เพราะรักเธอ
ทุกสิ่งเกิดเพราะว่ารัก และจบลงเพราะความรัก รักที่ผิด กับ รักที่ถูกก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆได้มากมาย และเมื่อใช่ความรักในการมอง เราก็จะมีคนรักมากมายในโลกใบนี้
Tags: วันเวลา หัวใจ

ตอน: ตอนที่21 -->>ข่าวใหญ่สะท้านวงการไต้หวัน

จะมีข่าวอะไรอ่ะ ไปดูข่าวก่อน
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

เนวดี Talk
“เธอๆนี่ไงคนนี่แหละ นักร้องไต้หวันที่เพิ่งมาเมืองไทยเมื่อเดือนก่อน”เสียงพยาบาลเรียกความสนใจฉันไปฉันคนบนเตียงให้หันไปมองทีวีที่เปิดให้คนไข้ดู

~เราไปฟังเสียงแถลงข่าวจากคุณ เอเวิร์ด กันเลยคะ~
ภาพตัดมาที่พี่เวพที่ดูเหมือนคนป่วยนั่งแถลงข่าวกับหมอมันเป็นภาษาจีน แต่ไม่ต้องรอให้ใครแปลทุกคำพูดของหมอและพี่เวพฉันเข้าใจทุกคำ และรู้สึกถึงความร้อนที่ตาสองข้างและก้อนแข็งๆที่คอ

ภาพที่ฉันเห็นอาการแปลกๆของพี่เวพช่วงระยะหลังๆวิ่งเข้ามาในหัว ทำไมทั้งที่พี่เวพอยู่ใกล้ตัวฉันแท้แต่ฉันไม่เคยสังเกตเลยว่าพี่เวพไม่สบายหนังขนาดนี้
“ไอ้ดารานั้นมัน.....เนวเป็นอะไรไหม” เสียงพี่ข้าวปั้นมันช่างเบาเหรอเกินในความคิดฉันตอนนี้
“พี่สาว”เสียงของเอก็เช่นกันมันเบามาก
“เขากำลังจะตาย”มันแปลกตรงที่น้ำตาฉันไม่ยอมไหลแต่ข้างในมันชามาก “ซูชินายจองตั๋วเครื่องบินให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันจะกลับไปบอกแควแล้วจะไปไทเป”
“ได้”



“ไม่จริง”
แควล่วงไปกองที่พื้นโชคดีที่พี่ภูรับไว้ทัน แควเป็นลมทันทีที่ได้รู้ข่าวพี่เวพ
พี่เวพเป็นมะเร็งเม็ดเลือดระยะสุดท้าย เวลาที่เหลืออยู่อีกแค่หนึ่งเดือนเป็นอย่างมาก ฉันจะต้องกลับไปหาเขาตอนนี้
“พี่ภูช่วยอุ้มแควไปที่ฮอร์หน่อยได้ไหมคะเนวคิดว่าแควคงอยากเจอหน้าพี่เวพให้เร็วที่สุด”พี่ภูพยักหน้าแล้วอุ้มแควไปที่ฮอร์
“พี่ไปด้วย”พี่ข้าวปั้นบอก
“พี่ด้วย”พี่ภูบอกอีกคน
“ค่ะ”



ข้าวปั้น Talk
ไทเป
ผมตักสินใจตามเนวแฟนสุดที่รักของผมมาไทเป ด้วยความเป็นห่วงและแอบหวงอยู่นิดหน่อย ตลอดทางที่มาที่นี่เนวกับยัยหมวยร้องไห้มาตลอดทาง ทำให้ผมแน่ใจว่าเนวรักและผูกพันกับนายดารานั้นมาก
“ปาป๊า”ยัยหมวยวิ่งไปกอดผู้ชายที่ค่อนข้างมีอายุแต่ก็ดูดีไม่น้อยเลยในสายตาผมเขาลูบหัวยัยหมวยด้วยความรัก รู้สึกว่าน้ำตาจะคลอด้วย ผมคิดว่าคงเป็นพ่อของยัยหมวย
ถัดมาเป็นผู้หญิงวันเดียวกับแม่ผมแต่ผมรู้สึกคุ้นตากับเธอเหลือเกินแววตาและรอยยิ้มแบบนี้ ต้องขอบอกเลยว่าตอนสาวๆคุณน้าคนนี้ต้องสวยมากแน่ๆ และที่สำคัญเธอดูเหมือนคนไทยมาก

“แม่”เนววิ่งเข้าไปกอดผู้หญิงคนนั้นซึ่งก็คงจะเป็นว่าที่แม่ยายผมนั้นเอง ทั้งเนวและว่าที่แม่ยายผมร้องไห้ดังจนคนแถวๆนั้นต้องหันมามอง
“ไอ้ปั้นฉี่ฉันจะไหลว่ะ” ไม่ใช่ใครที่ไหนที่มากระซิบข้างหูผมก็ภูวินัยเพื่อนรักของผมเอง
“อะไรของแกวะ บนเครื่องฉันเห็นแกไปห้องน้ำหลายรอบเลย”แต่เท่าที่สังเกต ณ ตอนนี้ผมว่ามันตื่นเต้นที่ได้เจอว่าที่พ่อตามันมากกว่า
“ฉันตื่นเต้นนี่หว่า”นั้นไงผมว่าแล้ว “แกคิดดูสิแค่พี่ชายยังโหดขั้นนั้นนี่พ่อเลยนะจะโหดขนาดไหน”มันก็ถูกนะ
ว่าที่แม่ยายผมหันมาทางนี้แล้ว กราบสวัสดีงามๆท่านซะหน่อยดีกว่า
“ไหว้พระเถอะลูก”ผมว่าแล้วพูดภาษาไทยชัดกว่าผมอีก “เป็นหนุ่มแล้วหล่อใช่ได้เลย”ฟังเหมือนไม่มีอะไรแต่ทำไมผมว่ามันมีอะไรในคำพูดนะ

“ไปกันเถอะคุณ ไอ้หนุ่มคนนั้นนะจะไปด้วยกันหรือจะนอนที่นี่”
ไม่ทันที่ผมจะถามเรื่องที่คล่องใจพ่อยัยหมวยก็ชวยว่าที่แม่ยายผมไปไหนสักที่ก็คนจะเป็นบ้านเขาละมั่ง ส่วนประโยคเขาหันไปพูดกันเพื่อนรักของผมที่ยืนขาสั่นไม่พูดไม่จา ภาษาไทยของพ่อยัยหมวยนี่ไม่ต่างกับยัยหมวยเลยและนั้นก็รวมถึงนายดารานั้นด้วย
“ปะ...ไป...ไปครับ”



เนวดี Talk
บ้านลุงจ้าว
ฉัน ยัยแคว พี่ข้าวปั้น และพี่ภู มาถึงบ้านที่ไทเปได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว ตอนนี้พี่เวพเองก็ย้ายมารักษาตัวที่บ้าน อาการภายนอกดูดีเหมือนไม่มีอะไร แต่พอเวลาอาการกำเริบก็น่ากลัวมาก แต่พี่เวพก็ยังฝืนยิ้มเก็บซ้อนอาการเจ็บปวดเอาไว้

ตอนที่เห็นพี่เวพครั้งแรกยัยแควได้แต่พูดขอโทษๆเธอร้องไห้กอดพี่เวพจนหลับไปหลายรอบ พอตั้งสติได้ยัยแควก็คอยเอาอกเอาใจพี่เวพไม่ห่าง พี่ภูก็เช่นกันพี่เวพสั่งอะไรพี่ภูทำให้หมด ฉันเองก็จะหาอาหารที่บำรุงร่างกายพี่เวพมาให้เขาทานจนเขาบ่นว่า ‘พี่กินไม่ไหวแล้วอิ่มจนจะอาเจียนอยู่แล้วครับสาวน้อย’แต่เขาก็ทานหมดทุกครั้ง

“พี่ชักจะอิจฉามันแล้วสิมีแต่คนเอาใจมัน”พี่ข้าวพูดไปคนน้ำแกงไป
พี่ข้าวปั้นมักจะบ่นแบบนี้เสมอ แต่ก็มาช่วยทำอาหารให้พี่เวพทุกครั้ง และอาหารส่วนมากก็เป็นฝีมือเขาทั้งนั้น แต่พี่ข้าวปั้นไม่ให้บอกพี่เวพเพราะกลัวเขาจะไม่ทาน พี่ข้าวปั้นมีสูตรอาหารสำหรับคนป่วยเยอะมากและนี่คงเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้พี่เวพแข็งแรงขึ้น

“พี่ข้าวปั้นก็ลองเป็นแบบพี่เวพดูสิคะ”และฉันก็มักจะประชดเขาแบบนี้ทุกครั้งเหมือนกัน
“ไม่เอาหรอกพี่ยังอยากอยู่กับแฟนพี่ไปนานๆ”พี่ข้าวปั้นไม่พูดเปล่ายื่นหน้าหล่อๆเข้ามาใกล้ฉัน

ปี๊ม ปี๊ม ปี๊ม

“รถขนของมาอีกแล้ว วันนี้รอบที่สามแล้วนะเนี่ย ไอ้ดารานั้นมันมีคนรักเยอะไปไหม”
พี่ข้าวปั้นกำลังพูดถึงรถขนของของไปรษณีย์ที่มาส่งพัสดุกับจนหมายของแฟนครับพี่เวพ ซึ่งในแต่ละวันก็จะมีของมาส่งห้าถึงหกรอบ ของส่วนใหญ่ ก็จะเป็นตุ๊กตา โหลดาวกระดาษ โหลนกกระดาษ รูปพี่เวพที่ไปที่ต่างๆ จดหมายให้กำลังใจ หนังสือสวดมนต์ พระพุทธรูป ไม้กางเขน และอีกมากมายจากหลากหลายประเทศ

หน้าบ้านก็มีแฟนคลับพี่เวพจำนวนหนึ่งแต่ก็หลายสิบคนเหมือนกันมาเฝ้าสับเปลี่ยนหน้ากันไป พี่เวพก็จะไปคุยกับแฟนคลับบ้าง และพี่เวพก็จะให้แม่ครัวทำอาหารเลี้ยงแฟนคลับด้วย
“พี่ข้าวปั้นมีเนวรักคนเดียวไม่พอเหรอคะ น้ำแกงใช้ได้พอดีเลยเนวยกไปให้พี่เวพก่อนนะคะ”

ฉันตักน้ำแกงใส่ชามยกใส่ถาดแล้วเดินออกมาจากในครัว เห็นพี่เวพนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่คนเดียว แต่พอเขาได้ยินเสียงเดินของฉันก็รีบเก็บ
“ความลับเหรอคะ”
“ก็ไม่เชิงหรอก ไว้พี่ไม่อยู่เนวค่อยอ่านนะ”
“ไม่เอาไม่พูดแบบนี้สิคะ ว่าแต่ทำไมถึงนั่งอยู่คนเดียวล่ะคะ”
“พี่ให้เจ้านั้นพาแควไปเดินห้างน่ะ มาเฝ้าพี่จนไม่ทำอะไรเดี๋ยวก็บ้ากันพอดี หอมดีนะเนวโชคดีนะที่ได้แฟนเก่งแบบนี้”พี่เวพสูดกลิ่นน้ำแกงแล้วพูดแปลกๆ หรือว่า...

“พี่เวพรู้เหรอคะว่าพี่ข้าวปั้นทำ”
“รู้นานแล้วพี่สงสัยว่าเนวไม่น่าจะทำได้เลยถามเจ้านั้นดูมันก็เลยบอกพี่ว่าแฟนเนวเป็นคนทำ”ฟังๆดูเหมือนดูถูกกันเลยนะคะว่าไหม พี่เวพพูดยิ้มๆแต่ฉันรู้สึกว่าแววตาเขาดูเศร้า “ถ้าเนวรู้ก่อนหน้านี้ว่าพี่ป่วยเนวจะคบกับพี่ไหม”
ทำไมถึงถามคำถามหินแบบนี้ล่ะคะ
“เอ่อ...”
“แต่ความจริงมันเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วพี่ไม่อยาก...ได้เนวมาด้วยความสงสาร”พี่เวพก้มไปตักน้ำแกง “อร่อยนะ”


ข้าวปั้น Talk
บ้านเนวนี่ใหญ่จริงๆ ใหญ่กว่าบ้านผมซะอีก อยู่ที่นี่สามอาทิตย์แล้วคิดถึงบ้านเหมือนกันนะเนี่ย แต่ถ้าจะให้กลับไปตอนนี้ไม่เอาแน่ใครจะปล่อยสุดที่รักให้อยู่กับไอ้พี่ชายปลอมๆนั้นล่ะ ถึงมันกำลังจะตายก็เถอะ
แต่ผมก็ไม่ได้เลวร้ายนะผมทำอาหารให้มันกินทุกมื้อไม่ใช้ว่าที่นี่ไม่มีใครทำแต่ผมต้องให้มันกินอาหารที่เสริมสุขภาพมันจะได้ตายช้าลงเพื่อสุดที่รักของผมจะไม่เสียใจไปมากกว่านี่ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอาหารผมรึเปล่าอาการมันถึงกำเริบน้อยลง

ว่าแต่ว่าตอนนี้เถอะตอนนี้เนวไปไหนก็ไม่รู้ แล้วใครจะเอาข้าวต้มสมุนไพรนี่ไปให้นายดารานั้นวะ สงสัยจะต้องเอาไปให้เองซะแล้ว บ้านทำไมมันให้จังวะ ถึงสักที

ผมเปิดประตูห้องนายดารา ห้องมันนี่ก็ใหญ่พอๆกันห้องผมเลย ไอ้ดารามันนอนหลับอยู่บนเตียง หัวเตียงมันมีรูปเด็กสามคนถ่ายด้วยกันผมว่าถาดข้าวต้มแล้วหยิมรูปมาดูเด็กผู้ชายที่ยืนคงจะเป็นมันหล่อใช้ได้เลยนะแก เด็กผู้หญิงคนซ้ายน่าจะเป็นยัยหมวย เด็กผู้หญิงคนทางขวา...นาจิ ต้องเป็นนาจิแน่ๆผมมั่นใจ ผมนั่งมองรูปเด็กผู้หญิงคนนี้ทุกวันมาตลอดสิบสามปี
“วางมันลง”ไอ้ดารามันตื่นแล้ว
“เด็กคนนี้...”ผมไม่วางรูปลงอย่างที่มันบอก แล้วชี้ที่เด็กผู้หญิงที่ผมสงสัย “เป็นใคร”
“ถามทำไม”มันกวนผมใช่ไหม “จะกินเด็กเหรอ”

“อย่ามาเล่นลิ้น...ใคร!!!”
“และนายคิดว่าเธอเป็นใคร”ไอ้ดารานั้นมันทำหน้ากวนๆใส่ผม แล้วหันไปมองถาดข้าวต้ม“ข้าวต้มเหรอ อร่อยดีขอบใจ”
“ไอ้บ้า”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

แอด!!!
“ข้าวปั้นมาคุยกับเวพเหรอลูก”ว่าที่แม่ยายผมนั้นเอง
“ครับ”ต้องเรียบร้อยหน่อย
“เป็นไงบ้างไอ้ลูกชาย”คุณว่าที่แม่ยายลูบหัวไอ้ดารา หมันไส้
“ก็ดีครับแม่ ทานด้วยกันไหมครับแม่”
“ไม่แม่อิ่มมากเลย แม่เอายามาให้ แม่ไปก่อนดีกว่าหนุ่มๆคุยกันดีกว่า”
“ไม่เป็นไรครับคุณน้าผมไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับเขา ผมออกไปพร้อมคุณน้าเลยดีกว่าครับ”
“จ๊ะ”
ผมกับคุณว่าที่แม่ยายออกจากห้องไอ้ดารา เราเดินมาด้วยกันถึงห้องนั่งเล่นผมสังเกตถ้าทางรูปร่างและการเดินของคุณว่าที่แม่ยายมันต้องใช่แน่ๆ

“น้าชิตา”
“หืม ข้าวปั้นว่าไงเหรอลูก”คุณว่าที่แม่ยายหันมามองผม
“ปะ...ครับ”
ไม่ผมจะไม่อยากรู้อะไรอีกแล้วถึงเวลาก็รู้เองละน่า



เนวดี Talk
“เดือนหนึ่งแล้วเหรอเนว”
“อืม”
ตอนนี้ฉันกับยัยแคว นั่งเล่นกันที่สวนหลังบ้านมองพี่เวพที่นั่งบนรถเข็นที่ถูกเข็นโดยพี่ภู ถึงแม้อาการจะไม่ทรุดมากแต่ก็ไม่ได้ดีขึ้น
“ฮึกๆT.,T”
“แควอย่าร้องเลยนะพี่เวพเห็นจะไม่สบายใจเอา”ฉันว่าพลางลูบหัวเพื่อนรัก “พรุ่งนี้พี่เวพต้องกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลแล้วนะ”
“เนวเอานมสดไปให้มันหน่อยสิ”เสียงพี่ข้าวปั้นดังมาจากด้านหลัง พอหันไปก็เห็นแก้วนมสดอยู่ตรงหน้าฉัน

ฉันรับนมสดมาแล้วเดินไปหาพี่เวพที่กลางสนาม
“นมค่ะพี่เวพ”
“ขอบใจครับน้องสาว”พี่เวพรับไปแล้วดื่มจนหมดแก้ว “หอมสมุนไพรอีกแล้ว” สงสัยว่าพี่ข้าวปั้นจะทำนมสมุนไพร
“อร่อยไหมคะ”
“ก็ดี แปลกดี”พี่เวพหันไปมองพี่ภู “เฮ้ย...เอาไปเก็บ”
“ครับๆๆ”พี่ภูรับแก้วแล้ววิ่งไปที่พี่ข้าวปั้นกับยัยแคว
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
“นิดหน่อย...เนวถ้าพี่ไม่อยู่แล้วเอากุญแจนี้ไปไขที่ตู้เซฟหัวเตียงพี่นะ”พี่เวพหยิบสร้อยที่มีกุญแจหน้าตาแปลกๆออกมา “พี่สวมให้”
“กุแจฝังเพชรด้วย”

“สวยใช่ไหมล่ะ ดูโน้นสิ”พี่เวพชี้ให้ดูพี่ข้าวปั้น พี่ข้าวปั้นส่งสายตาดุจเหยี่ยวมาทางนี้ “อาทิตย์ที่แล้วแฟนเนวมันเห็นรูปสมัยเด็กของเนวแล้วนะ”
“จริงเหรอคะ แต่เขาไม่เห็นจะมีอาการอะไรเลย”
ฉันมองพี่ข้าวปั้นด้วยความสงสัย คนฉลาดอย่างเขาน่าจะพอเดาอะไรได้แต่ทำไมเขาถึงดูนิ่งเหมือนคนไม่รู้อะไร ทำไมนะ
“เสียดายนะนิ้วนางข้างซ้ายของเนวไม่ว่าแล้ว”
ฉันมองแหวนที่พี่ข้าวปั้นสวมให้
“เขาขอหมั่นเนวไว้นะคะ”
“ถ้าอยากนั้นข้างขวาขอให้เป็นของพี่นะ”



โรงพยาบาล
วันนี้พี่เวพต้องเข้ามาอยู่โรงพยาบาลอีกครั้งเพราะเขาต้องได้รับการดูแลจากหมออย่างใกล้ชิด ส่วนฉันตอนนี้เพิ่งกลับมาจากทานข้าวกลางวันกับ แคว พี่ภู และพี่ข้าวปั้น แต่ฉันขอตัวกลับมาก่อน ฉันหยุดที่หน้าห้องพักของพี่เวพเพราะได้ยินเสียงคนคุยกันในห้อง
“เหนื่อยไหมลูก”เสียงนี้คือเสียงของคุณลุงจ้าว
“ครับ...ป๊า”เสียงพี่เวพที่ตอบรับเบาเหลือเกิน “ผมเจ็บทุกครั้งที่หมอเขารักษาผมเลยป๊า...แต่ที่เจ็บกว่าคือ...ตอนที่เห็นแควกับเนวร้องไห้ตอน...อาการผมกำเริบ น้องเสียใจมาก...ผมรู้”เสียงที่ฉันได้ยินมันสั่นมาก
“ง่วงไหมลูก”เสียงแม่ “นอนนะแม่จะห่มผ้าให้”

“ผมรู้สึกว่าผม...ไม่อยากนอนเลยครับ...ผมกลัวจะไม่ได้ตื่น...แต่ผมเจ็บเหรอเกินครับแม่...เจ็บที่ต้องเห็นน้ำตาของทุกคน...เจ็บกับไอ้...อาการบ้านี่...ผมเหนื่อยมากเลยครับ...ป๊าไอ้นั้นมันเป็นคนดีนะ...มันรักเพื่อนมันมาก...และมันก็รักแควมากด้วย...แม่ครับ...ไอ้เวรนั้นมันก็ดีนะครับ...เนวเลือกคนไม่ผิด...ผมรู้ว่าคนที่ผมรัก...เธอจะต้องเลือกคนที่ดีที่สุด...เหนื่อยจังเลย...”ฉันร้องไห้ออกมากับคำพูดที่ยืดยาวของพี่เวพ และตอนนี้เสียงเขาก็เงียบไป...ไม่..ฉันเปิดประตูห้องเข้าไปเห็นสัญญาณชีพของพี่เวพเป็นเส้นตรง

หมอและพยาบาลวิ่งกรูกันมาในห้อง พวกเขาเอาเครื่องปั๊บหัวใจปั๊บพี่เวพหลายรอบ แต่สัญญาณชีพก็ไม่กลับมา
“หมอเสียใจด้วย”
ภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นคือพยาบาลเอาผ้าห่มคุมหน้าพี่เวพ ก่อนที่หมอจะเดินออกจากห้องไป ไม่จริง...



พิธีศพของพี่เวพเสร็จไปแล้ววันนั้นมีคนมากมายมาร่วมงาน คุณลุงดูน่าเป็นห่วงที่สุดแม้จะผ่านมาหลายวันแล้วแต่ท่านก็ยังดูอาการไม่ดีขึ้น ท่านเสียภรรยาและลูกชายไปด้วยโรคเดียวกันใครก็คงทำใจไม่ได้
แม่เองก็เศร้าอยู่ไม่น้อยได้แต่มองคุณลุงที่วันๆเขาได้แต่นั่งนิ่งๆ แควที่ตอนแรกดูจะอ่อนแอที่สุดแต่สุดท้ายเธอกลับเป็นคนที่ไม่ร้องไห้อีกเลยหลังจากวันงาน

พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปที่ประเทศไทยแล้ว พี่ข้าวปั้น กับพี่ภูก็เช่นกัน แต่แควฉันรู้สึกว่าเธอคงไม่อยากทิ้งพ่อเธอไว้คนเดียว จริงสิ...สร้อยนี่

ฉันถอดสร้อยคออกมาแล้วเสียบกุญแจไปที่ตู้เซฟ ในตู้มีกล่องเล็กๆสีชมพูกับสีขาว มีกล่องเน็กไทย์ กล่องดอกมะลิ มีรูปแม็คติดอยู่กับจดหมาย รูปครอบครัวของเราที่มี ลุงจ้าว แม่ พี่เวพ แคว และฉัน ฉันพลิกไปที่หลังรูปมันมีข้อความอยู่
‘ครอบครัวของผม’


ฉันเรียกทุกคนให้มาที่ห้องนั่งเล่นแล้วเปิดจนหมายออกอ่าน

“ถึงทุกคน
ป๊า...ครับผมรักป๊ามากนะ แต่สงสัยผมต้องทิ้งป๊าไปอยู่กับแม่ซะแล้ว ป๊าอยู่ทางนี้ดูแลตัวเองด้วยนะครับผมเป็นห่วง ป๊าคงต้องเหนื่อยมากขึ้นที่ต้องดูแลยัยแควคนเดียวแต่ผมเชื่อว่าไอ้ว่าที่น้องเขยมันคงช่วยพ่อได้เยอะ นี่นายสอบผ่านแล้วนะไอ้ว่าที่น้องเขย เน็กไทย์เส้นนี้ผมซื้อให้ป๊านะ”

ลุงจ้าวร้องไห้ตลอดเวลาที่ฉันอ่าน ท่านหยิบเน็กไทย์ไปกอดไว้

“แม่...ถึงแม่จะไม่ใช่แม่แท้ๆของผมแต่ผมรักแม่มากเลยนะครับ แม่เป็นแม่ที่ดีที่สุด ขอบคุณแม่มากนะครับ ผมซื้อดอกมะลิล่วงหน้าไว้ให้แม่แล้ว แม่ชอบไหมครับ แม่ครับ...ไว้โอกาสหน้าให้ผมเป็นคนที่ดูแลแม่บ้างนะครับ”

ฉันส่งกล่องดอกมะลิที่มีดอกมะลิปลอมอยู่หลายสิบดอกไปให้แม่ ทุกปีพวกเราสามคนจะต้องให้ดอกมะลิแม่ในวันแม่ของคนไทยเสมอ

“แคว...น้องรักของพี่โทษนะที่พี่ทำไม่ดีกับน้อง ใช่ว่าพี่ไม่รักแต่พี่มีเหตุผล ต่อไปนี้น้องพี่ก็มีคนช่วยดูแล้ว มันเป็นคนดีนะ รักกันให้นานๆนะ ปิดดูในกล่องสีขาวสิ พี่ให้ตัวของมันอยู่ในห้องเก็บของ”

แควเปิดกล่องดู ข้างในมีกุญแจรถอยู่ น้ำตาที่แห้งไปนานไหลออกมาอีกครั้ง

“เนว...ดวงใจของพี่ สิ่งมีค่าที่สุดของพี่ พี่อยากดูแลสิ่งมีค่าชิ้นนี้ด้วยตัวเองแต่โอกาสของพี่น้อยเหลือเกิน แต่พี่เชื่อว่ามันดูแลเนวได้นะ ขอบใจแกมากที่ทำอาหารแปลกๆให้ฉันกิน อร่อยดี ขอบใจ กล่องสีชมพูของเนวนะ”

ฉันวางกระดาษแล้วเอื้อมมือไปหยิบกล่องสีชมพูมาเปิด มีสร้อยคอมีจี้ฝังเพชรสีชมพูรูปใจ และแหวนเพชรวงหนึ่ง ฉันหยิบแหวนมาใส่ที่นิ้วนางข้างขวา ‘ถ้าอย่านั้นข้างขวาขอพี่นะ’ ขอโทษนะคะ ขอโทษ ขอโทษจริงๆ

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

เศ้าๆๆๆ เขียนเองร้องไห้เองจนได้



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ธ.ค. 2555, 07:53:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ธ.ค. 2555, 07:53:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 995





<< ตอนที่20-->>ค่ายหรรษาพัฒนาชุมชน   ตอนที่22-->> คุณพ่อ คุณแม่ ลุงจ้าว และเงามืด >>
เพียงใจกล้า 13 ธ.ค. 2555, 07:56:19 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account