the first love
เมื่อหญิงสาวที่อ่อนหวาน ไร้เดียงสา ต้องมาคอยดูแลนักร้องซุปเปอร์สตาร์หนุ่ม เธอจะทำยังไงเมื่อเค้าคือรักครั้งแรกของเธอ
Tags: วัยรุ่น
ตอน: กลิ่นอายของความทรงจำ
ตอนที่...2 กลิ่นอายของความทรงจำ
‘อยู่ห้องนี้นะจ๊ะ เจ้าของห้องเค้าไม่ค่อยกลับมานอนหลอก งานเค้ายุ่งมาก’ คุณน้า
เซนาบอกฉันตอนที่ยกห้องนี้ให้ฉันนอน แต่ที่คุณน้าบอกก็หมายความว่าเจ้าของ
ห้องมีโอกาสจะกลับมาเหมือนกันนะซิถึงเวลานั้นฉันจะทำยังไงดี แต่ตอนนี้ก็ขัดคุณ
น้าไม่ได้ ได้แต่เลยตามเลยไปก่อน ฉันวางกระเป๋าและมองไปรอบๆห้อง ฉันรู้สึก
เหมือนได้กลิ่นเค้าอยู่ในห้องนี้ ฉันเอามือไปจับรูปภาพที่วางเรียงกันไว้บนโต๊ะ และ
ตู้วางของอย่างถนอมราวกับว่ากำลังจับต้องเค้าอยู่ น้ำตาของความดีใจเอ่ออยู่ใน
ดวงตาของฉัน ความคิดถึงแล่นอยู่ในหัวใจฉันเหมือนมันจะล้นออกมา
“ ฉันคิดถึงพี่เหลือเกิน” ฉันพูดกับรูปภาพที่อยู่ในมือของตัวเองด้วยเสียงสั่นเครือ
จากนั้นก็วางลงอย่างระวังราวกลับมันจะแตกได้อย่างง่ายดาย ไม่นานฉันก็จัด
ข้าวของเสร็จ....ฉันเดินลงมาหาคุณน้าข้างล่างก้ได้ยินเสียงเธอคุยโทรศัพท์ทำให้
หัวใจฉันเต้นรัวเมื่อรู้ว่าปลายสายเป็นใคร
“ถึงแล้วเหรอลูก... อย่าลืมพักผ่อนมากๆละแม่เป็นห่วง จ้าๆๆ ถ้าว่างก็กลับมาบ้านบ้างนะจ๊ะ แม่คิดถึง” เธอวางสายพร้อมรอยยิ้ม
“อ้าว!ลงมาแล้วเหรอเป็นยังไงบ้าง”
“ยังปรับเวลาไม่ได้นะค่ะ”
“อย่างนี้แหละจากไปหลายปี ก็คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก”
ไม่รู้ทำไมฉันมีความรู้สึกว่าสายตาที่คุณน้ามองฉันมีความสงสารปนอยู่ด้วยคงเห็นว่าฉันต้องอยู่ที่นี่ลำพัง คุณน้าใจดีกับฉันไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ
“คุณน้าค่ะ หนูขอไปเดินเล่นแถวๆนี้ได้ไหมค่ะ”
“ได้สิจ๊ะ แต่ว่าอย่าไปไกลล่ะเพราะที่นี่เปลี่ยนไปมากเหมือนกัน”
“ค่ะ .. คุณน้า”
ฉันรับปากคุณน้าเซนาก่อนจะออกมาเดินเล่นอย่างที่บอกไว้ แต่ความจริงฉันแค่
อยากไปที่ๆเคยเล่นกับเค้าคนนั้น..พอฉันเดินมาเรื่อยๆตามทางก็มาถึงสวน
สาธารณะที่ฉันตามเค้ามาบ่อยๆเวลาที่เค้าออกมาเล่นกับเพื่อนๆ ฉันไปนั่งลงที่ชิงช้า
ให้มันไกวช้าๆแล้วความทรงจำก็กลับเข้ามาในสมองฉันอีกครั้ง
เมื่อ 10 ปีก่อน
“ยัยบ๊อง...ฉันว่าวันนี้เธออย่าตามฉันไปดีกว่าไม่งั้นจะว่าไม่เตือนนะ”
“ฉันจะไปกับพี่ชายนี่ค่ะ ทำไมต้องห้ามด้วย” ซอจูฮยอนถามเมื่อคนที่เธอตามมาหันมาทำตาถลึงใส่
“ตามใจ อย่าร้องไห้ขี้มูกโปร่งแล้วกัน” พูดจบเค้าก็เดินนำฉันไปอย่างกระยิ่มยิ้มย่อง
ฉันแทบจะร้องไห้เมื่อรู้ว่าที่ๆพวกเค้ามาเล่นวันนี้คือบ้านร้าง บรรยากาศชวนให้ขน
หัวลุกทีเดียวแต่ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากก็ได้ยินเสียงเด็กผู้ชายที่เกาะแขนพี่ชายไว้
แน่นแถมตัวสั่นอีกด้วย
“ เฮ้ ! คังมินฮยอกถ้านายกลัวขนาดนี้กลับไปเหอะ” ยงฮวาเริ่มรำคาญก่อนสบัดแขนแล้วเดินเข้าไป
“ พี่ค่ะรอด้วย! ” ฉันวิ่งตามเข้าไปโดนไม่คิดอะไรตามมาด้วย คังมิยฮยอกนั่นเอง
บรรยากาศภายในบ้านมืดแทบมองไม่เห็นมีเพียงแสงไฟจากไฟฉายของเด็ก
ผู้ชาย 4-5 คนข้างหน้าเท่านั้น ขณะที่ทุกคนเดินสำรวจภายในบ้านอย่างอยากรู้
อยากเห็น
‘โครม!’ เสียงอะไรไม่รู้หล่นกระทบกับพื้นดังสนั่น ทุกคนไม่รอเสียงใครต่างคน
ต่างวิ่ง ออกมาโดยไม่ รอกันแต่มีมือหนึงมาจับแขนฉันดึงให้วิ่งออกมา พอพ้น
บริเวณบ้านถึงรู้ ว่าเป็นพี่ยงฮวาที่จับมือฉันวิ่ง ออกมาด้วยกัน เสียงเด็กผู้ชาย
วัยซนหัวเราะชอบใจกันใหญ่ แต่อยู่ๆฉันก็ห้ามน้ำตาไว้ไม่ได้ยืนร้องไห้ สะอึกสะอื้น
ด้วยความตกใจกลัว เค้าไม่ปลอบใจฉันสักคำแต่ระหว่างทางกลับบ้านเค้าจับมือ
ฉันไว้ตลอด และตามระเบียบเมื่อถึงบ้านเค้าก็ถูกต่อว่าอีกตามเคย’ พอนึกถึงเรื่อง
เก่าๆฉันก็หัวเราะคนเดียวทุกที ฟ้าเริ่มมืดฉันจึงเดินกลับบ้านเพราะกลัวคุณน้าจะ
เป็นห่วง หลังจากทานอาหารเย็นฉันก็ขึ้นไป พักผ่อน ฉันล้มตัวลงนอนบนเตียงพอ
นึกถึงเจ้าของห้องก็ทำให้ฉันยิ้มแก้มปริจนมันจะแตก
ออกเป็นเสี่ยงๆอยู่แล้ว ถึงนอนไม่หลับก็ต้องหลับให้ได้เพราะพรุ่งนี้ฉันต้องไปที่
มหาวิทยาลัยที่ฉันสมัครเรียนอีก .....^-^
‘อยู่ห้องนี้นะจ๊ะ เจ้าของห้องเค้าไม่ค่อยกลับมานอนหลอก งานเค้ายุ่งมาก’ คุณน้า
เซนาบอกฉันตอนที่ยกห้องนี้ให้ฉันนอน แต่ที่คุณน้าบอกก็หมายความว่าเจ้าของ
ห้องมีโอกาสจะกลับมาเหมือนกันนะซิถึงเวลานั้นฉันจะทำยังไงดี แต่ตอนนี้ก็ขัดคุณ
น้าไม่ได้ ได้แต่เลยตามเลยไปก่อน ฉันวางกระเป๋าและมองไปรอบๆห้อง ฉันรู้สึก
เหมือนได้กลิ่นเค้าอยู่ในห้องนี้ ฉันเอามือไปจับรูปภาพที่วางเรียงกันไว้บนโต๊ะ และ
ตู้วางของอย่างถนอมราวกับว่ากำลังจับต้องเค้าอยู่ น้ำตาของความดีใจเอ่ออยู่ใน
ดวงตาของฉัน ความคิดถึงแล่นอยู่ในหัวใจฉันเหมือนมันจะล้นออกมา
“ ฉันคิดถึงพี่เหลือเกิน” ฉันพูดกับรูปภาพที่อยู่ในมือของตัวเองด้วยเสียงสั่นเครือ
จากนั้นก็วางลงอย่างระวังราวกลับมันจะแตกได้อย่างง่ายดาย ไม่นานฉันก็จัด
ข้าวของเสร็จ....ฉันเดินลงมาหาคุณน้าข้างล่างก้ได้ยินเสียงเธอคุยโทรศัพท์ทำให้
หัวใจฉันเต้นรัวเมื่อรู้ว่าปลายสายเป็นใคร
“ถึงแล้วเหรอลูก... อย่าลืมพักผ่อนมากๆละแม่เป็นห่วง จ้าๆๆ ถ้าว่างก็กลับมาบ้านบ้างนะจ๊ะ แม่คิดถึง” เธอวางสายพร้อมรอยยิ้ม
“อ้าว!ลงมาแล้วเหรอเป็นยังไงบ้าง”
“ยังปรับเวลาไม่ได้นะค่ะ”
“อย่างนี้แหละจากไปหลายปี ก็คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก”
ไม่รู้ทำไมฉันมีความรู้สึกว่าสายตาที่คุณน้ามองฉันมีความสงสารปนอยู่ด้วยคงเห็นว่าฉันต้องอยู่ที่นี่ลำพัง คุณน้าใจดีกับฉันไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ
“คุณน้าค่ะ หนูขอไปเดินเล่นแถวๆนี้ได้ไหมค่ะ”
“ได้สิจ๊ะ แต่ว่าอย่าไปไกลล่ะเพราะที่นี่เปลี่ยนไปมากเหมือนกัน”
“ค่ะ .. คุณน้า”
ฉันรับปากคุณน้าเซนาก่อนจะออกมาเดินเล่นอย่างที่บอกไว้ แต่ความจริงฉันแค่
อยากไปที่ๆเคยเล่นกับเค้าคนนั้น..พอฉันเดินมาเรื่อยๆตามทางก็มาถึงสวน
สาธารณะที่ฉันตามเค้ามาบ่อยๆเวลาที่เค้าออกมาเล่นกับเพื่อนๆ ฉันไปนั่งลงที่ชิงช้า
ให้มันไกวช้าๆแล้วความทรงจำก็กลับเข้ามาในสมองฉันอีกครั้ง
เมื่อ 10 ปีก่อน
“ยัยบ๊อง...ฉันว่าวันนี้เธออย่าตามฉันไปดีกว่าไม่งั้นจะว่าไม่เตือนนะ”
“ฉันจะไปกับพี่ชายนี่ค่ะ ทำไมต้องห้ามด้วย” ซอจูฮยอนถามเมื่อคนที่เธอตามมาหันมาทำตาถลึงใส่
“ตามใจ อย่าร้องไห้ขี้มูกโปร่งแล้วกัน” พูดจบเค้าก็เดินนำฉันไปอย่างกระยิ่มยิ้มย่อง
ฉันแทบจะร้องไห้เมื่อรู้ว่าที่ๆพวกเค้ามาเล่นวันนี้คือบ้านร้าง บรรยากาศชวนให้ขน
หัวลุกทีเดียวแต่ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากก็ได้ยินเสียงเด็กผู้ชายที่เกาะแขนพี่ชายไว้
แน่นแถมตัวสั่นอีกด้วย
“ เฮ้ ! คังมินฮยอกถ้านายกลัวขนาดนี้กลับไปเหอะ” ยงฮวาเริ่มรำคาญก่อนสบัดแขนแล้วเดินเข้าไป
“ พี่ค่ะรอด้วย! ” ฉันวิ่งตามเข้าไปโดนไม่คิดอะไรตามมาด้วย คังมิยฮยอกนั่นเอง
บรรยากาศภายในบ้านมืดแทบมองไม่เห็นมีเพียงแสงไฟจากไฟฉายของเด็ก
ผู้ชาย 4-5 คนข้างหน้าเท่านั้น ขณะที่ทุกคนเดินสำรวจภายในบ้านอย่างอยากรู้
อยากเห็น
‘โครม!’ เสียงอะไรไม่รู้หล่นกระทบกับพื้นดังสนั่น ทุกคนไม่รอเสียงใครต่างคน
ต่างวิ่ง ออกมาโดยไม่ รอกันแต่มีมือหนึงมาจับแขนฉันดึงให้วิ่งออกมา พอพ้น
บริเวณบ้านถึงรู้ ว่าเป็นพี่ยงฮวาที่จับมือฉันวิ่ง ออกมาด้วยกัน เสียงเด็กผู้ชาย
วัยซนหัวเราะชอบใจกันใหญ่ แต่อยู่ๆฉันก็ห้ามน้ำตาไว้ไม่ได้ยืนร้องไห้ สะอึกสะอื้น
ด้วยความตกใจกลัว เค้าไม่ปลอบใจฉันสักคำแต่ระหว่างทางกลับบ้านเค้าจับมือ
ฉันไว้ตลอด และตามระเบียบเมื่อถึงบ้านเค้าก็ถูกต่อว่าอีกตามเคย’ พอนึกถึงเรื่อง
เก่าๆฉันก็หัวเราะคนเดียวทุกที ฟ้าเริ่มมืดฉันจึงเดินกลับบ้านเพราะกลัวคุณน้าจะ
เป็นห่วง หลังจากทานอาหารเย็นฉันก็ขึ้นไป พักผ่อน ฉันล้มตัวลงนอนบนเตียงพอ
นึกถึงเจ้าของห้องก็ทำให้ฉันยิ้มแก้มปริจนมันจะแตก
ออกเป็นเสี่ยงๆอยู่แล้ว ถึงนอนไม่หลับก็ต้องหลับให้ได้เพราะพรุ่งนี้ฉันต้องไปที่
มหาวิทยาลัยที่ฉันสมัครเรียนอีก .....^-^

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ธ.ค. 2555, 19:51:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ธ.ค. 2555, 19:51:25 น.
จำนวนการเข้าชม : 852
<< ความบังเอิญที่โชคดี | ปรากฏตัวต่อหน้า >> |