รักเล่ห์ เสน่ห์ร้าย
เมื่อสาวโสดแสนสวยอยากสละคาน มาพบกับคุณหมอหนุ่มรูปงามแสนจะเคร่งขรึม เรื่องรั่วๆ ที่มีแต่เสียงหัวเราะก็เกิดขึ้น เพราะเธออยากจะจับคุณหมอมาทำสามีจนตัวสั่นตัวคลอน!!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 1. เออชะรอยเราเป็นเนื้อคู่


“ขอบคุณมากครับ แต่ผมคงต้องรีบกลับก่อน” หนุ่มหล่อบอกปัดอย่างสุภาพ เพียงเพราะไม่อยากขึ้นบ้านหญิงสาวให้เป็นที่ติฉินนินทาตั้งแต่ยังไม่เริ่มเข้ามาอยู่

แต่อีกฝ่ายกลับไม่เป็นอย่างนั้น อยากเหลือเกินที่จะตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน ได้กลายเป็นข่าวใหญ่คับซอยเลยยิ่งดี ประโคมเข้ามาไม่ต้องยั้งจะได้รู้ให้ทั่วไปเลยว่าหนุ่มน้อยผู้นี้มีคน ‘จอง’ แล้ว!

“แต่ยังไงตังก็รู้สึกติดหนี้คุณอยู่นะคะ เอาเป็นว่าแค่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ได้ พอดีตังมีเสื้อผ้าของพ่อติดตู้เอาไว้อยู่ ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะหรือว่าคุณไม่สะดวกใจคะหมอชิน” สิตางศุ์ไม่ยอมแพ้ อุตส่าห์เจอผู้ชายในสเป๊กทั้งที ทั้งสูง ล่ำ หล่อ แมน แฮนซั่ม แถมยังเป็นสัตวแพทย์หน้าที่การงานดีเลิศ ถ้าปล่อยให้ผ่านเลยไปโดยไม่ทำอะไรก็คงจะไม่ใช่ สิตางศุ์ ราชโยธิน เสียแล้ว!

คชินทร์มองดวงหน้าหวานอย่างชั่งใจ ไม่ว่าเขาจะหาข้ออ้างอย่างไรก็ถูกเธอเกทับได้หมดทุกข้อ จนในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ตอบรับข้อเสนอของเธออย่างไม่มีทางเลือก

“เอาไว้ถ้าผมได้ย้ายเข้ามาอยู่เมื่อไหร่ ผมจะเอาเสื้อผ้าของพ่อคุณมาคืนก็แล้วกันครับ”

ได้ยินเพียงเท่านี้หญิงสาวก็ลอบยิ้มขึ้นมาอย่างถูกใจ พลางส่งสายตาหวานหยดย้อยไปให้อีกฝ่ายที่ตีหน้าขรึมอยู่

“งั้นก็รีบไปกันเถอะค่ะ เจ้าใบ้หนาวจนตัวสั่นแล้ว” แล้วคนอุ้มหมาตัวน้อยที่เปียกปอนไว้ในอ้อมแขนก็เดินนำร่างสูงของคุณหมอคชินทร์ไปยังสวรรค์บนดินที่เธอภูมิอกภูมิใจหนักหนาเพื่อทำมิดีมิร้าย เอ๊ย! เปลี่ยนเสื้อผ้าต่อไป



ภายในบ้านที่มีเพียงแสงจากเทียนไขให้ความสว่างแทนหลอดนีออนที่ดับไป กลับกลายเป็นการดีเมื่อต้องอยู่กับผู้ชายหล่อเริ่ดสองต่อสอง จากที่เคยนึกก่นด่าเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรอยู่หลัดๆ ก็กลายเป็นปลื้มอกปลื้มใจที่ช่างมาดับได้ถูกวันเสียจริง

“ไฟดับ?” คชินทร์ที่ยืนคว้างอยู่กลางบ้านอุทานด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นว่าบ้านทั้งหลังมีเพียงแสงสลัวจากเทียนไขที่วางตามจุดต่างๆ ของบ้านแทนการเปิดจากหลอดนีออนเหมือนบ้านหลังอื่นๆ

“ใช่ค่ะ ตังเพิ่งไปบอกให้เขามาซ่อมก่อนเจอหมอชินเอง คืนนี้คงต้องทนอยู่มืดๆ ไปก่อนแล้วล่ะค่ะ เพราะกว่าช่างจะมาซ่อมให้ก็เป็นวันพรุ่งนี้ แต่ดับแค่ไฟนะคะน้ำยังไหล ยังไงหมอชินก็อาบน้ำก่อนได้เลยเดี๋ยวตังจะเอาเสื้อผ้าของคุณพ่อลงมาให้” หญิงสาวเดินมาพร้อมเทียนไขในมือ ก่อนจะยื่นมันไปให้หนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ยืนอวดกล้ามสวยผ่านเสื้อบางเบาอยู่กลางห้องรับแขก

“ขอบคุณครับ” พลางยื่นมือออกไปรับเทียนไขมาไว้ในมือ พร้อมกับเดินหายเข้าไปในห้องน้ำรับแขกด้านล่าง

สิตางศุ์มองแผ่นหลังกว้างที่ลับตาไปอย่างปลาบปลื้ม เด็กอาไร้...หล่อกระชากใจชะมัด! สงสัยกว่าจะได้หัวใจพ่อหนุ่มน้อยผู้นี้มาครอบครอง เธอคงต้องเนียนแอ๊บแบ๊วไปอีกนาน

“งึดๆๆๆ” เสียงครางเบาๆ ของเจ้าใบ้ในอ้อมแขนฉุดความคิดอันเตลิดเปิดเปิงของเธอให้กลับคืนร่างอีกครั้ง สิตางศุ์รีบอุ้มเจ้าแสนซนวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างเร็วจี๋ เพราะกลัวว่าเจ้าตัวน้อยจะเจ็บไข้ได้ป่วยไปเสียก่อน



ไม่นานนักร่างสูงใหญ่ในเสื้อโปโลสีขาวกับกางเกงวอร์มสีกรมท่าก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกสะอาดตัวกว่าเมื่อตอนเปียกโชกอยู่มาก สายตาคมกริบกวาดมองบริเวณบ้านอย่างสนอกสนใจ สไตล์การแต่งบ้านของผู้หญิงคนนี้จัดได้ว่ามีฝีมือทีเดียว ตัวบ้านทาสีขาวสะอาดตาทุกห้อง แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นก็ยังเป็นสีขาว แต่ที่เด่นที่สุดก็คงจะเป็นโซฟาดีไซน์เก๋สีแดงที่จัดวางไว้ตรงข้ามกับทีวีขนาดห้าสิบนิ้ว พรมสีครีมปูทับพื้นไม้ลามิเนตสีน้ำตาลอ่อนนั้นขับให้มุมพักผ่อนตรงโซฟาดูไม่จัดจ้านมากเกินไปนัก แถมยังมีแสงเทียนนับสิบดวงขับให้บรรยากาศดูอบอุ่นแปลกตาขึ้นไปอีก รวมๆ แล้วถือว่าเจ้าของบ้านมี ‘เทส’ น่าดูชม

คชินทร์เดินชมรอบบ้านไปเรื่อยๆ เพราะต้องเก็บรายละเอียดเผื่อได้ไอเดียกลับไปแต่งบ้านของเขาเองที่กำลังจะย้ายเข้ามาอยู่ในอีกสามวันข้างหน้าบ้าง บ้านที่เขาซื้อเอาไว้อยู่ไม่ไกลจากบ้านของหญิงสาวเท่าไหร่นัก มันอยู่ถัดจากซอยนี้ไปแค่อีกซอยเดียวเท่านั้น ฉะนั้นสิตางศุ์ก็คงจะเรียกว่าเป็นเพื่อนบ้านคนแรกของเขาได้กระมัง

พลันสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ใบสมัครสมาชิกนิตยสารรายปีฉบับหนึ่งที่วางหราอยู่บนโต๊ะรับแขกสีขาว ชายหนุ่มไล่สายตาไปมองเล็กน้อยก็ต้องสะดุดอยู่ตรงช่องข้อมูลสมาชิกที่เจ้าของบ้านกรอกทิ้งไว้

น.ส.ศิตางศุ์ ราชโยธิน อายุ 31 ปี ฯลฯ

เรียวปากหยักแสนได้รูปกระตุกยิ้ม เมื่อเผลอคิดไปว่าเธอผู้นี้คงอายุอ่อนกว่าเขา แต่ที่ไหนได้กลับเป็นเขาเองที่อ่อนกว่าเธอไปถึงสี่ปีด้วยซ้ำ

“อ้าว...อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอคะหมอชิน” เสียงหวานดังก้องขึ้นมาเรียกให้เขาหันกลับไปมอง ภายใต้แสงเทียนสลัวเช่นนี้เขาต้องยอมรับว่าสิตางศุ์สวยงามราวภาพวาด ช่วงขาเรียวยาวน่ามองโผล่พ้นกางเกงขาสั้นพาร่างระหงเดินลงบันไดลงมาพร้อมๆ กับเจ้าแจ็ครัสเซลตัวเล็กที่ตอนนี้กลับมากระดี้กระด้าได้ดังเดิม

“ครับ” ชายหนุ่มตอบรับสั้นๆ มันเป็นนิสัยส่วนตัวของเขาอยู่แล้วที่ช่างเป็นคนประหยัดคำพูดเสียเหลือเกิน

“ขอโทษทีค่ะที่ปล่อยให้รอ พอดีตังอาบน้ำให้เจ้าใบ้เสร็จก็เลยต้องอาบให้ตัวเองไปด้วย เพราะมันเล่นซะตังเปียกมะล่อกมะแล่กไปทั้งตัว” หญิงสาวพูดยิ้มๆ

“ไม่เป็นไรครับผมก็ว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน” คชินทร์ออกตัวไว้ก่อน เพราะรู้สึกแปลกๆ กับสายตากระลิ้มกระเหลี่ยของเจ้าของบ้านที่จ้องมายังเขาอย่างไรพิกล

“จะรีบกลับไปหาแฟนเหรอคะหมอชิน” สิตางศุ์พูดยิ้มๆ พลางลุ้นคำตอบของคนหน้าขรึมจนตัวโก่ง

หมอหนุ่มเหลือบตามองหญิงสาวอีกครั้ง ก่อนจะตอบออกมาอย่างสุภาพ “ผมยังไม่มีแฟนหรอกครับ วันๆ ทำแต่งาน” ได้ยินดังนั้นคนที่รอฟังคำตอบอยู่ก็แทบจะกระโดดขึ้นมาตีลังกาสักสามตลบให้สมกับความยินดีปรีดากับคำตอบที่ยิน

เย้ เยสๆ เป็นหนุ่มโสดซะด้วยเข้าทางอย่างแรง ชะละล่า!

“ถ้าอย่างนั้นหมอชินจะสะดวกมั้ยคะ ถ้าตังจะให้ดูไฟให้ซักหน่อยพอดีคืนนี้ต้องส่งงานให้ลูกค้าด้วยน่ะค่ะ” มารยาสาไถยนี่ถนัดนัก!

“อืม...ก็ได้ครับ แต่ผมออกตัวก่อนนะว่างานแบบนี้ผมไม่เก่ง อาจะช่วยคุณได้ไม่มาก”

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่คุณมีน้ำใจ ตังก็ซึ้งจะแย่แล้วค่ะ” พูดพลางส่งยิ้มหวานไปให้ น่าเสียดายจริงๆ ที่เธอใส่เสื้อยืดแสนจะธรรมดาลงมา หรือว่าจะขึ้นไปเปลี่ยนเป็นสายเดี่ยวสะท้านทรวงดี... แต่คิดไปคิดมาเอาไว้ครั้งหน้าก็แล้วกัน วันพระไม่ได้มีหนเดียว มารยายังเหลืออีกเป็นล้านๆ เล่มเกวียน วันนี้ขอแทะเล็มแค่หอมปากหอมคอไปก่อนก็พอ



คัตเอาท์ไฟที่อยู่ตรงหัวมุมบันไดถูกยกลง หมอหนุ่มก้มๆ เงยๆ อยู่พักหนึ่งโดยมีเจ้าของบ้านคนสวยเป็นคนส่องไฟฉายให้ ไม่นานนักหลังจากที่คชินทร์สำรวจความเสียหายของคัตเอาท์เจ้าปัญหาก็ได้ผลสรุปออกมาว่า

“ฟิวส์ขาดน่ะครับ ถ้าคุณมีฟิวส์สำรองไว้อยู่ผมเปลี่ยนให้ได้ แต่ถ้าไม่มีคงต้องรอช่างวันพรุ่งนี้แทน”

สิตางศุ์นิ่วหน้า เรื่องอะไรเทือกนี้เธอก็ไม่มีความรู้แม้แต่ปลายก้อยแล้วจะมีฟิวส์สำรองไว้ได้อย่างไร คงต้องรอให้ช่างมาดูให้ในวันพรุ่งนี้เท่านั้น

“สงสัยคงต้องรอช่างอย่างเดียวแล้วล่ะค่ะ” น้ำเสียงฟังดูละห้อยสมจริงยิ่งนัก

“คุณอยู่คนเดียวเหรอครับ” คชินทร์อดเป็นห่วงไม่ได้ เมื่อฟังจากน้ำเสียงและหน้าตาที่แสนจะดูเดียงสาของอีกฝ่าย

“ค่ะ อยู่กับเจ้าใบ้สองคน”

“แล้วพ่อแม่คุณ...”

“สองคนนั่นอยู่ต่างประเทศค่ะ นานๆ จะกลับมาเมืองไทยซักที ตังก็เลยต้องอยู่คนเดียวอย่างนี้ไงคะ” พยายามปั้นหน้าให้น่าสงสารที่สุด พร้อมกับยื่นขวดน้ำส้มที่เพิ่งเดินไปคว้ามาจากตู้เย็นให้หนุ่มหน้าขรึมที่ยื่นมือออกมารับ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงสุดเศร้าสร้อย

“บางทีตังก็กลัวบ้างเหมือนกันนะคะเวลาอยู่คนเดียว กลัวไปสารพัดสารเพ ถ้ามีคนอยู่ด้วยก็คงจะดี”

“อันที่จริงผู้หญิงอยู่บ้านคนเดียวนี่น่าจะเลี้ยงหมาพันธุ์ดุๆ เอาไว้เฝ้าบ้านจะได้อุ่นใจกว่านะครับ” อ้าว..ไหงเป็นงั้นไป นี่อ่อยสุดๆ แล้วนะเนี่ย ยังไม่เก๊ทอีกเหรอว่าหมายถึงอะไร ไม่ใจเลยว่ะ คนสวยเซ็ง!

“อะ อ้อ...เหรอคะ” คนสวยพูดพลางฉีกยิ้มเหี่ยวแห้งออกมา

“ว่าแต่ทำไมถึงเรียกเจ้าแจ็คตัวนี้ว่าใบ้ล่ะครับ หรือว่าเมื่อก่อนมันเป็นใบ้” หลังจากสามารถเลี่ยงตัวเองจากลูกเสิร์ฟยิงตรงของสาวสวยมาได้ หมอหนุ่มก็รีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้เข้าเนื้อทันที

เหมือนกับเจ้าใบ้ที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นจะรู้ตัวว่าถูกนินทา หูตูบของมันผึ่งขึ้นมาอัตโนมัติก่อนจะส่งเสียงเห่าหอนออกมาโชว์ความสามารถให้คนที่กำลังสงสัยประจักษ์แก่สายตากันไป

“ก็แค่ตั้งชื่อประชดเท่านั้นเองค่ะ” หญิงสาวยิ้มแหยงๆ ก่อนจะร่ายถึงความเป็นมาของเจ้าหมาสุดรักต่อ “มันเห่าไม่หยุดปากมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ตอนนั้นตังปวดหัวมากอยากจะเอาไปปล่อยวัดวันละสิบรอบ แต่ก็ทำไม่ลงพอได้เห็นตาแป๋วๆ ของมันก็ใจอ่อนทุกที เลยเปลี่ยนชื่อจากเหมินทร์อินทราเป็นไอ้ใบ้จนทุกวันนี้แหละค่ะ”

“เหมินทร์อินทรา? ชื่ออลังการงานสร้างดีนะครับ” คชินทร์พูดพร้อมอมยิ้ม

“พอดีช่วงนั้นติดละครจักรๆ วงศ์ๆ น่ะค่ะ” สิตางศุ์เอ่ยรับด้วยความอับอาย ที่เผลอพูดชื่อสุดอลังการของเจ้าหมาน้อยออกไป

“เอาเป็นว่าวันนี้ผมคงต้องขอตัวก่อน ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับคุณสิตางศุ์” สิ้นเสียงทุ้มๆ ของคนหน้าขรึม หญิงสาวก็ถึงกับขมวดคิ้วมุ่น เพราะเท่าที่จำได้เธอไม่เคยแนะนำตัวเองด้วยชื่อจริงกับเขาสักครั้ง

“หมอชินรู้จักชื่อตังได้ยังไงกัน”

อีกฝ่ายไม่ตอบเพียงแค่กระตุกยิ้มพร้อมกับเบนสายตาไปมองยังกระดาษสีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกแทน สิตางศุ์มองตามสายตาคู่นั้นไปเจอคำตอบก็ถึงบางอ้อ ใบหน้าเนียนใสแดงเรื่อขึ้นมาเล็กน้อยเพราะเดาได้ว่าเขาคงจะรู้อายุจริงเธอเข้าให้แล้ว

“หรือจะให้ผมเรียกคุณว่าพี่ตังดีครับ”

ระคายหูอย่างแรง!!

“หึๆๆ อย่าถึงขั้นนั้นเลยค่ะหมอชิน เรียกตังก็พอ” แต่เสียงหัวเราะที่ดังหึๆ ในลำคอสวยนั้นฟังดูช่างแหบแห้งจับใจ

อย่าให้ถึงทีพี่บ้างนะจ๊ะหมอชินสุดหล่อ แม่จะจับกดไม่ให้รู้ตัวเลยคอยดู!



เสียงรัวแป้นคีย์บอร์ดดังขึ้นมาจากมุมส่วนตัวของหัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟประจำบริษัทชาเล้นจ์ครีเอเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ของไทย ณ ตอนนี้ หญิงสาวใบหน้าสวยหวานขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นสตอรี่บอร์ดของโฆษณาตัวใหม่มีข้อมูลผิดแผกไปจากเดิมอยู่ไม่น้อย

“เขียดมาหาพี่หน่อย” สิตางศุ์เรียกลูกน้องในความดูแลเข้ามาเพื่อสอบถามถึงความผิดพลาดในครั้งนี้ แม้เธอจะเพิ่งย้ายมาแทนศตายุที่ลาออกไปเมื่อสามเดือนก่อน แต่ด้วยฝีมือและความสามารถที่ไม่แพ้หัวหน้าคนเก่าไปไหน เธอจึงสามารถดูแลงานและคุมลูกน้องเก่าๆ ของศตายุได้เป็นอย่างดี

“มีอะไรให้เขียดรับใช้ครับพี่ตังสุดสวย” เกียรติภูมิรีบกุลีกุจอเข้ามาเอาหน้าอย่างว่าง่ายด้วยนิสัยของผู้ชายทั่วไปที่มักจะเป็นปลื้มทุกครั้งที่เห็นผู้หญิงสวย

“ทำไมสตอรี่บอร์ดโฆษณาตัวนี้ถึงไม่ใช้ข้อมูลที่ลูกค้าให้มา” พลางยื่นบอร์ดสีดำที่หนีบกระดาษแผ่นใหญ่ซึ่งแบ่งเป็นช่องเอาไว้แต่ละช่องก็จะมีภาพของโฆษณาแต่ละฉากประกอบอยู่ในนั้นให้หนุ่มติสท์แตกได้ดูเป็นตัวอย่าง

“อ้อ...ลูกค้าเพิ่งโทรมาขอเปลี่ยนข้อมูลกับผมเมื่อวานนี้เองครับ ก็เมื่อวานพี่ตังลางานผมเลยลืมบอกไป แหะๆ”

“งั้นเหรอ” สิตางศุ์หรี่ตามองรุ่นน้องที่กำลังพยักหน้าหงึกๆ “งั้นก็แล้วไปนึกว่าทำเกินกว่าหน้าที่ซะอีก”

“เรื่องงานน่ะผมไม่เคยทำเกินกว่าหน้าที่อยู่แล้วครับ แต่เรื่องหัวใจนี่สิ เมื่อไหร่พี่ตังจะเปิดห้องให้ผมเข้าไปเช่าได้ซักทีล่ะครับ” เจ้าชู้ยังไงก็เจ้าชู้วันยังค่ำ ให้สมกับที่รับฉายาประจำบริษัทเสียหน่อย ‘ม่อไม่เลือกหน้า’

สิตางศุ์อมยิ้มให้กับความหน้าม่อของลูกน้องหนุ่ม เพราะถึงจะม่อรับโล่อย่างไรก็ไม่กระเทือนเธอสักนิด ระดับมารยาน่ะมันต่างชั้นกันเห็น ๆ!

อย่ามาหน้าม่อใส่ฉันหน่อยเลย เดี๋ยวเจอมารยากลับแล้วจะหนาว

“ไปๆๆ กลับไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวเฮียมนัสก็ได้ตามมาด่ากราดถึงที่หรอก” พูดยิ้มๆ พร้อมกับโบกมือไล่ให้คนตัวสูงกลับไปนั่งทำงานยังโต๊ะประจำของตัวเองที่อยู่ถัดออกไปจากโต๊ะของเธอไม่ไกลนัก

แม้นว่าวันนี้จะเป็นวันทำงานแต่เธอก็แอบคิดถึงใบหน้าคมๆ แผงอกล่ำๆ ของหมอหนุ่มขึ้นมาจับจิตจับใจ ไม่เค้ยไม่เคยจะมาเพ้อพกถึงหนุ่มๆ ในที่ทำงานแบบนี้ แต่กับคุณหมอชินเป็นคนแรกจริงๆ ไม่ได้โม้สักนิด...



“พี่ตังครับไปกินข้าวกันเถอะ เที่ยงแล้วนะ” เกียรติภูมิส่งเสียงเรียกมาแต่ไกล พร้อมกับลูกน้องอีกสี่ห้าคนที่ยืนรออยู่ ได้ยินดังนั้นสิตางศุ์จึงรีบคว้ากระเป๋าสะพายคู่ใจติดมือขึ้นมาเดินเข้าไปหายังกลุ่มหนุ่มๆ ที่ยืนรอพร้อมหน้าพร้อมตากันหมดแล้ว

“ว่าแต่วันนี้เราไม่ไปกินบุฟเฟต์ที่เดิมเหรอ” หญิงสาวคนเดียวของกลุ่มขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นชัดว่าที่ที่ลูกน้องจะพาไปกินนั้นไม่จำเป็นต้องใช้รถแต่อย่างใด

“ร้านใหม่พี่ เพิ่งเปิดข้างหลังบริษัทเรานี่เอง เมื่อวานผมไปลองมาแซ่บหลาย” หนุ่มหัวฟูอีกคนเอ่ยขึ้นมา ขณะพาคณะชาเล้นจ์ครีเอเตอร์ทัวร์ทั้งหมดเลี้ยวซ้ายเลียบตึกบริษัทไปยังด้านหลัง อันเป็นสถานที่ที่หญิงสาวไม่เคยย่างกรายมาก่อนนับตั้งแต่ย้ายมาประจำที่สาขานี้

เธอเพิ่งจะรู้ว่าด้านหลังตึกออฟฟิศของเธอนั้นเต็มไปด้วยบ้านคนและร้านอาหารมากมาย แล้วทำไมเจ้าพวกลิงทโมนพวกนี้จะต้องหิ้วเธอไปกินข้าวในที่ไกลๆ ให้เมื่อยตุ้มด้วย คนสวยไม่เข้าใจอย่างแรง...

ขณะกำลังมองสอดส่องหาร้านอาหารที่ลูกน้องอวดนักอวดหนาว่าแซ่บหลาย พลันสายตาก็ไปสะดุดอยู่กับคลินิกรักษาสัตว์ประจำซอย ‘Love pet’ มันเป็นคลินิกที่ไม่ใหญ่มากแต่ก็ตกแต่งน่ารักไม่หยอก ด้านหน้ามีสวนหย่อมเล็กๆ พร้อมน้ำตกจำลองที่ไหลเอื่อยๆ ทอดตัวลงสู่บ่อปลาคาร์พเบื้องล่าง เมื่อมองเลยเข้าไปผ่านกระจกใสก็จะเห็นว่าด้านในนั้นทาสีเหลืองอ่อนดูเข้ากันดีกับรูปสิงสาราสัตว์ มีผู้มาใช้บริการบ้างประปราย เห็นแล้วก็ให้นึกถึงหมอหมาอีกหนึ่งหน่อที่เข้ามาป่วนหัวใจเธอให้คิดถึงอยู่ทุกวี่ทุกวันไม่ได้

“มีคลินิกสัตว์ด้วยเหรอ แถมยังมีร้านอาหารอีกตั้งเยอะแล้วจะพาพี่ไปกินที่ไกลๆ กันทำไมไม่ทราบ” สิตางศุ์บ่นอุบ เมื่อเสียรู้ถ่อไปกินที่ไกลๆ มานานหลายเดือน

“ก็พวกเราเบื่ออาหารแถวนี้แล้วนี่พี่ตัง เลยขอไปกินที่ไกลๆ บ้างจะได้เปลี่ยนบรรยากาศ” เกียรติภูมิพูดยิ้มๆ ขณะเดินตามหัวหน้าทัวร์หัวฟูไปยังร้านอาหารที่อยู่ตรงข้ามกับคลินิกรักษาสัตว์เลิฟเพ็ท



อาหารที่สั่งมาวันนี้ก็นับว่าสมราคาคุยเพราะรสชาติกลมกล่อมไปหมดทุกอย่าง แถมคุณป้าเจ้าของยังใจดีจัดข้าวผัดอเมริกันจานเบ้อเริ่มให้ฟรีอีกต่างหาก สิตางศุ์ตักโน่นชิมนี่อย่างมีความสุขแต่ก็ไม่วายสายเหลือบไปมองคลินิกที่ตั้งตระหง่านอยู่อีกฝั่งถนนเป็นระยะ คงเพราะอดคิดถึงอีกคนที่ทำอาชีพเดียวกันไม่ได้

ขณะกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานหลังมื้ออาหาร ช้อนที่คีบอยู่ของหญิงสาวคนเดียวในกลุ่มก็พลัดตกลงกระทบจานเข้าดังเคร้ง จนลูกน้องที่นั่งล้อมวงด้วยกันถึงตกใจ

“เป็นอะไรรึเปล่าพี่ตัง” เกียรติภูมิขมวดคิ้วจ้องมองใบหน้าสีเผือดของพี่สาวคนสวยด้วยความไม่เข้าใจ

ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของสาวสวยจ้องเขม็งไปยังประตูคลินิกรักษาสัตว์อย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อเห็นร่างสูงล่ำของคชินทร์ยืนอยู่ด้านหน้ากำลังเสียบกุญแจล็อคบานประตูอยู่ในชุดเสื้อกาวน์ดูเท่สุดสวาทแทบขาดใจ ไม่นานนักร่างใหญ่ของหมอหนุ่มหายลับไปทางด้านหลังปล่อยให้คนที่เพิ่งประกาศสละคานหมาดๆ มองตามด้วยความดีใจยิ่งกว่าบอลไทยได้แชมป์บอลโลกเสียอีก

กรี๊ดๆๆ อะไรมันจะบังเอิญรับโล่ขนาดนี้ ยังกับนิยายน้ำเน่ายังไงยังงั้น! ไม่ไหวแล้ว...คนสวยมีความสุข อยากจะร้องเพลงจริงๆ สุดยอด!!





...พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด

ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิตใจฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ

เออชะรอยเราเป็นเนื้อคู่ ควรอุ้มชูเลี้ยงดูบำเรอ

แต่ครั้งแรกที่พบเธอ ใจฉันเชื่อว่าแรกเจอ ฉันและเธอเป็นคู่สร้างมา...




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สวัสดีทุกคนอีกครั้งนะคะ ช่วงนี้ฟิตค่ะ
อันที่จริงบทนำกะตอนที่ 1 เขียนไว้นานแล้วตะหาก แฮ่ๆๆ
แต่ยังไงก็จะลองเปลี่ยนระบบการทำงานของตัวเองใหม่
ไม่ให้ดองเหมือนเรื่องก่อนนี้ อิอิ
ยังไงก็ฝากนางเอกคนนี้ไว้ในอ้อมใจซักคนนะคะ :)

ขอบคุณ
คุณยุพากร : เรื่องนี้สู้อยู่แล้วค่ะ เพราะอยากจบมาก 55+

คุณนิชาภา : รั่วเหมือนคุณรึเปล่าคะ อิอิ

คุณnunoi : ขอบคุณค่ะ แต่ต้องติดตามว่าจะสนุกทั้งเรื่องรึเปล่า 55+

คุณaom : พยายามจะอัพบ่อยๆแน่นอนค่ะเรื่องนี้

คุณanOO : ตอนนี้กำลังหาวิธีจัดผู้ชายอยู่ค่ะ คล้ายกับชีวิตจริงๆ กร๊ากๆๆ

คุณปูสีน้ำเงิน : ขอบคุณค่ะยังไงก็ฝากด้วยนะคะ

คุณida : เพราะชีวิตไม่เริ่ดอย่างนี้เราเลยต้องเอามาใส่ในนิยายแทน :p

คุณน้องแสตมป์ : เรื่องไม่ปิดกั้นค่ะ โสด หรือ ไม่โสด ก็เสพย์ได้ อิอิ

และทุกคนที่กด like นะคะ :)


( ดารานิล )
www.facebook.com/daranil

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ดารานิล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 มิ.ย. 2554, 10:37:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 มิ.ย. 2554, 10:19:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 3424





<< บทนำ   2. อาหารแห่งความรัก I >>
เรียงอักษร 2 มิ.ย. 2554, 11:40:41 น.
ชอบนางเอกอ่ะ ๕๕๕


saralun 2 มิ.ย. 2554, 12:05:59 น.
จะคอยติดตามนะคะ อิอิ


silverraindrop 2 มิ.ย. 2554, 12:32:38 น.
ขำนางเอกค่ะ และเอาใจช่วยอยู่


หนอนฮับ 2 มิ.ย. 2554, 12:41:08 น.
หนูกดีคะ..คลายเครียดได้เยอะเลย
อิอิ...นางเอกเริดค่าาาาา


นิชาภา 2 มิ.ย. 2554, 13:20:06 น.
อ๊ายยยยยยยยยยยย รอชั้นก่อน
ส่งมธุรัตน์ภาคสองมาประชัน ซีรีย์สาววัย 31 กรี๊ดกร๊าดดดด


cherryfirm 2 มิ.ย. 2554, 16:24:18 น.
555++ นางเอกจิงๆรึเป่าเนียะ แรงได้อีก..โฮะโฮะ....


tarntawan 2 มิ.ย. 2554, 16:56:33 น.
บ้าได้ใจดีจังยัยตังเนี่ยะ


มะดัน 2 มิ.ย. 2554, 20:08:21 น.
โดนนนน


pattisa 2 มิ.ย. 2554, 21:41:06 น.
555555 เคยอ่านแต่นิยายผู้ชายส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ย นี่ผู้หญิงทำ โอ๊ยยย รอตอนต่อไปไม่ไหวค่ะ 555555


nunoi 3 มิ.ย. 2554, 10:52:05 น.
เอาใจช่วยนางเอกนะคะ สอยหมอหนุ่มมาให้ได้หล่ะ อิอิ


ปูสีน้ำเงิน 3 มิ.ย. 2554, 23:26:28 น.
ชอบนางเอกอ่ะ แบบว่าอายุใกล้เคียงกัน เป็นสาวโสดเหมือนกัน ก็ได้แต่หวังว่าจะเจอพระเอกเหมือนกันบ้างนะ


รัมไพชน 24 มิ.ย. 2554, 01:02:19 น.
อยากอ่านนางเอกอาุยุมากกว่าพระเอกมานานแล้ว เจอเรื่องนี้สมใจ แถมคาแรกเตอร์นางเอกก็โดดเด่นมาก ชอบค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account