เพทายพ่ายตะวัน
เมื่อเธอคือ กุหลาบแดง แห่ง "เรือนกุหลาบ" และเขาคือ ศัลยแพทย์ ผู้มีฝีปากเชือดเฉือนยิ่งกว่ามีดผ่าตัด..ยุทธการปราบพยศครั้งนี้..มีหัวใจเป็นเดิมพัน!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๖ รางวัลตอบแทนยกที่ ๑ ๒/๒

หลังจากวางสายโทรศัพท์คุณหนูประจำบ้านลงไป เอ๋ยก็แทบผงะ เมื่อเห็นสภาพเพทายถูกหิ้วกระเต็งออกมาจากเสามุมหนึ่ง โดยมีคุณหมอเจ้าของรถเป็นคนหิ้วปีกออกมา ดูเหมือนขาข้างหนึ่งของหล่อนจะบาดเจ็บเนื่องด้วยท่าทางกะเผลก ลงน้ำหนักไปข้างหนึ่งมากผิดปกติกับสีหน้ากล้ำกลืนอะไรบางอย่าง

“จะไปไหนกันหรือคะ..คุณเพ คุณหมอ”

คือคำถามที่เด็กสาวพอจะตั้งสติเอ่ยออกมาได้ในเวลานี้ เมื่อคิดว่าถ้าช้าไปอีกนิด ชัดเจนคงจะพาเพทายหายออกไปจากบ้านหลังใหญ่พร้อมรถเก๋งคันงามภายในเวลาเพียงเสี้ยวนาที โดยทิ้งปริศนาอันหนักหน่วงไว้กับคนเบื้องหลัง

“ไปเป็นเพื่..”

ประโยคเต็มๆที่หญิงสาวตั้งใจจะเอ่ยคือ..ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยเถิดนะ..เพทายอุตส่าห์ดีใจที่จะได้หาพวกไปนั่งเป็นไม้กันหมาสักคน หล่อนกำลังจะออกปากชวนเด็กรับใช้ตาใสให้ติดรถไปโรงพยาบาลกับหล่อนด้วย ก็พอดีค้างประโยคอยู่แค่นั้น เนื่องด้วยชัดเจนรีบทะลุกลางปล้องออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า..

“ไปทำธุระส่วนตัว..ถ้าเจ้านายเธอกลับมาไม่เจอแขกคนสำคัญ ก็ช่วยบอกเขาตามนี้ด้วย แล้วฝากบอกเขาว่า ไม่ต้องเป็นห่วง..”

ชัดเจนเว้นวรรคนิดหนึ่ง พลางหันมายักคิ้วให้หญิงสาวคนที่เขาแทบจะรวบเอวล็อกตัวเอาไว้ให้ดิ้นไม่หลุด ก่อนจะหันกลับไปบอกเด็กรับใช้ด้วยสีหน้าจริงจัง

“ทำธุระเสร็จเมื่อไหร่..จะรีบพาไปส่งที่บ้าน”
เด็กสาวเบิกตากว้างเมื่อได้ยิน แล้วรีบถามไขความกระจ่างชัด

“ธุระอะไรหรือคะ?”

ไม่มีคำตอบจากคุณหมอหนุ่ม นอกจากความเงียบ และสีหน้าเยียบเย็น แววตาของเขาพูดแทนได้อย่างดี...ไม่ใช่หน้าที่ของเด็กรับใช้อย่างเธอ!

“นี่คุณ..พูดให้มันดีๆนะ พูดแบบนี้คนอื่นก็เข้าใจผิดหมดสิ บอกเด็กมันไปสิว่าเรากำลังจะไป..”

เพทายแหวขึ้นมาด้วยอารมณ์เดือดพล่าน แต่ก็ต้องสงบปากสงบคำลงเหมือนเดิมอย่างไม่มีทางเลือก เมื่อชัดเจนยื่นคำขาด


“คุณอยากให้ผมเปลี่ยนรางวัลตอบแทนเป็นอย่างอื่นไหมล่ะ..เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ พูดเยอะก็เรื่องเยอะ ถามกันไม่จบไม่สิ้น สู้เอาเวลาไปทำธุระของเราให้เสร็จจะดีกว่า จะได้จบๆ”

แล้วรถคันเงาวับของเจ้าตัว ก็พาแขกคนสำคัญของบ้าน หายลับไปจากที่ตรงนั้น ในเวลาไม่กี่อึดใจ ทิ้งเด็กรับใช้ตาใสคนหนึ่ง ให้ยืนนิ่งเหมือนถูกสาปในฉับพลันทันทีหลังได้ยินประโยคสุดท้ายของเขา

“ทำธุระของเราให้เสร็จ?!”
หล่อนทวนคำพูดของเขา พร้อมกับยกมือขึ้นปิดปาก

เป้าหมายสำคัญในวินาทีนี้คือโทรศัพท์เครื่องเดิมที่หล่อนเพิ่งวางสายไป...เรื่องนี้ต้องถึงหูเปี่ยมรักให้เร็วที่สุด ก่อนอะไรๆจะสายเกินแก้!


เพทายพยายามเบือนหน้าหนีคนขับมาตลอดการเดินทาง หล่อนเอี้ยวทั้งตัวไปทางหน้าต่างฝั่งตรงข้ามโชเฟอร์หนุ่มมาดดุ เรียกได้ว่าแทบจะหันหลังให้ ตอนนี้หญิงสาวมีสภาพเหมือนน้ำท่วมปาก อึดอัดในหัวอกจนแทบจะระเบิด แต่ไม่สามารถกู่ร้องเรียกความยุติธรรมอันใดออกมาได้ ในเมื่อคำสัตย์ปฏิญาณของตัวเองค้ำคออยู่จังเบ้อเริ่ม หล่อนเคยเกลียดใครต่อใครที่ไม่รักษาคำพูด ไม่รักษาสัญญา คราวนี้หล่อนจะมาบิดเบือนเสียเองมันก็ใช่ที่

ฝ่ายเจ้าของรถเองก็ไม่แยแสท่าทีรังเกียจของฝ่ายหญิง เขายังบังคับพวงมาลัยต่อไป สายตามองตรงแน่วนิ่งอย่างคนมีสมาธิ หรือถ้าจะมองในแง่ร้ายเสียหน่อย คือเขาไม่ได้แคร์ความรู้สึกของผู้หญิงตัวเล็กๆที่นั่งข้างกายเลยแม้แต่นิดเดียว

“คุณกำลังจะพาฉันไปไหนกันแน่ มันชักจะออกนอกเขตกรุงเทพแล้วนะ”

หลังจากกลั้นใจนิ่งอยู่เสียนาน เพทายก็ถึงคราวสุดจะทน เมื่อเส้นทางที่หล่อนคิดว่าไม่ควรใช้เวลาขับรถนานเกือบครึ่งค่อนชั่วโมงแบบนี้ เริ่มจะเลยเถิดออกนอกเมืองหลวง ทีแรกหล่อนคิดว่านั่งแช่ก้นสักไม่เกินสิบห้านาทีก็ควรจะถึงโรงพยาบาลเอกชนดีๆสักแห่งในกรุงเทพ

แต่เปล่าเลย..ยิ่งทอดสายตาทะลุกระจกรถไปเรื่อยๆ ทัศนยีภาพสองข้างทางก็เริ่มกลายเป็นกลุ่มโรงงานอาหารทะเลเรียงกันเป็นตับ กลิ่นคาวปลาทะเลเล็ดลอดเข้ามาในซอกหลืบมุมไหนของรถไม่ทราบได้ แต่ที่แน่ๆ หล่อนรู้แล้วล่ะว่า เขากำลังพาหล่อนมาเหยียบถิ่นคนพม่า อย่างจังหวัด “สมุทรสาคร” เข้าให้แล้ว

ไม่มีคำตอบใดเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากหยักบางของชัดเจน เขายังคงมองท้องถนนเบื้องหน้าแน่วนิ่ง ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ป้ายสีเขียวประกาศชื่อจังหวัดตัวเบ้อเริ่มบนเสากลางถนน

เพทายยิ่งเดือดดาลหนักกว่าเดิม หล่อนหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ พร้อมตะคอกเสียงใส่ไม่ยั้ง

“ฉันอ่านหนังสือออกย่ะพ่อคุณ ที่ถามนี่ไม่ได้อยากรู้ชื่อจังหวัด!”
ชัดเจนยักไหล่ขึ้นเล็กน้อย ปรายหางตามามองหล่อนแวบหนึ่งแล้วยกยิ้มมุมปาก

หล่อนเห็นท่าทางกวนประสาทแบบนั้นแล้วก็เดือดแสนเดือด แต่ก็ไม่รู้จะหาวิธีกระตุ้นต่อมโมโหให้เขาน็อตหลุดออกมาบ้างในท่าไหน เวลานี้ชัดเจนกำลังเป็นต่อ จะทำอะไรหล่อนต้องคิดให้หนักกว่าทุกครั้งที่เคยเผชิญหน้ากับคนอย่างเขามา

มีเพียงความเงียบซ่อนอยู่ในความคุกกรุ่นของคนทั้งสอง..ยาวนานจนกระทั่ง รถคนนั้นเคลื่อนผ่านป้อมยามของโรงพยาบาลประจำจังหวัด..เข้าไปเทียบจอดตรงมุมตึกข้างห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินในที่สุด

“คุณหมออยู่เวรวันนี้หรือคะ..อุ๊ยพาใครมาด้วยคะ?”

ผู้ช่วยพยาบาลคนใหม่รีบเอ่ยทักเสียงอ่อนเสียงหวาน เมื่อเห็นชัดเจนเดินพาหญิงสาวหน้าแชล่มคนหนึ่งเข้ามาในห้องฉุกเฉิน หล่อนเพิ่งเคยเห็นตัวเป็นๆของเขาครั้งแรก จากการสะกิดให้ดูพลางแนะนำกิตติศัพท์ของพยาบาลคนเก่าประจำแผนก

ทว่า ด้วยความเป็นคนช่างฉอเลาะกับบรรดาหมอหนุ่มๆเป็นทุนเดิม หล่อนจึงไม่ทันฟังคำขยาย หรือจะเรียกให้ถูกคือคำเตือนจากเพื่อนร่วมงานให้จบเสียก่อน เพียงแค่ได้ยินว่า..นี่แหละหมอชัดเจน หมอเกาหลีประจำวอร์ดศัลยกรรม ที่ใครๆเค้าเล่าลือกัน..หล่อนก็รีบพรวดพราดออกไปต้อนรับทักทาย แล้วเจ้าหล่อนก็แสนตาไว เมื่อเห็นมือของเขากุมข้อมือของสาวหน้าสวยคนนั้นไว้อย่างแนบแน่น ราวกับกลัวจะหลุดจากกันไปไหน หล่อนจึงถามในทำนองแซวต่อท้าย

ไม่ทันนึก..ไม่ทันระวังมาก่อนเลยว่า จะได้รับคำตอบที่สวนกลับมาจนแทบหน้าหงาย
“เรื่องส่วนตัวน่ะ..สะกดเป็นไหม?”

ชายหนุ่มทิ้งระเบิดลูกใหญ่ สยบความเคลื่อนไหวของทุกคนที่ได้ยินไว้เพียงแค่นั้น แล้วเขาก็สาวเท้าเร็วๆ พาสาวสวยคนที่เป็น “เรื่องส่วนตัว” ของเขามุ่งหน้าไปยังเคาน์เตอร์พยาบาล ไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งสิ้น

“ขอโทษนะน้อง..พอดีพี่ลืมบอกไป.. เค้าเล่าลือกันว่าโหด ดุ แล้วก็ปากเสียยิ่งกว่าอะไรดี!”
พยาบาลเจ้าถิ่นก้มลงกระซิบข้างหูน้องใหม่ด้วยน้ำเสียงที่บอกไม่ถูกว่าจะสงสาร หรือสมน้ำหน้าหล่อนดี

“อีกแล้วนะคุณ ทำไมไม่บอกเค้าไปล่ะว่าฉันเป็นใคร พูดแบบนั้นก็เข้าใจผิดกันหมด พูดจากำกวม!”

เพทายแหวใส่ชายหนุ่มเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคน ก่อนที่เขาจะก้าวเข้าไปถึงตัวเคาน์เตอร์ ทว่าชัดเจนก็ยังทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ ลอยหน้าลอยตา ประหนึ่งได้ยินเสียงหล่อนเป็นเสียงนกเสียงกาไร้ความหมายไปเสียอย่างนั้น

เมื่อถึงหน้าเคาน์เตอร์พยาบาล หล่อนได้ยินเขายืนสั่งอะไรกับพยาบาลวัยกลางคนอยู่สองสามประโยค หล่อนไม่อยากใส่ใจฟัง รู้เพียงแต่ว่าพอมีโอกาสหลุดจากการเกาะกุมของเขาได้ หล่อนก็รีบสะบัดข้อมือออกโดยแรง แล้วถอยออกมายืนห่างจากเขาอีกสามสี่ก้าว ราวกับเห็นชายหนุ่มเป็นตัวน่ารังเกียจอะไรสักอย่างที่หล่อนไม่อยากเข้าใกล้หากไม่จำเป็น

ต่อจากคำสั่งสองสามประโยคนั้น พยาบาลหน้าตาเรียบร้อยคนนั้นก็ยื่นใบเอกสารอะไรสักอย่างให้เขา ชายหนุ่มหยิบปากกาออกมาเขียนอะไรยิกๆ แล้วก็ยื่นกระดาษแผ่นนั้นกลับไป

“ถ้าfilm ข้อเท้าออกมาแล้วมันหักจริงๆอย่างที่ผมคิด คุณคงต้องใส่เฝือก”

เขาหันมาบอกหล่อน พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ใส่ก็ใส่ซี..ฉันไม่เห็นกลัว”

เพทายยื่นหน้า ยื่นปากบอกเขาอย่างท้าทาย คิดไปว่าเขาต้องการขู่ให้หล่อนกลัว ทว่าหล่อนคิดผิดถนัดเมื่อได้ยินประโยคถัดมา..

“ผมจะเป็นคนใส่ให้คุณเอง..”
สาวปากกล้าแทบจะทรุดลงไปกองเดี๋ยวนั้นเหมือนโดนฟ้าผ่ารอบที่ร้อย

“เรื่องอะไร? ไม่ใช่หน้าที่ของคุณ!”

“ถือเป็นรางวัลตอบแทนอย่างที่สองไงคุณ..ตอนคุณท้าผม คุณบอกเสียเมื่อไหร่ ว่าจะให้ตอบแทนแค่อย่างเดียว..ได้ยินแต่ว่า ตอบแทนอะไรก็ได้ที่ผู้ชนะต้องการ!”

มีหรือที่คนอย่างหล่อนจะทนฟังต่อไหว หญิงสาวกรีดเสียงออกมาแทบจะทำเอาห้องฉุกเฉินระเบิด

“ไอ้บ้า..ไอ้ลามก..ไอ้..”

เสียงระเบิดของหล่อนสะดุดลงแค่นั้น เมื่อชัดเจนรีบเอาฝ่ามือหนาๆของเขาอุดปากหล่อนไว้ เขาเอ่ยเสียงลอดไรฟัน อย่างคนที่พยายามสะกดกลั้นอารมณ์สุดขีด

“ผมหวังดีกับคุณนะ รู้ไหมว่าหน้าที่ใส่เฝือก เป็นหน้าที่ของพยาบาลผู้ชายพวกนั้น..คุณเลือกเอาแล้วกันว่าจะให้ใครใส่!”

เพทายค่อยๆเหลือบไปมอง “พยาบาลผู้ชายพวกนั้น” ที่เขาบอก
แต่ละคนหน้าตา รูปร่างยิ่งกว่ามหาโจร ไม่น่าไว้วางใจเสียยิ่งกว่าชายหนุ่มที่กำลังเอามือปิดปากหล่อนอยู่ขณะนี้

หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างหมดทางเลือก...นี่คงเป็นวันที่หล่อนโชคร้ายสุดๆในรอบปี!




ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 พ.ย. 2555, 18:15:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 พ.ย. 2555, 18:15:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1602





<< บทที่ ๖ รางวัลตอบแทนยกที่ ๑ ๑/๒   บทที่ ๗ สิทธิของผู้ชนะ ๑/๒ >>
หมีสีชมพู 30 พ.ย. 2555, 18:54:11 น.
อุ้ย ได้หมอศัลย์มาใส่เฝือกให้ เพทายโชคดีจัง


mhengjhy 30 พ.ย. 2555, 20:08:06 น.
รางวัลของใครกันแน่หนออออ


แล่นแต๊ 30 พ.ย. 2555, 20:54:50 น.
คุณหมอแอบน่ารักนะเนี่ย.ถึงจะปากเสียไปหน่อยก็เถอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account