เงารักสีน้ำเงิน {นวนิยายชุด"ความลับของผีเสื้อ" สนพ.อรุณ}
วนัสสาตื่นขึ้นมาพบว่าความทรงจำของเธอหายไปถึงสองเดือน...
แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือรอยสักรูปผีเสื้อตรงกลางหลัง กับกระดาษแผ่นเดียวในมือเป็นเบาะแส
เธอคือผีเสื้อ แต่ใครกันคือดอกไม้ของเธอ...คือคนรักที่เธอหลงลืมไป
จะเป็นนวาระผู้มีรอยสักรูปดอกกุหลาบ
เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินอย่างวาริช
หรือใครบางคนที่มีชื่อเป็นความหมายของสีสัน อย่างคราม...
Tags: วนัสสา ความลับของผีเสื้อ วาริช อินดิโก้ คราม นวาระ การทดลอง พลังจิต

ตอน: ความทรงจำที่ ๓ ตามรอยผีเสื้อ

วนัสสายื่นมือออกไป และอย่างไม่ได้ตั้งใจ ในวินาทีนั้น...มือของทั้งคู่ก็สัมผัสกัน

สิ่งที่วูบเข้ามาสู่ความรับรู้ของหญิงสาวในวินาทีนั้นทำเอาดวงตาของเธอแทบไม่รับรู้ภาพตรงหน้า
สีน้ำเงินอุ่นซ่านแผ่กระจายเข้ามาสู่ใจ เข้มลึก... อุ่นละมุน... ร่าเริง ไม่ต่างกับดวงตาของเขา
เหมือนน้ำในทะเลสาบที่นิ่งสงบ น่าไว้วางใจ

วาริชหันจากไปแล้ว แต่วนัสสาคงยังไม่กลับสู่โลกของความจริง ถ้าเจ้านกกระจอกตัวจ้อย
ไม่เอาปากแหนบมือของเธอเบาๆ ก้มลงมองก็พบว่ามันไม่พอใจนักที่ต้องย้ายมาจากมือใหญ่ของหมอ
มันคงชอบเขา แน่ละ คนที่ให้ความรู้สึกอุ่นใจได้อย่างนั้น วนัสสาเพ่งมองนกใกล้ชิด หรือว่านกตัวนี้
ก็จะเป็นตัวเมีย สาวๆคงติดเขาเกรียวเหมือนกัน แล้วเธอล่ะ

คำถามอย่างใหม่ผุดขึ้นกลางใจ ถ้าเขาเป็นดอกไม้สีน้ำเงินที่เธอตามหาจะว่าอย่างไร
แต่ถ้าเคยสนิทสนมกันมาก่อน ทำไมเขาถึงทำท่าว่าจำอะไรไม่ได้เลย เขาเป็นเหมือนเธออย่างนั้นหรือ
จะเป็นอย่างนั้นได้หรือ ในเมื่อเขาเป็นหมอ อาจจะเป็นคนของเวชกุลด้วยซ้ำ วาริชมากกว่า
ที่น่าจะมีส่วนรู้เห็นถ้าจะมีใครสักคนถูกจับตัวไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีความสามารถ
ต่างจากคนปกติอย่างตัวเธอเอง

สัตวแพทย์หนุ่มวกกลับมาจากการดูอาการสัตว์ในคลินิก เขาดึงตัววนัสสาให้อยู่ด้วยได้นาน
พาเธอไปดูหมาแมว คุยนั่นนี่กันเพลิน หญิงสาวได้รู้ว่าบนชั้นสองของร้านมีห้องนั่งเล่น
ที่เต็มไปด้วยหนังสือน่าสนใจเกี่ยวกับสัตว์อยู่เต็มห้อง

“ส่วนใหญ่เวลาเพื่อนมารอผมมักพามานั่งห้องนี้ คุณหนูวนัสคงไม่รังเกียจ จะนั่งเล่น นอนเล่น
หรืออ่านหนังสือก็ตามสบาย”

“ฉันมันพวกชอบหมกตัว ก็ต้องชอบอ่านหนังสือสิคะ”

หญิงสาวฮัมเพลงขณะย่อตัวลงเลือกหนังสือเกี่ยวกับเคล็ดลับในการดูแลสัตว์เลี้ยง
จนถึงตำราวิชาการอย่างอ่อนๆที่วางเรียงรายคละกันเต็มชั้นบนผนังอย่างสนอกสนใจ
ทั้งคู่สั่งอาหารเที่ยงมากินด้วยกันในห้อง ดูหนังสือและคุยกันไปสนุกสนาน
วาริชเข้าๆออกๆไปดูเคสสัตว์ป่วยที่เข้าร้านบ้าง ว่างก็เข้ามาคุย จนเวลาผ่านไปไม่รู้ตัว
มองเข็มนาฬิกาเรือนใสที่ตั้งประดับบนโต๊ะมุมห้องจึงเห็นว่าใกล้บ่ายสามอยู่รอมร่อ
และเหมือนสัตวแพทย์หนุ่มจะเห็นสายตาของแขกคนพิเศษ เขาจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น

“กลับกันเสียทีดีไหมครับ” วาริชถามด้วยเสียงห้าวลึกติดจะแหบอยู่ในหางเสียงอันเป็นจุดเด่น

วนัสสาพยักหน้าเห็นด้วย “ค่ะ มีนัดมื้อค่ำกับเพื่อน ขอเวลาไปเตรียมตัวก่อนก็ดี”

“แต่ไม่เห็นคุณหนูเอารถมาไว้ที่บ้านพักเรานี่ครับ หรือว่าจะมีใครมารับ” คนถามแกล้งทำเสียงล้อๆ

“ค่ะ สารถีส่วนตัว...แต่ว่าเป็นสาวสวยนะคะ เปรี้ยวมากด้วย” วนัสสาลอบยิ้ม
เธอแอบเห็นวาริชเลิกคิ้วและห่อปาก เขาเป็นพวกสนใจสาวๆสวยๆไม่ผิดแน่
ครั้นจะออกปากก็คงกลัวเธอไม่พอใจว่าไปสนคนที่ยังไม่เจอหน้ามากกว่าคนตรงหน้า
เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมีความคิดแบบนั้นหรอก แต่เขาคงรู้จักผู้หญิงส่วนมากมาดีพอ
จึงหยุดปากตัวเองไว้ได้ทัน

หญิงสาวเดินตามวาริชออกจากห้อง แต่สายตาดันไปสะดุดกับหนังสือเล่มหนาปกดำสนิท
เล่มหนึ่งบนชั้น ลายพิมพ์สีเงินตรงสันข้างเป็นรูปผีเสื้อ มันวางเตะตาคนเดินออก
แต่ตอนอยู่ในห้องเธอกลับง่วนอยู่กับหนังสือที่ใกล้มือมากกว่า วาริชเดินย้อนมายืนล้วงกระเป๋า
พลางกระแอมเมื่อเห็นหญิงสาวหยุดดู

“ความลับของผีเสื้อหรือคะ น่าสนใจจัง” วนัสสาหยิบหนังสือเล่มหนามาพินิจ

“เอ ผมเองก็ไม่เคยอ่านเล่มนี้มาก่อน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีมันอยู่ สงสัยใครเอามาใส่เพิ่มไว้” ชายหนุ่มขมวดคิ้วนิดๆ

“ขอยืมไปอ่านที่บ้านได้ไหมคะ...”

“ตามสบายเลยครับ อ่านที่บ้าน บ้านของเรานี่ จะอ่านนานแค่ไหนก็ได้”

วนัสสาสบตาเขา... ถ้อยคำอย่างที่เขาใช้ ถ้าคนอื่นพูดอาจดูเหมือนเกี้ยว แต่เพราะน้ำเสียง
เพราะความผ่อนคลายและกระแสอบอุ่นเป็นมิตรจากผู้ชายมาดกวนแต่พองามข้างๆ
ทำให้เธอรู้สึกสนิทสนมกับเขาเร็วขึ้นมากกว่าจะเป็นอื่น

เขาทำให้เธอรู้สึกดีก็จริง แต่คนมีกำแพงนั้นไม่มีวันจะเปิดรับใครง่ายๆ
น่าสงสัย...ภายในสองเดือนที่ผ่านมานั้นเธอจะรักใครได้จริงหรือ ทว่าตอนนี้จะยังตัดสินใจ
เชื่ออะไรลงไปไม่ได้ ต้องใช้เวลา ต้องสร้างสถานการณ์เรียนรู้ทุกอย่างที่ได้พบในคฤหาสน์สีน้ำเงิน
รวมทั้งตัวเขา ที่เธอต้องคอยจับตาให้ดีว่าจะมาไม้ไหน

ทั้งคู่ปล่อยเจ้ากระจอกน้อยให้บินปร๋อจากไปที่หน้าร้านนั้นเอง วนัสสานึกถึงชั่วขณะที่ได้สัมผัสมือวาริช
แค่ครั้งเดียวคงยังไม่พอ ยังก่อน ยังไม่ใช่วันนี้ เพราะเขาเป็นคนแบบที่อ่านยาก แค่แตะมือด้วย
หน่อยเดียวพลังในการรับรู้ของเธอก็แตกกระเจิงโบยบินหนีไปหมดแล้ว คงต้องรอโอกาสหน้า

“เห็นเรียกเราคุณหนูอยู่นั่น คุณเองก็เถอะ จะแก่สักแค่ไหนกันเชียว”
หญิงสาวบ่นเมื่อทั้งคู่อยู่บนรถด้วยกันอีกครั้ง

“ผมยี่สิบแปด แก่กว่าคุณหนูเกินสิบปีไหม”

“พูดเป็นเล่นไป ฉันอายุยี่สิบสามนะคะ”

“จริงหรือ ผมนึกว่าคุณเป็นเด็กม.ปลายที่เอ็นท์ฯไม่ติด แล้วก็พ่อแม่ตามใจเลยส่งมาใช้ชีวิตในบ้านพักหรูๆแบบนี้ได้”

“พูดซะเสียหายเลย”

“เป็นคนอื่นเขาจะดีใจว่าหน้าเด็ก”

“แต่โดนมองว่าเด็กขนาดยังไม่บรรลุนิติภาวะ แถมโดนพ่อแม่ตามใจสุดขั้วขนาดนั้นก็ไม่ไหวนะคะ
ถึงบ้านแล้ว...ขอบคุณมากสำหรับทริปนำเที่ยวสวนสัตว์ขนาดย่อมวันนี้”

“ดินเนอร์ให้อร่อยนะครับคุณหนูวนัส...” ชายหนุ่มยังไม่เลิกแหย่

“คุณก็เหมือนกัน อย่าให้สาวที่นัดไว้รอนานนะคะ”

วนัสสาก้าวลง ในขณะที่วาริชตั้งใจจะวนรถออกไปจากคฤหาสน์โอ่อ่าที่พวกเขามาพักอีกรอบ
เพราะมีนัดกับกลุ่มเพื่อน ก่อนประตูรถจะปิดหญิงสาวยังเห็นสัตวแพทย์หนุ่มส่ายหน้ากับคำล้อเซี้ยวๆของเธอ
เขาไม่มีเวลาพอจะปฏิเสธ หรือเธอดักทางได้ถูกก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าเย็นนั้นวนัสสากลับต้องกินข้าวคนเดียว
โดยโทรสั่งเบ็นให้คนเอาอาหารขึ้นมาให้ถึงห้อง เพราะยายเฟย์แม่เพื่อนสาวตัวแสบดันเลื่อนนัดเสียนี่

‘เอาน่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเจอกันทีเดียวเลย พอดีลูกค้านัดคุยงานด่วน แม่ฉันหามาให้ด้วยรายนี้ จะหนีก็กระไร’

‘เลยต้องเบี้ยวนัดฉันแทน’ วนัสสาย่นจมูกใส่โทรศัพท์

‘แน่สิยะ หล่อนมันของตาย’

พูดเท่านั้นแล้วเพื่อนก็วางไป ในสายตาคนนอกและไม่รู้จักทั้งคู่ดีพออาจสงสัยว่าสาวที่ดูราวตุ๊กตา
อย่างวนัสสามาคบหากับสาวเปรี้ยวชวนเข็ดฟันอย่างเฟย์ได้อย่างไร เพราะพวกนั้นไม่รู้ คนน่ารักที่ว่า
เมื่ออยู่ในบางเวลาและบางสถานที่ก็กล้าได้ไม่แพ้เพื่อน และพวกนั้นก็ยังไม่รู้อีกเช่นกัน
ว่าสาวเที่ยวเปรี้ยวซ่าอย่างเฟย์ แม้จะทำเท่ ทำเป็นก๋ากั่น แต่พอเอาเข้าจริงกลับหัวโบราณ
ราวกับแม่แก่ในเรื่องทำนองเฉียดเข้าใกล้หัวใจ

“พรุ่งนี้ที่ตึกบลูไดมอนด์ ...อืม รู้สึกช่วงนี้ชีวิตจะเกี่ยวข้องกับสีน้ำเงินเสียจริง”

แต่ทุกอย่างคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ สรรพสิ่งมีกระแสของพลังงานแฝงอยู่
มีเหตุผลเกี่ยวพันกันสืบเนื่องไปเสมอ เหมือนลมจากปีกผีเสื้อกระพืออาจก่อเกิดพายุพัดในอีกทวีป
และเธอก็รู้ว่าลมที่กำลังป่วนชีวิตของตนตอนนี้...คือสายลมสีน้ำเงิน

วนัสสาอาบน้ำตั้งแต่หัวค่ำ ตั้งใจจะเข้านอนเร็ว วันนี้เธอรู้สึกเพลียกว่าปกติ จะเป็นเพราะ
อ่านอารมณ์ของวาริชไปเพียงแวบเดียวอย่างนั้นหรือ ไม่น่าจะใช่ อาจเพราะเขาจริง
แต่คงเพราะที่เขาเข้าผิดห้องเมื่อคืนก่อน คนอะไรเข้ามายังไม่ทันจะจัดข้าวของหรือดูตาม้าตาเรือให้ดี
ก็ดันอาบน้ำหน้าตาเฉย หญิงสาวเองไฟโคมเปิดทิ้งไว้ตอนนอน ทว่ามีม่านบางๆคลุมเตียงอยู่
เขาจึงไม่เห็นเธอ หลังจากผู้บุกรุกยอมออกไปก็เป็นครู่ใหญ่นั่นแหละกว่าวนัสสาที่ตาตื่นโพลงจะหลับลงอีกครั้ง

เธอก้าวเข้าไปใต้ฝักบัว รู้สึกระคายผิวตรงหลังเล็กน้อย คิดว่าสาเหตุคงมาจากช่วงบน
ซึ่งเป็นผ้าลูกไม้ของเสื้อที่เพิ่งถอดออกไป หญิงสาวเปิดน้ำแรงและเริ่มสระผม
จังหวะหนึ่งราวกับได้ยินเสียงของตกในห้อง มือบอบบางค่อยๆหรี่กระแสน้ำที่หลั่งรินลงมาให้เบาลง
เงี่ยหูฟัง ทว่าหลังจากนั้นก็ไม่มีสุ้มเสียงอะไรอีก

วนัสสารีบออกมาจากห้องน้ำ กวาดตาไปรอบห้องสีครีมที่ตกแต่งด้วยโทนน้ำตาลทองซึ่งตกอยู่ในแสงสลัว
ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ข้าวของที่วางไว้ก็ไม่มีอะไรเคลื่อนที่ไปเลยสักอย่างเดียว ประตูล็อกไว้แน่นดี
แต่หนังสือที่ยืมวาริชมาตกอยู่แทบพื้น เธอคงวางมันไว้บนโต๊ะหมิ่นเหม่เต็มที
หญิงสาวในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวก้มหยิบหนังสือสีดำเล่มหนานั้นขึ้นมา ถอนหายใจ

“ดีนะไม่บุบสลาย ไม่ชอบยืมของชาวบ้านมาแล้วทำเยินเสียด้วย”

แม้มันจะไม่ใช่หนังสือใหม่ก็เถอะ วนัสสาวางมันไว้อย่างเดิม ตั้งใจจะอ่านในวันหลัง
ก็เขาว่าให้ยืมได้นานเท่าที่ต้องการ อีกอย่างถ้าเขายังอยู่ที่นี่ไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อย
ก็คงไม่ต่ำกว่าครึ่งเดือนตามที่เจ้าตัวยืนยัน อยากคืนตอนไหนก็คืนได้ทุกเวลา

หญิงสาวหรี่ไฟให้มืดลงอีกนิด ก่อนจะเริ่มแต่งตัว ในห้องอย่างนี้บางทีก็คล้ายมีคนมอง
คล้ายมีใครบางคนอยู่กับเธอด้วย แต่หญิงสาวไม่ได้คิดว่าแปลก เพราะไม่ใช่ครั้งแรก
ที่เธอรู้สึกว่ามีคนอื่นในห้อง มันก็คงเป็นความรู้สึกที่ติดในสิ่งของและวัตถุรอบกายนั่นแหละ

มือขาวผ่องหยิบแปรงซี่ถี่มาแปรงผมที่แสนหวงแหน ผมยาวเป็นคลื่นถึงเอว
เวลาเปียกอย่างนี้ก็ยิ่งยาวขึ้นไปอีก สามสี่นิ้วตรงปลายม้วนเป็นหลอดสปริงตัวสวย
เคล็ดลับคือน้ำยาสมุนไพรผสมสารสกัดธรรมชาติหายากของเวชกุล ทำให้ผมม้วนทนนานถาวร
ยิ่งกว่าน้ำยาใดๆ แต่ด้วยต้นทุนแพงลิบ การส่งออกสู่ตลาดจึงไม่ใช่เรื่องที่ใครคิดจะทำ เพราะวัตถุดิบ
มีค่าควรจะใช้ในงานทดลองบางอย่างเกินกว่าเอามาขายให้คนนอก ทว่าครอบครัวเธอเป็นคนใน
อย่างน้อยก็เคยเป็น...

“พ่อคะ ตั้งแต่ไม่มีพ่อแล้ว มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลย รวมถึงตัวหนูคนเดิมก็ไม่อยู่แล้วเหมือนกัน...”
เธอแน่ใจว่ามันเป็นเช่นนั้น ตอนนี้มีแต่หญิงสาวที่ใช้รอยยิ้มบดบังความแข็งกร้าวเอาไว้
วนัสสารู้ว่าตนเองทำทุกอย่างได้เพื่อให้รู้เงื่อนงำของพ่อ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
“พ่อต้องยังมีชีวิต ใครจะฆ่าไอน์สไตน์ได้ลง จริงไหมคะ เก็บไว้ทำประโยชน์ดีกว่าเยอะเลย”
แม้จะฟังดูเกินจริงไปบ้าง แต่พ่อเธอก็เป็นคนมีปัญญาและรู้เรื่องยาสมุนไพรลึกซึ้งที่สุดเท่าที่เวชกุลจะหาได้
หญิงสาวยังเชื่อเช่นนั้น
“ช่วยหนูด้วยนะคะ หนูรู้ พลังใจของพ่อจะส่งมาถึง และทำให้เราได้พบกันอีกอย่างแน่นอน”

วนัสสาหยิบขวดทาเล็บสีน้ำเงินเงาระยับขึ้นมาทาอย่างบรรจงไปทีละนิ้ว
สีเดียวกันจะเรียกหาซึ่งกันและกันเสมอ ในเมื่อโชคชะตาส่งสีน้ำเงินมาให้เธอก็ไม่คิดถอยหนี
เพียงแต่จะตามหามันให้พบ สู้กันให้เห็นไปสักตั้ง
หากน้ำเงินมาเจอกัน โทนสีที่เข้มข้นกว่าก็จะกลืนกินสีที่เจือจาง
และสีน้ำเงินในตัวตนของเธอก็จะไม่ยอมถอยให้ใคร...แม้แต่ก้าวเดียว



วันถัดมาวนัสสาไม่ได้ลงไปรับประทานอาหารเช้า เพราะตื่นค่อนข้างสายจึงคิดจะรวบไปกิน
เอาทีเดียวเที่ยงไม่ให้เสียเวลา ตกกลางวันพนักงานต้อนรับที่พยายามจะทำตัวเหมือนสาวใช้
หรือเมดประจำบ้านอย่างนาเดียจึงยกอาหารมาเสิร์ฟ อีกฝ่ายคล้ายจะอยากใช้เวลาอยู่ในห้อง
นานกว่าที่จำเป็นไปสักนิดเพื่อดูว่าวนัสสายังต้องการสิ่งใดอีกหรือไม่

“ไม่มีอะไรที่อยากได้แล้วค่ะ” เจ้าของห้องเอ่ยด้วยรอยยิ้ม เก็บความสงสัยในตัวอีกฝ่ายไว้แต่เพียงในใจ

นาเดียยิ้มสุภาพและโค้งตอบ ยิ้มจากดวงตาสีช็อกโกแลตนั้นยังไม่บ่งบอกร่องรอยอะไรตามเคย

หลังจากนัดแนะเวลาแน่นอนกับเฟย์เพื่อนรัก วนัสสาก็เล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ในห้องจนเย็น
จึงได้เริ่มอาบน้ำแต่งตัว เธอเกล้าผมสูงอย่างค่อนข้างลำลองคือหลวมๆไม่ตึงแน่น
อวดลอนสวยและปลายผมเป็นหลอดที่ปล่อยลงมาประไหล่ ก่อนแต่งหน้าอย่างบรรจง

และเพราะรู้ล่วงหน้าว่าวันนี้จะต้องสวมชุดราตรีหญิงสาวจึงเตรียมมาพร้อมแล้วจากบ้าน
เนื้อผ้าสีน้ำเงินแพรวพราวเลื่อมดำพลิ้วเข้ากับเล็บที่ทาไว้ ผ้าค่อนข้างหนักและทิ้งถ่วง
ทำให้สวมได้เลยโดยไม่ต้องจัดแต่งทรงแต่อย่างใด เสียอย่างเดียวตรงที่รู้สึกยุบยิบ
อย่างไรชอบกลตรงหลังซึ่งมีเส้นสายสีดำระย้าหลายเส้นห้อยเชื่อมเสื้อที่แหวกเปิดหลังไว้
เพื่อเผยผิวขาวผ่องรำไร

รอพ้นวันนี้ไปก่อนเถอะค่อยรุกคืบสำรวจเรื่องราวต่างๆในคฤหาสน์ให้สมความตั้งใจ
แต่คืนนี้เธอต้องไปงานเลี้ยงฉลองหมั้นของคนในวงสังคมซึ่งเฟย์เพื่อนตนชวน
ศศิราศี...ภรรยาหม้ายที่ยังสาวของลุงหมอกฤษณะที่วนัสสาคิดว่ากำลังหลบหน้าตน
จะต้องไปงานนี้ด้วยถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ ก็เพราะบิดามารดาเจ้าภาพฝ่ายชายคือเพื่อนสนิทของศศิราศีเอง

เมื่อพ่อของวนัสสายังอยู่ พ่อเองเป็นคนสำคัญของเวชกุล แม้ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นหลักแต่ก็เป็นฟันเฟืองหลัก
ทว่าพอพ่อหายสาบสูญ ทางกลุ่มเวชกุลก็กันครอบครัวเธอออกมาวงนอก ผลประโยชน์ยังถูก
ส่งมาหล่อเลี้ยงด้านแม่เลี้ยงเกรงใจจึงไม่อยากสร้างปัญหาบาดหมาง แม่เลี้ยงของวนัสสายังเชื่อ
เป็นการส่วนตัวว่าหากจะมีตัวการที่ทำให้สามีหายไปไม่กลับมา นั่นก็น่าจะเป็นฝีมือ
คนจากองค์กรยาต่างชาติที่ตั้งตนเป็นอริกับเวชกุลมากกว่า

หญิงสาวไม่ได้นัดแนะให้เพื่อนมารับ แต่ตั้งใจจะเรียกรถไปเอง เธอลงไปถึงชั้นล่าง
ภายใต้โถงเพดานสูงว่างร้างไร้ผู้คน เสียงส้นสูงก้าวเดินไปเป็นจังหวะ
ถ้าไม่มีพรมสีเข้มรองไว้มันคงดังสะท้อนก้องยิ่งกว่านี้

คนข้างหลังพยายามย่างก้าวตามหญิงสาวเบากริบเพราะอยากเฝ้ามองท่วงท่าเดินของเธอเงียบๆ
แต่สุดท้ายวนัสสาก็รู้ว่าตนเองไม่ได้อยู่คนเดียว เธอชะงัก เอี้ยวตัวกลับมาดูว่าใคร

“จุๆ วันนี้คุณหนูวัยทีนของเราแปลงกายเป็นผีเสื้อราตรีหรือยังไง”

เสียงเหมือนผู้ใหญ่แหย่เด็กอย่างนั้นทำให้เธอขำวาริช แปลกจริง...คิดว่าเขาจะไม่อยู่เสียอีก
ดูเหมือนว่าจุดประสงค์ของเขาคือแหย่ให้เธอเขิน แต่เมื่อหญิงสาวยังไว้ท่าได้อย่างสง่า
ก็เป็นชายหนุ่มเสียอีกที่คล้ายจะนิ่งงันไปในรูปโฉมที่ถูกแต่งแต้มให้เฉิดฉายขึ้นกว่ายามปกติ

“ค่ะ เมื่อวานยังเป็นดักแด้ วันนี้เป็นผีเสื้อเต็มวัย”

“อายุคุณดูเพิ่มขึ้น...บวกห้าปี จากสิบแปดเป็นยี่สิบสามเท่าจริงแล้ว
แต่ถ้าด้านความสวย ผมให้คูณร้อยเลย...”

วาริชพูดพร้อมยิ้มกว้างอย่างชื่นชม แต่แววตาที่เขาพยายามสื่อออกไปก็ยังคล้าย
กึ่งพอใจกึ่งหวงน้องสาว ไม่อยากจะปล่อยไปพ้นสายตา เพราะกลัวเธอไม่รู้เท่าทัน
โลกราตรีหรือหลงไปหาแสงสีอย่างใดเข้า ก็วนัสสาดูน่ารักน่าปกป้องถึงขนาดนั้น

แต่ชุดราตรีที่เธอใส่ไม่เพียงแค่ปาดเปิดตลอดช่วงไหล่ ด้านหลังยังเห็นหลังขาวผ่องลอดมา
กระทบสายตารำไร ระหว่างเส้นสีดำตุ้งติ้งที่ห้อยไขว้กันเป็นสายระย้าทิ้งตัวเป็นตาข่ายทาบแผ่นหลัง

ถ้าคนตาไวอย่างเขามองไม่ผิด คลับคล้ายคลับคลาว่าจะมีรอยสักอยู่ด้วย
แม้เห็นไม่ถนัดว่ารูปอะไร หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็น ‘สาวมั่น’ ยิ่งกว่าที่คิด

เธอขาวมาก ขาวอมชมพู ผิวบางใส เขาเคยมีเพื่อนผิวอย่างนี้ เวลาร้อนหรือกินเผ็ดนิดๆหน่อยๆ
ตัวก็จะแดงสุกเป็นกุ้งได้ง่ายดาย ทำให้คนตรงหน้าดูน่าแกล้งเป็นที่สุด ยิ่งเมื่อรวมกับเครื่องหน้าจิ้มลิ้ม
ขนตาสีอ่อน ตาใสสีน้ำตาล...เหมือนบิดาเธอที่เขาเคยรู้จัก ปากชมพูจางวันนี้ถูกแต่งเติมด้วยลิปสติกสีนู้ด
เคลือบไว้เป็นเงา ผมเป็นคลื่นพลิ้วไหวบางส่วนทิ้งตัวลงมาจากที่เกล้าไว้ น่ากระตุกให้หลุดลุ่ยลงมายิ่งกว่าที่เป็น
คงเย้ายวนน่าดู ไม่ละ...เขาชักไม่อยากจะคิดต่อ ชายหนุ่มยิ้ม ส่ายหน้ากับตัวเอง

“ขอบคุณที่ชมค่ะหมอริช” หญิงสาวเรียกเขาสั้นๆง่ายๆอย่างนั้นเอง อยากมาตีซี้เธอก่อนเองนี่

“ไปไหนครับ มีใครมารับหรือยัง”

“ไปงานฉลองหมั้นรอบค่ำค่ะ ตึกบลูไดมอนด์นี่เอง ไม่ไกล คุณเบ็นเรียกแท็กซี่ให้แล้ว เดี๋ยวคงมา”

พ่อบ้านเบ็นเดินเข้ามารับวนัสสาพอในตอนนั้นพอดี แต่วาริชยืนธนบัตรใบหนึ่งให้
“ค่าเสียเวลาไว้ให้แท็กซี่ ส่วนคุณหนูวนัส ผมจะไปส่งเธอเองเพราะมีธุระจะผ่านไปทางนั้นพอดี โอเคไหมครับ”
คำท้ายเขาหันมาเอ่ยถามยิ้มๆ ไม่ใช่ออกคำสั่งคุกคาม แต่คล้ายกำลังเอาใจใส่ดูแลเพื่อนอย่างน่ารัก

“ก็ได้ค่ะ... แต่ค่าเสียเวลาให้ฉันเป็นคนจ่าย” หญิงสาวทำท่าจะเปิดกระเป๋า

“ไม่เป็นไร” วาริชใช้ปลายนิดแตะปิดกระเป๋าถือนั้นลง “ไว้รอทิปผมแทนก็แล้วกัน”



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ค. 2556, 09:50:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ก.ค. 2556, 09:50:55 น.

จำนวนการเข้าชม : 1487





<< ความทรงจำที่ ๒ คฤหาสน์ลับกลางกรุง (...จบบท)   ความทรงจำที่ ๓ ตามรอยผีเสื้อ(...จบบท) >>
อสิตา 22 ก.ค. 2556, 09:55:18 น.
คุณปลายสี – ดีใจที่แวะมาอ่านค่ะ หนุ่มๆในเรื่องนี้รับรองว่าเจอนางเอกแบบไม่ธรรมดาทุกราย หุหุ
คุณภาวิน – เจอสไตล์การตัดบทแบบอสิฯ ต้องทิ้งไว้ให้ลุ้นกันนิดนึง
คุณบุลินทร – ใครเจ้าแม่หวิว เรียกว่าฉากวาบหวามหวั่นไหวตะหาก มันต่างกันนะ


อสิตา 22 ก.ค. 2556, 10:00:03 น.
คุณริญจน์ธร – ขอบคุณน้องๆทีมอัญมณีที่ตามมาช่วยให้กำลังใจ สัมผัสแล้วก็...

คุณดังปัณณ์ – วันหยุดแบบนี้ไปเที่ยวไหนรึเปล่า อย่าลืมตามมาอ่านต่อนะคะ
หวังว่าจะมีปมน่ารักน่าลุ้นช่วยกระตุ้นให้อยากรู้ต่อๆไป

คุณหนูอุ๊อิ๊ – ใช่ เรื่องนี้มีพลังกันหลาย ตัวละครออกมามากมายไม่รู้จะเลือกชอบใครดี หนูอุ๊ชอบหนุ่มสไตล์ไหนล่ะ

คุณพระอาทิตย์สีทอง – หนุ่มปริศนามีหลายคนนะคะ แต่ใครคือตัวจริง ไม่แน่อาจเป็นคนแรกที่ออกมานี่เอง
เพราะจะได้เซอไพรส์หลอกซ้อนหลอกคนอ่านอีกที หรือว่าจะเป็นคนกลาง หรือว่าคนสุดท้ายกันน้า...

คุณพันธุ์แตงกวา – หุหุ นางเอกสปาร์คไหมไม่รู้ แต่อยากรู้ว่าคนอ่านสปาร์ครึยัง หรือจะรอพิณาคนต่อไปก่อนก็ได้น้า

คุณเมล็ดทานตะวันซันซี๊ดดดด – นั่นสินะคะ นกอ้วน สงสัยคนเขียนจะชอบตัวอะไรอ้วนๆน่ะ

คุณเลิฟหมวย – หุหุ ทำไมถึงลืม อันนี้คำตอบซ่อนตัวให้เดากันสนุกๆค่ะ ความลุ้นน่าจะอยู่ตรง
ขั้นตอนการทำให้แต่ละคนลืมด้วยแหละ และการที่แต่ละคนจะนึกออกด้วย

คุณสุขุมวิท66 (ทำไมถึงตั้งชื่อนี้คะ คนเขียนอยากรู้มาก55) – มาต่อแล้วค่ะ วันหยุดไม่ได้ไปตจว.
ไม่รู้คนอ่านไปเที่ยวกันหมดแล้วรึยัง ขอให้สนุกกันอีกตอนนะคะ

คุณเฟอร์ก้นตุ่ย – มาช้าจังเฟอร์ เริ่มเดาใจมะม้าถูกละนะ ตรงประโยคสุดท้าย แต่จะว่าไม่มีมันก็ไม่เชิงงะ
เรื่องนี้มะม้าต้องการได้ความเห็นจากหมอนะ พราะมีเรื่องการแพทย์เยอะเลย ทำตัวเป็นลุกสาวที่น่ารักด้วยล่า อุอุ

(คุณ)กระต่ายผ้าขี้ริ้ว – คนเขียนน้ำลายสอทั้งสามหนุ่มเลยค่ะ งานนี้จริงๆไม่ได้โม้ ปกติจะชอบตัวร้ายนำ
แต่คราวนี้แค่พระเอกสามคนก็เหลือกินเหลือใช้


บุลินทร 22 ก.ค. 2556, 10:58:00 น.
อีกตัวบินไปเที่ยวไหนละ รอชมปก คงอลังการแน่ๆชุดนี้


lovemuay 22 ก.ค. 2556, 13:25:02 น.
หนังสือเล่มนั้น จะซ่อนความลับอะไรไว้รึป่าวนะ?


Zephyr 22 ก.ค. 2556, 14:58:41 น.
ชิชะ ลุงริชคิดจะทำอะไรเนี่ย
อยากเรียกหนูน้อยดีนัก ชึชึ งั้นเป็นลุงไปเลยปายยยยย
หนังสือตกเอง คริคระ ลมก็ไม่มี อึ้ยยยยยย ซ่อนไรไว้ในห้องอ่า ไม่อาวววววน้า
ไม่เอาสิ่งลี้ลับหลอกหลอน
ว่าแต่ลุงริชอยากได้ทิปเป็นอารายยยยยย


ดังปัณณ์ 22 ก.ค. 2556, 17:12:13 น.
มาแล้วคร้าาาาาาาาาาาาาา ยกมือรออ่านคร่าาาาาาาาาาาาาาา แหมๆๆๆๆ นกตัวเมีย...หึงหราาาาาาาาาาาาา (อิตาหมอริช จะเสน่ห์แรงไปแระ) อิๆ


พันธุ์แตงกวา 22 ก.ค. 2556, 17:38:18 น.
สปาร์คตั้งกะอยู่ใต้ฝักบัวแล้วตัวเอง
อยากจะเอานังนกกระจอกมาแกงป่า หนอย ทำเป็นแหนบมือหนูวนัส มันน่านัก
กริ้วๆๆ คุณหมอวาริช จาไปส่ง รอตอนต่อไปฮับ


Sukhumvit66 22 ก.ค. 2556, 18:35:17 น.
(เป็นชื่อวงดนตรีวงหนึ่งค่ะ ตอนตั้งฟังเพลงของวงนี้อยู่พอดีเลย)

อยากเจอสองหนุ่มที่เหลือแล้วค่ะ เดาไม่ออกว่าใครจะเป็นพระเอกอ่ะ


goldensun 22 ก.ค. 2556, 21:48:15 น.
นึกว่าโดนมือปุ๊บ จะเห็นปั๊บว่านกโดนช่วยยังไงซะอีก พลังสีน้ำเงินซะด้วย ตอนนี้สีน้ำเงินเพียบเล
หนังสือตกเรียกร้องให้อ่าน แต่วนัสใจเย็นจัง ไม่อ่านซะที
หมอริชเอ็นดูวนัสแล้ว ตกลงจะปกป้องไว้แกล้งเองคนเดียวใช่มั้ยคะ


SunSeed 22 ก.ค. 2556, 22:42:50 น.
นางเอกยี่สิบสาม พระเอกยี่สิบแปด อ่านๆตั้งนาน ตัวละครดู สูงวัย (ทางความคิด) กว่าอายุ กันจังเลยนะคะ โหะๆๆๆๆ


ภาวิน 23 ก.ค. 2556, 05:58:04 น.
ไม่ว่าหมอริชจะเป็นพระเอกหรือไม่ อิฉันก็เทใจให้หมดแล้วละ


konhin 23 ก.ค. 2556, 09:23:27 น.
ว้าวววววว คุณหมออย่าพลาด จะใช่คนที่ตามหามั้ยน้อออ


ริญจน์ธร 23 ก.ค. 2556, 12:10:03 น.
วาริชใช่พระเอกรึเปล่าน้อ


ก็เป็นได้แค่กระต่ายผ้าขี้ริ้ว 23 ก.ค. 2556, 21:13:42 น.
ที่นางเอกรู้สึกเหมือนมีใครบางคนอยู่ในห้องด้วย ระวังให้ดีน้าาาา ดีไม่ดีอาจจะคลานขึ้นมานอนบนเตียงด้วยก็ได้ เอิ๊กๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account