เพราะรักเธอ
ทุกสิ่งเกิดเพราะว่ารัก และจบลงเพราะความรัก รักที่ผิด กับ รักที่ถูกก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆได้มากมาย และเมื่อใช่ความรักในการมอง เราก็จะมีคนรักมากมายในโลกใบนี้
Tags: วันเวลา หัวใจ

ตอน: ตอนที่19 -->>ประจันหน้าคุณแม่(เลี้ยง)

อาราย ตอนที่แล้วเพิ่งเจอพ่อ ตอนนี้มาเจอแม่เลี้ยงซะแล้ว ตอนต่อไปจะเจอญาติคนไหนอีกเนี้้ย โลกมันกลมจริงๆ

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

เนวดี Talk
“เนวเธอรู้ไหมเมื่อวานฉันโคตะระอึดอันเลย”แควบ่นตั้งแต่ตื่นนอนแววและสีหน้าบ่งว่าถ้าเธอไม่พูดคงจะอกแตกตาย
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ใช่สิยะ เธอคิดดูสิตอนเธอคุยกับพ่อ พี่ข้าวปั้นมองเธอกับพ่อเธออย่างจะกินเลือดกินเนื้อ เธอก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น”
พี่ข้าวปั้นเขาไม่พอใจฉันกับพ่อจริงด้วย ถึงว่าตอนกินข้าวรู้สึกขนลุกตลอดเลย
“ฉันก็รู้สึกนิดนึง”

“แค่นิดนึงเหรอ อีกอย่างตอนที่พ่อเธอกับพี่ข้าวปั้นพูดถึงเธอ”
“พูดถึงฉันตอนไหน”
“ก็นาจิไง”นาจิ จริงสิตัวจริงฉันคือนาจิ “อย่าบอกนะว่าเธอลืมว่าเธอเคยเป็นใคร”
“เปล่า”
“จริงสิฉันรู้สึกว่าพี่ข้าวปั้นเขาจะสงสัยเธอแล้ว ส่วนพ่อเธอก็น่าสงสารมากแค่เห็นแววตาของท่านตอนที่พูดถึงเธอ เนวเธอจะไม่บอกพ่อเธอเหรอ”ตอนท้ายยัยแควทำเสียงออดอ้อน
“ใกล้ถึงเวลาแล้ว แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“ทำไม”
ฉันไม่ตอบคำถามยัยแคว เพราะฉันเองก็ตอบอะไรไม่ได้แต่รางสังหรณ์มันเตือนไว้ว่าเวลาอันใกล้นี้จะต้องเกิดเรื่องราวที่คาดไม่ถึงแน่ๆ


ตอนนี้ฉันเดินออกจากตึกAกับยัยแคว หลังจากที่จบการประชุมเรื่องค่ายอาสาฟังๆดูก็น่าสนุกดีนะ สร้างห้องสมุดใหม่ ตอนแรกก็แปลกใจอยู่ว่าจะเสร็จทันได้ไงแค่แค่อาทิตย์แต่พอพวกพี่ๆเขาอธิบายเลยรู้ว่าเป็นแบบสำเร็จรูปใช่เวลาไม่นานแต่ก็ทนทานใช่ไปได้นาน

อุปกรณ์ต่างๆพวกรุ่นพี่ก็ซื้อไว้หมดแล้ว หนังสือ อุปกรณ์กีฬาก็พร้อม ต้องขอบอกว่านายซูชินี่ไวมากแค่เวลาไม่นานเขาก็ติดต่อประสานงานเรียบร้อย
ส่วนการโดยสารก็ใช้เฮเลคอปเตอร์เพราะที่ๆเราจะไปใช้รถค่อนค่างลำบาก มีห้าลำมาจากพี่ข้าวปั้น สองลำ ยัยแควหนึ่งลำ นายอินไครหนึ่งลำ และนายไดโจหนึ่งลำ

เราจะไปเป็นคุณหมอด้วย เอายาที่จำเป็นไปแจกด้วย และเงินบริจาคก็เพิ่มเป็นยี่สิบล้านได้จากบรรดาผู้ปกครองที่เป็นไฮโซทั้งหลาย

“เนวระวัง”
“ว้าย!!! ขอโทษค่ะ”
ไม่ทันที่ยัยแควจะพูดจบฉันก็เดินชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง ทำให้แก้วน้ำที่ฉันถือหกใส่เธอ ฉันจึงรีบขอโทษ
“ไม่เป็นไรหนูน้าเดินไม่ระวังเอง” คุณน้าคนนั้นพูดแบบไม่มองหน้าฉันก้มสำรวจเสื้อผ้าตัวเองอยู่
“ค่ะ” น้าเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้แต่เหมือนยิ้มค้างยังไงไม่รู้
ฉันโค้งหัวให้น้าคนนั้นอีกครั้งแล้วจะเดินต่อ น้าคนนี้เคยเจอที่ไหนรึเปล่า น้าคนนี้เป็นลูกครึ่งแน่ๆ แต่การแต่งตัวดูเป็นไฮโซจังแต่งหน้าก็จัดพอดูแต่ความจริงหน้าแก่กว่าแม่ฉันเป็นกองเลยน่าเรียกป้ามากกว่า

“เดี๋ยว” จู่ๆป้าแกก็ทำเสียงเข็มขึ้นมา
“มีอะไรคะ” ป้าที่เมื่อกี่ยังพูดดีอยู่แต่ตอนนี้แววตาและสีหน้ากลับดูน่ากลัวมากแถมป้าแกยังจ้องหน้าฉันอีก
“เนวเธอรู้จักเขาเหรอ” ยัยแควกระซิบ ฉันพยายยามส่งสายตาตอบว่าไม่รู้
“เธอกลับมาทำไม”
“คะ” ทำไมจู่ๆป้าถามแบบนี้ล่ะ แล้วหนูจะตอบยังไง “โอ๊ย!!!”ฉันร้องออกมาเพราะป้าแกบีบแขนฉัน

“ทำไมแกไม่ตายไปในกองไฟเสียตั้งแต่วันนั้น” ตายไปในกองไฟตั้งแต่วันนั้น อย่าบอกนะว่า
“ป้าปล่อยเพื่อนฉันนะ” ยัยแควพยายามงัดดมือยัยป้า ซึ่งน่าจะเป็นคนที่ฉันคิด
“เธอไม่เกี่ยว” ป้าแกใช้มืออีกข้างผลักยัยแควกระเด็นไปนั้นคือคำตอบว่าแรงป้าแกเยอะแค่ไหน
“คุณต้องการอะไร”
“ฉันควรจะถามแกมากกว่าว่าแกกับแม่ต้องการอะไร หรือว่าแก แกกับแม่จะมาแย่งผัวฉัน” ป้าแกมีอาการแปลกๆบีบแขนฉันแรงขึ้น พร้อมกับเสียงที่ดังขึ้นจนคนแถวนั้นหันมองเป็นแถว
“ป้าแกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลยเนว”ยัยแควบอกเสียงสั่น ท่าทางยัยแควเองก็ช็อกไม่น้อย

ใช่ป้าแกต้องบ้าไปแล้วแถวแกต้องบ้ามานานแล้วด้วย บ้ามากขึ้นด้วยเพราะฉันจำได้ว่าฉันเคยโดนยัยบ้าคนหนึ่งที่เดินเข้ามาอาระวาดฉันกลางโรงเรียนเมื่อสิบกว่าปีก่อน

‘แกเป็นลูกนังชิตาใช่ไหม’
ขณะที่ฉันเล่นกับเพื่อนอยู่ก็มียัยป้าที่ไหนก็ไม่รู้มาผลักฉันแล้วก็มาเรียกแม่ฉันด้วยคำที่หยาบคาย ขอบอกว่าตอนนั้นกลัวยัยป้านั้นสุดๆ
‘หูหนวกรึไง ฉันถามได้ยินไหม’ยัยป้านั้นบีบแขนสองข้างของฉัน เจ็บมากเท่าที่สุดเลยตั้งแต่เกิดมา
‘ใช่ค่ะ ฮือT^T’
‘ทุกคนมองให้เต็มตานังเด็กนี่มันเป็นลูกเมียน้อย’ เสียงตะโกนที่ดังมากเอาการ ทั้งเพื่อนและคุณครูต่างมามุงดูแต่ไม่มีใครเข้ามาช่วย
สมองเล็กๆในวัยเด็กของฉันมันแปลความหมายจากคำพูดนั้นได้ว่ายัยป้าคนนี้คือแม่ของยัยลูกครึ่ง

‘ฮือ...ฮึก...อือ...ฮึก...ฮือ...ฮึก...ฮึก’
‘อายเหรอแกมันคงไม่อายหรอก แกมันก็น่าด่านเหมือนแม่ของแก’
อารมณ์ตอนนั้นยิ่งกว่าอาย ทั้งเจ็บทั้งอายทั้งโกรธและกลัว
‘หนู...ฮึก...เจ็บ’
‘เจ็บเหรอฉันคิดว่าแกจะด่านซะอีก’
‘ฮึก...หนู...ฮึก...เจ็บ’
ในความรู้สึกตอนนั้นฉันขอแค่มีใครสักคนเข้ามาช่วยฉันออกไปจากสถาณะการณ์นั้นที
‘แม่ปล่อยเขา’


“แม่ปล่อยเขา”
และคนๆนั้นที่ช่วยฉันในวันนั้นก็คือคนๆนี้ในวันนี้
“มากี้เรื่องไม่เกี่ยวกับแก”
“แม่แต่หนูอายทำไมแม่ต้องมาอาละวาดทีนี่ด้วย ปล่อยเขา”
มากี้ดูอายอย่างที่เธอพูด แม่ของเธอปล่อยมือจากฉันแล้วหันไปจ้องเธออย่างกินเลือดกินเนื้อ ส่วนฉันถูกยัยแควลากไปกอด
“แกเข้าข้างนังนี้ทำไม แกเป็นลูกฉันนะแกลืมไปแล้วเหรอหรือว่า...”ป้ารัญญาหันมาหาฉัน ทำท่าจะเข้ามาทำร้ายฉันอีกครั้งแต่ยัยแควก็ขวางไว้ “แกใช่ไหม แกใช่ไหมที่ยุลูกสาวฉัน มากี้นังนี่คือนังลูกเมียน้อยนังนี่มันจะแย้งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเรา”ป้ารัญญาดูไม่ต่างไปจากคนที่เป็นโรคจิต

“แม่ยัยนั้นมันตายไปแล้ว คนนี้ไม่ใช่ยัยนั้นหรอก”ปากเธอบอกว่าไม่เชื่อแต่ตาก็จ้องมองมาที่ฉันอย่างไม่วางตา
“ใช่มันกลับมาแล้ว มันจะกลับไปแย้งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากแก”
“แม่ไม่เอาแล้ว เคธี แคท กาฟิวส์ โปร”มากี้เรียกเพื่อนของเธอมาช่วยจับป้ารัญญาและลากออกไป เคธีมีสองคนไม่น่าเชื่อเลยว่ายัยคาที่จะมีฝาแฝดแค่คนเดียวก็ร้ายจะแย่แล้ว

“มีอะไรกัน เนวเป็นอะไรมากไหม”
“พี่ข้าวปั้น”
“ข้าวปั้น”
“มากี้เธอมาทำอะไร”พี่ข้าวปั้นหันไปพูดกับยัยลูกครึ่ง
“ก็มาช่วยคนแถวนี้ นี่เธอหันดูแลตัวเองบ้างนะถ้ามีครั้งหน้าฉันคงมาช่วยเธอได้”ยัยลูกครึ่งพูดจบแล้วก็เดินออกไป

กึ๋ย ทำไมยัยลูกครึ่งพูดแปลกๆเล่นเอาขนลุกเลย

“เป็นไงบ้างแล้วใครทำอะไรเธอ”พี่ข้าวปั้นพูดพร้อมสำรวจร่างกายฉัน
“แม่ของยัยคนนั้นค่ะ”แควเป็นคนตอบแทน หน้าของพี่ข้าวปั้นบ่งบอกถึงความไม่เข้าใจและสงสัย
“เธอไปมีปัญหาอะไรกับอารัญญ่า”
“เนวเดินชนเขาค่ะ”
“เดินชน ดูสิเลือดออกเลย”พี่ข้าวปั้นพูดถึงเลือนที่แขนที่ซึมออกมาตามรอยเล็บจิก พูดถึงแล้วมันก็
“โอ๊ย เจ็บ”
“เจ็บมากไหมไปทำแผลก่อนดีกว่า”
“แควไปเรียนนะจะได้จดแลคเชอร์ไว้ให้”

ข้าวปั้น Talk
ผมมองแผลที่เกิดจากรอยเล็บตามคำบอกเล่าของแฟนผม ผมอยากจะไปอารัญญ่าให้รู้เรื่องว่าแค่แฟนผมเดินชนทำไมต้องทำถึงขนาดนี้หรือว่าเหตุผลมันจะมากกว่านั้นแต่แฟนผมไม่ยอมพูด
ผมบรรจงทายาอย่างเบามือไม่อยากให้เนวต้องเจ็บไปมากกว่านี้
“ขอบคุณค่ะพี่ข้าวปั้น พี่ข้าวปั้นสงสัยอะไรรึเปล่าคะ”
“ถ้าพี่ถามเนวจะโกรธพี่ไหม ที่อยากถามไม่ได้หมายความว่าพี่ไม่เชื่อใจเนวนะ”
“ดูจริงจังเนอะ ถามเนวเถอะค่ะถ้าพี่ข้าวปั้นอยากรู้จริงๆ”
“พี่ไม่เข้าใจว่าไมเนวดูรู้เรื่องหลายๆอย่างทั้งที่เนวไม่น่ารู้ เนวดูจะสนิทกับคนหลายคนทั้งที่เพิ่งรู้จัก มีคนหลายคนพูดถึงเนวแบบแปลกๆ และสุดท้ายเนวเหมือน...เหมือนจนพี่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ไหมว่าเนวจะใช่”
พอผมพูดจบเนวดูอึดอัดเหมือนไม่อยากตอบ

“คำถามของพี่ข้าวปั้นคืออะ...ไรคะ”เนวมีเสียงที่เครือๆเหมือนจะร้องไห้พูดช้าและเบาเหมือนคนไม่มีเสียง

อีกแค่นิดเดียวผมจะได้รู้ความจริงแล้ว

“เธอคือ...”

ปึง!!!

“ยัยเตี้ยเป็นไงบ้าง”เสียงเปิดประตูของซูชิขัดจังหวะคำถามผม“ไม่เป็นไรใช่ไหมยัยหมวยบอกว่าเธอโดนอารัญญ่าทำร้าย”ซูชิเดินมาจับตัวเนวหมุน
“พอแล้วฉันจะตายก็เพราะนายนั้นแหละ”
“ฉันอุตส่าห์เป็นห่วงเธอนะ”

โธ่โว้ยไอ้น้องเวร

“ซูชิฉันอยากฆ่าแก”
“อะไรพี่ ไปกินข้าวกลางวันกันดีกว่าครับผมหิว เนวเมื่อคืนที่ฉันชวนเธอไปซื้อตุ๊กตาไปแจกเด็กๆจำได้ไหม”
“อ๋อได้ๆ ไปเลยนะ พี่ข้าวปั้นคะ เนวไปซื้อของกับซูชิก่อนนะคะ”เนวพูดจบก็ลากซูชิของไปจากห้องด้วยท่าทางรีบร้อน
ในที่สุดผมก็ไม่รู้อะไรเพิ่มเลย มันยังไม่ถึงเวลาอีกเหรอ


เนวดี Talk
ตอนนี้ฉันกับซูชิเดินเลือกตุ๊กตาอยู่ที่ร้านในห้างแห่งหนึ่งใกล้ๆกับมหา’ลัย มาถึงตอนนี้ฉันยังจำไม่ได้ว่าไปสัญญากับซูชิตอนไหนว่าจะมาเลือกซื้อตุ๊กตากับเขา
“ยัยเตี้ยถ้าฉันไม่เข้าไปในห้องเธอจะตอบคำถามพี่ข้าวปั้นไหม”
“นายได้ยินเหรอ”
“ฉันไปถึงตั้งนานแล้วเห็นเธอกับพี่ฉันจู๋จี๋กันเลยไม่อยากขัด ว่าถ้าฉันไม่เข้าไปเธอจะตอบคำถามพี่ข้าวปั้นยังไง”
“ไม่รู้สิ คงแกล้งตายละมั่ง”
“เธอนี่มันจริงๆเลย”
“ตุ๊กตาหมีดีปะ หรือแมวดี หมาก็น่ารักนะ พี่คะเอาอย่าละยี่สิบตัวคะ ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงด้วยค่ะยี่สิบตัวเหมือนกันค่ะ”

ฉันไม่ยากนึกถึงเรื่องที่ไม่สบายใจเลยตั้งใจเปลี่ยนเรื่อง มันจะเกิดอะไรขึ้นในเมื่อตอนนี้แม่เลี้ยงที่แสนรักของฉันรู้แล้วว่าฉันเป็นใคร
และพี่ข้าวปั้นอีกที่ฉันปล่อยเวลามานานขนาดนี้ถ้าเขารู้ความจริงเขาจะยังคงรักฉันอยู่หรือเขาจะเกลียดฉัน คงต้องรอถึงเวลานั้นก็จะรู้เอง

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ชูซิอ่ะ ไม่น่าเข้าไปขัดเลย จะได้รู้ความจริงกันอยู่แล้ว
ส่วนยัยลูกครึ่ง เอ้ย ยัยมากี้ ฉันก็ต้องมองเะอใหม่แล้ว



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ธ.ค. 2555, 07:15:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ธ.ค. 2555, 07:15:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 914





<< ตอนที่18 -->> เจอคุณพ่อครั้งแรกในรอบสิบสามปี   ตอนที่20-->>ค่ายหรรษาพัฒนาชุมชน >>
เพียงใจกล้า 13 ธ.ค. 2555, 07:17:06 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account