เจ้าสาวพันธุ์สืบ
ปลื้ม---สาวเจ้าตัวดีที่มีนิสัย ซื่อ ทื่อ และโกง
ปลาย--น้องชาย ซึ่งกลายเป็นน้องสาวเธอช่างเป็นคนแสนดี
สองพี่น้องเป็นนางสาวสัปเหร่ออันเลื่อชื่อ ที่บรรดาผีผีรุมขอความเป็นธรรมกันเป็นแถวทีเดียว
คิมหันต์---บุรุษหนุ่มมาดเนี้ยบเจ้าของธุรกิจพันล้าน ผุ้มีเบื้องหลัง ต้องมาเป็นเจ้าบ่าวของนางสาวสัปเหร่ออย่างปลื้ม
วสันต์---หนุ่มหล่อซึ่งเป้นผีที่กลัวผีที่สุด และช่างน่าสงสารที่เขาหลงรักนางสาวทื่อ บื้อ อย่างปลื้มได้ลงคอ
เหมันต์---หนุ่มน้องคนสุดท้องที่ไม่ไว้ใจคนในครอบครัว และไม่ไว้ใจพี่สะใภ้ แต่เขากลับมาแอบรัก นาย...สาว ปลาย ซึ่งทุ่มหัวใจไปรักผีน่าสงสารเสียดาย
เรื่องราววุ่นวาย และสุดรักสุดหวงของ นางแก้ว ได้นำมาลงให้อ่านกันแล้วจ้ะ
ปลาย--น้องชาย ซึ่งกลายเป็นน้องสาวเธอช่างเป็นคนแสนดี
สองพี่น้องเป็นนางสาวสัปเหร่ออันเลื่อชื่อ ที่บรรดาผีผีรุมขอความเป็นธรรมกันเป็นแถวทีเดียว
คิมหันต์---บุรุษหนุ่มมาดเนี้ยบเจ้าของธุรกิจพันล้าน ผุ้มีเบื้องหลัง ต้องมาเป็นเจ้าบ่าวของนางสาวสัปเหร่ออย่างปลื้ม
วสันต์---หนุ่มหล่อซึ่งเป้นผีที่กลัวผีที่สุด และช่างน่าสงสารที่เขาหลงรักนางสาวทื่อ บื้อ อย่างปลื้มได้ลงคอ
เหมันต์---หนุ่มน้องคนสุดท้องที่ไม่ไว้ใจคนในครอบครัว และไม่ไว้ใจพี่สะใภ้ แต่เขากลับมาแอบรัก นาย...สาว ปลาย ซึ่งทุ่มหัวใจไปรักผีน่าสงสารเสียดาย
เรื่องราววุ่นวาย และสุดรักสุดหวงของ นางแก้ว ได้นำมาลงให้อ่านกันแล้วจ้ะ
Tags: คน ช่วย ผี
ตอน: น้ำมันกับไฟ
เจ้าสัวเข้าไปใกล้สาวปลื้ม ป้องปากกระซิบบอกราวกับกลัวคนได้ยิน ทั้งที่มีเพียงปลื้มเท่านั้น การใกล้เกินเหตุทำให้ปลื้มอยากถองผีด้วยศอกนักมวยเก่า แต่ไม่อยากเสียกิริยาอีก จึงจำต้องปล่อย
“อาคิมอีมีไฝแลงที่ก้น” ปลื้มหน้าแดงจัดเมื่อได้รับฟังความลับที่ตนไม่คิดว่าอยากรู้เรื่องนี้ “อีติดขวดนมจนถึงอายุเจ็ดขวบ ติดตุ๊กตาลิง ชอบเอาหางมาเขี่ยรูจมูก แล้วก็ดม” มาเรื่องนี้สาวปลื้มอดหัวเราะเบาๆไม่ได้
ปลายไม่สงสัยพี่สาวเพราะเคยชิน แต่แขกผู้มาเยือนต่างเห็นความแปลก คิมหันต์ได้แต่ชายหางตามองดูแคลนต่อสติของสาวสวย น้องสาวอ่านท่าทีของลูกชายเจ้าสัวออกจึงชวนคุยไปทางอื่นว่า
“คุณอาจัดการเรื่องเจ้าสัวเรียบร้อยแล้วหรือยังคะ ผลชันสูจน์เป็นยังไงบ้างคะ”
“เจ้าสัว โดนฆาตกรรม แต่เพราะศพโดนฝังไว้นาน ผ่าพิสูจน์แล้วระบุสาเหตุการตายได้อย่างเดียวว่าถูกฝังทั้งเป็น”
“คนทำช่างใจร้ายเหลือเกินนะคะ”
“คนทำอาจจะมีไฝแดงที่ก้น หรือไม่ก็ติดขวดนมจนอายุเจ็ดขวบ หรือไม่บางทีอาจจติดตุ๊กตาลิง เอต้องเรียกว่าติดกลิ่นก็ได้”
“อะไรนะ”คิมหันต์ตะคอกสาวปลื้มด้วยท่าทางเคร่งเครียด “คุณว่าอะไรนะเมื่อกี้”
ปลื้มแสดงท่าทีไม่รู้ไม่ชี้ ปฏิเสธหน้าตาเฉยว่า
“ก็แค่เดาว่า บางทีเจ้าคนที่ฆ่าเจ้าสัวอาจจะมีพฤติกรรมตอนเด็กชวนฮาก็ได้”
ชายหนุ่มกัดฟันกรอด อดทน อดกลั้นอารมณ์เต็มที่ เพื่อไม่ให้ตอบโต้เข้าตัว แต่เหมันต์เป็นคนปากกับใจตรงกันเขาจึงโพล่งออกมาว่า
“คุณปลื้มพูดเหมือนรู้จักเฮียคิมมาตั้งแต่เด็กเลยนะครับ”
คิมหันต์เหลือบสายตามองมารดาด้วยท่าทีตัดพ้อ เข้าใจว่ามารดาติดต่อกับปลื้ม และบอกเล่าความลับของตนให้ฟัง ส่วนคุณน้ำฝนสงสัยมากว่าปลื้มรู้ได้ยังไง นางไม่เก็บความสงสัยไว้จึงเอ่ยถามออกไปว่า
“หนูปลื้มหมายถึงใครหรือเปล่า ทำไมจึงพูดออกมาอย่างนั้นล่ะ”
“ปลื้มดูคนเก่งนะคะมาม้า”หญิงสาวยังเรียกคุณน้ำฝนตามใจอยากแกล้งคิมหันต์ “ดูออกหมดล่ะว่าตอนนี้ที่บ้านมาม้ากำลังมีเรื่องกินแหนงแคลงใจเรื่องการฆาตกรรม หรือแม้แต่มาม้าเองอาจจะโดนใส่ร้ายว่าเป็นคนลงมือ คนที่ใส่ร้ายหรือหวาดระแวงได้ลงคอช่างใจดำจริงๆ และปลื้มมองออกว่าคนระแวงต้องมีไฝแดงที่ก้น”
“จะบ้าหรือไง ฉัน ฉันจะระแวงแม่ตัวเองไปทำไม”
“ทำไมไม่รู้ แต่ว่า คุณมีไฝแดงด้วยหรือ แหมเพิ่งรู้นะเนี่ย ฮี่” ปลื้มฉีกยิ้มส่งไปด้วยความหมายว่า นายเสร็จฉัน ส่วนคิมหันต์รู้สึกโกรธอย่างบอกไม่ถูก เมื่อโดนใส่ความซึ่งๆหน้า
“เอ” ปลื้มเคาะโต๊ะ ถามลอยๆไปยังเจ้าสัว “ มีอะไรอีกนะ มีอะไรอีก จะได้แก้นิสัยได้”
“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้”
“ฉันไม่ใช่คนตายแบบเจ้าสัวนี่จะได้หยุด คนอะไรไร้ความน่ารักชะมัดเลย”ปลื้มต่อว่าปาวๆ ส่วนปลายอยากปิดหน้าด้วยความอายแทน เพราะพี่สาวคนดี ดันหลุดปากสารภาพรักชายหนุ่มออกไปอย่างไม่ตั้งใจ
คิมหันต์อยากลุกขึ้นแล้วเดินออกจากบ้านที่ทำให้เขาเสียหน้า เสียมากขรึม แต่มารดาของเขาดูเหมือนจะสนใจสาวปลื้มอย่างเห็นได้ชัด ถึงกับถามว่า
“หนูปลื้มดูดวงเป้นด้วยหรือจ๊ะ”
“ดูได้ค่ะมาม้า อย่างมาม้านี่ แต่งงานเพราะความจำเป็น มีลูกคนโตเพราะจำใจ”
“มาม้า ผมจะกลับแล้วนะครับ” คนรักษามาด ออกอาการเอาแต่ใจ สาวปลื้มนึกว่า ถ้าอีกฝ่ายเป็นวิญญาณจะจับถ่วงหม้อแล้วเปิดฝาดูอีกฝ่ายกลิ้งเล่นทกุเวลา
“คุณก็กลับไปสิ อะไรนะ…”ปลื้มย้อนถามเจ้าสัว ซึ่งกระซิบบอกความลับปาวๆ
“อ๋อในห้องนอนของลูกคนดตของมาม้า มีรูปดาราฝรั่งนมโต แต่ที่ชอบที่สุดคือรูปดาราเกาหลีที่แก้ผ้า อะฮ้า ใต้หมอนมีปืน โคก โกคักโทฟี่ ลามกล้อง ห้านิ้วบังจุ เอ๊ย”ปลื้มหยุดฟังและเรียบเรียงสำเนียงเจ้าสัว ใหม่
“ปืนโคลท์ โกลด์คัด บรรจุกระสุนแปดนัด เจ้าสัวเป็นคนซื้อให้ แหมถ้าไม่รู้เรื่องปืนปลื้มขายหน้าแย่”
“คุณคุยกับใคร หรือว่าตู่เป็นม้าทรง” คิมหันต์ไหวระแวง เพราะเรื่องที่สาวปลื้มพูดมานั้นมารดาไม่รู้ แต่ว่าบิดารู้เรื่องดี
“แล้วใช่มั้ยล่ะ มาม้าไม่รู่เรื่องนี้ แล้วคุณจะคิดว่ามาม้ามาบอกเล่าให้ฉันฟังอีกหรือเปล่า สายตาที่ทำร้ายแม่ด้วยความไม่ไว้ใจช่างเป็นลูกอกตัญญูจริงๆ”
“จะมากไปแล้วนะ เรื่องอะไรคุณมาสบประมาทผมถึงขนาดนี้”
“ก็คนหัวสูงอย่างคุณเคยฟังใคร แม้แต่สมบัติ เจ้าสัวยังยกให้นายวสันต์มากกว่า ให้หมอนั่น เอ๊ย คุณวสันต์เป็นผู้จัดการทุกส่วนในทรัพย์สินของพี่น้องทุกคน เพราะว่าเจ้าสัวไว้ใจในความดีของน้องชายคุณมากกว่า”
“หนูปลื้ม หนูรู้จักวสันต์ด้วยหรือ หนูรู้ข่าวของเขามั้ย หนูเป็นร่างทรงจริงๆหรือนี่ ทำไมหนุรู้ทุกเรื่องอย่างนี้”
“ใช่ คุณรู้กระทั่งเตี่ยทำพินัยกรรมให้เฮียว้ามากกว่าคนอื่น เรื่องนี้ไม่มีทางที่ใครจะมาบอกคุณแน่”
“อาจจะเป็นคนจับเตี่ยไปบีบบังคับ ทรมานจนเตี่ยต้องสารภาพออกมาทั้งหมดก็เป็นได้”
“นี่มันข้อหาหมิ่นประมาทชัดๆ”คนจบกฎหมายไม่ยอมง่าย “ลื้อ เอ๊ย คุณมันคนดื้อด้าน ชอบคิดในแง่ลบก่ำอนอื่น เตี่ยคุณถึงไว้ใจเพียงครึ่งเดียว แล้วก็บอกให้รู้เสียก่อนว่า ฉันรู้จักกับเตี่ยคุณหลังจากขุดซาก เอ่อขอโทษค่ะมาม้า ที่ปลื้มใช้วาจา เอ่อ อาแปะ อย่าใช้สำนวนจีนได้มั้ย”ปลื้มเค้นเสียงดุคนบอกเล่า หรือจะเรียกว่าวิญญาณกระซิบก็ได้ แต่ถ้าตามสำนวนเรื่องผีผี จะเรียกว่าพรายกระซิบ
“ปลื้มใช้คำพูดไม่เหมาะสม”
“ไม่ถือเลยสักนิด หนูปลื้ม หนูรู้จริงทุกเรื่อง มาม้าเชื่อว่าหนูไม่มีอะไรเคลือบแฝงเลยสักนิดเดียว แต่มาม้าอยากรู้เรื่องของวสันต์ อยากรู้ว่าเขาเป็นยังไง มาม้าไม่อยากได้รับข่าวร้ายเลย”
ปลื้มนิ่งอึ้งไปทันที ส่วนน้องสาวแตะแขนพี่สาวเป็นเชิงปรามว่า ควรหยุด หาเรื่องคิมหันต์ได้แล้ว ถ้าอยากให้อีกฝ่ายรัก หรือสนใจ ในความคิดของปลายคือ การเรียกร้องความสนใจด้วยความเกลียด จะถูกเกลียดตอบ เธอโดนแกล้งมาตั้งแต่เด็ก และมีพี่สาวคนนี้คอยดูแลให้ความช่วยเหลือมาตลอด บัดนี้ถึงหน้าที่ทำตัวให้มีเสน่ห์จึงต้องห้ามไว้
“คุณวสันต์ยังไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะมาม้า”
“แล้วคุณเอาน้องชายผมไปไว้ที่ไหนล่ะ”
“คืนนี้คุณมาหาที่บ้านปลื้มก็ได้ ใจป่ะล่ะ”ปลื้มออกแนวเกรียนเข้าใส่ คิมหันต์ตอบทันควัน
“อย่าท้านะ ผมสามารถจะนำกำลังตำรวจมาตรวจค้นบ้านของคุณในฐานะผู้ต้องสงสัยได้ทันที”
เจ้าสัวสุดทนต่อลูกตัว และเทใจทางอาลูกซาไภ้ทั้งหมด ความดื้อรั้นของคิมหันต์มิได้ส่องภาพมาให้เจ้าสัวได้รู้ว่าเหมือนตนเอง แต่เจ้าสัวกลับไปโทษว่าสอนไม่รู้จักจำไปปฏิบัติ
และแล้วเจ้าสัวจึงใช้พลังซึ่งพบขึ้นมาใหม่ใช้กับลูกชาย ท่านหวังว่าจะเขกศีรษะลูกชายเป็นการสั่งสอน หากว่า กลับไร้ผล แม้จะลงมือซ้ำนับร้อยทีก็ตาม ท่านแปลกใจ จึงลองทุบกำปั้นไปที่ลูกชายคนเล็ก
ป๊อก
“โอ๊ย ใครเขกหัวผม” เหมันต์อุทาน มองซ้ายขวาเพื่อหาคนร้าย หากว่า ซ้ายคือมารดา ขวาคือพี่ชาย ดังนั้นชายหนุ่มจอมทื่อ จึงไม่อาจกล่าวหาทั้งสองคนผู้ที่เขารักได้
“แกอย่าเพี้ยนตามใครบางคนเลยเหม” คิมหันต์ดุน้องชาย ปลื้มทำยักไหล่ทั้งสองข้างเชิดปากสูงเหมือนปากเป็ดโดนัลดั๊ก
“หนูปลื้ม มาม้าเชื่อนะว่าหนูรู้เรื่องของวสันต์ น้าเชื่อทุกอย่างที่หนูบอกว่า วสันต์ยังสบายดีอยู่”
“เออ…”คนสวยเริ่มรู้สึกผิดกับการที่กล่าวเอาใจอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้เศร้าเกินไปหากรู้ว่าลูกชายตายไปแล้ว ปลายเอ่ยต่อจากพี่สาวเมื่อปลื้มทำท่าไม่สบายใจเสียดื้อ
“พวกเรายังไม่ได้พบคุณวสันต์เราต่างก็มีหวังว่าเขาจะปลอดภัยค่ะคุณอา”
“จริงค่ะจริงด้วยค่ะ”
คิมหันต์เหยียดริมฝีปากดูแคลนไปยังปลื้มย่างจงใจ สาวเจ้าเหลือบมาเห็นพอดีดังนั้นจึงเอ่ยว่า
“หรือถ้าใครบางคนอยากแสดงอำนาจของเงิน ว่ายิ่งใหญ่มากขนาดที่ว่านำเป็นรางวัลมาทลายบ้านสัปเหร่อได้ก็เอา แต่ว่าให้เร่งมือหน่อยนะ ไม่อย่างงั้นปลื้มอาจจะนำหนุ่มหล่อหนีไปซุกในเมรุเสียก่อน”
“มาม้าขอโทษแทนลูกชายของมาม้าด้วยนะปลื้ม คิมหันต์เขาเป็นคนเชื่ออะไรยากอย่างนี้เอง”
“เขาเรียกว่าคนไม่มีเหตุผล หรือคนหัวดื้อ หรือคน”
“ก็อาจจะดีกว่าคนสติเฟื่องทำตัวพิลึกพิลั่น อวดอุตริว่าสื่อสารกับสิ่งที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ คนอย่างนั้นไม่ต่างจากคนบ้าหรอกน่า”
“เดี๋ยวต่อยปากแตก”ปลื้มโพล่ง ออกไปด้วยความฉุนเฉียว
คุณน้ำฝนเห็นชัดว่า ลูกคนโตและปลื้มแสดงความเป็นไม้เบื่อไม้เมาต่อกันเป็นอันมาก ดังนั้นนางจึงไม่อาจอยู่รอปรัชญา หรือไม่อาจแม้จะถามเรื่องที่อยากรู้นั่นคือเรื่องของวสันต์ ดังนั้นนางจึงจำใจต้องกลับ
“มาม้าขอตัวกลับก่อนดีกว่า แต่มาม้าจะมาหาหนูวันหลังนะ ปลื้ม ปลาย”
“ค่ะมาม้า”ปลื้มไม่กระดากปากที่จะเรียกอีกฝ่ายสนิทสนม เพราะนั่นทำให้คิมหันต์เส้นกระตุกได้ทุกที “อย่ามากับคนที่เขาไม่อยากมานะคะมาม้า ปลื้มเสียดายน้ำเก๊กฮวยที่นำมาเสิร์ฟแล้วเขาไม่แม้จะแตะเพราะกลัวถูกใส่ยาเสน่ห์ ให้หลงรักปลื้ม”
“ใส่สิบกิโลก็ไม่ทางที่ผมจะมองคนสติไม่ดีได้หรอกน่า”
แหม่โว้ย เจ็บใจ เจ็บใจ!!
คุณน้ำฝนรีบผุดลุกหันหลังกลับด้วยความไม่พอใจลูกคนโตมากขึ้น ส่วนเหมันต์หันไปยิ้มลาให้สองสาว ด้วยเลือกไม่ถูกเพราะต่างคนต่างมีดี คนหนึ่งหวานและเรียบร้อย ส่วนอีกคนน่ารัก ฉบับแปลกมากทีเดียวเชียว
รถหรูจากไปแล้ว คุณน้ำฝนหันหน้าออกหน้าต่าง ไม่มองลูกชายซึ่งเอ่ยสืบต่อไปว่า
“มาม้าอย่าหลงเชื่อเด็กบ้านั่นเลยครับ โกหก เป็นพวกสิบแปดมงกุฎชัดๆ”
“ตอนแรกมาม้าไม่เชื่อ แต่คิมคงรู้ดีใช่มั้ยเรื่องที่ปลื้มบอกเรื่องปืน”
ชายหนุ่มหน้าถอดสีไปกับเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“ปลื้มคงเป็นม้าทรง” เหมันต์เทใจเชื่อเต็มที่ “ถ้าปลื้มติดต่อกับวิญญาณได้จริง ปลื้มอาจจะติดต่อกับเตี่ยได้ และเตี่ยคงกระซิบบอกปลื้ม แม้แต่เรื่องไฝของเฮีย”
“ผมรับเรื่องนี้ไม่ได้หรอกครับมาม้า เด็กบ้านั่นคงแอบรู้ แอบมีคนมาบอก หรืออาจจะเป็นคนลงมือกับเตี่ย”
“มาม้าเริ่มเชื่อแล้วว่าคิมกระด้างเกินกว่าจะยอมงอลงมาเพื่อรับฟังเหตุผลของคนอื่น”
“คิมไม่อยากให้คุณแม่ติดต่อกับคนพวกนี้ ไม่อยากให้คุณแม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย”
“ใครสงสัยมาม้า มาม้าไม่กลัวสักนิดแต่มาม้ารับไม่ได้ถ้าหนึ่งในนั้นจะเป็นคิม”
คิมหันต์หลบตาไปทางอื่น ไม่กล้ามองมารดาเต็มตา เพราะเหตุผลของพวกพี่สาวส่อเค้ามาที่มารดา จนเขาเขว หากว่าเมื่อตามมารดามาจนถึงบ้าน สาวสติเฟื่องคนนั้นแล้วจึงหมดความเชื่อเรื่องมารดาจะมีส่วนคิดร้ายต่อสามี หากว่า คิมหันต์จำต้องกีดกันไม่ให้มารดาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับ ‘เด็กบ้า’ ในความคิดของเขา
ผู้หญิงอะไร ไม่มีเสน่ห์เอาเสียเลย เถียงคำไม่ตกฟาก คำท้ายยังบอกอยากชกปากเขาเสียอีก ยากเกินรับจริงๆ
“อาคิมอีมีไฝแลงที่ก้น” ปลื้มหน้าแดงจัดเมื่อได้รับฟังความลับที่ตนไม่คิดว่าอยากรู้เรื่องนี้ “อีติดขวดนมจนถึงอายุเจ็ดขวบ ติดตุ๊กตาลิง ชอบเอาหางมาเขี่ยรูจมูก แล้วก็ดม” มาเรื่องนี้สาวปลื้มอดหัวเราะเบาๆไม่ได้
ปลายไม่สงสัยพี่สาวเพราะเคยชิน แต่แขกผู้มาเยือนต่างเห็นความแปลก คิมหันต์ได้แต่ชายหางตามองดูแคลนต่อสติของสาวสวย น้องสาวอ่านท่าทีของลูกชายเจ้าสัวออกจึงชวนคุยไปทางอื่นว่า
“คุณอาจัดการเรื่องเจ้าสัวเรียบร้อยแล้วหรือยังคะ ผลชันสูจน์เป็นยังไงบ้างคะ”
“เจ้าสัว โดนฆาตกรรม แต่เพราะศพโดนฝังไว้นาน ผ่าพิสูจน์แล้วระบุสาเหตุการตายได้อย่างเดียวว่าถูกฝังทั้งเป็น”
“คนทำช่างใจร้ายเหลือเกินนะคะ”
“คนทำอาจจะมีไฝแดงที่ก้น หรือไม่ก็ติดขวดนมจนอายุเจ็ดขวบ หรือไม่บางทีอาจจติดตุ๊กตาลิง เอต้องเรียกว่าติดกลิ่นก็ได้”
“อะไรนะ”คิมหันต์ตะคอกสาวปลื้มด้วยท่าทางเคร่งเครียด “คุณว่าอะไรนะเมื่อกี้”
ปลื้มแสดงท่าทีไม่รู้ไม่ชี้ ปฏิเสธหน้าตาเฉยว่า
“ก็แค่เดาว่า บางทีเจ้าคนที่ฆ่าเจ้าสัวอาจจะมีพฤติกรรมตอนเด็กชวนฮาก็ได้”
ชายหนุ่มกัดฟันกรอด อดทน อดกลั้นอารมณ์เต็มที่ เพื่อไม่ให้ตอบโต้เข้าตัว แต่เหมันต์เป็นคนปากกับใจตรงกันเขาจึงโพล่งออกมาว่า
“คุณปลื้มพูดเหมือนรู้จักเฮียคิมมาตั้งแต่เด็กเลยนะครับ”
คิมหันต์เหลือบสายตามองมารดาด้วยท่าทีตัดพ้อ เข้าใจว่ามารดาติดต่อกับปลื้ม และบอกเล่าความลับของตนให้ฟัง ส่วนคุณน้ำฝนสงสัยมากว่าปลื้มรู้ได้ยังไง นางไม่เก็บความสงสัยไว้จึงเอ่ยถามออกไปว่า
“หนูปลื้มหมายถึงใครหรือเปล่า ทำไมจึงพูดออกมาอย่างนั้นล่ะ”
“ปลื้มดูคนเก่งนะคะมาม้า”หญิงสาวยังเรียกคุณน้ำฝนตามใจอยากแกล้งคิมหันต์ “ดูออกหมดล่ะว่าตอนนี้ที่บ้านมาม้ากำลังมีเรื่องกินแหนงแคลงใจเรื่องการฆาตกรรม หรือแม้แต่มาม้าเองอาจจะโดนใส่ร้ายว่าเป็นคนลงมือ คนที่ใส่ร้ายหรือหวาดระแวงได้ลงคอช่างใจดำจริงๆ และปลื้มมองออกว่าคนระแวงต้องมีไฝแดงที่ก้น”
“จะบ้าหรือไง ฉัน ฉันจะระแวงแม่ตัวเองไปทำไม”
“ทำไมไม่รู้ แต่ว่า คุณมีไฝแดงด้วยหรือ แหมเพิ่งรู้นะเนี่ย ฮี่” ปลื้มฉีกยิ้มส่งไปด้วยความหมายว่า นายเสร็จฉัน ส่วนคิมหันต์รู้สึกโกรธอย่างบอกไม่ถูก เมื่อโดนใส่ความซึ่งๆหน้า
“เอ” ปลื้มเคาะโต๊ะ ถามลอยๆไปยังเจ้าสัว “ มีอะไรอีกนะ มีอะไรอีก จะได้แก้นิสัยได้”
“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้”
“ฉันไม่ใช่คนตายแบบเจ้าสัวนี่จะได้หยุด คนอะไรไร้ความน่ารักชะมัดเลย”ปลื้มต่อว่าปาวๆ ส่วนปลายอยากปิดหน้าด้วยความอายแทน เพราะพี่สาวคนดี ดันหลุดปากสารภาพรักชายหนุ่มออกไปอย่างไม่ตั้งใจ
คิมหันต์อยากลุกขึ้นแล้วเดินออกจากบ้านที่ทำให้เขาเสียหน้า เสียมากขรึม แต่มารดาของเขาดูเหมือนจะสนใจสาวปลื้มอย่างเห็นได้ชัด ถึงกับถามว่า
“หนูปลื้มดูดวงเป้นด้วยหรือจ๊ะ”
“ดูได้ค่ะมาม้า อย่างมาม้านี่ แต่งงานเพราะความจำเป็น มีลูกคนโตเพราะจำใจ”
“มาม้า ผมจะกลับแล้วนะครับ” คนรักษามาด ออกอาการเอาแต่ใจ สาวปลื้มนึกว่า ถ้าอีกฝ่ายเป็นวิญญาณจะจับถ่วงหม้อแล้วเปิดฝาดูอีกฝ่ายกลิ้งเล่นทกุเวลา
“คุณก็กลับไปสิ อะไรนะ…”ปลื้มย้อนถามเจ้าสัว ซึ่งกระซิบบอกความลับปาวๆ
“อ๋อในห้องนอนของลูกคนดตของมาม้า มีรูปดาราฝรั่งนมโต แต่ที่ชอบที่สุดคือรูปดาราเกาหลีที่แก้ผ้า อะฮ้า ใต้หมอนมีปืน โคก โกคักโทฟี่ ลามกล้อง ห้านิ้วบังจุ เอ๊ย”ปลื้มหยุดฟังและเรียบเรียงสำเนียงเจ้าสัว ใหม่
“ปืนโคลท์ โกลด์คัด บรรจุกระสุนแปดนัด เจ้าสัวเป็นคนซื้อให้ แหมถ้าไม่รู้เรื่องปืนปลื้มขายหน้าแย่”
“คุณคุยกับใคร หรือว่าตู่เป็นม้าทรง” คิมหันต์ไหวระแวง เพราะเรื่องที่สาวปลื้มพูดมานั้นมารดาไม่รู้ แต่ว่าบิดารู้เรื่องดี
“แล้วใช่มั้ยล่ะ มาม้าไม่รู่เรื่องนี้ แล้วคุณจะคิดว่ามาม้ามาบอกเล่าให้ฉันฟังอีกหรือเปล่า สายตาที่ทำร้ายแม่ด้วยความไม่ไว้ใจช่างเป็นลูกอกตัญญูจริงๆ”
“จะมากไปแล้วนะ เรื่องอะไรคุณมาสบประมาทผมถึงขนาดนี้”
“ก็คนหัวสูงอย่างคุณเคยฟังใคร แม้แต่สมบัติ เจ้าสัวยังยกให้นายวสันต์มากกว่า ให้หมอนั่น เอ๊ย คุณวสันต์เป็นผู้จัดการทุกส่วนในทรัพย์สินของพี่น้องทุกคน เพราะว่าเจ้าสัวไว้ใจในความดีของน้องชายคุณมากกว่า”
“หนูปลื้ม หนูรู้จักวสันต์ด้วยหรือ หนูรู้ข่าวของเขามั้ย หนูเป็นร่างทรงจริงๆหรือนี่ ทำไมหนุรู้ทุกเรื่องอย่างนี้”
“ใช่ คุณรู้กระทั่งเตี่ยทำพินัยกรรมให้เฮียว้ามากกว่าคนอื่น เรื่องนี้ไม่มีทางที่ใครจะมาบอกคุณแน่”
“อาจจะเป็นคนจับเตี่ยไปบีบบังคับ ทรมานจนเตี่ยต้องสารภาพออกมาทั้งหมดก็เป็นได้”
“นี่มันข้อหาหมิ่นประมาทชัดๆ”คนจบกฎหมายไม่ยอมง่าย “ลื้อ เอ๊ย คุณมันคนดื้อด้าน ชอบคิดในแง่ลบก่ำอนอื่น เตี่ยคุณถึงไว้ใจเพียงครึ่งเดียว แล้วก็บอกให้รู้เสียก่อนว่า ฉันรู้จักกับเตี่ยคุณหลังจากขุดซาก เอ่อขอโทษค่ะมาม้า ที่ปลื้มใช้วาจา เอ่อ อาแปะ อย่าใช้สำนวนจีนได้มั้ย”ปลื้มเค้นเสียงดุคนบอกเล่า หรือจะเรียกว่าวิญญาณกระซิบก็ได้ แต่ถ้าตามสำนวนเรื่องผีผี จะเรียกว่าพรายกระซิบ
“ปลื้มใช้คำพูดไม่เหมาะสม”
“ไม่ถือเลยสักนิด หนูปลื้ม หนูรู้จริงทุกเรื่อง มาม้าเชื่อว่าหนูไม่มีอะไรเคลือบแฝงเลยสักนิดเดียว แต่มาม้าอยากรู้เรื่องของวสันต์ อยากรู้ว่าเขาเป็นยังไง มาม้าไม่อยากได้รับข่าวร้ายเลย”
ปลื้มนิ่งอึ้งไปทันที ส่วนน้องสาวแตะแขนพี่สาวเป็นเชิงปรามว่า ควรหยุด หาเรื่องคิมหันต์ได้แล้ว ถ้าอยากให้อีกฝ่ายรัก หรือสนใจ ในความคิดของปลายคือ การเรียกร้องความสนใจด้วยความเกลียด จะถูกเกลียดตอบ เธอโดนแกล้งมาตั้งแต่เด็ก และมีพี่สาวคนนี้คอยดูแลให้ความช่วยเหลือมาตลอด บัดนี้ถึงหน้าที่ทำตัวให้มีเสน่ห์จึงต้องห้ามไว้
“คุณวสันต์ยังไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะมาม้า”
“แล้วคุณเอาน้องชายผมไปไว้ที่ไหนล่ะ”
“คืนนี้คุณมาหาที่บ้านปลื้มก็ได้ ใจป่ะล่ะ”ปลื้มออกแนวเกรียนเข้าใส่ คิมหันต์ตอบทันควัน
“อย่าท้านะ ผมสามารถจะนำกำลังตำรวจมาตรวจค้นบ้านของคุณในฐานะผู้ต้องสงสัยได้ทันที”
เจ้าสัวสุดทนต่อลูกตัว และเทใจทางอาลูกซาไภ้ทั้งหมด ความดื้อรั้นของคิมหันต์มิได้ส่องภาพมาให้เจ้าสัวได้รู้ว่าเหมือนตนเอง แต่เจ้าสัวกลับไปโทษว่าสอนไม่รู้จักจำไปปฏิบัติ
และแล้วเจ้าสัวจึงใช้พลังซึ่งพบขึ้นมาใหม่ใช้กับลูกชาย ท่านหวังว่าจะเขกศีรษะลูกชายเป็นการสั่งสอน หากว่า กลับไร้ผล แม้จะลงมือซ้ำนับร้อยทีก็ตาม ท่านแปลกใจ จึงลองทุบกำปั้นไปที่ลูกชายคนเล็ก
ป๊อก
“โอ๊ย ใครเขกหัวผม” เหมันต์อุทาน มองซ้ายขวาเพื่อหาคนร้าย หากว่า ซ้ายคือมารดา ขวาคือพี่ชาย ดังนั้นชายหนุ่มจอมทื่อ จึงไม่อาจกล่าวหาทั้งสองคนผู้ที่เขารักได้
“แกอย่าเพี้ยนตามใครบางคนเลยเหม” คิมหันต์ดุน้องชาย ปลื้มทำยักไหล่ทั้งสองข้างเชิดปากสูงเหมือนปากเป็ดโดนัลดั๊ก
“หนูปลื้ม มาม้าเชื่อนะว่าหนูรู้เรื่องของวสันต์ น้าเชื่อทุกอย่างที่หนูบอกว่า วสันต์ยังสบายดีอยู่”
“เออ…”คนสวยเริ่มรู้สึกผิดกับการที่กล่าวเอาใจอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้เศร้าเกินไปหากรู้ว่าลูกชายตายไปแล้ว ปลายเอ่ยต่อจากพี่สาวเมื่อปลื้มทำท่าไม่สบายใจเสียดื้อ
“พวกเรายังไม่ได้พบคุณวสันต์เราต่างก็มีหวังว่าเขาจะปลอดภัยค่ะคุณอา”
“จริงค่ะจริงด้วยค่ะ”
คิมหันต์เหยียดริมฝีปากดูแคลนไปยังปลื้มย่างจงใจ สาวเจ้าเหลือบมาเห็นพอดีดังนั้นจึงเอ่ยว่า
“หรือถ้าใครบางคนอยากแสดงอำนาจของเงิน ว่ายิ่งใหญ่มากขนาดที่ว่านำเป็นรางวัลมาทลายบ้านสัปเหร่อได้ก็เอา แต่ว่าให้เร่งมือหน่อยนะ ไม่อย่างงั้นปลื้มอาจจะนำหนุ่มหล่อหนีไปซุกในเมรุเสียก่อน”
“มาม้าขอโทษแทนลูกชายของมาม้าด้วยนะปลื้ม คิมหันต์เขาเป็นคนเชื่ออะไรยากอย่างนี้เอง”
“เขาเรียกว่าคนไม่มีเหตุผล หรือคนหัวดื้อ หรือคน”
“ก็อาจจะดีกว่าคนสติเฟื่องทำตัวพิลึกพิลั่น อวดอุตริว่าสื่อสารกับสิ่งที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ คนอย่างนั้นไม่ต่างจากคนบ้าหรอกน่า”
“เดี๋ยวต่อยปากแตก”ปลื้มโพล่ง ออกไปด้วยความฉุนเฉียว
คุณน้ำฝนเห็นชัดว่า ลูกคนโตและปลื้มแสดงความเป็นไม้เบื่อไม้เมาต่อกันเป็นอันมาก ดังนั้นนางจึงไม่อาจอยู่รอปรัชญา หรือไม่อาจแม้จะถามเรื่องที่อยากรู้นั่นคือเรื่องของวสันต์ ดังนั้นนางจึงจำใจต้องกลับ
“มาม้าขอตัวกลับก่อนดีกว่า แต่มาม้าจะมาหาหนูวันหลังนะ ปลื้ม ปลาย”
“ค่ะมาม้า”ปลื้มไม่กระดากปากที่จะเรียกอีกฝ่ายสนิทสนม เพราะนั่นทำให้คิมหันต์เส้นกระตุกได้ทุกที “อย่ามากับคนที่เขาไม่อยากมานะคะมาม้า ปลื้มเสียดายน้ำเก๊กฮวยที่นำมาเสิร์ฟแล้วเขาไม่แม้จะแตะเพราะกลัวถูกใส่ยาเสน่ห์ ให้หลงรักปลื้ม”
“ใส่สิบกิโลก็ไม่ทางที่ผมจะมองคนสติไม่ดีได้หรอกน่า”
แหม่โว้ย เจ็บใจ เจ็บใจ!!
คุณน้ำฝนรีบผุดลุกหันหลังกลับด้วยความไม่พอใจลูกคนโตมากขึ้น ส่วนเหมันต์หันไปยิ้มลาให้สองสาว ด้วยเลือกไม่ถูกเพราะต่างคนต่างมีดี คนหนึ่งหวานและเรียบร้อย ส่วนอีกคนน่ารัก ฉบับแปลกมากทีเดียวเชียว
รถหรูจากไปแล้ว คุณน้ำฝนหันหน้าออกหน้าต่าง ไม่มองลูกชายซึ่งเอ่ยสืบต่อไปว่า
“มาม้าอย่าหลงเชื่อเด็กบ้านั่นเลยครับ โกหก เป็นพวกสิบแปดมงกุฎชัดๆ”
“ตอนแรกมาม้าไม่เชื่อ แต่คิมคงรู้ดีใช่มั้ยเรื่องที่ปลื้มบอกเรื่องปืน”
ชายหนุ่มหน้าถอดสีไปกับเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“ปลื้มคงเป็นม้าทรง” เหมันต์เทใจเชื่อเต็มที่ “ถ้าปลื้มติดต่อกับวิญญาณได้จริง ปลื้มอาจจะติดต่อกับเตี่ยได้ และเตี่ยคงกระซิบบอกปลื้ม แม้แต่เรื่องไฝของเฮีย”
“ผมรับเรื่องนี้ไม่ได้หรอกครับมาม้า เด็กบ้านั่นคงแอบรู้ แอบมีคนมาบอก หรืออาจจะเป็นคนลงมือกับเตี่ย”
“มาม้าเริ่มเชื่อแล้วว่าคิมกระด้างเกินกว่าจะยอมงอลงมาเพื่อรับฟังเหตุผลของคนอื่น”
“คิมไม่อยากให้คุณแม่ติดต่อกับคนพวกนี้ ไม่อยากให้คุณแม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย”
“ใครสงสัยมาม้า มาม้าไม่กลัวสักนิดแต่มาม้ารับไม่ได้ถ้าหนึ่งในนั้นจะเป็นคิม”
คิมหันต์หลบตาไปทางอื่น ไม่กล้ามองมารดาเต็มตา เพราะเหตุผลของพวกพี่สาวส่อเค้ามาที่มารดา จนเขาเขว หากว่าเมื่อตามมารดามาจนถึงบ้าน สาวสติเฟื่องคนนั้นแล้วจึงหมดความเชื่อเรื่องมารดาจะมีส่วนคิดร้ายต่อสามี หากว่า คิมหันต์จำต้องกีดกันไม่ให้มารดาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับ ‘เด็กบ้า’ ในความคิดของเขา
ผู้หญิงอะไร ไม่มีเสน่ห์เอาเสียเลย เถียงคำไม่ตกฟาก คำท้ายยังบอกอยากชกปากเขาเสียอีก ยากเกินรับจริงๆ
นางแก้ว เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ธ.ค. 2555, 17:02:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ธ.ค. 2555, 17:02:16 น.
จำนวนการเข้าชม : 1867
| << ปลื้มกะเจ้าสัว | ตอนพิเศษ >> |
Zephyr 24 ธ.ค. 2555, 22:14:43 น.
เฮียคิมไม่น่ารักเลย ทำไมสงสัยแม่ตัวเองละ เด็กนิสัยไม่ดี
เฮียคิมไม่น่ารักเลย ทำไมสงสัยแม่ตัวเองละ เด็กนิสัยไม่ดี
windy2000 25 ธ.ค. 2555, 19:00:03 น.
มันหยดเลยค่ะ รอดูมาตามนัดหรือเปล่าเฮียคิม
มันหยดเลยค่ะ รอดูมาตามนัดหรือเปล่าเฮียคิม
mottanoy 27 ธ.ค. 2555, 07:19:39 น.
:)
:)
Littlewitch 30 ธ.ค. 2555, 00:02:10 น.
สอบถามคะ ว่าเรื่องอื่นๆที่เห็นมีหลายเรื่อง เหลือแค่บางตอนเท่านั้นใช่มั้ยคะ
สอบถามคะ ว่าเรื่องอื่นๆที่เห็นมีหลายเรื่อง เหลือแค่บางตอนเท่านั้นใช่มั้ยคะ