ราตรีไอยคุปต์
.............
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทนำ

อาทิตย์ยามเที่ยง ณ หุบผากษัตริย์ร้อนปานนรก ลึกลงไปกลับมีเสียงหัวเราะสดใสปานระฆังแก้ว

“คราวนี้..โชคได้เข้าข้างพวกเราแล้วล่ะค่ะ!” เจ้าของเสียงคือหญิงสาวร่างระหง ผิวพรรณขาวสวยและรูปร่างเหมือนเด็กผู้หญิงที่มีสัดส่วนของหญิงสาว จึงมีทั้งความน่ารักและความยั่วยวนจนคนงานชาวกรีกและชาวอาหรับพากันชำเลืองมองอย่างไม่วางตาทั้งที่มือเท้าปีนป่ายทำงานกันเป็นระวิง

“อย่าเพิ่งดีใจ เดี๋ยวก็ต้องเข้าไปนั่งร้องไห้เพราะมารู้ทีหลังว่าพวกหัวขโมยเจาะมาเอาสมบัติไปหมดแล้ว เหลือแต่ห้องว่างๆ”

“พ่อ...!”

“ไม่หรอกน่า เอ็ดเวิร์ด ผนังหุบผากษัตริย์ด้านนี้หนามาก ถ้ามีใครเจาะทางอื่นเข้ามาได้ ได้โปรดมาปรากฏตัวเถิด ผมจะให้มันเหยียบเลย”

บทสนทนาข้างต้นเป็นของคนสามคน คนหนึ่งเป็นศาสตราจารย์ผู้เฒ่าและทรงภูมิ คนหนึ่งเป็นนักวิชาการวัยสี่สิบห้าแต่ไฟแรงเหมือนหนุ่มยี่สิบห้าส่วนอีกคนเป็นหญิงสาววัยยี่สิบสองปีที่แววตาวามวาวมีแต่ความหลงใหลในความสวยงามของอารยธรรมอียิปต์โบราณ

เสียงใสของเธอสั่นพร่าด้วยความยินดีเหลือล้น

“ดูนี่สิคะ มันคุ้มใช่ไหมคะ ที่เราหลงวิ่งในทางวงกตสิบห้ารอบและเกือบตายด้วยก๊าซกรดและหลุมพราง”

“เออ..คุ้มฉิบหาย ถ้ารวมกับค่าข่าวห้าร้อยยูโรและก่อนหน้าที่โดนโกงไปสามพันกว่า ท่านลอร์ดจะเอาขวานผ่าหัวพ่ออยู่แล้ว!”

“ช่างหัวพ่อสิ”

“ไอ!”

ศาสตราจารย์เฮเกน ศาสตราจารย์หัวล้านเคราขาวดก นักปราชญ์แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียหัวเราะกับความรักความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ อรรณพ..หรือชื่อเสียงเรียงนามยามอยู่ในมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียคือเอ็ดเวิร์ด เขาคือนักวิชาการรุ่นใหม่ที่วงการไอยคุปต์วิทยาฝากความหวังว่าจะสร้างผลงานยิ่งใหญ่ที่สุดให้วงการเช่นเดียวกับโฮเวิร์ด คาร์เตอร์หรือไม่อายปากถ้าจะเทียบกับบิดาแห่งวิชาอียิปต์วิทยาอย่างฌอง ฟรองซัวร์ โปลิยอง

ลูกสาวคนเดียวของอรรณพ ..ไอยริณ..นักศึกษาปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยไคโร ก็ทำท่าจะเป็นความหวังของวงการไปด้วยอีกคน

“ศาสตราจารย์ว่าไงคะ”

“ปกติทุกสิ่งในโลกมันก็ต้องจ่ายเพื่อให้ได้มาอยู่แล้ว และการจ่ายเพื่อการศึกษา แพงเท่าไรก็ถือว่าคุ้ม”

มือเรียวงามยื่นไปสัมผัสประตูหินปิดทองคำเปลวซึ่งสลักเป็นรูปเทพฮอร์ ในร่างเทพเหยี่ยวผู้กอบกุมลูกแก้วทั้งสองไว้ในอุ้งเท้า เท่าที่หญิงสาวรู้มานี่คือรูปวาดเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์โบราณ ลูกแก้วในอุ้งเท้านั่นแทนสุริยันและจันทรา นี่คือฮอร์ผู้โบยบินทั่วทั้งทิวาราตรี ผู้ไม่มีวันหลับใหลและได้ครอบครองอมตภาพ

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังประตูบานนี้ไม่มีวันตาย

หญิงสาวสูดลมหายใจอย่างเปี่ยมสุข เธอคือหญิงสาวชาวไทยที่ลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเลจากบ้านไปไกลเพื่อมาเป็นนักศึกษาเอกโบราณคดีในมหาวิทยาลัยไคโรและเมื่อมาถึงที่นี่ก็เพียรพยายามสอบให้ได้คะแนนดีกว่านักศึกษาคนอื่นเพื่อช่วงชิงสิทธิได้ลงภาคสนามเคียงคู่กับนักวิชาการอียิปต์วิทยาชื่อดัง ท้ายที่สุดเพื่อรอคอยวันนี้...วันที่ได้ค้นพบหลุมศพลึกลับที่ไม่เคยมีใครได้พบเห็นมาก่อน

ช่วยไม่ได้ที่ใจเธอจะปลาบปลื้มสุดชีวิตเมื่อพบว่าดินเหนียวที่ยึดบานประตูทั้งสองไว้ยังไม่แตกและประตูแห่งนี้ไม่มีรอยคีมหรือเครื่องมืองัดแงะแม้สักน้อยนิด

“ไอ..เอานี่”

ศาสตราจารย์ยื่นฟองน้ำชุบน้ำให้ หญิงสาวรับไปรอที่ปลายจมูกครู่หนึ่งก่อนจะส่งคืน อากาศในนี้แทบไม่มีและอุณหภูมิร้อนจัด การสูดอากาศเย็นๆเป็นครั้งคราวช่วยไม่ให้จมูกแสบและปอดร้องไห้

อรรณพซึ่งกำลังถ่ายภาพประตูหยุดมือลดกล้องลง แล้วก้าวเข้ามายังประตูศิลา “ประตูหินนี่จะเปิดยังไง”

“แน่ใจหรือคะว่าจะเปิด” ไอยริณแหงนหน้าขึ้นไปเหนือประตู เห็นรูปวาดดวงเนตรศักดิ์สิทธ์ทั้งสอง “หนูว่าเจอคำสาปแรงแหงๆ”

“มากลัวอะไรกันตอนนี้..ถ้าจะเรียนหมออย่ากลัวเลือด ถ้าจะเรียนประวัติศาสตร์อียิปต์อย่ากลัวฟาโรห์”

“ฟาโรห์ฆ่าพ่อได้นะ”

“เออน่า...ขอให้ทรงลุกขึ้นมาเอาคทาฟาดหัวสักสองสามทีเถอะ” แล้วคนพูดก็ถอดเสื้อเชิ้ตของกี ลาโรชเอามาปัดแถวๆประตู ฝุ่นผงอายุกว่าสามพันปีปลิวตลบ ไอยริณที่อยู่ใกล้รีบปิดปากปิดจมูก

ศาสตราจารย์เฮเกนเอ่ย “น่าจะเป็นหลุมศพของฟาโรห์ไหม เอ็ดเวิร์ด”

“เดาว่าใช่ไว้ก่อน เพราะข้างในน่าจะใหญ่ไม่เบา”

“หน้าประตูเขียนไว้ค่ะ” ไอยริณพูดขึ้นมาบ้าง “ว่าที่พำนักชั่วนิรันดร์ของพญาเหยี่ยวแห่งสองแผ่นดิน ฮอร์อาฮา เน็บมาทรา ร่างจำแลงของเทพฮอร์ โอรสแห่งเอเซ็ท”

“เขียนไว้เท่านั้น”
“ต่อไปเป็นคำสาปค่ะ คือ..มันผู้ใดที่รบกวน..”

“เฮ้ย! พอ ขืนอ่านก็ไม่กล้าเปิดกันพอดี”

“ผมชื่นชมลูกสาวคุณนะ เอ็ดเวิร์ด”ศาสตราจารย์เฮเกนใช้ไม้ไล่เคาะผนัง ตั้งใจฟังเสียงแล้วหันกลับมาพูดต่อ “ไออ่านภาษาโบราณได้คล่องพอๆกับภาษาอังกฤษ มีนักศึกษาน้อยคนมากที่ทำได้อย่างไอ คนที่ทำได้ส่วนใหญ่ก็รุ่นราวคราวเดียวกับผมทั้งนั้น”

อรรณพหัวเราะกับตัวเอง ลอบปลาบปลื้มใจอยู่เงียบๆ เขาเป็นคนไม่ชอบชื่นชมลูกสาวต่อหน้าใครทั้งที่ภาคภูมิใจจนคับปอดหลังจากที่รู้ว่าลูกสาวของตนได้คะแนนเต็มจากการสอบถอดความอักษรเฮียโรกริฟฟิกครั้งล่าสุด มันเป็นความสามารถที่แม้กระทั่งนักวิชาการที่เยี่ยมยุทธอย่างเขา..ตอนอายุเท่าลูกสาวก็ยังทำไม่ได้เท่านี้

เห็นยัยตัวแสบที่เป็นดั่งดวงใจวนเวียนอยู่ในสุสานอายุกว่าสามพันปีอย่างมีความสุข เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้ ทั้งที่ไม่คิดจะยิ้มอีกแล้วหลังจากภรรยาสุดที่รักตายจากไป

“ก็เป็นนักเรียนที่ดีนี่ครับ”

ศาสตราจารย์มองตามและยิ้มออกเมื่อเห็นสาวน้อยกำพร้าแม่เพ่งดูโน่นดูนี่ไม่หยุด “ใช่ ผมก็อยากมีนักเรียนที่ดีอย่างนี้อีกหลายๆคน”

สุสานแห่งนี้เต็มไปด้วยรูปภาพ ทั้งภาพสลักที่ขูดเซาะเนื้อหินจมเป็นร่องหรือที่เรียกว่าภาพสลักแบบจมบนกำแพงที่ขนาบข้างบันไดแคบๆและรูปเขียนสีขาว ฟ้า แดงตรงหน้า การสลัก ลายเส้นและสีที่ใช้ทำให้ไอยริณพอคาดเดาได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่ก้าวเข้ามาแล้วว่าสุสานแห่งนี้น่าจะถูกสร้างขึ้นในสมัยใด

ผู้ทรงภูมิอย่างศาสตราจารย์เฮเกนช่วยยืนยันข้อสันนิษฐานของเธอ “ ใช่ ศิลปะในยุคจักรวรรดิ ประมาณราชวงศ์ที่สิบแปดตอนปลายถึงสิบเก้า ยุคที่อาณาจักรทรงอำนาจถึงขีดสุด อียิปต์มั่งคั่ง สูงล้ำด้วยศิลปะและวิทยาการ”

“หลังยุคอมานาร์ใช่ไหมคะ”

“ผมคิดว่างั้น ที่นี่น่าจะเป็นสุสานที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ที่สิบเก้า”

ความงามของภาพสลักทำให้หญิงสาวอย่างไอยริณนิ่งอึ้งไปก่อนจะกล่าว “ศาสตราจารย์พูดถึงราชวงศ์ที่สิบเก้าทีไร ไอมักจะคิดถึงเมืองเมืองหนึ่ง”

“อ๋อ..พีราเมเซส น่ะหรือ ใช่ เคยมีคนพูดว่านครแห่งนั้นงดงามไม่แพ้ธีบส์ ทั้งเมนมาอัตเร เซติ และอูเซอร์มาอัตเร ราเมเซส ต่างก็เป็นนักรบและนักสร้างที่เก่งกาจทั้งคู่ แต่เสียดายที่นครแห่งนั้นเลือกพื้นที่พลาดไปหน่อย เลยไม่เหลือมาถึงคนรุ่นหลังเหมือนวิหารที่อะบูซิมเบล”

“ถ้าเป็นไปได้ ไออยากไปเห็นด้วยตาของตัวเองจัง”หญิงสาวสนุกคิด “นี่ถ้าได้เป็นหญิงสาวในยุคปัจจุบันข้ามมิติไปพบรักกับฟาโรห์ก็ดีสิ”

“พบรักกับฟาโรห์หรือ ไม่ต้องข้ามมิติเว้ย เดี๋ยวพ่อถีบลงโลงไปกอดกับร่างอาบน้ำมันดินจนแข็งเป็นหินเอาไหมล่ะ”

“พ่อบ้า! ขอคนเขาฝันหน่อยก็ไม่ได้!”

“ฝันเฟื่องเพราะอ่านนิยายมากไปน่ะสิ ทำไมไม่คิดถึงความเป็นจริงบ้างวะ พ่อยังงงเลยว่าไอ้คนปัจจุบันกับคนในอดีตมันพูดกันรู้เรื่องได้ยังไง เรียนมาก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าภาษาที่เรากับเขาใช้ มันคนละภาษากัน”คนพูดนั่งยองๆพลางสวดให้ลูกสาวฟัง “อีกอย่างนะ ถ้าไปยุคอดีตก็ถือว่าไปอยู่ในภพอื่นที่ไม่ใช่ภพของเรา ไม่เชื่อหรอกว่าจะสามารถไปได้โดยไม่ต้องแลกอะไร”

“คุณสนใจเรื่องนี้ด้วยหรือ เอ็ดเวิร์ด”

“แฮ่ม”คนกระแอมหน้าแดงเล็กน้อย “นิดหน่อยครับศาสตราจารย์”

“หมายความว่าอะไรน่ะพ่อที่ว่าไม่สามารถไปโดยไม่ต้องแลกอะไร”

“ไอน์สไตน์เคยบอกว่าการเดินทางข้ามมิติกาลเวลาต้องลงหลุมดำ ลงไปแล้วก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆน่ะสิ”

“บ้า มาพูดถึงไอน์สไตน์ในอียิปต์”

ศาสตราจารย์เฮเกนหัวเราะจนน้ำตาไหล “ ฮ่าๆ แต่ว่าไป พวกพระในสมัยอียิปต์โบราณน่ะเป็นต่อนักปราชญ์ในปัจจุบันอยู่หลายขุม พวกเราอาจคิดว่าตัวเองศิวิไลซ์ เจริญรุ่งเรืองทางเทคโนโลยีแต่เอาเข้าจริงก็ยังไม่รู้เลยว่าคนโบราณคำนวณ ออกแบบและสร้างโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่และคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นพีรามิดของชาวอียิปต์หรือปราสาทหินของเขมร”

สองพ่อลูกพยักหน้ารับ อรรณพไหวไหล่ตามความเคยชิน “ไม่รู้ว่าปัจจุบัน ความรู้ของเราก้าวหน้า หยุดอยู่กับที่หรือว่าก้าวถอยหลัง”

ไอยริณหันขวับ “พ่อพูดราวกับว่าต่อให้ทำอย่างไรเราก็ไม่อาจตามคนโบราณทันอย่างนั้นแหละ?”

“และเคยตามทันไหมล่ะ”คนพูดเงยหน้าขึ้นมา กวาดมือไปรอบๆ “ดูอย่างสุสานนี่สิ แบบแผนการสร้างดีเยี่ยม! เล่นหลอกให้เราวิ่งบนทางวงกตกลับมาที่เดิมไม่รู้กี่สิบรอบ จะอ้วกออกมาอยู่แล้วถ้าไม่กลัวว่าพวกผีอียิปต์ที่สิงอยู่ที่นี่จะหัวเราะเยาะเอาน่ะ”

คนเป็นลูกสาวปล่อยฮา ศาสตราจารย์เฮเกนปรายตามปรามสองพ่อลูกเล็กน้อย การพูดถึง ‘ผี’ใน ‘สุสาน’ไม่ว่าชนชาติใดก็รู้ว่าไม่ใช่การกระทำที่ฉลาดนัก

“แต่ต่อให้ชาวอียิปต์โบราณฉลาดเท่าไร ไอก็รู้ว่าพ่อไม่มีวันยอมแพ้หรอก”

“เออ”

“ไอจะรอวันที่พ่อแพ้น็อก”

“ยัยนี่!”

ไอยริณปิดปากโต้แย้งเพราะชักเริ่มระคายคอ ที่นี่สมเป็นดินแดนแห่งความตาย ทั้งร้อน แห้งแล้ง เหมาะกับการเก็บรักษาซากศพแต่เป็นอันตรายต่อชีวิต เธอเริ่มรู้สึกเหนื่อยอ่อนอย่างบอกไม่ถูกแต่ก็คิดว่าเพราะเธอเป็นผู้หญิงต่างจากพ่อและศาสตราจารย์เฮเกนที่เป็นผู้ชาย ร่างกายของเธอย่อมบอบบางอ่อนแอกว่าพวกเขาสองคนเป็นธรรมดา

แต่อย่าเลย เมื่อเธอเลือกเส้นทางชีวิตที่ต้องสมบุกสมบันเหมือนผู้ชายแล้ว เธอก็ไม่อาจอุทธรณ์หรือแสดงความอ่อนแอออกมาให้ใครต้องเป็นกังวล

หญิงสาวหันเหความสนใจจากตัวเองมาด้อมๆมองๆ พ่อที่กำลังทำตัวเหมือนเจ้าตุ่นจะมุดลงดิน เธอหัวเราะคิกเพราะพื้นเป็นหินอย่างนี้ถ้าพ่อของเธอไม่มีหัวเป็นลิ่มเหล็กคงมุดลงไปได้ยาก

“ทำไงถึงจะเปิดประตูได้เนี่ย” อรรณพปาดเหงื่อ “พวกอียิปต์ไม่เคยปิดตายสุสานเพราะคิดว่าสักวันจะต้องลุกเดินออกมา”

“มีแต่สถาปนิกที่ออกแบบสุสานนี้เท่านั้นที่รู้”

“ได้ข่าวว่าพวกนั้นจะโดนเชือดพวกแรก”

คนเป็นลูกหน้ามุ่ย “อียิปต์โบราณสมัยจักรวรรดิไม่ป่าเถื่อนขนาดนั้นหรอกน่า แล้วสถาปนิกก็เป็นคนมีการศึกษาซึ่งถือเป็นสมบัติล้ำค่าของอาณาจักรอียิปต์โบราณ ฟาโรห์ไม่ทำอย่างนั้นหรอก”

ศาสตราจารย์เฮเกนก้าวมาดู ใช้ไม้เคาะลงตรงประตูเบาๆแล้วเอียงคอ “ไม่น่าเป็นทางเข้า”

สองพ่อลูกมองหน้ากัน “หรือว่าทางที่เราลงมาถึงตรงนี้คือประตูหลอก”

ศาสตราจารย์ยืนยันข้อสันนิษฐานด้วยการพยักหน้ารับ ทั้งพ่อทั้งลูกล้มตึงอย่างหมดแรง เป็นสัญญาณของการพักผ่อนของคณะสำรวจหลังจากพยายามอย่างเปล่าดายติดต่อกันมาหลายชั่วโมง

“ขอถอนคำพูดที่ว่าโชคเข้าข้างเรา”

อรรณพถอนหายใจระทดท้อ“เราจะโดนไอ้กรีกนั่นหลอกอีกไหม”

ไอยริณเซ็งเป็ด “มีสุภาษิตโบราณกล่าวว่าพวกเชื้อสายครีตเป็นพวกขี้โกหกโดยสายเลือด” หญิงสาวมองรอบกาย “นี่เราก็ลงมาลึกมาแล้ว โดยปกติโครงสร้างของสุสานของหุบผากษัตริย์ ไม่มีใครสร้างสุสานลงมาลึกขนาดนี้หรอก เพราะด้านบนของภูเขานี้เป็นหินทรายที่แข็งแกร่งแต่ยิ่งลึกลงไปหินจะยิ่งเปราะและร่วน”

“คุณพูดถูก ไอ ในประวัติการค้นพบ เราไม่เคยลงมาลึกขนาดนี้เลย”

มืออวบอูมเหมือนก้อนขนมปังทาบเบาๆลงบนกำแพงเขียนสี ศาสตราจารย์เฮเกนยังคงมีความหวังทั้งที่เห็นทางตันอยู่ตรงหน้า “หินในภูเขาช่วงนี้ แข็งแกร่งอย่างเป็นพิเศษแตกต่างจากสุสานอื่นมาก ผมเชื่อว่ามันต้องเป็นหนึ่งในเส้นทางที่นำไปสู่ตัวสุสานแน่ๆ”

ไอยริณพยักหน้ารับ เธอเชื่อว่าข้อสันนิษฐานของศาสตราจารย์เฮเกนไม่ผิดพลาด เพียงแต่ตอนนี้เธอเหนื่อยจนไม่อยากคิดอะไรแล้ว

“อยากนอนจัง”

พ่อดึงเธอขึ้นมาก่อน “นอนเข้าไปได้ยังไง ฝุ่นทั้งนั้น!”

บัดดลที่หญิงสาวกระเด้งผึงขึ้นมา เธอหันรีหันขวาจนชายทั้งสองแปลกใจ “เป็นอะไรไป”

ไอยริณพยายามลำดับคำพูด เธอตื่นเต้นเหลือเกินกับข้อสันนิษฐานใหม่ที่ได้อย่างปัจจุบันทันด่วน

“ศาสตราจารย์คะ ความจริง ตรงนี้ก็ลึกมากแล้วนะคะ ไม่น่ามีฝุ่นหนาขนาดนี้ได้” เธอกอบเอาดินละเอียดขึ้นมาพินิจ “แล้วดูนี่สิคะ ฝุ่นพวกนี้ เป็นทราย!”

“หมายความว่า?”

“ค่ะ” นัยน์ตาของหญิงสาวเป็นประกายสุกใสราวดวงดาวอันเจิดจ้า “หมายความว่ามีคนเอามันลงมาไว้ที่นี่นะสิคะ!”

ศาสตราจารย์เฮเกนเข้าใจได้ทันที ตะโกนสั่งคนงานเป็นภาษาอาหรับ “เข้ามานี่ กวาดฝุ่นนี่ออกไปให้หมด!”

คนงานทั้งชาวกรีกและชาวอาหรับต่างรีบจัดการตามคำสั่ง ถึงแม้ว่าจะโดนคนเป็นพ่อลากตัวหนีละอองฝุ่นแต่ไอยริณก็ไม่ยอมไปไหนไกล สบโอกาสพ่อเผลอ เธอก็ไปช่วยเอาพู่กันขนนิ่มอันใหญ่ปัดๆฝุ่นออกจนตัวเองกระอักไอน้ำตาแทบไหล

เพราะอะไรนะ เธอถึงตื่นเต้นและเชื่อมั่นสุดชีวิตว่าข้อสันนิษฐานของเธอต้องถูก

หลังจากกวาดฝุ่นตั้งแต่หน้ากำแพงทางตันที่วาดรูปเหยี่ยวนกเขากางปีก ศาสตราจารย์เฮเกนใช้ไม้เคาะเบาที่พื้น แล้วอุทาน “ตรงนี้แหละ ตรงนี้!”

คนงานช่วยกันแงะเอาแผ่นหินตัดออก เบื้องหลังแผ่นหินปูนอายุกว่าสามพันปี ในที่สุดก็ได้พบพานกับประตูทองคำฝังหินสีที่สวยงามกว่าประตูที่แล้วมาหลายเท่า

“โอ..อเมน!” ศาสตราจารย์เฮเกนหลุดปากอุทานเหมือนคนอียิปต์โบราณไม่ผิดเพี้ยน “พระเจ้าเข้าข้างเราแล้ว!”

อรรณพถลาไปร่วมวงอีกคน พลางรัวชัตเตอร์ห้าทีติด “สุดยอด แค่ประตูสุสานยังสวยขนาดนี้”

ไอยริณวางมือลงสัมผัสรูปเหยี่ยวทะเลทรายขนาดมหึมา นั่นคือรูปจำแลงของเทพฮอร์ เทพพญาเหยี่ยวผู้พิทักษ์บัลลังก์และอำนาจของฟาโรห์

มีบางอย่างในใจเรียกร้องให้เธอกล่าวออกไป “เปิดเถอะค่ะ” เสียงของเธอสั่นเครือ “ได้โปรดเปิดออกเถอะ!”

เรียวแรงของเหล่าคนงานช่วยให้ความต้องการของเธอเป็นจริง ประตูถูกเปิดออกและภายในคือบันไดหินทอดยาว บันไดหินปูนที่ศาสตราจารย์เฮเกนบอกว่า “ตอนสร้างใหม่ๆมันเป็นหินอ่อน และดูจากสภาพแล้วน่าจะเป็นหินอ่อนสีชมพูที่สวยงามมากทีเดียว”

อรรณพครางลึก “ชาวอียิปต์โบราณ พวกเขาสร้างสุสานของคนคนหนึ่งปานสร้างวิหารให้เทพเจ้า”

นักปราชญ์วัยชราพยักหน้ารับ “เพราะเหล่าเชื้อพระวงศ์ในยุคอียิปต์โบราณ ในสายตาของประชาชน พวกเขาไม่ใช่คน แต่เป็นเทพเจ้าที่ไม่ได้เป็นอมตะ”

ไอยริณก้าวเดินลงไปแม้ภายในจะมืดมิดแต่เธอก็ไร้ความหวั่นกลัวจนอรรณพต้องตะโกนสั่งเป็นภาษาอาหรับให้นำคบไฟลงมาด่วน ศาสตราจารย์เฮเกนถือไฟฉายขนาดใหญ่ตามขบวนคบไฟลงมาติดๆ เมื่อคบไฟนับสิบถูกนำมาประจำที่จนขับไล่ความมืดมนออกไปจนหมดสิ้น คนทั้งหมดก็ถึงกับยืนนิ่งอึ้งตะลึงทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ

ภายในห้องนั้น แม้ยังไม่ใช่ห้องเก็บพระศพ เป็นเพียงโถงด้านหน้า แต่ความสวยงามของมันก็ทำให้ไอยริณน้ำตาเอ่อซึมออกมาอย่างไม่รู้ตัว

บนเพดานคือภาพวาดท้องฟ้าตามตำนานของอียิปต์โบราณ กายาแห่งเทพนารีนุทร่างสีน้ำเงินเข้มผู้สวมตาข่ายดวงดาวต่างเสื้อผ้า พาดร่างโค้งเหนือแผ่นดินคือเทพเกบ พระสวามี ผู้คนชาติต่างๆอาศัยอยู่ภายใต้ผืนฟ้านั้น ไม่ว่าจะเป็นชาวเอเชีย ชาวแอฟริกาและชาวอียิปต์ ต่างกำลังก้าวเท้าหันหน้าไปทางหนึ่งซึ่งจุดหมายแห่งสายตาคือดูอัตหรือปรภพ เรือเมเสสเตตของสุริยเทพกำลังโคจรจากทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก นำพาดวงวิญญาณไปสู่สถานที่พำนักวิญญาณก่อนเข้าสู่การพิพากษา ในระหว่างการเดินทางของสุริยเทพบางคราอาจถูกขัดขวางรบกวนโดยงูยักษ์อะเปป เมื่อมันโผล่หัวขึ้นมาจากท้องทะเล เทพฮอร์ผู้มีพระเศียรเป็นเหยี่ยวซึ่งสถิตอยู่ ณ หัวเรือจะต่อสู้กับมันเพื่อปกป้องสุริยเทพและวิญญาณของมวลมนุษย์

ผนังด้านหนึ่งเป็นภาพเทพีฮาเธอร์เสด็จมารับดวงวิญญาณมาสู่ที่พำนักของเทพโอสิริส สู่พิธีพิพากษาที่มีตุลาการเทพทั้งสี่สิบสองนั่งอยู่บนเก้าอี้ ถัดมาคือภาพเทพอนูบิสกำลังชั่งหัวใจของผู้ตายกับขนนกของเทวีมาอัต ข้างๆคือเจ้าสัตว์ประหลาดอัมมุท หากว่าวิญญาณดวงนั้นประกอบกรรมชั่วเมื่อครั้งมีชีวิต เช่น เคยฆ่าคน เคยตบตีพ่อแม่ เคยแตะต้องผ้าพันพระศพของกษัตริย์ผู้ไร้วิญญาณ ฯลฯ เมื่อวางหัวใจลงบนตาชั่งถ่วงน้ำหนักกับขนนกของเทวีมาอัต ตาชั่งจะไม่สมดุล เมื่อนั้นเจ้าอัมมุทจะกระโจนเข้าไปกินหัวใจของวิญญาณดวงนั้น แล้ววิญญาณของเขาจะต้องตกไปสู่ความมืดมิดชั่วนิจนิรันดร์ ไม่มีวันฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก

..ภาพวาดเหล่านั้นและอักษรเฮียโรกริฟฟิกที่เขียนเล่าเรื่องความเชื่อหลังความตายของชาวไอยคุปต์ล้วนมีสีสันสวยงาม สดใส ลายเส้นคม ตวัดอย่างองอาจ สมแล้วที่วาดในสมัยที่ศิลปะอียิปต์เฟื่องฟูถึงขีดสุด สีสันสดใสเหมือนเพิ่งวาดเมื่อวานมิใช่เมื่อสามพันกว่าปีที่แล้ว

“ถ้าได้เจออย่างนี้ ผมตายตอนนี้เลยก็ยังได้นะนี่” ศาสตราจารย์เฮเกนพึมพำ “ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ช่วยรักษาชีวิตของผมเอาไว้”

ผนังอีกด้านเป็นเรื่องของผู้ตายซึ่งคงเป็นทหารเพราะส่วนใหญ่มีแต่ภาพรบทัพจับศึก รูปเด่นสง่าคือรูปแม่ทัพแผลงศรบนรถศึกเทียมม้าสองตัวกำลังเผ่นโผนอย่างคึกคะนอง

บนเสาสี่เหลี่ยมค้ำหลังคาใจกลางห้องโถงกว้างมีภาพชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งกำลังได้รับการต้อนรับจากเทพีฮาเธอร์สู่แดนวิญญาณภายใต้ปีกแห่งการคุ้มครองของเทพีสองพี่น้องหรือเทพีเอเซ็ทและเทพีเนฟทิส

ไอยริณเหม่อมองชื่นชมภาพวาดเหล่านั้น แต่คนเป็นพ่อสนใจพัดขนนกขนาดใหญ่ห้าอันที่วางเรียงเป็นแถวยาวอยู่บนพื้น ขนนกกระจอกเทศถูกกาลเวลาย่อยสลายไปหมดแล้ว เหลือเพียงด้ามพัดยาวสีทองคำ มีภาพวาดแม่ทัพบนรถศึกและวงรีล้อมรอบพระนามที่ศาสตราจารย์เฮเกนจับแว่นเพ่งพิศอยู่สามนาทีจึงอ่านออก

“ฮอร์อาฮา เน็บมาทรา”

อรรณพเช็ดมือกับกางเกง ตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก “เราจะได้พบกับฟาโรห์ไหมนี่”

“อืม..ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ผมก็เชี่ยวชาญพิธีการจนพอจะพาคุณเข้าเฝ้าแทนราชวัลลภของพระองค์”

ชายทั้งสองหัวเราะกันแล้วหัวเราะค้างเมื่อผู้หญิงที่มาด้วยกันไม่ออกอาการขำ

“ไอ..”

ไอยริณกำลังตกตะลึง

เพราะขณะที่เธอกำลังกวาดสายตาชื่นชมจิตรกรรมงดงามของสุสานแห่งนี้ สายตาของเธอกลับถูกตรึงอยู่ที่ภาพชายหนุ่มรูปงามกับหญิงสาวนางหนึ่ง นางสวมชุดจับจีบสีขาวและประคองลูกนกห่านป่าอยู่ในมือ

นัยน์ตากลมโตสั่นระริก ถึงแม้ว่าภาพวาดตามขนบของชาวอียิปต์โบราณค่อนข้างหยาบและแข็ง แต่เธอก็แน่ใจว่าหญิงสาวบนกำแพงมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับเธอเหลือเกิน

“ทูอา”

เธอหันไปตามเสียงเรียก สิ่งที่เห็นคือผู้ชายร่างสูงแข็งแรง ผมถักเปียเส้นเล็กสีดำยาวถึงกลางหลัง อาภรณ์และเครื่องประดับของเขาทำให้เธอนิ่งอึ้งตะลึงและหวั่นไหวแทบหายใจไม่ออก หน้าผากกว้างคาดรัดเกล้าทองคำลวดลายดวงตาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง สายลูกประคำทองแนบขมับยาวเท่าความยาวของเส้นผม แผงคอทับทรวงทำจากทองคำลงยาลายขีดและลายกลีบบัวสายรวมห้าชั้น กลางอกประดับหินบะซอลต์รูปแมลงสคารับ อาภรณ์ส่วนบนเป็นเสื้อรัดทรงสีดำ อาภรณ์ส่วนล่างเป็นผ้าจับจีบแข็งคาดทับด้วยเข็มขัดหนัง ขายาว ปกปิดน่องด้วยแผ่นทองสัมฤทธิ์และรองเท้ารัดข้อสีทองคำ

“นางน้อยๆของข้า”

เขายิ้ม รอยยิ้มนั้นกระจ่างราวกับสุริยเทพยามฉายแสง สะกดให้เธอลืมสิ้นทุกอย่าง ไม่รับรู้อะไรนอกจากความปลาบปลื้มปีติที่ค่อยๆเอ่อล้นขึ้นมาจนเต็มอก

เธอก้าวเข้าไป มือสัมผัสมือ อุ่นไอแห่งชีวิตแผ่ซ่านและความรักเริ่มทอแสงเหมือนตะวันยามอรุณรุ่ง

“ฝ่าบาท..เจ้าชาย”

>>>>>>>>>คิดถึงเจ้าสร้อยกันบ้างไหมคะ มาราสซันิยากำลังแก้อย่างเมามัน ยังไม่ได้เขียนต่อเลยค่ะ อ่านนี่รอไปก่อนนะ บั๊บบาย




สร้อยดอกหมาก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ธ.ค. 2555, 20:36:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ธ.ค. 2555, 20:36:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 14141





<< กงล้อแห่งกาลเวลาเอย จงหมุนย้อนกลับ   
mhengjhy 5 ธ.ค. 2555, 22:15:02 น.
โอ๊ะ อาจารย์อรรณพ ไอจะไปแล้วค่ะ


gammyzaza 5 ธ.ค. 2555, 22:26:24 น.
โหยย มาให้อยากแล้วจากไปอีกละ อย่าจากไปนานนะคะคราวนี้


IAmJin 5 ธ.ค. 2555, 22:33:32 น.
ค้างอย่างแรง - -"


Setia 6 ธ.ค. 2555, 00:24:11 น.
อินแล้วเหลือเกินค่าาา อ่านแล้วเหมือนจะหลุดไปอยู่ในนิยายด้วย เจ้าชายจะหล่อแค่ไหนน้อออ //กรีดร้องเบาๆ


yayee62 6 ธ.ค. 2555, 00:37:43 น.
คิดถึงอย่างแรงค่ะ
ไปตามทวงในเฟสแล้วด้วย 555+ ได้ผล


Okuriumi 6 ธ.ค. 2555, 11:24:47 น.
เคยลงมาแล้วหรือเปล่าค่ะนี้


Zephyr 6 ธ.ค. 2555, 14:00:32 น.
อ้ะ เปิดมาไอก็จะไปซะแระ
เอาพ่อกะศาสตราจารย์ไปด้วยสิคะ 555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account