เพราะรักเธอ
ทุกสิ่งเกิดเพราะว่ารัก และจบลงเพราะความรัก รักที่ผิด กับ รักที่ถูกก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆได้มากมาย และเมื่อใช่ความรักในการมอง เราก็จะมีคนรักมากมายในโลกใบนี้
Tags: วันเวลา หัวใจ

ตอน: 4 ------->>>ประจันหน้า + เพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่

ตอนที่สี่แล้ว
ยัยเนวจะได้เจอกับนายข้าวปั้นจังๆละ
และยัยเนวยังจะได้เจอกับเพื่อนเก่าอีก ไม่รู้ว่าเพื่อนเก่าของเธอจะจำเธอได้ไหมนะ

เช้าวันใหม่
เนวดี Talk
เสียงซุบซิบนิทาดังกระช่อนไปทั่วทันทีที่ฉันกับแควเดินเข้ารั้วโรงเรียน คงจะเรื่องที่ฉันไปสอยปากประทานของพวกเขา เห็นแควบอกว่าสาวๆโรงเรียนนี้คลั่งใคร่เขามาก
นั้นผู้หญิงร่างถึงนั้นมองฉันตาเขม็งเชียว สงสัยยัยนี่จะร้ายไม่เบา ฮึๆ แค่ดูจากน้ำหนักตัวเธอแค่ฉันก็พอรู้แล้วล่ะ อ้วนๆแบบนี้เธอไม่มีวันเข้าตาพี่ข้าวปั้นของฉันหลอกยะ
“ฮา ๆๆๆ”
“เนว เธอขำอะไร เธอไม่รู้สึกอึดอัดบางรึไง”
“ไม่มีอะไรหลอก ฉันก็แค่คิดอะไรเรื่อยเปลื่อยนะ”
คิดว่าคนอย่างพี่ข้าวปั้นจะมีสาวสักกี่คนมาชอบบ้าง คิดว่าลูกคุณหนูพวกนี้จะเล่นไม้ไหนกันฉันบ้าง

“ตึกเออยู่ไกลจังเนอะ เดินจนเหนื่อยแล้วอ่ะเนว”
“นั้นสิ ทำไมถึงต้องตั้งในที่ลึกลับด้วยก็ไม่รู้”
ลุงยามบอกว่าให้เดินดูป้ายไปเลื่อยๆ นั้นทำให้ฉันรู้ว่าที่นี่มีทั้งหมด 27ตึก มีตึกA-Z และตึงคิง ตึกคิงคือตึกผู้บริหาร ตึกA คือตึกของประทานนักศึกษา และพวกกรรมการนักศึกษา

“เนว เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงโทรศัพท์เธอดังต้องสิบกว่ารอบ ฉันรำคาญก็เลยปิดเครื่องเธอ โทรกลับไปรึยัง”
“ยังเลย ช่างเถอะ อ้าว ห้องA61”
“ห้องประทานนักศึกษา”
“ห้องพี่ข้าวปั้น’

ในที่สุดฉันก็รู้แล้วว่าคนๆหนึ่งที่ท่านผู้อำนวยการให้มาหาคือใคร เอานะเขาจำฉันไม่ได้นี่หนา ไม่รู้ว่าเขาจะทำยังไงกับฉันรึเปล่า ฉันจะทำยังไงดีนะที่ได้เจอหน้าเขาแบบนี้ฉันทำหน้าไม่ถูกแน่เลย แต่มือข้างหนึ่งของฉันก็ยังเอื้อมไปเคาะประตู

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เชิญ”
เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากในห้อง ถ้าฉันเดาไม่ผิดต้องเป็นเสียงพี่ข้าวปั้น ฉันกับแควเปิดประตูห้องแล้วฉันเข้าไป
โห ห้องนี้ตกแต่งได้สวยไม่เบาทั้งใหญ่มาก สมแล้วที่เป็นห้องของประทานนักศึกษา และที่มุมหนึ่งของห้องมีตุ๊กตาหมีตัวใหญ่อยู่ตัวหนึ่งมันเคยเป็นของฉันตอนสมัยเด็ก มันมีรอยไหม้ที่ขนด้วยมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงนะมันน่าจะถูกเผาไปพร้อมกับบ้านฉันแล้ว

จะว่าไปบริเวณตึกนี้ตกแต่งเหมือนบ้านหลังเก่าของฉันอยู่เหมือนกัน ที่ผนังห้องมีรูปใบใหญ่อยู่ สี่รูป เป็นรูปของเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงฉากหลังมีทั้งทะเล ทุ่งทานตะวัน บ้านเก่าฉัน บ้านพี่ข้าวปั้น และยังมีรูปใบเล็กๆอีหลายสิบรูป เป็นรูปของเด็กทั้งสองคนในกิริยาบทต่างๆ เขายังเก็บรูปพวกนี้ไว้

“คุณเนวดีครับชื่นชมห้องผมเสร็จแล้วก็เชิญนั่ง”
พี่ข้าวปั้นทำสายตากรุ่มกริ่มส่งมา ฉันแถบจะคว้ามันมาแล้วเอาเท้ากระทืบ คงจะชอบส่งสายตาแบบนี้ให้สาวอื่นบ่อยๆละสิ
ฉันกับแควเดินมานั่งเก้าอี้ข้างหน้าโต๊ะของพี่ข้าวปั้น
“ผมขอแนะนำตัวก่อนแล้วกัน” รอยยิ้มกระชากใจสาวถูกส่งมาอีกหนึ่งชุด “พี่ชื่อปรเมตร ขจรกิจเรืองไกล เรียกผมว่าข้าวปั้นก็ได้ ผมเป็นประทานนักศึกษาของที่นี่”

พี่ข้าวปั้นส่งมือมาทางฉัน อย่าคิดนะว่าเนวดีคนนี้จะส่งมือไปให้ ฉันไม่ใช่พวกที่คลั่งใคร่พี่ข้าวปั้นนะ
“ว่าต่อดีกว่าค่ะ”
เขารีบเอามือตัวเองกลับ ฉันแอบเห็นแควยิ้มเยาะพี่ข้าวปั้นด้วย เขาคงจะเสียหน้าไม่เบาแต่ที่นี่มีแต่พวกเราน่าจะมีคนอยู่เยอะๆ
“อืม...เธอสองคนนะเรียนที่ตึกC นักเรียนแพทย์จะเรียนตึกนั้น แต่ถ้ามีเรียนกับอาจารย์ใหญ่จะเรียนกันที่ตึกF”

“ทำไมต้องเรียนแยกด้วยละคะ”
แควถามพี่ข้าวปั้นแต่ตากับมองสอดส่ายไปทั่วเพื่อหาตำแหน่งตึกF เพราะเราสองคนจำได้ว่าเห็นตึกนั้นอยู่ไม่ไกลจากตึกA
“เพราะตึกFจะเก็บร่างอาจารย์ใหญ่เอาไว้ด้วยแล้วจะมีนักศึกษาแพทย์จากสถาบันอื่นมาเรียนด้วย”
“เออ...แล้วทำไมตึกเก็บศพต้องมาอยู่กับตึกAด้วยละคะ”
แควถามออกมาท่าทางเธอจะหลอนเพราะเธอกลัวผีมาก เธอคงไม่อยากเดินผ่านตึกนั้น แต่ที่แควยอมเรียนหมอกับฉันเพราะเธอไปถูกใจรุ่นพี่ที่นั้นคนหนึ่งซึ่งเธอบอกว่า ‘น่ารักมาก’

“ไม่ใช่ตึกเก็บศพ หลบหลู่แบบนี้เดี๋ยวก็เจอดีหรอก ที่ตึกเก็บร่างอาจารย์ใหญ่มาอยู่แถวนี้ก็เพราะเป็นเขตส่วนตัวของผม เราคณะแพทย์ไม่อยากท่านเจอความวุ่นวายและไม่อย่าให้ตึกคณะกรรมการมีคนมาวุ่นวาย”
ถึงว่าสิแถวนี้มีแต่เด็กใส่ชุดกราวเดินกัน แถมไม่ค่อยมีผู้หญิงด้วย พี่ข้าวปั้นไม่ขาดใจตายเพราะขาดสาวๆรึไง

“พี่ครับสองสาวคณะกรรมการใหม่มายัง”
เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากหน้าห้อง ตัวสูงไม่เบาเลยใบหน้าคล้ายพี่ข้าวปั้นมากเลย ผิวสีแทนแต่ขึ้นมากเมื่อมาอยู่ในชุดกราว เป็นนักเรียนแพทย์เหรอ
“ซูชิ พี่บอกกี่ครั้งว่าให้เคาะประตูก่อนเข้าห้อง”
ซูชิ น้องชายของพี่ข้าวปั้นนั้นเอง ทำให้ฉันนึกถึงพี่โมจิพี่สาวของพี่ข้าวปั้นอีกคน แต่ทำไมเด็กผิวขาวอย่างซูชิถึงดำแบบนี้นะ

“ว้าวมาแล้วเหรอสวยทั้งคู่เลยแต่ไม่ใช่สเป็กว่ะพี่ อีกคนก็จีนจ๋า อีกคนก็ตัวเล็ก o_O”
“ฟังที่พี่พูดหน่อยสิ”
แต่แทนที่ซูชิจะฟังพี่ชาย เขากลับมาจ้องหน้าฉันแทน มองอยู่นั้นแหละไม่เคยเห็นคนสวยไซร์เล็ก เฮ้ยถ้าจำไม่ผิดเด็กซูชิมันจำคนเก่งด้วย มุดๆๆ
“ผีหลอกกลางวัน”
นั้นไงคงจะจำได้ใช่ไหมนะไม่ๆใครจะมาจำเราได้ยิ่งได้เจอกันเป็นสิบปี ที่ทางจะช็อก เอ...เมื่อกี่ซูชิบอกว่าสองสาวคณะกรรมการคนใหม่

“ขอโทษที่ขัดจังหวะพี่น้องคุยกันนะคะคือ เนวมีเรื่องจะถาม ที่ว่าคณะกรรมการคนใหม่หมายความว่าอะไร”
“คือว่านักศึกษาแพทย์จะต้องมาเป็นคณะกรรมการนักศึกษาด้วย แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าเจ้าซูชิเป็นน้องชายผม” พี่ข้าวปั้นจะสงสัยเพื่อ
“เดาค่ะ แล้วคณะกรรมการต้องทำอะไรบ้างค่ะ”

“คณะกรรมการของเรามีอยู่30คนร่วมนักศึกษาแพทย์ทั้งหมดแล้วผู้ชาย23คน ผู้หญิง4 ครึ่งหญิงครึ่งชาย3 นักศึกษาแพทย์ปีนี้มีผู้ชาย3คนเราก็อบบรมไปแล้ว พอดีมีพวกเธอเพิ่มมาอีกสองคน ที่จริงก็ไม่มีอะไรมากหลอกนะก็แค่ให้มาประจำการที่นี่ทุกวัน มาประชุมทุกครั้งการประชุมจะจักขึ้นทุกอาทิตย์ เพื่อช่วยกันคิดพัฒนามหาวิทยาลัยของเรา อ๋อผมเห็นว่าพวกคุณเรียนคณะเดี๋ยวกับผมนะเตือนไว้ก่อนอย่าไปเดินแถวตึกโอนะ ถึงจะเป็นของคณะแพทย์เหมือนกันแต่ตึกนั้นเป็นของสัตวแพทย์ตัวประหลาดมันเยอะ”

แควช็อกไปอีกคนเมื่อได้ยินว่าจะต้องมาอยู่ที่นี่ทุกวัน มีนักศึกษาแพทย์แค่30คนเองเหรอ ปีนี้มีห้าคนถึงว่าสิวิชาที่นี่ถึงบึกเรียนกันไม่กี่คนเอง
“พวกเธอต้องไปเรียนวิชาแรกแล้ว นี่ตารางเรียนแล้วก็ข้อมูลสำคัญต่างๆเอาไปอ่านดู”
พี่ข้าวปั้นยื่นแฟ้มสองเล่มมาให้ ที่นี่นอกจากไฮโซแล้วคุณภาพทุกอย่างก็คับแก้วเลย

พี่ข้าวปั้นเองดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก ^^
“ยิ้มทำไม เรื่องที่เธอต่อยปากฉันยังไม่จบนะ แล้วโทรไปก็ปิดเครื่องใส่อีก ไปเรียนกันได้แล้ว”
คนที่โทรหาฉันเมื่อคืนคือพี่ข้าวปั้นเอง

โป๊ก

นี่คือเสียงซูชิที่โดนตบหัวโดยพี่ข้าวปั้น
“เจ็บนะพี่”
“ไม่ต้องมาพูดยืนเอ๋ออยู่นานแล้วไปเรียนได้แล้วไปพร้อมกันทั้งสามคนเลยเรียนด้วยกันนิ”
“พี่จะให้ผมเดินกับผีเหรอไม่เอาหรอก”
“ใครผีกันยะจะไปไหมห้องเรียนนะ” น่าโดนอีกสักที


พวกเราสามคนเดินออกมาจากห้องของพี่ข้าวปั้น ตาซูชิเดินห่างจากฉันสักสองเมตร ซูชินี่ก็สูงไม่เบาเลยไม่น่าต่ำกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร(หรือว่าฉันจะเตี้ยเอง)
“ยัยเตี้ยเธอไม่ใช่ผีแน่นะ”
“นายสิผีปากนายไม่น่าจะเป็นหมอคนเลยนะน่าจะไปรักษาหมา”

“การพูดก็เหมือนกันอีก เธอไม่ใช่ยัยนาจิแน่นะ แต่ฉันว่าใช่นะยิ่งพักนี้แม่ชอบพูดถึงเธออยู่ นึกออกแล้ว”
ไม่พูดแต่ปากมือของซูชิยังเอามือมาถกแขนเสื้อข้างขวาของฉัน ที่มีปานแดงรูปหัวใจบอกแล้วไงว่าตานี่ฉลาดเกิน แล้วใครจะยอมให้มาดูกันง่ายๆกัน

“ไอ้บ้าทำอะไรเพื่อนฉัน”
แควรีบมาช่วยดึงซูชิออกไป แต่ฉันว่าคงไม่ทันแล้วเพราะเขาเห็นอยู่เต็มตาเลยว่าที่แขนฉันมีปานอยู่จริงๆ แล้วเขาก็เดินมากอดฉันแน่น
“เธอจริงๆด้วยหายไปไหนมารู้ไหมว่าพี่ฉันเขาคิดถึงเธอมาก แล้วเขารู้รึยังว่าเธอกลับมาแล้วดูสิสวยขึ้นต้องเยอะแต่ไม่สูงขึ้นเท่าไร” ปากเหรอนะ
“ใจเย็นนะซูชิปล่อยเราก่อนนะหายใจไม่ออก”
“ขอโทษทีเราดีใจมากไปหน่อย เธอไม่ได้เอ่อ...ในบ้านนั้นเหรอ”
“เราไม่ได้อะไร”
“เอ่อ...”

“ขอโทษเธอสองคนด้วยนะ คือตอนนี้มันได้เวลาเข้าเรียนแล้ว”
ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบจากซูชิแควก็พูดแทรกก่อน ฉันดีใจที่ซูชิจำฉันได้แต่ถ้าจะให้ดีฉันอยากให้พี่ข้าวปั้นจำฉันได้ด้วย จริงสิฉันลืมบอกซูชิว่าให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
“ซูชิอย่าเพิ่งบอกใครนะว่าเราเป็นใคร ถือว่าขอร้องล่ะ”
เขามองฉันพักหนึ่งเหมือนกำลังคิอะไรอยู่ เขาฉลาดพอที่จะอ่านความคิดของคนอื่นออกเขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีใครที่จะหลอกซูชิได้เลยนอกจากยัยลูกครึ่งน้องสาวคนละแม่กับฉัน ที่คอยตามตื้อพี่ข้าวปั้น โดยใช้ซูชิเป็นสะพานเด็กลูกครึ่งนั้นร้ายแต่เด็ก ฉันเรียกเด็กนั้นว่าลูกครึ่งมาตลอดจนลืมชื่อเธอไปแล้วสิ

“ได้ แต่ยังไงก็อย่าให้นานนะฉันไม่อยากให้พี่ชายฉันต้องไปนั่งพูดกับหมี”
“หมี?”
“หมีตัวใหญ่ๆที่อยู่ในห้องไงพี่คิดว่าเธออยู่ในนั้นแต่อย่าไปสนใจเลยไปเรียนกันดีกว่า”
หมี ฉันอยู่ในหมีหมายความว่าไงพูดยังกับว่าฉันตายไปแล้วยังงั่นแหละ ยังมีอีกเรื่องที่อยากรู้

“ซูชิฉันยังมีอีกเรื่อง ยัยลูกครึ่งนั้นเป็นไงบ้าง”
“มากี้นะเหรอ”
มากี้ คนที่เจอพร้องพี่ข้าวปั้นสินะ ยังคงตามพี่ข้าวปั้นอยู่อีกเหรอ นั้นตาซูชิผู้ร่าเริงถึงดูซึมๆไปนะรึว่าซูชิยังรักยัยลูกครึ่งอยู่สินะ
“ไม่ต้องตอบเราแล้วล่ะ ไปเรียนกันดีกว่า”
ไม่ต้องให้ซูชิพูดถึงยัยลูกครึ่งจะดีกว่าฉันไม่อยากให้เพื่อนเก่าของฉันคนนี้ต้องเสียใจเพราะเท่าที่จำได้ยัยลูกครึ่งชอบทำร้ายจิตใจซูชิจนต้องร้องไห้ทุกวัน ยัยลูกครึ่งเธอจะต้องคืนพี่ข้าวปั้นให้ฉันแล้วล่ะ


กว่าจะเข้าห้องเรียนได้ก็ปาเข้าไปสิบห้านาที แถมยัยแควยังทำเปิ่นโชว์ชาวบ้านโดยการสะดุดขาตัวเองแล้วเซไปกอดรุ่นพี่ที่เข้ามาแนะนำกฎการใช่เครื่องมือแพทย์ แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้านรุ่นพี่คนนั้นเป็นคนเดียวกับที่ยัยแควปลื้ม

ผลสรุปก็คือรุ่นพี่คนนั้น(ซึ่งซูชิบอกว่าชื่อพี่ภูเป็นเพื่อนพี่ข้าวปั้น และเป็นน้องชายของแฟนพี่โมจิ) ล้มหัวกระแทกพื้นจนหัวโน ยังแควขอโทษเป็นการใหญ่ เลยได้รับโทษโดย ‘เลี้ยงข้าวกลางวันพี่สักมื้อแล้วกัน’ เรียกเสียงฮือจาก ฉัน
ซูชิ ตาจืดใส่แว่น(ซึ่งซูชิบอกว่าเป็นลูกนักธุรกิจอันดับเก้าของญี่ปุ่นชื่อไดโจ) ตาหน้าแป้นแต่หล่อ(ซูชิบอกว่าเป็นลูกนักการเมืองของใต้หวันชื่ออินไคร)เพื่อนร่วมห้องได้เป็นอย่างดี


พวกเราหกคนร่วมไดโจ และอินไครที่จะตามไปกินข้าวด้วยเพราะพวกเขายังไม่รู้จักใครพวกเราเดินมายังตึกคิง(ข้อดีของคณะกรรมการก็คือได้ใช้โรงอาหารของพวกอาจารย์ ไม่ต้องไปใช้โรงอาหารใหญ่ที่พวกคุณหนูไร้สมองรับประทานกัน)
“เนวชอบทานอะไรเหรอครับ” อินไคร
“ชอบดูหนังรึเปล่า” ไดโจ
“บ้านอยู่ไทเปเหรอ” อินไคร
“เคยไปญี่ปุ่นไหม” ไดโจ
“เรามาพูดภาษาจีนกันเถอะ” อินไคร
“เธอเป็นลูครึ่งญี่ปุ่นรึเปล่า พูดภาษาญี่ปุ่นดีกว่านะ” ไดจิ
ตาบ้าสองคนนี้ถามคำถามฉันไม่หยุดแต่ไม่เว้นช่วงให้ตอบสักคำถาม ไปคุยกันเองจะดีกว่านะ

“นาจิ อุ๊บ”
อยู่ดีๆซูชิเรียกชื่อเก่าฉันออกมาทำเอาฉันต้องรีบเอามือปิดปากแทบไม่ทัน เกือบไปแล้ว
“มีอะไรกันเหรอ”
ตาไดโจอยากรู้เรื่องชาวบ้านขึ้นมาอีก เดี๋ยวแม่จะด่าให้เดี๋ยวก่อน
“ไม่มี เนวฉันแค่จะบอกเธอว่าผู้หญิงคนนั้นที่ผมยาวๆนั่งหันหลังข้างผู้ชายผมสั้นสีน้ำตาลคือพี่โมจิส่วนผู้ชายคือพี่บูม เดี๋ยวเราเรียกให้ พี่โม”

“ไม่ต้อง...ไม่ทันแล้ว”
เพื่อนคนนี้มันคิดปุ๊บทำปั๊บเลย พี่โมจิหันมาแล้วลุกขึ้นเดินมาหาพวกเรา สวยมากสวยจริงๆผมดำขับ ตาโต สูงกำลังดี ตามมาด้วยผู้ชายที่ชื่อพี่บูมพี่ชายของพี่ภู แฟนของพี่โมจิ หล่อไม่แพ้กันทั้งพี่ทั้งน้อง

โป๊ก

ฝ่ามือพิคาตของพี่โมจิปะทะหัวซูชิ
“พี่บอกกี่ครั้งว่าอย่าตะโกนในที่สาธารณะ”
“ครับ ทีหลังจะไม่ทำอีกแล้วครับ”
โหดต่อน้องชายไม่เปลี่ยนแปลงสวยโหดจริงๆ แต่โหดแบบนี้นี้แหละที่จะเอาแฟนอยู่

“ว่าแต่เรียกพี่มามีอะไร”
“ผมแค่จะแนะนำเพื่อนให้รู้จัก ทุกคนนี่พี่โมจิพี่สาวฉัน พี่โมพวกนี่เพื่อนผมคนใส่แว่นไดโจ”
“สวัสดีครับ”
“ถัดมาอินไคร”
“สวัสดีครับ”
“ยัยหมวยแคว”
“สวัสดีค่ะพี่โมจิ”
“คนสำคัญคนสุดท้ายหรือ@#$&*()__)^&%&^&*))_%%^%*()__&%$#$$^%&&**&^%^^&”
หลังจากการกระซิบจบลงพี่โมจิกระชาก ใช้คำไม่ผิดนะพี่โมจิกระชากฉันเข้าไปกอดไว้แน่น
“นางฟ้าตัวน้อยของพี่กลับมาแล้ว สวยขึ้นเป็นกองเลย”
“ขอบคุณค่ะพี่โมจิแต่ตอนนี้หนูหายใจไม่ออก”
//////////////////////////////////////////////
ว่าไหมว่าพี่น้องตระกูลนี้ชอบใช้ความรุนแรง



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ธ.ค. 2555, 19:57:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ธ.ค. 2555, 19:57:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 912





<< 3 ----> เป้าหมายเมืองไทยบ้านเกิด   5----->>>> อาหารเช้าที่รอคอย กับ ผู้ชายแปลกหน้าที่เคยรู้จัก >>
เพียงใจกล้า 12 ธ.ค. 2555, 19:59:03 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account