เล่ห์รักเกมหัวใจ
มีน เขาถูกว่าจ้างให้หักอกเธอ "อลินา" ที่คนว่าจ้างบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงร้ายกาจ
อลินา ถูกว่าจ้างให้ดักหลังผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ อย่าง"มีน" ที่ไม่ยอมสยบให้หญิงใด
เมื่อ แผนถูกซ้อนเป็นชั้นๆเหมือนขนมที่แสนหวาน กับดักที่พันจนวุ่นวาย
หมายเหตุ เรื่องนี้เขียนสดๆ ดังนั้นอาจจะมีเนื้อหาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงภายหลังค่ะ
อลินา ถูกว่าจ้างให้ดักหลังผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ อย่าง"มีน" ที่ไม่ยอมสยบให้หญิงใด
เมื่อ แผนถูกซ้อนเป็นชั้นๆเหมือนขนมที่แสนหวาน กับดักที่พันจนวุ่นวาย
หมายเหตุ เรื่องนี้เขียนสดๆ ดังนั้นอาจจะมีเนื้อหาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงภายหลังค่ะ
Tags: เล่ห์รักเกมหัวใจ คีตา ณิชนิตา
ตอน: บทที่ ๑๘ ปกป้องตัวเอง
บทที่ ๑๘
ปกป้องตัวเอง
เสียงกุกกักด้านข้างเตียงพักฟื้นคนป่วยทำให้ชายหนุ่มเริ่มขยับเปลือกตาช้าๆ ค่อยเปิดมันขึ้น ความรู้สึกเจ็บปวดระบมไปทั่วร่างจนทำให้ต้องครางออกมาเบาๆ ด้วยเสียงครางนี้เองทำให้คนที่กำลังปอกผลไม้ต้องวางอุปกรณ์ลงทันใด
“รู้สึกตัวแล้วเหรอคะ” อลินาถลาเข้ามาดูอาการ สีหน้าของมีนนั้นยังดูมึนงงมากจนอลินาต้องเป็นฝ่ายอธิบายเรื่อง “พี่ถูกคนทำร้ายที่หน้าร้านเมื่อคืนนี้ พอดีพี่พัชเดินลงมาเอาของที่ลืมไว้ในร้านเลยเห็นเหตุการณ์พอดี”
“โชคดีจริง ๆ” เขากล่าวเหมือนพ้อมากกว่าที่จะแสดงความเห็น หญิงสาวส่ายหน้าระอาใจกับสิ่งที่เขาแสดงออกมาเหมือนว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เขาต้องเจอ
“พูดอย่างนี้ได้ยังไงคะ พี่เกือบตายแล้วนะถ้าพี่พัชไม่เห็น แล้วใครกันหรือคะ หรือว่าพี่ไปเหยียบตาปลาใครเขาเข้า” น้ำเสียงเหมือนบ่นสีหน้างอนๆ นั้นยิ่งทำให้มันคลี่ยิ้มได้มากขึ้น
“อืม...คงเป็นอย่างหลังมากกว่า คงเห็นว่าพี่หล่อกว่ามั้ง” เขากล่าวติดตลก สายตาคนเฝ้าไข้ถึงกับค้อนขวับเข้าให้
“ยังจะพูดอีก ตกลงว่าพอรู้ไหมคะว่าใครทำร้ายพี่ เพราะตำรวจเขาก็แปลกใจเห็นว่าตอนในผับก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีใครเขม่นพี่”
มีนนิ่วหน้า ค่อนข้างประหลาดใจกับเรื่องราวที่เธอกล่าวออกมา แสดงว่าอลินาคงรู้ว่าเขาไปกับใครเรียบร้อยแล้ว
“อลิสรู้ใช่ไหมว่าพี่ไปกับใคร”
“รู้ค่ะ”
“ไม่โกรธพี่เหรอ”
“ไม่โกรธค่ะเพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องของอลิสเสียหน่อย พี่อยากไปเที่ยวกับใครก็เรื่องของพี่” เธอว่าทั้งหันหลังให้จะก้าวเดินออกไปแต่มือหน้ารีบคว้าข้อมือเธอไว้ก่อน
“ไม่โกรธแล้วทำไมหันหลังให้ล่ะ จะให้ตูดคุยกับพี่เหรอ” อลินาหันกลับมาแทบทันทีเมื่อเห็นรอยยิ้มยียวนนั้นเธอก็บิดเนื้อตรงแขนของชายหนุ่มทันที
“พูดอะไรกันคะ กวนประสาทเกินไปแล้วนะ”
“อ้าว ก็หันหลังให้เราจะคุยกันรู้เรื่องได้ยังไง อลิสเชื่อพี่เถอะนะ มันไม่มีอะไรหรอกเรื่องระหว่างพี่กับลิษา อีกนิดเดียวมันก็จบแล้ว”
“นี่พี่จะแก้แค้นจริงๆ น่ะเหรอคะ ทำไมพี่ถึงเลือกที่จะทำแบบนั้น ในเมื่อตอนนี้พี่ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว จะเอาตัวเองไปทุกข์ทรมานทำไม” แม้ปากจะต่อว่าชายหนุ่มแต่ในใจอลินานั้นเจ็บเสียเอง ถ้อยคำที่ตัวเองกล่าวมันเหมือนราวว่ากำลังตักเตือนตัวเองไปด้วย
มีนถอนใจยาวมือยังคงกุมมือเธอไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยให้เธอไปไหนได้อีก “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เหมือนความรู้สึกมันยังค้างคาอยู่ในอก มันยังคิดว่า ทำไมโลกนี้ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย คนที่ทำร้ายคนอื่นกลับได้ดีมีหน้ามีตา คนที่ลำบากกลับเป็นคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด”
“เขาคงไม่มีความสุขหรอกค่ะพี่มีน เงินที่ได้มาสร้างหน้าตาตัวเองพอหมดเงินก็หมดอำนาจ หมดศักดิ์ศรีมีแต่คนดูถูก ลองคิดดีๆ นะคะ”
“ว่าแต่อลิสรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”
หญิงสาวยิ้มยักไหล่เหมือนว่าเธอเก่งกาจที่จะรู้ข้อมูลของเขาอย่างไรก็ได้ มีนอดที่จะหัวเราะกับท่าทางแบบนั้นไม่ได้เลยทีเดียว เสียงหัวเราะทำให้แผลกระเทือนจนต้องร้องครวญออกมาอีกครั้ง อลินาหัวเราะทีหลังก่อนจะบ่นให้เสียงเข้ม
ลิษาอ่านข่าวในอินเทอร์เน็ตด้วยสีหน้าค่อนข้างซีดเผือดด้วยความตกใจ ‘มีน วัฒนะ ช่างภาพหนุ่มหล่อเจอคนทำร้ายสาหัสหลังกลับจากเที่ยว’
“เป็นอะไรษา ทำหน้าตาตื่นแบบนั้น” รตีกล่าวถามอย่างอารมณ์ดีเมื่อเดินลงมาถึงห้องอาหาร เห็นบุตรสาวนั่งอ่านอะไรบางอย่างในไอแพด
“คุณแม่ดูสิคะ ข่าวพี่มีนโดนทำร้ายอาการหนัก นี่ทำไมไม่มีใครโทร.มาแจ้งษาเลยละคะ”
“เราเป็นญาติเขาหรือไงถึงอยากให้ใครเขาแจ้ง” น้ำเสียงแข็งขึ้น ทว่าสีหน้าไม่ได้ตื่นเต้นกับเรื่องดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย
“นี่คุณแม่ไม่ได้ตกใจกับเรื่องนี้เลยนะคะ หรือว่า...เป็นคุณแม่เองที่ทำร้ายพี่มีน”
“คุณแม่!!” เสียงรกรีดร้องของลิษาทำให้คนเป็นแม่ถึงกับตวัดตามองที่เธอขึ้นเสียงกับผู้ให้กำเนิด “คุณแม่ทำอย่างนี้ได้ยังไง พี่มีนเป็นแฟนหนูนะคะ”
“แล้วเขาคิดว่าแกเป็นแฟนหรือเปล่าละ ลิษา เลิกหลงผู้ชายคนนี้สักทีสิ เขาไม่ได้เหมาะสมกับลูกเลยนะ”
“มันไม่ได้เกี่ยวว่าเหมาะสมหรอกค่ะ ถ้าเทียบถึงความเหมาะสมหนูต่างหากละที่ไม่เหมาะสมกับเขา พ่อเขาเป็นอดีตเจ้าของบริษัทใหญ่โต แม่ของเขาเป็นถึงลูกสาวผู้ดีเก่าแก่ แล้วหนูละไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อเป็นใครแม่ก็เคยเป็นแค่พนักงานในบริษัทของพ่อพี่มีน สำหรับคุณแม่ก็แค่ไม่ชอบพี่มีน คุณแม่ทำอย่างนี้ได้ยังไงกันคะ คุณแม่ใจร้ายที่สุดเลย”
หญิงม่ายเจ็บปวดที่สุดไม่ใช่เพราะถ้อยคำดูถูกแต่เป็นเพราะคนที่ดูถูกเธอคือ ลูกสาวแท้ๆ มือที่เคยบีบแน่นไม่ให้ทำการใดๆ นั้นกลับตวัดฟาดแรงไปที่ใบหน้าของลิษา
หญิงสาวทั้งตกใจและเจ็บปวดใจที่แม่ลงไม้ลงมือกับเธอ “หนูเกลียดคุณแม่!!””
รตีมองตามร่างบุตรสาวที่วิ่งออกไปจากห้องอาหารด้วยความรู้สึกขัดใจ มีนใช้เสน่ห์เล่ห์กลอะไรที่ทำให้ลิษาหลงได้อย่างหัวปักหัวปำ
หญิงสาวไปเยี่ยมมีนที่โรงพยาบาล ลิษาแปลกใจว่าเธอโทรศัพท์หาเขาหลายครั้งมากตั้งแต่เช้าจนสายแทบเรียกได้ว่ายี่สิบกว่าสายแต่เขาก็ไม่รับเลยสักครั้ง หากนอนหลับเพราะฤทธิ์ยาพอตื่นเขาก็น่าจะเห็นมันบ้างแต่ผ่านไปหลายชั่วโมงก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะติดต่อกลับมาเลยแม้แต่น้อย เธอต้องอาศัยเพื่อนรักที่เป็นนักข่าวซุบซิบช่วยสืบเรื่องให้ถึงได้รู้ว่าเขาอยู่พยาบาลแห่งไหนและห้องอะไร
เมื่อมาถึงหน้าห้องพักฟื้นเธอไม่ได้เคาะเตือนก่อน เปิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ภาพที่เห็นคือชายหนุ่มนอนหลับนิ่งอยู่บนเตียง หน้าผากมีผ้าปิดแผล แม้แต่แขนก็ยังถูกพัน เห็นถึงร่องรอยฟกช้ำมากมาย ดวงตาหญิงสาวอ่อนแสงลงด้วยความเสียใจอย่างที่สุด เธอไม่คิดเลยว่าแม่จะทำเช่นนี้กับคนรักของลูก
มีนลืมตาขึ้นหลังจากที่ได้ยินเสียงประตูห้องเปิด เขาไม่ได้หลับสนิทเพราะคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ภาพตรงหน้าทำให้เขาต้องขยับตัวเพื่อพยุงตัวเองขึ้นนั่ง
“เป็นยังไงบ้างคะพี่มีน เจ็บมากไหม” เธอว่าพร้อมกับเอื้อมมือจะแตะแผลตรงหน้าผาก ชายหนุ่มปัดมือเธอออกไปอย่างเบามือ สีหน้าเริ่มเคร่งขึ้น
“ไม่เป็นไรครับ ยังไม่ตาย”
“ทำไมพูดอย่างนี้ละคะ ษาอุตส่าห์มาเยี่ยมพี่”
“ษาน่าจะรู้ดีนะว่าใครทำเรื่องนี้”
“พี่มีนรู้งั้นเหรอคะ”
“พี่ไม่มีศัตรูที่ไหนนอกจากแม่ของษา แล้วใครล่ะที่จะทำแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เขา” น้ำเสียงปักอกปักใจนั้นทำให้ลิษาอดที่จะรู้สึกผิดลึกเข้าไปอีก
“พี่มีน...ษาขอโทษแทนคุณแม่ด้วยนะคะ ขอโทษจริง ๆ ค่ะ” เธอกล่าวมือบางเอื้อมมากุมมือเขาไว้ มีนยิ้มบางแต่ท่าทีเช่นนี้เหมือนเป็นรอยยิ้มเยาะมากกว่าจะจริงใจ
“ผมไม่ถือโทษท่านหรอกครับ ให้มันแล้วกันไป เพราะผมเองก็ทำไว้เยอะ”
“ขอบคุณค่ะพี่มีนที่เข้าใจ เรื่องคุณแม่ษาจะจัดการเองนะคะไม่ต้องห่วง”
“ไม่ต้องทำอะไรก็ได้ครับ พอแล้ว” ก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกมาอีกเสียงเคาะประตูดังขึ้นเพียงสองสามครั้งก่อนที่มันจะเปิดอ้าออก อลินาเห็นแขกของชายหนุ่มก็ส่งยิ้มให้ มีนรีบดึงมือหญิงสาวข้างๆ ออกไปจากมือของตัวเองแทบทันที
“ใครเหรอคะ”
“ลีน่าเป็นน้องพี่พัชค่ะ ทำงานที่เรดคลับ” อลินาชิงอธิบายก่อนที่ชายหนุ่มจะทำหน้าที่นั้น เขาส่งสายตาเป็นคำถามด้วยความสงสัย อลินาทำให้เขาแปลกใจหลายอย่าง เธอรู้เรื่องแก้แค้นของเขาแต่กลับบอกให้หยุด แล้วยังตอนนี้อีก เธอทำเหมือนใจกว้าง แม้จะเห็นลิษาจับมือเขาอยู่ก็ตาม
“อ๋อ” ลิษาลากเสียงยาว “งั้นมาช่วยดูแลพี่มีนสินะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันเฝ้าต่อให้เองเธอไปทำธุระของเธอได้แล้วล่ะ”
ไม่เชิงเป็นการไล่แต่อลินาพอเข้าใจความหมายของหญิงสาวตรงหน้าดี เธอยิ้มรับก่อนจะเก็บของเข้ากระเป๋า หันมาทางคนป่วย
“งั้นฉันไปทำงานนะคะ แล้วจะมาใหม่ พี่จัดการเรื่องของตัวเองละกันนะคะ” เธอพูดจบก็เดินฉับๆ ออกไป มีนถอนหายใจยาวหันมาจ้องใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางจนสวยสะดุดตาของลิษา เธอยิ้มหวานให้เขาอีกครั้ง ทว่ามีนกลับรู้สึกว่า...เป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าดึงดูดใจเลยแม้แต่น้อย
พัชระจัดการคุยกับตำรวจที่ช่วยดูแลคดีของมีนมาตั้งแต่เช้ากว่าจะได้กลับมาก็สายมาก ประวีย์จึงกลายเป็นงานหนักเพิ่มขึ้นเท่าตัว
เขาไปแจ้งความจำนงแทนเพื่อนรักว่าไม่ต้องการหาตัวคนร้าย เพียงแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ก็พอ เขาพอทราบเรื่องว่าต้นตอของเหตุการณ์นี้คือ การไม่ยอมหยุดตัวเองของมีน
อลินาเล่าให้ฟังเพียงสั้น ๆ ว่าอาจจะเป็นกลุ่มของแม่เลี้ยงของมีน เขาจึงสอบถามไปยังสนต์เพื่อให้ได้ความแน่ใจซึ่งมันก็เป็นไปตามที่คาดคิดไว้ มีนจะกลับไปแก้แค้น...โดยใช้ลิษา เป็นหมากสำหรับเดินเกม มีนถนัดเรื่องการล่อลวงสาว ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำให้ลิษาหลงรัก แต่เรื่องมันคงไม่ง่ายนักหรอกเพราะแม่เลี้ยงของมีนไม่ใช่หญิงม่ายธรรมดา ตอนนี้เธอมีทั้งอำนาจและเงินแต่มีนไม่มีอะไรเลย...
ดวงตาคมเหลือบไปเห็นน้องสาวเปิดประตูร้านเข้ามาพอดีจึงเอ่ยทักขึ้นทันที “มีนเป็นไงบ้างลีน่า”
“ก็ดีขึ้นค่ะ แต่วันนี้คงนอนทั้งวัน...ถ้าได้นอนนะคะ”
“หมอว่ายังไงบ้าง”
“เห็นบอกว่าถ้าตรวจดูไม่มีอะไรผิดปกติพักสองสามวันก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ แล้วทางพี่เป็นไงบ้างคะ”
“ก็เรียบร้อยดี ตำรวจเขาก็คงรู้ว่าเรารู้ว่าเป็นใคร เขาก็ไม่อยากยุ่งมากเหมือนกัน คดีตรงหน้าเค้าเยอะแยะ พี่ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมมีนถึงได้อยากแก้แค้นนัก สุดท้ายตัวเองก็เจ็บเอง”
“เพราะใจมันยังเจ็บมั้งคะ เมื่อไหร่ที่เราเพิกเฉยกับความเจ็บปวดได้ เมื่อนั้นแสดงว่าเราทำใจได้ ไม่แค้น ไม่รู้สึกอะไรอีก”
“แล้วอย่างนี้...เราจะหยุดเขาได้ยังไงกัน”
“เราหยุดเขาไม่ได้หรอกค่ะ เขาต้องหยุดตัวเอง... ไม่ว่าร้อยพันคำพูดหรือเวลาจะนานแค่ไหนแต่สุดท้ายแล้วเราเองที่เป็นคนทำให้มันหายไป แค้นหรือไม่แค้นมันอยู่ที่ตัวเราเองค่ะ”
พัชระจ้องดวงตาใสของน้องสาว เขาพอจะเข้าใจถึงเหตุผลและสิ่งที่เธอหยิบยกขึ้นมากล่าวอ้าง เขาอยากถามเธอเช่นกันว่า...เธอหยุดทุกอย่างหรือยัง ท่าทีนิ่งๆ ของอลินามันทำให้ดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ เขาไม่แปลกใจเลยหากใครบอกว่าเธอมีนิสัยเหมือนเขา...หวังว่าเธอจะเป็นพวกใจอ่อนเหมือนเขาด้วยเช่นกัน
สนต์และชารีนเข้ามาเยี่ยมหลังจากได้ข่าว สีหน้าเป็นห่วงนั้นเจืออยู่ในดวงตาของทั้งคู่ มีนหัวเราะกลบเกลื่อนเพื่อให้เพื่อน ๆ สบายใจ “มองอย่างกับฉันเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเลยนะเว้ย”
“แล้วรู้ใช่ไหมว่าใครทำร้าย” สนต์ถามน้ำเสียงเข้ม ไม่ทันที่มีนจะอ้าปากตอบเขาก็เอ่ยต่อไป “ฉันบอกแกแล้วเรื่องแก้แค้นให้พอเสียที คุณรตีไม่ใช่คนเก่าคนเดิมแล้ว แล้วเป็นไงล่ะ นอนหน้าเขียวตัวช้ำอยู่บนเตียงจนได้”
“เออ ขอบใจนะสนต์ ขอโทษนะชาที่ทำให้ลำบาก”
“แกไม่ต้องเลยมีน เรื่องของแกจะลำบากแค่ไหนกันเชียว เราเป็นเพื่อนกันมานานแล้วนะเว้ย ไม่ว่าร้ายหรือดี แกก็ยังเป็นเพื่อนพวกเราอยู่ดี แล้วแกเองเป็นฝ่ายเดินหนีพวกเราทุกครั้งที่มีปัญหา ต่อไปนี้ห้ามทำแบบนี้อีกแล้วนะ ฉันและชาจะคอยช่วยแกเสมอ”
“ขอบใจนะ” คำขอบคุณนั้นกลั่นมาจากใจจริงๆ เขาตื้นตันแม้มันไม่ใช่คำพูดที่ซาบซึ้งมากมายแต่รู้ว่าเพื่อนตั้งใจที่จะพูดให้กำลังใจ
“แล้วหมอว่ายังไงบ้างมีน” ชารีนเอ่ยถามถึงอาการเจ็บป่วยบ้าง
“วันมะรืนก็ออกไปนอนเล่นที่บ้านได้แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงไกลหัวใจมาก”
“ดูพูดเข้า เรื่องลิษาเธอจะยังทำต่อไปอีกหรือ ปล่อยมันไปเถอะนะ อย่างน้อยก็เห็นแก่ลีน่า อุตส่าห์ได้คืนดีกันแล้วจะปล่อยให้มันเสียเรื่องเพราะความโกรธแค้นเรื่องที่มันแก้ไขไม่ได้อีกแล้วเหรอ ฉันหวั่นใจนะว่าถ้าเธอไม่ยอมหยุดแล้วเผื่อคุณรตีรู้เรื่องลีน่า เป้าจะกลายเป็นลีน่าแทน...เชื่อเพื่อนสักครั้งนะมีน สิ่งที่มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วก็อย่าฝืน ทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า ในเมื่อนายบอกว่ารักลีน่าก็อย่าปล่อยให้โอกาสสูญไปอีกครั้ง”
เป็นครั้งแรกที่ชารีนพูดอะไรยาว ๆ และมีเหตุผลทำให้เพื่อนชายทั้งสองคนต่างประหลาดใจ เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจากเดิมมาก อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกผิดต่อมีน และความรู้สึกที่เพิ่งรับรู้จากสนต์ มันทำให้เธอเติบโตขึ้น
ปกป้องตัวเอง
เสียงกุกกักด้านข้างเตียงพักฟื้นคนป่วยทำให้ชายหนุ่มเริ่มขยับเปลือกตาช้าๆ ค่อยเปิดมันขึ้น ความรู้สึกเจ็บปวดระบมไปทั่วร่างจนทำให้ต้องครางออกมาเบาๆ ด้วยเสียงครางนี้เองทำให้คนที่กำลังปอกผลไม้ต้องวางอุปกรณ์ลงทันใด
“รู้สึกตัวแล้วเหรอคะ” อลินาถลาเข้ามาดูอาการ สีหน้าของมีนนั้นยังดูมึนงงมากจนอลินาต้องเป็นฝ่ายอธิบายเรื่อง “พี่ถูกคนทำร้ายที่หน้าร้านเมื่อคืนนี้ พอดีพี่พัชเดินลงมาเอาของที่ลืมไว้ในร้านเลยเห็นเหตุการณ์พอดี”
“โชคดีจริง ๆ” เขากล่าวเหมือนพ้อมากกว่าที่จะแสดงความเห็น หญิงสาวส่ายหน้าระอาใจกับสิ่งที่เขาแสดงออกมาเหมือนว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เขาต้องเจอ
“พูดอย่างนี้ได้ยังไงคะ พี่เกือบตายแล้วนะถ้าพี่พัชไม่เห็น แล้วใครกันหรือคะ หรือว่าพี่ไปเหยียบตาปลาใครเขาเข้า” น้ำเสียงเหมือนบ่นสีหน้างอนๆ นั้นยิ่งทำให้มันคลี่ยิ้มได้มากขึ้น
“อืม...คงเป็นอย่างหลังมากกว่า คงเห็นว่าพี่หล่อกว่ามั้ง” เขากล่าวติดตลก สายตาคนเฝ้าไข้ถึงกับค้อนขวับเข้าให้
“ยังจะพูดอีก ตกลงว่าพอรู้ไหมคะว่าใครทำร้ายพี่ เพราะตำรวจเขาก็แปลกใจเห็นว่าตอนในผับก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีใครเขม่นพี่”
มีนนิ่วหน้า ค่อนข้างประหลาดใจกับเรื่องราวที่เธอกล่าวออกมา แสดงว่าอลินาคงรู้ว่าเขาไปกับใครเรียบร้อยแล้ว
“อลิสรู้ใช่ไหมว่าพี่ไปกับใคร”
“รู้ค่ะ”
“ไม่โกรธพี่เหรอ”
“ไม่โกรธค่ะเพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องของอลิสเสียหน่อย พี่อยากไปเที่ยวกับใครก็เรื่องของพี่” เธอว่าทั้งหันหลังให้จะก้าวเดินออกไปแต่มือหน้ารีบคว้าข้อมือเธอไว้ก่อน
“ไม่โกรธแล้วทำไมหันหลังให้ล่ะ จะให้ตูดคุยกับพี่เหรอ” อลินาหันกลับมาแทบทันทีเมื่อเห็นรอยยิ้มยียวนนั้นเธอก็บิดเนื้อตรงแขนของชายหนุ่มทันที
“พูดอะไรกันคะ กวนประสาทเกินไปแล้วนะ”
“อ้าว ก็หันหลังให้เราจะคุยกันรู้เรื่องได้ยังไง อลิสเชื่อพี่เถอะนะ มันไม่มีอะไรหรอกเรื่องระหว่างพี่กับลิษา อีกนิดเดียวมันก็จบแล้ว”
“นี่พี่จะแก้แค้นจริงๆ น่ะเหรอคะ ทำไมพี่ถึงเลือกที่จะทำแบบนั้น ในเมื่อตอนนี้พี่ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว จะเอาตัวเองไปทุกข์ทรมานทำไม” แม้ปากจะต่อว่าชายหนุ่มแต่ในใจอลินานั้นเจ็บเสียเอง ถ้อยคำที่ตัวเองกล่าวมันเหมือนราวว่ากำลังตักเตือนตัวเองไปด้วย
มีนถอนใจยาวมือยังคงกุมมือเธอไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยให้เธอไปไหนได้อีก “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เหมือนความรู้สึกมันยังค้างคาอยู่ในอก มันยังคิดว่า ทำไมโลกนี้ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย คนที่ทำร้ายคนอื่นกลับได้ดีมีหน้ามีตา คนที่ลำบากกลับเป็นคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด”
“เขาคงไม่มีความสุขหรอกค่ะพี่มีน เงินที่ได้มาสร้างหน้าตาตัวเองพอหมดเงินก็หมดอำนาจ หมดศักดิ์ศรีมีแต่คนดูถูก ลองคิดดีๆ นะคะ”
“ว่าแต่อลิสรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”
หญิงสาวยิ้มยักไหล่เหมือนว่าเธอเก่งกาจที่จะรู้ข้อมูลของเขาอย่างไรก็ได้ มีนอดที่จะหัวเราะกับท่าทางแบบนั้นไม่ได้เลยทีเดียว เสียงหัวเราะทำให้แผลกระเทือนจนต้องร้องครวญออกมาอีกครั้ง อลินาหัวเราะทีหลังก่อนจะบ่นให้เสียงเข้ม
ลิษาอ่านข่าวในอินเทอร์เน็ตด้วยสีหน้าค่อนข้างซีดเผือดด้วยความตกใจ ‘มีน วัฒนะ ช่างภาพหนุ่มหล่อเจอคนทำร้ายสาหัสหลังกลับจากเที่ยว’
“เป็นอะไรษา ทำหน้าตาตื่นแบบนั้น” รตีกล่าวถามอย่างอารมณ์ดีเมื่อเดินลงมาถึงห้องอาหาร เห็นบุตรสาวนั่งอ่านอะไรบางอย่างในไอแพด
“คุณแม่ดูสิคะ ข่าวพี่มีนโดนทำร้ายอาการหนัก นี่ทำไมไม่มีใครโทร.มาแจ้งษาเลยละคะ”
“เราเป็นญาติเขาหรือไงถึงอยากให้ใครเขาแจ้ง” น้ำเสียงแข็งขึ้น ทว่าสีหน้าไม่ได้ตื่นเต้นกับเรื่องดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย
“นี่คุณแม่ไม่ได้ตกใจกับเรื่องนี้เลยนะคะ หรือว่า...เป็นคุณแม่เองที่ทำร้ายพี่มีน”
“คุณแม่!!” เสียงรกรีดร้องของลิษาทำให้คนเป็นแม่ถึงกับตวัดตามองที่เธอขึ้นเสียงกับผู้ให้กำเนิด “คุณแม่ทำอย่างนี้ได้ยังไง พี่มีนเป็นแฟนหนูนะคะ”
“แล้วเขาคิดว่าแกเป็นแฟนหรือเปล่าละ ลิษา เลิกหลงผู้ชายคนนี้สักทีสิ เขาไม่ได้เหมาะสมกับลูกเลยนะ”
“มันไม่ได้เกี่ยวว่าเหมาะสมหรอกค่ะ ถ้าเทียบถึงความเหมาะสมหนูต่างหากละที่ไม่เหมาะสมกับเขา พ่อเขาเป็นอดีตเจ้าของบริษัทใหญ่โต แม่ของเขาเป็นถึงลูกสาวผู้ดีเก่าแก่ แล้วหนูละไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อเป็นใครแม่ก็เคยเป็นแค่พนักงานในบริษัทของพ่อพี่มีน สำหรับคุณแม่ก็แค่ไม่ชอบพี่มีน คุณแม่ทำอย่างนี้ได้ยังไงกันคะ คุณแม่ใจร้ายที่สุดเลย”
หญิงม่ายเจ็บปวดที่สุดไม่ใช่เพราะถ้อยคำดูถูกแต่เป็นเพราะคนที่ดูถูกเธอคือ ลูกสาวแท้ๆ มือที่เคยบีบแน่นไม่ให้ทำการใดๆ นั้นกลับตวัดฟาดแรงไปที่ใบหน้าของลิษา
หญิงสาวทั้งตกใจและเจ็บปวดใจที่แม่ลงไม้ลงมือกับเธอ “หนูเกลียดคุณแม่!!””
รตีมองตามร่างบุตรสาวที่วิ่งออกไปจากห้องอาหารด้วยความรู้สึกขัดใจ มีนใช้เสน่ห์เล่ห์กลอะไรที่ทำให้ลิษาหลงได้อย่างหัวปักหัวปำ
หญิงสาวไปเยี่ยมมีนที่โรงพยาบาล ลิษาแปลกใจว่าเธอโทรศัพท์หาเขาหลายครั้งมากตั้งแต่เช้าจนสายแทบเรียกได้ว่ายี่สิบกว่าสายแต่เขาก็ไม่รับเลยสักครั้ง หากนอนหลับเพราะฤทธิ์ยาพอตื่นเขาก็น่าจะเห็นมันบ้างแต่ผ่านไปหลายชั่วโมงก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะติดต่อกลับมาเลยแม้แต่น้อย เธอต้องอาศัยเพื่อนรักที่เป็นนักข่าวซุบซิบช่วยสืบเรื่องให้ถึงได้รู้ว่าเขาอยู่พยาบาลแห่งไหนและห้องอะไร
เมื่อมาถึงหน้าห้องพักฟื้นเธอไม่ได้เคาะเตือนก่อน เปิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ภาพที่เห็นคือชายหนุ่มนอนหลับนิ่งอยู่บนเตียง หน้าผากมีผ้าปิดแผล แม้แต่แขนก็ยังถูกพัน เห็นถึงร่องรอยฟกช้ำมากมาย ดวงตาหญิงสาวอ่อนแสงลงด้วยความเสียใจอย่างที่สุด เธอไม่คิดเลยว่าแม่จะทำเช่นนี้กับคนรักของลูก
มีนลืมตาขึ้นหลังจากที่ได้ยินเสียงประตูห้องเปิด เขาไม่ได้หลับสนิทเพราะคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ภาพตรงหน้าทำให้เขาต้องขยับตัวเพื่อพยุงตัวเองขึ้นนั่ง
“เป็นยังไงบ้างคะพี่มีน เจ็บมากไหม” เธอว่าพร้อมกับเอื้อมมือจะแตะแผลตรงหน้าผาก ชายหนุ่มปัดมือเธอออกไปอย่างเบามือ สีหน้าเริ่มเคร่งขึ้น
“ไม่เป็นไรครับ ยังไม่ตาย”
“ทำไมพูดอย่างนี้ละคะ ษาอุตส่าห์มาเยี่ยมพี่”
“ษาน่าจะรู้ดีนะว่าใครทำเรื่องนี้”
“พี่มีนรู้งั้นเหรอคะ”
“พี่ไม่มีศัตรูที่ไหนนอกจากแม่ของษา แล้วใครล่ะที่จะทำแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เขา” น้ำเสียงปักอกปักใจนั้นทำให้ลิษาอดที่จะรู้สึกผิดลึกเข้าไปอีก
“พี่มีน...ษาขอโทษแทนคุณแม่ด้วยนะคะ ขอโทษจริง ๆ ค่ะ” เธอกล่าวมือบางเอื้อมมากุมมือเขาไว้ มีนยิ้มบางแต่ท่าทีเช่นนี้เหมือนเป็นรอยยิ้มเยาะมากกว่าจะจริงใจ
“ผมไม่ถือโทษท่านหรอกครับ ให้มันแล้วกันไป เพราะผมเองก็ทำไว้เยอะ”
“ขอบคุณค่ะพี่มีนที่เข้าใจ เรื่องคุณแม่ษาจะจัดการเองนะคะไม่ต้องห่วง”
“ไม่ต้องทำอะไรก็ได้ครับ พอแล้ว” ก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกมาอีกเสียงเคาะประตูดังขึ้นเพียงสองสามครั้งก่อนที่มันจะเปิดอ้าออก อลินาเห็นแขกของชายหนุ่มก็ส่งยิ้มให้ มีนรีบดึงมือหญิงสาวข้างๆ ออกไปจากมือของตัวเองแทบทันที
“ใครเหรอคะ”
“ลีน่าเป็นน้องพี่พัชค่ะ ทำงานที่เรดคลับ” อลินาชิงอธิบายก่อนที่ชายหนุ่มจะทำหน้าที่นั้น เขาส่งสายตาเป็นคำถามด้วยความสงสัย อลินาทำให้เขาแปลกใจหลายอย่าง เธอรู้เรื่องแก้แค้นของเขาแต่กลับบอกให้หยุด แล้วยังตอนนี้อีก เธอทำเหมือนใจกว้าง แม้จะเห็นลิษาจับมือเขาอยู่ก็ตาม
“อ๋อ” ลิษาลากเสียงยาว “งั้นมาช่วยดูแลพี่มีนสินะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันเฝ้าต่อให้เองเธอไปทำธุระของเธอได้แล้วล่ะ”
ไม่เชิงเป็นการไล่แต่อลินาพอเข้าใจความหมายของหญิงสาวตรงหน้าดี เธอยิ้มรับก่อนจะเก็บของเข้ากระเป๋า หันมาทางคนป่วย
“งั้นฉันไปทำงานนะคะ แล้วจะมาใหม่ พี่จัดการเรื่องของตัวเองละกันนะคะ” เธอพูดจบก็เดินฉับๆ ออกไป มีนถอนหายใจยาวหันมาจ้องใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางจนสวยสะดุดตาของลิษา เธอยิ้มหวานให้เขาอีกครั้ง ทว่ามีนกลับรู้สึกว่า...เป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าดึงดูดใจเลยแม้แต่น้อย
พัชระจัดการคุยกับตำรวจที่ช่วยดูแลคดีของมีนมาตั้งแต่เช้ากว่าจะได้กลับมาก็สายมาก ประวีย์จึงกลายเป็นงานหนักเพิ่มขึ้นเท่าตัว
เขาไปแจ้งความจำนงแทนเพื่อนรักว่าไม่ต้องการหาตัวคนร้าย เพียงแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ก็พอ เขาพอทราบเรื่องว่าต้นตอของเหตุการณ์นี้คือ การไม่ยอมหยุดตัวเองของมีน
อลินาเล่าให้ฟังเพียงสั้น ๆ ว่าอาจจะเป็นกลุ่มของแม่เลี้ยงของมีน เขาจึงสอบถามไปยังสนต์เพื่อให้ได้ความแน่ใจซึ่งมันก็เป็นไปตามที่คาดคิดไว้ มีนจะกลับไปแก้แค้น...โดยใช้ลิษา เป็นหมากสำหรับเดินเกม มีนถนัดเรื่องการล่อลวงสาว ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำให้ลิษาหลงรัก แต่เรื่องมันคงไม่ง่ายนักหรอกเพราะแม่เลี้ยงของมีนไม่ใช่หญิงม่ายธรรมดา ตอนนี้เธอมีทั้งอำนาจและเงินแต่มีนไม่มีอะไรเลย...
ดวงตาคมเหลือบไปเห็นน้องสาวเปิดประตูร้านเข้ามาพอดีจึงเอ่ยทักขึ้นทันที “มีนเป็นไงบ้างลีน่า”
“ก็ดีขึ้นค่ะ แต่วันนี้คงนอนทั้งวัน...ถ้าได้นอนนะคะ”
“หมอว่ายังไงบ้าง”
“เห็นบอกว่าถ้าตรวจดูไม่มีอะไรผิดปกติพักสองสามวันก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ แล้วทางพี่เป็นไงบ้างคะ”
“ก็เรียบร้อยดี ตำรวจเขาก็คงรู้ว่าเรารู้ว่าเป็นใคร เขาก็ไม่อยากยุ่งมากเหมือนกัน คดีตรงหน้าเค้าเยอะแยะ พี่ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมมีนถึงได้อยากแก้แค้นนัก สุดท้ายตัวเองก็เจ็บเอง”
“เพราะใจมันยังเจ็บมั้งคะ เมื่อไหร่ที่เราเพิกเฉยกับความเจ็บปวดได้ เมื่อนั้นแสดงว่าเราทำใจได้ ไม่แค้น ไม่รู้สึกอะไรอีก”
“แล้วอย่างนี้...เราจะหยุดเขาได้ยังไงกัน”
“เราหยุดเขาไม่ได้หรอกค่ะ เขาต้องหยุดตัวเอง... ไม่ว่าร้อยพันคำพูดหรือเวลาจะนานแค่ไหนแต่สุดท้ายแล้วเราเองที่เป็นคนทำให้มันหายไป แค้นหรือไม่แค้นมันอยู่ที่ตัวเราเองค่ะ”
พัชระจ้องดวงตาใสของน้องสาว เขาพอจะเข้าใจถึงเหตุผลและสิ่งที่เธอหยิบยกขึ้นมากล่าวอ้าง เขาอยากถามเธอเช่นกันว่า...เธอหยุดทุกอย่างหรือยัง ท่าทีนิ่งๆ ของอลินามันทำให้ดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ เขาไม่แปลกใจเลยหากใครบอกว่าเธอมีนิสัยเหมือนเขา...หวังว่าเธอจะเป็นพวกใจอ่อนเหมือนเขาด้วยเช่นกัน
สนต์และชารีนเข้ามาเยี่ยมหลังจากได้ข่าว สีหน้าเป็นห่วงนั้นเจืออยู่ในดวงตาของทั้งคู่ มีนหัวเราะกลบเกลื่อนเพื่อให้เพื่อน ๆ สบายใจ “มองอย่างกับฉันเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเลยนะเว้ย”
“แล้วรู้ใช่ไหมว่าใครทำร้าย” สนต์ถามน้ำเสียงเข้ม ไม่ทันที่มีนจะอ้าปากตอบเขาก็เอ่ยต่อไป “ฉันบอกแกแล้วเรื่องแก้แค้นให้พอเสียที คุณรตีไม่ใช่คนเก่าคนเดิมแล้ว แล้วเป็นไงล่ะ นอนหน้าเขียวตัวช้ำอยู่บนเตียงจนได้”
“เออ ขอบใจนะสนต์ ขอโทษนะชาที่ทำให้ลำบาก”
“แกไม่ต้องเลยมีน เรื่องของแกจะลำบากแค่ไหนกันเชียว เราเป็นเพื่อนกันมานานแล้วนะเว้ย ไม่ว่าร้ายหรือดี แกก็ยังเป็นเพื่อนพวกเราอยู่ดี แล้วแกเองเป็นฝ่ายเดินหนีพวกเราทุกครั้งที่มีปัญหา ต่อไปนี้ห้ามทำแบบนี้อีกแล้วนะ ฉันและชาจะคอยช่วยแกเสมอ”
“ขอบใจนะ” คำขอบคุณนั้นกลั่นมาจากใจจริงๆ เขาตื้นตันแม้มันไม่ใช่คำพูดที่ซาบซึ้งมากมายแต่รู้ว่าเพื่อนตั้งใจที่จะพูดให้กำลังใจ
“แล้วหมอว่ายังไงบ้างมีน” ชารีนเอ่ยถามถึงอาการเจ็บป่วยบ้าง
“วันมะรืนก็ออกไปนอนเล่นที่บ้านได้แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงไกลหัวใจมาก”
“ดูพูดเข้า เรื่องลิษาเธอจะยังทำต่อไปอีกหรือ ปล่อยมันไปเถอะนะ อย่างน้อยก็เห็นแก่ลีน่า อุตส่าห์ได้คืนดีกันแล้วจะปล่อยให้มันเสียเรื่องเพราะความโกรธแค้นเรื่องที่มันแก้ไขไม่ได้อีกแล้วเหรอ ฉันหวั่นใจนะว่าถ้าเธอไม่ยอมหยุดแล้วเผื่อคุณรตีรู้เรื่องลีน่า เป้าจะกลายเป็นลีน่าแทน...เชื่อเพื่อนสักครั้งนะมีน สิ่งที่มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วก็อย่าฝืน ทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า ในเมื่อนายบอกว่ารักลีน่าก็อย่าปล่อยให้โอกาสสูญไปอีกครั้ง”
เป็นครั้งแรกที่ชารีนพูดอะไรยาว ๆ และมีเหตุผลทำให้เพื่อนชายทั้งสองคนต่างประหลาดใจ เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจากเดิมมาก อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกผิดต่อมีน และความรู้สึกที่เพิ่งรับรู้จากสนต์ มันทำให้เธอเติบโตขึ้น
ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ธ.ค. 2555, 10:15:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ธ.ค. 2555, 10:15:04 น.
จำนวนการเข้าชม : 1600
<< บทที่ ๑๗ การต่อสู้ของเกมร้าย | บทที่ ๑๙ เธอเจ็บฉันเจ็บ >> |
nutcha 28 ธ.ค. 2555, 19:37:52 น.
ขอให้มีนเชื่อชาลีนเถอะ ไม่งั้ืนอลิสติดร่างแหด้วยแน่ ๆ
ขอให้มีนเชื่อชาลีนเถอะ ไม่งั้ืนอลิสติดร่างแหด้วยแน่ ๆ