เงารักสีน้ำเงิน {นวนิยายชุด"ความลับของผีเสื้อ" สนพ.อรุณ}
วนัสสาตื่นขึ้นมาพบว่าความทรงจำของเธอหายไปถึงสองเดือน...
แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือรอยสักรูปผีเสื้อตรงกลางหลัง กับกระดาษแผ่นเดียวในมือเป็นเบาะแส
เธอคือผีเสื้อ แต่ใครกันคือดอกไม้ของเธอ...คือคนรักที่เธอหลงลืมไป
จะเป็นนวาระผู้มีรอยสักรูปดอกกุหลาบ
เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินอย่างวาริช
หรือใครบางคนที่มีชื่อเป็นความหมายของสีสัน อย่างคราม...
Tags: วนัสสา ความลับของผีเสื้อ วาริช อินดิโก้ คราม นวาระ การทดลอง พลังจิต

ตอน: ความทรงจำที่ ๔ อินดิโก้...บลู

“จริงๆนะคุณหนูวนัส ผมไม่เคยเจอใครที่เห็นหน้าแล้วก็เกลียดขี้หน้ากันทันทีอย่าง
ไอ้ตี๋ที่ขับรถมาชนผมเมื่อวานเลย มันว่าไงรู้ไหมครับ...มันว่ามันอยู่แต่เมืองนอก
ไม่ชินกับรถพวงมาลัยขวา ลองคิดดูนะ ฝรั่งอย่างผมถูกไอ้ตี๋คนนึงพูดใส่หน้ายังงั้นน่ะ”
วาริชว่าพลางหัวเราะร่วน เหมือนไม่ได้โกรธเกรี้ยวอะไรตามที่บอกว่าโกรธเลย
เมื่อวนัสสาซึ่งออกมาเดินเล่นตอนสายเห็นเขาเอารถสีบรอนซ์คันใหม่มาจอดเปลี่ยนไว้แทนที่คันดำ

“ดีนะคะ แค่รถพัง คนไม่พังไปด้วย”

“ครับ เพราะถ้าเป็นงั้นก็คงไม่มีใครรับซ่อม ไม่มีใครดูแล...แย่”

วนัสสาหัวเราะกับน้ำเสียงของเขาที่ดูเป็นการแหย่ให้เธอขำมากกว่าการจีบจริงจัง

ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ เห็นเจ้าของร่างบางยกแขนขึ้นกอดอกคล้ายพยายามสร้างเกราะป้องกัน
ที่มองไม่เห็นด้วยอาการนั้น เขาตัวใหญ่ แล้วก็รู้สึกว่าเธอตัวเล็กนิดเดียว สวยน่ารักด้วยผิวขาวแปลกตา
ผมสีน้ำตาลไหม้ กับดวงตาน้ำตาลอ่อนกว่าสาวไทยทุกคนที่เคยพบ ทั้งยังถูกขับให้ชวนมองยิ่งขึ้นด้วยขี้แมลงวัน
ที่ริมหางตาข้างซ้าย วาริชถามตัวเองว่าจะจัดการอย่างไรดีให้สมกับความน่ารักของเธอ จีบจริงๆเสียเลยดีไหม...
เจอคนสวยมาก็มาก แต่อย่างเธอที่อยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้ บอกตรงๆว่านางเอกแถวหน้าก็คงสู้รัศมีได้ยาก

ทว่าชั่วอึดใจนั้น เสียงคำรามของรถญี่ปุ่นคันหนึ่งก็ดังขึ้นขัดจังหวะ พร้อมกับกระบังหน้าของรถสีขาวนั้น
เคลื่อนเข้ามาจ่อ ยืนยันเจตนารมณ์ว่าจะเข้าจอดให้ได้ตรงช่องจอดรถที่ทั้งคู่ขวางอยู่

“อะไรของมัน ที่ว่างมีตั้งเยอะไม่รู้จักเสียบเข้าไป”

เมื่อเห็นวาริชยังยืนกร่างคล้ายอยากจะท้าทายวนัสสาจึงเป็นฝ่ายดึงแขนเขาหลบ
“คงคิดว่าจอดตรงนี้เดินใกล้ดีมังคะ”
หญิงสาวเปรยทั้งที่ก็รู้สึกขวางเจ้าของรถที่ทำเร่งเครื่องใส่อย่างเสียมารยาทอยู่เหมือนกัน

“เห็นแล้วอารมณ์เสีย ไอ้รถนี่หน้าตายังกับรถคันเมื่อวานที่ผม...”

ประตูด้านคนขับเปิดออก และทันทีที่วาริชเห็นตัวคนซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผู้พักรายใหม่
วนัสสาก็รู้สึกได้ว่าชายหนุ่มนิ่งอั้นไป ก่อนจะสบถออกมา

“ไอ้หมอนี่เลย! ไอ้ตี๋คนเมื่อวาน ซวยจริงๆ ดันมาเจอเข้าอีก” สัตวแพทย์หนุ่มเอ่ยเสียงต่ำห้าว

วนัสสาเห็นตัวเขาทีหลังเพราะวาริชเอาร่างสูงหนาบังเธอไว้ครึ่งๆ หญิงสาวก้าวออกไปมองอย่างสนอกสนใจ
คนมีเรื่องกันเกิดจะมาพักอยู่บ้านเดียวกันงั้นหรือ แบบนี้ท่าจะไม่ค่อยดี ทว่าทันทีที่เห็นเขา
เธอกลับตะลึงยิ่งกว่าวาริช รู้สึกราวความจำในห้วงลึกถูกกระตุกแรง ไม่ใช่ความจำในช่วงที่หลงลืมไป
แต่เป็นเวลาก่อนหน้านี้นานหลายปี...

ที่จริงไม่ควรจะเรียกว่าไอ้ตี๋ได้เลย แต่เพราะวาริชคงมีอคติเต็มเหนี่ยวกับผู้ชายตรงหน้า
ดวงตาคมปานเหยี่ยว คิ้วที่ปาดป้ายเฉียงขึ้นไปราวกับถูกวาดไว้ด้วยพู่กันจีน จมูกเขาโด่ง
หน้าขาวเรียวได้รูปเฉียบเหมือนมีเชื้อคนตะวันตกอยู่ส่วนหนึ่งแม้จะไม่มากเท่าวาริช
และส่วนสูงของเขาก็ดูจะน้อยกว่าสัตวแพทย์หนุ่มหุ่นนักว่ายน้ำโอลิมปิกที่ยังยืนปักหลัก
แผ่รังสีอำมหิตคล้ายจะคุ้มกันเธอไว้จากชายผู้มาใหม่อยู่กลายๆ

ร่างสูงเพรียวได้ส่วนเดินมาเปิดกระโปรงท้ายรถ คว้าของที่ต้องการเสร็จก็ปิดมันลงแรงๆ
ยามเมื่อถือกระเป๋าหนังดำทรงเหลี่ยมซึ่งดูแพงระยับดีไซน์ทันสมัยนั้นไว้ไหล่กว้างของเขา
แทบไม่ลู่ลงตามน้ำหนักของมันเลย บ่งบอกว่าเจ้าตัวเป็นคนทระนงและรักษามาดพร้อมไว้เสมอ

เขาคงจะเห็นแต่แรกแล้วว่ามาเจอเอากับคู่กรณีเมื่อวันวานอีกหนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ผมเขายังเหมือนอย่างที่วนัสสาจำได้คือแสกข้าง ตัดไว้คล้ายผมของสตรีแต่ช่วงปลายถูกซอยให้
โค้งงอหลบเข้าหาท้ายทอย ชายหนุ่มเอาผมทัดหูไว้ทั้งสองข้าง เปิดให้เห็นไรเคราและจอนสีเขียวจางๆ
ตัดกับผิวขาวเหลืองอย่างน่าดู หน้าตาแบบนี้ บุคลิกโดดเด่นอย่างนี้ ไม่มีทางที่วนัสสาจะลืมอีกฝ่ายได้เลย

คนมาใหม่ตวัดหางตามองวาริชยามเดินผ่าน แล้วตาเรียวคมนั้นก็ย้ายมาสบกับสายตาของวนัสสา
เธอเห็นมันเปลี่ยนไปวูบ แต่แล้วเขาก็เดินผ่านหน้าทั้งคู่ไป ไม่คิดหยุดทักทาย

“รอยบุบเมื่อวานยังอยู่เลย หิ้วกระเป๋าเสียหรู แต่สงสัยไม่มีรถคันอื่นจะใช้” วาริชรำพึง

ตอนนั้นหญิงสาวไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ได้แต่มองตามการเคลื่อนไหวของเขาไป
พร้อมๆกับที่ความทรงจำเก่าก่อนกำลังค่อยๆหลั่งไหลผุดขึ้นในใจ ถาโถมเข้ามาเหมือนกับสีสันที่พร่างพราย



คืนนั้นก็ผ่านมานานหลายปีแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังจำทุกฉากทุกตอนได้ดี ที่สำคัญ เขาเป็น...ผู้ชายอีกคน
ที่เธอเคยสัมผัสได้ถึง ‘สีน้ำเงิน’ น้ำเงินเข้มลึกแต่สดใส...อย่างที่เรียกว่าอินดิโก้บลู

หลายปีก่อน เธอตัดสินใจออกไปเที่ยวกลางคืนกับเฟย์ครั้งแรก
ไม่แปลกสำหรับวัยรุ่นชายหญิงสมัยนี้ที่จะอยากรู้อยากเห็นโลกซึ่งตนเองไม่เคยพบพาน
เฟย์โตกว่าวนัสสาปีหนึ่งจึงอายุยี่สิบพอดี แต่เธอเองยังอายุสิบเก้า เรียกได้ว่าไม่ถึงเกณฑ์
จะเข้าสถานบันเทิงยามราตรีที่บางแห่งสิบแปดก็ปล่อยเข้าแล้ว แต่บางแห่งต้องยี่สิบเป็นมาตรฐาน

‘น่า นะคะ พี่รูปหล่อให้เพื่อนพวกหนูเข้าไปด้วยเถอะ อีกไม่กี่เดือนก็ยี่สิบแล้ว หยวนๆหน่อยนะ’

อาจเพราะหน้าตาดีจนใช้ช่วยยกระดับสถานที่ได้ด้วยอย่างหนึ่ง สุดท้ายเธอก็หลุดผ่านคนเฝ้าประตู
เข้าไปจนได้เพราะเพื่อนๆช่วยกันใช้ลูกอ้อน ก็อย่างว่า สมัยนี้ลองมีเงิน ใครอยากจะทำอะไรก็ทำ
วนัสสาเองเป็นคนกล้า อีกอย่างเธอก็ไม่อยากจะทำให้งานกร่อยเมื่อคนอื่นที่อยากสนุกจะต้องมาติดแหง่ก
เพราะตัวเองเข้าไม่ได้คนเดียว ลงตัดสินใจออกมาด้วยกันแบบนี้ ถึงไหนก็ต้องถึงกัน...

เพื่อนสาวคนสนิทของเธออย่างเฟย์นั้นสวมกระโปรงยีนกับเสื้อยืดมีสายเชือกโยงไปผูกไว้หลังคอ
ทับเกาะอกสีสดข้างใน ส่วนวนัสสาเองเป็นกางเกงยีนและเสื้อกล้ามสปอร์ตสีเหลืองเข้มตัวโปรด
พิมพ์ลายตัวเขียนอ่อนช้อยสีดำไว้ที่อกว่า Lady และบรรทัดล่าง LoveLess พร้อมทั้งรูปหัวใจถูกขีดฆ่า
อย่างกับจะท้าทายให้ใครมาพิชิตใจอย่างไรอย่างนั้น เธอคิดว่าคงไม่เป็นไร เพราะเพื่อนชายสามคน
ที่เรียนมาด้วยกันไม่ใช่พวกฉวยโอกาส และก็คงจะปกป้องผู้หญิงทั้งห้าซึ่งพวกเขาพามาเป็นอย่างดี

มาย้อนคิดดูแล้ว คืนนั้นอาจยังเป็นโชคดีของวนัสสาที่ไม่ต้องเจอบทเรียนหรือประสบการณ์แย่ๆ
อาจเพราะสถานที่ที่เธอกับเพื่อนเลือกไปไม่ได้เลวร้ายแต่อยู่ในระดับดีพอใช้ มีผับส่วนกลาง
แล้วก็มีแยกแตกแขนงออกไปเป็นห้องคาราโอกะห้องใหญ่น้อยกั้นด้วยกระจกใส
ดังนั้นเมื่อชักเริ่มเบื่อกับบรรยากาศโหวกเหวกทั้งกลุ่มก็ย้ายกันเข้าไปในห้องคาราโอเกะ
ซึ่งเป็นสัดส่วนกว่ากัน
ในขณะที่เพื่อนๆดื่มเบียร์ เฟย์กับวนัสสายืนยันจะดื่มเป๊บซี่ที่ถูกเพิ่มราคาจนแพงหูฉี่ในสถานที่เช่นนี้
น้ำเมาน่ะหรือ ไม่ว่าใครต่อใครลองถ้าได้เข้าคณะอย่างศิลปกรรมก็ถูกรุ่นพี่บังคับให้กระดกตั้งแต่รับน้อง
หรือตั้งแต่ปีหนึ่งนั่นแล้ว ตอนนี้พวกเธออยู่ปีสาม เลยช่วงที่จะตื่นเต้นกับของแบบนั้นมานานโข

‘ขมจะตายไปไม่เห็นอร่อย พวกเรามันผู้หญิงหวานซ่าเนอะเฟย์’
วนัสสาทำท่าโงนเงนอย่างแกล้งเมาดิบเอ่ยสนุกสนาน

‘นั่นสิ เพราะคิดตรงกันตลอดอย่างนี้ปะป๊าเธอถึงได้ว่าเราเป็นแฝดคนละฝาอยู่เรื่อย เฮ้อ
ก็มีแต่พ่อเธอนี่แหละน้าวนัส ที่ชอบฉัน พ่อแม่คนอื่นรวมถึงแม่เลี้ยงเธอเอาแต่จะว่าฉันพาลูกเสียเด็ก’

ทั้งหมดร้องคาราโอเกะกันทั้งเพลงไทยและเทศไปจนถึงลูกทุ่ง โดยมีวนัสสาซึ่งเก่งเรื่องเต้นกว่าใคร
ทำหน้าที่เป็นแด๊นเซอร์ให้เพื่อนๆได้กรี๊ดกร๊าดและเต้นตามกัน แม้แต่พวกผู้ชายก็ลุกขึ้นส่ายสะโพกไปด้วย
รวมๆแล้วก็ออกมาเป็นภาพที่น่าขำสิ้นดี

ทีแรกไม่มีใครสังเกต ว่ามีฝรั่งผมทองตาน้ำข้าวหน้าทะเล้นคนหนึ่ง เริ่มจากมายืนดูพวกเขาเงียบๆอยู่หน้าห้อง
กระจก พอวนัสสาเห็นจึงสะกิดให้เฟย์ดูหนุ่มคนดังกล่าว

‘บ้าจริงเชียว สุดหล่อนี่เสียมารยาทมายืนมองสาวเต้น’
เฟย์บ่นคิกคัก ยิ่งเมื่อเห็นอีกฝ่ายชักเริ่มออกท่าเต้นตามอยู่นอกห้อง

‘ดีเนอะ ถ้าหน้าเห่ยคงว่าโรคจิต พอหล่อหน่อยแถมเป็นฝรั่ง ทำอะไรก็น่ารักไปหม๊ด---’
เพื่อนชายคนหนึ่งส่งเสียงอ้อแอ้ล้อเลียนอย่างไม่จริงจัง

‘แน่ะดูสิ เต้นท่าเซิ้งก็เป็นด้วย’ เพื่อนสาวอีกสองคนอุทานอย่างเอ็นดู

สุดท้ายชายหนุ่มคนดังกล่าวก็ถูกดึงตัวเข้ามาเต้นด้วยกันในห้องท่ามกลางเสียงหัวเราะ
เขาเมาหน่อยๆและพอจะพูดไทยแบบเพี้ยนๆได้ ซึ่งเพื่อนทุกคนแม้แต่พวกผู้ชายก็เห็นว่าตลกดี

‘พ้มนายลอเรนซ์คร้าบ ยินดีที่ได้รู้จัก’

‘เป็นนักท่องเที่ยวเหรอคะ’ เฟย์ชวนคุย

‘เพิ่งย้ายมาทำงานที่เมืองทายคร้าบ คนปราเทศนี้น่ารักทุกคนเลย’ หนุ่มผมทองเริ่มหยอดด้วยมุก
ที่คงจะใช้ได้ผลมาหลายทีแล้วก่อนจะเต้นสะบัดต่อไปตามเพลง เต้นไปเม้าท์ตอบเหล่าเจ้าบ้านที่
สนุกกับการยั่วแหย่ไม่หยุดหย่อนไป

ดีตรงเพื่อนชายที่มาด้วยกับกลุ่มของวนัสสานั้นก็พอจะดูคนเป็น ไม่ใช่เห็นคนแหยมเข้ามาก็เขม่นแหลก
จึงไม่มีใครว่าอะไรกับการที่มีเพื่อนใหม่ต่างชาติมาดึงความสนใจของสาวๆในกลุ่มไป ลอเรนซ์สนุกสนาน
อยู่กับหนุ่มๆสาวๆชาวไทยเป็นครู่ใหญ่ จนที่สุด คนในห้องก็เริ่มรู้สึกได้ว่ามีใครอีกคนจับจ้องเข้ามา
เขาไม่จ้องเปล่า ยังเดินมาเคาะประตูแล้วเปิดเข้ามาอีกด้วย

‘โอ้ว-- แย่แล้ว เพื่อนพ้มมาตามจิก’
ชายต่างชาติร้องด้วยสำนวนไทยๆสมัยใหม่ที่คงจะติดมาจากคนรอบข้าง เรียกเสียงหัวเราะขึ้นได้อีก

คนหล่อระเบิดที่มาใหม่นั้นมีเค้าหน้าเหมือนคนไทยผสมจีนฮ่องกงรวมกันแต่หนักไปทางจีนเป็นเอก
โดยเฉพาะทั้งคิ้วและตาของเขาที่ราวกับตวัดเอาไว้ด้วยพู่กันฝีมือศิลปิน แต่บางอย่างในรูปหน้า
ก็พอจะบอกได้ว่ามีเชื้อตะวันตกปนเปอยู่ในสายเลือดของเขาด้วย

‘ขอโทษที เพื่อนผมเมาแล้วชอบทำตัวเกะกะ ผมจะลากมันกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ’ หนุ่มหน้านิ่งผู้มาใหม่ว่า

‘โอ๊ย--- อะไรกันคะกำลังสนุกกันอยู่เลย อย่าเพิ่งไปซี่ ว่าแต่คุณเถอะ ถ้าไม่รังเกียจก็มาแด๊นซ์กับพวกเรา
แบบลอเรนซ์ไม่ดีกว่าเหรอคะ’ สาวๆไม่พูดเปล่า พากันช่วยปิดทางหนีของหนุ่มหล่อเสียอีกด้วย

ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น ไม่เชิงว่าจะยิ้มแต่ก็ไม่บึ้ง เขาเอียงคอมองแต่ละคนเต้นกระแทกกระทั้น
ไปตามจังหวะหนักหน่วงของดนตรี วนัสสาคิดว่าหากเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ที่ไทยมาพอสมควรคงดูรู้
ว่ากลุ่มของเธอไม่ใช่พวกกร้านราตรี แต่ก็มีใจเสรีพอที่จะไม่เคอะเขินกับเพื่อนใหม่ เขามองไล่ไปทีละคน
แล้วก็มาหยุดตรงวนัสสานี่เอง

ท่ามกลางแสงไฟหลากสีซึ่งฉาบฉายลงมา ไล่เป็นเฉดอย่างมีศิลป์
เขียว เหลือง แสด แดง ชมพู ม่วง คราม...น้ำเงิน แล้วเธอก็เห็นว่าเขาดูเหมาะกับโทนสีสุดท้ายเป็นที่สุด

‘อินดิโก้ ชาง ผมเรียกมัน อินดี้... แต่แกชอบให้เพื่อนคนไทยเรียกว่าไงนะ’

เจ้าตัวไม่ตอบ ได้แต่ส่ายหน้าปรามลอเรนซ์

‘ชื่ออินดี้น่ารักดี’ เพื่อนของวนัสสาเอ่ย ‘มาร่วมวงกับพวกเราเถอะค่ะ คุณพูดไทยได้นี่ ร้องเพลงไทยเป็นหรือเปล่า’

‘ผมไม่ถนัด’ ชายหนุ่มว่า

‘เต้นล่ะ’ สาวคนเดิมยังเย้า

‘ท่าทางจะไม่ไหวหรอก ให้เขานั่งดูคนอื่นไปแล้วกัน’ วนัสสาเห็นคนหน้าขรึมแล้วก็หมั่นไส้เลยพูดแบบนั้นออกไป

เขาหันมายังเธออีกครั้ง ด้วยสีหน้าที่คล้ายจะถือตัวทว่าดวงตานั้นมีแววยิ้มๆ กึ่งเยาะกึ่งขำเอ็นดู
อย่างไรบอกไม่ถูก คล้ายเจ้าตัวก็ยังไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกอย่างไรกับเธอที่ดูเป็นของแปลกในสายตาเขา
คงเหมือนกับใครๆซึ่งแปลกใจยามเห็นสาวรูปร่างหน้าตาเหมือนตุ๊กตาเต้นได้แทบไม่ต่างจากชากีร่า
ที่กำลังส่ายสะโพกดอกไม้ไหวกับ Whenever Wherever เพลงซึ่งแม้จะออกมาหลายปีแล้ว
แต่ก็เป็นเพลงดังข้ามโลกที่ใครไม่รู้จักก็เห็นจะไม่ใช่หนุ่มสาวของยุคนี้อย่างแน่นอน

ทุกคนดูเหมือนจะคาดไม่ถึง เมื่อหนุ่มตี๋อินเตอร์ก้าวยาวๆไปยืนต่อหน้าวนัสสา แล้วเริ่มเต้นประชัน
กับเธออย่างไม่ยอมแพ้ สาวๆส่งเสียงกรี๊ดกันจนห้องแทบแตก ...ในขณะทำเรื่องสุดโต่งนั้น
หน้าเขาแทบไม่ได้เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแววตาที่เจิดจ้า ท้าทาย

หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ หายากที่จะมีผู้ชายเต้นสู้เธอได้ขนาดนี้ อย่างน้อยเขาก็คงจะเรียนมา
หรือสนใจอย่างจริงจัง แน่ละ เธอเองก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน กับเพลงนี้เธอเต้นตามได้เป๊ะอย่างกับ
เจ้าของเพลงมาเอง เพราะติดใจลีลาเหมือนนักระบำหน้าท้องยุคใหม่ เอามาหัดเต้นตามได้ทั้งเพลง
แต่ดูท่าคู่ต่อสู้เองก็เต้นได้โดยไม่ต้องดูจอเหมือนกัน หรือว่าจะเป็นพวกตุ้งติ้ง ถึงได้แม่นท่าเพลงที่
ครองใจชาวสีม่วงแบบนี้ ทว่าท่าเต้นของเขาแม้จะพลิ้วไหวก็ยังดูหนักแน่นอย่างผู้ชายมากกว่า

บ้าจริง...เจ้าพวกนี้เห็นเธอกับนายอินดิโก้เต้นกันได้แบบสุดๆเลยกดเพลงเดิมซ้ำรอบสอง
วนัสสาก็เลยจำต้องส่ายแบบไม่ให้พลาด ไม่คิดจะยอมแพ้เขาเหมือนกัน คนอะไร ทำหน้านิ่งๆ
แต่ยังทะลึ่งมาเต้นประชันเธอได้เป็นวรรคเป็นเวร จะหลุดยิ้มสักนิดก็ไม่มี

‘เพื่อนคุณชื่ออะไร ลีลาใช้ได้’

แน่ะ แทนที่จะถามกับตัวเธอเขากลับหันไปถามยายเฟย์เสียอีก ซึ่งฝ่ายนั้นก็หัวเราะร่วน ตอบยาวแบบไม่กั๊ก
‘วนัสสาค่ะ คนตั้งจงใจให้หมายถึงผีเสื้อ มาจากคำว่าวาเนสซ่า
น่าจะเรียกง่ายกว่าถ้าสำหรับคนพูดไทยไม่ชัดแบบลอเรนซ์ ใช่ไหมวนัส’

‘ผีเสื้องั้นเหรอ...’ ชายหนุ่มหันมาเปรยกับเธอ แล้วก็เผยยิ้มมุมปากออกมาหน่อยหนึ่งเป็นครั้งแรก
ยิ่งทำให้หน้าของเขาเฉี่ยวชวนมองยิ่งขึ้นไปอีก

หญิงสาวเมินไปจากตาเรียวคมสองชั้นหลบใน แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่หยุดเต้นเธอเองก็ไม่หยุด
จนเพลงเปลี่ยนไปหลายเพลง บริทนี่ย์ สเปียร์ ไล่มาบียอนเซ่ พอไม่รู้ท่าเต้นทั้งคู่ก็ยังด้นสด
กันไปได้เองจนคนดูเหนื่อยแทน จังหวะหนึ่งมีเพื่อนตัวดีแกล้งเต้นเอาสะโพกมาชนวนัสสา
จนหญิงสาวเซไปปะทะเขาเข้า มือของอินดิโก้สัมผัสแขนเธอ ดูเหมือนเขาจะตกใจเล็กน้อย
คิดว่าเธอเต้นมากจนลมจับหรืออะไรแบบนั้น ทั้งคู่ไม่มีเหงื่อเพราะอากาศในนี้เย็นเฉียบ
แต่วนัสสากำลังเขินจนรู้สึกว่าหน้าจนตลอดไปถึงตัวเธอคงจะแดงเป็นกุ้งไปหมดแล้ว

ในขณะเดียวกันหญิงสาวก็ยังงันไปกับสีสันแห่งความรู้สึกของเขาที่เธอได้เห็น สีน้ำเงิน...
ไม่ใช่อารมณ์โศกเศร้า แต่ดูเย็นเยือกลึกซึ้งราวกับเขาจะเป็นสีนี้อยู่ตลอดเวลา
น้ำเงินที่ลึกลับและซ่อนเร้น เป็นประกายราวหมอกควันระยิบระยับม้วนเกลียวอยู่รอบๆตัวเธอ

‘ดูท่าทางอินดี้จะถูกใจเพื่อนฉัน...’ เฟย์พูดเสียงไม่เบาเลย

‘แต่วนัสคงไปกับหนุ่มต่างชาติได้ยากหน่อย เพราะแม่คนนี้ปวารณาตัวจะถือเพศพรหมจรรย์
จนกว่าจะสิ้นอายุขัยไปเลยละมั้ง’ เพื่อนหญิงอีกคนหัวเราะ

‘ก็จริงนะ แล้วก็อย่าคิดลองดีเลย เพราะพ่อเขาเป็นมาเฟียเมืองไทย
ตามเก็บหนุ่มๆไปเสียนักต่อนักละ ไม่ได้ล้อเล่นนะ’ เพื่อนชายในกลุ่มเอ่ยอย่างอยากจะแกล้งขู่

สองคนที่กำลังถูกพูดถึงเหมือนไม่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น มีแต่ลอเรนซ์ซึ่งเมาได้ที่
เลยส่งเสียงหัวเราะร่วนเอิ๊กๆแทนเพื่อน

อินดิโก้มองเธอนิ่ง ยังมีรอยยิ้มพราวในดวงตาของเขาเมื่อวนัสสารู้สึกตัวในที่สุดและรีบร้อนผละออก
ก่อนขอตัวไปเข้าห้องน้ำ อาจคิดไปเองว่าสายตานั้นยังมองตามเธอมาไม่หยุดหย่อน

แต่แล้วในค่ำคืนที่กำลังสนุกสนานนั้นเอง เธอกลับได้รับโทรศัพท์ด่วนว่าพ่อมีอาการโรคหัวใจกำเริบ
หญิงสาวเลยโทรหาเฟย์ที่เร่งร้อนตามออกมาด้วยเพื่อไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อน เป็นอันว่าไม่ได้
กลับไปบอกลาใคร และหลังจากหายป่วยครั้งนั้นเพียงไม่นานบิดาของวนัสสาก็มีอันหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
นั่นยิ่งทำให้เธอไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น รวมถึงแทบไม่ได้คิดถึงชายคนที่เข้ามากวนใจผู้มีนามเป็น
เฉดหนึ่งของสีน้ำเงินคนนั้นอีกเลย
...แสง สี เสียงในความคิดถอยหลังห่างออกไป

เฉดสีความรู้สึกของเขายังเป็นอินดิโก้บลูที่สดใสและสวยงามสมชื่ออยู่ไหม
แต่สายตาของเขาวันนี้มองเธอไม่เหมือนคราวนั้น จำเธอไม่ได้หรือ... เป็นไปไม่ได้หรอก
แต่จะคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปไหม คนอย่างเขา การไปพบเจอสาวคนใหม่อาจเกิดขึ้นได้ทุกวัน
คิดอีกทาง ถ้าเรื่องราวซึ่งซ่อนอยู่ในความทรงจำที่หายไปของวนัสสาคือสาเหตุให้เขาปรายตา
มองเธออย่างที่เห็นล่ะ เกิดอะไรไม่ดีขึ้นรึเปล่า
ก็ทั้งที่น่าจะมีสายตาที่แสดงให้เห็นว่ารู้สึกดีๆต่อกันกว่านี้ไม่ใช่หรือยังไง

เต้นเก่งถึงอย่างนั้นและวนเวียนมาเกี่ยวข้องกับที่นี่ ...เป็นไปได้ไหมว่าคนที่เต้นรำกับเธอ
คืนสวมหน้ากากนั้นจะเป็นเขา หรือมันจะเป็นการเชื่อมโยงที่ไกลเกินไป




ชายผู้เป็นแขกคนใหม่ของคฤหาสน์สีน้ำเงินกวาดตาไปทั่วๆ ใช้เวลาเพียงวูบ
แต่ก็ไม่คิดจะพลาดรายละเอียดแม้เพียงเสี้ยวเดียว... ขาพาร่างสูงก้าวยาวๆผ่านโถง
ตรงไปยังบันไดโดยไม่รั้งรอหัวหน้าพ่อบ้านชราที่พยายามก้าวตามมาให้ทัน

“เดี๋ยวครับมิสเตอร์อินดิโก้ คุณมาถึงก่อนเวลา ข้าวของบางอย่างในห้องอาจยังเตรียมไว้ไม่พร้อมนัก”

“ช่างเถอะ...คุณอยากจะไปทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายกับผมหรอก”
ชายหนุ่มหิ้วกระเป๋าของตนขึ้นไปจนถึงกลางบันไดหันไปส่งสายตาเย็นเยียบ
เสียงเขาเรียบทว่ากดดันในที ท่ายืนตัวตรงมือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าขณะกล่าว
“ผมไม่สนใจเรื่องจุกจิกพวกนั้น แล้วก็รู้ดีว่าที่นี่อะไรเป็นอะไร...เบ็น”

พ่อบ้านผู้ผึ่งผายเกินวัยคล้ายสะดุ้งน้อยๆกับคำเรียกชื่อ ชายชราหลบตาชายหนุ่มวูบ
ก่อนจะตัดสินใจโค้งสุภาพแล้วถอยจากไปเงียบๆ ไม่รบกวนผู้มาใหม่อีกต่อไป



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ส.ค. 2556, 06:16:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ส.ค. 2556, 06:16:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 1461





<< ความทรงจำก่อนลืมเลือน ค่ำคืนที่หายไป   ความทรงจำที่ ๔ อินดิโก้...บลู (จบบท) >>
อสิตา 1 ส.ค. 2556, 06:22:35 น.
คุณดังปัณณ์(หนอนน้อย) – อาทิตย์ที่แล้วทำไรน็อกคะ งานหนักหรือไร... ทำป้ายไฟเชียร์ไว้ให้ครบดีกว่า
หนุ่มอีกสองคนเค้าก็มั่นใจว่าเค้าเด็ดนะ ไม่มีใครยอมใครแน่ เดี๋ยวก็รู้ *0*
คุณพันธุ์แตงกวา – ตอนเขียนคนเขียนก็ตาเยิ้ม ฉากเต้นรำ ฉากเต้นแซบๆตอนนี้ก็เยิ้มไปอีกแบบ งั่กๆๆ
คุณหนูอุ๊อิ๊ – ตัวละครหล่อมากจริงๆ คนพวกนี้โดนกระทำเยอะมาก แล้วคราวนี้ก็จะโดนอีก เขียนยาก
แล้วก็สนุกมากๆเลยตอนเขียน มันสะใจ*-*

คุณภาวิน – ตัวละครที่เต้นรำกันยังกั๊กไว้อีกนานกว่าจะบอก แต่เราจะสร้างปมและเฉลยส่วนอื่นไปพลางๆ
ตลอดทาง
คุณสุขุมวิท66 – อีกหนุ่มออกมาแล้วน้า หล่อมากๆอเมริกัน+ไชนีส+ไทย แต่นิสัยนี่สิน่าสนใจกว่าความหล่ออีก
คุณเลิฟหมวย – นางเอกและหนุ่มๆมีภารกิจระทึกให้ทำตลอดแน่ค่ะที่ในคฤหาสน์สีน้ำเงินลึกลับแห่งนี้ โอ้ๆๆ
คุณพระอาทิตย์สีทองแสงผ่องใส – คุณโกลเด้นซัน เหมาะจะเป็นบ.ก.มากเลยนะคะ เคยทำงานอะไร
เกี่ยวข้องกับสายนี้ไหมคะ เป๊ะมาก เวลาเม้นต์คำที่เขียนผิดก็รู้สึกจะไม่เคยเห็นเลย ปลาบปลื้ม
คนที่เต้นก็น่าจะอยู่ในสองหนุ่มนั้นค่ะ แต่จะใช่คนรักหรือเปล่าน้า...

คุณก้อนหิน – นั่นสิคะ คำว่าเสียสละ พอตัวเองต้องมาโดนเองบ้างมันคงไม่ง่ายอย่างนั้น เดี๋ยวคงมี
ช่วงที่จะสั่งสอนให้คนพวกนี้รู้สำนึกบ้างแหละ ถึงตอนนั้นเงิบแน่นอน -3-***
คุณแกะน้อย เนื้อนุ่มหางเหนียวเคี้ยวมัน – บ่นทั้งเรื่องฉีดยาและเรื่องกลัวเข็มสัก
มาจากจิตที่หวาดระแวงกลัวเข็มด้วยแน่ๆ เป็นนางเอกของอสิตาต้องทำใจนะคะ
ไม่ได้ตำแหน่งมาสบายๆแน่ๆ เหอๆๆ น่วมมมม

คุณเฟอร์ ลูกสาวหางกระดกก้นกระเดิด – ยาอายุวัฒนะต้องไปตามเอาจากเรื่อง “ดั่งราตรีสีขาว”
เป็นผีเสื้ออีกตัวในชุด “ความลับของผีเสื้อ” ลองอ่านดูนะ พระเอกเจอคำทำนายว่าสตรีที่สำคัญกับฮี
จะทำให้ชีวิตฮีสั้นลง เนี่ยก็หน้าแก่เกินวัยไปหน่อยละ (แต่หล่อกำลังกิน ยังไม่เหี่ยว) ...พล็อตแนวอยู่นะ

ป.ล. มะม้าบอกเหรอว่าตัวละคร 5 ตัวนี้ลืมอดีตหมดทุกตัวอ่า อย่าเอาแพทเทิร์นมาตัดสินนิยายมะม้าเซ่
แถมอีกตัว ทำไมต้องเป็นตัวร้ายล่า แบร่ๆๆ แง่วๆๆ


อสิตา 1 ส.ค. 2556, 06:23:00 น.
คุณเมล็ดทานตะวัน – แง่ว หนุ่มดอกไม้ของผีเสื้อค่ะ นางเอกตะหากที่เป็นผีเสื้อ วนัสสา – วาเนสซ่า
เป็นชื่อผีเสื้อกลุ่มหนึ่งจำพวกหนึ่ง แต่ไม่ระบุพันธุ์ชัดเจนหรอกนะในเรื่อง เพราะนางเป็นผีเสื้อแบบนามธรรม
มโนเอาว่างั้น ผีเสื้อแฟนตาซีปีกสวยเท่าที่คนอ่านจะจิ้นได้
*วาริช...ดอกบัว
*อินดิโก้ ต้นคราม...ก็มีดอก
*นวาระ...กุหลาบ

คุณด.ญ.ริญจน์ธร – ดีใจที่ยังอ่านอยู่นะ ระวังหลงพี่ครามล่ะ หรือหมอริชก็น่าสน แต่นวาระก็ไม่ยอมใครเหมือนกัน
คุณด.ช.บุลินทร – หมอริชรึ เรียกเค้าว่าคุณหมอริชชี่แล้วกัน แรดดี -..- หึหึหึ แสยะ
คุณมิ้งค์ๆนณกร – เอิ่ม แฟนอัคนิย่องตามรอยอุ้งมาหร๋าคะ เรื่องนี้ก็มีแมวนะ แต่เป็นแค่ลูกแมวอ้วนๆเท่านั้นเอง


ภาวิน 1 ส.ค. 2556, 06:33:33 น.
อินดิโก้ดูมีลับลมคมในนะ เป็นบุคคลสำคัญของคฤหาสน์หลังนี้หรือเปล่า


พันธุ์แตงกวา 1 ส.ค. 2556, 08:02:42 น.
วันนี้เต้นแซ่บจริงไรจริง อยากขยับขาตาม หมอวาริชเจ๋งอ่ะ หุ่นนักว่ายน้ำโอลิมปิก กิ๊บกิ้ว


ดังปัณณ์ 1 ส.ค. 2556, 09:31:16 น.
ง่า....เหมือนวาริชจะตกป๋องแล้วคร้า แอร๊ยยยยยยย หนุ่มใหม่น่าค้นหา (เปลี่ยนใจไวไปมั้ยเท้อออออออออ) คุณแป้ง หนุ่มคนนี้คะแนนนำหมอริชฝุดๆเลยคร้าาาาาาา อั้ย พอเขาออกมาหมอริชชิดซ้ายเล้ย


konhin 1 ส.ค. 2556, 09:39:27 น.
มาลงชื่อไว้ก่อน กันลืม ยังไม่ได้อ่านเลยค่าา พระเอก(ตัวเลือก)อีกคนเปิดตัวแล้ววว


ริญจน์ธร 1 ส.ค. 2556, 10:11:55 น.
โอ๊ย หลายคน เลือกยากนะเนี่ย


sai 1 ส.ค. 2556, 16:43:49 น.
อ้ากกกก เพลงนี้ชอบมากกกก ฟังตอนม.4-5 เต้นตามคงผอมเพรียววว

ทำไมหนุ่มๆเยอะขนาดดด นางเอกอย่างเราอยากเก็บไว้ทุกคนเลยยยยย


Sukhumvit66 1 ส.ค. 2556, 18:37:59 น.
แล้วหนุ่มคนสุดท้ายเชื้อชาติอะไรค่ะ จะได้เชียร์ถูก

แบบว่าเริ่มเอียงไปทางครามแล้วอ่ะ


lovemuay 1 ส.ค. 2556, 19:34:08 น.
มีหนุ่มใหม่โผล่มาซะแล้ว แบบแต่ตอนนี้ยังชอบคุณสัตวแพทย์หนุ่มมากกว่านะคะ อิอิ


บุลินทร 1 ส.ค. 2556, 19:39:49 น.
นิยายอสิตามีชายหนุ่มเป็นจุดขายหรือนี่


ree 1 ส.ค. 2556, 20:25:36 น.
ซับซ้อนจัง


goldensun 1 ส.ค. 2556, 21:27:50 น.
งานไม่เกี่ยวกับหนังสือเลยค่ะ จบวิทย์ ทำงานโรงงาน ชอบอ่านหนังสือ ชอบภาษาไทยค่ะ
หนูวนัสเจอคนเคยแข่งเต้นแล้ว เล่นเอาหมอริชชิดซ้ายให้หนุ่มในความทรงจำไปเลย
อินดี้จำหนูวนัสได้แน่ แต่เก๊กทำไม แต่อย่างว่า ตอนแรกพบก็ไม่คุยกันตรงๆ อยู่แล้วนี่นา เอาแต่มอง
เหลือหนุ่มกุหลาบอีกคน กะอีกหนึ่งสาว ค่อยๆลุ้น ว่าแต่ tag คราม มาจากอะไรหรือใครคะ


จิรารัตน์ 2 ส.ค. 2556, 20:48:18 น.
แวะมา "จิ้ม" ค่ะ


Zephyr 2 ส.ค. 2556, 22:15:02 น.
เดาไงมะม้า เฟอร์เดา ชึชึ
อินดิโก้เหรอ ชื่อเท่น้าาาา เอ ชื่อไทย ครามป่ะ ถ้านวาระ มันดูอลังการไป หึหึ
เฟอร์ไปอ่านผีเสื้อทุกสีอ่ะแหละ ขาว สีเพลิง สีน้ำเงิน อืมมม ร่วมร่างเป็นสีรุ้งอีกเรื่องมะ หึหึ
คู่แข่งที่สูสี เหมือนฝายชายจะไม่ลืม แต่ เก๊กกกก ทั้งสองคน คนที่สามมาเมื่อไหร่ๆๆๆๆ


Pat 4 ส.ค. 2556, 09:08:36 น.
หนุ่มคนใหม่นี่บรรยายเสียน่าสนใจ รู้สึกตอนนี้หมอวาริชตกเป็นรองเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account