ชะตาฟ้า...ลิขิตรัก (ฟ้าดลรัก)
จากหญิงสามัญชนกลับกลายเป็นเจ้าหญิงสูงศักดิ์ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ชีวิตของเธอจะดำเนินต่อไปอย่างไร ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงมากมาย และเธอจะมีโอกาสได้เคียงคู่กับเจ้าชายที่แสนดีอย่างในนิทานหรือไม่....
Tags: เจ้าชาย-เจ้าหญิง

ตอน: บทที่ 6

บทที่ 6

การมาเยือนมินธุราในครั้งนี้ ทำให้เขามีโอกาสได้รู้จักหญิงสาวนิรนามคนหนึ่ง แต่หลังจากที่ได้พบเจ้าหญิงในดวงใจ เขาก็ไม่เคยเจอเจ้าหล่อนอีกเลย หากนางเป็นคนสนิทของกัญญ์วราจริง เหตุใดหล่อนไม่เคยปรากฏอยู่ข้างกายนายสาวแม้แต่ครั้งเดียว คนสนิทที่เขามักจะพบเสมอยามที่เขาแวะเวียนไปหากัญญ์วราก็คือ สามสาวสาม อ. อรทัย อรณี และอรสา พรุ่งนี้จะต้องเดินทางกลับมุราดาแล้ว ทำให้เขาฉุกคิดถึงหญิงนิรนามคนนั้นขึ้นมา และเขาก็ไม่อยากพกพาความสงสัยนี้บินกลับประเทศ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

“เป็นอะไรของนาย นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว หรือไม่อยากกลับบ้านตัวเอง” ธุติยะธรถาม หลังจากเห็นเพื่อนนั่งคิ้วชนกันอยู่พักใหญ่

“แค่สงสัยอะไรนิดหน่อย”

“ข้อสงสัยของนายฉันพอจะช่วยได้ไหม” เจ้าชายหนุ่มถามอย่างมีน้ำใจ

“ตั้งแต่เจอหญิงกัญญ์ ทำไมฉันจึงไม่เคยเจอผู้หญิงอีกคนหนึ่งเลย นายว่ามันแปลกไหม” มกุฎราชกุมารแห่งมินธุราเลิกคิ้วเหมือนต้องการย้ำคำถาม เมื่อเห็นว่าสีหน้าของพระสหายยังขมวดกันจนยุ่งจึงได้สืบถามต่อไป

“แล้วนายคิดว่าดีหรือไม่ดี แล้วนายอยากเจอเธอมากกว่าเจอหญิงกัญญ์หรือเปล่า”

“ไม่ ฉันเกือบลืมเธอไปแล้วด้วยซ้ำ แต่มาตงิดใจก็วันนี้นี่ล่ะ”

“งั้นแสดงว่าหญิงกัญญ์ยังมีความสำคัญกับนายเหมือนเดิม หัวใจนายไม่เคยเปลี่ยน แล้วนายอยากจะไปรู้เรื่องของเธอทำไม”

“ก็แค่สงสัยว่าเธอหายไปไหน”

“ถ้าเช่นนั้นนายก็ไปถามหญิงกัญญ์ดูสิ” ธุติยะธรยุส่ง เพราะเขาก็อยากรู้ว่าน้องสาวจะให้คำตอบองค์รัชทายาทแห่งมุราดาว่าอย่างไร

“นายว่าถ้าฉันถาม หญิงกัญญ์จะโกรธไหม” วริทธิ์ธรถามในสิ่งที่ตนเองหวั่นเกรง

“น้องสาวฉันจะไปโกรธนายด้วยเรื่องอะไร ฉันว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา นายน่าจะสังเกตอะไรได้บ้าง หญิงกัญญ์ปฏิบัติตัวกับนายเยี่ยงใด พี่ชายกับน้องสาวหรือหนุ่มสาวที่มีใจปฏิพัทธ์ต่อกัน” คำตอบนั้นทำให้เจ้าชายหนุ่มจากต่างแดนสะอึกและจุกขึ้นมาถึงคอหอย นั่นสิ! หรือเจ้าหญิงน้อยจะลืมสัญญาระหว่างเราในเยาว์วัยแล้ว มีเพียงเขาใช่ไหมที่ยังคงพันธนาการหัวใจตัวเองไว้กับเธอ

“อย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกล อาจจะมีบางอย่างเปลี่ยนไปบ้างตามวัย แต่สายใยก็มิได้ตัดขาดมิใช่หรือ หากหญิงกัญญ์หลงลืมอะไรไป มันก็คงไม่สายเกินไปหากนายจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ให้ดีกว่าเดิม” ธุติยะธรตบลงบนบ่าผึ่งผายของพระสหายรักอย่างให้กำลังใจ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็อยากให้เส้นทางของทั้งสองจบลงเช่นเดิม อย่างที่บุพการีของเขาและเพื่อนวาดหวังเอาไว้

“ขอบใจ”

บริเวณห้องนั่งเล่นส่วนตัวของพระราชธิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีนฤบดินทร์และสมเด็จพระราชินีรวิธา มีเครื่องเรือนอยู่น้อยชิ้น แต่เครื่องใช้ที่มีมากที่สุดก็คือ ตู้หนังสือและตู้โชว์งานฝีพระหัตถ์ของผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งใช้เวลายามว่างจากราชกิจของบ้านเมืองประดิษฐ์ประดอยงานแต่ละชิ้นด้วยหัวใจ เจ้าหญิงกัญญ์วรามักจะใช้เวลาส่วนพระองค์ในห้องนี้หรือไม่ก็บริเวณอุทยานหลังตำหนักใหญ่ และวันนี้พระองค์ก็ทรงเลือกที่จะใช้พื้นที่ที่อยู่ในตำหนักทำกิจกรรมที่ทรงชื่นชอบ

“เจ้าหญิงเพคะ” อรสาถอนสายบัวก่อนจะเอ่ยเรียกเจ้านายของตน

“มีอะไรหรือจ๊ะอรสา” สายตาที่จับจ้องอยู่บนลวดลายริมผ้าเช็ดหน้า หันไปมองคนสนิท เอ่ยถามเสียงหวาน

“เจ้าชายวริทธ์ธรขอเข้าเฝ้าเพคะ”

“อรสาไปกราบทูลให้เจ้าชายทรงรอสักครู่ เราขอเวลาทำธุระส่วนตัวสักนิด ให้ทางห้องเครื่องจัดเตรียมของว่างถวายด้วยนะจ๊ะ”

“เพคะเจ้าหญิง” นางกำนัลคนสนิทย่อตัวก่อนจะเดินถอยฉากออกไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง ส่วนผู้เป็นเจ้าของห้องก็เก็บอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยของตน จากนั้นก็สำรวจความพร้อมของตัวเองก่อนจะเดินออกไปพบแขกคนสำคัญ

“ถวายพระพรเพคะ” กัญญ์วราย่อตัวลงอย่างอ่อนช้อย ทำความเคารพผู้มีศักดิ์เหนือกว่าตน

“พี่มารบกวนเวลาพักผ่อนของหญิงหรือเปล่า” เจ้าชายหนุ่มลุกขึ้นยืนต้อนรับเจ้าของสถานที่พร้อมผายมือเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายนั่ง ก่อนจะจบลงด้วยคำถามตามมารยาท

“เปล่าค่ะ”

“แล้วก่อนหน้านี้หญิงทำอะไรอยู่จ๊ะ” เจ้าชายหนุ่มถามเสียงนุ่ม

“กำลังถักริมผ้าเช็ดหน้าอยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าพี่ชายฟ้ามีธุระอะไรกับหญิงหรือเปล่าคะ” เมื่อตอบคำถามเสร็จ หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ก็ถามสืบไป

“ขอพี่ชมงานฝีมือของหญิงบ้างได้หรือไม่” วริทธิ์ธรมิได้เอ่ยถึงธุระของตน หากนำพาบทสนทนาไปยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมยามว่างของอีกฝ่าย

“ไม่ได้สะสวยอะไรหรอกค่ะ แค่กิจกรรมยามว่างเท่านั้นเอง” กัญญ์วราออกตัวเล็กน้อย

“ถ่อมตัวเกินไปหรือเปล่าจ๊ะ มาลัยที่หญิงร้อยให้พี่ก็สวยงามแปลกตา พี่ว่างานอื่นๆ ก็คงไม่ต่างกันกระมัง อยู่ที่ว่าพี่เป็นคนสำคัญพอที่หญิงจะโชว์ผลงานให้ชมเป็นขวัญตาหรือเปล่า” กระแสเสียงส่อแววน้อยพระทัยเล็กน้อย จนเจ้าของผลงานอดสบตาคมไม่ได้

“ถ้าพี่ชายฟ้าไม่รังเกียจงานของผู้หญิงๆ ก็เชิญเพคะ เห็นแล้วหญิงอนุญาตให้ชมอย่างเดียวนะคะห้ามติ มิเช่นนั้น หญิงจะงอนด้วย” กัญญ์วราแสร้งทำหน้าง้ำเล็กน้อย เรียกร้อยยิ้มจากอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี

“อาจจะไม่ได้แค่ชมนะจ๊ะ ถ้าพี่ขอผลงานของหญิงติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย หญิงจะให้พี่ได้หรือเปล่า”

“ถ้าทรงโปรดจริงๆ มีหรือคะที่หญิงจะกล้าขัดพระประสงค์” แม้ประโยคดังกล่าวจะออกแนวประชดนิดๆ หากใบหน้ายิ้มละไมก็บอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าของผลงานเต็มใจอย่างยิ่งที่จะมอบของขวัญให้ หากอีกฝ่ายปรารถนา

“แล้วถ้าพี่ชื่นชอบผลงานทั้งหมดของหญิง และอยากได้ไว้ในครอบครอง หญิงจะยกให้หรือเปล่า หรือถ้าพี่ติดใจในรสมือในการทำอาหาร รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ที่หญิงประดิษฐ์ หญิงพอจะเอื้อเฟื้อทำสิ่งเหล่านั้นให้พี่ตลอดไปได้หรือไม่” ดวงเนตรแววหวานสื่อถึงความรักที่มีอยู่จนล้นใจ ส่งผลให้พระปรางของอีกฝ่ายขึ้นสีระเรื่อด้วยความขัดเขิน นัยน์ตาหวานมิอาจสบคนเกี้ยวพาราสีได้อีก จึงเสหลบก่อนกลบเกลื่อน

“พี่ชายฟ้าจะรับของว่างก่อนหรือจะชมงานประดิษฐ์ของหญิงก่อนดีคะ”

“แล้วแต่หญิงจะกรุณา วันนี้เวลาของพี่จะยกให้หญิงจรดเย็น เพราะพรุ่งนี้พี่ต้องกลับบ้านแล้ว คงมิได้เห็นหน้าเจ้าเฉกเช่นช่วงเวลาที่ผ่านมา หากเราร้างลาไกลกัน เจ้าจะคิดถึงพี่บ้างหรือไม่” สำนวนลิเกแสนหวานชวนให้รู้สึกเลี่ยน แต่คนได้ฟังกับสุขอยู่ในฤทัย ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไร แต่ตัวตนที่แท้ของตนมิใช่สตรีที่เขาเฝ้าฝันถึง

“หญิงอยากอวดงานฝีมือแล้วค่ะ ไว้เรามาทานของว่างกันทีหลังก็แล้วกันนะคะ” กล่าวจบกัญญ์วราก็ลุกขึ้นเดินนำหน้าแขกตรงไปยังห้องที่เดินจากมาไม่นาน พยายามบังคับระบบการเต้นของหัวใจให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะตอนนี้ราวกับมีใครมารัวกลองอยู่กลางใจ ทั้งๆ ที่พยายามเตือนตัวเองว่าคำดำรินั้นมิได้ส่งถึงตน แต่ก็ยังอดหวั่นไหวไปกับคำหวานเหล่านั้นไม่ได้

งานประดิษฐ์ทุกชิ้นถูกมองข้ามผ่านไปในทันที เมื่อสายพระเนตรสบเข้ากับกรอบรูปขนาด 5 x 7 ซึ่งในกรอบนั้นคือ ผ้าปักภาพเหมือนของใครคนหนึ่ง วงหน้าหวานซึ้ง ดวงตาทอประกายสดใส รอยยิ้มละมุนละไม ตรึงให้ร่างแกร่งหยุดนิ่งคล้ายคนละเมอ พระหัตถ์ใหญ่เคลื่อนไปลูบผ้าพื้นนั้นผ่านบานกระจกใสช้าๆ อย่างทะนุถนอมดุจกับได้สัมผัสแก้มเนียนของเจ้าตัว และท่าทางเช่นนั้นทำให้เจ้าของรูปร้อนวูบวาบราวกับถูกสัมผัสด้วยหัตถ์แข็งแรงนั้นจริงๆ

“หญิงกัญญ์ พี่ขอภาพปักผืนนี้ได้หรือไม่”

“เอ่อ...”

“ให้พี่เถอะนะ เอาไว้มองยามระลึกถึงกัน แม้ตัวจากไกล แต่ใจยังคิดถึง แม้จะมิได้พบสบหน้าเจ้า ได้ตัวแทนของเจ้าไปเก็บไว้กับตัวก็ยังดี” เจ้าชายหนุ่มขอเสียงอ้อน

“แต่ว่า...”

“หวงรึ”

“ไม่ใช่ค่ะ เพียงแต่ผ้าปักรูปเหมือนผืนนี้ หญิงไม่มีแบบสำหรับปักใหม่แล้วค่ะ อีกอย่างมันเป็นงานชิ้นแรกๆ ของหญิงเลยนะคะพี่ชายฟ้า” เจ้าหญิงกัญญ์วราเปรยเสียงอ่อน สีหน้าก็แสดงถึงความเสียดายยิ่งนัก เพราะภาพที่นำไปให้ร้านจัดทำเป็นรหัสสีสำหรับการปักเป็นภาพที่ตนเองชอบที่สุด ซึ่งเป็นรูปเต็มใบหน้า และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ เป็นการผสมผสานระหว่างสองตัวตนให้กลายเป็นหนึ่งเดียวอย่างแท้จริง

“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดีสิ มันจะได้เป็นของที่มีชิ้นเดียวในโลกที่หญิงมอบให้กับพี่ ตกลงยกให้พี่นะ” องค์รัชทายาทแห่งมุราดายังทรงตื้อต่อไปอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ

“แต่ว่า...” ทางด้านเจ้าหญิงแห่งมินธุราก็ยังไม่อยากประทานให้

“แล้วใครกันที่บอกว่า ถ้าพี่โปรดก็จะไม่ขัดใจพี่ไงจ๊ะ” กัญญ์วราหน้าบูดทันทีที่เสียรู้อีกฝ่ายแบบไม่ทันตั้งตัว ส่วนวริทธิ์ธรก็ทำเมินไม่สนใจอาการงอนของหญิงสาวข้างกาย ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องภาพบนพื้นผ้านี้กลับประเทศไปเป็นสมบัติของตนให้ได้

“เอาอย่างนี้แล้วกัน เมื่อพี่เดินทางกลับถึงมุราดา พี่จะส่งของแลกเปลี่ยนกับรูปนี้มาให้หญิง รับรองว่าหญิงต้องชอบแน่ๆ” เจ้าชายหนุ่มเริ่มต่อรอง

“ไม่ว่าอย่างไรพี่ชายฟ้าก็จะนำภาพของหญิงไปให้ได้ใช่ไหมคะ”

“เอาเถอะ ถ้ามันทำให้หญิงลำบากใจ พี่ก็จะไม่ขัดใจหญิง ในเมื่อภาพนี้เป็นภาพสำคัญ พี่ซึ่งเป็นเพียงแค่บุคคลภายนอก ย่อมไม่มีสิทธิ์ยื้อแย่งเอากับเจ้าของอยู่แล้ว วันนี้พี่คงรบกวนเวลาส่วนตัวของหญิงมากเกินไปแล้ว ถ้าเช่นนั้นพี่ขอตัวกลับตำหนักนายธัญญ์ก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้าหญิงไม่มีราชกิจที่ใด รบกวนหญิงส่งพี่เดินทางกลับบ้านด้วยนะ” เจ้าชายวริทธิ์ธรแสร้งทำเป็นยอม เอ่ยลาเจ้าของสถานที่เสียงนุ่ม ปราศจากความรู้สึกขุ่นเคือง แต่ดวงตานี่สิเว้าวอนเป็นที่สุด

ร่างสูงโน้มศีรษะเล็กน้อยเป็นเชิงลา และเป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มปฏิบัติอย่างเป็นทางการเช่นนี้ ทำให้ฝ่ายถูกงอนอึ้ง สมองเบลอ ทำอะไรไม่ถูก ปล่อยให้อีกฝ่ายเดินตรงไปยังประตูทางออกของห้องนั่งเล่น และกว่าจะรู้สึกตัวร่างหนาของใครบางคนก็พ้นบานประตูไปแล้ว นั่นทำให้หญิงสาวผู้สูงศักดิ์วิ่งตามไปอย่างลืมองค์

“พี่ชายฟ้าคะ พี่ชายฟ้า รอหญิงก่อนค่ะ” เสียงเรียกทำให้เจ้าของเบื้องพระขนองแน่นหนักชะงัก แต่ก็ไม่หันกลับไปมองเจ้าของเสียงหวาน สักพักก็ได้ยินเสียงหอบดังข้างๆ จึงเหลือบพระเนตรไปมอง

“จะตามมาค้นตัวพี่หรือว่าแอบหยิบของของหญิงติดมือมาบ้างหรือเปล่า” ด้วยไม่คิดว่าคนตัวใหญ่จะขี้งอนขนาดนี้ คนที่วิ่งตามมาจนหอบก็ค้อนขวับเข้าให้

“พี่ชายฟ้าจะส่งอะไรมาแลกกับรูปของหญิงคะ” แม้ระดับการหายใจเริ่มกลับมาเป็นปกติ หากแต่ใบหน้ายังแดงก่ำเพราะการสูบฉีดของเส้นโลหิต ภาพนั้นทำให้คนแกล้งรู้สึกผิดในบัดดล

“เหนื่อยไหม จะวิ่งตามมาทำไม ดูสิหน้าแดงไปหมดแล้ว” เจ้าชายหนุ่มไม่เพียงแค่ตรัสเท่านั้น หากแต่ยังหยิบผ้าซับพระพักตร์ออกจากกระเป๋าข้างของพระสนับเพลา นำไปซับที่พระนลาฏนูนเนียนของเจ้าเอวบาง

“ก็พี่ชายฟ้าโกรธหญิงนี่คะ”

“พี่ไม่ได้โกรธ แค่น้อยใจเท่านั้น” เจ้าชายต่างแดนแก้ต่าง

“ทำไมต้องน้อยพระทัยด้วยล่ะคะ ในเมื่อเรื่องมันไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย” กัญญ์วราถามอย่างไม่เข้าใจ

“เรื่องของหญิงสำหรับพี่ มันเป็นเรื่องใหญ่เสมอ เพราะหญิงเป็นคนที่อยู่ในนี้” พระหัตถ์หนาตบไปที่พระอุระบริเวณที่มีดวงหทัยดำรงอยู่

“เอ่อ...” เมื่อเจอการเกี้ยวตรงๆ เช่นนี้ เจ้าหญิงแห่งมินธุราก็อ้ำอึ้งไปอีกรอบ

“หญิงจำสัญญาในวัยเยาว์ระหว่างเราได้หรือไม่” เมื่อถูกทวงสัญญาที่ตนไม่ได้ให้ไว้ ชีวาภรในร่างของเจ้าหญิงสูงศักดิ์ก็ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจอย่างแผ่วเบา ด้วยไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงความกลัดกลุ้มของตัวเอง

“เจ้าหญิงกัญญ์วราไม่เคยลืมสัญญาใดๆ ที่ให้กับพระองค์ไว้เพคะ” ชีวาภรตอบอย่างตรงไปตรงมา

“ถ้าเช่นนั้นหญิงก็ยังคงยึดมั่นในสัญญาของเราใช่ไหม” คราวนี้ชีวาภรทำได้เพียงแค่ยิ้มน้อยๆ เพราะรู้ดีว่าคนที่ยึดมั่นในสัญญานั้น ไม่อาจทำตามสัญญาใดๆ ได้อีกแล้ว

“พี่ชายฟ้าบอกหญิงมาดีกว่าค่ะว่าเอาอะไรมาแลกเปลี่ยนกับภาพปักเหมือนของหญิง ต้องสมน้ำสมเนื้อด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นหญิงไม่ยอมด้วย” เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์มันเข้าตัวมากไปกว่านี้ หญิงสาวจึงเลี่ยงเปลี่ยนเรื่องเสีย พร้อมย่นจมูกใส่อีกฝ่ายอย่างขี้เล่น

“เป็นความลับ แต่รับรองว่าสมน้ำสมเนื้ออย่างแน่นอน” วริทธิ์ธรยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดี ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายคงเก้อเขิน เพราะกัญญ์วรามิใช่เด็กน้อยในวัยเยาว์อีกแล้วที่สามารถเปิดเผยความในใจได้โดยไม่ขัดเขิน

“แบบนี้หญิงก็เสียเปรียบสิคะ พี่ชายได้ของถูกใจ ในขณะที่หญิงไม่ทราบเลยว่าของที่ทรงจะประทานให้คือสิ่งใด” เจ้าหญิงผู้งดงามกลับกลายเป็นเจ้าหญิงน้อยผู้แสนงอนอีกครั้ง

“หญิงไม่เชื่อใจพี่หรือจ๊ะ”

“เชื่อก็ได้ค่ะ”

“งั้นก็ถึงเวลาที่พี่จะได้รับของขวัญจากหญิงแล้วสินะ พี่จะนำไปวางไว้ในห้องนอน ในมุมที่พี่จะมองเห็นหญิงตลอดเวลา เช่นเดียวกับหญิงจะเห็นพี่ตลอดเวลาดีไหมจ๊ะ”

“ไม่รู้สิคะ” เพราะไม่อยากถูกเกี้ยวอีกเจ้าหญิงถึงเลี่ยงเดินกลับไปยังห้องนั่งเล่น ลอบถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อในที่สุดเธอก็ใจอ่อนอีกจนได้

หลังจากเสียงานฝีมือสุดหวงให้กับเจ้าชายวริทธิ์ธร มกุฎราชกุมารแห่งมุราดา ไปแล้ว แทนที่ทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่นเป็นปกติ กลับโดนจู่โจมด้วยคำถามที่ไม่คาดคิดมาก่อน สมองอื้ออึง คิดอะไรไม่ออก จึงได้แต่เบี่ยงเบนประเด็นว่าจะให้คำตอบในวันรุ่งขึ้น พร้อมกับส่งเสด็จเจ้าฟ้าแห่งมุราดากลับประเทศ นี่ก็ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่แล้ว เธอก็ยังมิอาจข่มตาให้หลับลงได้ ต้องยอมรับว่าเธอหวั่นใจกับการหาคำตอบให้กับอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าตนควรตอบอย่างไรดีถึงจะดีที่สุด ทำร้ายจิตใจของเราทั้งสองน้อยที่สุด ไม่ว่าในขณะนี้เธอจะถือยศศักดิ์อะไร เธอก็เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่มีหัวใจ มีความรู้สึกนึกคิด ใครบ้างไม่อยากพบกับคนดีๆ ใครบ้างจะไม่หวั่นไหวไปกับการได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี และใครบ้างอยากผิดหวังในความรัก เธอไม่แน่ใจว่าหากพระสหายของมกุฎราชกุมารแห่งมินธุราทราบคำตอบจากเธอแล้ว พระองค์จะทรงรู้สึกเช่นไร จะยังมอบความปรารถนาดีให้กับเธออีกหรือเปล่า หรือจะทอดเนตรมองเธออย่างคนแปลกหน้า หรือมองเธอด้วยสายตาเย็นชา

ยิ่งคิดชีวาภรก็ยิ่งทุกข์ ในที่สุดก็ไม่อาจทนนอนลืมตาโพล่งอยู่บนเตียงได้อีก จึงตัดสินใจเดินออกมารับลมตรงระเบียงด้านข้างห้องนอน

“เจ้าหญิงเพคะ ช่วยประทานคำตอบให้หม่อมฉันได้ไหมเพคะ” หญิงสาวเหม่อมองไปที่ปลายฟ้า ซึ่งเป็นตำแหน่งของดวงดาวที่ส่องแสงสุกสกาวกว่าดาวดวงใด ซึ่งเธอขอสันนิษฐานว่านั้นคือตัวแทนของดวงพระวิญญาณของเจ้าหญิงแห่งมินธุราผู้ล่วงลับ

คำตอบที่เธอได้รับจากดวงดาวก็คือ แสงกระพริบวับวาวมากกว่าเดิม ราวกับว่าคนบนฟ้ากำลังส่งกำลังใจให้กับคนที่หัวใจว้าวุ่นเป็นที่สุด

“พระองค์คงอยากให้หม่อมฉันเดินในเส้นทางของความถูกต้องและความเป็นจริงใช่ไหมเพคะ แต่หากเรื่องราวของเราไม่เป็นความลับอีกแล้ว มันจะส่งผลกระทบกับคนอื่นหรือเปล่าเพคะ” ชีวาภรถอนใจเฮือกใหญ่ อย่างคนตัดสินใจไม่ได้ และเมื่อไม่ได้คำตอบจากคนบนฟ้า หญิงสาวจึงตัดสินใจกลับเข้าไปในห้อง ล้มตัวลงนอน พยายามข่มตาให้หลับ ซึ่งกว่าจะสำเร็จก็เกือบรุ่งสาง



หนึ่งจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ธ.ค. 2555, 08:48:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ธ.ค. 2555, 08:48:23 น.

จำนวนการเข้าชม : 1322





<< บทที่ 5   บทที่ 7 >>
icewinter 22 ธ.ค. 2555, 22:30:25 น.
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไป


Oleang 23 ธ.ค. 2555, 10:32:57 น.


หมูอ้วน 23 ธ.ค. 2555, 14:09:12 น.
เอาใจช่วยนางเอกค่าา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account