นิยามรักหัวใจร็อค ภาค 2 (นิยามรักของเจ้าชายเย็นชา)
เรื่องราวของอีริค หนุ่มลูกครึ่งฮ่องกงอังกฤษ ที่แสนจะเงียบขรึม คนที่เป็นหัวใจหลักของการทำงานดนตรีของ Evasion ผู้มีความหลังอันลึกลับ และขมขื่น ....
Tags: สิรินดา, นิยามรัก, หัวใจร็อค, แจ่มใส, ภาค 2,นิยาย, sirinda, jamsai, novels, love story, อีริค

ตอน: 30 : สิ่งที่เปลี่ยนไป

ปฐพีกำลังหงุดหงิด เขาระบายอารมณ์ด้วยการเดินไปมาอยู่ในห้องทำงานของเขาในโรงแรมโดยที่ไม่สามารถจับงานที่ค้างอยู่ขึ้นมาทำได้

ชายหนุ่มเพิ่งกลับจากการเป็นวิทยากรรับเชิญให้ตลาดหลักทรัพย์ เขาถูกขอให้ไปคุยกับนักลงทุนต่างประเทศที่สนใจลงทุนในประเทศไทยกลุ่มหนึ่งฟังถึงสภาวะการลงทุนในหุ้นในประเทศไทย เสร็จงานตั้งใจจะทำเซอรไพรส์กับคนรักด้วยการพาเธอไปดินเนอร์สองต่อสอง แต่ปรากฎว่าอีกฝ่ายติดประชุมซะอย่างนั้น

ระยะหลังวิสาข์ต้องกลับไปดูแลน้องสาวซึ่งยังมีอาการเครียด ซึมเศร้ากับเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นของครอบครัว จึงไม่มีเวลาทำหวานกับคนรักบ่อยนัก

‘ตอนนี้สาต้องดูแลน้องใกล้ชิดค่ะ ยัยฝนยังไม่รู้นะคะ ว่าแม่จะหย่ากับพ่อ ถ้ารู้ ไม่รู้แกจะกลับมาเครียดอีกไหม’

‘ตอนนี้คุณฝนดีขึ้นมากแล้วนะ ผมคิดว่าคุณประเมินน้องคุณต่ำไป’ เขาบอกคนรัก ‘ยิ่งมีเรื่องเจ้าอีริคให้เธอคิด รับรองว่าไม่มีเวลาเครียดเรื่องแม่คุณหรอก’

รมิดาดีขึ้นมาในสายตาของปฐพี เธอไม่เอาแต่นั่งเหม่อ คิดอะไรนิ่งๆ อยู่คนเดียวเหมือนตอนที่กลับมาจากเกาหลีใหม่ๆ การรักษาแบบพิเศษจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาช่วยให้เธอดีขึ้นมาก แต่การที่เธอเข้าไปดูแลอีริค แทบจะทำให้เธอกลายเป็นคนใหม่

ล่าสุดที่น้องสาวของวันวิสาข์โทรมาปรึกษาเขาเรื่องการรับมือกับอาการติสต์ประหลาดๆ ของอีริค …น้ำเสียงของเธอที่คุยกับเขาดูตื่นเต้น จริงจังกับเรื่องที่กำลังทำอยู่มาก มันเป็นนิมิตหมายที่ดีทีเดียว แบบนี้แหละถึงจะเหมาะสมกับเจ้าอีริค จอมวางมาดเพื่อนของเขา

เสียงเคาะประตู ปฐพีเงยหน้าขึ้น แล้วก็ต้องหุบยิ้มทันใด เมื่อคนที่เปิดประตูเข้ามาไม่ใช่คนที่เขาคิดไว้

“ว่าไง”

“คุณวันวิสาข์บอกว่า ขอเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ ถ้าคุณหิวให้สั่งอาหารทานไปก่อนได้เลย”

“อะไรนะ” คนพูดเม้มปากแทบจะเป็นเส้นตรง “เธอประชุมตั้งแต่บ่ายสามไม่ใช่รึ”

ปฐพีดูจากตารางนัด วันนี้วันวิสาข์มีนัดประชุมเตรียมการสำหรับการ renovate โรงแรม ซึ่งเหลือแต่การตกลงเรื่องวัสดุสำหรับการก่อสร้างปรับปรุงเท่านั้น ไม่น่าจะมีอะไรในรายละเอียดมากมาย แต่นี่มันห้าโมงกว่าแล้วนะ

“…คือว่า”

“มีอะไรคุยกันนักหนา ภาพรวมการตกแต่งโรงแรมคุยกันไปหลายรอบแล้วนี่”

“วันนี้คุณภวัชมาประชุมด้วยค่ะ เอ่อ คุณภวัชเป็นเพื่อนเก่าของคุณวันวิสาข์ เลยคุยกันนาน”

นายภวัช เพื่อนเก่า คนฟังขมวดคิ้ว ทำไมเขาไม่เคยได้ยินวันวิสาข์พูดถึงผู้ชายคนนี้เลยล่ะ

ยังไม่ทันที่ปฐพีจะเอ่ยอะไร เลขาของเขาก็ถอยตัวออกจากห้องและปิดประตู

สิบห้านาทีจากนั้นคนที่เขารออยู่ก็โทรเข้ามือถือของเขา

“ครับ” คนพูดทำเสียงให้นิ่งที่สุด ไม่อยากเสียฟอร์มให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลัง…หึง! เพราะว่าเขาเพิ่งค้นข้อมูลเกี่ยวกับผู้ร่วมประชุมที่เลขาฯ รายงานว่าเป็นเพื่อนเก่าทางอินเทอร์เน็ต พบว่านายภวัช เจริญโรจน์วัฒนา เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี มาดดี และรวยมาก ที่สำคัญ ชายหนุ่มคนนั้นยังโสดนี่สิ

นายนั่นหายไปจากวงสังคมหลายปี กลับมาอีกทีกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมมากกว่าเดิมเพราะเพิ่งเข้ามาบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเฟอร์นิเจอร์ และทำท่าว่าจะสนใจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย

เพื่อนเก่าจริงๆ หรือเปล่านะ….ปฐพีคิดอย่างว้าวุ่นใจ เท่าที่ตรวจสอบจากข้อมูลออนไลน์ ก็ไม่ได้มีอะไรที่บอกได้ถึงความสัมพันธ์ของสองคนนี่มากนัก

“คุณดินมานานแล้วหรือคะ สาประชุมอยู่ค่ะ”

“ทราบแล้วครับ”

“จริงๆ ประชุมเสร็จแล้ว แต่พอดี สาพบเพื่อนเก่าเข้าโดยบังเอิญ คุณวัชก็เลยจะชวนสาไปทานข้าวเย็นด้วยกันต่อ คือ…เราไม่ได้เจอกันนานแล้ว คุณวัชมีเรื่องจะคุยกับสาเป็นการส่วนตัวน่ะคะ สาเลยจะขออนุญาตไปทานข้าวกับเขาหน่อย เขาเป็นเพื่อนจริงๆ นะคะ”

“…”

“คุณดิน ฟังอยู่หรือเปล่าคะ”

“ครับ”

“สาขอโทษจริงๆ ที่…เอ่อ ทำให้คุณต้องรอ”

“ไม่ต้องขอโทษ เพราะคุณไม่ได้ทำผิดอะไร ผมเองที่ไม่ได้นัดคุณก่อน” น้ำเสียงคนพูดจริงจัง “แต่…ให้ตายเถอะ ผมไม่อยากให้คุณไปกับเขา” ประโยคสุดท้ายเบา คล้ายจะบ่นกับตัวเองมากกว่า

“โธ่…คุณดิน” คนรับสายเสียงอ่อย เมื่อได้ยินน้ำเสียงนิ่งๆ และประโยคตรงไปตรงมาของอีกฝ่าย

นอกจากเป็นคนรักที่เป็นตำแหน่งพ่วงท้ายปฐพีมาเมื่อเร็วๆ นี้ เขายังเป็นคนคอยช่วยเหลือเธอในเรื่องส่วนตัวหลายๆ อย่างในช่วงที่ชีวิตต้องเผชิญปัญหาหนักหน่วงจนบางครั้งแทบจะหาทางออกไม่ได้

“ไปเถอะ คุณตัดสินใจแล้ว ผมถือว่าเป็นสิทธิ์ของคุณ…แต่วันพรุ่งนี้เป็นของผมนะ ห้ามเบี้ยว ห้ามเกเร ต้องตามใจ…ทุกอย่าง” คำพูดสุดท้ายทุ้มลึก กินความหมายแบบที่คนฟังไม่อยากจะจินตนาการ

“ไม่เอาค่ะ แบบนั้นสายอมเลิกนัดเพื่อนดีกว่า ท่าทางจะเสียเปรียบหนัก”

ปฐพีหัวยิ้มที่มุมปากทั้งๆ ที่ใจยังกรุ่นด้วยความหึงหวง

“ไปเถอะครับ เดี๋ยวผมสั่งอาหารจากห้องอาหารของโรงแรมมากิน แล้วก็จะเคลียร์งานอีกนิดหน่อยค่อยกลับบ้าน”

“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”

“ครับ แล้วพบกันพรุ่งนี้”

“ค่ะ แล้วพบกันพรุ่งนี้”

“เอ่อแต่ว่า…สาครับ” …ผมขอไปรับคุณได้ไหม อย่างน้อยก็ขอได้เห็นหน้านายภวัชตัวเป็นๆ สักหน่อย จะได้รู้ว่าจะมาเป็นคู่แข่งหรือเปล่า ประโยคสุดท้ายคนพูดยั้งปากไว้ได้ก่อน

“อะไรคะ” คนฟังเกือบจะวางสายไปแล้ว

“เอ่อ…มะ ไม่มีอะไรครับ”

“ค่ะ สวัสดีค่ะ”

วันวิสาข์วางสายไปแล้ว ปฐพียังถอนหายใจ บอกตัวเองว่าทำใจไม่ได้เลยสักนิด ให้ตายเถอะ เมื่อก่อนเขาเป็นคนสุขุม คิดอะไรรอบคอบ แต่กับเรื่องของวันวิสาข์ ทำไมเขาคิดอะไรไม่ออก พาลจะทำเรื่องทุกครั้งไปก็ไม่รู้

….

ถ้าหากยังสายตาดี ร่างกายเป็นปกติ อีริคคงจะโยนรมิดาลงจากตึกที่ตนพักรักษาตัวอยู่แน่ๆ อุตสาห์เก็บเรื่องที่ป่วยหนักเป็นความลับสุดยอด ยัยตัวร้ายคนนี้กลับทำเรื่องอีกจนได้

ชายหนุ่มไม่อยากให้ผู้มีพระคุณทั้งสองเป็นห่วง เพราะแม่มีความสุข สบายดีกับสามีใหม่ที่ต่างประเทศ ในขณะที่พ่อก็ดูเหมือนจะมีความสุขกับอาชีพใหม่ของท่านไปแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาชายหนุ่มดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้ท่านทั้งสองต้องกังวลกับตนเองตั้งแต่อายุสิบแปด และแทบจะไม่ได้รบกวนเรื่องการเงินจากทางบ้านอีกเลย ยกเว้นเงินลงทุนก้อนแรกที่ขอยืมสามีใหม่ของแม่เพื่อมาให้ปฐพีเล่นหุ้น

อีริคคิดว่าบาดแผลจากความผิดพลาดของพ่อทำให้สมาชิกในครอบครัวของเขาต่างมีความรักห่วงใยกันอย่างลึกซึ้ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน บางทีความรักก็มีรูปแบบของการแสดงออกที่คนภายนอกอาจไม่เข้าใจ

ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับทั้งคู่ ตอบคำถามซ้ำซากที่ไม่เต็มใจตอบสักนิดมากว่าครึ่งชั่วโมง

จากตอนแรกที่แม่ดูเป็นห่วงเขามาก พบกันครั้งแรกก็ผวาเข้ากอดร้องให้เสียลั่นห้อง ลูบหลังลูบไหล่ราวกับเขาเป็นเด็กเล็ก ส่วนพ่อ หลังจากถามเรื่องสุขภาพเพียงสองสามประโยค ก็ปล่อยให้บทสนทนาทั้งหมดตกอยู่กับเฮเลน

“คุณอีริค ตามสบายนะคะ ฉันมีนัดกับหมอสองชั่วโมง เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงถ้าคุณจะให้แม่ตบหลังตบไหล่ ปลอบใจอะไรกันแล้วฉันจะเห็นเข้า” รมิดาแอบกระซิบข้างหูของคนป่วยขณะที่เธอช่วยพยุงเขาลงจากเตียงไปนั่งรถเข็น “อ้อ แต่ขอร้องอย่างหนึ่งนะคะ อย่าบอกพวกท่านว่าฉันเป็นใคร…”

อีริคไม่ตอบปล่อยให้อีกฝ่ายกดฝ่ามือกับไหล่ของเขาบาๆ ก่อนที่เธอจะขออนุญาตแขกทั้งสองคนที่อยู่ในห้อง และเดินออกจากห้องไป

“ไปเดินเล่นในสวนกันดีไหม เราจะได้คุยกันสบายๆ” แม่ของอีริคออกความเห็น มิสเตอร์ลีลุกขึ้นเดินมาเข็นรถให้ลูกชายเพื่อนำไปยังสวนบนดาดฟ้า

“แฟนของลูกน่ารักนะ” มิสเตอร์ลีเอ่ยขึ้นเบาๆ “หน้าตาดูคุ้นๆ ยังไงก็ไม่รู้”

คนเจ็บอึงไปสองสามวินาที เขาอึ้งตั้งแต่คำว่าแฟน…และวลีที่ว่าหน้าคุ้นๆ

“เก่งด้วยไปหาตัวพ่อจนพบ ไม่น่าเชื่อ” มิสเตอร์ลีพูดต่อ

“แด๊ดเป็นยังไงบ้างครับ สบายดีใช่ไหม” อีริคตัดสินใจไม่แก้ความคิดของพ่อ แต่เปลี่ยนหัวข้อสนทนาเสีย หลายเดือนที่ผ่านมาเขาแทบไม่ได้คุยกับพ่อ เพราะท่านปลีกวิเวกไปทำไร่อยู่ใจกลางเขาในจังหวัดเชียงใหม่ ท่านไม่ยอมใช้โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์บ้าน มีทางเดียวที่ยอมรับการติดต่อก็คือ ทางจดหมาย

“สบายดี สบายดีมาก หลังจากตัดการรับข่าวสารทั้งหมด ทำอะไรเงียบๆ โลกของพ่อก็เล็กลงเยอะมาก สบายมากเลย คุณล่ะเฮเลน ผมไม่ได้ติดต่อคุณนานแล้ว สบายดีนะ”

“สบายดีค่ะ คุณจอห์นดูแลฉันดีมาก” เฮเลนแตะแขนสามี “แต่ฉันก็ยังคิดถึงคุณและลูกอยู่เสมอนะคะ ได้รู้ข่าวว่าสบายดีแบบนี้ ก็ดีใจมากทีเดียว” เสียงคนพูดสั่นเครือเมื่อระลึกถึงเรื่องราวในรอบหลายปีที่ผ่านมาของครอบครัว “เมื่อเวลาผ่านไป ทุกอย่างก็ไม่เลวร้ายอย่างที่คิดนะคะ”

“ใช่ ผมเองรู้สึกผิดมากมายเมื่อครั้งนั้น ที่ทำให้คุณและลูกเดือดร้อนมาก แต่ตอนนี้…เห็นอีริคและคุณดูแลตัวเองได้ดีแบบนี้ ผมก็เบาใจมาก”

รถเข็นคงจอดที่ไหนสักแห่งในสวนของโรงพยายบาล ชายหนุ่มผู้เป็นผู้ป่วยรับรู้ถึงสายลมอ่อนๆ และกลิ่นหญ้าเพิ่งตัดใหม่บางเบา ก่อนจะมีเสียงแก้วและจานกระทบกันเบาๆ

“เราไม่ได้สั่งนะคะ” เสียงเฮเลนบอกกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล

“คุณผู้หญิงที่เผ้าไข้สั่งไว้ครับ ทั้งอาหาร ผลไม้ และเครื่องดื่ม หากต้องการเพิ่มเติมสั่งได้นะครับ”

“แค่นี้พอแล้ว ขอบใจมาก ไปเถอะ ฉันอยากคุยกับคนป่วยเงียบๆ”

เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลออกไปแล้ว เฮเลนจึงได้เอ่ยขึ้น

“แฟนลูกนี่น่ารักจังนะ ให้เรามาปิคนิคกันในสวน ฉันคิดถึงสมัยที่อีริคยังเป็นเด็กๆ จัง ที่เรามักจะเล่นเกมปิคนิคกันที่สนามหน้าบ้าน เอาเต็นท์มากาง แล้วก็นอนนับดาวกัน” คุณเฮเลนนั่งลงด้านขวาของลูกชาย
มันเป็นความทรงจำหนึ่งที่มีความหมายมากสำหรับอีริคเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มอดที่จะอมยิ้มที่มุมปากไม่ได้เมื่อคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้น

ทั้งสามทานของว่างด้วยกันเงียบๆ คุยกันสบายๆ ถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิต ปัญหาทุกอย่างเบาบางลงจริงๆ ในความคิดของอีริค

“ลูกได้ข่าวนายดิเรกบ้างไหม แม่ได้ยินข่าวว่าเขากำลังถูกดำเนินคดีใช่ไหม” จู่ๆ คุณเฮเลนเอ่ยถึงผู้ชายอีกคนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตครอบครัวของเธอเป็นอย่างมาก

“ได้ข่าวบ้างครับ”

“น่าสงสารเขานะ ข่าวที่เมืองนอกบอกว่าเป็นนักการเมืองที่พัวพันทั้งเรื่องฆาตกรรมน้องชาย ทั้งเรื่องคอรับชั่น น่าจะถูกสอบอีกนาน” คุณเฮเลนเอ่ยเบาๆ “ร่ำรวยขนาดนั้น มีอำนาจขนาดนั้น เวลาเจอเรื่องร้ายๆ คงแย่เหมือนกัน”

ชายหนุ่มได้ยินเสียงของบิดาของตนถอนหายใจ

“ผมไม่รู้เรื่องเลยนะเนี่ย ไม่ได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองเลย แต่ฟังดูก็น่าเห็นใจเขานะ”

“แด๊ดจะไปเห็นใจเขาทำไม” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยความขัดใจ “เขาทำอะไรไว้กับแด๊ด จำไม่ได้รึไง”

“ลูกเอ๋ย แด๊ดเองก็ทำผิดไม่น้อย แล้วมนุษย์ทุกคนมีความทุกข์กันทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะรวยจะจน จะมีอำนาจมากแค่ไหน ทุกข์ไหนจะสู้ทุกข์ของการสูญเสียตัวตนในสังคมล่ะลูก เขาแย่กว่าแด๊ด เพราะแด๊ด ได้พบทางใหม่ในการใช้ชีวิต แด๊ดยังมีลูกที่เติบโตดูแลตัวเองได้ แต่นายดิเรกต้องใช้ชีวิตที่เหลือในคุก จะเอาหน้าไปมองใครได้ มันไม่สนุกเลย …”

“สมควรแล้ว” อีริคพึมพำ จิบเครื่องดื่มที่แม่ของเขาส่งให้

“อย่าคิดอย่างนั้นสิลูก อะไรที่ละวางได้ ก็ละไปเถอะ”

“…”
“เปลี่ยนเรื่องดีกว่าคุณ เดี๋ยวลูกเครียด ไหน เล่าเรื่องงานของลูกให้แม่ฟังดีกว่า ลูกบอกว่าจะกลับมาทำงานแล้วเหรอ ทั้งๆ ที่ยังเจ็บหนักแบบนี้นี่นะ”

“ก็…ผมไม่อยากอยู่นิ่งๆ นี่ครับ เบื่อตาย”

บทสนทนาระหว่างพ่อแม่ลูกผ่อนคลายลงเมื่อเปลี่ยนเป็นเรื่องไกลตัวนายดิเรก คุณเฮเลนและมิสเตอร์ลีกลับไปเมื่อบ่ายแก่มากแล้ว จริงๆ แล้วคุณเฮเลนยังไม่อยากกลับ แต่แพทย์เจ้าของไข้แจ้งว่าอีริคต้องได้รับการตรวจร่างกายโดยละเอียด ก่อนกลับคุณเฮเลนบังคับให้อีริคสัญญาว่าจะติดต่อท่านกลับไปบ่อยครั้งเท่าที่จะทำได้ เพื่อรายงานอาการป่วยของเขากับเธอ

“แม่คงมาเยี่ยมบ่อยๆ ไม่ได้ เพราะต้องกลับไปอังกฤษแล้ว แต่ว่า แม่จะโทรมาบ่อยๆ แล้วลูกก็ต้องรับโทรศัพท์แม่ด้วยล่ะ ไม่ใช่เงียบหายไป เป็นอะไรไม่บอกกล่าวแบบเดิมอีก” เธอกำชับกับลูกชาย

……

รมิดาทำใจเตรียมรับมือกับอารมณ์ร้ายของคนไข้ไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากพูดคุยและทำกิจกรรมบำบัดกับแพทย์ส่วนตัวครบเวลา เธอก็ค่อยๆ ย่องเดินกลับเข้าห้อง เมื่อเห็นว่าคนป่วยนอนหลับตานิ่งอยู่ เธอก็ถอนหายใจพรึด คิดว่าจะแอบไปหลับซักงีบในส่วนที่เป็นที่พักส่วนตัว

“จะทำอะไรช่วยปรึกษากันก่อนได้ไหม” คนที่นอนนิ่งๆ เอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้คนที่กำลังจะก้าวพ้นเตียงถึงกับสะดุ้ง

“อ้าว นึกว่าหลับ”

“ใครจะหลับลงล่ะ”

“คุณหลับไม่ลง แต่ฉันหลับลง กว่าจะหาตัวท่านสองคนได้นี่เหนื่อยชะมัด ขอไปนอนก่อนนะ เอาไว้เย็นๆ ค่อยคุยกัน อ้อ คุณพยาบาลมาพอดี ฝากดูแลคนเจ็บเรื่องมากแทนด้วยนะคะ ไปล่ะ”

“เดี๋ยวสิ”

รมิดาไม่ฟังเสียง รีบหลบไปยังห้องส่วนตัวทันที วันนี้ขอเอาตัวรอดไปก่อนล่ะ

รอดไปได้อีกหนึ่งวัน….พรุ่งนี้ ไม่รู้จะเจอฤทธิ์อะไรของมือกีตาร์ขาติสต์คนนี้บ้าง



สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ธ.ค. 2555, 23:20:06 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ค. 2560, 17:02:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 4522





<< 29: ถึงอย่างไร ก็ต้องมีการจากไป   31 : ความปวดร้าว ก็ยังวนเวียน... >>
สิรินดา 12 ธ.ค. 2555, 23:23:56 น.
ตอนนี้มีแขกรับเชิญจากเรื่องมายามนตราแห่งรักด้วย (^____^)


konhin 12 ธ.ค. 2555, 23:29:02 น.
หึๆๆ จุ้นมากๆเดี๋ยวอิริคหักคอน้าาาา


จิงโกะ 12 ธ.ค. 2555, 23:43:36 น.
แขกรับเชิญ ?

อ๊ากกก ภวัช !!! กลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมซะแล้ว

ไหนๆ ก็รับเชิญมาเรื่องนี้ งั้นอีกสักพักก็ได้อ่านภวัชแบบเต็มตอนแล้ว ใช่ป่าวคะ


phakarat 12 ธ.ค. 2555, 23:49:17 น.
อึริคหนอ!!!!


สิรินดา 12 ธ.ค. 2555, 23:51:04 น.
konhin ตอนนี้ยัยฝนรอดไป ตอนหน้า - - ยังไงดีน้าาาา
จิงโกะ - - จัดไป!!! ตอนใหม่ พรุ่งนี้เลยดีมะ


ไม้ขีด 13 ธ.ค. 2555, 00:45:45 น.
โอ๊ะโอ ทำไมแอบเชียร์คุณวันวิสาข์กับคุณดินซะงั้น ><


คิมหันตุ์ 13 ธ.ค. 2555, 01:39:02 น.
หนุ่มหล่อ เนื้อหอม คิคิ


oikkw 13 ธ.ค. 2555, 02:39:10 น.
คิดไม่ออกว่าอีริคกับฝนจะลงเอยยังไง


ตุ๊งแช่ 13 ธ.ค. 2555, 07:10:38 น.
อีริคคงอยากตีก้น รมิดาแน่ๆเลย


รัชต์ 13 ธ.ค. 2555, 07:16:43 น.
คุณเฮเลนไม่ถามถึงสาเลยเหรอ..


สิรินดา 13 ธ.ค. 2555, 08:27:30 น.
น้องรัชต์คะ คุณเฮเลนเป็นแม่ของอีริคไม่มีความสัมพันธ์กับวันวิสาข์ค่ะ ในเรื่อง พ่อของอีริค ไปกุ๊กกิ๊กกับแม่ของวันวิสาข์ จนได้ลูกมาหนึ่งคนค่ะ ตอนนี้ทั้งคุณเฮเลนและมิสเตอร์ลี ไม่รู้ว่าอีริคติดต่อกับครอบครัวนายดิเรกค่ะ


supayalak 13 ธ.ค. 2555, 09:40:02 น.
ดีค่ะ ชิ่งเอาตัวรอดก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง


Hibara 13 ธ.ค. 2555, 09:58:42 น.
นั่นไง ก็ว่าชื่อตัวละครคุ้นๆ


Zephyr 13 ธ.ค. 2555, 12:19:31 น.
ตอนแรก งง ภวัช!! ไหนฟระ แอบคิด คนเดียวกะนายตุลย์ป้ะเนี่ย
แล้วก็ จริงด้วย เป๊ะเลย เหม่ๆ มารับค่าตัวทางนี้ เอาสากะพี่ดินไปโผล่เรื่องนู้นบ้างสิคะ
น่าจับหนูฝน มาฟาดก้นเบาๆนะคะ ทำตัวน่ารักน่าหยิกเกินไป 5555 หมั่นไส้อ่ะ
แต่ แหม ขนาดป่วนยังงี้ อีริคยังไม่หักคอ เลยยยย ปากไม่ตรงกะใจ ชริๆๆๆ


ใบบัวน่ารัก 13 ธ.ค. 2555, 20:12:17 น.
เพื่อนเก่าก็หึง บอกไปซิว่าหึง
เอ๊ะๆๆ เกี่ยวโยงกะนิยายอีกเรื่องหรือเปล่า
อืม งง
น่ารัก ทำตัวดีนิ มาอัพเรื่อยๆนะค้า


Asian 13 ธ.ค. 2555, 22:56:06 น.
คู่ของคุณดินกับหนูสาก็น่ารักเน๊อะ
แต่พี่ตาคะอย่าใจร้ายกับคู่ของอีริคและหนูฝน
มากนะคะ ให้เค้าได้มีฉากกุ๊กกิ๊กให้คนอ่าน
ได้ลุ้นบ้างไรบ้างก็ดีค่ะ


สิรินดา 14 ธ.ค. 2555, 05:45:04 น.
Asian - จัดไป!!! ตอนหน้าเลย
ใบบัว - แหม พระเอกเราก็มีมาดนิดนึงสิคะ
Zephyr/Hibara - ภวัชมาจากเรื่อง มายามนตรารักจ้า ให้มาอาละวาดที่นี่มั่ง เปลี่ยนบรรยากาศ


รัชต์ 14 ธ.ค. 2555, 08:22:35 น.
อ๋อ นึกออกแล้วค่ะ พ่อของฝนไม่ใช่พ่อของสา พ่ออีริคคือพ่อของสา เหอะๆ


ของขวัญ 24 ธ.ค. 2555, 00:10:52 น.
เขียนเรื่องหนูสากับนายดินเยอะๆ กว่านี้ก็ได้นะคะพี่ตา อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account