เล่ห์รักเกมหัวใจ
มีน เขาถูกว่าจ้างให้หักอกเธอ "อลินา" ที่คนว่าจ้างบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงร้ายกาจ
อลินา ถูกว่าจ้างให้ดักหลังผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ อย่าง"มีน" ที่ไม่ยอมสยบให้หญิงใด
เมื่อ แผนถูกซ้อนเป็นชั้นๆเหมือนขนมที่แสนหวาน กับดักที่พันจนวุ่นวาย
หมายเหตุ เรื่องนี้เขียนสดๆ ดังนั้นอาจจะมีเนื้อหาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงภายหลังค่ะ
อลินา ถูกว่าจ้างให้ดักหลังผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ อย่าง"มีน" ที่ไม่ยอมสยบให้หญิงใด
เมื่อ แผนถูกซ้อนเป็นชั้นๆเหมือนขนมที่แสนหวาน กับดักที่พันจนวุ่นวาย
หมายเหตุ เรื่องนี้เขียนสดๆ ดังนั้นอาจจะมีเนื้อหาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงภายหลังค่ะ
Tags: เล่ห์รักเกมหัวใจ คีตา ณิชนิตา
ตอน: บทที่ ๑๓ ยกโทษ
บทที่ ๑๓
ม่ายสาวถึงกับนั่งไม่ติดหลังเหตุการณ์นั้น ลิษาไม่เคยทำสายตาแบบนั้นกับใครมาก่อน มีนเป็นชายหนุ่มคนแรกที่ทำได้ มันน่าห่วงจนเธอเก็บอาการไม่อยู่เลยด้วยซ้ำ ไม่มีทางที่เธอจะยอมให้ลิษาตกหลุมพรางของมีนอย่างแน่นอน
“ลูกไปรู้จักผู้ชายคนนั้นได้ยังไง” คำถามนั้นตั้งขึ้นหลังจากที่กลับมาถึงบ้าน ลิษาหันกลับมาหาแม่พร้อมกับยิ้มหวานแสดงออกถึงความชื่นชมอย่างชัดเจน
“อ๋อ ก็เขาเป็นช่างภาพให้ษาไงคะคุณแม่ เขาเท่ห์ดีนะคะแม่ว่าไหม” คำตอบของลิษาทำเอาผู้เป็นแม่ถึงกับสะอึก
“แม่ไม่เห็นว่ามันจะเท่ห์ตรงไหน หยุดนะ อย่าคิดไปรักไปชอบผู้ชายคนนั้น แม่สั่งห้ามไว้เลย”
“ทำไมละคะ คุณมีนก็ไม่เห็นจะมีอะไรที่แปลก”
รตีถอนหายใจยาว เธอคงต้องรีบบอกลูกสาวไว้ก่อนเรื่องมันจะลามไปมากกว่านี้ ตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมดีกว่า
“เขาเป็นลูกชายของคุณกิตติธร ลูกอาจจะจำเขาไม่ได้เพราะไม่เคยเจอหน้ากัน ตอนนี้เขากลายเป็นหนุ่ม...” รตีกลืนคำว่าน่ากลัวลงไปในลำคอ สายตาโกรธเกลียดนั้นช่างติดตาตรึงใจเธอมาตลอด ในวันที่เธอไล่เขาออกจากบ้าน มีนปักใจเชื่อว่าเธอทำร้ายพ่อของเขา แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เธอไม่เคยทำร้ายกิตติธร หากแต่เธอต้องทำเพื่อลูก เงินเหล่านั้นสมควรเป็นของเธออยู่แล้วนี่ ที่สำคัญเธอให้เงินกับมีนไปเกือบสองล้าน ซึ่งมันก็น่าจะพอใช้หากเขาไม่ทำตัวมือเติบ
“ลูกชายคุณลุงกิตติ มันก็ไม่แปลกอะไรไม่ใช่เหรอคะ” แม้จะนิ่งอึ้งไปบ้างแต่ลิษากลับปรับเปลี่ยนสีหน้าใหม่ดุจดังไม่ได้ยินสิ่งอะไรผิดแปลก
“นี่แกแกล้งไม่รู้หรือยังไงกันแน่ เขาอาจจะคิดแก้แค้นแม่อยู่ก็ได้”
“ก็ไหนแม่บอกว่าแม่ไม่ได้ทำอะไรคุณลุงกิตติไม่ใช่เหรอคะ แล้วจะกลัวทำไม”
“ลิษา!!” น้ำเสียงอันดังอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทำให้ ลิษาเริ่มขัดใจ มองแม่ด้วยแววตาตื่น
“ษากับเขาเพิ่งรู้จักกันโดยที่เขาไม่รู้ว่าแม่เป็นแม่ของษา ษาเชื่อว่าเขาจริงใจค่ะ แล้วถ้าหากเขาจะเข้ามาแก้แค้นจริง ษานี่แหละค่ะจะเป็นคนทำให้เขาเลิกคิดแบบนั้นแล้วหลงรักษาจนทำอะไรไม่ได้ ษาชอบเค้าค่ะแม่ แล้วษาก็ไม่มีทางจะปล่อยเขาไปง่ายๆ”
สิ่งที่บุตรสาวกล่าวออกมาทำให้รตีตกใจ เพราะเธอเลี้ยงลิษามาด้วยความรัก จึงไม่เคยแม้แต่ห้ามปรามอะไรสักครั้ง พอถึงคราวที่เธอจะห้าม ลิษากลับกลายเป็นไม่ยอม น้ำเสียงและท่าทางมั่นอกมั่นใจนั้นยิ่งทำให้เธอหวั่นวิตก อย่างมีนที่เกลียดเธอยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้นน่ะหรือจะหลงรักลูกสาวของเธอ ไม่มีทาง!!
อลินาก้าวออกมาจากห้องสิ่งที่เธอเห็นจนชนตามมาร่วมเดือนแล้วก็คือ ถุงขนมปังหน้าห้อง เขาทำอย่างนี้มาตลอด บางครั้งเธอก็ได้เห็นรถของเขาจอดในลานจอดรถแต่ไม่ยอมลงจากรถจนกว่าร้านจะปิดและไฟในห้องของเธอเปิดสว่างขึ้น บางครั้งเธอก็นึกเห็นใจเขาแต่บางครั้งเธอก็นึกโกรธอยู่เช่นกัน
เสียงประตูร้านเปิดออกพร้อมกับร่างของมีน นานแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขาแบบจังๆ เขาสบตาเล็กน้อยก่อนจะเลี่ยงเดินขึ้นบันไดไปยังห้องส่วนตัว อลินาเงยหน้าขึ้นไปมองแก้วที่อยู่บนชั้นสูงสุดก่อนจะเอื้อมขึ้นไปหยิบมันอย่างระมัดระวัง ทว่ามือของใครบางคนมาช่วยหยิบให้เพราะคิดว่าเธอดูลำบากกับการกระทำเหล่านั้นเหลือเกิน
“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวแผ่วเบารับแก้วเหล่านั้นมาไว้
“พี่กลับมาเอาของน่ะ เดี๋ยวก็จะออกไปแล้ว” เขาบอกเหตุผลแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ไถ่ถามอะไรก็ตาม “เออ เรื่องเที่ยวพักร้อนประจำปี พี่บอกพัชแล้วนะว่าไม่ไป อลิสไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะได้เจอหน้าพี่ให้กระอักกระอ่วนใจ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ไม่ต้องทำเพื่อนอลิสหรอก พี่อยากไปหรือไม่ไปมันก็เรื่องของพี่”
“พี่ไม่อยากให้อลิสลำบากใจ พี่ไม่ไปดีกว่า”
“พี่มีนไม่ต้องทำแบบนี้หรอกค่ะ ทำตามที่พี่อยากทำเถอะ อดีตมันก็คืออดีต ปล่อยมันไปเถอะค่ะ” อลินากล่าวน้ำเสียงเบาก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อล้างแก้วส่วนที่ถือไว้นั้น มีนเดินตามเข้ามาในครัวพิงลำตัวที่ประตูจ้องมองหญิงสาวเงียบๆ ด้วยความประหลาดใจ
“อลิสเลิกโกรธพี่แล้วเหรอ”
“เปล่าค่ะ แต่เพราะพี่พัชเล่าเหตุผลให้ฟังแล้ว อลิสพอทราบว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัย”
“ไม่หายโกรธแต่ยอมให้พี่เห็นหน้า ยอมให้พี่ไปเที่ยวด้วย ก็โอเคนะ” เขากล่าวสีหน้ายิ้มๆ “แล้วที่โกรธนี่เพราะอะไรล่ะ ไหนว่าเข้าใจแล้ว”
“มันนานแล้วนะคะพี่มีน ความรู้สึกที่พี่ทิ้งไว้ มันนานมากแล้ว อลิสไม่รู้ว่าถ้าเราคืนดีกันแล้วมันจะมีอะไรแตกต่างจากเดิม ในเมื่อก่อน เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนอกจากรุ่นพี่กับรุ่นน้อง”
“คิดว่าพี่จะไปตามนัดเพราะอยากเป็นแค่รุ่นพี่เท่านั้นเหรออลิส เด็กมาก...ไว้พี่จะอธิบายอีกทีว่าอยากเป็นอะไร วันนี้พี่รีบ ขอบคุณที่ยอมให้โอกาสพี่อีกครั้งนะ”
คำว่าเด็กมากนั้นทำให้หญิงสาวตวัดสายตาจ้องมองคนพูด เธอเด็กที่ไหนกัน...
ลิษานั่งเช็กความเรียบร้อยบนใบหน้าระหว่างที่จอดรถดักรอชายหนุ่ม เธอเหลือบมองประตูตึกสำนักงานของมีนเป็นระยะ จนเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งของเขาออกมาจากตึกใหญ่นั้นเธอจึงลงจากรถ
“สวัสดีค่ะคุณมีน”
มีนหัวขวับกลับมามองคนทักทาย คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความประหลาดใจ “สวัสดีครับ คุณษามาทำธุระแถวนี้เหรอครับ”
“เปล่าค่ะ มาหาคุณมีนโดยเฉพาะเลย นึกอยากชวนคุณไปเที่ยวน่ะค่ะ แต่คุณไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย”
“อ๋อ ผมติดประชุมน่ะ” ปดไปทันทีที่เธอเอ่ยถามกลายๆ เขาตั้งใจไม่รับเลยต่างหาก ลองให้เธอกระวนกระวายใจบ้าง หลักการง่ายๆ ที่ใช้เวลาหย่อนเบ็ดลงสระแล้วมันก็ได้ผลทุกครั้งไป
“งั้นเราไปหาที่คลายเครียดกันดีกว่าไหมคะ” เธอกล่าวอย่างเอาใจ ใบหน้างามดูสดใสร่างเริงจนมีนอดที่จะยิ้มออกมาด้วยไม่ได้
“โอเคครับ เดี๋ยวผมขับรถตามไป จะได้ดูคุณขับรถคอยระวังหลังให้ยังไงล่ะ” มีนยิ้มก่อนจะเปิดประตูรถของตัวเองแต่มือบางเลือกที่จะคว้าแขนเขาไว้ก่อน
“ทำไมต้องไปคนละคันด้วยละคะ ไปด้วยกันสิ นะคะ ไปรถษาส่วนรถคุณจอดไว้ที่นี่แหละ” เธออ้อนทั้งน้ำเสียงและดวงตา มีนเหลือบมองมือสวยทั้งคู่ที่เกี่ยวต้นแขนเขาไว้แน่น
“ครับ ดีเหมือนกัน” แม้จะกล่าวไปอย่างนั้นแต่ใจหนึ่งแล้วมีนตื่นเต้น แม้จะเคยเจอผู้หญิงมามากแต่ผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์อย่างลิษาก็หายากด้วยเช่นกัน เธอไม่ได้เลวร้ายนักหรอกเมื่อเทียบกับแม่
พัชระกำลังจัดการเตรียมติดป้ายประกาศเรื่องการหยุดของร้าน ประวีย์เดินเข้ามาช่วยจัดเก็บของบางส่วนให้เข้าที่ อลินาเดินทางไปซ้อมเก็บตัวที่พัทยาเรียบร้อยแล้ว เขาไม่มั่นใจในสิ่งที่อลินาคิด เธอยอมรับและให้อภัยมีนได้จริงมันก็น่าดีใจ
“ตกลงพี่มีนจะไปกับเราด้วยไหมครับพี่พัช” ประวีย์หันมาถามเมื่อนึกเรื่องเที่ยวขึ้นมาได้ พัชระพยักหน้ารับ
“แต่เขาจะแยกไปเพราะติดงาน”
“ดีจังครบทีม ตอนแรกทำไมบอกไม่ไปก็ไม่รู้นะ ช่วงนั้นพี่มีนดูเศร้าๆ ด้วยอกหักหรือเปล่าแต่...อย่างพี่มีนนี่คงไม่อกหักหรอกมั้งมีแต่หักอกเขา”
“อย่ามองอะไรเพียงด้านเดียวสิวีย์ ชีวิตเราไม่มีใครอยู่ได้โดยไม่รู้สึกรักใครสักคนหรอก บางทีคนที่เจ็บปวดเพราะรักมากที่สุดอาจจะเป็นมีนก็ได้”
ประวีย์พยายามที่จะเข้าใจสิ่งที่พัชระสอน ตั้งแต่ทำงานที่เรดคลับมาเกือบสามปี พัชระเปรียบดังพี่ชายและเจ้านายไปในตัว สอนทั้งเรื่องงานและเรื่องชีวิตแต่น่าแปลกที่เขาไม่มีใครเลย ไม่เคยเห็นคนรักของเขาเลยสักครั้ง
ลิษานั่งจ้องแก้วน้ำในมือระหว่างที่มีนขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ดวงตาสวยนั้นเคร่งขึ้นมาด้วยความรู้สึกบางอย่าง จนเมื่อเห็นร่างสูงของเขาเดินกลับมา เธอจึงปรับสีหน้าเป็นยิ้มแย้ม เขาทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับหญิงสาว ยิ้มกลับ
“วันนี้มีอะไรพิเศษหรือเปล่าครับถึงได้มาชวนผมเที่ยวถึงที่ทำงาน”
“ก็...ไม่ถือว่าพิเศษหรอกนะคะ ษาแค่มีเรื่องอยากคุยกับคุณมีน”
“เรื่องอะไรหรือครับ” มีนจ้องเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย เขารู้สึกแปลกตั้งแต่ขับรถมาที่ร้านอาหารนี้แล้วว่าลิษามีความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง และคิดว่านั่นคงเป็นเพราะเหตุการณ์ในงานเลี้ยง แม่เลี้ยงเขาคงไม่ปล่อยให้ลูกสาวกลับมาชอบเขาอย่างแน่นอน ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า ลิษา จะคิดอย่างไรเท่านั้นเอง
“คุณแม่บอกว่าคุณมีนเป็นลูกของคุณลุงกิตติธร” เธอเกริ่นเรื่อง สีหน้ามีนนั้นเหมือนไม่แปลกใจกับสิ่งที่เธอกล่าวออกมาสักนิด
“ครับ” เขารับคำง่ายๆ รอฟังสิ่งที่หญิงสาวจะพูดต่อไป
“คุณมีนรู้เรื่องนี้ก่อนที่จะมารู้จักษาหรือเปล่าคะ”
“ครับ”
“หมายความว่าคุณมีน...ตั้งใจมาแก้แค้นคุณแม่จริง ๆน่ะเหรอคะ” เมื่อจบคำถามสีหน้าที่ลิษาคาดว่าจะได้เห็นคือ ใบหน้าซีดๆ ของชายหนุ่ม ทว่าเขากลับยิ้มกว้างออกมาแถมด้วยอาการหัวเราะในลำคอ
“เปล่าครับ ผมอาจจะดูเหมือนโกรธคุณแม่ของคุณษา แต่จริง ๆ แล้วผมไม่ได้คิดเรื่องนี้มานานแล้วครับ ในเมื่อเราต่างคนต่างอยู่ในที่ของตัวเอง ผมเคยคิดว่าเราคงไม่มีทางได้เจอกันอีกไม่นึกว่าโชคชะตามันจะเล่นตลกแบบนี้ คนที่ผมไม่อยากเจอก็ยังต้องเจอกัน ส่วนเรื่องของคุณษา...คุณไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความรู้สึกที่ผมรู้สึกแย่ๆ กับแม่ของคุณ”
“แล้วทำไมยังเจอกับษาอีกละคะ เพราะอะไร”
“ผมคงเป็นพวก...เกลียดตัวกินไข่มั้งครับ ยิ่งเกลียดกลับยิ่งรัก...เรื่องนี้ผมไม่ได้บังคับให้คุณเชื่อผมแค่ให้มองสิ่งที่คุณเห็น มองที่ตัวผม ที่สำคัญ...ผมอยากให้คุณถามใจตัวเองก่อน คุณเชื่อใจผมไหม ...คุณรักผมไหม”
ดวงตาของลิษาอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด เธอยิ้มบางก่อนจะเลื่อนมือไปกุมมือชายหนุ่มเอาไว้ แสดงถึงความเชื่อมั่นที่เธอมีต่อเขา “ษาเชื่อคุณค่ะ เชื่อใจและรักคุณ” น้ำเสียงทอดบางเบาอย่างที่จะบอกว่ารู้สึกเช่นนั้นจริงๆ
ม่ายสาวถึงกับนั่งไม่ติดหลังเหตุการณ์นั้น ลิษาไม่เคยทำสายตาแบบนั้นกับใครมาก่อน มีนเป็นชายหนุ่มคนแรกที่ทำได้ มันน่าห่วงจนเธอเก็บอาการไม่อยู่เลยด้วยซ้ำ ไม่มีทางที่เธอจะยอมให้ลิษาตกหลุมพรางของมีนอย่างแน่นอน
“ลูกไปรู้จักผู้ชายคนนั้นได้ยังไง” คำถามนั้นตั้งขึ้นหลังจากที่กลับมาถึงบ้าน ลิษาหันกลับมาหาแม่พร้อมกับยิ้มหวานแสดงออกถึงความชื่นชมอย่างชัดเจน
“อ๋อ ก็เขาเป็นช่างภาพให้ษาไงคะคุณแม่ เขาเท่ห์ดีนะคะแม่ว่าไหม” คำตอบของลิษาทำเอาผู้เป็นแม่ถึงกับสะอึก
“แม่ไม่เห็นว่ามันจะเท่ห์ตรงไหน หยุดนะ อย่าคิดไปรักไปชอบผู้ชายคนนั้น แม่สั่งห้ามไว้เลย”
“ทำไมละคะ คุณมีนก็ไม่เห็นจะมีอะไรที่แปลก”
รตีถอนหายใจยาว เธอคงต้องรีบบอกลูกสาวไว้ก่อนเรื่องมันจะลามไปมากกว่านี้ ตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมดีกว่า
“เขาเป็นลูกชายของคุณกิตติธร ลูกอาจจะจำเขาไม่ได้เพราะไม่เคยเจอหน้ากัน ตอนนี้เขากลายเป็นหนุ่ม...” รตีกลืนคำว่าน่ากลัวลงไปในลำคอ สายตาโกรธเกลียดนั้นช่างติดตาตรึงใจเธอมาตลอด ในวันที่เธอไล่เขาออกจากบ้าน มีนปักใจเชื่อว่าเธอทำร้ายพ่อของเขา แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เธอไม่เคยทำร้ายกิตติธร หากแต่เธอต้องทำเพื่อลูก เงินเหล่านั้นสมควรเป็นของเธออยู่แล้วนี่ ที่สำคัญเธอให้เงินกับมีนไปเกือบสองล้าน ซึ่งมันก็น่าจะพอใช้หากเขาไม่ทำตัวมือเติบ
“ลูกชายคุณลุงกิตติ มันก็ไม่แปลกอะไรไม่ใช่เหรอคะ” แม้จะนิ่งอึ้งไปบ้างแต่ลิษากลับปรับเปลี่ยนสีหน้าใหม่ดุจดังไม่ได้ยินสิ่งอะไรผิดแปลก
“นี่แกแกล้งไม่รู้หรือยังไงกันแน่ เขาอาจจะคิดแก้แค้นแม่อยู่ก็ได้”
“ก็ไหนแม่บอกว่าแม่ไม่ได้ทำอะไรคุณลุงกิตติไม่ใช่เหรอคะ แล้วจะกลัวทำไม”
“ลิษา!!” น้ำเสียงอันดังอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทำให้ ลิษาเริ่มขัดใจ มองแม่ด้วยแววตาตื่น
“ษากับเขาเพิ่งรู้จักกันโดยที่เขาไม่รู้ว่าแม่เป็นแม่ของษา ษาเชื่อว่าเขาจริงใจค่ะ แล้วถ้าหากเขาจะเข้ามาแก้แค้นจริง ษานี่แหละค่ะจะเป็นคนทำให้เขาเลิกคิดแบบนั้นแล้วหลงรักษาจนทำอะไรไม่ได้ ษาชอบเค้าค่ะแม่ แล้วษาก็ไม่มีทางจะปล่อยเขาไปง่ายๆ”
สิ่งที่บุตรสาวกล่าวออกมาทำให้รตีตกใจ เพราะเธอเลี้ยงลิษามาด้วยความรัก จึงไม่เคยแม้แต่ห้ามปรามอะไรสักครั้ง พอถึงคราวที่เธอจะห้าม ลิษากลับกลายเป็นไม่ยอม น้ำเสียงและท่าทางมั่นอกมั่นใจนั้นยิ่งทำให้เธอหวั่นวิตก อย่างมีนที่เกลียดเธอยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้นน่ะหรือจะหลงรักลูกสาวของเธอ ไม่มีทาง!!
อลินาก้าวออกมาจากห้องสิ่งที่เธอเห็นจนชนตามมาร่วมเดือนแล้วก็คือ ถุงขนมปังหน้าห้อง เขาทำอย่างนี้มาตลอด บางครั้งเธอก็ได้เห็นรถของเขาจอดในลานจอดรถแต่ไม่ยอมลงจากรถจนกว่าร้านจะปิดและไฟในห้องของเธอเปิดสว่างขึ้น บางครั้งเธอก็นึกเห็นใจเขาแต่บางครั้งเธอก็นึกโกรธอยู่เช่นกัน
เสียงประตูร้านเปิดออกพร้อมกับร่างของมีน นานแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขาแบบจังๆ เขาสบตาเล็กน้อยก่อนจะเลี่ยงเดินขึ้นบันไดไปยังห้องส่วนตัว อลินาเงยหน้าขึ้นไปมองแก้วที่อยู่บนชั้นสูงสุดก่อนจะเอื้อมขึ้นไปหยิบมันอย่างระมัดระวัง ทว่ามือของใครบางคนมาช่วยหยิบให้เพราะคิดว่าเธอดูลำบากกับการกระทำเหล่านั้นเหลือเกิน
“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวแผ่วเบารับแก้วเหล่านั้นมาไว้
“พี่กลับมาเอาของน่ะ เดี๋ยวก็จะออกไปแล้ว” เขาบอกเหตุผลแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ไถ่ถามอะไรก็ตาม “เออ เรื่องเที่ยวพักร้อนประจำปี พี่บอกพัชแล้วนะว่าไม่ไป อลิสไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะได้เจอหน้าพี่ให้กระอักกระอ่วนใจ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ไม่ต้องทำเพื่อนอลิสหรอก พี่อยากไปหรือไม่ไปมันก็เรื่องของพี่”
“พี่ไม่อยากให้อลิสลำบากใจ พี่ไม่ไปดีกว่า”
“พี่มีนไม่ต้องทำแบบนี้หรอกค่ะ ทำตามที่พี่อยากทำเถอะ อดีตมันก็คืออดีต ปล่อยมันไปเถอะค่ะ” อลินากล่าวน้ำเสียงเบาก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อล้างแก้วส่วนที่ถือไว้นั้น มีนเดินตามเข้ามาในครัวพิงลำตัวที่ประตูจ้องมองหญิงสาวเงียบๆ ด้วยความประหลาดใจ
“อลิสเลิกโกรธพี่แล้วเหรอ”
“เปล่าค่ะ แต่เพราะพี่พัชเล่าเหตุผลให้ฟังแล้ว อลิสพอทราบว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัย”
“ไม่หายโกรธแต่ยอมให้พี่เห็นหน้า ยอมให้พี่ไปเที่ยวด้วย ก็โอเคนะ” เขากล่าวสีหน้ายิ้มๆ “แล้วที่โกรธนี่เพราะอะไรล่ะ ไหนว่าเข้าใจแล้ว”
“มันนานแล้วนะคะพี่มีน ความรู้สึกที่พี่ทิ้งไว้ มันนานมากแล้ว อลิสไม่รู้ว่าถ้าเราคืนดีกันแล้วมันจะมีอะไรแตกต่างจากเดิม ในเมื่อก่อน เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนอกจากรุ่นพี่กับรุ่นน้อง”
“คิดว่าพี่จะไปตามนัดเพราะอยากเป็นแค่รุ่นพี่เท่านั้นเหรออลิส เด็กมาก...ไว้พี่จะอธิบายอีกทีว่าอยากเป็นอะไร วันนี้พี่รีบ ขอบคุณที่ยอมให้โอกาสพี่อีกครั้งนะ”
คำว่าเด็กมากนั้นทำให้หญิงสาวตวัดสายตาจ้องมองคนพูด เธอเด็กที่ไหนกัน...
ลิษานั่งเช็กความเรียบร้อยบนใบหน้าระหว่างที่จอดรถดักรอชายหนุ่ม เธอเหลือบมองประตูตึกสำนักงานของมีนเป็นระยะ จนเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งของเขาออกมาจากตึกใหญ่นั้นเธอจึงลงจากรถ
“สวัสดีค่ะคุณมีน”
มีนหัวขวับกลับมามองคนทักทาย คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความประหลาดใจ “สวัสดีครับ คุณษามาทำธุระแถวนี้เหรอครับ”
“เปล่าค่ะ มาหาคุณมีนโดยเฉพาะเลย นึกอยากชวนคุณไปเที่ยวน่ะค่ะ แต่คุณไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย”
“อ๋อ ผมติดประชุมน่ะ” ปดไปทันทีที่เธอเอ่ยถามกลายๆ เขาตั้งใจไม่รับเลยต่างหาก ลองให้เธอกระวนกระวายใจบ้าง หลักการง่ายๆ ที่ใช้เวลาหย่อนเบ็ดลงสระแล้วมันก็ได้ผลทุกครั้งไป
“งั้นเราไปหาที่คลายเครียดกันดีกว่าไหมคะ” เธอกล่าวอย่างเอาใจ ใบหน้างามดูสดใสร่างเริงจนมีนอดที่จะยิ้มออกมาด้วยไม่ได้
“โอเคครับ เดี๋ยวผมขับรถตามไป จะได้ดูคุณขับรถคอยระวังหลังให้ยังไงล่ะ” มีนยิ้มก่อนจะเปิดประตูรถของตัวเองแต่มือบางเลือกที่จะคว้าแขนเขาไว้ก่อน
“ทำไมต้องไปคนละคันด้วยละคะ ไปด้วยกันสิ นะคะ ไปรถษาส่วนรถคุณจอดไว้ที่นี่แหละ” เธออ้อนทั้งน้ำเสียงและดวงตา มีนเหลือบมองมือสวยทั้งคู่ที่เกี่ยวต้นแขนเขาไว้แน่น
“ครับ ดีเหมือนกัน” แม้จะกล่าวไปอย่างนั้นแต่ใจหนึ่งแล้วมีนตื่นเต้น แม้จะเคยเจอผู้หญิงมามากแต่ผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์อย่างลิษาก็หายากด้วยเช่นกัน เธอไม่ได้เลวร้ายนักหรอกเมื่อเทียบกับแม่
พัชระกำลังจัดการเตรียมติดป้ายประกาศเรื่องการหยุดของร้าน ประวีย์เดินเข้ามาช่วยจัดเก็บของบางส่วนให้เข้าที่ อลินาเดินทางไปซ้อมเก็บตัวที่พัทยาเรียบร้อยแล้ว เขาไม่มั่นใจในสิ่งที่อลินาคิด เธอยอมรับและให้อภัยมีนได้จริงมันก็น่าดีใจ
“ตกลงพี่มีนจะไปกับเราด้วยไหมครับพี่พัช” ประวีย์หันมาถามเมื่อนึกเรื่องเที่ยวขึ้นมาได้ พัชระพยักหน้ารับ
“แต่เขาจะแยกไปเพราะติดงาน”
“ดีจังครบทีม ตอนแรกทำไมบอกไม่ไปก็ไม่รู้นะ ช่วงนั้นพี่มีนดูเศร้าๆ ด้วยอกหักหรือเปล่าแต่...อย่างพี่มีนนี่คงไม่อกหักหรอกมั้งมีแต่หักอกเขา”
“อย่ามองอะไรเพียงด้านเดียวสิวีย์ ชีวิตเราไม่มีใครอยู่ได้โดยไม่รู้สึกรักใครสักคนหรอก บางทีคนที่เจ็บปวดเพราะรักมากที่สุดอาจจะเป็นมีนก็ได้”
ประวีย์พยายามที่จะเข้าใจสิ่งที่พัชระสอน ตั้งแต่ทำงานที่เรดคลับมาเกือบสามปี พัชระเปรียบดังพี่ชายและเจ้านายไปในตัว สอนทั้งเรื่องงานและเรื่องชีวิตแต่น่าแปลกที่เขาไม่มีใครเลย ไม่เคยเห็นคนรักของเขาเลยสักครั้ง
ลิษานั่งจ้องแก้วน้ำในมือระหว่างที่มีนขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ดวงตาสวยนั้นเคร่งขึ้นมาด้วยความรู้สึกบางอย่าง จนเมื่อเห็นร่างสูงของเขาเดินกลับมา เธอจึงปรับสีหน้าเป็นยิ้มแย้ม เขาทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับหญิงสาว ยิ้มกลับ
“วันนี้มีอะไรพิเศษหรือเปล่าครับถึงได้มาชวนผมเที่ยวถึงที่ทำงาน”
“ก็...ไม่ถือว่าพิเศษหรอกนะคะ ษาแค่มีเรื่องอยากคุยกับคุณมีน”
“เรื่องอะไรหรือครับ” มีนจ้องเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย เขารู้สึกแปลกตั้งแต่ขับรถมาที่ร้านอาหารนี้แล้วว่าลิษามีความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง และคิดว่านั่นคงเป็นเพราะเหตุการณ์ในงานเลี้ยง แม่เลี้ยงเขาคงไม่ปล่อยให้ลูกสาวกลับมาชอบเขาอย่างแน่นอน ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า ลิษา จะคิดอย่างไรเท่านั้นเอง
“คุณแม่บอกว่าคุณมีนเป็นลูกของคุณลุงกิตติธร” เธอเกริ่นเรื่อง สีหน้ามีนนั้นเหมือนไม่แปลกใจกับสิ่งที่เธอกล่าวออกมาสักนิด
“ครับ” เขารับคำง่ายๆ รอฟังสิ่งที่หญิงสาวจะพูดต่อไป
“คุณมีนรู้เรื่องนี้ก่อนที่จะมารู้จักษาหรือเปล่าคะ”
“ครับ”
“หมายความว่าคุณมีน...ตั้งใจมาแก้แค้นคุณแม่จริง ๆน่ะเหรอคะ” เมื่อจบคำถามสีหน้าที่ลิษาคาดว่าจะได้เห็นคือ ใบหน้าซีดๆ ของชายหนุ่ม ทว่าเขากลับยิ้มกว้างออกมาแถมด้วยอาการหัวเราะในลำคอ
“เปล่าครับ ผมอาจจะดูเหมือนโกรธคุณแม่ของคุณษา แต่จริง ๆ แล้วผมไม่ได้คิดเรื่องนี้มานานแล้วครับ ในเมื่อเราต่างคนต่างอยู่ในที่ของตัวเอง ผมเคยคิดว่าเราคงไม่มีทางได้เจอกันอีกไม่นึกว่าโชคชะตามันจะเล่นตลกแบบนี้ คนที่ผมไม่อยากเจอก็ยังต้องเจอกัน ส่วนเรื่องของคุณษา...คุณไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความรู้สึกที่ผมรู้สึกแย่ๆ กับแม่ของคุณ”
“แล้วทำไมยังเจอกับษาอีกละคะ เพราะอะไร”
“ผมคงเป็นพวก...เกลียดตัวกินไข่มั้งครับ ยิ่งเกลียดกลับยิ่งรัก...เรื่องนี้ผมไม่ได้บังคับให้คุณเชื่อผมแค่ให้มองสิ่งที่คุณเห็น มองที่ตัวผม ที่สำคัญ...ผมอยากให้คุณถามใจตัวเองก่อน คุณเชื่อใจผมไหม ...คุณรักผมไหม”
ดวงตาของลิษาอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด เธอยิ้มบางก่อนจะเลื่อนมือไปกุมมือชายหนุ่มเอาไว้ แสดงถึงความเชื่อมั่นที่เธอมีต่อเขา “ษาเชื่อคุณค่ะ เชื่อใจและรักคุณ” น้ำเสียงทอดบางเบาอย่างที่จะบอกว่ารู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ธ.ค. 2555, 09:03:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ธ.ค. 2555, 09:54:36 น.
จำนวนการเข้าชม : 1799
<< บทที่ ๑๒ เล่ห์ลวง | บทที่ ๑๔ มือที่อบอุ่น >> |

Auuuu 10 ธ.ค. 2555, 14:58:28 น.
พลาดแล้วหละลิษาาาาา
พลาดแล้วหละลิษาาาาา


pseudolife 10 ธ.ค. 2555, 20:17:20 น.
มีนนน
มีนนน


nutcha 11 ธ.ค. 2555, 01:27:19 น.
เดี๋ยวอลิสรู้ก็งานเข้าอีกพี่มีน
เดี๋ยวอลิสรู้ก็งานเข้าอีกพี่มีน
