เงารักสีน้ำเงิน {นวนิยายชุด"ความลับของผีเสื้อ" สนพ.อรุณ}
วนัสสาตื่นขึ้นมาพบว่าความทรงจำของเธอหายไปถึงสองเดือน...
แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือรอยสักรูปผีเสื้อตรงกลางหลัง กับกระดาษแผ่นเดียวในมือเป็นเบาะแส
เธอคือผีเสื้อ แต่ใครกันคือดอกไม้ของเธอ...คือคนรักที่เธอหลงลืมไป
จะเป็นนวาระผู้มีรอยสักรูปดอกกุหลาบ
เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินอย่างวาริช
หรือใครบางคนที่มีชื่อเป็นความหมายของสีสัน อย่างคราม...
Tags: วนัสสา ความลับของผีเสื้อ วาริช อินดิโก้ คราม นวาระ การทดลอง พลังจิต

ตอน: ความทรงจำที่ ๗ กลีบสีน้ำเงิน(...ต่อ)

มื้อค่ำจัดขึ้นบนระเบียงดาดฟ้าซึ่งอยู่ค่อนไปทางส่วนหลังคฤหาสน์ ลมเย็นรื่นพัดมาพาเอา
กระโปรงยาวของวนัสสาพะเยิบพะยาบ เธอมองลงไปเห็นเรือนกระจกมหึมาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ
สวนด้านหลัง มันเป็นเรือนกระจกที่แปลกเพราะไม่อาจมองเข้าไปเห็นภายในได้ แต่สะท้อนภาพ
เบื้องนอกดูหลอกตาชอบกล พื้นที่ทางฝั่งขวาถูกตัดแบ่งจากสวนหน้าด้วยเนินดิน ต้นไม้
ผาหินและน้ำตกจำลอง ฝั่งซ้ายกั้นรั้วล็อกและคนนอกไม่ได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าไป

วนัสสามองไปรอบๆ ดูวิวแล้วก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าตึกบลูไดมอนด์อยู่ใกล้แค่นี้เอง
เกือบจะติดกับที่ดินของคฤหาสน์ด้วยซ้ำ เพียงแต่ไม่มีถนนเชื่อมทำให้ต้องขับรถอ้อมไปอีกทางกว่าจะถึง

ดาดฟ้านี้กว้างขวาง มันถูกใช้แทนพื้นที่ส่วนหนึ่งของหลังคา ความสูงจากข้างบนลงไปแทบจะ
เท่าตึกสักหกชั้น ด้วยภายในคฤหาสนั้นมีช่วงเพดานสูง แม้เนื้อที่จริงจะมีแค่สองหรือสามชั้น
ในบางส่วนก็ตาม พนักงานทั้งชายและหญิงร่วมสิบแต่งตัวแบบคนรับใช้ตามคฤหาสน์เก่า
ทยอยกันนำอาหารขึ้นมาวางในซุ้มจัดสวยงาม พิเศษกว่างานเลี้ยงเล็กๆในห้องอาหารด้านล่างขึ้นมาอีกระดับ
ไม่รู้ว่าวันนี้มีเรื่องสำคัญอะไร อาหารจัดอย่างเลิศหรูและคงจะได้กินกันจนเกินอิ่ม แต่รูปแบบของ
ซุ้มกับโต๊ะนั่งรับประทานอาหารประดับด้วยเถาไม้กระจุ๋มกระจิ๋มสบายตาชวนผ่อนคลาย

“ดูพิเศษจังเลยนะคะวันนี้ รู้สึกได้ว่าจัดไว้ต้อนรับใครบางคน ใช่หรือเปล่า”
วนัสสาพูดกับพ่อบ้านเบ็นที่มาสั่งการดูแลสถานที่ด้วยตนเอง

“ถูกแล้วครับคุณหนูวนัส นอกจากมีคนมาพักเพิ่มขึ้น แล้วก็ยังมีคนสำคัญอีกคนที่ผมขออุบไว้ก่อน”

เมื่อสมาชิกเริ่มทยอยกันขึ้นมา วนัสสาที่กำลังอารมณ์ดีก็กลายเป็นนั่งหน้าตูม
มีเฟย์ซึ่งทำไม่รู้ไม่ชี้อยู่เคียงข้าง เธอรู้เรื่องเพื่อนเข้ามาจับจองห้องพักตั้งแต่ก่อนบ่ายแล้ว
แต่ไม่ทราบจะทำอย่างไรให้เพื่อนที่ดื้อพอๆกับตนขนของกลับบ้านไป พรุ่งนี้จะลองดูอีกครั้ง
ถ้ายังพูดกันดีๆไม่เข้าใจวนัสสาอาจจะทำอย่างตอนเด็ก คือฟ้องแม่ของยายเฟย์ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
แม้มารดาเพื่อนจะไม่อยู่บ้านในวันที่เธอไปค้าง แต่เบอร์โทรศัพท์ของคนทั้งบ้านนั้นเธอก็มีอยู่แล้ว จะกลัวอะไร

ในระหว่างกำลังมองอาหารถูกยกขึ้นมาตั้งเสียสวย ครามไม่รู้มาจากไหนไวนัก
จู่ๆก็มานั่งขนาบลงอีกข้างหนึ่งของวนัสสาซึ่งดูเหมือนวาริชเคยจองเป็นที่ประจำ
ทำให้คนถูกแย่งเก้าอี้ซึ่งมาทีหลังแบบเฉียดฉิวส่งสายตาไม่สบอารมณ์มาปะทะ
ดีไซเนอร์หนุ่มไม่สนใจ เขาเพียงแต่ปรายมามองวนัสสาที่นั่งอยู่เคียงกัน เผยอปากคล้ายจะแย้มเป็นรอยยิ้ม

“เมื่อวานผมไม่เห็นเธอเลยวนัส หายไปไหนมา” เขาทอดเสียงเบาพอให้ได้ยินกันสองคน

แน่ะ คนอะไร ถ้าอยากรู้ว่าเธอหายไปไหนทำไมไม่โทรหาล่ะ เบอร์ศัพท์เธอเขาก็มีแล้ว
ตั้งแต่ที่เธอไปเดินแบบให้ หรือว่า...เขาคงไม่ได้อยากรู้มากขนาดนั้นละมัง
“ไปค้างบ้านเพื่อนตัวแสบค่ะ วันนี้ก็เลยมีปลิงเกาะติดหนับกลับมาด้วย
แถมยังมาจองห้องพักไว้ดิบดี นี่ไงยายเฟย์ คุณเคยเจอแล้วนี่คะ”
แม้จะยังฉุนอยู่บ้างแต่วนัสสาก็เอียงตัวไปติดพนักเก้าอี้ ให้คนสองคนที่นั่งขนาบเธอไว้
ได้มีโอกาสทักทายกัน เพราะถึงไม่ชิงแนะนำเสียแต่ตอนนี้ทั้งคู่ก็ต้องจำกันได้
แถมเมื่อวานวนัสสาเองก็เล่าเรื่องครามให้เพื่อนฟังหมดแล้วด้วยซ้ำ

ก่อนทุกคนจะเริ่มรับประทานอาหาร พ่อบ้านเบ็นและแม่บ้านอีกริตก็นำสตรีร่างสูงคนหนึ่งเข้ามา
เรียกให้สายตาทุกคู่หันไปมอง

“คุณศศิราศีครับ เธอเป็นผู้จัดการของที่นี่ แล้วก็จะให้เกียรติมาพักอยู่กับเรา
ในช่วงสองสามวันนี้เพื่อดูแลความเรียบร้อย”

วันนี้ศศิราศีปล่อยผมตรงยาวดำขลับสลวย ยามเธอพยักหน้าให้เบ็นเส้นผมนั้นก็ทิ้งตัวตามเหมือนไหม
หญิงสาวยิ้มแย้มรับคำทักทายจากทุกคนขณะนั่งลงตรงหัวโต๊ะที่ปกติมักเป็นตำแหน่งซึ่งถูกเว้นว่าง

“ตามสบายนะคะ ขาดเหลืออะไรก็บอกได้ ไม่ต้องเกร็งกับดิฉัน ถือซะว่าทุกคนเป็นเพื่อนกัน”

วนัสสาวางสีหน้าเป็นปกติ เพื่อนงั้นหรือ ถ้าดูจากใบหน้าก็พอจะตีเป็นรุ่นเดียวกันได้จริงๆ
ทว่าแต่ก่อนศศิราศีไม่เคยเอาตัวเองลงมาเทียบเคียงคนอ่อนอาวุโสกว่าแบบนี้ ชอบแต่จะวางตัวฉลาด สูงส่ง
อยู่เหนือทุกคนในฐานะภรรยาของลุงหมอกฤษณะที่เป็นคนสำคัญขององค์กรใหญ่อย่างเวชกุล

“ดอกไม้ที่จัดไว้ข้างบนนี้สวยมากเลยนะคะ ท่าทางคุณศศิราศีจะชอบดอกไม้มาก
เพราะเท่าที่เห็นบนโต๊ะนี่ก็มีอยู่หลายชนิดทีเดียว” ดาหวันเอ่ยคล้ายชวนคุย
แต่ฟังดูก็รู้ว่าแฝงนัยประหลาด อาจโยงได้กับเรื่องที่สมาชิกร่วมบ้านหลายคนมีชื่อแปลว่าดอกไม้
อย่างบังเอิญเหลือเกิน เพราะแม้แต่ชื่อดาหวันเอง ก็เป็นดอกไม้เช่นกัน!

“ค่ะ...ดิฉันชอบดอกไม้ ดอกไม้ต่างชนิดก็มีคุณค่าต่างกันไป มีประโยชน์ต่างกันด้วย
ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้มันให้เหมาะสม แต่บางเวลา เราก็อาจต้องเลือกหยิบดอกที่ไม่เหมาะ
ที่เพิ่งรู้ว่าไม่ต้องการทิ้งไปบ้างเหมือนกัน...เพื่อภาพรวมที่สวยงามของดอกไม้ช่อพิเศษ”

เมื่อสายตาของวนัสสาบังเอิญไปสบกับศศิราศีเข้า ฝ่ายนั้นก็ส่งยิ้มหวานเย็นมาให้นานกว่า
ยิ้มให้คนอื่น แต่ก็ไม่ได้ทักทายเธอซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทสามี ราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ
อาจขี้เกียจตอบคำถามซึ่งจะตามมาหรือจงใจหลีกเลี่ยงปิดบัง

นวาระมาถึงข้างบนดาดฟ้าช้าสุด ชายหนุ่มไม่ได้สวมแว่นตาสีชาอีก เขาพยายามแสดงท่าที
ไม่ให้เป็นจุดสนใจซึ่งดูจะเป็นไปได้ยาก ชายหนุ่มเพียงแต่เม้มปากเป็นเส้นตรง ซึ่งนั่นก็
ทำให้เห็นลักยิ้มที่ดูจะขึ้นมาให้เห็นเสมอไม่ว่าเจ้าตัวจะยิ้มหรือบึ้ง ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามวนัสสา
ตรงที่นั่งไกลสุด แต่เธอกลับรู้สึกว่าเขามองข้ามความยาวของโต๊ะไปสบตากับศศิราศีแวบหนึ่ง
เพียงเสี้ยววินาที ทว่าเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นปราดผ่านไปในบรรยากาศ และมีแค่วนัสสา
ที่รู้สึกถึงมันจึงเหลือบตามองทั้งศศิราศีและนวาระกลับไปกลับมา แต่ทั้งคู่ดูเป็นปกติเอามากๆ
เหมือนไม่มีสิ่งใดแฝงเร้น

ฟ้ามืดลงทีละน้อย เห็นดาวจางๆ แต่แสงไฟยามราตรีที่ติดระยิบระยับขึ้นมาจากตึก
ในเมืองหลวงก็ดูสวยงามไปอีกแบบ ลมเย็นฉ่ำราวกับจะหอบเอากลิ่นหอมของดอกไม้
ลอยขึ้นมาจากสวน รวมถึงบนดาดฟ้านี้ก็มีมุมไม้ประดับกับดอกไม้ที่ยกขึ้นมาตกแต่ง
เพิ่มบรรยากาศสดชื่นรื่นรมย์

วนัสสาออกจะเย็นนิดๆ เธอสวมเสื้อแขนกุดขึ้นมาโดยลืมคิดไปว่าข้างบนลมอาจแรง
แต่แล้วครามที่นั่งอยู่ข้างๆก็ถอดเสื้อนอกของเขามาคลุมไหล่ให้โดยไม่พูดจา

“ขอบคุณนะคะ ไม่ยักรู้ว่าดีไซเนอร์หน้านิ่งจะใจดีเป็นกับเขาด้วย” ในเวลาไม่กี่วัน
เขาทำให้เธอหลากใจ จริงอยู่ มันอาจเป็นเรื่องง่ายๆที่ใครก็ทำให้กันได้ แต่ในวันแรก
ที่เขาก้าวเท้าเข้ามา แววตาแสนหยิ่งและกำแพงของครามดูไม่พร้อมจะเปิดให้เธอเลย

“ผมไม่ได้หน้านิ่ง แล้วก็ไม่ต้องแซวมาก...ถ้าพูดอีกคำจะคิดตังค์ค่าเสื้อจริงๆด้วย”
ชายหนุ่มยิ้มแยกเขี้ยวน้อยๆให้คนข้างกาย

ทุกคนคุยกันออกรส ความสนใจพุ่งไปยังศศิราศีซึ่งดูสวยงามหมดจดอยู่ในชุดยาว
ถึงข้อเท้าเข้ารูปเรียบหรูน้ำตาลเหลือบทองจางๆ ผิวกายขาวใส ตัดกับปากซึ่งฉาบลิปสติก
สีแสดอมทองดูแพงระยับเอาไว้ ปากนั้นขยับเปล่งเสียงนุ่มๆขรึมๆ สาธยายถึงความเป็นมาของคฤหาสน์
อย่างการจัดสวนตรงมุมนั้นมุมนี้ ว่ามีไอเดียจากอะไร ทุกคนรับประทานไปฟังไปเพลินๆ
โดยสัตวแพทย์หนุ่มดูเหมือนจะรื่นเริงเป็นพิเศษกว่าใคร

“คุณศศิราศีนี่สวยมากจริงๆนะครับ ว่าไหมคุณนิว” วาริชหันไปพูดกับนวาระ
ที่นั่งอยู่ข้างกันแต่แทบไม่ได้ใส่ใจว่าอีกฝ่ายจะเออออตามหรือเปล่า คำพูดนั้นทั้งเหมือน
ชมจริงและแกล้งให้วนัสสาได้ยินด้วยถ้าเธอไม่ได้คิดไปเอง ก็ดูสายตาที่เขาปรายมานั่นสิ
อย่าบอกนะว่าน้อยใจที่เธอมานั่งอยู่กับคราม

ข้างดีไซเนอร์หนุ่มที่นั่งข้างๆนั้นก็ทำให้แปลกใจไม่เบา อีกฝ่ายแอบสังเกตว่าวนัสสาชอบกินอะไร
แถมยังคอยตักเพิ่มให้ หญิงสาวอดหน้าร้อนๆเขินๆขึ้นมาไม่ได้ เพราะรู้อยู่ว่าคนอย่างเขาไม่ใช่พวก
ชอบเอาใจใครเรี่ยราด ในขณะที่เฟย์ซึ่งอยู่อีกข้างคอยส่งเสียงวี๊ดวิ้ว อู้อ้า แซวซี๊ดๆอยู่ข้างหูเป็นระยะ
เบาพอจะไม่ให้คนอื่นได้ยิน วนัสสาแอบหยิกขาเพื่อนใต้โต๊ะ ใจหนึ่งก็รู้สึกอบอุ่นยามขนาบข้าง
ด้วยคนสองคนนี้ เหมือนมีปีกสองข้างคอยโอบประคองตนไว้ให้อุ่นไอ แต่เธอก็แอบเห็นวาริช
ทำหน้าตึงและนวาระก็ดูจะกินน้อยเหลือเกิน นึกสงสัยว่าในกรณีรายหลังนั้นไม่น่าจะเกี่ยวกับเธอ

“เดี๋ยววันนี้ดิฉันจะพาลงไปดูห้องใหม่ที่ใต้ดินนะคะ เป็นห้องพิเศษ ตอนแรกยังทำไม่เสร็จ
แต่ตอนนี้พร้อมจะให้ชมกันแล้ว”

ครามขมวดคิ้ว มีห้องที่เขายังไม่เห็นด้วยหรือ ก็ว่าใช้ร่างสมมุติลงไปตรวจดูหมดแล้ว
แต่อย่างว่า เขาไม่ได้ลงไปทุกวัน และข้างล่างนั่นก็กว้างเหลือเกิน บางทีกำลังของร่าง
ที่สร้างขึ้นก็มีจำกัด และถ้ามีกลไกอย่างใดซ่อนอยู่เขาก็ทำอะไรไม่สะดวก
เพราะร่างจำลองของเขาหยิบหรือแตะต้องสิ่งใดไม่ค่อยถนัด ร่วงบ้าง
คว้าไม่ติดเหมือนทะลุผ่านไปบ้างอยู่ทุกที

ดาหวันซึ่งนั่งอยู่อีกข้างของวาริชได้ยินชายหนุ่มพูดราวกับสนใจศศิราศี
หญิงสาวที่รู้จักสตรีผู้นั้นดีกว่าใครจึงอดไม่ได้ ต้องเปรยออกมาอย่างอยากจะรวน
“เห็นสาวๆแบบนั้นแต่อายุเธอก็จวนสี่สิบแล้วนะคะ”

“หืม... ทำไมรู้ล่ะครับ”

“เอ่อ ก็เคยอ่านบทสัมภาษณ์” หญิงสาวยักไหล่คล้ายไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ
เธอเอาหนังสือที่วาริชบ่นอยากจะอ่านให้เขาแล้ว เหลือก็แค่รอว่าคืนนี้ดอกน้ำตานางฟ้า
ที่แนบไปอาจทำให้เขานึกอะไรออกบ้าง แม้คืนเดียวอาจยังไม่พอ แต่ศศิราศีก็เดินเกมเร็ว
กว่าที่คิดไว้มากจริงๆ ทั้งที่ห้องพักยังไม่เต็ม หรือว่าจะไม่ต้องรอใครอีกแล้ว...

“สี่สิบแล้วไง อายุไม่เกี่ยวครับสำหรับผม” สัตวแพทย์หนุ่มยิ่งทำเสียงชื่นชม
“ไอ้เราก็ชอบพวกสาวพันปีสวยไม่สร่างเสียด้วยสิ”

บรรยากาศหลังจากนั้นครื้นเครง วาริชและเฟย์ถึงกับควักโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน
ออกมาถ่ายรูปเพื่อนๆร่วมที่พัก กับบรรยากาศรวมถึงอาหารจานสวยๆอัพขึ้นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คด้วยซ้ำ

“ให้เพื่อนมันอิจฉาเล่น ที่ผมมาอยู่ท่ามกลางนางฟ้าแสนสวยตั้งสามสี่คนแบบนี้”
ยามที่พูดนั้นตาเขายังมองมาทางวนัสสาเป็นพิเศษ

ครามมองผู้ชายคนนั้นโอบวนัสสาถ่ายรูปได้เหมือนฝรั่งที่กอดกันอย่างไม่เคอะเขิน
ถึงเขาเองจะมาจากซีกโลกตะวันตกก็ยังมีความไว้ตัวเป็นนิสัย กับความรู้สึกส่วนที่
กลับคืนเป็นเอเชียต่อหน้าคนเอเชียด้วยกัน เขายิ่งทำแนบเนียนแบบนั้นกับวนัสสาไม่ได้
ถ้าทำก็แปลว่าเขาต้องจงใจ แต่ครั้นพอเห็นหมอนั่นกล้าทำ เขาก็ไม่ชอบ...

ดาหวันเองมองภาพเดียวกับครามอยู่ทั้งยังแอบย่นจมูกใส่...ผู้ชายเจ้าชู้ แค่กับวนัสสายังไม่พอ
อีกฝ่ายยังเมียงๆมองๆยายแม่มดศศิราศียังกับเห็นเป็นนางฟ้า “อยากรู้นัก ถ้าจำอดีตได้ขึ้นมา
จะยังอยากวิ่งเข้าหาสาวสวยพันปีอยู่ไหม” หญิงสาวกัดฟันบ่นกับตัวเอง

วนัสสาหลากใจที่ไม่มีใครห้ามเรื่องถ่ายรูป เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานได้ชัดเจนเหลือเกินว่า
พวกเธออยู่ที่ไหน กับใคร หรือว่ามันจะถูกเพิกเฉยเหมือนความจริงอีกมากในสังคม
ตอนนี้เธอรวบรวมเรื่องราวตั้งแต่วันแรกที่ย่างเท้าเข้ามาที่นี่ไว้บ้างแล้ว ถ้าเธอเกิดหายไป
วันหนึ่งก็อาจมีคนพบหลักฐานที่จงใจทิ้งไว้ แต่ก็อย่างว่า ถ้าไม่จัดการบั่นทอนจากภายใน
เวชกุลก็ยังเป็นกลุ่มทรงอิทธิพลที่ไม่มีใครกล้าเข้ามาจัดการ เธอจะต้องเข้าใจ แทรกแซง
หาทางทำลายมันตั้งแต่รากขึ้นไปหาข้างบน

“ถ้าอิ่มกับบรรยากาศตรงนี้แล้ว เราลงไปสนุกกันข้างล่างบ้างเถอะค่ะ” ศศิราศีชี้ชวน

ทั้งหมดทยอยกันลงไปชั้นล่าง ถูกพาวกไปตามทางเดินซึ่งพาเข้าใกล้สวนหลัง
จนไปถึงส่วนที่เป็นผนังด้านหนึ่งของเรือนกระจกซึ่งต่อติดกับหลังคฤหาสน์ มองออกไป
เห็นสวนดอกไม้ในเรือนเลี้ยงดู ชวนให้ตื่นตาด้วยแสงอาทิตย์จำลองที่เหมือนแดดระยิบระยับ
ลงมาจากเบื้องบนภายในเรือนนั้น แล้ววนัสสาก็เห็นพวกมัน ดอกไม้สีน้ำเงินอมฟ้าดอกเล็กๆ
ชูช่อสะพรั่งรับแสงอยู่ภายใน มันคือน้ำตานางฟ้า!

อันที่จริงสีสันอื่นก็พอจะมีให้เห็นในแปลงถัดไป แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คงเป็นเจ้าดอกไม้สีน้ำเงิน
กลีบบางภายใต้เรือนกระจกซึ่งไม่ต่างจากภาพในฝัน ไม่สิ ภาพของความทรงจำที่วนัสสา
หวนระลึกขึ้นมาได้ พร้อมคำของชายหนุ่มคนไหนสักคนที่กระซิบบอก ว่าสิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นเตือน
ความทรงจำที่หายไป แต่คำถามคือ...เธอจะเข้าใกล้ดอกไม้ตรงหน้าได้หรือ

“สวยจังเลยนะครับ ไม่ทราบว่าในเรือนกระจกนี้จะเปิดให้คนนอกเข้าชมด้วยไหม”
นวาระซึ่งอยู่รั้งท้ายขบวนเอ่ยดังพอจะได้ยินไปถึงศศิราศี

“เห็นทีจะไม่ได้ค่ะ ดูแต่ตา มืออย่าต้อง ต้องดูผ่านกระจกนี่เท่านั้นด้วย” ศศิราศีเอ่ยเสียงเบาลง
พอให้ได้ยินกันไม่กี่คนพลางยิ้มมีลับลมคมใน “อีกอย่างดอกไม้พวกนี้มีสรรพคุณทางยา
ยังอยู่ในขั้นทดลอง แม้แต่คนที่ดูแลมันก็ต้องระวัง”

ท่ามกลางดอกไม้ วนัสสาเห็นเอเดนซึ่งใส่ที่ปิดปากและจมูกไว้พยักหน้า ฟังฝรั่งคนสวนวัยคราวพ่อ
ชี้ใบพืชในมือและสอนอะไรบางอย่างให้ เด็กหนุ่มทำท่าว่าเบื่อ เมื่อมองมาเห็นวนัสสาอยู่ในกลุ่ม
คนที่กำลังมายืนออมองผ่านจากในตัวบ้านออกไปเด็กหนุ่มก็แอบโบกมือน้อยๆ เปิดหมวกให้อีก
เขาอารมณ์ดีขึ้นมาแล้วแต่ยังไม่วายขมวดคิ้วเมื่อเห็นเฟย์ซึ่งขับรถเกือบจะเฉี่ยวตน

“อาฆาตเราซะด้วยหนุ่มน้อย หล่อๆแบบนี้ เดี๋ยวแม่จับมาจูบปากซะเลย”
ผู้เข้าพักหน้าใหม่พูดอย่างก๋ากั่นเต็มประดา

สาวกล้าอย่างเฟย์เองไม่ได้เกาะติดกับวนัสสา หญิงสาวพร้อมจะทำความรู้จักกับ
เพื่อนแปลกหน้าอยู่เสมอ และค้นพบว่าคนตรงๆอย่างดาหวันคุยถูกคอทีเดียว

วนัสสามองเพื่อนผู้อยู่ในชุดกระโปรงสั้นทับกางเกงผ้ายืดแนบเนื้อผ้าบางสีทึบ
ดูเปรี้ยวแบบสาวมั่น ไปกันได้ดียามยืนเคียงดาหวันซึ่งสวมกางเกงกำมะหยี่เนื้อหนา
ทะมัดทะแมงพร้อมลุยได้ตลอด เฟย์สูงกว่าเล็กน้อย ทั้งคู่ร่างสูงโปร่งเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว
กระฉับกระเฉงใกล้เคียงกัน วนัสสาเกิดความคิดว่าถ้าหากสองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทก็อาจไปไหนมาไหน
ลุยกันได้ถึงใจกว่าที่เฟย์เคยเข้าคู่กับตน ที่แม้ใจพร้อมแต่บางทีก็ขี้เกียจจะพุ่งไปข้างหน้าให้ทันใคร
ความคิดนั้นทำให้คนลอบมองออกจะหวงเพื่อนอยู่หน่อยๆ

แต่เธอก็รู้ว่าเฟย์กำลังเปิดโอกาสให้ตน ในบรรดาผู้ชายที่อยู่บ้านนี้ ดูเฟย์จะสนับสนุนเหลือเกิน
ให้เธอเข้าคู่กับผู้ชายหน้าตายที่เคยแด๊นซ์กระจายแข่งกันเมื่อหลายปีก่อน และตอนนี้เขาก็มายืนหล่อ
อยู่ข้างหลังเธอนี่ แถมเสื้อเนี้ยบๆที่ดูว่าเจ้าตัวคงออกแบบเองก็ถูกย้ายมาสวมเอยู่บนตัวเธอต่อเนื่อง
มาตั้งแต่อยู่บนดาดฟ้าเสียอีก ราวกับจะใช้จองเธอไว้ตลอดทั้งคืน

“ผมกำลังคิดว่าเคยเห็นดอกไม้นี่ที่ไหนมาก่อน” คนที่วนัสสากำลังนินทาอย่างน่ารักๆในใจ
เปรยขึ้นข้างหลังเธอ ในขณะที่คนอื่นๆเริ่มเดินตามการนำของเจ้าของสถานที่ไปยังเป้าหมายต่อไป

“เคยเห็น...ที่ไหนกันคะ”

“ไม่รู้จะบอกเธอยังไง บางทีอาจจะเป็นในฝันละมั้ง”

ครามเข้ามากระซิบเสียใกล้ริมหูจนวนัสสาขนลุก นอกจากนั้นมือทั้งสองของเขาก็วางลงบนไหล่เธอ
อย่างสนิทสนม แถมปลายนิ้วที่ไม่ได้รับอนุญาตนิ้วหนึ่งยังยื่นมาเขี่ยเล่นตรงแก้มกึ่งคางของเธออย่างซุกซน

อันที่จริงครามกำลังคิดอะไรที่ออกจะไม่เป็นตัวเขาตามปกติเอาเสียเลยจึงได้แสดงออกเช่นนั้น
เขาเห็นว่าวาริชสนิทสนมกับเธอนัก เขาเองก็จะทำให้ยิ่งกว่า ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขามีสิทธิ์
แล้วก่อนที่หญิงสาวจะทันประท้วงครามก็กลับผละออก รั้งให้เธอเดินตามด้วยการฉวย
กึ่งข้อมือบอบบางกึ่งมือเล็กซึ่งซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อที่ยาวเกินไปไว้ “มาเถอะน่า คนอื่นเขาไปกันหมดแล้ว”

หญิงสาวไม่ชินกับการถูกปฏิบัติแบบนี้ แต่วนัสสาก็ปล่อยเลยตามเลยด้วยใจที่เริ่มจะเต้นแปลกๆขึ้นมา
เธอเหลือบเห็นนวาระที่ยังคงรั้งท้ายอยู่ ครามพูดไม่ถูกเสียหน่อยที่ว่าคนอื่นไปกันหมดแล้ว
ก็ยังมีอีกคนที่เดินตามหลังสุด คล้ายจะสังเกตพฤติกรรมของทุกคนอยู่ตลอดเวลา
ความรู้สึกในใจประดังขึ้นวูบ ถ้ารอยสักดอกกุหลาบของเขามีความหมายกับเธอ
ถ้าเขาคือคนรักที่วนัสสาหลงลืมไป นี่เธอก็กำลังเดินเคียงข้างชายอื่นอยู่ต่อหน้าเขางั้นใช่ไหม

เจ้าของดวงตาเรียวที่จับจูงเธอปรายตามอง ครามรับรู้ว่านวาระยังอยู่ตรงนี้เช่นกัน
แต่ท่าทีของเขาก็พร้อมจะเอาตัวเองกันวนัสสาออกไปจากทุกสิ่ง เป็นเกราะกำบังเธอไว้
หญิงสาวรู้สึกได้ว่าความอบอุ่นมากมายท่วมท้นขึ้นมา มันอาจเริ่มต้นขึ้นจากหัวใจเธอ
ที่กำลังเต้นตึ้กๆไม่เป็นส่ำนี่เอง

ศศิราศีนำทุกคนไปสู่ลิฟต์ลงชั้นล่างโดยไม่ได้ผ่านบันไดเลื่อน เท้าในรองเท้าส้นสูงก้าวนำฉับไว
ขณะเดียวกันก็หมุนตัวมาคุยกับวาริชได้เป็นระยะอย่างร่าเริงเหมือนกับสาวแรกรุ่น

สำหรับวาริชเองชายหนุ่มรู้ดีว่าเธอแสร้งทำ ก็ในเมื่อศศิราศีเป็นภรรยาของอาจารย์หมอกฤษณะของเขา
เขาและเธอจะไม่รู้จักกันมาก่อนได้อย่างไร! เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีเวลาคุยกันเป็นการส่วนตัว
เขาบอกตนเองว่าไม่ควรทำให้สตรีผู้นี้โกรธหรือรู้สึกผิดแผน ไม่เช่นนั้นตัวเขาเองมีแต่จะเดือดร้อนมากขึ้น

ในห้องใหม่ที่ศศิราศีพาทุกคนลงไปชมนั้นมีควันหนาโรยลงมาคล้ายปกคลุมด้วยทะเลหมอก
ให้ความรู้สึกเบาสบาย ความสว่างค่อนข้างน้อย เมฆซึ่งรายล้อมจึงดูเป็นสีเทาเงินแต้มแต่งด้วย
แสงไฟน้ำเงินระยิบ ราวกับทุกคนกำลังล่องลอยอยู่กลางจักรวาลแห่งความฝัน มีช่องหลายช่อง
ที่เหมือนท่อขนาดใหญ่ฝังอยู่ทุกด้านของผนัง ราวกับอุโมงค์ที่ใช้เดินทางผ่านกระแสเวลา

“ที่นี่คือ ห้องแห่งความฝัน พูดให้เข้าใจง่ายๆ มันก็คือห้องพักผ่อนในลักษณะเดียวกับสปา
ที่ช่วยให้สบายตัว สบายใจ แต่คุณสมบัติพิเศษของเครื่องสร้างฝัน ช่องนอนกลมๆตามผนังนี่
พวกคุณอาจไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน มันจะทำให้ฝันดี อาจเลือกได้ด้วยว่าจะฝันถึงเรื่องอะไร
อย่างเช่นว่า...เรื่องที่เคยเกิดขึ้นนานมาแล้ว”

“ทำได้ถึงขนาดนั้นเชียว” ดาหวันเปรยขวางๆ

ศศิราศีหัวเราะบางเบา ผายมือไปยังช่องที่ซ่อนตัวอยู่ในไอหมอกรอบกาย “ก็ต้องลองนะคะ
ไม่ลองไม่รู้ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอะไรไม่ใช่หรือ แค่หลับสักตื่น แต่ใครกลัวก็ไม่ว่ากัน จะให้มีเพื่อน
ช่วยนั่งเฝ้าอยู่สักคนก็ยังได้”

ทุกคนมองหน้ากัน ดูเหมือนจะมีแต่สายชลและสามีอย่างเชนทร์ซึ่งแสดงออกอย่างคนนอก
ไม่มีความแคลงใจอย่างเดียวกับที่คนอื่นๆมี เพราะแม้แต่เฟย์เองก็พอจะรับรู้ถึงสิ่งควรระวัง
มาจากเพื่อนอยู่ไม่น้อย

“คืนนี้ผมกับสายชลจะลองใช้มันดู ได้ผลยังไงแล้วจะบอกพรุ่งนี้นะครับ”
ชายหนุ่มผู้ยังอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามันเอ่ยร่าเริง “แต่ตอนนี้ยังไม่อยากหลับเลย
ไปสนุกกันที่สระว่ายน้ำดีไหม หรือทุกคนว่าไง”

เนื่องจากมีสมาชิกหลายคน เฟย์จึงอ้อนให้เล่นโปโลน้ำด้วยกันเพราะเธอเองไม่ได้เล่น
มานานหลายปีแล้ว
“ทุกคนว่ายน้ำเป็นกันใช่ไหมคะ งั้นช่วยใจดีเล่นโปโลน้ำเป็นกิจกรรมรับน้องใหม่
เข้าบ้านนี้กันทีเถอะ น้าๆๆ”

และเมื่อสาวๆพร้อมใจจะลงน้ำ สุภาพบุรุษที่เหลือจึงต้องตามใจ เหลือเพียงศศิราศี
ที่ขอตัวนั่งคุยกับพ่อบ้านเบ็นอยู่ริมขอบฝั่ง ทำให้วนัสสายิ่งสงสัยในที่มาของพ่อบ้านชราผู้นี้ ตามนิสัย
คนอย่างศศิราศีไม่คุยกับคนรับใช้ แม้จะเป็นระดับหัวหน้าก็ตาม ที่เธอจำได้ นาเดียยังแต่งตัว
เหมือนนางพยาบาล หัวหน้าพ่อบ้านอาจเป็นอะไรที่ยิ่งกว่าก็สุดจะคาดเดา

มีชุดว่ายน้ำใหม่เอี่ยมหลายแบบหลายขนาดให้เลือกสวมได้ตามใจชอบ ดาหวันเลือกชุด
แนวสปอร์ตอย่างที่เดาได้ไม่ยาก และไม่แปลกที่เฟย์จะหยิบทูพีช วนัสสาก็เหมือนกัน
แม้ชุดที่หญิงสาวเลือกค่อนข้างโป๊น้อยกว่า แต่จากตาโตๆที่คนอื่นมองมาก็คงนับว่าเหนือ
ความคาดหมายของคนที่ไม่รู้จักเธอดี

หญิงสาวไม่มีอารมณ์จะเล่นน้ำนักในวันนี้ แต่เธอก็ยอมเปลี่ยนชุดและรวบผมขึ้นอวดแผ่นหลัง
จุดประสงค์คืออยากจะให้คนได้เห็นรอยสักรูปปีกผีเสื้อ ทุกคนที่นี่ ทั้งหญิงและชาย เผื่อว่า
จะมีใครฉุกคิดถึงอดีตหรือที่มาของมันซึ่งพวกเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง

แต่สิ่งที่ตามมาดูจะไม่ใช่อย่างที่ต้องการนัก วาริชผิวปากหวือแซวเล่นเรื่อยเปื่อย
นวาระยิ้มมุมปากอย่างชอบใจราวกับจะเห็นเธอเป็นสาวพันธุ์ร็อคพวกเดียวกัน
ส่วนครามมองมาอย่างบึ้งตึง แปลก เขาก็เคยเห็นแล้วไม่ใช่หรือไง...

ในสระน้ำกว้าง หนุ่มสาวแบ่งเป็นทีมละสี่ ชายสองหญิงสองฝั่งละเท่าๆกัน
ก่อนเริ่มเล่นโปโลน้ำอย่างสนุกสนาน ออกจะเร่าร้อนเกินไปเสียด้วยซ้ำ
เมื่อครามและวาริชที่ต่างก็อยู่ทีมเดียวกันพยายามแย่งลูกบอลจากผู้เล่นอื่น
มาปาอัดหน้ากันเองแบบจงใจมากกว่าจะส่งให้เพื่อนทำแต้ม
แต่เหมือนจะกลายเป็นเรื่องตลก เพราะทำให้ทุกคนกรี๊ดกร๊าดและหัวเราะกันลั่น
ในที่สุดแม้แต่คู่ต่อสู้ก็ยังดูเหมือนจะแอบยิ้มอยู่ในสายตาอย่างเสียไม่ได้

โปโลน้ำแทบจะกลายเป็นลิงชิงบอลที่ทุกคนต้องคอยเอาลูกหนีทั้งวาริชและครามซึ่งพุ่งเข้ามาแย่ง
อย่างไรก็ดี วนัสสารู้สึกว่าครามดูจะงอนๆเธออยู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอเองพูดและหัวเราะกับนวาระ
รวมถึงวาริชมากไปหรือเปล่า ก็พวกนั้นพูดมา จะไม่ให้ตอบหรือยังไง

จังหวะหนึ่งที่ชุลมุน วนัสสาเซล้มลง ครามกลับเข้ามาช่วยพยุงเธอไว้จากด้านหลัง
เธอค้นพบอย่างน่าตกใจว่าอ้อมแขนเขารุ่มร้อนจนไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในน้ำมาตั้งนานแล้ว
และจากสัมผัสที่ใกล้ชิดเกินไป หญิงสาวยังรู้ได้อีก...ร่างกายและอารมณ์เร้นลับของเขานั้น
อยู่ในสภาพไม่ปกติเอามากๆ

วนัสสารีบร้อนผละออกห่าง ยังไม่มีใครทันสังเกตวินาทีเมื่อครู่ของเธอกับคราม บ้าจริง
ถึงจะไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนจากผู้ชายอื่นแต่เธอก็รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร
ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้หน้าแดงก่ำ ก่อนที่หญิงสาวจะทนไม่ไหวและร้องออกไป
“ชักหนาวแล้วแฮะ ขึ้นกันดีหรือยังคะ”

นั่นแหละ เกมโปโลกลายพันธุ์จึงค่อยๆราลง และทุกคนก็เข้าห้องไปเปลี่ยนชุด อาบน้ำ
บางคนตั้งใจจะขึ้นไปอาบที่ห้องของตัว

“โอ๊ย... คืนนี้ต้องหลับเป็นตายแน่เลย ปวดไปทั้งตัว” เฟย์บ่น

“เหมือนกันค่ะคุณเฟย์ ดาก็ไม่ได้ออกกำลังมาพักใหญ่ อยู่ๆมาเล่นสุดตัว
แถมผู้ชายพวกนี้ก็ตัวดี ไม่ออมแรงบ้างเลย” ดาหวันบ่นกับเฟย์อย่างอารมณ์ดี

แปลกที่ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะชอบเพื่อนของวนัสสา ทั้งที่ดูไม่ชอบเธอเอาเสียเลย
หญิงสาวเองก็ไม่รู้ว่าเคยไปทำเรื่องให้อีกฝ่ายไม่พอใจตั้งแต่ตอนไหน

สาวๆเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ออกมาทันเห็นครามกับนวาระกำลังหนีกลับขึ้นห้องก่อน
ชายหนุ่มคนสุดท้ายที่มาเข้าพักดูจะเข้ากันได้ดีกับทุกคนอย่างเหลือเชื่อ แม้แต่คราม
ที่ค่อนข้างพูดจาระวังตัวกับทุกคนก็ยังคุยกับนวาระ เรียกคุณนิวเสียด้วย
วนัสสาจับได้ว่าครามกำลังแกล้งเมินเธอ พ่อเจ้าพระคุณตัวร้ายไม่ยอมสบตาเธอด้วยซ้ำไป
หึ...คงรู้ตัวสิว่าเรื่องเมื่อครู่มันน่าอาย

เชนทร์ตบไม้ตบมือเรียกความสนใจ “เอ้า เดี๋ยวผมกับสายชลขึ้นไปเตรียมตัวแล้วจะกลับ
ลงมานอนหลับฝันดีในห้องแห่งความฝันนะคร้าบ ไม่ทราบมีใครอยากลงมาด้วยกันบ้างไหม”

“ผมนี่ไง” วาริชเสนอตัวพลางหัวเราะเสียงห้าวลึกในคอ “ผมขอมาด้วยคน”

เขาต้องสนใจอยู่แล้ว เพราะถ้ามีใครสักคนสมควรจะตั้งข้อสังเกตกับสถานที่น่าสงสัยนั่น
ก็ควรจะเป็นเขาที่เป็นหมอ อย่างน้อยเขาก็จะลองศึกษากลไกของเจ้าเครื่องสร้างฝันบ้าบอนั่นสักตั้ง
แล้วตอนนี้ก็มีหนูทดลอง เอ๊ย...มีคนอาสาจะลองมันให้ดูต่อหน้าแล้วถึงสองคน

ดาหวันขมวดคิ้วอย่างกังวลใจ ถ้าวาริชลงมานอนที่นี่ คืนนี้เขาก็จะไม่ได้เปิดอ่านหนังสือที่เธอให้ยืม
ไม่ได้สูดกลิ่นดอกน้ำตานางฟ้าในที่คั่นซึ่งแนบไว้ เธอจะยอมรับกับตัวเองก็ได้ว่าค่อนข้างห่วงผู้ชายคนนี้
มากกว่าสมาชิกที่ถูกทดลองคนอื่นๆ ก็แค่เพราะเขาดูเป็นคนดีที่สุดในบรรดาพวกนั้น
ยิ่งศศิราศีปรากฏตัวออกมา ก็แสดงว่ามีเวลาเหลือน้อยแล้ว บางทีคืนนี้เธอจะต้องหาทาง
ให้เขาได้ดมดอกไม้นั่นด้วยตัวเอง ดาหวันยังมีเหลืออยู่อีกหนึ่งดอก เป็นดอกสุดท้าย
แม้มันอาจทำให้เขาระลึกความหลังบางส่วนที่หลงลืมได้เพียงในความฝัน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.ย. 2556, 14:10:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2557, 07:36:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1324





<< ความทรงจำที่ ๗ กลีบสีน้ำเงิน   ความทรงจำที่ ๗ กลีบสีน้ำเงิน(จบบท) >>
อสิตา 1 ก.ย. 2556, 14:24:23 น.
คุณกระต่ายผ้าขี้ริ้ว – มาเปิดซิงกระทู้อีกแล้วนะคะ ชอบจริงไอ้เรื่องจิ้มๆแหย่ๆแหวกๆเนี่ย(โดยเฉพาะขุดทอง)
ชอบนวาระไว้ไม่เสียหลาย เพราะคนเขียนก็ชอบ จะว่าไปคนเขียนรักทุกคนนนนน 555
คุณภาวิน – เรื่องนี้จะรีรันภาพอดีตเรื่อยๆแทรกไปกับเนื้อเรื่อง เฟย์จะเข้ามาพบกับอะไร รอลุ้นกันต่อปาย
คุณผักชี – เอิ่ม เชียร์พี่ครามออกนอกหน้าเพื่อจับจอง ใครหมอโรคจิตกันคะ หมอริชเค้าออกจะน่ารักนะ

คุณดังปัณณ์ – มาถี่ขึ้นแล้วค่า คราวนี้มาวันอาทิตย์ รอบต่อไปไม่อังคารก็พุธ ไม่เกินนี้แน่นอน ขอบคุณที่รอนะ เลิฟๆ
คุณพันธุ์แตงกวา – 55แข่งกันน้ำเงินเข้าไป หนุ่มนวาระไม่ยอมแพ้หรอก คนนี้ละชอบเอาชนะเป็นที่หนึ่งละ
คุณสุขุมวิท66- เดี๋ยวรอปกไฟนอลแล้วคนเขียนจะอวดในเพจค่ะ ทุกวันนี้ยังนั่งจ้องอยู่เลย มันเคลิ้มมากๆปลื้มจิต
คุณเลิฟหมวย – คุณเลิฟหมวยเลิฟแมว ที่นี่แปะภาพไม่ได้อะค่ะ รบกวนติดตามในเฟซบุค“อสิตา” มีข่าวท่านชามัลเรื่อยๆด้วยนะ กับลูกๆของอัคนิวรา อิอิ

คุณซาอิ – แกะน้อยงุงิหางพันกัน อยากเขียนนางเอกอย่างเฟย์สักทีค่ะ สาวเปรี้ยว ผมสองข้างยาวไม่เท่ากัน เจาะหูเยอะๆ แต่ก็แอบหัวโบราณนะ
คุณเฟอร์ – ครายๆๆๆ คือคนที่เฟอร์เชียร์กันน้อ มะม้าไม่รู้เล้ยยยย เพราะปกติเฟอร์รักทุกคนไม่ช่ายหร๋า
คุณรี – นั่นสิคะ เฟย์หาเรื่องใส่ตัวเข้าแล้ว แต่วนัสก็คิดช่วยเพื่อนอยู่นะ ยายเพื่อนตัวยุ่งนี่จริงๆเลย แต่ก็น่ารัก
คุณโกลเด้นซันเจิดจรัสวิ้งๆ – เรื่องของดาหวันยังต้องจับตาต่อไป นางเป็นลุกสาวของเทวัญพ่อเลี้ยงคราม ต้องรู้มากกว่าคนอื่นแน่ค่ะ ห้องหมายเลขห้านี่คนที่ไม่เอาคือนวาระนะคะ ถึงกับสักไว้บนแขนก่อนจะลืม หมอริชดีกับสาวทุกคน “เวลาพี่แกอารมณ์ดี”


ภาวิน 1 ก.ย. 2556, 16:16:06 น.
ห้องแห่งความฝัน อืมมมม มันจะทำให้ฝันดีหรือฝันร้ายกันล่ะ...ถึงจะใช้สิทธิพิเศษของเพื่อนร่วมชุดอ่านมารอบหนึ่งแล้ว แต่กลับมาอ่านอีกก็ยังชวนติดตาม


lovemuay 1 ก.ย. 2556, 16:27:01 น.
โธ่ย น่าอิจฉานางเอกจริงๆ มีแต่หนุ่มๆรุมเอาใจ


Sukhumvit66 1 ก.ย. 2556, 16:47:20 น.
อิจฉานางเอกจัง ได้อยู่ใกล้ชิดคราม อิอิ


ดังปัณณ์ 1 ก.ย. 2556, 17:53:37 น.
แปะไว้ก่อน เดี๋ยวมา ไข้ขึ้น _//////_


พันธุ์แตงกวา 1 ก.ย. 2556, 18:56:55 น.
น่าลงสระด้วยจัง หมอริชแน่มาก ยอมนอนในห้องแห่งความฝันด้วย


Chii 1 ก.ย. 2556, 20:21:20 น.
หมอต้องโรคจิตแน่ ๆ ค่ะอสิต้าาา
//ลงสระไปกระชากยัยวนัสออกจากอกคุณครามของเค้า


Pat 1 ก.ย. 2556, 20:57:52 น.
ดาหวันท่าจะไม่ได้ร้ายอย่างที่คิด หนูวนัสเหมือนจะเทใจให้ครามอยู่่มากนะนี่


ก็เป็นได้แค่กระต่ายผ้าขี้ริ้ว 2 ก.ย. 2556, 14:10:20 น.
ใจยังเชียร์ให้นาวี่(นวาระ)กับครามิชา(คราม)เลิฟๆกัน


goldensun 2 ก.ย. 2556, 21:10:42 น.
ครามกับหมอริชมีอารมณ์เร่าร้อนต่อกันหรือคะ แปลกๆ ดี เหมือนคู่เกย์ ทั้งที่ออกแนวทะเลาะกันมากกว่า
ครามมีงอนวนัสด้วย ตอนแรกทำเมิน เพราะฝันทำให้รู้สึกเปลียนหรือคะ
ทำไมดาหวันรู้สึกว่าหมอริชดีกว่าเพื่อน ทำไมไม่ชอบวนัส ตามต่อค่ะ


ดังปัณณ์ 3 ก.ย. 2556, 08:52:54 น.
อั้ยย่ะ! หมอริชอ่ะ เสนอตัวทำม้ายยยยยยยยยยยยยยยย แต่แหมมมมมมมมม คุณแป้งงงงงงง เก๊ากรี๊ดครามอ่ะ ฮิ้ววววววววววววววว เชียร์ไม่ผิดคนใช่ม่ะคะ ฮี่ๆๆๆ มีงอนด้วยละโถพ่อคุณ พ่อทูนหัว น่าร๊อกอ่ะ!


Zephyr 3 ก.ย. 2556, 19:29:11 น.
เรื่องเริ่มขวดเกลียว มันใกล้จะพีคแล้วใช่มั้ย
มาใส่สองชิ้นลงน้ำ ชิชะ ยั่วกันชัดๆ
แล้งนางพญานั่นนางมาทำไม อ่านไปๆ ชักจะแบบว่า
ทุกคนเหมือนถูกหลอกมารวมในที่ๆนึงเพื่อเป็นหนูทดลองนะเนี่ย


ree 6 ก.ย. 2556, 18:56:57 น.
วาริชจะจำอะไรได้บ้างนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account