็รู้ทันทีว่าลูกสาวคงไปมีปัญหากับคนในร้านเสียแล้ว แต่ว่ากุสุมาก็ให้เหตุผลเพิ่มเติมแค่ว่า “คุณสูรย์เห็นว่าเวลาของม่ามีจำกัดก็เลยต้องจัดหลักสูตรเร่งรัดให้”

“เพิ่งหายไข้ แต่ว่าเมื่อวานตอนเย็นมันก็ออกไปข้างนอกนี่..”

“นั่งรถไปเป็นเพื่อนเขาไม่ได้ใช้แรงอะไร”

“แต่เขามาบ่อยเนอะ”

“ก็ห่วงเรื่องนั้นด้วย..”

เรื่องนั้นก็คือเรื่องที่กุสุมากำลังมีคนจะปองร้ายตามที่อำพันบังเอิญได้ข่าวมา


หลังจากจัดการเรื่องเงินเดือนพนักงานเรียบร้อยสูรย์ก็ขับรถมาที่บ้านของกุสุมาโดยไม่ได้ตอบคำถามของพี่นกว่ากุสมาหายไปไหน และเขาก็มั่นใจว่าพนักงานในร้านคงจะคาดเดาเรื่องกุสุมากับเขาไปต่าง ๆ นา ๆ โดยเฉพาะคนต้นเรื่องที่ทำงานกุสุมาขอไม่ไปฝึกงานในครัวอีก ถึงกับเอ่ยออกมาเบา ๆ ว่า

“น้าปรารถนาดีต่อเค้า แต่ว่าเค้าตีความไปอย่างนั้นแล้วน้าจะพูดอะไรได้ และที่สำคัญน้าก็รักคุณสูรย์นะ อยากให้คุณสูรย์ได้เจอกับคนที่ดีที่สุด”

สูรย์ยิ้มนิด ๆ ไม่กล่าวว่าอะไร เพราะเรื่องระหว่างเขากับกุสุมาอย่างไรเสียมันก็ไม่ได้จบลงที่วันและวันพรุ่งนี้ เขาไม่ปรารถนาจะรั้งกุสุมาไว้ แต่เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่า หากกุสุมาฝากหัวใจไว้กับเขา หัวใจของกุสุมาจะมั่นคงต่อรักแค่ไหน ส่วนตัวเขาเอง เขาก็อยากเป็นเหมือนปริญคนรักเก่าของวรรณพร ที่แม้เวลานานแค่ไหน เขาก็เก็บรักนั้นไว้เป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต

“ม่า คุณสูรย์มาแล้ว” บังเอิญตะโกนเรียกลูกสาวที่อยู่บนห้องนอนหลังจากที่สูรย์ลงจากรถมาสวัสดีทักทายไต่ถามสารทุกข์สุกดิบตามประสาหนุ่มใหญ่ที่รู้จักเข้าใจการสนทนาเพื่อสร้างสัมพันธ์

กุสุมาที่อยู่ในชุดกางเกงลายพรางเสื้อยืดคอกลมสีขาวรีบวิ่งลงจากชั้นบน เมื่อเห็นหน้าสูรย์กุสุมาก็ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย สูรย์เองก็ยิ้มอย่างมีความสุขเช่นกัน แต่ว่าเขาก็พยายามสงวนทีท่าไว้ เพราะไม่อยากให้แม่ของหญิงสาวคิดมากกับเขาไม่อยากให้กุสุมารู้สึกว่าเขาลุกคืบจนกลายเป็นความอึดอัด เขาอยากให้กุสุมาเป็นกุสุมาอย่างเดิม ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ให้ทะลึ่งทะเล้นและเป็นตัวเองเมื่อยู่กับเขา

“พร้อมหรือยัง”

“พร้อมแล้วฮะ ม่าเตรียมของรอไว้แล้ว” ของก็คือวัตถุดิบ ซึ่งเมื่อวานนี้เขาพาไปเลือกซื้อมาจากตลาดไท อันที่จริงของพวกนี้ซื้อที่ตลาดแถว ๆ นี้ในวันนี้ก็ได้ แต่ที่เขาพากุสุมาไปตลาดไทด้วยเพราะอยากให้ กุสุมาได้เห็นว่างานของเขานั้นยุ่งยากแค่ไหนและเมื่ออยู่ไกล ๆ กัน เวลาที่เขาพูดถึงเรื่องอะไร กุสุมาจะได้นึกออก..


ด้วยตัดสินใจยอมแพ้ต่อฤทธิ์เดชของป้าส้มลิ้มกุสุมาจึงขอร้องให้สูรย์มาสอนทำอาหารเมนูง่าย ๆ และเป็นที่นิยมในต่างแดน ซึ่งกุสุมาไปสอบถามจากเว็บอาหาร จนกระทั้งรู้ว่า ร้านอาหารไทยในออสเตรเลียนั้นนิยมอาหารไทยชนิดไหนบ้าง และคำตอบที่ได้มานั้นก็ทำให้กุสุมาเบาใจขึ้นเยอะ ด้วยอาหารไทยในต่างแดนนั้นเป็นการประยุกต์วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นและปรับรสชาติให้ถูกปากคนที่นั่นมากกว่าที่จะทำออกมารสชาติจัดจ้านอย่างในเมืองไทย..

และวันนี้สูรย์ก็จะสอนทำ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย กับราดหน้า แลผัดซีอิ้ว ซึ่งสามเมนูนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก

“What is this?” สูรย์เอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษเมื่อชี้ไปที่ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ที่วางอยู่ในหอ กุสุมาย่นจมูกบอกให้รู้เขินที่จะต้องพูดภาษาอังกฤษสำนวนเด็กโรงเรียนวัด..

“ You only need training to learn to say. Do not shy.” ‘ต้องฝึก ต้องหัด มัวแต่อายจะพูดได้อย่างไร เร็ว’ กุสุมาทำหน้าเหรอหรา เมื่อครูสอนทำอาหารพยายามที่จะสอนภาษาอังกฤษไปด้วย

“This is a book” กุสุมาเลียนแบบสำนวนภาพยนตร์ไทยเรื่องหนึ่งแล้วก็ขำตัวเอง

“เอาแต่เล่น” สูรย์ว่าให้พลางกำมือเคาะหัวของคนข้าง ๆ ไปหนึ่งที

“เดี๋ยวไปโน่นก็พูดได้เองแหละ”

“อยู่กับน้า อยู่กับลูกน้า คงจะพูดได้หรอก”

“เขาให้ไปเรียนภาษาก่อน..”

“ไปสอบวัดความรู้คงได้อยู่คลาสแรก”

“This is a Cup Thai is a Pan This is a Spoon This is noodle.” พอเขาว่าให้กุสุมาจึงแสร้งชี้ของที่มีอยู่ในครัวแล้วก็สปีคแบบโอเวอร์แอคติ้งเพื่อให้เขารู้ว่า เธอพอรู้ เขายิ้ม ๆ ก่อนจะชี้มาที่ตัวของเขาเอง..

“This isssssssssssssss aaaaaaaaaaaaaaaaa Fannnn ของใครก็ไม่รู้..”

และขณะที่สองหนุ่มสาวกำลังกุ๊กกิ๊ก ๆ อยู่ในครัว ที่หน้าโทรทัศน์บังเอิญที่กดรีโมทเปลี่ยนช่องก็ต้องขยับตัวขึ้นเมื่อเห็นหน้าสูรย์ในจอโทรทัศน์..“คุณสูรย์ จริง ๆ ด้วย ม่า ม่า เร็ว”

พอรู้ว่ารายการชิมไปทั่วที่มีครัวอิ่มสุขเป็นร้านแนะนำ กุสุมากับสูรย์ก็รีบละมือแล้วเดินเบียดแย่งทางกันเพื่อจะมาที่หน้าจอโทรทัศน์ และเมื่อมาถึงกุสุมาก็คว้ารีโมทจากมือของแม่มาเพิ่มเสียงจงใจให้ดังถึงปากซอยแต่ว่าเสียงและภาพนั้นกลับแสลงนัยย์ตาเป็นอย่างยิ่ง .. “นอกจากเราจะได้เห็นบรรยากาศสบาย ๆของครัวอิ่มสุข ในวันนี้ทางรายการชิมไปทั่วยังได้รับเกียรติจากเจ้าของร้านสุดหล่อ ด้วยครับฯ”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 พ.ค. 2554, 10:37:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 พ.ค. 2554, 10:37:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 2845





<< 19.ของขวัญวันเกิดจากคนเขียนนิยายครับ..   21 ศัตรูคู่อาฆาต >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 20 พ.ค. 2554, 10:38:10 น.
ขอบคุณจากทุก ๆ คำอวยพรนะครับ ..พบกันอีกที วันอังคารหน้านะครับ.. รักทุกคนครับ..จุ๊บ ๆ


saralun 20 พ.ค. 2554, 10:52:55 น.
แล้วจะรอนะคะ...อิอิ


คิมหันตุ์ 20 พ.ค. 2554, 12:14:02 น.
ลุ้นนาย...ถมยาอีกคนเนี่ย


niceten 20 พ.ค. 2554, 12:36:05 น.
ขอบคุณคะ....จากแฟนคลับของม่า
คิดถึงคะ.....จากแฟนคลับของสิบหมื่น...อีก 3 เดือนก็ครบปีแล้วนะคะยังไม่ได้เจอสิบหมื่นเลยคะ


niny 20 พ.ค. 2554, 13:08:46 น.
เพราะไรเตอร์น่ารัก...ม่าและคุณสูรย์ก็เลยน่ารัก...


ณิณ 20 พ.ค. 2554, 13:15:05 น.
><


XaWarZd 20 พ.ค. 2554, 14:08:05 น.
อีกนานเลยกว่าจะอัพ ถมยาสู้ๆ


nutcha 20 พ.ค. 2554, 15:21:40 น.
ถมยาจีบอรพิมเพราะช่วยไอ้ม่าหรือเพราะใจตัวเองเรียกร้องจ๊ะ


Pat 20 พ.ค. 2554, 15:43:16 น.
ใจดีจริงๆวันนี้ HBD HBD อีกครั้งค่ะ (ไม่รู้เมื่อเช้าส่งผ่านหรือเปล่า)


space 20 พ.ค. 2554, 17:00:26 น.
็HBD ค่ะ เกิดวันเดียวกัน แต่คนละเดือน


เจียร์ 20 พ.ค. 2554, 17:01:12 น.
แวะมาสุขสันต์วันเกิดค่ะ ยังไม่เคยอ่านนิยายคุณเฟื่องเลย(สารภาพกันตามจริง) แต่เห็นรูปไอค่อนแล้วบอกว่าเป็นตัวเองจริงๆชักจะสนขึ้นมานิดหนึ่ง(ล้อเล่นน่า) ลองอ่านนิดๆแล้วก็เป็นอีกเรื่องที่อยากอ่านนะคะ(แล้วจะรีบมาเป็น Fannnn ) นิยายนะคะ


pattisa 20 พ.ค. 2554, 21:10:14 น.
Happy Birthday ka :)


katay 20 พ.ค. 2554, 23:55:49 น.
HBD นะจ๊ะ มีความสุขทุกๆวันเลยนะจ๊ะ
และก็ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงๆ นะจ๊ะ จะได้มีแรงเขียนนิยายให้อ่านตลอดไป ^^


เนยแข็ง 21 พ.ค. 2554, 23:11:43 น.
ไม่แน่ใจนะคะ ภาษาอังกฤษ น่าจะเป็น Don't be shy มากกว่า ^^
(ลองเช็กดูอีกทีก็ได้นะคะ ไม่ชัวร์เหมือนกัน แต่รู้สึกว่าเคยได้ยินมาแบบนี้)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account