เกลียดนักดันรักเธอ
ก็คนเกลียดกันมาตั้งนาน จะให้รักกันแบบธรรมดาๆ ได้ยังไง?
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 2. ดูช้างให้ดูที่หาง ดูนางให้ดูที่ตัวพ่อ


“บ้านอยู่ที่ไหน ถ้ายังไม่บอกจะพาไปฝากครรภ์แทนนะ...เลือกเอา”

เสียงทุ้มที่ดูจะอารมณ์ดีขึ้นตามลำดับ เอ่ยถามเป็นครั้งที่ห้า หลังสามารถจัดการกับความพยศของคนตัวเล็กที่ถูกคล้องกุญแจมือด้านขวาเอาไว้กับที่จับด้านบนประตูได้สำเร็จ จึงดูเหมือนว่าเธอถูกจับมือขวาไพล่ไว้ข้างหน้าโดยปริยาย

“ไอ้โรคจิต!” ทับทิมสบถลั่น เหลือบมองคนที่ยังตีหน้าระรื่นอยู่ด้วยหางตา “ปลดกุญแจมือให้ฉันก่อนสิโว้ย”

“สงสัยอยากฝากครรภ์” ไม่พูดเปล่า แต่ปุณกลับเลี้ยวไปยังโรงพยาบาลที่เพิ่งขับรถผ่านมา จนคนที่นั่งอยู่ข้างๆ โวยลั่นอีกครั้ง

“เออๆ บอกก็ได้!” ในที่สุดทับทิมก็ตัดสินใจพูดออกมา “ยูเทิร์นกลับไป ผ่านสี่แยกไฟแดงไปอีกห้าแยก แยกที่หกเลี้ยวซ้าย ตรงไปอีกประมาณเจ็ดร้อยเมตรเลี้ยวขวา ตรงเข้าไปเจอร้านกาแฟเลี้ยวซ้าย แล้วก็ตรงเข้าไปอีกเจอสนามเด็กเล่นเลี้ยวซ้าย ถัดไปก็จะเจอกับบ้านหลังสีเขียว นั่นแหละบ้านฉัน!”

ในที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับจอมกวนประสาท แต่จะทำอย่างไรได้ หากว่าตาบ้านี่พาเธอไปฝากครรภ์จริง คงเป็นที่โจษจันไม่น้อย ก็สามีที่ไหนจะใส่กุญแจมือภรรยามาฝากครรภ์ แถมมีอะไรกันสักครั้งก็ยังไม่เคย!

“ก็แค่เนี้ย” ปุณกระตุกยิ้ม บังคับรถกลับไปยังทิศที่หญิงสาวบอก “ว่าแต่คิดยังไงถึงแต่งหญิงไปงานเลี้ยงรุ่น สาวมากกก” แสร้งลากเสียงยาวในตอนท้ายเพื่อยั่วโมโหอีกฝ่าย

“เรื่องของฉัน เกี่ยวอะไรกับนาย”

“ไม่เกี่ยว แต่มันเห็น”

“ก็อย่ามอง”

“ตาไม่ได้บอด”

“งั้นถ้าฉันหลุดไปได้เดี๋ยวจัดให้” ทับทิมกัดฟันกรอด สาบานว่าถ้าหลุดออกไปได้เมื่อไร ไอ้ผู้ชายจอมกะล่อนนี่ได้เละเป็นโจ๊กแน่

“นี่หวังดีนะ ถ้าเกิดบรรดาสาวๆ ที่เธอเคยคั่วมาเห็นเข้าจะรู้สึกยังไง ที่แฟนเก่าตัวเองสาวแตกขนาดนี้” ปุณพูดแล้วก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ พลางเหลือบมองคนข้างกายที่ทำหน้าเหมือนกับกำลังถูกพาไปฆ่าเสียให้ได้

“ที่บ้านมีปัญหาเหรอ” ในที่สุดต่อมความอดทนของทับทิมก็เริ่มถึงขีดสุด “ถึงได้ตามมายุ่งวุ่นวายกับฉัน ฉันจะเป็นผู้หญิง หรือเป็นทอมมันเกี่ยวอะไรกับนายไม่ทราบ หรือว่านึกอยากจะจีบฉันขึ้นมาเลยหาข้ออ้างมาส่ง โถ...หนังหน้าอย่างนายต่อให้ไปศัลยกรรมให้เหมือนดาราฝรั่งก็อย่าหวัง เพราะแค่หนังเท้าฉันยังไม่อยากมองเลยด้วยซ้ำ!”

“โห...พอเธอพูดว่าฉันจะจีบเธอ ดูๆ ขนแขนลุกซู่เลยเนี่ย” ไม่พูดเปล่า แต่คนที่ขับรถอยู่กลับชี้ชวนคนนั่งข้างให้มองดูขนเส้นเล็กๆ บนท่อนแขนของตัวเองที่โผล่พ้นขอบเสื้อเชิ้ตพัแขนออกมา

“ไอ้...ไอ้...ไอ้แมงกะพรุนขึ้นราเอ๊ย!” ทับทิมโวยลั่นรถ ก่อนจะสะบัดหน้าพรืดหันไปมองทางอื่น เพราะไม่อยากต่อปากต่อคำกับคนบ้าแม้แต่พยางค์เดียว

เจ็บใจ!



หลังจากที่ปล่อยให้บรรยากาศในรถอึมครึมอยู่ได้พักใหญ่ คนที่ถูกเรียกว่าไอ้แมงกะพรุนขึ้นราก็พารถบีเอ็มฯ ของตนเอง มาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านสีเขียวสไตล์โมเดิร์นลอฟต์ที่มีบรรยากาศร่มรื่น มองเผินๆ เกือบจะไม่เห็นตัวบ้าน เพราะมันกลืนไปกับธรรมชาติรอบๆ ทันทีที่รถจอดสนิท ทับทิมก็รีบแผดเสียงใส่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ทันที

“ถึงแล้วก็ปลดกุญแจมือให้ฉันสิ นั่งบื้อเป็นเสาไฟฟ้าอยู่ได้”

“บ้านสวยดีนี่” ปุณเอ่ยปากชมจากใจจริง ขณะมองผ่านรั้วไม้โปร่งๆ ที่มองเห็นด้านในเกือบทั้งหมด ดูเหมือนเจ้าของคงอยากจะอวดบ้านกับคนที่ผ่านไปผ่านมาเต็มแก่

“แล้วอย่ามาลูกเล่นอะไรกับฉันนะ ไม่งั้นถูกเอาคืนหนักกว่านี้แน่” เขากำชับอีกรอบ

“ลูกเล่นอะไร ฉันต่างหากที่ต้องพูดประโยคนี้กับนาย” ทับทิมแหวกลับ ใบหน้าบึ้งตึง

“งั้นเหรอ” ปุณยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ มือก็ล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อควานหาลูกกุญแจไขกุญแจมือที่เก็บเอาไว้ ก่อนจะเดินลงจากรถ แล้วอ้อมมายังด้านคนนั่งข้าง เพื่อคืนอิสรภาพให้กับสาวร่างเล็ก

ทับทิมเห็นดังนั้น จึงฉวยโอกาสทองรีบบิดตัวเข้าหาเบาะ เพื่อใช้มือข้างซ้ายที่ว่างอยู่เกี่ยวเอากุญแจรถของปุณที่เสียบคาอยู่มาเก็บเอาไว้

“ทำอะไรน่ะ” ปุณที่มัวแต่ดูสไตล์การแต่งบ้านของทับทิมอยู่รีบเอ่ยทัก เพราะเห็นคนที่ยังถูกล็อกกุญแจมืออยู่ดูลุกลี้ลุกลนชอบกล

“ก็คนมันเมื่อย บิดตัวนิดบิดตัวหน่อยมีปัญหาอะไรรึเปล่า” ทับทิมรีบพูดกลบเกลื่อน ได้ยินดังนั้นคนที่ยืนอยู่นอกรถจึงไม่ใส่ใจ ก้มหัวเข้าไปปลดกุญแจมือให้แต่โดยดี ก่อนจะถอยออกมายืนประจันหน้ากับเธอ ทว่าใจของปุณก็ต้องหล่นวูบเมื่อเห็นอีกฝ่ายชูกุญแจรถของเขาขึ้นมา แล้วขว้างมันเข้าไปทางบ่อน้ำที่ตั้งอยู่ในรั้วบ้านอย่างพอดิบพอดี

“ทำบ้าอะไรของเธอ!” ปุณตะโกนลั่น เมื่อเห็นกุญแจรถของตนเองตกลงไปในบ่อน้ำตรงสวนหน้าบ้านของคนที่ยืนลอยหน้าลอยตาอยู่

“บ่อนั้นไม่ใช่บ่อจัดสวนธรรมดานะ แต่เป็นบ่อน้ำที่เคยใช้งานจริงๆ ก็ลึกเอาการอยู่แถมข้างล่างก็คงมีน้ำอยู่ด้วย” ทับทิมบอกพลางฉีกยิ้มระรื่น

“ไม่อยากจบใช่ไหม” ใบหน้าของชายหนุ่มบอกบุญไม่รับ ส่งเสียงลอดไรฟันออกมา

“ใครกันแน่ไม่อยากจบ ถ้าปล่อยให้ฉันขึ้นแท็กซี่กลับบ้านดีๆ รถนายก็คงไม่ต้องถูกทำร้ายขนาดนี้หรอก...หรือไม่ใช่?” ทับทิมยักไหล่ เพราะหากจะให้พูดกันตรงๆ เธอไม่ได้เป็นคนเริ่มเรื่องพวกนี้ก่อนด้วยซ้ำ

“แล้วใครมาปาก้อนหินใส่รถฉัน” ปุณหน้าตึงเมื่อถูกจี้ใจดำ

“อ๋อเหรอ...จะต้องมาลำเลิกกันใช่ไหมว่าใครผิด...ได้” คนฟังเท้าสะเอว ใบหน้าบึ้งตึง “ถ้างั้นใครที่ไปตามราวีฉันตอนนั่งแท็กซี่”

“ก็เธอไม่ใช่รึไงที่พยายามจะพังรถฉันก่อน”

“ก็ถ้านายไม่จูบฉันก่อนก็คงไม่เกิดเรื่องอย่างนี้หรอก!” ทับทิมเหลืออดโพล่งออกไปอย่างลืมตัว ปล่อยให้คนฟังหรี่ตามองเหมือนกำลังเกิดความคิดใหม่ๆ ขึ้นมา

“ถ้างั้นเริ่มจากจูบก็คงต้องจบด้วยจูบสินะ” ปุณทำตาพราว เดินเข้าไปหาคนที่ถอยหลังกรูด แต่ก็ไม่ทันมือใหญ่ที่ยื่นออกมาคว้าแขนเธอเอาไว้ได้ก่อน

“ปล่อยฉันนะ ไอ้กิ้งก่าหางด้วน!” ทับทิมแหวลั่น พลางสะบัดแขนออกจากมือใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถต้านแรงของผู้ชายตัวโตได้เลย ส่วนฝ่ายที่กำลังดึงคนตัวเล็กเข้าหาตัวก็ขำก๊าก หลังได้ยินคำด่าที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนในชีวิต

“หางด้วนที่ไหน ยังไม่เห็นอย่าเพิ่งพูด” ปุณพูดพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายอย่างขบขัน แต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้น เมื่อเสียงห้าวปนโกรธจัดของใครคนหนึ่ง ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังเสียก่อน

“เฮ้ย ปล่อยลูกสาวอั๊วะได้แล้วโว้ย!”

“ป๊า!” ทับทิมพูดขึ้นอย่างดีใจ เมื่อเห็นผู้ชายตัวใหญ่ไว้หนวด ยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ตรงรั้วหน้าบ้าน

เพียงแค่ได้ยินสาวหน้าหมวยเรียกสรรพนามของคนเสียงดุ ปุณก็ยอมปล่อยตัวเธอออกไปแต่โดยดี ก่อนจะหันไปประจันหน้ากับเจ้าของบ้านตัวจริงอย่างไม่หวั่นเกรง

“สวัสดีครับคุณพ่อ” แถมยังไปเรียกเขาว่า คุณพ่อ อย่างสนิทปากเสียอีก

“อั๊วะไม่มีลูกชาย!” การุณตะคอกเสียงดัง พร้อมชูเพื่อนซี้กระบอกดำมะเมื่อมในมือที่พามาทักทายแขกเหรื่อ หลังยืนมองเหตุการณ์อยู่นาน

“วันข้างหน้าก็อาจจะมีก็ได้นะครับ” แม้จะเกรงใจปืนที่ถืออยู่ในมือของคุณพ่อเสือ แต่มีหรือที่เสือหนุ่มอย่างเขาจะยอมสิ้นลายง่ายๆ

“ปากอย่างนี้น่ะเหรอจะมีวันข้างหน้า แค่พรุ่งนี้อยากจะมีชีวิตอยู่ยังยากเลยโว้ย!” สิ้นเสียงของหนุ่มใหญ่ หนุ่มน้อยก็รู้ในทันทีว่าสาวผมสั้นร่างเล็กมีนิสัยเหมือนใคร ชนิดไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ

“แล้วคุณพ่อจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ ลูกสาวคุณพ่อปากุญแจรถผมลงบ่อน้ำไปแล้ว น้ำใจสักนิดก็ไม่มีอุตส่าห์มาส่ง” ปุณพูดเสียงต่ำ ส่งสายตาจริงใจไปให้พ่อเสือที่เริ่มลังเลใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“จริงเหรออาทิม ที่หนูทำอย่างนั้น” การุณหันไปเค้นความจริงเอากับลูกสาวที่เริ่มหน้าเสีย

“จริงค่ะป๊า แต่ไอ้บ้านี่มาลวนลามทิมก่อนนะ” เพียงเท่านั้นอารมณ์เดือดที่ค่อยๆ ทุเลาลงแล้วของพ่อหนวดเสือก็เริ่มปุดๆ ขึ้นมาอีกครั้ง

“อ้าว...ไอ้นี่ มาลวนลามลูกสาวอั๊วะงั้นเหรอ ยิงทิ้งเลยดีไหมวะ” การุณขู่พลางย่างสามขุมเข้าไปหาชายหนุ่มที่เริ่มเข้าใจถึงความหมายลึกซึ้งของคำว่า ‘จะเอาชีวิตชีวิตไม่รอด’

“ดีค่ะป๊า” ลูกสาวรีบสนับสนุนอีกแรง

ได้ยินดังนั้นชายหนุ่มก็ได้แต่ส่ายหน้า แค่นหัวเราะออกมาด้วยความปลงตก กับคู่พ่อลูกนักเลงที่ไม่เคยกลัวใคร พร้อมทั้งไว้อาลัยให้กุญแจดอกนั้นอีกครั้งหนึ่ง เพราะเป็นกุญแจเป็นดอกสุดท้าย แล้วนับตั้งแต่ที่เขาเคยทำหายเมื่อหลายครั้งก่อน

“นี่ยัยทอม สะใจเธอแล้วใช่ไหมที่ทำให้ฉันต้องติดแหง็กอยู่ที่นี่น่ะ” ปุณพูดออกมาอย่างเสียไม่ได้ เมื่อคงต้องจำใจจอดรถทิ้งไว้ที่นี่จริงๆ

“ใครจะให้นายอยู่ที่นี่ไม่ทราบ มีขาก็เดินไปขึ้นแท็กซี่หน้าปากซอยเองสิ โตแล้ว...คิดเองได้แล้ว”

ทับทิมยิ้มเยาะ เดินผ่านร่างสูงของหนุ่มโชคร้ายไปยืนเคียงข้างผู้เป็นพ่อด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข ชนิดไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

“เยี่ยมมาก อาทิมลูกรัก” การุณยิ้มกว้าง ยื่นมือไปตบไหล่มนของลูกสาวเบาๆ

“โอเค ถ้าอย่างงั้นวันนี้ผมก็คงต้องขออนุญาตเจ้าของบ้าน ขอจอดรถขวางหน้าประตูไปก่อนก็แล้วกันนะครับ คงอาจจะเป็นวันพรุ่งนี้ มะรืน หรืออาจจะเป็นวันไหนก็ไม่แน่ใจที่ผมจะกลับมาเอารถ เพราะจะต้องไปตามช่างมาทำกุญแจรถ เอาเป็นว่าขอบคุณล่วงหน้าเลยแล้วกันสำหรับที่จอด” พูดจบก็ยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของคู่พ่อลูกตรงหน้า ที่เต้นผางทันทีเมื่อสิ้นประโยค

“อั๊วะไม่ให้จอด นี่มันหน้าบ้านคนนะเว้ยไม่ใช่ที่สาธารณะ!” การุณตวาดลั่น ดีที่วันนี้ภรรยาคนสวยของเขาไม่อยู่บ้าน ไม่เช่นนั้นหนุ่มใหญ่อาจจะไม่ได้ทำตัวใหญ่โตเบ่งใครไปทั่วเช่นนี้

“มันช้าไปแล้วล่ะครับคุณพ่อ เพราะตอนที่ออกมาจากรถผมดึงเบรกมือ แถมเข้าเกียร์พี (Park) เอาไว้ แถมรุ่นนี้ถ้าปิดประตูรถทิ้งเอาไว้เกินสามสิบวินาทีโดยไม่ได้ล็อก เดี๋ยวมันก็จัดการล็อกให้โดยอัตโนมัติเลยครับ ฉลาดมากๆ”

พูดแล้วก็เดินไปดันรถที่ไม่ขยับเขยื้อน แถมยังเปิดประตูรถที่ล็อกแล้วให้ดูเป็นขวัญตา เพื่อตอกย้ำให้ทั้งคู่ได้เข้าใจสิ่งที่กำลังเจอยิ่งขึ้น

“คงต้องขอจอดเอาไว้อย่างที่บอกนั่นแหละครับ” พูดเสร็จก็ส่งยิ้มกว้างไปให้สองพ่อลูก

การุณได้ยินดังนั้นก็ยิ่งโมโห ยกปืนขึ้นชี้หน้าไอ้หนุ่มจอมกะล่อน พร้อมตวาดเสียงดัง

“อั๊วไม่รับฝาก ไม่ให้จอด ลื้อต้องเอารถของลื้อออกไปจากบ้านอั๊วะให้ได้ภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ เข้าใจไหม!”

“เข้าใจครับ แต่คงทำยาก”

“ไอ้นี่วอนซะแล้ว!” พูดจบก็สาวเท้าเข้าไปหาหนุ่มร่างสูงที่ถอยหลังกรูด เพราะเริ่มเห็นท่าไม่ดีแล้ว

“ป๊าใจเย็นๆ สิ” ทับทิมเห็นดังนั้นก็รีบกระโจนไปคว้าปืนในมือของพ่อมาเก็บไว้ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมง่ายๆ

“ปล่อยป๊านะอาทิม ป๊าจะยิงมันให้ไส้แตก มีอย่างที่ไหน กวนส้นป๊าชะมัด!”

“ไม่เอาน่าป๊า เอาปืนมาให้ทิมเดี๋ยวนี้นะ”

สองพ่อลูกยื้อแย่งปืนกันไปมา จนคนที่ถูกปืนจ่ออยู่ชักใจคอไม่ดี ค่อยๆ ขยับตัวให้ออกมาจากวงชุลมุนนั้น ก่อนเสียงปืนที่ไม่อยากได้ยินจะดังลั่นขึ้นมา

“ปัง!”




ดารานิล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ธ.ค. 2555, 00:22:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2556, 14:08:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 2330





<< 1. ขิงแรงมา ข่าจัดให้   3. บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องรับภาระ >>
หนอนฮับ 4 ธ.ค. 2555, 00:53:37 น.
ต๊ายยยย อะไรจะรุนแรงกันปานั้น สงสัยแต่งงานไปคู่นี้ลูกดกแน่ๆ เลย


bow 4 ธ.ค. 2555, 02:11:14 น.
อ๊ายยย.. น่าร๊ากกก...
ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะสินะคะคู่นี้ :)


konhin 4 ธ.ค. 2555, 05:04:35 น.
ฮ่าๆๆ แรงจริง


กาซะลองพลัดถิ่น 4 ธ.ค. 2555, 05:30:46 น.
อู้ยยยย รุนแรงกันจัง ลูกหัวปีท้ายปีแน่ ๆ เลย แต่กว่าจะแต่งมิอ่วมแย่เลยเหรอเนี่ยะนายปุณ


goldensun 4 ธ.ค. 2555, 13:08:26 น.
เล่นกันแรงจังแฮะ คู่นี้ เอาคืนกันได้แรงมาก ถึงขึ้นใส่กุญแจมือล็อคติดตัวกับปุณอย่างนี้
ทิมจะแก้กลับได้ยังไง ท่าทางจะต้องเคลียร์กันยาว อยู่กันแค่สองคนซะด้วย


น้ำแอปเปิ้ล 4 ธ.ค. 2555, 14:46:00 น.
ฮ่าๆ มันส์ดีจัง ชอบค่ะ นางเอกแบบนี้ที่ตามหา คริ คริ


Zephyr 6 ธ.ค. 2555, 14:31:25 น.
5555 ขำอ่ะ กระจกพังเลย สงสารบีเอ็มนะเนี่ย
เล่นมุกท้อง กร๊ากกกกก เหอๆ แต่งกันไปคงลูกพรึ่บ
เอะอะ ๆ ปุณจับปล้ำแน่ๆเลย ดูโหงวเฮ้งแล้ว คริคริ


นางสาวปลาดาว 11 ธ.ค. 2555, 21:15:29 น.
กระจกแตก วู้...


kaze 20 ธ.ค. 2555, 05:20:30 น.
แรงมากอ่ะ....เล่นท้องเลยรึ 5555


cherryfirm 3 ก.พ. 2556, 17:57:42 น.
รักดอกจังหยอกแรงไปหน่อย....อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account