ข้ามกาล
อุบัติเหตุทำให้พระจันทร์ย้อนอดีตมาอยู่ในวังของหม่อมเจ้าใครเลยจะคิดว่าชีวิตลูกกำพร้าผู้ต่ำต้อยเช่นพระจันทร์
จะมีดาวฤกษ์อย่างดวงอาทิตย์มาโคจรรอบตัวถึงสามดวง


ดวงแรกนั้นพระจันทร์ทั้งรักและเทิดทูน ยึดเป็นที่พึ่งทางใจเสมอมา
พระอาทิตย์ดวงนี้เมตตาพระจันทร์ยิ่งนัก แต่ก็สงวนท่าทีเหลือเกิน
ใจท่านคิดเช่นไร พระจันทร์ไม่อาจรู้ได้เลย


ดวงที่สองร้อนแรงดังเพลิงกัลป์ หยิ่งทระนงหนักหนา
ทั้งยังเป็นคู่อริกันมาช้านาน ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป ในวันที่หนาวเหน็บที่สุด
พระอาทิตย์วายร้ายกลับเต็มใจมาอยู่เคียงข้างพระจันทร์
คอยส่องแสงให้ความอบอุ่นโดยไม่ต้องร้องขอ


ส่วนดวงที่สามพระจันทร์รักเคารพเสมอเหมือนพี่ชาย
ความที่เขามีคู่หมายซึ่งเหมาะสมกันอยู่แล้ว
พระจันทร์จึงไม่เคยคิดเป็นอื่น แต่โชคชะตากลับเล่นตลก
ส่งกามเทพมาแผลงศรทำให้พี่ชายเผลอรักพระจันทร์หมดใจ
Tags: พีเรียต ย้อนยุค ช่วงปี 2493-2507 คุณชาย ท่านชาย นายแพทย์ พระเอกในเรื่องไม่รู้เป็นใคร แต่หนุ่มๆ แซ่บเวอร์ วัง หม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์ ย้อนเวลา โรแมนติก คอมเมดี้ หวานๆ ดราม่าเบาๆ ภาษาอ่านง่าย

ตอน: บทที่ 15 ปกป้อง

บทที่ 15 ปกป้อง

“เด็กนี่ใจมันทำด้วยเพชรหรือไงนะ ไม่ยอมรับผิดเสียที โอ๊ย! ฉันจะทนดูไม่ไหวแล้ว” แดง คนรับใช้อีกคนในตำหนักนี้เปรยกับคนขับรถซึ่งยืนดูสถานการณ์อยู่ข้างกัน

“ยอมรับผิดเถอะหนู หม่อมท่านจะได้ให้อภัย” คนขับรถอดที่จะตะโกนบอกไม่ได้

ตอนนี้เด็กน้อยล้มพับลงไปกับพื้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมแหกปากร้องไห้หรือวิงวอนขอความเมตตาเลย พระจันทร์ยังคงยืนยันคำเดิมว่า

“พระจันทร์ไม่ผิด พระจันทร์ไม่ได้ขโมย”

เสียงปฏิเสธปนสะอื้นเรียกความสงสารได้มากโข ใครที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็เริ่มคิดว่าบางทีเด็กน้อยอาจจะไม่ได้ทำผิดจริงๆ ก็เป็นได้ มิเช่นนั้นคงไม่ทนความเจ็บปวดแล้วยืนกรานเสียงแข็งอย่างนี้

น่าเสียดายเหลือเกินที่หม่อมเนียรมองไม่เห็นความสัตย์ในคำพูดของพระจันทร์ อคติที่มาบังตาทำให้หญิงสาวคิดว่าเด็กน้อยเป็นผู้ร้ายปากแข็ง ที่ไม่ยอมรับเพราะต้องการเรียกร้องความเห็นใจจากทุกคน

“ประคองมันขึ้นมา ฉันจะตีมันอีก” หม่อมเนียรออกคำสั่ง

คนรับใช้คนอื่นไม่มีใครกล้าขยับเลยนอกจากกุ้งนางที่ทำตามอย่างกระตือรือร้น เนื้อแท้ของกุ้งนางไม่เพียงแต่หยาบกระด้างไร้ความเห็นอกเห็นใจ เธอยังจงเกลียดจงชังพวกเด็กๆ มากด้วย

หญิงสาวเกิดในครอบครัวที่มีลูกมาก ต้องทนลำบากเลี้ยงน้องเป็นโขลงมาตั้งแต่เล็ก พอโตเป็นสาวก็ต้องมาเป็นพี่เลี้ยงให้คุณหญิงจอมขี้แย ที่มีหม่อมแม่เจ้าระเบียบ เพราะเป็นลูกนายเลยลงโทษทุบตีเหมือนอย่างที่ทำกับน้องไม่ได้ ทั้งยังต้องมารองรับอารมณ์คุ้มดีคุ้มร้ายของหม่อมเนียรอีก เก็บกดสะสมมากเข้าก็เลยกลายความเกลียดชัง พอเห็นเด็กเล็กถูกแกล้งถูกตีก็เลยรู้สึกสะใจเหลือกำลัง โดยเฉพาะกับคนที่ตนไม่ชอบหน้า

หม่อมเนียรเงื้อหวายในมือขึ้นอีกครั้ง แต่ก่อนหวายจะทันได้สัมผัสตัวพระจันทร์ มือของหม่อมเนียรก็ถูกยึดเอาไว้

“พอได้แล้วครับคุณแม่”

หม่อมเนียรลดมือลง แล้วหันมาตำหนิคนที่มาขวาง

“อย่าใจอ่อนสงสารมันเด็ดขาดนะชาย ไม่เห็นหรือว่านังเด็กขี้ขโมยนี่มันดื้อด้านแค่ไหน นอกจากไม่ยอมรับผิดแล้วยังมาท้าทายแม่อีก”

“พระจันทร์ไม่ได้ขโมย” คุณชายอังศุธรแก้ต่างให้

แม้จะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุแต่เด็กชายก็เชื่อหมดใจว่าคู่แข่งของตนไม่มีทางมีพฤติกรรมชั่วร้ายอย่างนี้

“แม่สอบสวนดีแล้ว หญิงอังก็ยืนยัน หลักฐานก็มีให้เห็นคาตา หยุดเข้าข้างมันได้แล้ว”

คุณชายเถียงหม่อมแม่ไม่ออก แต่อย่างไรเสียก็ต้องช่วยพระจันทร์ให้ได้ ก็เลยตัดสินใจโกหก

“ตุ๊กตาตัวนั้นชายให้พระจันทร์ไปเอง”

“อะไรนะ! หมายความว่ายังไง ทำไมถึงเอาของน้องไปให้เด็กนี่” หม่อมเนียรมองอย่างจับผิด

“ก็เห็นหญิงทิ้งเรี่ยราด นึกว่าเป็นขยะ ก็เลยเอาไปบริจาคเท่านั้นเอง”

ข้ออ้างของคุณชายฟังสมเหตุสมผลไม่น้อย ทว่าก็ไม่อาจจะตบตามารดาได้

“ชายกล้าโกหกแม่ได้ยังไง”

“ชายเปล่าโกหก ชายเอาไปให้พระจันทร์เอง แล้วบอกว่าหญิงอังให้ วันก่อนชายไปที่เรือนป้าใจ ใครๆ ก็เห็น” คุณชายยังคงยืนกระต่ายขาเดียว

ยืนกรานอย่างนี้เสียอย่าง ต่อให้หม่อมแม่รู้ว่าโกหกก็คงทำอะไรไม่ได้ แถมยังอยู่ต่อหน้าบ่าวไพร่ตั้งมาก หม่อมแม่จะต้องรักษาหน้าอยู่แล้ว

หากเป็นในอารมณ์ปกติ ทุกอย่างคงจะเป็นอย่างที่คุณชายคาดคะเนเอาไว้ ทว่าวันนี้หม่อมเนียรอารมณ์เสียเกินกว่าจะควบคุมตัวเองได้ หนำซ้ำลูกชายซึ่งเป็นความหวังยังมาโกหกแม่เพื่อบ่าวคนเดียว โทสะที่สะสมเอาไว้อยู่แล้วจึงพลุ่งขึ้นมา

“หลีกไปชาย ไม่อย่างนั้นแม่จะตีชายด้วยอีกคน”

“คุณแม่!” คุณชายครางด้วยไม่คิดว่ามารดาจะไร้เหตุผลถึงเพียงนี้

“หลีก!”

คุณชายอังศุธรถอนใจออกมาหนักๆ

‘เป็นไงเป็นกัน’

“ถ้าคุณแม่ไม่เชื่อชาย คิดว่าชายโกหก ก็เชิญทำโทษชายได้เลย” เด็กชายกอดอกแน่นแล้วหันหลังให้ตี

หม่อมเนียรถึงกับมือไม้สั่นเมื่อได้ยิน ตั้งแต่เล็กจนโตหม่อมเนียรเคยตีลูกด้วยมือเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นตอนแอบไปเล่นน้ำลับหลังแม่และบ่าวไพร่ ที่ตีก็เพราะรักเพราะห่วง แต่เรื่องลงโทษเพราะทำผิดอย่างอื่นแทบไม่เคยเลย ที่ผ่านมามีแต่จะปกป้องจากไม้เรียวของท่านพ่อกับท่านป้า คุณชายอังศุธรจึงได้กล้าท้าทาย

“ชายคิดว่าแม่ไม่กล้าใช่ไหม”

“...” คุณชายไม่ตอบ แต่เหลียวไปมองหม่อมแม่ด้วยสายตาตัดพ้อ

“ชายหลบไปซะ แล้วแม่จะไม่ลงโทษ” คนเป็นแม่เอ่ยด้วยเสียงอ่อนลง

“ไม่ครับ”

“ทำไมถึงได้ดื้อนัก”

“ชายไม่ได้ดื้อ คุณแม่ต่างหากที่ไม่เชื่อชาย”

“ถ้าอยากโดนตีนักก็เอา”

หม่อมเนียรทั้งขุ่นเคืองทั้งเสียใจที่ลูกชายไม่เชื่อฟัง

‘เพราะไปเชียงใหม่มาแน่ๆ ก็เลยถูกนังนั่นเป่าหูมา’ หญิงสาวพาลไปถึงคนไกลอย่างหม่อมบัวคำ

หม่อมเนียรกำไม้ในมือแน่นทั้งที่ใจอ่อนยวบ เธอได้แต่บอกตัวเองว่าถ้าไม่ลงโทษ ต่อไปจะควบคุมลูกไม่ได้ ก็เลยหลับตาลงแล้วกลั้นใจตีบุตรชาย

หวายในมือฟาดลงที่ก้นของคุณชายอังศุธรพอให้รู้สึกแสบๆ คันๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคุณชายคงร้องโอดโอยว่าเจ็บปวดเหลือประมาณ แล้วอ้อนวอนขอร้องให้หม่อมแม่เลิกตี แต่หนนี้เด็กชายไม่ร้องแม้แต่แอะเดียว ด้วยเห็นตัวอย่างความกล้าหาญมาจากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อยู่ข้างกาย

“ขอโทษแม่ แล้วกลับเข้าตึกไป”

“ถ้าชายขอโทษ คุณแม่จะเลิกลงโทษพระจันทร์ไหม”

“ชายไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับแม่นะ ถ้าไม่อยากโดนตีอีกก็รีบไปซะ”

คุณชายอังศุธรยืนกอดอกอย่างดื้อดึง เป็นเชิงว่าไม่มีวันถอย

“นี่มันอะไรกันนักกันหนา” หม่อมเนียรร้องเสียงแหลมอย่างเหลืออด ก่อนจะเงื้อไม้ขึ้นอีกครั้ง

หนนี้เธอลงแรงมากกว่าครั้งแรก แต่ก็มีอันต้องชะงักมือก่อนเพราะเสียงทรงอำนาจของหม่อมเจ้าแสงแข

“หยุดเดี๋ยวนี้นะแม่เนียร!”

“ท่านหญิง!”

หม่อมเนียรแทบจะปล่อยไม้ในมือทิ้งเมื่อเห็นว่าท่านหญิงเสด็จมาถึงนี่และเห็นภาพไม่งามของตนเข้า

“ท่านป้าช่วยชายด้วยครับ” คุณชายอังศุธรรีบขอความช่วยเหลือ แต่ไม่วิ่งเข้าไปหา เจตนาเอาตัวคั่นระหว่างพระจันทร์กับมารดาเอาไว้เพราะยังไม่มั่นใจสถานการณ์

“นี่มันอะไรกันแม่เนียร กล้าดีอย่างไรมาทำป่าเถื่อนในวังของฉัน เด็กมันทำอะไรผิดถึงได้ลงโทษรุนแรงอย่างนี้”

“หม่อมฉัน...” หม่อมเนียรหน้าเจื่อน

ถึงร้ายกาจถือตัวอย่างไร แต่คนที่หม่อมเคารพและกลัวเกรงที่สุดก็คือท่านหญิงแสงแข หากไม่มีบารมีของท่านหญิงคุ้มครองอยู่ ไม่แน่หรอกว่าหม่อมที่ไม่เป็นที่โปรดปรานอย่างเธอ อาจจะถูกท่านชายขอหย่าขาดได้ทุกเมื่อ

“ใครไม่เกี่ยวข้องก็รีบถอยไปให้หมด” ตรัสเสร็จก็หันมารับสั่งให้นางสมใจกับพุดจีบรีบไปแก้มัดให้พระจันทร์เสีย

“อย่านะเพคะท่านหญิง นังเด็กนี่มันเป็นหัวขโมย”

“ขโมยอะไรกัน ชายศุยืนยันออกชัดไม่ใช่รึว่าเป็นคนให้ตุ๊กตาเขาไปเอง”

ท่านหญิงมาทันเห็นเหตุการณ์ตอนพระจันทร์ถูกลงโทษ ทีแรกจะทรงรีบมาขวางแต่เห็นคุณชายอังศุธรออกรับแทนเสียก่อน ท่านจึงมีรับสั่งให้ทุกคนรอดูสถานการณ์เงียบๆ แล้วก็ทรงได้ประจักษ์ถึงความกล้าหาญของหลานชายกับความไร้เหตุผลของน้องสะใภ้

“เจ็บไหมลูก” นางสมใจถามด้วยความเวทนาขณะช่วยแกะเชือก

เธอทราบอย่างคร่าวๆ จากว่านว่าพระจันทร์ถูกลงโทษเพราะข้อหาขโมย แต่ไม่คิดเลยว่าหม่อมท่านจะโหดร้ายขนาดจับมัดแล้วเฆี่ยนด้วยหวาย

“ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า” พระจันทร์กัดฟัดพูด ทั้งที่ก็ลุกแทบไม่ขึ้น

“โธ่...หนูจันทร์” พุดจีบโผเข้าไปช่วยประคองทั้งน้ำตา เธอแทบสะอื้นตอนเห็นรอยแดงที่ข้อมือน้อง

ว่านเข้ามาอาสาจะอุ้มพระจันทร์กลับเรือน แต่เธอปฏิเสธ เด็กสาวบอกให้ช่วยประคองไปหาท่านหญิง แล้วกราบลงแทบเท้าท่าน

“ขอบพระคุณที่ช่วยพระจันทร์ค่ะ”

“ฉันไม่ได้ช่วยเธอ แต่ฉันเชื่อหลานฉัน” ท่านหญิงตรัสสั้นๆ แต่ก็รู้กันโดยนัยว่าความวุ่นวายทั้งหลายในวันนี้เป็นอันยุติ

ในเมื่อคุณชายอังศุธรไม่ผิด พระจันทร์ก็ไม่ผิด คนถูกตำหนิจะเป็นใครได้นอกจากหม่อมเนียร กระนั้นท่านหญิงก็ไม่ทรงทำอะไรให้หม่อมเนียรต้องขายหน้าไปมากกว่านี้ ไล่บ่าวไพร่ไปแล้วก็ทรงหันมาถามหลานชายว่าเจ็บหรือไม่

“ชายไม่เป็นไรครับ”

“ดีแล้ว แต่ต้องทายาด้วยนะลูก เดี๋ยวป้าจะให้คนเอามาให้”

“ครับท่านป้า” คุณชายยกมือขึ้นไหว้ แล้วหันไปส่งยิ้มให้รพีภัคที่ยืนอยู่ด้านหลังท่านป้า

แค่สบตาเด็กชายก็รู้แล้วว่าที่ท่านหญิงแสงแขเสด็จมาที่นี่ได้เป็นฝีมือของใคร

รพีภัคให้ความช่วยเหลือเพราะมั่นใจว่าพระจันทร์โดนใส่ร้าย บังเอิญเหลือเกินที่เมื่อวานเขามาที่วังพร้อมคุณหญิงแม่และได้เห็นว่าคุณหญิงอังศุมาลีแอบออกมาจากตำหนักพร้อมตุ๊กตา

ถ้าเอาไปเล่นแล้วพระจันทร์แย่งไป คุณหญิงจะต้องบอกว่าโดนแย่งไม่ใช่บอกว่ามันหายไปเฉยๆ รพีภัคไม่เพียงแต่รู้ว่าคุณหญิงจงใจแกล้งพระจันทร์ เขายังมองออกว่าเรื่องจะต้องบานปลายเพราะอุปนิสัยดื้อรั้นไม่กลัวใครของเด็กหญิง ดังนั้นจึงตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากท่านหญิงแสงแข

รพีภัคไม่ได้ฟ้องตรงๆ ว่าหลานท่านโกหกเพื่อแกล้งพระจันทร์ แต่กราบทูลไปว่า

“ท่านยายครับ รพีมีเรื่องจะกราบเรียนขอคำปรึกษาจากท่านยาย”

“มีอะไรรึรพี”

“ถ้าเราเห็นคนถูกลงโทษทั้งที่ไม่ได้ทำผิด เราควรจะทำอย่างไรครับ”

“ก็ต้องช่วยสิ ถามยายอย่างนี้ทำไมรึ”

“รพีก็อยากช่วยครับ แต่เรื่องนี้มันเกินกำลังของรพี”

“หมายความว่าอย่างไรกัน ชายศุก่อเรื่องอะไรอีกแล้วใช่ไหม”

ท่านหญิงทรงเดาไปเช่นนั้นเพราะน้าหลานคู่นี้รักกันมาก คุณชายอังศุธรซุกซนเกินเหตุทีไร รพีภัคต้องเป็นคนออกหน้าช่วยขอร้องผู้ใหญ่ให้ทุกครั้ง

รพีภัคไม่ตอบคำถามของท่านหญิง แต่ก้มลงกราบแทบเท้าท่าน เสร็จแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาวิงวอน

“ท่านยายเสด็จไปกับรพีได้ไหมครับ รพีขอร้อง...ได้โปรดเมตตารพีด้วย”

หลานรักอ้อนวอนถึงขนาดนี้มีหรือท่านหญิงจะไม่ทรงเมตตา เมื่อท่านรับปากยอมตามไป รพีภัคก็หันไปยกมือไหว้นางสมใจ

“เชิญคุณสมใจด้วยนะครับ”

“อิฉันด้วยหรือคะคุณ ทำไมคะ”

“ไปด้วยกันเถอะครับ ไม่มีเวลาแล้ว” เด็กชายตัดบท

ทุกคนเดินออกมาหน้าตำหนักมาได้สักหน่อยว่านก็กระหืดกระหอบมาตามนางสมใจพอดี หญิงสาวรายงานว่าพระจันทร์เกิดเรื่อง แล้วช่วยอธิบายเหตุการณ์คร่าวๆ ให้ฟังระหว่างที่เดินไปยังตำหนักของท่านชายทินกร

งานนี้ถ้าไม่ได้คุณชายอังศุธรกับรพีภัคพระจันทร์คงแย่ น่าเสียดายที่เธอรับรู้แค่ว่าคุณชายกับท่านหญิงช่วยเอาไว้เท่านั้น ในสายตาเธอรพีภัคแทบจะเป็นคนที่ไม่มีตัวตนอยู่บนโลก มองเห็นเพียงผ่านๆ ว่านี่คือคุณรพีภัค หลานของท่านหญิงก็เท่านั้น

ทางด้านคนที่ปิดทองหลังพระ พอเห็นว่าพระจันทร์ปลอดภัยก็ไม่ต้องการอะไรอีก รพีภัคไม่เพียงแต่ช่วยเหลือพระจันทร์ในเหตุการณ์เฉพาะหน้า แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาที่จะเกิดในอนาคตด้วย

เขารอให้ทุกคนสลายตัวไป แล้วจึงค่อยไปหาคุณหญิงอังศุมาลีที่ห้อง เด็กหญิงนั่งซึมอยู่ในห้อง รอบตัวรายล้อมไปด้วยของเล่นมากมาย แต่กลับดูโดดเดี่ยวจนน่าเวทนา

คนสุขภาพอ่อนแออย่างรพีภัคเข้าใจความเปลี่ยวเหงาของเด็กน้อยดี ทั้งยังเข้าใจเหตุผลที่คุณหญิงกลั่นแกล้งพระจันทร์ ตอนอายุพอๆ กับคุณหญิงเขาเองก็เคยรู้สึกถูกทอดทิ้งเมื่อคุณชายอังศุธรต้องไปโรงเรียน แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างในการทำร้ายคนอื่น

“ขอพี่นั่งกับคุณหญิงได้ไหม”

“ค่ะ” เด็กหญิงรับคำ แต่สายตายังคงเหม่อลอย

ในหัวมีเรื่องราวให้คิดมากมายจนรู้สึกสับสน ทั้งความผิดที่ทำ ความเจ็บแค้นที่มีต่อพระจันทร์ ความผูกพันกับวายุตา เธอไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะทำตัวอย่างไร ความคิดเดียวที่กระจ่างชัดคือไม่กล้าสู้หน้าใครเลย ไม่ว่าจะเป็นวายุตา พระจันทร์หรือแม้กระทั่งพี่ชายแท้ๆ ของตัวเอง

“พี่เห็นนะว่าหญิงเป็นคนเอาตุ๊กตาไปให้พระจันทร์”

แค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ความสับสนวุ่นวายที่อยู่ในใจก็ถูกซัดกระเด็นไป เหลือเพียงความหวาดกลัวที่แพร่จำนวนอย่างรวดเร็วจนคับทรวงอก

“พี่รพี...พี่อย่าบอกใครนะ” คุณหญิงเอ่ยอย่างร้อนรน

“ก็ได้…พี่สัญญาว่าจะไม่บอกใคร แต่หญิงต้องสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีก”

คุณหญิงรับปากแล้วสาบานเป็นมั่นเป็นเหมาะ รพีภัคเชื่อว่าบทเรียนนี้คงจะทำให้คุณหญิงน้อยเข็ดหลาบไม่กล้าทำอะไรอย่างนี้อีก แต่ธุระที่เขามีกับเด็กหญิงยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้

“พี่เข้าใจนะว่าคุณหญิงทำไปเพราะไม่อยากให้ใครแย่งเพื่อน แต่วิธีการที่คุณหญิงทำมันไม่ถูกต้อง”

“หญิงรู้ หญิงขอโทษ” น้ำตาแห่งความอัดอั้นตันใจไหลทะลัก เห็นแล้วรพีภัคก็อดใจอ่อนไม่ได้

“อยากร้องก็ตามใจ แต่ร้องเสร็จแล้วคุณหญิงต้องกลับมาเป็นเด็กดีนะ ไปขอโทษพระจันทร์ซะ แล้วต่อจากนี้ไปเวลามีเรื่องอะไรให้มาพูดกับพี่ พี่พร้อมจะรับฟังและช่วยเหลือคุณหญิงเสมอ”

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีใครสักคนทำให้รู้สึกว่าพร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอโดยไม่ต้องร้องขอ แม้น้ำเสียงจะค่อนมาในเชิงตำหนิแต่คุณหญิงก็อดที่จะตื้นตันไม่ได้ เด็กน้อยปล่อยโฮแล้วโผเข้าซบอกของรพีภัค

“ถ้าหญิงเป็นเด็กดีพี่รพีจะไม่ทิ้งหญิงไปเหมือนคนอื่นใช่ไหม”

“ใช่ครับ ถ้าหญิงเป็นเด็กดี พี่จะไม่มีวันทิ้งหญิงไปไหน”

รพีภัคเอ่ยคำสัญญาเพราะเห็นใจเด็กน้อย เขาไม่รู้เลยว่าถ้อยคำนี้จะจารึกอยู่ในใจของคุณหญิงน้อยไม่รู้ลืม นานวันเข้าคำมั่นก็แปรเปลี่ยนเป็นเครื่องพันธนาการ มันผูกมัดตัวรพีภัคเอาไว้จนแทบดิ้นไม่หลุดและนำมาซึ่งปัญหามากมายในกาลต่อมา

++++++++++++++++++++++++++++

สวัสดีท้ายตอนค่า บทนี้คุณชายของเดี๋ยนแมนบักคั่ก (แมนโคตรๆ) ส่วนรพีก็ได้ใจมิใช่น้อย สารภาพมาซะดีๆ ใครกรี๊ดพ่อหนูเบบี๋สองคนนี้บ้าง เตรียมหัวใจไว้นะคะ นี่เพิ่งน้ำจิ้มเท่านั้น โตเมื่อไรรับประกันความน่ากินยิ่งกว่านี้เคอะ โฮะๆ ≧▽≦ ♡

เกร็ดความรู้ประจำตอน
เนื่องจากตอนนี้พระจันทร์ถูกโบยได้แผล เราจึงขอเสนอสมุนไพรไทยสำหรับบรรเทาอาการค่ะ
ตัวแรก ขมิ้นชัน
เรียกกันทั่วไปว่า "ขมิ้น" เป็นไม้ล้มลุกมีสีเหลืองอมส้ม มีเหง้าอยู่ใต้ดิน มีกลิ่นหอม คนนิยมนำ "เหง้า" ทั้งสดและแห้งมาใช้รักษาอาการที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหาร รวมทั้งแก้ท้องเสีย ท้องร่วง จุกเสียดแน่นท้อง และสามารถนำขมิ้นชันมาทาภายนอก เพื่อใช้รักษาแผลเรื้อรัง แผลสด โรคผิวหนัง พุพอง รักษาชันนะตุได้ด้วย
นอกจากนั้น "ขมิ้นชัน" ยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ "คูเคอร์มิน" ที่ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งตับ อีกทั้งยังสร้างภูมิคุ้มกันให้ผิวหนัง หรือใครที่มีแผลอักเสบ "ขมิ้นชัน" ก็มีสรรพคุณช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เพราะมีฤทธิ์ไปลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง และหากรับประทานขมิ้นชันทุกวัน ตามเวลาจะช่วยให้ความจำดีขึ้น ไม่อ่อนเพลียยามตื่นนอน และช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นด้วย
ตัวที่สอง บัวบก
หลายคนอาจเคยดื่มน้ำใบบัวบก ที่เมื่อดื่มเข้าไปแล้วช่วยแก้ร้อนใน แก้ช้ำใน ลดการกระหายน้ำได้ดีนักแล ซึ่งนอกจากใบบัวบกจะนำมาคั้นน้ำดื่มได้แล้ว ยังสามารถนำไปทาแผล ช่วยบรรเทาอาการฟกช้ำของแผลได้ด้วย เพราะในใบมีกรดมาดีคาสสิค (madecassic acid) และกรดเอเซียติก (asiatic acid) ที่มีฤทธิ์สมานแผน ไม่ว่าจะเป็นแผลสด แผลเรื้อรัง แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือแผลหลังผ่าตัด ใบบัวบกจะช่วยการอักเสบและทำให้แผลหายเร็วขึ้น
นอกจากนั้น ใบบัวบกยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดเชื้อเป็นหนองในได้ วิธีการใช้ก็ง่าย ๆ นำใบบัวบกสดทั้งต้น 1 กำมือ ล้างน้ำให้สะอาด แล้วตำให้ละเอียด เอาน้ำมาทาบริเวณที่เป็นแผลเป็นบ่อย ๆ ใช้กากพอกด้วยก็ได้ จะช่วยลดอาการอักเสบและทำให้แผลหายเร็วขึ้น




นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 มิ.ย. 2556, 00:00:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ธ.ค. 2556, 00:44:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 2894





<< บทที่ 14 ขโมย   บทที่ 16 โตเป็นสาว >>
konhin 15 มิ.ย. 2556, 04:25:39 น.
อ้าวววว เด็กชายรพี จะซวยเพราะหวังดีซะงั้นนนนน


wind 15 มิ.ย. 2556, 05:16:47 น.
แอบสงสารรพีล่วงหน้า ปิดทองหลังพระจริงๆ แถมยังจะมีห่วงมาผูกคออีก


pkka 15 มิ.ย. 2556, 05:38:32 น.
เข้มข้น พัวพัน เต็มไปโหม๊ดด


wii 15 มิ.ย. 2556, 06:21:16 น.
อ้าวใครเป็นพระเอกเนี่ย อยากให้ระพีเป็นพระเอกนะ เพราะมีเเต่ช่วยเหลือพระจันทร์มาตลอด อยากให้สมหวังมั่งส่วนคุณชายตัวเเสบก็ให้ไปหาสาวข้างหน้าเอาก็เเล้วกัน ส่วนคุณหญิงก็น่าจะเจอคนที่จะมาดัดนิสัยขี้อิจฉานั่นซะ


mhengjhy 15 มิ.ย. 2556, 06:38:08 น.
ขอเชียร์ชายศุนะคะ 55


mottanoy 15 มิ.ย. 2556, 07:06:47 น.
แมนมากกกกก


Amarilys 15 มิ.ย. 2556, 09:33:16 น.
เฮ้อออ...ไม่อยากเห็นคุณหญิงโตมาเป็นนางร้ายเลยนะเนี่ย แต่พอโตแล้วคงได้เกลียดพระจันทร์อีกแหง๋ม คราวนี้คง่ว่าด้วยเรื่องรพิ ปอลอ. ชอบเกร็ดท้ายเรื่องมั่กค่า


คิมหันตุ์ 15 มิ.ย. 2556, 14:10:54 น.
คุณรพี..........นี่ฉลาดม๊ากกกกก หญิงอังรักหล่ะสิ...คิคิ


mottanoy 15 มิ.ย. 2556, 21:59:11 น.
มาอ่านรอบที่สาม


Zephyr 16 มิ.ย. 2556, 18:23:27 น.
เว.....ร..... ละ เดาได้แล้วตั้งแต่ รพีไปหาหญิงอังเลย
เฮ้อ ซวยจริงๆ นี่แค่ตุ๊กตายังขนาดนี้อ่ะ โตไป แย่งรพี แหงๆ แต่พระจันทร์คงไม่อะไรกับรพี แต่รพีสิ จะมายุ่งพระจันทร์
หญิงอังก็จะตามมารังควาญ โตมาคงขี้อิจฉากว่านี้ ร้ายกว่านี้ แรงกว่านี้
โน้มมมมมมม เค้าเริ่ม ไม่ชอบหญิงอังแล้วนะ ถ้านางจะโตมามีปัญหา กรุณาทำให้ชัดเจนด่วนนนนน ฮ่าๆๆๆๆ
เฟอร์จะได้เกลียดเป็นเกลียด รักเป็นรัก ไม่รักๆเกลียดๆ สับสนค่า ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account