ทางเดินหัวใจ
เรื่องหนึ่งเรื่องเริ่มมาจากความฝัน อีกหลายเรื่องคืความผูกพันธ์
มีการพัฒนาอย่างเงียบๆ รอเพียงเวลาที่เหมาที่ควรเท่านั้น
แล้วความรกจะดำเนินต่อไป

Tags: ฝัน และ จริง

ตอน: จังหวะที่สาม ---------->>>>>คืนฝันอันแสนสุข

คืนนี้เป็นอีกคืนที่แดนไทยกับนรีมาคุยกันในฝัน นับวันทั้งสองจะดูสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆในความฝันเขาและเธอไปได้ในทุกๆที่ ทะเล น้ำตก ภูเขา หรือ ห้องนอนของดิว

“พี่ดิวตอนเด็กๆน่ารักมากเลยค่ะ”
นรีหยิบรูปแดนไทยมาดู ชมไม่หยุดยิ้มเล็กยิ้มน้อย อะไรนะทำให้เธอโชคดีขนาดนี้ได้ฝันถึงแดนไทยทุกคืน แถมบางเรื่องยังเป็นความจริงอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อได้ยินสาวน้อยพูดอย่างนั้นชายหนุ่มก็นึกอยากแกล้งขึ้นมา
“แล้วตอนนี้พี่ไม่น่ารักเหรอ”แดนไทยเดินมากระซิบที่หูของนรี สาวน้อยหน้าแดงตัวแข็งทื่อ“ว่าไงครับ”
“นะ...น่ารักสิคะ” นรีหันหลัง เกือบชนกับหน้าดิวที่ห่างไม่กี่เซน เขินสุดขีด “แล้ว...ก็”
“แล้วก็...”
ดิวเหมือนอยากจะแกล้ง ทำหน้าสงสัยยื่นหน้าเข้าใกล้สาวน้อยเข้าไปอีก ชายหนุ่มยิ้มทะเล้น เอาหน้าห่างออกมา คิดได้อย่างเดียวว่าเธอน่ารักมาก
“หล่อ...มาก...ด้วย”
กว่าจะหลุดมาได้แต่ละคำสาวน้อยพยายามแทบจะขาดใจ
“พี่เองก็ยากเห็นรูปของน้ำค้างตอนเด็กเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะน่ารักเหมือนตอนนี้ไหม”
ตึก ตึก ตึก
ใจสาวน้อยแทบระเบิด นี่ชายหนุ่มชมเธอว่าน่ารักเหรอ
“ไปบ้านน้ำค้างก็ได้ค่ะ”
เพียงแค่คิดห้องของแดนไทยก็เปลี่ยนเป็นห้องของนรีห้องที่มีแต่สีชมพู คริตตี้ และรูปของแดนไทย ชายหนุ่มยิ้มแก้มแทบแตกที่เห็นห้องของสาวน้อยมีแต่รูปเขา
เธอคนนี้ชอบเขาถึงขนาดเอารูปบานใหญ่ แล้วยังมีรูปเล็กๆอีกหลายใบเต็มห้อง
แดนไทยเดินสำรวจไปรอบๆห้องของสาวน้อยมีรูปเด็กผู้หญิงที่ตัดผมเหมือนเด็กผู้ชายอุ้มเด็กทารกอยู่ ชายหนุ่มเดินไปหยิบรูปนั้นมาดู หันไปหาเจ้าของห้อง
“พี่น้ำตกกับน้ำค้างค่ะ น่ารักรึเปล่าคะ”
“เด็กผู้ชายเหรอ อาจารย์นายตอนเด็กๆนี่เหมือนผู้หญิงมากเลย น้ำค้างเองก็น่ารักดีนะแต่พี่ว่าตอนนี้น้ำค้างน่ารักกว่า”
สาวน้อยหน้าแดงอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ‘บ้าๆๆๆ ทำไมชอบทำให้น้ำค้างใจเต้นแรงแบบนี้นะ’
เอ๊ก อี เอ๊ก เอ๊ก
แดนไทยกับนรีมองไปทางหน้าต่าง แสงสีทองของดวงอาทิตย์ส่งเข้ามาในห้องแล้ว ทั้งสองคนมีสีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด ‘ผมยังไม่อยากตื่นเลยครับ’
“เช้าแล้วค่ะ น้ำค้างต้องตื่นแล้ววันนี้น้ำค้างจะต้องสอบด้วย”
“เหรอ อืม...ตั้งใจสอบนะครับ”แดนไทยเสียดายที่จะต้องตื่นแต่ก็ใช้ความไวหอมแก้มสาวน้อยด้วย
“O///O”
นรียืนอึ้งเขินที่สุด ใจเต้นแทบหลุดออกจากอก
“แล้วพี่จะรอน้ำค้างมาเรียนมหา’ลัยเดียวกัน”แดนไทยยิ้มอบอุ่น แสงสีขาวสว่างวาบ
นรีลืมตาขึ้นมาบนที่นอน หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด ‘คนบ้า...แต่ก็น่ารักดีนะ’

“ดิวเธอจะนอนอีกแล้วเหรอ”การดาโวยลั้นห้องนอนแดนไทย มองไปที่นาฬิกาที่ติดที่ฝาผนัง “สองทุ่ม เธอมีปัญหาอะไรรึเปล่า”
“เปล่านี่เจ้ เจ้ออกไปแล้วล็อกห้องให้ผมด้วยล่ะ ฝันดีนะเจ้”
การดาเดินออกจากห้องไปอย่างงงๆ
“ฉันจะปล่อยให้เธอเป็นแบบนี้ไม่ได้ รายได้ของฉันจะต้องเอาไปเลี้ยงเด็กอีกนะ โธ่เด็กๆของฉัน”
การดาเดินบ่นไปตลอดทาง งานของแดนไทยเริ่มจะเสียแล้วเพราะเขาสั่งเจ้ไก่เลิกรับงานหลังหนึ่งทุ่มเด็ดขาด จนต้องเสียรายได้ไปไม่น้อย เธอคงต้องเคลียร์กับแดนไทยให้ได้


“พี่ดิว”นรีเรียกแดนไทยที่เพิ่งลุกขึ้นมาในฝัน เธอมักจะรีบนอนแล้วมาโผล่งที่ห้องแดนไทยก่อนเสมอเลยทำให้เห็นแดนไทยตอนที่ยังไม่นอนด้วย “เจ้ไก่เขาดูไม่พอใจเลยค่ะ”
สาวน้อยมีสีหน้ากังวนกลัวตัวเองจะทำให้แดนไทยเดือดร้อน ผิดกับแดนไทยที่ไม่ได้คิดอะไร ยิ้มมองหน้านรีดึงเธอมานั่งตัก นรีเขินใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ไม่ต้องคิดมาก วันนี้สอบเป็นไงบ้างครับ”
นรีหันมาตอบ แอบดีใจที่แดนไทยใส่ใจเธอ
“ก็ดีคะ น้ำค้างทำได้ทุกวิชาเลยคะ”

แดนไทยมองหน้านรีหลุดยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา แล้วหอมแก้มสาวไปหนึ่งที นรีอึ่งพูดไม่ออกใจเต้นรัวจนเจ้าตัวแทบทนไม่ไหว
“นี่คือรางวัลสำหรับคนเก่งของพี่ครับ”นรียังนิ่งไม่ตอบ มองปากของแดนไทย ฝ่ายแดนไทยเองคิดว่าเธอคงโกรธเขาแน่ๆที่หอมแก้มเธอ ความจริงเธอก็ไม่ได้โกรธแต่ก็ไม่ได้ชอบที่เขาฉวยโอกาสแบบนี้ แต่ที่เธอนิ่งไม่ตอบเพราะสติเธอหลุดไปแล้ว “น้ำค้างโกรธพี่เหรอ”
นรีได้สติเด้งตัวขึ้นมาจากตักของแดนไทย เธอเองก็กลัวที่จะอดใจจูบปากของแดนไทยไม่ได้ ‘ปากพี่ดิวน่าจูบมากไปแล้ว’พอคิดได้หน้านรีก็แดงกว่าเดิมอีก จนทำให้แดนไทยคิดว่านรีต้องโกรธเขาจริงๆแน่ โกรธจนหน้าแดงขนาดนี้
“พี่...พี่ดิวพูดว่าอะไรนะคะ น้ำค้างไม่ได้ฟัง”
“อ้าวไม่ได้ฟังที่พี่พูดหรอกเหรอ ฟู่!!!”
แดนไทยพ่นลมหายใจออกมาอย่าโล่งอก ‘ดีนะที่เธอไม่ได้โกรธ แต่ถ้าเราเกิดทำอะไรที่มองกว่าหอมแก้วขึ้นมาเธอจะโกรธเราไหม’
“พี่ดิวเป็นอะไรรึเปล่าคะ”
“เปล่าครับเปล่า”แดนไทยคิดได้ว่าเขาได้เพลงใหม่มาเพลงที่แต่งเพื่อเธอคนนี้ เขาเลยเดินไปที่ข้างห้องที่มีกีตาร์ตัวโปรดของเขาวางอยู่ ดิวถือกีตาร์มานั่งที่เตียงข้างๆน้ำค้าง “พี่เพิ่งได้เพลงใหม่มาเดี๋ยวเล่นให้ฟัง”
“จริงเหรอคะ”
นรีตื่นเต้นที่จะได้ฟังเพลงใหม่ของแดนไทย นั่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจจนแดนไทยอดที่จะยิ้มไม่ได้ ‘ก็น่ารักแบบนี้จะไม่ให้พี่หลงได้ไง’
ชายหนุ่มดีดกีตาร์พร้อมกับร้องเพลงใหม่ที่เขาเพิ่งได้มา จังหวะเพลงเป็นป๊อปสนุกๆ

“อยู่คนเดียว มานาน คิด มานาน
ว่าต้องหาใคร สักคน มาเข้าใจ
แต่ก็ยังไม่มี ใครที่ตรงใจ...”
แดนไทยส่งตาหวานมาให้นรี เขาต้องการจะสื่อความมาในท่อนต่อไปมาให้เธอ แต่หารู้ไม่ว่าสาวน้อยไม่ได้ฟังเนื้อหาของเพลง
“พอวันนี้ที่ได้เจอเธอ ฉันเลยอยากหยุดหัวใจ
ไม่คิด...จะมองหาใคร ฉันรู้แล้วว่าต้องเป็นเธอ ฮู ฮู้
แต่งงานกันนะ แต่งงานกันได้ไหม
อยู่คนเดียวไม่ไหว เมื่อได้พบเธอ
แต่งงานกันนะ อย่าให้ฉันต้องเพ้อ
เพราะฉันรักเธอ รักเธอเพียงคนเดียว
อยากให้เธอมองตากันได้ไหม อยากให้เธอรู้ว่ารัก
รักเพียงเธอ ไม่มองหาใคร ไม่คิดว่าจะเจอใคร...
พอวันนี้ที่ได้เจอเธอ ฉันเลยอยากหยุดหัวใจ
ไม่คิด...จะมองหาใคร ฉันรู้แล้วว่าต้องเป็นเธอ ฮู ฮู้
แต่งงานกันนะ แต่งงานกันได้ไหม
อยู่คนเดียวไม่ไหว เมื่อได้พบเธอ
แต่งงานกันนะ อย่าให้ฉันต้องเพ้อ
เพราะฉันรักเธอ รักเธอเพียงคนเดียว…
อย่าให้ฉันนั้นเพ้อ...รักเธอเพียงคนเดียว....”
เพลงจบลงน้ำค้างตบมือชอบใจ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เข้าใจความหมายสักเท่าไร เธอจะรู้ไหมว่าเขาอุตส่าห์ไปให้พี่นักแต่เพลงแต่งเพลงนี้มาให้เธอ
“เพราะมากเลยค่ะ”

“จะปล่อยในวิทยุอาทิตย์หน้า ยังไม่ได้อัดเลยนะจะอัดพรุ่งนี้แหละ น้ำค้างได้ฟังคนแรกเลยนะ”แดนไทยยื่นหน้าไปข้างหูน้ำค้าง “ชอบไหมครับ”
“ชะ...ชอบค่ะ”
ตึก ตึก ตึก
สาวน้อยหันหน้าหนี‘ให้ตายสิ ทำไมพี่ดิวชอบทำให้น้ำค้างต้องใจเต้นแบบนี้ด้วย ใจละลายรอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย’

เช้านี้นรีตื่นสายอีกตามเคย แต่ก็โชคดีที่บ้านเธออยู่ใกล้โรงเรียนเธอจึงเข้าสอบวิชาแรกได้ทัน แต่อาการร่าเริงจนเกินเหตุของเธอก็เรียกความสนใจของมยุราได้ดี จนถึงเวลาพักกลางวันเธอจึงต้องเอ๋ยถามเพื่อน
“น้ำค้างดูมีความสุขจังนะ”
“อืม”นรีตอบยิ้มๆ “ใกล้จะปีใหม่แล้วน้ำค้างจะมีเวลานอนมากขึ้น”
“น้ำค้างยังฝันถึงพี่ดิวอยู่อีกเหรอ”
มยุราคิดแล้วว่าที่นรีฝันถึงแดนไทยทุกวันแบบนี้มันจะดีอยู่รึเปล่า
“ใช่ แล้วฝันของน้ำค้างก็ตรงกับความจริงทุกครั้งเลยนะ”
นรีเพ้อไม่หยุดจนมยุราเริ่มมั่นใจในความคิดที่ว่าการที่นรีฝันเห็นแดนไทยทุกวันแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีอีกต่อไปแล้ว
“น้ำค้าง”
เสียงเรียกของใครบางคนทำให้นรีกลับมาสู่ความจริง เธอหันไปมองตามเสียงเรียกแล้วเห็น ‘กัตพงศ์’ เพื่อนผู้ชายร่วมห้องเรียนของเธอ
“มีอะไรเหรอกันย์”
นรีหันมาถามอย่างสงสัย กัตพงศ์ไม่รอช้ารีบเดินมานั่งข้างๆนรี จะว่าไปกัตพงศ์ก็เป็นอีกคนที่สนิทกับนรีมากและก็เป็นลูกค้าประจำของร้านแม่ดวงใจด้วย
กัตพงศ์ เป็นเด็กหนุ่มที่หล่อใช้ได้ถึงจะผิวคล้ำไปสักหน่อย เพราะเขาเป็นคนภูเก็ตที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้สามสี่ปี ส่วนสูง 185 เซนติเมตร จึงทำให้เขาเป็นนักบาสเก็ตบอลของโรงเรียน และก็เป็นขวัญใจของสาวๆเกือบทั้งโรงเรียนด้วย
“คือวันหยุดปีใหม่น้ำค้างว่างไหม”
“ก็...”นรีอยากจะปฏิเสธแต่ก็แอบเกรงใจเพื่อน “น้ำค้างต้องช่วงแม่ทำงานเหมือนเดิมนั้นแหละ ว่าแต่กันย์ถามทำไมเหรอ”
“ที่บ้านเราเขาจะกลับไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าที่ภูเก็ตกัน เราก็เลยจะชวนน้ำค้างไปเปิดตัว”
“ห๋า/ห๋า”
นรีกับมยุราร้องด้วยความตกใจกับคำว่า ‘เปิดตัว’
“เราพูดอะไรผิดเหรอ”คนพูดยังทำหน้าไม่รู้เรื่อง “ล้อเล่นน่ะ ว่าแต่ว่างไหมชวนลูกโป่งด้วย พี่น้ำตกด้วย”
คนล้อเล่นยังหน้าละรื่นแต่คนฟังอย่างนรีถึงกับพูดไม่ออก
“ถ้าน้ำค้างไปลูกโป่งก็ไป น้ำค้างไปไหม”
ลึกๆแล้วมยุราเองก็อยากไปบ้านกัตพงศ์อยู่เหมือนกันเพราะได้ข่าวว่าบ้านกัตพงศ์ติดทะเล และเธอเองก็ไม่ได้เที่ยวทะเลนานแล้ว ฝ่ายนรีเองก็ลังเลเพราะรู้ว่ามยุราคงจะอยากไป
“นะๆไปเถอะเรายากให้น้ำค้างไปเป็นเพื่อนนะ พวกเฮียก็พาเพื่อนๆไปเราเองก็ไม่ค่อยมีเพื่อนมีไอ้ตูนไปคนเดียวเอง”
กันตพงศ์ลุ้นสุดใจ อยากให้นรีไปบ้านเขา เขาอยากให้เธอเห็นความเป็นอยู่ของเขา ก่อนที่เขาจะปฏิบัติภารกิจของหัวใจในวันข้างหน้า
นรีมองสายตาอ้อนๆของกัตพงศ์กับมยุราก็ต้องใจอ่อนทั้งที่จริงก็ไม่ได้ยากไปเลยสักนิด แต่คิดอีกทีอยู่ที่ไหนก็คงจะฝันได้ละมั่ง
“ต้องขอแม่ดูก่อนนะถ้าพี่น้ำตกไม่ไปแม่คงไม่ให้น้ำค้างไปหรอก”
นรีตอบเลี่ยงแต่กัตพงศ์ยิ้มกริ่ม ‘ว่าแล้วน้ำค้างต้องตอบแบบนี้เราก็เลยไปชวนพี่น้ำตกไว้แล้ว’

“ดิว”การดาตีหน้าเข้มใส่แดนไทย วันนี้เธอต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่องให้ได้ “เดือนหนึ่งแล้วนะที่เธอเอาแต่นอนตลอดเวลา งานของเธอจะเสียนะรู้ไหม”
ในที่สุดการดาก็หมดความอดทนเรียกแดนไทย มาคุยอย่างเปิดอก
“ก็ไม่เห็นเสียเลยนี่เจ้”
คนผิดยังเถียงคอเป็นเอ็น แต่ที่จริงเขาก็รู้ว่าเขาทำให้เจ้ไก่ต้องเสียรายได้ไปไม่น้อย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
เรื่องรายได้อยู่แล้ว ที่เขามาเป็นนักร้องเพราะเขาชอบร้องเพลงของแค่ได้ร้องเพลงก็พอ
“รายได้เดือนนี้ลดไปเกือบครึ่ง ไม่ได้เจ้จะไม่ยอมเธอแล้ว”
แดนไทย ทำหน้าเบื่อโลก เขาคิดไว้แล้วว่าคนอย่างการดาไม่กลัวเรื่องเสียงงานหรอก แต่จะกลัวเรื่องเสียเงินมากกว่า
“แล้วเจ้จะเอาไง”
“ฮึๆ”การดาหัวเราะในลำคอ ยิ้มเจ้าเล่ “แน่นอน ฉันจะพาเธอไปอังกฤษ”
“อังกฤษ!!!”
“ใช่ เมื่อเช้ามีเพื่อนเจ้โทรมาว่ามีคนไทยที่นั้นอยากให้เธอไปโชว์ตัว เงินเพียบ”
เงินนี่ล่ะที่เป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้การดารับงานนี้ทันที
แดนไทย คิดหนัก เขาจะทำยังไงดีที่จะไม่ต้องไป ถ้าไปถึงที่นู่เขาจะได้ฝันถึงนรีไหม
“เจ้แน่ใจเหรอ ค่าเครื่องบิน ค่ากินค่าอยู่ ไม่ใช่น้อยๆนะเจ้”
“ไม่ต้องห่วง”การดายังยิ้มไม่หุบ ก้มหน้าไปหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋าถือ “ตั๋วเครื่องบินไปกลับ นี่เงินที่เขาโอนมาให้ และทางนั้นเขาบอกจะออกทุกอย่างให้”
“ไปเมื่อไร”
“วันนี้ เดี๋ยวนี้”
“ห๋า!!!!!!!!!!!!!!!!!!”



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ธ.ค. 2555, 11:07:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 พ.ค. 2559, 14:56:28 น.

จำนวนการเข้าชม : 967





<< ก้าวที่สอง ------> บังเอิญว่ามันเหมือนกับความฝัน   หนทางที่สี่ ---->>ในวันที่เราต้องไกลห่าง (หัวใจหวั่นไหวและเคว้งควาง) >>
เพียงใจกล้า 10 ธ.ค. 2555, 11:11:22 น.
ช่วยคอมเม้นกันหน่อนน้า ขอบคุณค่ะ


golffee 10 ธ.ค. 2555, 13:13:06 น.
บรรยายความรู้สึกตัวละครให้มากกว่านี้หน่อยนะคะ บางครั้งบทสนทนาและก็การกระทำอย่างเดียวอาจทำให้อ่านแล้วไม่อินได้ค่ะ
โอเคนะคะ โดยรวมนอกนั้นก็สนุกดี น่ารักดี กุ๊กกิ๊กกัน ^^


เพียงใจกล้า 10 ธ.ค. 2555, 18:17:56 น.
ว้าว คอมเม้นแรกในชีวิต ขอบคุณมาก จะปรับปรุงคร้าาา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account