เจ้าสาวแสนแสบ
เมื่อสายลับสาวแสบ ต้องจับพลัดจับผลูไปเป็นเมียเจ้าพ่อหนุ่มเข้าให้


มาลุ้นกันว่า...เธอจะทำภารกิจลับที่ได้รับมอบหมายสำเร็จ


หรือจะ...เสร็จ...มาเฟียตัวร้ายก่อนกัน!!


และถ้าต้องเลือก...เธอจะเลือกอย่างไหน...



หน้าที่...หรือ...หัวใจ


Tags: รัตนรัตน์,เจ้าสาวแสนแสบ,romantic comedy

ตอน: บทที่ 3 : กระตุกหนวดเสือ (PART I)

บทที่ 3 : กระตุกหนวดเสือ

โดย รัตนรัตน์




“นายแม่คะ แย่แล้วค่ะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”




เสียงเรียกจากจำปีสาวใช้ในบ้านที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาใกล้ทำให้พรรษาหันขวับไปมองสาวใช้ที่อ่อนวัยกว่าตนเกือบสองรอบด้วยแววตาเคืองขุ่น

“นายแม่คะ นายแม่! เร็วเข้าเถอะค่ะ” สาวใช้นามว่าจำปีเอ่ยเร่งอย่างลนลาน แม้จะรู้ว่า เจ้าของคำเรียกขาน...นายแม่ นั้นไม่ชอบให้ใครเอ่ยเสียงดัง กับทั้งทำอะไรไม่เป็นระเบียบแบบแผนเอาเสียเลยแต่จะทำอย่างไรได้เล่า ในเมื่อตอนนี้บังเกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาและคนที่จะแก้ปัญหานี้ได้บางทีอาจจะมีแค่นายแม่เพียงคนเดียว




หากแต่ไม่ทันได้เอ่ยต่อ เสียงโหวกเหวกโวยวายกรีดร้องจะเป็นจะตายก็ดังขึ้นจากด้านหน้าตัวบ้าน เป็นเหตุให้หญิงวัยกลางคนต้องหันไปมองด้านนอกหน้าต่าง





“ปล่อยนะ ปล่อย!” หญิงสาวหน้าละอ่อนเจ้าของเรือนร่างอวบอิ่มซึ่งถูกชายฉกรรจ์หลายคนจับตัวไว้ ดิ้นรนไปมาไม่ได้หยุด





“เกิดอะไรขึ้น?”




เสียงเข้มของเจ้าของแผ่นหลังหนาอันอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อเฉกเช่นชายชาตรีกล่าวถามขณะที่ใบหน้าหาได้ละจากหนังสือพิมพ์เล่มใหญ่แต่อย่างใด





“นังมะนาวครับนาย มันพยายามจะเข้าห้องนอนนายให้ได้พวกผมไปเจอเข้าก็เลย พาตัวมาให้นายตัดสินว่าจะลงโทษมันยังไง”





ศักดารีบบอกเจ้านาย ก่อนจะส่ายหน้าไปมาด้วยอดสงสารเด็กรับใช้ที่ชื่อมะนาวไม่ได้ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ก็ในเมื่อทำตัวเองแท้ๆ นี่นาแถมหนนี้ก็เป็นครั้งที่สองเข้าไปแล้วที่เด็กสาวลอบเข้าหาเจ้านายของเขาคราวที่แล้วนั้นถึงกับไปนอนรอในห้องนอนเลยทีเดียว ดีนะที่เขาเข้าไปทันเห็นเสียก่อนไม่อย่างนั้นทั้งเขาทั้งนังมะนาวได้หัวหลุดออกจากบ่าพร้อมกันแน่ๆ




แต่ว่าคราวนี้จะให้ช่วยเหลือเหมือนคราวก่อนคงยาก เพราะพยานที่อยู่ในเหตุการณ์มีด้วยกันหลายคนทำให้เขาต้องปล่อยเลยตามเลย เพราะกฎก็ต้องเป็นกฎ และเขาก็ไม่กล้าฝ่าฝืนกฎเหล็กของที่นี่เสียด้วย กับทั้งในเมื่อคนผิดคิดที่จะรวยทางลัด หวังจับเจ้านายของเขาก็หวังว่าเจ้าตัวคงจะเตรียมตัวเตรียมใจรับผลกรรมที่ตนเองก่อไว้แล้วเช่นกัน!





แม้จะคิดเช่นนั้น แต่ศักดาก็อดถอนหายใจพรืดเมื่อมองเด็กสาวคนดังกล่าวไม่ได้เพราะรู้ดีว่าโทษทัณฑ์ครั้งนี้หนักหนาสาหัสไม่ใช่เล่น…ทุกคนในบ้านต่างก็รู้ดีว่าคุณพายุเจ้านายของเขานั้นไม่ชอบให้ใครเข้าไปยุ่มย่ามในห้องส่วนตัวโดยเฉพาะ...ห้องนอน!




ห้องนอนของคุณพายุถือเป็นอาณาเขตหวงห้าม ที่ทุกคนห้ามเข้าไป โดยจะมีก็เพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้นที่ชายหนุ่มอนุญาตให้แม่บ้านเข้าไปเก็บกวาดและทำความสะอาด ซึ่งจะต้องทำให้เสร็จก่อนที่เขาจะกลับ



แต่อันที่จริงจะโทษนางมะนาวฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ก็ใครใช้ให้เจ้านายของเขามีรูปร่างหน้าตาที่ดึงดูดสตรีเพศเช่นนี้กันเล่า ไม่ว่าจะเดิน จะยืน หรือจะนั่ง ก็ล้วนแล้วแต่ดูดีไม่มีที่ติในทุกอากัปกิริยา จึงไม่แปลกใจที่สาวๆ ที่เห็นจะหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ แม้นจะรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งผิดก็ตาม!

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าคมคายอันเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดเหลือบมองเหตุการณ์เบื้องหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงเข้มอย่างไม่ยี่หระ





“ให้เงินชดเชยไป 6 เดือน!”





คำสั่งของเขาคือวาจาศิต และถือเป็นกฎเหล็กของที่นี่...กฎที่ทุกคนต้องทำตามโดยไม่มีข้อแม้หรือข้อโต้แย้งใด และกฎก็ต้องเป็นกฎ...ไม่มีละเว้นแม้แต่กับใครสักคน และอาจเพราะความเด็ดขาดนี้ที่ทำให้หลากหลายธุรกิจที่เขาดูแลมีระเบียบแบบแผน ลูกน้องทุกคนปฎิบัติตามโดยไม่กล้าฝืน หรือออกนอกลู่นอกทาง ทุกคนรู้ดีว่าการขัดคำสั่งของเขามีโทษเช่นไร!




ศักดาน้อมรับคำบัญชา สายตาที่มองเจ้านายหนุ่มนั้นมีแต่ความชื่มชมโดยไม่มีปิดบัง ด้วยเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณพายุได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามีความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งที่ยืนอยู่แค่ไหน และที่กิจการของนนท์ธนิตเจริญรุ่งเรืองตลอดสิบปีที่ผ่านมาได้ก็เพราะใคร!





แม้จะรู้ดีว่าในใจลึกๆ ของเจ้านายหนุ่มนั้นหาได้เห็นด้วยกับกิจการที่สืบทอดกันมาของครอบครัว เบื้องหน้าเรียบสวยดูดีเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นพันๆ ล้าน ทั้งโรงแรม รีสอร์ต หลายต่อหลายแห่งในเครือนนท์ธนิตที่ใครหลายคนพากันอิจฉา ว่าเหตุใดถึงได้ขยายใหญ่โตได้ในเวลาเพียงไม่นาน ทั้งยังเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่มีขีดสุด และนั่นก็ทำให้เขาติดอันดับนักธุรกิจหนุ่มที่ครบถ้วนคุณสมบัติ หล่อ และรวยล้นฟ้า




แน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นแค่เพียงเปลือกนอกเพราะแท้ที่จริงธุรกิจด้านมืดของครอบครัวต่างหากที่สร้างเม็ดเงินเป็นกอบเป็นกำ ไม่ว่าจะเป็นผับ คลับ บาร์ สถานบันเทิงหลายต่อหลายแห่งทั้งในเมืองหลวงและตัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ รวมถึงธุรกิจอีกหลายอย่างที่หลบเร้นซ่อนกายตามหลืบเงาของกฎหมาย ธุรกิจที่ทำให้นนท์ธนิตร่ำรวย มีอิทธิพลและยิ่งใหญ่มาได้จนถึงทุกวันนี้





แม้จะพยายามคืบคลานออกจากเงา หากแต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเปลี่ยนธุรกิจที่มีรากเหง้าในเงามืดซึ่งมีมาตั้งแต่บรรพบุรุษให้หันหน้าสู้แสงตะวันได้อย่างภาคภูมิ เขารู้ดีว่าคุณพายุต้องพยายามมากกว่าปกติแค่ไหน





กับทั้งยังต้องรักษาอำนาจและผลประโยชน์ให้กับตระกูล ต้องปกปิดความผิดเก่าๆ ให้มิดชิด เพราะหากมีใครคุ้ยเขี่ยขึ้นมาเมื่อใด นั่นหมายถึงเสถียรภาพของนนท์ธนิต และความปลอดภัยของชีวิตลูกน้องใต้อาณัติอีกจำนวนมากอาจมลายหายไป ดังนั้นการที่จะยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดของยอดเขาอย่างที่ผู้เป็นนายยืนอยู่นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!





ข้างสาวใช้ที่รนหาเหาใส่ตัว เมื่อได้ยินเสียงเข้มแฝงอำนาจดุดันของเจ้านายหนุ่ม เธอก็เข้าใจความหมายของถ้อยคำนั้นได้ทันที ว่าหมายถึง...ไล่ออก!




“นายคะนายมะนาวผิดไปแล้ว มะนาวสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ให้โอกาสมะนาวด้วยเถอะนะคะนะคะนาย...” หญิงสาวอ้อนวอนทั้งน้ำตา พยายามตะเกียกตะกายไปยังเจ้านายหนุ่มทว่าก็ไม่สามารถทำได้ ด้วยมีบอดี้การ์ดหลายนายปิดกั้นอยู่




“พาตัวออกไป!”




ศักดาแปลกใจไม่น้อยที่คุณพายุผู้เป็นเจ้านายไม่โกรธอย่างที่คิด




“อ้อ...แล้วก็อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก!”



หนังสือพิมพ์เล่มใหญ่ถูกโยนลงบนโต๊ะอย่างแรงก่อนที่สายตาคมกริบจะสาดส่องไปยังบรรดาลูกน้องทุกคน คล้ายกับจะบอกให้รู้ว่าหากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกล่ะก็ คราวหน้ามันจะไม่จบลงง่ายๆ เช่นนี้!





“ครับนาย!” เสียงกล่าวตอบของเหล่าบอดี้การ์ดที่ได้รับการฝึกฝนมาแล้วเป็นอย่างดีเอ่ยพร้อมเพรียงกัน




เรือนร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำเรียบหรู ยืนขึ้นเต็มความสูง ดวงตากร้าวแกร่งทอประกายดุดันจนบรรดาลูกน้องต้องพากันก้มหน้าหนี ด้วยรู้ดีว่าวันนี้เจ้านายของตนอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็ไหนจะเรื่องที่ยังจับเจ้าหัวขโมยคนนั้นไม่ได้ แล้วไหนจะเรื่องสาวใช้ตัวดีนี่อีก

“ศักดาเสร็จเรื่องแล้วตามไปพบฉันที่ห้องทำงาน”




“ได้ครับคุณพายุ” มือขวาของเจ้าพ่อหนุ่มรับคำก่อนจะหันมาสั่งการบรรดาลูกน้องให้เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินตามเจ้านายไป




****************************





“ตกลงนังมะนาวถูกไล่ออกจริงๆ หรือคะนายแม่”

จำปีเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ เพราะแม้มะนาวจะเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน หากแต่ก็มีนิสัยน่าคบหา ทั้งยังได้ยินมาว่าทางบ้านกำลังลำบาก เมื่อได้ฟังเช่นนั้นเธอก็อดเห็นใจไม่ได้






“ก็คงต้องอย่างนั้นแล้วล่ะ คนทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด” พรรษาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเห็นอกเห็นใจ เพราะอันที่จริงสาวใช้ที่ชื่อมะนาวไม่ใช่คนแรกที่โดนไล่ออกด้วยเรื่องทำนองนี้ สาวใช้สาวๆ หลายต่อหลายคนเคยทำพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อน รู้ก็ทั้งรู้ว่าบุตรชายของเธอนั้นไม่ได้พิศวาสหรือมีใจให้ แต่สาวสมัยนี้ก็ยังกล้าที่จะบุกเข้าหาผู้ชาย ไม่ไหวจริงๆ






“ถือว่าเป็นโชคร้ายของนังมะนาวมันก็แล้วกัน ว่าแต่ว่าจำปีก็ยังข้องใจไม่หายทำไม๊ทำไมคุณพายุถึงไม่เค๊ยไม่เคยชายตาแลนังมะนาวมันเลยล่ะคะ หน้าตามันก็ออกสวยแถมหุ่นงี้ดาวยั่วยังอายเลยนะคะ...อ๊ะแต่ว่าไปจำปีก็ไม่เคยเห็นคุณพายุสนใจผู้หญิงที่ไหนเลยด้วยซ้ำ”





“จำปี!”



พรรษากล่าวปรามสาวใช้ที่พูดเรื่อยเปื่อยไร้สาระไปเรื่อย หากแต่ไม่รู้เพราะผีสางเทวดา หรือว่าเจ้าที่เจ้าทางองค์ใดที่ดลให้ตนนั้นรู้สึกแปลกๆกับสิ่งที่จำปีเอ่ยทัก...เพราะมันเป็นดังอย่างที่อีกฝ่ายพูดจริงๆ ...





พายุไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน!




ทั้งๆ ที่กิจการที่ดูแลอยู่ โดยมากเป็นธุรกิจกลางคืน...แน่นอนว่าบุตรชายของตนย่อมต้องได้พบปะหญิงสาวมากหน้าหลายตา แล้วจะไม่มีที่ถูกตาต้องใจเลยอย่างนั้นหรือ...




หรือว่า...





ไม่หรอก! เป็นไปไม่ได้! ลูกชายของเธอออกจะมาดแมน เข้มเกินร้อยเสียขนาดนั้นไม่มีทางที่จะเป็นแบบนั้นไปได้!




พายุคงมัวแต่ทำงาน จนไม่มีเวลาสนใจเรื่องพวกนี้ต่างหาก...ใช่...มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ !




เมื่อนึกหาเหตุผลสรตะให้ตนเองสบายใจแล้ว ผู้เป็นแม่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ใครเลยจะคาดคิดว่าทุกอย่างมันไม่จบเพียงเท่านี้




***********************



ภายในห้องทำงานปรากฏร่างสูงใหญ่ของเจ้านายหนุ่มกำลังยืนหันหลัง ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยขณะที่สายตานิ่งมองไปยังทิวทัศน์นอกหน้าต่างราวกับกำลังขบคิดอะไรบางอย่าง





“ที่ให้ไปสืบ...ได้เรื่องรึยัง?”





“ยังครับมันหายเข้ากลีบเมฆไปเลย ตามหาไปที่ไหนๆ ก็ไม่เจอ ผมให้คนตามไปทุกที่ที่คิดว่าน่าจะไป แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว”




“แล้วมีใครเคลื่อนไหวบ้างรึเปล่า?”





“ไม่มีครับ เงียบสนิทเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยครับ” ศักดาตอบเจ้านาย




พายุพ่นลมหายใจเป็นทางยาวรู้สึกแปลกใจเหลือเกินที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้นเพราะลองถ้าของสิ่งนั้นไปถึงมือศัตรูของเขาแล้วล่ะก็ไม่มีวันที่พวกมันจะอยู่เฉยแน่ๆ...




หรือว่า...





บางทีเจ้าของสิ่งนั้นอาจจะยังไปไม่ถึงมือของคนพวกนั้นก็เป็นได้...บางทีมันอาจจะตกหล่นอยู่ณ ที่ใดที่หนึ่ง...





หึๆแต่คิดแล้วก็ดีเหมือนกันในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียอีก..เขาก็จะถือโอกาสนี้วางกับดักล่อเสียเลย...เมื่อคิดได้เช่นนั้น รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นที่มุมปาก




“ปล่อยข่าวไปว่าฉันสั่งให้ทำห้องทำงานใหม่และสั่งทำเซฟรุ่นพิเศษมาไว้ที่บ้าน!”



“ได้ครับ” ศักดาไม่ได้เอ่ยถามเหตุผลด้วยรู้ดีว่าสิ่งที่เจ้านายคิดนั้นย่อมกลั่นกรองมาอย่างดีแล้ว




"อ้อ...ส่วนเรื่องที่บ้าน รู้ก็รู้ว่าฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับพื้นที่ส่วนตัว วันหน้าวันหลังอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก สั่งให้เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัย ให้มีกล้องวงจรปิดสอดส่องทั่วทุกมุมบ้าน”




“ทุกห้องเลยรึเปล่าครับ” มือขวาเอ่ยถามอย่างลังเล




“ใช่! ทุกห้อง ยกเว้นห้องนอนของนายแม่!”




“แล้วห้องคุณพายุล่ะครับ”



“ทำไว้! แต่แยกส่งข้อมูลที่บันทึกมาไว้ที่ห้องทำงานของฉันเท่านั้น อ้อ...แล้วเรื่องนัดคืนนี้เรียบร้อยดีรึเปล่า”





“เรียบร้อยดีครับ คุณฟูจิวาระจะมาถึงตอนสามทุ่มตรงครับ”




“ดี! อย่าให้มีอะไรผิดพลาดล่ะ ว่าแต่แล้วเรื่องกระเป๋าของฉันล่ะ หาเจอรึยัง"





“ยังครับ ผมให้คนของเราไปค้นหาแล้วครับ แต่ยังไม่เจอ”





“อย่าให้มันช้านักล่ะ เอาล่ะไปได้แล้ว!” กล่าวจบจึงจึงสะบัดข้อมือไล่ลูกน้องคนสนิท เนื่องจากอยากคิดอะไรต่อเงียบๆ คนเดียว



ศักดารับคำก่อนจะหันหลังออกจากห้องไป และนั่นก็ทำให้เขาเห็นว่ามีใครบางคนยืนรอเขาอยู่





“นายแม่มีอะไรจะใช้ผมหรือครับ?” น้ำเสียงสุภาพเอ่ยถามทันทีเมื่อเห็นมารดาของเจ้านาย





“ช่วงนี้พายุงานยุ่งรึเปล่าเห็นกลับดึกเกือบทุกวัน”





“ก็มีบ้างครับพอดีงานบางตัวมีปัญหา แต่คิดว่าไม่นานก็น่าจะจัดการได้สำเร็จน่ะครับ” ศักดาเอ่ยตอบอย่างนอบน้อม ด้วยนับถือนายแม่ไม่ต่างไปจากเจ้านายของตนอีกคน





“งั้นหรือว่าแต่ช่วงนี้พายุมีอะไรผิดปกติรึเปล่า”





“อะไรหรือครับที่ว่าผิดปกติ คุณพายุก็เป็นปกติดีนี่ครับ”



ศักดาย่นคิ้วถามอย่างสงสัยกับคำถามที่ได้ยินเจ้านายของเขาจะมีอะไรผิดปกติได้ ถ้ามีก็คงจะเป็นทำงานมากเกิน และเอาจริงเอาจังกับผลลัพธ์ของทุกงานมากเกินไปน่ะสิ ไม่นับรวมความกล้าบ้าบิ่นและเอาแต่ใจ อยากได้อะไรเป็นต้องหาให้ได้นั่นอีก ก็ดูอย่างคราวนี้สิ พอรู้ว่าเอกสารสำคัญถูกขโมยไป ก็ไม่รอช้ารีบออกโรงไปค้นหาด้วยตัวเอง





ทั้งนี้ศักดายอมรับกับตัวเองมานานแล้วว่า...เจ้านายของตนนั้นบางครั้งก็ออกจะเป็นคนใจร้อนและเอาแต่ใจอยู่มาก หากแต่นั่นก็หาได้ทำให้ลูกน้องอย่างเขาหรือใครต่อใครจะลดความยำเกรงและเอาใจออกห่างเจ้านายหนุ่มคนนี้ไปได้





คุณสมบัติเด่นของคุณพายุผู้เป็นเจ้านาย คือความฉลาดอย่างร้ายกาจ บวกกับความสามารถในการประเมินสถานการณ์ได้อย่างเฉียบขาด ที่ทำให้ตัดสินใจทุกอย่างได้อย่างว่องไว และถูกต้องเสมอ…นี่คือ สิ่งที่ทุกคนยอมรับในตัวของเจ้านาย หากแต่สิ่งที่ยึดเหนี่ยวความจงรักภักดีจากลูกน้องทุกคนหาใช่คุณสมบัติเหล่านี้ แต่เป็นเพราะ...ความเป็นลูกผู้ชายของคุณพายุต่างหาก!





หลายครั้งที่เจ้านายยอมเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยลูกน้อง ที่บางคนเป็นแค่เพียงลูกกระจ๊อกปลายแถว ไม่ได้มีหน้าที่สลักสำคัญอันใด ทั้งยังเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า แต่เมื่อถึงยามคับขันเจ้านายก็ไม่เคยทอดทิ้ง






และเพราะเหตุนี้ลูกน้องทุกคนจึงยอมเจ็บ ยอมตายแทนคุณพายุได้ ซึ่งเขาก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นเช่นกัน




ข้างพรรษานั้น คำถามที่ถามกลับมา ทำเอาหญิงวัยกลางคนถึงกับหน้าเจื่อนไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร “อืม...ช่างเถอะถ้าอย่างนั้นจะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ” ว่าแล้วจึงเอ่ยจบบทสนทนาด้วยคิดว่าตนนั้นคงคิดมากไปเองบุตรชายของเธอไม่มีทางเป็นแบบนั้นไปได้…





ก็ถ้าลูกชายของเธอเป็นเช่นนั้นจริงผู้ชายทั้งโลกคงไม่แคล้วเป็นแบบนั้นกันไปหมดหรือ...เมื่อคิดได้ดังนั้นเจ้าตัวจึงถอนหายใจอย่างโล่งอกดูท่าว่าเธอจะว่างจัดจนฟุ้งซ่านเสียแล้ว...



******************************************




“จริงเหรอ ยังให้โอกาสตะวันอีกเหรอคะ!”




ภิตะวันกล่าวถามอย่างลิงโลด ด้วยเพราะจากเหตุการณ์ที่เธอคว้าน้ำเหลวในการไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการค้าประเวณีเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา เธอนึกว่าตนเองจะถูกถอดจากตำแหน่งหรือไม่ก็ถูกสั่งพักงานเสียแล้ว…ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ไปบนพระมาตั้ง 9 วัดนะเรา อิอิ




‘อย่างนี้ที่เค้าว่ากันว่า...คนสวยใจบุญ ผลบุญเลยตามมาคุ้มครองให้โชคดีมันเป็นอย่างนี้นี่เอง...’ หญิงสาวผู้ถนัดคิดเข้าข้างตัวเองกระหยิ่มยิ้มย่องในใจกับสุภาษิตที่เจ้าตัวคิดเองเออเองคนเดียว





“งั้นคราวนี้ตะวันต้องเตรียมตัวยังไงบ้างคะ” เธอกล่าวถามไปทางโทรศัพท์





“ได้ค่ะ งั้นไว้คุยรายละเอียดกันคืนนี้ รับรองว่าหนนี้ตะวันจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่ๆ”




*****************************

ไว้ไปลุ้นต่อกันตอนหน้า ว่านางมารน้อยภิตะวันจะซนขนาดไหนนะคะ ^^

~รัตนรัตน์~

*****************************



รัตนรัตน์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 เม.ย. 2554, 11:00:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 เม.ย. 2554, 11:04:47 น.

จำนวนการเข้าชม : 2288





<< บทที่ 2 : นางมารน้อยภิตะวัน    บทที่ 4 : กระตุกหนวดเสือ (PART II) >>
SaiParn 10 เม.ย. 2554, 18:03:45 น.
อิอิ ภิตะวัน


cherryfirm 1 พ.ค. 2554, 20:01:18 น.
น่ารักกกกกก..............


XaWarZd 29 พ.ค. 2554, 01:02:30 น.
โหยกว่าจะได้เจอกันอีกที รอนานนะเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account