เพราะรักเธอ
ทุกสิ่งเกิดเพราะว่ารัก และจบลงเพราะความรัก รักที่ผิด กับ รักที่ถูกก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆได้มากมาย และเมื่อใช่ความรักในการมอง เราก็จะมีคนรักมากมายในโลกใบนี้
Tags: วันเวลา หัวใจ
ตอน: 5----->>>> อาหารเช้าที่รอคอย กับ ผู้ชายแปลกหน้าที่เคยรู้จัก
บทที่ห้า
ยัยเนวจะรอคอยอาหารเช้าฝีมือใครนะ
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เนวดี Talk
เช้าวันนี้สดชื่นสุดๆแม้บ้านนี้จะไม่ได้ใหญ่โตเหมือนบ้านลุงจ้าว นึกว่าเมื่อวานความจะแตกแล้วดีที่ท้องของตาจืดไดโจร้องดังเรียกความสนใจก่อน ต้องขอบใจเจ้านั้นจริงๆ แต่ทำไมฉันคิดว่าการกลับมาของฉันมันไม่ได้เป็นความลับเลยคุณลุงกับคุณน้ารู้ถึงการมาของฉัน พี่โมจิกับซูชิก็รู้แล้ว ไม่รู้ว่าเรื่องของฉันมันจะยังเป็นความลับอยู่ไหม แล้วถ้ามันไม่เป็นความลับอันตรายที่แม่ว่ามันจะมาหาฉันเมื่อไร
“เนวไปมหา’ลัยกันเถอะพี่ภูเขาโทรมาบอกว่าวันนี้มีประชุมตอนเช้า”
“แน่ะไปเอาเบอร์กันมาตอนไหน อ๋อ!!!ที่เธอคุยโทรศัพท์สองชั่วโมงนี่ก็...”
“-///-”
“เลิกหน้าแดงแล้วมาช่วยกันทำอาหารเช้าดีกว่า”
“ไม่ต้องทำหรอกคือพี่ภูเตรียมไว้ให้แล้วเราจะไปทานกันที่ห้องพี่เขา”
“ห้องพี่เขา”
“หมายความว่าห้องที่มหา’ลัย”
ฉันแกล้งเอามือไปลูบคลำตัวของยัยแคว
“มาจับฉันทำไม”
“ฉันแค่อยากจะแน่ใจว่าตัวเธอไม่ได้ร้อน แต่ฉันงงอยู่นิดหนึ่ง”
“งงอะไรเหรอ”
“ก็ตัวเธอก็ไม่ได้ร้อนแต่ทำไมเธอต้องร้อนตัวด้วย”
“ยัยเนว ยัยเพื่อนบ้า อย่าหนีนะฉันจะตีเธอ”
“ไม่หนีฉันก็เจ็บนะสิ”
เราสองคนวิ่งไล่จับกันเป็นเด็กๆเลย รู้สึกดีจังดีที่มีเพื่อนที่ฉันรักอย่างแควอยู่เคียงข้างในโลกนี้มีแค่ไม่กี่คนที่ดีกับฉันแต่ฉันโชคดีที่มีเธอแคว
ข้าวปั้น Talk
ใครวะมันชั่งจัดการประชุมช่วงเช้าง่วงจะตายอยู่แล้วเมื่อคืนไม่น่าไปเที่ยวกับมากี้เลยดื่มไปเยอะด้วย หืม! กลิ่นอาหารมาจากห้องไอ้ภูนี่หว่าต้องไปของมันกินหน่อยหิวมากๆเลยตอนนี้ ที่จริงน่าจะทำห้องครัวไว้ที่ห้องผมนะ เห็นผมเที่ยวไปวันๆแบบนี้ฝีมือการทำอาหารของผมนี่ขั้นเทพเลยล่ะ ผมทำอาหารเป็นมาตั้งแต่เด็กส่วนมากผมจะทำให้เธอคนนั้นทานอยู่บ่อยๆจนกระทั่งเธอจากผมไป แต่ผมก็ยังฝึกทำอาหารอยู่นะโดยเฉพาะอาหารที่เธอชอบเพราะผมคิดว่าสักวันเธอจะมาทานอาหารที่ผมทำ
“ภูฉันขอทานด้วยคนสิ”
“ได้”
“แล้วแกทำเยอะแบบนี้กินหมดเหรอวะ”
“ใครว่าฉันจะกินคนเดียว เช้านี้จะมีสาวน้อยสองคนมากินกับเราด้วย”
“จะสาวไหนจะกี่คนก็ชั่งแต่ฉันขอแสดงฝีมือให้แกดูเป็นขวัญตาอีกอย่างดีกว่า”
“แกจะบอกฉันว่าแกทำอาหารเป็น”
“คอยดูสิ”
“แล้วแกจะทำอะไร”
“อืม!!! แกมีปลาด้วย เอาเป็นข้าวต้มปลา”
ข้าวต้มปลาอาหารที่เธอชอบที่สุดและก็เป็นอาหารจานสุดท้ายที่ผมทำให้เธอทานก่อนที่เธอจะ...
เนวดี Talk
“หอมข้าวต้ม”
แควสูดลมหายใจเพื่อรับกลิ่นข้าวต้ม กลิ่นนี้มันข้าวต้มปลาและก็ไม่ใช่ข้าวต้มปลาทั่วไปมันคือกลิ่นของของข้าวต้มปลาที่ฉันรอมานานกว่าสิบสามปีหรือว่าเขาจะเป็นคนทำ
“ข้าวต้มปลานี่มัน”
“อะไรเหรอเนว อ้าวจะรีบเดินไปไหน” ฉันก็จะรีบเดินไปดูว่าใครทำนะสิ
“ข้าวปั้นแกทำได้ไงวะแค่สิบห้านาทีมันก็เสร็จแล้ว” เขาเป็นคนทำจริงๆด้วย
“เมื่อก่อนมีเด็กคนหนึ่งเป็นคนที่ใจร้อนมากอยากกินไวๆ ฉันก็เลยคิดวิธีที่จะให้มันเสร็จไวที่สุดแต่...เด็กคนนั้นก็ไม่เคยกลับมาทานมันอีกเลยจนวันนี้สิบสามปีเข้าไปแล้ว”
“เศร้าจังวะ ฉันเห็นแกพูดถึงเด็กคนนั้นทีไรแกเป็นแบบนี้ทุกที”
“ก็เขาเป็น... นั้นใครนะ” เห็นซะแล้ว
“เนวนั้นเอง แล้วแควล่ะ”
“ไม่ลองโทรตามดูละคะพี่ภู”
“ไปเอาเบอร์กันมาตอนไหนวะภู” ทำไมต้องทำหน้าตกใจด้วยหรือว่าพี่ข้าวปั้นจะชอบยัยแคว
“ตอนที่แกไม่รู้ไง มาแล้วเหรอแควครับ” พี่ภูตอบกลับมาแบบกวนๆใส่พี่ข้าวปั้น แต่พอเห็นยัยแควก็หันมาพูดน้ำเสียงหวานจ๋อย
ส่งตาหวานใส่กันเลยทีเดียว ส่วนพี่ข้าวปั้นก็หันไปจักการตักข้าวต้มใส่ถ้วยให้ทุกคนจะได้ทานแล้วรสที่รอมานานไม่มีใครทำอาหารให้ฉันได้ถูกใจเท่าพี่ข้าวปั้นอีกแล้ว
“อยากทานมากเหรอครับคุณเนวดี” อุ้ย นี่ฉันแสดงออกขนานนั้นเลยเหรอ แย่แล้ว
“ก็แค่อยากชิมนะคะว่าจะสู้หน้าตาคนทำได้รึเปล่ากลัวเสียแต่ว่าสวยแต่รูปแต่ทานไม่ได้เรื่อง”
“เธอ!!!”
เอาเข้าไปปากฉันนี้มันเปลี่ยนไม่ได้เลยมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เล็กจนโตด่าทุกคนที่เข้ามาจีบจนไม่มีใครมาคบกับฉันแล้ว
ข้าวปั้น Talk
ผมกำลังคุยถึงยัยหนูน้อยของผมกับไอ้เพื่อนสุดสนิทคนเดียวของผมไม่ไม่เคยเปิดใจคบใครเป็นเพื่อนมาตั้งแต่เล็กเพื่อนคนแรกคือยัยหนูน้องและเธอก็เป็นคนเดียวที่อยู่ในใจผม เธอสอนให้ผมเปิดใจยอมรับคนอื่น ผมมีเพื่อนมากขึ้นก็เพราะเธอ
แต่หลังจากที่เธอหายไปผมก็เก็บตัวอยู่คนเดียว และกลายเป็นคนเย็นชาจนเพื่อนร่วมชั้นพากันหมันไส้ และผมก็ได้ทะเลาะกับไอ้ภูเพราะมันบอกว่าผมนะจะเก๊กไปไหนถ้าคิดว่าหล่อนักก็ไปหล่อที่อื่น ผมปล่อยหมัดใส่มันไม่ยั้งจนมันก็สวนผมไม่ยั้งเหมือนกันแต่สุดท้ายเราก็ยิ้มให้กันและเป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปีแล้ว
“เศร้าจังวะ แกพูดถึงเด็กคนนั้นทีไรเป็นแบบนี้ทุกที”
“ก็เขาเป็น... ใครนะ”
ใครกันมาแอบฟังผมคุยกับเพื่อนไร้มารยาทจัง ยัยเนวตัวเล็กนั้นเองเธอเองสินะที่ไอ้เพื่อนผมมันพูดถึง คุยกันสนิทสนมเลย เอ๋!ได้ยินอะไรโทรคุยนะ
“ไปเอาเบอร์กันมาตอนไหนวะภู”
“ตอนที่แกไม่รู้ไง !##%%6”
ทำไมมันต้องปิดบังด้วยหรือว่ามันจะชอบเนวไม่นะ ผมเหลือบตาไปมองเนวเธอทำท่าอยากจะกินข้าวต้มผมมากเลยมันน่าดีใจจัง
“อยากทานมากเหรอครับคุณเนวดี” จะพูดจาดีๆเป็นไหมผมนะ
“ก็แค่อยากชิมนะคะว่าจะสู้หน้าตาคนทำได้รึเปล่ากลัวเสียแต่ว่าสวยแต่รูปแต่ทานไม่ได้เรื่อง”
“เธอ!!!”
เธอก็ไม่เบาเลยนะเนวชั่งต่อปากต่อคำเกินไปแล้ว มันน่านักเชียวไม่อยากหาเรื่องเธอหาต่อแล้วจัดโต๊ะอาหารต่อดีกว่า
พวกเรานั่งเตรียมพร้อมกับการทานอาหราเช้า ตาผมเหลือบไปมองเนวเธอลงมือทานข้าวต้มด้วยหน้าตามีความสุขสงสัยจะชอบข้าวต้มของผมดีจังเลย
“เป็นไงครับเนอร่อยไหม”
“อืม!!! อร่อยค่ะ”
ไอ้เพื่อนบ้านี่จะมากไปแล้วมาเรียกชื่อเล่นกันด้วยไปสนิทกันตอนไหนวะแถมยังมาถามตัดหน้าผมอีก
“อร่อยสู้หน้าคนทำได้รึเปล่าล่ะ” เอาอีกแล้วผมจะพูดดีๆกันเธอได้ไหมอยากตบปากตัวเองจริงๆ
“หน้าคนทำกับอาหารจะไปเกี่ยวกันได้ไง”
“เธอ กวนกันนี่”
“เออ แควว่าเรารีบมาทานให้เสร็จกันดีกว่าใกล้จะประชุมแล้วเดี๋ยว สิบโมงเช้าแควมีเรียน”
เลิกทะเลาะก็ได้วะผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ปากดีไม่สมกับเป็นกุลสตรีเลยสวยซะเปล่า เอ๊ะนี่ผมชมเธอว่าสวยเหรอเนี่ย
เนวดี Talk
“เนวตกลงเธอยังชอบพี่ข้าวปั้นอยู่รึเปล่านะ”
“ไม่รู้สิเมื่อก่อนฉันคิดว่าถ้าได้เจอเขาฉันคงจะมีความสุขมาก”
“แล้วตอนนี้เธอไม่มีความสุขเหรอ” ไม่มีความสุขอย่างนั้นเหรอ
“มันก็ไม่เชิงหรอก แต่ฉันแค่รู้สึกว่าตอนนี้ฉันไม่ใช่ฉัน ฉันในตอนนี้คืออีกคนที่
พี่ข้าวปั้นเขาเพิ่งรู้จัก และเขาก็คือคนที่ฉันคนนี้เพิ่งพบได้ไม่นาน พวกเราจากกันมานานเกินจนไปจนฉันไม่รู้จักเขา พวกเราเหมือนกำลังทำความรู้จักกันใหม่ ไม่ใช่คนที่จากกันมามานานได้อยู่ใกล้ๆกันอีก”
“ความคิดเธอลึกซึ้งเหลือเกิน ข้าพเจ้ามิบังอาจเข้าใจ” ยัยแควพูดล้อเรียนกับความคิดของฉัน
หรือว่าฉันจะคิดมากไปนะ ฉันว่าฉันคงจะต้องบอกความจริงกับพี่ข้าวปั้นดีกว่า
“เนวแกดูพี่คนนั้นสิกอดกับผู้ชายด้วยกัน เขาหอมกันด้วย” ยัยแควชี้ให้ฉันดูผู้ชายสองคน
“เขาเป็นตุ๊ดเหรอ”
“ไม่รู้สิ หน้าเขาคุ้นมากเลยนึกออกแล้วเขาเป็นดาราเรียนอยู่ที่คณะนิเทศ พ่อเขาเป็นนักธุรกิจเป็นลูกค้าป๊าด้วย รู้สึกว่าชื่อปุน”
“ดาราสมัยนี้มีแต่พวกแอบเนอะแคว”
“นั้นนะสิเสียดายความหล่อจัง อยากได้เป็นแฟนจัง”
“แล้วเอาพี่ภูไปไว้ไหนจ๊ะ”
“เล่นดักทางกันแบบนี้เลยเหรอยัยเนว ได้เวลาเรียนแล้วไปเรียนกันดีกว่า”
ยัยแควรากแขนฉันเดินออกมาจากตรงนั้น ฉันหันกับไปมองเขาอีกครั้งเขาหันมามองฉันด้วย ขาวจังเลย หน้าสวยจังหน้าคล้ายกับใครสักคนที่ฉันรู้จักจำไม่ได้แต่ไม่น่าเป็นตุ๊ดเลยถ้าไม่ได้เป็นฉันอยากจะรู้จักเขา ไม่ได้สิเรามีพี่ข้าวปั้นอยู่แล้วเราจะไปอยากสนิทสนมกับคนอื่นได้ไง นี่เราอยากจะสนิทกันตุ๊ดคนนั้นเหรอ
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ยัยแควนี้ไม่ทิ้งลายเจ้าชู้เลย เดี๋ยวฉันจะฟ้องนายภูแน่
ยัยเนวจะรอคอยอาหารเช้าฝีมือใครนะ
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เนวดี Talk
เช้าวันนี้สดชื่นสุดๆแม้บ้านนี้จะไม่ได้ใหญ่โตเหมือนบ้านลุงจ้าว นึกว่าเมื่อวานความจะแตกแล้วดีที่ท้องของตาจืดไดโจร้องดังเรียกความสนใจก่อน ต้องขอบใจเจ้านั้นจริงๆ แต่ทำไมฉันคิดว่าการกลับมาของฉันมันไม่ได้เป็นความลับเลยคุณลุงกับคุณน้ารู้ถึงการมาของฉัน พี่โมจิกับซูชิก็รู้แล้ว ไม่รู้ว่าเรื่องของฉันมันจะยังเป็นความลับอยู่ไหม แล้วถ้ามันไม่เป็นความลับอันตรายที่แม่ว่ามันจะมาหาฉันเมื่อไร
“เนวไปมหา’ลัยกันเถอะพี่ภูเขาโทรมาบอกว่าวันนี้มีประชุมตอนเช้า”
“แน่ะไปเอาเบอร์กันมาตอนไหน อ๋อ!!!ที่เธอคุยโทรศัพท์สองชั่วโมงนี่ก็...”
“-///-”
“เลิกหน้าแดงแล้วมาช่วยกันทำอาหารเช้าดีกว่า”
“ไม่ต้องทำหรอกคือพี่ภูเตรียมไว้ให้แล้วเราจะไปทานกันที่ห้องพี่เขา”
“ห้องพี่เขา”
“หมายความว่าห้องที่มหา’ลัย”
ฉันแกล้งเอามือไปลูบคลำตัวของยัยแคว
“มาจับฉันทำไม”
“ฉันแค่อยากจะแน่ใจว่าตัวเธอไม่ได้ร้อน แต่ฉันงงอยู่นิดหนึ่ง”
“งงอะไรเหรอ”
“ก็ตัวเธอก็ไม่ได้ร้อนแต่ทำไมเธอต้องร้อนตัวด้วย”
“ยัยเนว ยัยเพื่อนบ้า อย่าหนีนะฉันจะตีเธอ”
“ไม่หนีฉันก็เจ็บนะสิ”
เราสองคนวิ่งไล่จับกันเป็นเด็กๆเลย รู้สึกดีจังดีที่มีเพื่อนที่ฉันรักอย่างแควอยู่เคียงข้างในโลกนี้มีแค่ไม่กี่คนที่ดีกับฉันแต่ฉันโชคดีที่มีเธอแคว
ข้าวปั้น Talk
ใครวะมันชั่งจัดการประชุมช่วงเช้าง่วงจะตายอยู่แล้วเมื่อคืนไม่น่าไปเที่ยวกับมากี้เลยดื่มไปเยอะด้วย หืม! กลิ่นอาหารมาจากห้องไอ้ภูนี่หว่าต้องไปของมันกินหน่อยหิวมากๆเลยตอนนี้ ที่จริงน่าจะทำห้องครัวไว้ที่ห้องผมนะ เห็นผมเที่ยวไปวันๆแบบนี้ฝีมือการทำอาหารของผมนี่ขั้นเทพเลยล่ะ ผมทำอาหารเป็นมาตั้งแต่เด็กส่วนมากผมจะทำให้เธอคนนั้นทานอยู่บ่อยๆจนกระทั่งเธอจากผมไป แต่ผมก็ยังฝึกทำอาหารอยู่นะโดยเฉพาะอาหารที่เธอชอบเพราะผมคิดว่าสักวันเธอจะมาทานอาหารที่ผมทำ
“ภูฉันขอทานด้วยคนสิ”
“ได้”
“แล้วแกทำเยอะแบบนี้กินหมดเหรอวะ”
“ใครว่าฉันจะกินคนเดียว เช้านี้จะมีสาวน้อยสองคนมากินกับเราด้วย”
“จะสาวไหนจะกี่คนก็ชั่งแต่ฉันขอแสดงฝีมือให้แกดูเป็นขวัญตาอีกอย่างดีกว่า”
“แกจะบอกฉันว่าแกทำอาหารเป็น”
“คอยดูสิ”
“แล้วแกจะทำอะไร”
“อืม!!! แกมีปลาด้วย เอาเป็นข้าวต้มปลา”
ข้าวต้มปลาอาหารที่เธอชอบที่สุดและก็เป็นอาหารจานสุดท้ายที่ผมทำให้เธอทานก่อนที่เธอจะ...
เนวดี Talk
“หอมข้าวต้ม”
แควสูดลมหายใจเพื่อรับกลิ่นข้าวต้ม กลิ่นนี้มันข้าวต้มปลาและก็ไม่ใช่ข้าวต้มปลาทั่วไปมันคือกลิ่นของของข้าวต้มปลาที่ฉันรอมานานกว่าสิบสามปีหรือว่าเขาจะเป็นคนทำ
“ข้าวต้มปลานี่มัน”
“อะไรเหรอเนว อ้าวจะรีบเดินไปไหน” ฉันก็จะรีบเดินไปดูว่าใครทำนะสิ
“ข้าวปั้นแกทำได้ไงวะแค่สิบห้านาทีมันก็เสร็จแล้ว” เขาเป็นคนทำจริงๆด้วย
“เมื่อก่อนมีเด็กคนหนึ่งเป็นคนที่ใจร้อนมากอยากกินไวๆ ฉันก็เลยคิดวิธีที่จะให้มันเสร็จไวที่สุดแต่...เด็กคนนั้นก็ไม่เคยกลับมาทานมันอีกเลยจนวันนี้สิบสามปีเข้าไปแล้ว”
“เศร้าจังวะ ฉันเห็นแกพูดถึงเด็กคนนั้นทีไรแกเป็นแบบนี้ทุกที”
“ก็เขาเป็น... นั้นใครนะ” เห็นซะแล้ว
“เนวนั้นเอง แล้วแควล่ะ”
“ไม่ลองโทรตามดูละคะพี่ภู”
“ไปเอาเบอร์กันมาตอนไหนวะภู” ทำไมต้องทำหน้าตกใจด้วยหรือว่าพี่ข้าวปั้นจะชอบยัยแคว
“ตอนที่แกไม่รู้ไง มาแล้วเหรอแควครับ” พี่ภูตอบกลับมาแบบกวนๆใส่พี่ข้าวปั้น แต่พอเห็นยัยแควก็หันมาพูดน้ำเสียงหวานจ๋อย
ส่งตาหวานใส่กันเลยทีเดียว ส่วนพี่ข้าวปั้นก็หันไปจักการตักข้าวต้มใส่ถ้วยให้ทุกคนจะได้ทานแล้วรสที่รอมานานไม่มีใครทำอาหารให้ฉันได้ถูกใจเท่าพี่ข้าวปั้นอีกแล้ว
“อยากทานมากเหรอครับคุณเนวดี” อุ้ย นี่ฉันแสดงออกขนานนั้นเลยเหรอ แย่แล้ว
“ก็แค่อยากชิมนะคะว่าจะสู้หน้าตาคนทำได้รึเปล่ากลัวเสียแต่ว่าสวยแต่รูปแต่ทานไม่ได้เรื่อง”
“เธอ!!!”
เอาเข้าไปปากฉันนี้มันเปลี่ยนไม่ได้เลยมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เล็กจนโตด่าทุกคนที่เข้ามาจีบจนไม่มีใครมาคบกับฉันแล้ว
ข้าวปั้น Talk
ผมกำลังคุยถึงยัยหนูน้อยของผมกับไอ้เพื่อนสุดสนิทคนเดียวของผมไม่ไม่เคยเปิดใจคบใครเป็นเพื่อนมาตั้งแต่เล็กเพื่อนคนแรกคือยัยหนูน้องและเธอก็เป็นคนเดียวที่อยู่ในใจผม เธอสอนให้ผมเปิดใจยอมรับคนอื่น ผมมีเพื่อนมากขึ้นก็เพราะเธอ
แต่หลังจากที่เธอหายไปผมก็เก็บตัวอยู่คนเดียว และกลายเป็นคนเย็นชาจนเพื่อนร่วมชั้นพากันหมันไส้ และผมก็ได้ทะเลาะกับไอ้ภูเพราะมันบอกว่าผมนะจะเก๊กไปไหนถ้าคิดว่าหล่อนักก็ไปหล่อที่อื่น ผมปล่อยหมัดใส่มันไม่ยั้งจนมันก็สวนผมไม่ยั้งเหมือนกันแต่สุดท้ายเราก็ยิ้มให้กันและเป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปีแล้ว
“เศร้าจังวะ แกพูดถึงเด็กคนนั้นทีไรเป็นแบบนี้ทุกที”
“ก็เขาเป็น... ใครนะ”
ใครกันมาแอบฟังผมคุยกับเพื่อนไร้มารยาทจัง ยัยเนวตัวเล็กนั้นเองเธอเองสินะที่ไอ้เพื่อนผมมันพูดถึง คุยกันสนิทสนมเลย เอ๋!ได้ยินอะไรโทรคุยนะ
“ไปเอาเบอร์กันมาตอนไหนวะภู”
“ตอนที่แกไม่รู้ไง !##%%6”
ทำไมมันต้องปิดบังด้วยหรือว่ามันจะชอบเนวไม่นะ ผมเหลือบตาไปมองเนวเธอทำท่าอยากจะกินข้าวต้มผมมากเลยมันน่าดีใจจัง
“อยากทานมากเหรอครับคุณเนวดี” จะพูดจาดีๆเป็นไหมผมนะ
“ก็แค่อยากชิมนะคะว่าจะสู้หน้าตาคนทำได้รึเปล่ากลัวเสียแต่ว่าสวยแต่รูปแต่ทานไม่ได้เรื่อง”
“เธอ!!!”
เธอก็ไม่เบาเลยนะเนวชั่งต่อปากต่อคำเกินไปแล้ว มันน่านักเชียวไม่อยากหาเรื่องเธอหาต่อแล้วจัดโต๊ะอาหารต่อดีกว่า
พวกเรานั่งเตรียมพร้อมกับการทานอาหราเช้า ตาผมเหลือบไปมองเนวเธอลงมือทานข้าวต้มด้วยหน้าตามีความสุขสงสัยจะชอบข้าวต้มของผมดีจังเลย
“เป็นไงครับเนอร่อยไหม”
“อืม!!! อร่อยค่ะ”
ไอ้เพื่อนบ้านี่จะมากไปแล้วมาเรียกชื่อเล่นกันด้วยไปสนิทกันตอนไหนวะแถมยังมาถามตัดหน้าผมอีก
“อร่อยสู้หน้าคนทำได้รึเปล่าล่ะ” เอาอีกแล้วผมจะพูดดีๆกันเธอได้ไหมอยากตบปากตัวเองจริงๆ
“หน้าคนทำกับอาหารจะไปเกี่ยวกันได้ไง”
“เธอ กวนกันนี่”
“เออ แควว่าเรารีบมาทานให้เสร็จกันดีกว่าใกล้จะประชุมแล้วเดี๋ยว สิบโมงเช้าแควมีเรียน”
เลิกทะเลาะก็ได้วะผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ปากดีไม่สมกับเป็นกุลสตรีเลยสวยซะเปล่า เอ๊ะนี่ผมชมเธอว่าสวยเหรอเนี่ย
เนวดี Talk
“เนวตกลงเธอยังชอบพี่ข้าวปั้นอยู่รึเปล่านะ”
“ไม่รู้สิเมื่อก่อนฉันคิดว่าถ้าได้เจอเขาฉันคงจะมีความสุขมาก”
“แล้วตอนนี้เธอไม่มีความสุขเหรอ” ไม่มีความสุขอย่างนั้นเหรอ
“มันก็ไม่เชิงหรอก แต่ฉันแค่รู้สึกว่าตอนนี้ฉันไม่ใช่ฉัน ฉันในตอนนี้คืออีกคนที่
พี่ข้าวปั้นเขาเพิ่งรู้จัก และเขาก็คือคนที่ฉันคนนี้เพิ่งพบได้ไม่นาน พวกเราจากกันมานานเกินจนไปจนฉันไม่รู้จักเขา พวกเราเหมือนกำลังทำความรู้จักกันใหม่ ไม่ใช่คนที่จากกันมามานานได้อยู่ใกล้ๆกันอีก”
“ความคิดเธอลึกซึ้งเหลือเกิน ข้าพเจ้ามิบังอาจเข้าใจ” ยัยแควพูดล้อเรียนกับความคิดของฉัน
หรือว่าฉันจะคิดมากไปนะ ฉันว่าฉันคงจะต้องบอกความจริงกับพี่ข้าวปั้นดีกว่า
“เนวแกดูพี่คนนั้นสิกอดกับผู้ชายด้วยกัน เขาหอมกันด้วย” ยัยแควชี้ให้ฉันดูผู้ชายสองคน
“เขาเป็นตุ๊ดเหรอ”
“ไม่รู้สิ หน้าเขาคุ้นมากเลยนึกออกแล้วเขาเป็นดาราเรียนอยู่ที่คณะนิเทศ พ่อเขาเป็นนักธุรกิจเป็นลูกค้าป๊าด้วย รู้สึกว่าชื่อปุน”
“ดาราสมัยนี้มีแต่พวกแอบเนอะแคว”
“นั้นนะสิเสียดายความหล่อจัง อยากได้เป็นแฟนจัง”
“แล้วเอาพี่ภูไปไว้ไหนจ๊ะ”
“เล่นดักทางกันแบบนี้เลยเหรอยัยเนว ได้เวลาเรียนแล้วไปเรียนกันดีกว่า”
ยัยแควรากแขนฉันเดินออกมาจากตรงนั้น ฉันหันกับไปมองเขาอีกครั้งเขาหันมามองฉันด้วย ขาวจังเลย หน้าสวยจังหน้าคล้ายกับใครสักคนที่ฉันรู้จักจำไม่ได้แต่ไม่น่าเป็นตุ๊ดเลยถ้าไม่ได้เป็นฉันอยากจะรู้จักเขา ไม่ได้สิเรามีพี่ข้าวปั้นอยู่แล้วเราจะไปอยากสนิทสนมกับคนอื่นได้ไง นี่เราอยากจะสนิทกันตุ๊ดคนนั้นเหรอ
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ยัยแควนี้ไม่ทิ้งลายเจ้าชู้เลย เดี๋ยวฉันจะฟ้องนายภูแน่

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ธ.ค. 2555, 20:08:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ธ.ค. 2555, 20:08:54 น.
จำนวนการเข้าชม : 993
<< 4 ------->>>ประจันหน้า + เพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ | 6 ------>>>>>> ได้พูดดีๆกันสักที + ช่วยชีวิตคนแปลกหน้า >> |