เพราะรักเธอ
ทุกสิ่งเกิดเพราะว่ารัก และจบลงเพราะความรัก รักที่ผิด กับ รักที่ถูกก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆได้มากมาย และเมื่อใช่ความรักในการมอง เราก็จะมีคนรักมากมายในโลกใบนี้
Tags: วันเวลา หัวใจ

ตอน: 6 ------>>>>>> ได้พูดดีๆกันสักที + ช่วยชีวิตคนแปลกหน้า

ยัยเนวจะได้คุยกับนายข้าวปั้นแบบสองต่อสองแแล้ว แล้วว่าแต่ยัยเนวจะช่วยใครกันล่ะ

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

เนวดี Talk
แย่จังเพื่อนที่แสนดีของฉันทิ้งฉันไปออกเดทกับแฟน ไม่ต้องงงว่าใครที่ไหนก็พี่ภูนั้นแหละเจอกันแค่สองอาทิตย์ไปตกลงเป็นแฟนกันตอนไหนเนี่ย แถมวันนี้เป็นเวรฉันที่ต้องไปจัดเอกสารแล้วก็สรุปการประชุมของอาทิตย์นี้อีกต้องอยู่คนเดียวเลย ที่จริงคนที่ทำหน้าที่นี้มีสี่คนคือฉัน พี่เจนนี่ พี่เอร่า แล้วก็พี่ตุ๊ดชิมแปนซีเขามีชื่อนี่หวา อ๋อน้ำยา ที่จริงเขาก็หน้าตาดีนะแล้วก็เป็นคนเดียวกันที่กอดคนที่ชื่อปุน

“อืม~~~ก็ทุกครั้งที่เหงาจนมีน้ำตา ทุกครั้งที่ฟ้ากายเป็นสีเทา ในคืนที่หนาวฉันยังอบอุ่นหัวใจ~~~~~~หลงทางไป~~~~แค่สองคนหนึ่งใจ~~~~ทิ้งกัน”

เสียงใครมาร้องเพลงเนี่ยถ้าเป็นกลางคืนฉันคงจะวิ่งหนีไปแล้ว แต่ว่าก็เพราะเหมือนกันความหมายก็ดีต้องไปเอาเป็นเพลงเรียกเข้าดีกว่า
“เนวดีวันนี้เวรเธอเหรอ”
“อุ้ย พี่ข้าวปั้น”
“เธอเรียกฉันว่าพี่เหรอ”

ทำไมต้องทำหน้าเจ้าเล่ห์แล้วเดินมาใกล้ๆด้วย ฉันไม่น่าหลุดปากเรียดเขาแบบนั้นเลย อย่าเดินเขามาใกล้สิฉันถอยติดกำแพงแล้วนะ
“ว่าไง...บอกพี่มาสิ”

ฉันเบี่ยงตัวหลบออกมาได้แล้วทำไมเขาต้องทำเจ้าชู้ใส่ด้วยนะไม่ชอบที่เขาเป็นแบบนี้เลย
“-\\\-”
“ไม่ตอบอีก แถวยังหน้าแดงด้วย” นี่ฉันหน้าแดงเหรอไม่ได้แล้วต้องครึมหน่อย
“เปล่าพูดแบบนั้นเสียหน่อยหูคุณนะฝาดไปเอง”
“หน้าแดงไม่หยุดเลยผมล้อเล่นนะ” ชอบล้อเล่นกับผู้หญิงทุกคนละสิ ชิ!!!

“บ่นอะไรคนเดียวนะ”
“เปล่าคะ แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่ห้องนี้ล่ะ”
“ผมจะมาช่วยคุณสรุปการประชุมนะ”
“จำเป็นเหรอคะ”

“ผมเป็นประทานนะ อีกอย่างผมก็ช่วยสรุปการประชุมทุกครั้งด้วย”
เวลาพี่ข้าวปั้นตั้งใจทำงานไม่เห็นจะเหมือนตอนลามกใส่ฉันเลย แววตามุ่งมั่นแบบนี้ชั่งน่าหลงใหลจัง
“ผมเรียกคุณว่าเนวเฉยๆได้ไหม” เมื่อกี่เขาว่าอะไรนะ
“หาหะ ว่าอะไรนะคะ”
“ผมถามคุณว่าเรียกคุณว่าเนวเฉยๆได้ไหม”
“เออ... ได้สิ ...คะ”จะมาไม้ไหนรึเปล่า
“^_^”

รอยยิ้มแบบนี้แหล่ะที่รอมาสิบสามปีรู้สึกถึงบรรยากาศเดิมสมัยเด็กกลับมายังไงก็ไม่รู้คิดถึงพี่ข้าวปั้นในแบบนี้จัง
“ฉันเรียกคุณว่าพี่ข้าวปั้นได้ไหมคะ”
“อืม... ได้สิเอาแบบนี้ดีกว่าพี่แทนตัวเองพี่ส่วนเนวแทนตัวเองว่าเนวนะ”
“ได้ค่ะพี่ข้าวปั้น”


ข้าวปั้นTalk
ผมนึกไม่ผิดที่เข้ามาคุยกับเธอ ที่จริงผมก็ไม่ค่อยมีน้ำใจมาช่วยงานใครสักเท่าไร เพราะเรื่องเรียนก็เครียดมากจะให้มาทำงานหนักอะไรนักหนาล่ะ แต่พอผมรู้ว่าวันนี้เป็นเวรของเนวผมเลยโทรไปเลิกนัดมากี้

“เธออยู่ที่ไทเปนานแล้วเหรอ”
ถามแค่นี้ท่าทางต้องคิดนานด้วยเหมือนเธอมีอะไรที่ไม่อยากบอกหรือปิดบังผมอยู่
“เออ... ก็ตั้งแต่เกิดค่ะ”
“เหรอ”
ผมรู้สึกผิดหวังจังผมอยากให้เธอตอบว่าสิบสามปี แล้วทำไมเธอพูดภาษาไทยได้ชัดถ้อยชัดคำเลย
“เธอเก่งนะพูดภาษาไทยชัดมากเลย เพื่อนเธอยังออกจีนไทยอยู่เลย”

“แม่เนวเป็นคนไทยนี่หนา”
“เหรอ แต่เธอเหมือนลูกครึ่งญี่ปุ่นนะ พ่อเธอเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-จีนเหรอ”
“พ่อเป็นคนญี่ปุ่นค่ะไม่เคยอยู่จีนแล้วก็คงพูดภาษาจีนไม่เป็น”
“แล้วเธอไปอยู่ที่นู่นตั้งแต่เกิดได้ไง”
“เออ....”

เหมือนเธอจะเผลอหลุดอะไรออกมาแล้ว หน้าซีดเป็นไก่ต้มเลย ทำบ่นอะไรคนเดียวอีก
“ว่าไง”
“เออ... เรื่องมันเป็น…”
“ข้าวปั้นมาอยู่นี่เองปล่อยให้มากี้หาต้องนาน แม่นี่คนที่ต่อยหน้าคุณนี่คะ มาทำอะไรที่นี่ยะยัยโรคจิต”


เนวดี Talk
เอาแล้วสิโกหกไม่ได้แล้วดันบอกเขาว่าอยู่ตั้งแต่เกิด แล้วไปบอกเขาว่าแม่เป็นคนไทย พ่อเป็นคนญี่ปุ่นไม่เคยไปอยู่จีนพูดจีนไม่เป็น เอาแล้วไง
“ว่าไง”
คงต้องบอกความจริงแล้วล่ะมั่ง แต่ที่จริงก็ไม่ได้อยากปิดบังพี่ข้าวปั้นอยู่แล้วด้วย

“เออ...เรื่องมันเป็น...”
“ข้าวปั้นมาอยู่นี่เองปล่อยให้มากี่หาต้องนาน แม่นี่คนที่ต่อยหน้าคุณนี่คะ มาทำอะไรที่นี่ยะยัยโรคจิต” เอาเข้าไปจะมาขัดจังหวะตอนนี้ด้วยนะยัยลูกครึ่ง
“เธอนั้นแหละที่โรคจิต”
“เธอกล้าด่าฉันเหรอ”
ยัยลูกครึ่งเดินเข้ามาหมายที่จะตบฉันแต่โชคดีที่พี่ข้าวปั้นเดินมาจับมือเธอไว้ทัน เกือบโดนฝ่ามือมารแล้วไหมล่ะ

“พอที่เถอะมากี้อย่าทำเป็นอันธพาลแถมนี้ผมไม่ชอบ”
“เออ...เนวขอตัวกลับก่อนนะคะพี่ข้าวปั้นฉันไปก่อนนะยัยลูกครึ่ง”
ยัยลูกครึ่งดูจะอึกไปที่เห็นฉันเรียกเธอแบบนั้นหรือจะอึ่งที่โดนพี่ข้าวปั้นว่าเอาก็ไม่รู้ ฉันรีบเดินออกไปเลยดีกว่า

“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่ข้าวปั้นเดินตามฉันมาเหรอเนี่ย
“จะดีเหรอคะที่ปล่อยให้ยัยลูกครึ่งอยู่ในห้องคนเดียว”
“ช่างเธอเถอะพี่เบื่อที่จะอยู่ใกล้เธอเต็มที่ เนวเธอรู้ไหมถ้าพี่ไม่มีเหตุผลพี่ก็ไม่มีทางที่จะไปอยู่ใกล้คนนิสัยแบบนั้นหรอก ถ้าพี่รู้ความจริงบางอย่างแล้วพี่จะไม่มีทางไปยุ้งเกี่ยวกับยัยนางมารนั้นเลย”
“ความจริงบางอย่า? ยัยนางมาร พี่ข้าวปั้นพูดยังกับว่าไม่ได้รักยัยลูกครึ่ง”
ไม่รู้ว่าทำไมพี่ข้าวปั้นถึงหลุดพูดเรื่องนั้นออกมา ถึงว่าสิเพราะตั้งแต่เด็กเขาไม่ชอบมากี้มากแล้วก็เรียกเธอว่า ‘นางมาร’ พี่ข้าวปั้นต้องการอะไรจากยัยลูกครึ่งกันแน่

“มันก็อธิบายยาก จริงสิเนวเธอรู้ไหมว่าไม่เคยมีใครเรียกมากี่ว่ายัยลูกครึ่งนานแล้ว ถ้าพี่ไม่รู้จักเนวพี่จะดีใจมากเลยนะ” เอาแล้วเผลอหลุดตลอดเลยฉัน ว่าแต่เขาจะดีใจเรื่องอะไร
“พี่ข้าวปั้นจะดีใจเรื่องอะไร”
“นั้นสิ ถึงรถพี่แล้ว”

รถสปอตเป็นประทุนสีขาว ฉันไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเลยว่าเขาซื้อรถแบบนี้สีนี้เพราะฉัน เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในตอนเด็กฉันก็อดยิ้มไม่ได้
เมื่อ สิบสามปีที่แล้ว

‘พี่ข้าวปั้นดูรถนั้นดินาจิอยากนั่งรถแบบนั้น’ ฉันชี้นิ้วไปที่รถเก่งไม่มีหลังคาเขาเรียกว่ารถอะไรนะ
‘รถสปอตเปิดประทุน สีมันไม่แสบตาไปเหรอ’
‘เอาเป็นสีขาวก็ได้มันได้เหมาะกับนาจิจริงไหม’
‘จริงสิ นาจิถ้าพี่มีเงินเยอะๆพี่จะซื่อแล้วให้นาจินั่งคนแรก’
‘สัญญานะคะ’
‘แน่นอนพี่สัญญา’


ปัจจุบัน
“เหม่ออะไรเนวไม่ขึ้นรถเหรอ”
“พี่ข้าวปั้นคะ รถคันนี้เปลี่ยนตุ๊กตามากี่คนแล้ว”
“ทำไมถามแบบนั้นล่ะ”
“ไม่ต้องตอบก็ได้ค่ะ”
“พี่ไม่เคยให้ใครมานั่งรถคันนี้มันเป็นสัญญาว่าพี่จะต้องให้เธอคนนั้นนั่งเป็นคนแรก”
“^^”
“ยิ้มอะไรของเธอ”

“เปล่าแล้วพี่มาให้เนวขึ้นรถมาแบบนี้มันจะไม่เป็นการผิดสัญญากับเธอเหรอคะ”
“พี่ว่าเขาคงมานั่งรถคันนี้ตามสัญญาไม่ได้แล้ว แต่เธอเหมือนกับเด็กคนนั้นมากจะมานั่งรถคันนี้มันคงไม่เป็นการผิดกับเธอมากนักหรอก ขึ้นรถเถอะ”
ทำไมพี่ข้าวปั้นถึงพูดแบบนั้น ‘เขาคงมานั่งรถคันนี้ตามสัญญาไม่ได้แล้ว’ พูดอย่างกับว่าฉันตายไปแล้วไหนยังหน้าเศร้าๆแบบนั้นอีก
อ้าวเผลอนิดเดียวรถก็มาใกล้ถึงทางเข้าหมู่บ้านแล้ว

“หมู่บ้านปัญญาบ่มี”
“ไม่ใช่คะอ่านว่าปัญญาบารมี พอดีสระอากับรอเรือมันหลุดไป แล้วคาบตะใคร่ก็มาเกาะตรงเหนือบอใบไม้พอดี”
“ฮาๆ นั้นสิใครจะมาตั้งชื่อหมู่บ้านว่าปัญญาบ่มี”

ข้าวปั้น Talk
ผมขับรถมาตามเส้นทางที่เนวบอกมันก็ไม่ได้ไกลจากมหา’ลัยเท่าไร ตลอดทางเธอไม่พูดอะไรเหมือนเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ป้ายทางเข้าหมู่บ้านนั้น
“หมู่บ้านปัญญาบ่มี” บ้าไปแล้วเจ้าของหมู่บ้านนี้จะประกาศให้โลกรู้รึไงว่าตัวโง่
“ไม่ใช่คะอ่านว่าปัญญาบารมี พอดีสระอากับรอเรือมันหลุดไป แล้วคาบตะใคร่ก็มาเกาะตรงเหนือบอใบไม้พอดี”
“ฮาๆ นั้นสิใครจะมาตั้งชื่อหมู่บ้านว่าปัญญาบ่มี”

“จอดก่อนๆ”
“อะไรของเธออีกล่ะ”
ผมมองไปตามนิ้วที่เธอชี้ไป ผมจึงได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งโดนลุมกระทืบอยู่
“เธอรู้จักเขาเหรอ”
“เนวเคยเห็นเขาที่มหา’ลัยเขาเป็นเพื่อนพี่น้ำยา”
พอผมรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นเด็กในมหา’ลัยผมเลยเปิดประตูลงไปช่วย เนวก็ตามลงมาด้วย

“สี่คน”
“เอาไงดีคะพี่ข้าวปั้น”
“สู้คงไม่ไหว”
“นึกออกแล้ว”
“อะไรก็ว่ามาสิ”

“ช่วยด้วยๆๆๆ”
จู่ๆยัยตัวเล็กก็ตะโกนอกกมาเรียกร้องความสนใจจากเจ้าพวกนั้นได้ดี เอาล่ะทีนี่มันมองมาแล้วเดินมาใกล้แล้วผมกับเนวเดินถอยหลังกันคนละก้าว
“ไปเถอะลูกพี่คนมองใหญ่แล้ว”
“ฝากไว้ก่อน”
ไอ้หัวหน้ามันเอานิ้วชี้กาจพวกเราแล้วเอามาทำท่าปาดที่คอทำนองว่าแกตาย แล้วไอ้สี่ตัวนั้น เออ...สี่คนนั้นวิ่งหนีไป
“ไปดูเขากันเถอะค่ะ”
แม้ทางกระตือลือล้นจริงๆแค่คนที่อยู่มหา’ลัยเดียวกันแท้ๆ



เนวดี Talk
หวิดไปดีที่ไอ้ลูกน้องนั้นขี้กลัวไม่งั้งเราเสร็จแน่ นี่ฉันมัวพล่ามอะไรอยู่เนี่ยไปช่วยเขาดีกว่า
ดูท่าทางจะอาการหนักนะ
“เป็นยังไงบ้างคะ เลือดเต็มเลย เดี๋ยวฉันจะพาคุณไปโรงพยาบาลนะ”
“มะ...มะ...ได้ อึก....มะ....ได้...นะ”
“แต่คุณท่าทางจะเป็นมากนะคะ”
“ชะ...ช่วยพะ...พาผมไปบะ...บ้านคุณหน่อย”
“จะบ้าเหรอคุณโดนตีสมองเสื่อมไปแล้วจะขอไปบ้านคนอื่นได้ไง”
“ใจเย็นสิคะพี่ข้าวปั้น”
“แล้วเธอจะให้หมอนี่ไปบ้านเธอรึไง”

ท่าทางพี่ข้าวปั้นจะไม่พอใจที่ไอ้คุณปุนขอไปบ้านฉันแล้วจะยังไงดีล่ะเราจะให้เขาไปดีไหมนะ ท่าทางเขาจะไม่ไหวแล้ว
“ค่ะฉันจะพาคุณไปบ้านฉัน”
“อะไรนะ” พี่ข้าวปั้นตกใจที่ฉันยอมให้นายปุนไปบ้านคงไม่พอใจสินะ แต่เขาจะไม่พอใจฉันทำไมล่ะก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่หนา

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ที่เขาไม่พอใจก็เพราะเขาชอบเธอนั้นแหละยััยเนว ใครก็ได้ไปบอกเธอที



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ธ.ค. 2555, 20:20:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ธ.ค. 2555, 20:21:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 890





<< 5----->>>> อาหารเช้าที่รอคอย กับ ผู้ชายแปลกหน้าที่เคยรู้จัก   7 ----------->>>>> เมื่อผู้ชายแปลกหน้าทำตัวแปลกๆ >>
เพียงใจกล้า 12 ธ.ค. 2555, 20:50:47 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account