The song of heart...เพลงหัวใจ
“กิดาหยัน” ช่างภาพสาวประจำนิตยสารเลิฟลี่โฮมเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจได้ไม่นาน ก็ต้องมาพบกับเรื่องราวอันแสนน่าเวียนหัวของพี่สาวฝาแฝด “กิดานันท์” ที่ยังคงตัดใจจากอดีตแฟนเก่าอย่าง"โยธิน" ไม่ได้ แถมเจ้าเพื่อนเวร (กิดาหยันเรียกเขาว่าอย่างนั้น) ยังมีชนักติดหลัง พา “กวินภพ” อดีตว่าที่พี่เขยที่แสนจะคุ้มดีคุ้มร้ายเข้ามาเกี่ยวพันกับคนป่วยอย่างกิดาหยันอีก

งานนี้ช่างภาพสาวจะหลุดพ้นจากมลทินที่กวินภพกล่าวหาว่าหล่อนเป็นภรรยาลับได้หรือไม่

**ข้อมูลทั้งหมดในเรื่องเป็นสิ่งที่ผู้เขียนค้นคว้าไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553**
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 5

บทที่ 5


บนโต๊ะมีอาหารมากมาย คนร่วมโต๊ะก็มีใช่น้อย แต่น่าแปลกที่อาหารกลับพร่องน้อยนิด ส่วนมากจะเป็นจักรชัยและกฤษณะที่ตักอาหารเข้าปากสลับกับชวนสองสาวคุยตามประสาคนช่างจ้อ กิดานันท์นั้นเพียงยิ้มๆ เป็นผู้ฟังที่ดีตามเคย ต่างจากกิดาหยันที่เงียบผิดหูไปมาก ได้แต่ชำเลืองมองหัวหน้าทีกฤษณะที

รายหลังนั้นดูสดใสร่าเริงจนหล่อนอดเคืองไม่ได้ พามารมาผจญแล้วยังหน้าระรื่นไม่รู้ตัวอีก จักรชัยนั่นก็อีกคน หลายครั้งที่กิดาหยันแอบเห็นหัวหน้าลอบมองพี่สาวฝาแฝดหูตาแพรวพราวไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย พาบรรยากาศบนโต๊ะอาหารกร่อยๆ คอตีบตันทานอะไรไม่ลง ไม่แปลกที่กิดาหยันจะเป็นฝ่ายลุกจากโต๊ะอาหารมาก่อนใครอาสาเก็บจานชามบนโต๊ะมาล้างในครัว โดยมีกฤษณะตามมาเป็นลูกมือ

“นี่แกยังโกรธฉันอยู่อีกเหรอ เห็นนั่งเงียบไม่พูดไม่จาเลย”

ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย กิดาหยันยังคงทำทีเป็นสนใจล้างจานมากกว่าหันมาคุยเรื่องไร้สาระนั้นก่อนส่งให้ลูกมือเป็นคนเช็ดแห้งเก็บเข้าตู้

หาก ‘ลูกมือ’ ยังคงงอนง้อ ทนไม่ได้ที่เพื่อนเป็นแบบนี้มาตั้งแต่บนโต๊ะอาหารแล้ว “ฉันขอโทษที่พาบก.สุดรังเกียจเดียดฉันท์มาหา แต่ฉันบอกไปแล้วไงว่ามันดวงซวยจริงๆ”

“เลิกพร่ามเสียทีได้มั้ยยัยคิตตี้ ฉันไม่ได้โกรธแกแล้ว”

“ไม่ได้โกรธ ?” กฤษณะร้องเสียงสูง “โกหกหน้าตาเฉยเลยนะยัยหยัน หน้าบึ้งอย่างกับอยากจะกินควายเข้าไปทั้งตัวเนี่ยเหรอที่เรียกว่าไม่โกรธของแก โอเค ฉันรู้ดีว่าบก.มีนิสัยยังไง แต่แกไม่ต้องห่วงกลัวบก.เขาจะแวะเวียนมาตามแจกขนมจีบแกที่นี่ทุกเช้าเย็นหรอกนะยะ นี่มันคอนโดระดับไฮโซ ไม่ใช่ระดับโลโซอย่างอพาร์ทเม้นท์แกที่จะปล่อยให้ใครต่อใครขึ้นมาได้ตามใจชอบ ยามที่นี่เขาเคร่งครัดจะตายคนแปลกหน้าไม่มีทางได้เหยียบหรอก”

กิดาหยันเงียบไปอีกครั้ง ไม่รู้ตัวว่ายิ่งทำให้อีกฝ่ายอึดอัดใจเข้าไปใหญ่

กิดาหยันเป็นคนโทรศัพท์บอกยามข้างล่างเองถึงการมาเยือน ของกฤษณะ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้มายืนให้แม่เพื่อนสาวงอนใส่อยู่ตรงนี้ได้หรอก ฉะนั้นเรื่องที่กิดาหยันไม่รู้ถึงความเข้มงวดของระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่ คงไม่ใช่

ตกลงเจ้าหล่อนเป็นอะไรกันแน่เนี่ย

กิดาหยันโบกปัดไปมาในอากาศราวกับรำคาญเพื่อนเสียเต็มประดา ยัดจานใส่มือเพื่อน ใจจริงอยากยัดใส่ปากมันมากกว่าจะได้ปากไม่ว่าง

“พูดมากนักก็ล้างไปคนเดียวแล้วกัน ฉันเอาชาไปให้นันท์ก่อน ขืนอยู่ต่อได้อยากกินแกเข้าไปทั้งตัวแน่”

คำเปรียบแปร่งหูพิกลนั้นทำให้กฤษณะหน้าบิดเบี้ยวไม่เป็นรูป แต่แล้วพอนึกย้อนไปถึงคำพูดตัวเองเมื่อครู่ได้ก็อ้าปากหวอที่ถูกเพื่อนย้อนเข้าให้ “ต๊าย นี่แกหาว่าฉันเป็นควายเหรอยะ”

กิดาหยันไม่ยอมเอ่ยอะไรกับเพื่อนอีกนอกจากรินชาร้อนๆ ที่ต้มทิ้งไว้ใส่ถ้วยหันหลังให้เพื่อนจะออกจากห้องครัวไป แต่ฝีเท้าต้องชะงักงัน เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่ในห้องครัวเพียงสองคนกับเพื่อน แต่ยังมีบรรณาธิการนิตยสารที่เอ่ยถึงเมื่อครู่ยืนกอดอกอยู่ด้านหลัง ทำเอากิดาหยันเบิกตาโพลงราวเห็นผี !

“บะ...บก.มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”

จักรชัยยักไหล่อย่างไม่ยี่หระในคำพูดของลูกจ้างสาว ยื่นมือมาจะคว้าถ้วยชาจากมือลูกจ้างสาวไปถือไว้แทน “มา ผมเอาไปให้คุณนันท์เอง”

“มะ...ไม่เป็นไรค่ะบก.” กิดาหยันรีบถอยหนี

“โธ่คุณหยัน แค่นี้ผมทำให้ได้” จักรชัยยื้อถ้วยชาจากมือหล่อน แต่กิดาหยันก็จับถ้วยไว้มั่นเช่นกัน ตอนนี้เลยกลายเป็นศึกแย่งถ้วย ยื้อกันไปยื้อกันมา กิดาหยันจึงตัดสินใจกระชากถ้วยให้หลุดจากมืออีกฝ่าย ทันใดนั้นน้ำชาก็กระเฉาะลงเสื้อเชิ้ตราคาแพงของบรรณาธิการอย่างจัง

“ตายแล้วเจ้าหยัน” กฤษณะร้องเสียงหลง วางมือจากจานในอ่างล้างแล้วเพราะกำลังจะเข้ามาห้ามศึกยื้อถ้วยชาเมื่อครู่

กิดาหยันเองพอคว้าถ้วยมาได้ก็ตกใจไม่แพ้กัน คราบสีเหลืองอ่อนของของเหลวร้อนในถ้วยที่กำลังแผ่ขยายวงกว้างมากขึ้นบนหน้าอกเสื้อทำให้ลูกจ้างสาวใจหล่นวูบ ละล่ำละลักเอ่ยขอโทษจักรชัยยกใหญ่ก่อนคว้าผ้าแถวนั้นมาชุบน้ำเช็ดเสื้อให้เขา

แต่แล้วลูกจ้างสาวต้องสะดุ้งเมื่อมือกระด้างนั้นเอื้อมมาเกาะกุมมือหล่อนหน้าตาเฉย

“ไม่เป็นไรคุณหยัน เดี๋ยวผมเช็ดเอง”

จักรชัยทำท่าจะดึงผ้าไปหากยังคงกุมมือสาวเจ้าไว้อย่างนั้น เป็นกิดาหยันที่ชิงดึงมือตัวเองออกมาเสียก่อน แววตาวาววับคู่นั้นทำให้กิดาหยันต้องเสมองไปทางอื่น ไม่นึกว่าจะถูกอีกฝ่ายรุกเร็วเช่นนี้

ผ้าที่เช็ดเสื้อเขาเมื่อครู่อยู่ในมือหัวหน้าแล้วเรียบร้อย กิดาหยันลอบสังเกตเห็นมุมปากหัวหน้าเชิดขึ้นคล้ายยิ้มกระหยิ่มได้ใจ

“ผมเห็นคุณหายไปนานเลยจะมาช่วยน่ะ”

“ที่จริงบก.ไม่ต้องเดือดร้อนก็ได้ค่ะ ฉันกับกฤษช่วยกันสองคนก็ใกล้เสร็จแล้ว...จริงมั้ยกฤษ” ประโยคท้ายกิดาหยันหันไปขอแนวร่วม หากกฤษณะแทนที่จะอยู่ช่วย กลับทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นรีบเผ่นหนีเอาตัวรอดไปหากิดานันท์ในห้องนั่งเล่นเสียดื้อๆ เล่นเอากิดาหยันอ้าปากค้าง

ฝ่ายจักรชัยนั้นไม่ได้สนใจในคำปฏิเสธของลูกจ้างสาว เข้ามาหยุดยืนหน้าอ่างล้างจาน แล้วต้องหัวเราะให้กับจานเขรอะที่ยังวางกองเป็นพะเนินในอ่าง

“นี่เขาเรียกว่าใกล้เสร็จเหรอคุณหยัน มา ผมช่วย” ว่าแล้วจักรชัยก็หยิบจานในอ่างล้างขึ้นมา

แต่กลับถูกกิดาหยันยื้อวางรวมไว้บนตั้งตามเดิม “บก.กลับไปนั่งดูทีวีกับนันท์เถอะค่ะ”

น้ำเสียงที่แข็งกระด้างขึ้นมาพริบตาทำให้บรรณาธิการนิตยสารเงียบไปเหมือนกัน กิดาหยันสบโอกาสนั้นแทรกตัวมายืนแทนที่หัวหน้าหน้าอ่างล้างจาน ขณะที่เขายังคงจับจ้องลูกจ้างสาว จานแต่ละใบถูกล้างและวางพักไว้บนที่คว่ำจานข้างๆ ด้วยฝีมือของหญิงสาวผู้เดียว พอเขาจะยื่นมือมาช่วยอีกครั้งกิดาหยันก็ถอยหนี มิหนำซ้ำยังเปลี่ยนไปเช็ดถูจานให้แห้งแทน

ท่าทางห่างเหินของลูกจ้างสาวมีเหรอนายอย่างเขาจะอ่านไม่ออก

“ดูเหมือนคุณจะรังเกียจผมยังไงก็ไม่รู้นะคุณหยัน”

คำถามตรงๆ นั้นทำให้กิดาหยันชะงักเล็กน้อย ใจอยากรับว่าใช่แต่ก็กลัวจะแรงไปหน่อยจึงเลี่ยงตอบไปว่า “ฉันแค่กลัวบก.จะอึดอัดน่ะค่ะ”

นั่นแหละชายหนุ่มถึงได้ยิ้มออก “ค่อยโล่งอกหน่อยที่ได้ยินคุณพูดแบบนี้ ทีแรกผมนึกว่าคุณจะทำร้ายจิตใจผมเสียแล้ว”

“ก็ไม่เสมอไปค่ะ” ยักไหล่ให้เขา “ฉันขอโทษนะคะที่ไม่ได้ช่วยงานบก.เลย เห็นกฤษบอกว่าที่บริษัทยุ่งมากตั้งแต่ฉันไม่อยู่”

“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ช่วงนี้บริษัทเรากำลังไปได้ดี นิตยสารติดตลาดงานเลยล้นมือตามมาเป็นธรรมดา มีคอลัมน์ใหม่ๆ รอคนเก่งๆ อย่างคุณไปทำเพียบเลยล่ะ”

“แหม...บก.พูดจนฉันอยากกลับไปทำงานเสียเดี๋ยวนี้พรุ่งนี้เลยค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ดีสิคะ ทุกวันนี้ฉันอยู่คอนโด ได้แต่นั่งๆ นอนๆ รู้สึกเหมือนตัวเองไร้ค่าสิ้นดี บก.อยากให้ฉันช่วยอะไรบอกมาได้เลยนะคะ ฉันอยากกลับไปทำงานจะแย่อยู่แล้ว”

“ผมยังให้คุณทำงานตอนนี้ไม่ได้หรอก ลืมไปแล้วรึไงว่าคุณยังไม่หายดี”

ท่าทางกระตือรือร้นขึ้นมาผิดหูผิดตาสร้างความพอใจแก่หัวหน้าไม่น้อย กุมมือนิ่มๆ ทีเผลอตอบ “กลางปีนี้นิตยสารเราต้องไปร่วมงานแถลงข่าวโครงการประกวดภาพถ่ายของบริษัทโฮม แอนด์ การ์เด้น” เขาหมายถึงบริษัทนิตยสารชั้นนำที่เป็นทั้งคู่แข่งทางการค้าและเพื่อนร่วมอาชีพ

“เห็นว่างานนี้ทางบริษัทเขาตั้งใจจะเปิดรับช่างภาพฝีมือดีเข้าบริษัทโดยเฉพาะ ในงานคงมีช่างภาพชื่อดังไปร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินเยอะอยู่ คุณสนใจอยากจะไปดูงานเขารึเปล่า”

กิดาหยันยิ้มแต่มองปราดมายังมือที่ถูกเกาะกุม ไม่ยอมสบแววตาวาววับคู่นั้น ตานี่เผลอไม่ได้จริงๆ ไม่รู้ว่าตอนที่ปล่อยให้อยู่กับพี่สาวทำอะไรรุ่มร่ามไปบ้างเนี่ย

เห็นลูกจ้างสาวไม่ยอมให้แตะเนื้อต้องตัวง่ายๆ หูตาจึงแพรวพราวยิ่งกว่าเก่า

จักรชัยยอมรับว่าดวงหน้าเรียวได้รูปที่รับกับทรงผมสั้นซอยประบ่าของเจ้าหล่อนสวยสะดุดตาเขาตั้งแต่แรกเห็น ยิ่งวันนี้ได้เห็นพี่สาวฝาแฝดระยะใกล้พอๆ กับลูกจ้างสาวตรงหน้ายามนี้ เทียบเคียงกันแล้วเขายิ่งรู้สึกว่ากิดานันท์สวยสู้ลูกจ้างสาวของเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าหญิงผู้พี่กำลังป่วยแต่น่าแปลกที่เขากลับพอใจในความโผงผาง ตรงไปตรงมาของกิดาหยันมากกว่า

“ผมดีใจนะที่คุณสนใจงานนี้” ปล่อยมืออย่างเสียดายแต่ยังมองลูกจ้างสาวไม่วางตา “หวังว่าข่าวดีนี้คงช่วยให้คุณหายโกรธผม เรื่องที่ผมบังคับให้คุณกฤษพาผมมาหาคุณถึงที่นี่ได้บ้างนะ”

เจออีกฝ่ายเอ่ยตรงๆ กลับมาทำเอากิดาหยันตาเหลือก นี่เขาได้ยินเรื่องที่หล่อนพูดกับคิตตี้ด้วยเหรอเนี่ย

“ผมขอโทษแล้วกันถ้าทำให้คุณลำบากใจ แต่ตั้งแต่คุณออกจากโรงพยาบาลมาผมยังไม่ได้มาเยี่ยมคุณเลย”

สีหน้าน้อยใจของบรรณาธิการนิตยสารทำให้ลูกจ้างสาวรู้สึกผิดขึ้นมานิดหน่อย นิดหน่อยเท่านั้น จึงยิ้มซีดตอบอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงว่า “ขอโทษค่ะบก. ที่จริง...ฉันไม่ได้โกรธบก.หรอกนะคะ แต่ฉันแค่ไม่สบายใจเรื่องข้อตกลงของเรานิดหน่อย บก. ...เอ่อ...ยังไม่ได้เผลอบอกนันท์เรื่องที่ฉันเบิกเงินล่วงหน้าจากบริษัทมาใช่มั้ยคะ”

คำถามแปร่งหูนั้นทำให้จักรชัยนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่ริมฝีปากหนาเผยรอยยิ้มให้เห็นอย่างกว้างขวาง “โธ่คุณหยัน นึกว่าเรื่องคอขาดบาดตายอะไร ผมสัญญากับคุณแล้วนี่ครับ”

กิดาหยันถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนหน้าที่หญิงสาวจะตอบรับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ บรรณาธิการรับคำเป็นมั่นเหมาะว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้โดยเฉพาะพี่สาวของหล่อน กิดาหยันนั้นยืมเงินพี่สาวมาเหมือนกันแต่ก็แค่บางส่วนของค่ารักษา ไม่ได้มากพอที่จะรับการผ่าตัดได้หรอก หากหล่อนเกรงใจพี่สาวต่างหากจึงอ้างว่ามีเงินเก็บพอจ่าย

ถ้ากิดานันท์รู้ว่าส่วนที่เหลือหล่อนอาศัยเบิกเงินล่วงหน้าจากบริษัทมามีหวังได้โกรธไปถึงชาติหน้าแน่

ก็ได้แต่หวังว่าจักรชัยจะเก็บความลับนี้ไปได้จนตายนะ ไม่ใช่แค่สัญญาปากเปล่า ที่อาจกลายเป็นลมปากเน่าๆ เมื่อไหร่ก็ได้ !




************




คล้อยหลังบรรณาธิการนิตยสารกลับบริษัทไปแล้ว กิดาหยันพาพี่สาวฝาแฝดเข้าไปนอนในห้องนอนส่วนตัวหล่อนจัดการเอาเสื้อเชิ้ตของจักรชัยไปตากแห้งบนราวที่ระเบียงห้อง

กิดานันท์นั้นพอรู้ถึงความไม่ระวังของน้องสาวก็เทศนากิดาหยันยาวเป็นชุด ก่อนรบเร้าให้จักรชัยถอดเสื้อของเขาออกเปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวที่แขวนทิ้งไว้ในตู้เสื้อผ้าของหล่อน ตอนแรกกิดาหยันแปลกใจอยู่เหมือนกันที่พี่สาวมีเสื้อผ้าผู้ชายอยู่ในห้อง

หากพี่สาวคงรู้ทันถึงชิงอธิบายเสร็จสรรพว่า ‘เป็นเสื้อที่ซื้อมาเก็บไว้เป็นของขวัญวันเกิดให้หัวหน้าแผนกที่โรงพยาบาล’

แม้เหตุผลฟังดูไม่ขึ้นเท่าไหร่แต่ในเมื่อกิดานันท์ยืนยันเช่นนั้นหล่อนจึงขี้เกียจซักไซ้ ถ้าไม่ติดว่าจักรชัยมีประชุมต่อบ่ายนี้หล่อนคงได้ล่อยให้บรรณาธิการเปลือยท่อนบนกลับบริษัทไปแล้ว จะว่าไปกิดาหยันก็เผลอเคลิ้มไปกับแผ่นอกกว้างกับกล้ามแขนพอน่าชมของบรรณาธิการอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เท่ากฤษณะที่มองตาค้าง ถึงขั้นน้ำลายหกถ้าเพื่อนสาวไม่สะกิดเตือนสติ

เสื้อที่ถูกขยี้ซักอย่างไม่ปรานี แขวนบนราวหน้าระเบียงห้อง จดๆ จ้องๆ ผลงานตรงหน้าแล้วยิ้มขันให้กับความคิดพิลึกพิลั่นของตัวเอง ถ้าแกล้งใส่หมามุ่ยเข้าไปในกระเป๋าเสื้อนิดหน่อยบรรณาธิการคงคันคะเยอสมใจไม่น้อย เอ...หรือว่าหามดคันไฟซักสองสามตัวมาวิ่งเล่นบนเสื้อบก.ดีหนอ

ไม่แค่คิดสาวเจ้ายังแวบหายเข้าห้องครัว ก่อนออกมาพร้อมถุงพลาสติกก้มๆ เงยๆ หามดตามต้นไม้ในกระถางแถวนั้น

ด้วยความที่กิดานันท์ปลูกไม้กระถางไว้เต็มระเบียง ตั้งวางบนพื้นบ้างบนขอบระเบียงบ้างตามขนาดต้นไม้ทำให้กิดาหยันมีตัวเลือกเยอะแยะในการหยิบมดใส่ถุง หากทว่า...เสียงฝีเท้าที่ดังมาจากในห้องทำให้กิดาหยันหันขวับ

“อ้าว! หยัน ยังตากเสื้อคุณจักรไม่เสร็จอีกเหรอจ๊ะ”

น้องสาวรีบไขว้มือไว้ด้านหลัง ฉีกยิ้มกว้างถึงใบหู “ฉะ...ฉันนึกว่าเธอหลับไปแล้วเสียอีก”

“แค่เคลิ้มๆ น่ะจ้ะแต่ไม่ยอมหลับ” จะมองเลยผ่านน้องสาวไปแต่กลับรู้สึกตงิดในท่าทางแปลกๆ นั้น “มีอะไรรึเปล่า ทำไมต้องเอามือไว้ข้างหลังด้วยล่ะ”

“ปะ...เปล่านี่” กลัวพี่สาวไม่เชื่อรีบร้องเสียงสูง มือจากที่ไขว้หลังอยู่ดีๆ ควานหาที่กำบังด้านหลังแอบถุงใส่มด

สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกหนามแหลมๆ จากต้นกระบองเพชรทิ่มนิ้ว สัมผัสได้ถึงของแข็งคาดว่าเป็นกระถางต้นไม้นั่นแหละถึงพยายามยัดถุงใส่มดไว้ใต้ก้นกระถาง หลับหูหลับตายัดถุงแอบพี่สาวท่าเดียว หารู้ไม่ว่ากระถางนั้นเกยขึ้นมาจากถาดรองก้นนานแล้ว

แต่แล้วกิดาหยันต้องใจหายวาบ ไม่ทันระวัง กระถางนั้นหลุดมือหล่นจากระเบียง !

“โอ๊ย”

มีเสียงร้องลั่นดังมาจากด้านล่างทำเอากิดาหยันยืนช็อคอยู่สองวิ หล่อนหูฝาดไปรึเปล่าที่ได้ยินเสียงโอยดังลั่นมาจากข้างล่าง

ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ว่าตอนนี้หน้าตัวเองซีดเผือดเหลือสองนิ้ว ทำเอาพี่สาวตกใจจะถลาเข้ามานึกว่าน้องสาวอาการหัวใจกำเริบ แต่เจ้าตัวยกมือห้ามทันควัน “อย่าเข้ามานะนันท์ ! เอ่อ...ฉัน...ฉะนหมายถึงเธออยู่ตรงนั้นแหละ ฉันตากผ้าเสร็จพอดี”

อาการผิดปกตินั้นเริ่มทำให้พี่สาวไม่แน่ใจว่าน้องสาวอาการหัวใจกำเริบหรือเสียสติไปแล้วกันแน่

คนหน้าซีดเผือดยังยิ้มแหยมาให้ “เธอไปนอนดีกว่านะ เดี๋ยวฉันว่าจะดูทีวีเสียหน่อย”

“แต่ว่าฉันไม่ง่วง...” ไม่ฟังเสียงค้าน น้องสาวก็ดุนหลังพี่สาวให้ออกไปให้พ้นจากระเบียง

กิดานันท์เอ่ยอะไรอีกสองสามคำแต่เวลานี้กิดาหยันหูอื้อจนไม่อาจรับรู้สารใดจากพี่สาวทั้งนั้น คล้อยหลังกิดานันท์หายเข้าห้องนอนไป กิดาหยันถึงกับพ่นลมหายใจออกมาดังพรืด

ตั้งสติได้ก็วิ่งกลับมาที่ระเบียง สวดมนต์ภาวนาขอให้กระถางต้นไม้เมื่อครู่แค่เฉี่ยวศีรษะคนด้านล่างไป ก่อนชะโงกมองผ่านระเบียง ด้วยความที่ห้องพักของพี่สาวฝาแฝดอยู่บนชั้นสูงทำให้กิดาหยันเห็นภาพเบื้องล่างไม่เจนตานัก นอกจากศีรษะดำๆ เป็นจุดเล็กวิ่งผ่านไปมาให้วุ่นไปหมด

ก้อนเมฆเบื้องบนที่ลอยปกคลุมทั่วฟ้า ยามนี้จับกลุ่มเป็นก้อนและเริ่มมีฝนตกปรอยๆ

ภาพชุลมุนวุ่นวายเบื้องล่างทำให้กิดาหยันถึงกับหน้าถอดสี บ้าจริง ตาบ้านั่นเอาหัวมารับกระถางทำไมเนี่ย...ไม่น่าแส่หาเรื่องเลยยัยหยันเอ๋ย

เดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง สุดท้ายกิดาหยันตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดรวบรวมความกล้าผลุนผลันออกจากห้องไป ไม่ลืมคว้าร่มที่พิงอยู่ข้างชั้นวางรองเท้าติดมือไปด้วยเพราะน่าจะเป็นประโยชน์ยามฉุกเฉิน ถ้าเกิดตานั่นอาละหวาดทำร้ายร่างกายหล่อนขึ้นมา อย่างน้อยด้ามร่มก็เป็นอาวุธป้องกันตัวหล่อนชั้นยอดเชียวล่ะ

ลงลิฟท์ไม่กี่นาทีก็ถึงชั้นล่าง กิดาหยันพาดร่มไว้บนบ่า จ้ำอ้าวออกมาจากลิฟท์อย่างมาดมั่นแต่แค่เห็นกลุ่มคนที่ชะโงกดูอยู่ปากประตูคอนโด ไกลๆ ความกล้าเมื่อครู่กลับมลายหายพลัน

“ขอโทษนะคะ” กิดาหยันรั้งหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ทำท่าจะตามไปสมทบกับกลุ่มคนด้านนอก “เอ่อ...ขะ...ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”

“ดิฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่ได้ยินเขาว่ากันว่ามีคนโดนกระถางต้นไม้จากชั้นไหนก็ไม่รู้ตกลงมาใส่หัว ฉันกับแฟนก็กำลังจะไปดูอยู่นี่แหละค่ะ ขอตัวนะคะ”

ยิ่งฟังกิดาหยันก็ยิ่งหน้าเสีย ยิ้มแหยขอบคุณสาวแปลกหน้าแต่ยังไม่ทันจะแยกกันดี วงล้อมที่อออยู่ปากประตูกลับแตกฮือ

“ขอทางให้คนเจ็บด้วยครับ”

ยามประจำคอนโดสองคนช่วยกันแบกคนเจ็บที่หมดสติเพราะแรงฟาดตรงเข้ามาในอาคาร กิดาหยันหลีกทางให้เช่นเดียวกับคนอื่นๆ จับจ้องไปที่ผู้เคราะห์ร้ายตาไม่กระพริบแต่แล้วดวงตาเรียวต้องเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน

ในระยะใกล้แทบประชิดเจ้าของใบหน้ามนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ‘คุณภพ’ ของยัยมินนี่นั่นเอง !

รอจนยามวางเขานอนลงบนโซฟายาวต้อนรับแขกใต้อาคารคอนโดเรียบร้อยกิดาหยันถึงค่อยเข้าไปถาม

“คนนี้ใช่คนที่โดนกระถางต้นไม้รึเปล่าคะ”

“ครับ ตอนแรกเขาจะขอเข้ามาในคอนโดแต่ทางเราไม่ให้เข้า พอโดนผมไล่ออกมาเขาก็เคราะห์ร้ายมาโดนอย่างที่เห็นเนี่ยละครับ” ฟังยามสาธยายแล้วใจแป้วตกไปอยู่ที่ตาตุ่มยิ่งกว่าเก่า

ทำเนียนครางรับในลำคอกลบเกลื่อน “แล้วมีใครเรียกรถพยาบาลรึยัง”

“เรียบร้อยแล้วครับ สักพักคงมาถึง”

“งั้นฉันขอไปกับเขาด้วยนะคะ” เห็นหน้าฉงนของอีกฝ่ายจึงรีบหาข้ออ้างจนลิ้นพัน “เอ่อ คือฉันรู้จักเขาน่ะค่ะ สะ...สงสัยเขาคงมาหาฉัน”

“อ๋อ ขอโทษด้วยครับ ผมแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น”

คำขอโทษซื่อๆ นั้นทำให้รู้สึกฝืดคอพิกล อยู่ในภาวะกระอักกระอ่วนจะรับว่าเป็นเจ้าของกระถางก็ใช่ที่ เลยยิ้มเจื่อนปล่อยเลยตามเลย มองคนเจ็บที่นอนสลบไสลไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่บนโซฟา สภาพเขาเปียกปอนเข้าใจว่าคงสลบไปทั้งที่ยังตากฝน ศีรษะที่มีเลือดซึมออกมาและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหลง่ายๆ ทำเอาหญิงสาวหน้าไร้สีหนักกว่าเก่า

************
วันนี้มาอัพก่อนจรลีหนีไปเที่ยวจ้า แล้วเจอกันหลังปีใหม่นะคะทุกคน^___^



สรัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ธ.ค. 2555, 11:14:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ธ.ค. 2555, 11:14:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 1257





<< บทที่ 4   นอกรอบจ้า >>
lovemuay 27 ธ.ค. 2555, 21:33:22 น.
รีบขอโทษพระเอกเค้าด้วยหล่ะ อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หล่ะ แค่นี้พระเอกก็คาดโทษหยันจะแย่แล้ว อิอิ


ใบบัวน่ารัก 27 ธ.ค. 2555, 21:59:53 น.
แม่นนิ ดอนโดอยู่ชั้นไหนอ่ะ เลือดสาดกระจาย



สรัน 27 ธ.ค. 2555, 22:10:12 น.
ใบบัวน่ารัก- รู้สึกจะออกแนวสะใจนะคะ55555
lovemuay- ตอนหน้ารับรองกัด เอ๊ย เถียงกันมันส์ค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account